หนึ่งชั่วโมงต่อมา องครักษ์หน้าท้องพระโรงเข้ามารายงาน: “ฝ่าบาท! องค์ชายเก้าพาพระชายาเข้าวัง แต่ถูกขัดขวางไว้!” ฮ่องเต้หวู่ตะลึง และเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว: “เราเรียกเขาเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้า พวกเจ้าขวางเขาทำไม?” องครักษ์เอ่ยอย่างรู้สึกน้อยใจ: “กราบทูลฝ่าบาท องค์ชายเก้าไม่มีปัญหาอะไร แต่พระชายาของพระองค์กลับพกดาบมาด้วย ไม่ยอมส่งมอบ และยังพูดอีกว่าเป็นไปตามพระบัญชาของฝ่าบาท!” เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในท้องพระโรง พกดาบเข้ามาในท้องพระโรงหรือ? ช่างใจกล้าจริงๆ! แม้แต่ องค์ชายเก้ายังไม่มีสิทธิพิเศษในการพกดาบเข้ามาในท้องพระโรง แล้วซูเฟิ่งหลิง พระชายาที่ยังไม่ได้แต่งงาน จะมีสิทธิ์อะไร? ฮ่องเต้หวู่สีหน้าดูแย่มาก ก่อนหน้านี้ก็มีเจ้าหกคิดกบฏ ตอนนี้ถึงตาของเจ้าเก้าแล้ว! ลูกๆ ของเรา ไม่มีใครทำให้เราเบาใจได้เลย! ตู้เหวินยวน เห็นสีหน้าไม่พอใจของฮ่องเต้หวู่ ก็รู้สึกยินดีในใจ องค์ชายเก้า เจ้ากำลังรนหาที่ตาย เจ้าจงใจส่งดาบมาที่มือของข้าเอง เจ้าจะโทษใครไม่ได้นะ! ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม... ดูนะว่าข้าจะเล่นงานเจ้าอย่างไร! ตู้เหวินยวนเอ่ยขึ้นว่า “ฝ่าบาท นี่ไม่ใช่ความผิดขององค์ชายเก้า! เพียงแต่เข
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเห็นใจตู้เหวินยวน เจ้าเก้าพูดจาคมคายเช่นนี้ พวกเจ้ายังโต้เถียงกับเขาทุกวัน ไม่แปลกใจเลยที่โดนตบหน้าทุกวัน! ฮ่องเต้หวู่เปลี่ยนเรื่อง “เรื่องนี้ช่างมันก่อน! เว่ยซวินบอกว่าเจ้าเป็นคนตั้งราคาชุดมัจฉาบินและดาบปักลายเอง ใช่หรือไม่?” หลี่หลงหลินถาม “ไม่ทราบว่าเว่ยกงกงตั้งราคาเท่าไหร่?” ฮ่องเต้หวู่เอ่ย “ชุดมัจฉาบินแปดชุดสองร้อยตำลึง ดาบปักลายหนึ่งเล่มก็สองร้อยตำลึง!” เว่ยซวินขยิบตาส่งสัญญาณให้หลี่หลงหลินอย่างบ้าคลั่ง ตราบใดที่ทั้งสองคนให้การตรงกัน ยืนยันว่าชุดมัจฉาบินและดาบปักลายมีต้นทุนสูงขนาดนี้ ฮ่องเต้หวู่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลี่หลงหลินเมินเฉยต่อเว่ยซวินโดยสิ้นเชิง “เสด็จพ่อ! ลูกคิดว่าการตั้งราคาของเว่ยกงกงมีปัญหาใหญ่!” ฮ่องเต้หวู่โกรธจัด แล้วตวาดว่า “เว่ยซวิน! เจ้าทุจริตเองก็พอแล้ว! ยังกล้าใส่ร้ายเจ้าเก้าอีก เจ้าเบื่อชีวิตแล้วหรือ?” เว่ยซวินคุกเข่าด้วยตัวสั่นเทา “บ่าวถูกใส่ร้าย... ถูกใส่ร้าย...” ฮ่องเต้หวู่ทำสีหน้าเย็นชา “ให้คนเข้ามา ลากมันไปโบยยี่สิบไม้!” เมื่อเว่ยซวินได้ยิน ก็เกือบจะฉี่ราด! ตัวเองแก่แล้ว แขนขาไม่แข็งแรง ไม่อาจเทียบกับองค์ชายสี่ที่แข
