แชร์

บทที่ 693

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
แต่แล้วเมื่อคิดหาวิธีที่ดีกว่าได้ สายตาของหลี่หลงหลินก็สว่างวาบขึ้น

“พี่สะใภ้!”

“ข้านึกอะไรดีๆ ออกแล้ว!”

หลี่หลงหลินตบหน้าผากตัวเองด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า“ธัญพืชเก่าเก็บที่กองอยู่เต็มยุ้งฉาง เราสามารถนำไปกลั่นเป็นสุราได้! ไม่เพียงแต่จะขายได้เงิน ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอีกด้วย!”

ลั่วอวี้จู๋นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวพลางยิ้มเจื่อน “องค์ชาย ท่านคิดง่ายเกินไปแล้ว! เรื่องการกลั่นสุรานั้นไม่มีทางเป็นไปได้!”

หลี่หลงหลินแปลกใจ “ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ?”

ลั่วอวี้จู๋พูดด้วยสีหน้าจำใจ “องค์ชาย ท่านไม่ทราบหรือว่าในดินแดนต้าเซี่ย เกลือ เหล็ก และสุรา ล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของราชสำนัก? หากเป็นการกลั่นไว้ดื่มเองย่อมไม่มีปัญหา แต่หากนำออกขายล่ะก็ ถือเป็นโทษถึงตาย!”

หลี่หลงหลินพลันนึกขึ้นได้

ในประวัติศาสตร์ มีหลายราชวงศ์ที่มีกฎหมายห้ามกลั่นสุราเอง เนื่องจากเหตุผลสองประการ

ประการแรก สุราเหมือนกับเกลือและเหล็ก สามารถเก็บภาษีในอัตราสูงได้

ประการที่สอง การกลั่นสุราใช้ธัญพืชเป็นวัตถุดิบ

หากเป็นยุคที่ธัญพืชเหลือเฟือ การนำมากลั่นสุราย่อมไม่ใช่ปัญหา

แต่ต้าเซี่ยในปัจจุบันกลับอยู่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 694

    เมื่อพูดแล้ว ก็ลงมือทันที หลี่หลงหลินสั่งให้ลั่วอวี้จู๋เรียกกงซูหว่านและซุนชิงไต้เข้ามา การกลั่นสุรานั้นต้องใช้อุปกรณ์หลากหลาย อีกทั้งทุกกระบวนการยังต้องให้กงซูหว่านเป็นผู้ดูแล ส่วนซุนชิงไต้ พี่สะใภ้สาม ซึ่งเป็นหมอเทวดา นางมีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการหมักดอง เพราะในชีวิตประจำวัน นางก็มักกลั่นสุราสมุนไพรเพื่อใช้รักษาผู้ป่วย ด้วยการช่วยเหลือของนาง สุราเหินเวหาที่ผลิตออกมาย่อมต้องมีรสชาติที่ไม่ธรรมดา ไม่นานนัก กงซูหว่านและซุนชิงไต้ก็มาถึงยอดเขาทิศประจิม “องค์ชายเก้า คราวนี้ท่านจะทำของอร่อยอะไรอีกล่ะ?” ซุนชิงไต้ในชุดกระโปรงสีเขียวล้วน ผูกผมหางม้าสองข้าง พอมาถึงก็รื้อค้นตู้ไปทั่ว มองหาของกิน ขณะที่กงซูหว่านในชุดกระโปรงสีดำ ใบหน้างดงามเรียบเฉย กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรียกข้ามา ท่านต้องการให้ทำอะไร? จะมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่อีกหรือ?” หลี่หลงหลินยิ้มเจ้าเล่ห์ “พี่สะใภ้ทั้งสอง ข้ามีเรื่องเล็กน้อยอยากขอให้ช่วย! ข้าตั้งใจจะกลั่นสุรา...” เมื่อได้ยินเรื่องสุรา ทั้งซุนชิงไต้และกงซูหว่านที่ตอนแรกดูสนใจ ก็หมดความสนใจลงทันที กงซูหว่านหาวออกมาเบา ๆ “หากท่านต้องการกลั่นสุรา ไปหาโ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 695

    สุรานี้สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตและโชคชะตาของแคว้นได้! นี่แหละคือสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุด! หลี่หลงหลินกล่าวด้วยความมั่นใจว่า “สิ่งนี้มีชื่อว่าระเบิดขวด เพียงใช้สุราที่มีฤทธิ์เมาผสมกับดินปืน ก็สามารถสร้างได้ ไม่เพียงแต่ต้นทุนต่ำ แต่ยังมีอานุภาพการทำลายล้างที่น่าทึ่ง! จำได้หรือไม่ว่าข้าเคยพูดถึงรถถังให้เจ้าฟัง?” กงซูหว่านพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แน่นอนว่านางจำได้ หลี่หลงหลินเคยบอกว่า รถถังคือราชาแห่งสงครามบนบกอย่างแท้จริง! หากรถถังถือกำเนิดขึ้น ม้าศึกก็จะถูกขับออกจากเวทีประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง หากราชวงศ์ต้าเซี่ยมีรถถัง การทำลายล้างชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ หรือแม้แต่การพิชิตโลกก็จะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน! หลี่หลงหลินพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แม้ว่ารถถังจะทรงพลัง แต่ระเบิดขวดนี่แหละคือศัตรูตัวฉกาจของมัน! ลองคิดดูสิว่า ระเบิดขวดจะมีพลังทำลายล้างมากแค่ไหน!” คำพูดนี้ของหลี่หลงหลินไม่ได้พูดเกินจริง ในความเป็นจริง ระเบิดขวดถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ต่อกรกับรถถังโดยเฉพาะ กงซูหว่านตื่นเต้นมาก และพูดออกมาด้วยความใจจดใจจ่อ “ทำไมท่านไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้! รีบบอกข้ามาเถอะว่าการกลั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 696

    โรงกลั่นขนาดเล็กใช้เวลาเพียงสี่ถึงเจ็ดวันในการกลั่นสุรา แต่โรงกลั่นขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาถึงสองเดือน เพราะระยะเวลากลั่นที่นานขึ้นทำให้สุรามีรสชาติกลมกล่อม หอม และมีความเข้มข้นของฤทธิ์เมาสูงขึ้น หลี่หลงหลินไม่มีเวลามากขนาดนั้น เขาจึงใช้เวลาเพียงสี่วันในการหมักสุราชุดแรกออกมา สถานที่หมักสุรานั้นอยู่ในสถาบันวิจัยภูเขาประจิม แม้ว่าหลี่หลงหลินจะดื่มสุรา แต่เขาไม่ได้เป็นคนติดสุรา ดังนั้น เพื่อทดสอบคุณภาพของสุรา เขาจึงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านสุราอย่างหนิงชิงโหวมา หนิงชิงโหวที่ได้รับฉายาว่า บัณฑิตหยิ่งยโสอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า แท้จริงแล้วในยามปกติเป็นคนสุขุมอ่อนโยน แต่เมื่อเมา เขากลับแสดงความคลุ้มคลั่ง ด่าทอฟ้าดิน และหัวเราะเยาะทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่ขงจื๊อ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา หนิงชิงโหวเป็นคนติดสุรา เคยลิ้มรสสุราชั้นเลิศจากทั่วหล้า เขาจึงมีสิทธิ์ออกความเห็นมากที่สุด เมื่อได้ยินว่าหลี่หลงหลินจะกลั่นสุราที่ดีที่สุดในโลก และขอให้เขามาชิม แม้เขาจะไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย “องค์ชายเก้า!” “ข้ามาตรฐานสูงเรื่องสุรานะ!” “ท่านบอกว่าสุราเหินเวหาเพียงดื่มคำเดียวก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 697

    หนิงชิงโหวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุรา เขาไม่ได้ดื่มสุราแบบรวดเดียวหมด เขายกถ้วยสุราขึ้นมา สูดกลิ่นที่ปลายจมูกก่อน “หอมมาก!” หนิงชิงโหวกล่าวชม “กลิ่นหอมของสุรานี้เทียบได้กับสุราเทพเมามายของสำนักการสังคีตเลย! ไม่สิ กลิ่นนี้หอมและเข้มข้นยิ่งกว่าสุราเทพเมามายอีก!” กงซูหว่านกลับใช้แขนเสื้อปิดจมูก พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมองว่าสุราทำให้เส้นประสาทชาและบั่นทอนสติสัมปชัญญะ นางจึงแทบไม่ดื่มสุรา กลิ่นของเหล้าขาวสำหรับนางนั้น ฉุนจนทนไม่ได้ ซุนชิงไต้กลับไม่มีปัญหาอะไร เพราะนางมักต้มยาสมุนไพรบ่อย ๆ ซึ่งกลิ่นสมุนไพรนั้นฉุนยิ่งกว่าสุรา หนิงชิงโหวเมื่อดมกลิ่นเสร็จ เขาก็อดใจไม่ไหว ดื่มสุราจากถ้วยจนหมดในรวดเดียว “สุราดี!” สุรารสชาติเช่นนี้เขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ใบหน้าของเขาแดงก่ำทันที ขนลุกซุ่ไปทั้วทั้งร่าง เขาถึงกับกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น เหล้าข้าวทั่วไปมีฤทธิ์เมาพอ ๆ กับเบียร์ คนที่ดื่มเหล้าได้ ดื่มแปดชามสิบชามก็ไม่เมา แต่สุรากลั่นมีฤทธิ์เมาสูงกว่าเหล้าข้าวสิบเท่า แม้แต่คนดื่มเก่งอย่างหนิงชิงโหว เพียงถ้วยเดียวก็รู้สึกมึนเมาราวกับลอยละล่องขึ้นไปบนฟ้า “เหล้ารสช

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 698

    อย่างไรก็ตาม เมื่อหลี่หลงหลินตัดสินใจจะทำสุราแล้ว เขาย่อมวางแผนการขายไว้ล่วงหน้าแล้ว สุราหอมกลิ่นดีแต่กลัวซอยลึก? ไม่มีทางเป็นไปได้! หลี่หลงหลินโอบไหล่หนิงชิงโหว พลางพูดด้วยรอยว่า “บัณฑิต! เรื่องดื่มสุรา ข้าไม่ถนัด แต่เรื่องค้าขาย ท่านก็ไม่ถนัด!” หนิงชิงโหวฟังแล้วรู้สึกประหลาดใจ “องค์ชายเก้า ท่านมีวิธีแล้วหรือ? หรือว่า...เป็นวิธีเดิม...” วิธีเดิมที่เขาหมายถึง คือวิธีที่หลี่หลงหลินใช้ตอนขายน้ำหอมดอกไม้ เริ่มต้นจากการส่งไปยังวังหลวงให้เหล่าสนมทดลองใช้ เพียงแค่ทำให้เป็นที่นิยมในวังหลวง จากนั้นก็จะมีคนเลียนแบบมากมายดุจปลาตะเพียนข้ามแม่น้ำ แต่หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงขบขัน “วิธีเดิม ใช้ครั้งนี้ไม่ได้ผล” หนิงชิงโหวได้ยินก็ประหลาดใจยิ่งขึ้น “ทำไมล่ะ?” หลี่หลงหลินอธิบายว่า “สุรานั้น! มีคนที่หลงใหลคลั่งไคล้ แต่ก็มีคนที่เกลียดเหมือนยาพิษ ความแตกต่างในรสนิยมนั้นใหญ่กว่า! แม้แต่เสด็จพ่อของข้าเอง ก็ไม่ได้โปรดปรานสุรานัก!”“ “ขุนนางทั้งหลายก็เช่นกัน ดื่มสุราเพียงเพื่อสร้างความสนุก ใช้เจรจากิจการงานต่างๆ หรือผูกสัมพันธ์เท่านั้น!” “ในราชสำนัก คนที่นับว่าเป็นคอส

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 699

    มีเพียงซุนชิงไต้ที่กำลังอยู่ในครัว มือถือชามข้าว กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย “พี่สะใภ้สาม องค์ชายเก้าหายไปไหน?” ซูเฟิ่งหลิงถามขึ้น “เขาไม่ได้กลับมาพร้อมพี่หรือ?” ซุนชิงไต้ตอบแบบไม่ชัดเพราะกำลังเคี้ยวข้าว “อ๋อ เขาไปขายสุรากับบัณฑิตหนิง บอกว่าคืนนี้อาจจะไม่กลับมา!” ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วแน่น”คืนนี้ไม่กลับมา?” ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง นางรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีเพื่อนจอมเจ้าเล่ห์อย่างบัณฑิตหนิงแล้ว คำตอบมันก็แทบจะชัดเจนอยู่แล้ว! ซูเฟิ่งหลิงโกรธจนตัวสั่น “ไอ้สองตัวสารเลวนี้! อย่าบอกนะว่าแอบไปมั่วที่สำนักการสังคีต!” ซุนชิงไต้ประหลาดใจ “น้องสาว เจ้าฉลาดเหมือนพี่สะใภ้รองเลย! พี่สะใภ้รองก็พูดว่าองค์ชายเก้ากับบัณฑิตหนิงต้องไปสำนักการสังคีตแน่ ๆ! มีแต่ข้าที่โง่ ไม่ทันคิดเลย!” ซูเฟิ่งหลิงโมโหถึงขั้นหยิบหอกเงินขึ้นมา “สันดานเสียแก้ไม่หายจริง ๆ! ข้าจะไปที่สำนักการสังคีตเดี๋ยวนี้ แล้วเจาะรูบนตัวของไอ้จอมเจ้าชู้นั่นให้พรุน!” ซุนชิงไต้ตกใจจนหน้าซีดเผือด นางเป็นคนไร้เล่ห์เหลี่ยม ไม่เข้าใจเรื่องของชายหญิงเลย ไม่คาดคิดว่าเพียงคำพูดไม่กี่คำของตนเอง จะทำให้ซูเฟิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 700

    สำหรับหนิงชิงโหวแล้ว สำนักการสังคีตก็เหมือนบ้านของเขา ทันทีที่ก้าวเข้ามา แม่เล้าแห่งหอนางโลมผู้ยังคงดูมีเสน่ห์แม้อายุเริ่มมากก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า “บัณฑิตหนิง มาแล้วหรือ! วันนี้จะดื่มเหล้าอะไรดีเจ้าคะ แล้วอยากพบยอดคณิกาคนไหนหรือเปล่า? หนิงชิงโหวหัวเราะ “ให้คนขนเหล้าที่อยู่บนรถม้าของข้าลงมา! เหล้านี่ล้ำค่ามาก หากทำแตกไปแม้แต่ไหเดียว เจ้าจะต้องขายทรัพย์สินจนหมดตัวเพื่อชดใช้แน่นอน! แล้วก็เรียกยอดคณิกาทั้งเจ็ดมาที่นี่ด้วย!” ยอดคณิกาของสำนักการสังคีต เดิมทีมีเพียงหลิ่วหรูเยียนคนเดียว แต่หลังจากที่หลิ่วหรูเยียนไถ่ตัวออกไปใช้ชีวิตเรียบง่าย คนอื่น ๆ จึงได้เผยตัวขึ้นมา และกลายเป็นยอดคณิกาคนใหม่ทั้งเจ็ด อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับหลิ่วหรูเยียนที่เชี่ยวชาญทั้งดนตรี หมากล้อม การเขียน และการวาดภาพ อีกทั้งยังมีความงามเป็นเลิศ ยอดคณิกาทั้งเจ็ดนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น บางคนเก่งการเต้น บางคนเล่นดนตรีได้ดี บางคนเชี่ยวชาญบทกวีและเพลง บางคนมีเสียงร้องที่ไพเราะ... รูปแบบแตกต่างกันไป มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ปกติหนิงชิงโหวจะเลือกนางคณิกาเพียงคนเดียวมาร่วมดื่ม แต่ว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 701

    คนผู้นี้สวมชุดขาว ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วกระบี่ดวงตาทอประกาย แบกทวนเงินไว้บนหลัง ท่วงท่าองอาจสง่างามเหล่านางคณิกาได้เห็น อุทานอย่างตกตะลึง “ก็คือชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่ง!”“ใช่นักท่องยุทธภพหรือไม่?”“หากไม่มีกลิ่นอายองอาจผ่าเผย ยังคิดว่าเป็นสตรีเสียอีกนะ!”เหล่านางคณิกาเคยพบคนมานับไม่ถ้วน ชายหนุ่มรูปงามองอาจผ่าเผย พวกนางเคยพบเห็นมามากมายยกตัวอย่างเช่นหนิงชิงโหวและหลี่หลงหลิน ทั้งคู่หล่อเหลามากนักแต่ ชายหนุ่มชุดขาวตรงหน้า มิใช่หล่อเหลา แต่มีเสน่ห์ชวนตกตะลึง!หลี่หลงหลินและหนิงชิงโหวได้พบคนผู้นี้ ใบหน้าเขียวแล้วหนิงชิงโหวลุกขึ้นเดินหนีไปในทันที “ข้าไปเข้าห้องปลดทุกข์...”หลี่หลงหลินได้เห็นชายหนุ่มตรงหน้า คล้ายถูกคนจับชู้ได้คาเตียงไม่!ไม่ใช่คล้าย!แต่เป็นถูกจับชู้ได้คาเตียงจริงๆ!เพราะชายหนุ่มสวมชุดขาวสง่างามสะดุดตาคนนี้ ก็คือซูเฟิ่งหลิงแต่งกายเป็นชายทันใดนั้นบรรยากาศตึงเครียดอย่างถึงที่สุด อากาศคล้ายหยุดนิ่งแม่เล้าพาอันธพาลสองสามคน วิ่งเข้ามาพลางหอบหายใจ ทำลายความสงบนี้ “องค์ชาย! เขาจะบุกเข้ามาให้ได้ ข้าห้ามก็ห้ามไม่ไหว! ท่านรอสักครู่ ข้าจะไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้เลย...”

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1072

    นักปราชญ์ใหม่แห่งสำนักปราชญ์?คำคำนี้ดังราวกับสายฟ้าฟาด ก้องกังวานในหูของทุกคนอะไรกัน?ข้าคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม!เมื่อครู่รัชทายาทเพิ่งบอกว่าตนเองเป็นนักปราชญ์ใหม่แห่งสำนักปราชญ์?นักปราชญ์ใหม่ก็คือนักปราชญ์คนใหม่!รัชทายาทหมายความว่า ตนเองสามารถเทียบได้กับนักปราชญ์อันดับสอง ซึ่งก็หมายความว่า เขาเป็นนักปราชญ์อันดับสามของสำนักปราชญ์ในรอบพันปีหรือ?นี่ นี่ นี่...นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!เหลือเชื่อยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกเสียอีก!“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เสิ่นชิงโจวชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นกุมท้องหัวเราะจนตัวงอเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและบัณฑิตทั้งหลาย ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง“รัชทายาท ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?”“นักปราชญ์คนใหม่แห่งสำนักปราชญ์? ท่านหมายความว่า ท่านคือปราชญ์ของสำนักปราชญ์อย่างนั้นหรือ?”“ฮ่าฮ่าฮ่า! องค์ชายเสเพลผู้ไร้ความรู้ความสามารถเช่นท่าน กล้าประกาศตนเป็นนักปราชญ์ ช่างน่าขันเสียจริง!”“ถ้าท่านเป็นนักปราชญ์ เช่นนั้นคนทั้งโลกก็คงเป็นปราชญ์กันหมดแล้ว!”ซูเฟิ่งหลิงถึงกับอึ้ง ใบหน้างดงามแฝงความตกตะลึง ดวงตาหงส์จับจ้องไปที่หลี่หลงหลิน ริมฝ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1071

    เสิ่นชิงโจวต้องมีแผนการที่ใหญ่กว่านั้น จึงกล้าลงมือเสี่ยงอันตรายคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ฮ่องเต้หวู่ตาสว่าง พลันเข้าใจทุกอย่างทันทีเสิ่นชิงโจวไม่เพียงไม่พอใจที่จะเป็นขุนนาง แม้แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ก็ยังไม่อาจทำให้เขาพึงพอใจเขาต้องการเป็นเจ้าลัทธิ!เขาต้องการเลียนแบบศาสนากางเขนของชาวตะวันตก เปลี่ยนขงจื๊อจากเพียงแนวคิดให้กลายเป็นศาสนา แล้วขึ้นครองอำนาจเหนืออำนาจฮ่องเต้แม้แต่ฮ่องเต้ ก็ยังต้องรับการสถาปนาจากเจ้าลัทธิ!ความทะเยอทะยานเช่นนี้ ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้แต่ฮ่องเต้หวู่เอง ยังรู้สึกราวกับสายเลือดทั่วร่างถูกแช่แข็งอีกด้านหนึ่งเสิ่นชิงโจวรู้สึกเหมือนถูกชกเข้ากลางอกอย่างแรง สีหน้าหม่นหมองถึงขีดสุดชัดเจนแล้วว่าหลี่หลงหลินเดาถูกต้อง!ทำไมเสิ่นชิงโจวจึงปลุกปั่นความวุ่นวาย แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขาคืออะไรกันแน่?หากมนุษย์ไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินย่อมลงทัณฑ์เขาไม่ได้ทำเพื่อองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ แต่ทำเพื่อตัวเอง!ความสำเร็จของฮ่องเต้ ก็คือการขยายแผ่นดินและอาณาเขตความสำเร็จของขุนนางมาจากการสนับสนุนและปกป้องผู้นำของตนหากหลี่เทียนฉี่ไม่ก่อกบฏ แต่ขึ้นครองบัลลังก์อย่างสงบเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1070

    “ฮึๆ”หลี่หลงหลินหัวเราะเสียงเยียบเย็น หันมองเสิ่นชิงโจวแวบหนึ่ง สบถด่าออกมาโดยตรง “อาจารย์ฮ่องเต้บ้าบออะไร! ถึงรู้จักแต่วิธีการต่ำช้าเช่นนี้! ตัดรากถอนโคนหลักขงจื๊อ ล้มเลิกการสอบขุนนาง? นี่ข้าเคยพูดตั้งแต่ยามใด?”สีหน้าเสิ่นชิงโจวงุนงงไปคิดดูให้ดี หลี่หลงหลินคล้ายไม่เคยพูดมาก่อนจริงสุภาพชนมองผ่านการกระทำมิใช่จิตใจต่อให้ปากเจ้าไม่พูด แต่การกระทำทุกอย่าง กลับตั้งตนเป็นศัตรูกับสำนักปราชญ์ ตัดรากถอนโคนสำนักปราชญ์!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “รัชทายาท ตกลงเจ้าหมายความเยี่ยงไร? เรางงไปหมดแล้ว”หลี่หลงหลินเงยหน้า พูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ นักปราชญ์นั้นดี หลักขงจื๊อนั้นก็ดี การสอบขุนนางเองก็ดี! หากไม่ใช่นักปราชญ์ ไม่ใช่หลักขงจื๊อ ต้าเซี่ยของข้าจะเจริญรุ่งเรืองได้เยี่ยงไร?”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนตกตะลึงรัชทายาทกำลังทำอันใด?เสิ่นชิงโจวเป็นบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ยอมรับว่าสำนักปราชญ์มีความผิด ทำให้สำนักปราชญ์มีชื่อเสียงฉาวโฉ่หลี่หลงหลินกลับดี ถึงขั้นทำตรงข้ามกัน ล้างมลทินให้สำนักปราชญ์กระนั้น?ต่อให้ปากเขาพูดว่าหลักขงจื๊อ ไม่ใช่สำนักปราชญ์ ผิดไปหนึ่งคำแต่ในสายตาคนส่วนใหญ่ สำนักปราชญ์และหลักข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1069

    สำนักปราชญ์มีมาอย่างยาวนานนับพันปี เสิ่นชิงโจวก็เป็นเพียงหนึ่งเมล็ดข้าวในมหาสมุทรก็เท่านั้น!หรือว่า เราจะทำอย่างที่เจ้าเก้าพูด ใช้อำนาจล้มเลิกการสอบขุนนาง ทำลายสำนักปราชญ์ให้สิ้นซาก?ทว่าหากล้มเลิกการสอบขุนนาง แล้วจะใช้อะไรมาแทนที่เล่า?หรือว่าจะฟื้นฟูการสอบขุนนางในอดีต คัดเลือกขุนนางโดยยึดหลักความกตัญญูและคุณธรรม อาศัยการแนะนำจากชนชั้นสูง เลือกเฟ้นผู้มีความสามารถกระนั้น?นี่คือถอยหลังลงคลองกลับสู่ประวัติศาสตร์!ระบบในอดีตมีเล่ห์เหลี่ยมและทุจริตมากเสียยิ่งกว่า อำนาจตกอยู่ในมือของตระกูลขุนนาง!หลี่เทียนฉี่เห็นฮ่องเต้หวู่ลังเล ฉวยโอกาสนี้ลุกออกมา “เสด็จพ่อ สำนักปราชญ์เป็นรากฐานของต้าเซี่ย! สำนักปราชญ์จะล่มสลายไม่ได้! จะล้มเลิกการสอบขุนนางไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! หากท่านคิดล้มเลิกการสอบขุนนาง นี่ไม่เพียงแค่ลูก ขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งราชสำนัก ยังมีบัณฑิตทั่วหล้าล้วนไม่มีวันยอมรับ!”เหล่าขุนนางต่างพากันคุกเข่า พูดประสานเสียง “จะล้มเลิกการสอบขุนนางไม่ได้ สำนักปราชญ์จะล่มสลายไม่ได้! ฝ่าบาทโปรดวินิจฉัยด้วย ถอนรับสั่งเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ภายในกลุ่มราษฎรเองก็มีคนลังเลไม่น้อยพวกเขามารับชมความครึกครื้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1068

    “ยอมรับผิดอีกแล้ว?”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “เสิ่นชิงโจว หรือว่าท่านตั้งใจยื้อเวลา? นี่น่าเบื่อเกินไปแล้ว”เขากลับอยากให้เสิ่นชิงโจวต่อต้านอย่างดื้อรั้น กัดฟันแน่น เป็นตายร้ายดีเยี่ยงไรก็ไม่ยอมแพ้เช่นนี้แล้วล่ะก็เขาสามารถตบหน้าเสิ่นชิงโจวแรงๆ อย่างถูกต้องตามครรลองครองธรรมได้สรุปคือเสิ่นชิงโจวไม่มีเจตนาต่อสู้ทำให้หลี่หลงหลินรู้สึกเบื่อหน่ายอาจารย์ของฮ่องเต้! ราชครู!แค่นี้เองหรือ?หลี่หลงหลินพูดเสียงเย็น “ความผิดครั้งนี้ของท่าน คงไม่คิดโยนความผิดให้เหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิเพื่อเอาตัวรอดอีกหรอกกระมัง?”เสิ่นชิงโจวส่ายหน้า “ไม่! ครั้งนี้ข้ายอมรับผิดอย่างแท้จริง! ทุจริตการสอบขุนนาง ฆ่าคนปิดปาก รับสินบนทำผิดกฎหมาย ข้าขอยอมรับความผิดทั้งหมดเหล่านี้! ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่ข้า ยังมีบัณฑิตทรงคุณวุฒิคนอื่นอีกด้วย!”“สำนักศึกษาทั้งหมดล้วนมีส่วนร่วม”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนเงียบงันลานไป๋อวี้ขนาดใหญ่ แม้แต่เข็มตกก็สามารถได้ยินไม่ว่าขุนนางหรือราษฎร สีหน้าล้วนแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะเหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิ อ้าปากค้าง ลืมตากว้าง คล้ายเห็นผีก็มิปาน จับจ้องเสิ่นชิงโจวตาเขม็งอาจารย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1067

    เสิ่นชิงโจวเป็นคนล้ำลึก ยิ่งไปกว่านั้นยังรักษาความสุขุมเอาไว้ได้ฉินฮั่นหยางและบัณฑิตทรงคุณวุฒิคนอื่นกลับทนไม่ไหวแล้ว สีหน้ากระวนกระวายหวาดกลัวสุดขีด คล้ายหายนะกำลังมาเยือนครู่ต่อมาพวกเขาสบตากัน ทำเรื่องที่ทุกคนคาดไม่ถึงและเหลือเชื่อเห็นบัณฑิตทรงคุณวุฒิทั้งหมดถลันขึ้นไป ฉีกจดหมายนิรนามเหล่านั้น ยัดเข้าปากและพยายามกลืนลงไป“หา?”“ตาเฒ่ากลุ่มนี้คิดทำลายหลักฐานความผิด!”“ไม่ต้องการหน้าตาแล้วกระมัง?”“คิดว่าฝ่าบาทตาบอดหรือ?”เหล่าราษฎรตกตะลึงหน้าถอดสี สบถด่าเสียงดังเดิมทีซูเฟิ่งหลิงอยากเข้าไปห้ามหลี่หลงหลินกลับยื่นมือออกไปขวางซูเฟิ่งหลิงไว้ ยิ้มเย็นพลางพูด “เข้ามา เอาจดหมายนิรนามที่เหลือทั้งหมดเข้ามา!”ครู่ต่อมาองครักษ์เสื้อแพรทั้งหมดก็แบกตะกร้าขนาดใหญ่มากมายเข้ามายังลานไป๋อวี้ซ่า...เทของในตะกร้าออกมา ทั้งหมดล้วนคือจดหมายนิรนามกองโตเท่าภูเขาลูกเล็กหลี่หลงหลินเดินขึ้นไปหยุดต่อหน้าฉินฮั่นหยาง บีบปลายคางของเขา ยิ้มเย็นพูดว่า “บัณฑิตฉิน จดหมายนิรนามเหล่านี้อร่อยหรือไม่? ในเมื่อเจ้าชอบกินถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าขอเลี้ยงเจ้าจนพอใจเลยแล้วกัน!”พวกฉินฮั่นหยางตกตะลึงพรึงเพร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1066

    กระดูกภายในหีบ ทั้งหมดล้วนขุดออกจากหน้ารูปปั้นนักปราชญ์ที่หลังเขาสำนักศึกษา?บนลานไป๋อวี้ เงียบสงัดไปทั้งผืนไม่ว่าขุนนางหรือราษฎร ทั้งหมดล้วนลืมตาอ้าปากค้าง สีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดภายในจดหมายนิรนามล้วนเป็นความจริงทุกประโยคเดิมทีสำนักศึกษาคือแดนสวรรค์สั่งสอนให้ความรู้คนบัดนี้กลับกลายเป็นสถานที่ปกปิดความชั่วสกปรกโสมมกระดูกขาวเหล่านี้ คล้ายกำลังพูดออกมาสองคำ...กินคน!ฮ่องเต้หวู่ปวดใจอย่างมาก เดินโงนเงนมาที่หน้าหีบ มองซากศพภายใน“ฝ่าบาท ระวังพิษจากศพพ่ะย่ะค่ะ...”เว่ยซวินยื่นผ้าเช็ดหน้าปักลายให้ เอ่ยปากร้องเตือนฮ่องเต้หวู่กลับโบกมือ ไม่ได้รับไว้ สายตาจับจ้องกระดูกขาวภายในหีบ ไม่พูดจาอยู่นานก็เหมือนที่หลี่หลงหลินพูดกระดูกส่วนใหญ่เป็นของเด็กหนุ่ม ร่างกายกำลังเจริญเติบโต แต่กลับไม่อาจเติบโตจนสำเร็จได้ไม่แปลกใจเพราะบัณฑิตที่มาขอเรียนที่สำนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีส่วนอดีตซิ่วไฉที่สอบไม่ผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า หัวใจแหลกสลายจนเย็นชา ไม่อยู่ศึกษาที่สำนักศึกษาต่อ แต่เลือกกลับไปเรียนหนักที่บ้านเกิดทว่า ภายในกระดูกเหล่านี้ยังมีกระดูกของเด็กอายุราวเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1065

    หลี่หลงหลินยิ้มเย็นทีหนึ่ง เหลือบมองเสิ่นชิงโจว “ใครพูดว่ามีเพียงพยานวัตถุ ไม่มีพยานบุคคล ก็ไม่สามารถลงโทษท่านได้เล่า! ท่านพูดว่าจดหมายนิรนามนี้ล้วนเป็นคำพูดส่งเดช ถูกสร้างขึ้นมา?”“ข้าลอบให้องครักษ์เสื้อแพรสืบตามเนื้อหาในจดหมายแล้ว”“อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดส่วนก็คือเรื่องจริง!”ซี้ด...เสียงหายใจเย็นดังขึ้นระลอกหนึ่งหลี่หลงหลินเตรียมการไว้รอบด้านไม่ผิดไปดังคาด!เขาถึงขั้นส่งองครักษ์เสื้อแพรออกไปลอบสืบจดหมายนิรนาม ยิ่งไปกว่านั้นยังได้หลักฐานที่แท้จริงคดีทุจริตการสอบขุนนางมีมานานมากแล้วช่วงล่าสุดก็คือหนึ่งถึงสองปีก่อนช่วงเวลายาวนานยิ่งกว่านี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึง สิบปีไปจนถึงสามสิบสี่สิบปีก็ล้วนมีทั้งสิ้นจดหมายนิรนามไร้สาระที่สุดหนึ่งฉบับพูดว่าคือเมื่อห้าสิบปีก่อน อดีตฮ่องเต้ยังครองบัลลังก์ ฮ่องเต้หวู่ยังไม่ได้รับสืบทอดบัลลังก์จากเรื่องนี้สามารถมองออกว่าสำนักปราชญ์ผูกขาดการสอบขุนนาง ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ แต่มีมานานมากแล้วน่ากลัวว่ายามต้าเซี่ยเพิ่งสถาปนาแคว้น รากหายนะก็หยั่งลงลึกแล้วคนเขียนจดหมายนิรนามมีความโกรธแค้นอย่างลึกซึ้งต่อสำนักปราชญ์ กอปรกับมุมม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1064

    กลยุทธ์ถ่วงเวลา ที่ใช้หมื่นครั้งได้ผลหมื่นครั้งครั้งนี้กลับพ่ายแพ้ยามอยู่ต่อหน้าหลี่หลงหลินเสิ่นชิงโจวขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่สบอารมณ์อีกฝ่ายมิได้ต่อสู้ส่งเดช แต่เตรียมการมาก่อน...รับมือยากยิ่ง!หน้าท้องพระโรง ฮ่องเต้หวู่โบกมือสั่งคนไปยกเก้าอี้มังกรสีทองเข้ามา หลังนั่งลงไปแล้ว มุมปากก็ยกขึ้นเผยรอยยิ้มน่าสนใจ!กลยุทธ์ถ่วงเวลานี้ แม้แต่เราก็ปวดหัวมาก ไม่มีหนทางรับมือเจ้าเก้ากลับจัดการได้อย่างผ่อนคลาย ทำให้เสิ่นชิงโจวรับมือไม่ทันจากนี้ไปเขายังมีอุบายอันใดอีก?ฮ่องเต้หวู่นั่งบนเก้าอี้มังกร สนใจอย่างมาก นั่งดูเสือต่อสู้กันหลี่หลงหลินหันหน้า สายตาตกลงที่ราษฎรทั้งหมด “ข้ารู้พวกเจ้ารู้สึกโกรธเคืองภายในใจ! ข้ายังรู้อีกว่าพวกเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด มีความกล้าลุกออกมา ต่อสู้กับสำนักปราชญ์เน่าเฟะอย่างสุดชีวิต!”“แต่ ไม่จำเป็น!”“มีตัวอักษรอันเป็นหยาดโลหิตและน้ำตาของพวกเจ้าในจดหมายนิรนาม นี่ก็เพียงพอแล้ว!”“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องลุกออกมาเปิดเผยฐานะเพื่อเสี่ยงอันตราย!”“ข้าจะรับประกันความปลอดภัยของพวกเจ้าเอง!”เหล่าราษฎรอึ้งงันรัชทายาทถึงขั้นห้ามมิให้บุคคลนิรนามลุกออกมา?หรือว่า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status