ฮ่องเต้หวู่ผ่านศึกมานาน ฝีมือไม่เป็นรองขุนศึกคนใดในราชสำนัก มั่นใจว่าสมัยหนุ่มๆ สามารถประลองกับซูเฟิ่งหลิงได้อย่างสูสี! ในฐานะแม่ทัพที่นำทัพออกรบ อาวุธที่ฮ่องเต้หวู่โปรดปรานที่สุดไม่ใช่กระบี่ แต่เป็นดาบ! “ดาบดี!” ฮ่องเต้หวู่ถือดาบปักลายไว้แน่น ยกขึ้นชั่งน้ำหนักเบาๆ ก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษของดาบนี้ เบามาก! มีเพียงเหล็กกล้าที่ผ่านการตีหลายร้อยครั้งเท่านั้น ที่จะเบาขนาดนี้! ฮ่องเต้หวู่สนใจขึ้นมา แล้วก็เริ่มร่ายรำกระบี่ในท้องพระโรง ฟิ้วๆๆ... ภาพแห่งความรุ่งโรจน์ในสมัยสงครามเมื่อครั้งยังหนุ่มผุดขึ้นมาในหัวของฮ่องเต้หวู่ ดาบปักลายในมือก็ยิ่งร่ายรำเร็วขึ้น! ภายในท้องพระโรง พลังดาบแผ่ซ่านออกไป! ขุนนางหลายคนรู้สึกเหมือนมีคมดาบกรีดผ่านหน้าอก ต่างหวาดกลัวสุดขีด ตู้เหวินยวนคุกเข่าลงด้วยสีหน้าซีดเผือด ร้องขออย่างน่าเวทนา “ฝ่าบาท ฝ่าบาท ขอทรงเก็บดาบเถิด!” ฮ่องเต้หวู่ที่กำลังคึก ไม่เพียงไม่ฟัง ยังโบกมือเรียกทหารองครักษ์คนหนึ่ง “เจ้า ชักดาบออกมา!” ทันทีที่ทหารองครักษ์ชักดาบออกมา ฮ่องเต้หวู่ก็ฟันเข้าใส่ ทหารองครักษ์ตกใจสุดขีด รีบยกดาบขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ ดาบทั้งสองปะทะก
ตู้เหวินยวนเยาะหยัน “องค์ชายเก้า ท่านกำลังล้อเล่นอะไร? ทุกเล่มล้วนทำจากเหล็กกล้าตีร้อยครั้ง? ท่านรู้ว่าราคาเหล็กกล้าตีร้อยครั้งในตลาดแพงมากเพียงใดหรือไม่? อย่างน้อยก็ต้องจ่ายห้าถึงหกตำลึง!”“หนึ่งเล่ม ท่านและเว่ยซวินต้องขาดทุนสี่ถึงห้าตำลึง!”“ท่านมีเงินมากน้อยเพียงใดให้ขาดทุนกันเล่า?”ฮ่องเต้หวู่ส่ายหน้า ตรัสว่า “เจ้าเก้า วาจานี้ของเจ้าเกินจริงไปแล้ว! ต่อให้เป็นคลังอาวุธของเรา ดาบล้ำค่าทำจากเหล็กกล้าตีร้อยครั้งก็มีเพียงไม่กี่เล่ม!”“เดิมทีเหล็กกล้าตีร้อยครั้งก็ราคาแพง แม้พบพานก็ใช่ว่าจะได้มา ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้!”หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ พูดเสียงเรียบ “เสด็จพ่อ หากลูกพูดว่าสามารถผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งได้เล่า?”ทั้งราชสำนักล้วนตกตะลึง!สายตาเหลือจะเชื่อนับไม่ถ้วนล้วนรวมอยู่บนตัวหลี่หลงหลินผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งได้?หากองค์ชายเก้ามีฝีมือเช่นนี้จริงเช่นนั้นก็มิใช่เพียงวันเดียวก็สามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำธรรมดาเพียงนี้แล้ว!ก็คือต้นไม้เขย่าเงินอย่างแท้จริง!สายตาฮ่องเต้หวู่ร้อนผะผ่าว “เจ้าเก้า เจ้าพูดจริงหรือ?”หากหลี่หลงหลินสามารถผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งได้นั่นยัง
หรงกั๋วกงจางเฉวียนเอ่ยออกมาอย่างตกตะลึง “ฝ่าบาท องค์ชายเก้าถวายเหล็กกล้าตีร้อยครั้งก็เพื่อบ้านเมืองพ่ะย่ะค่ะ!”เว่ยซวินรีบพูด “ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ขอเพียงพระองค์ออกคำสั่งให้กรมโยธาผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งจำนวนมากออกมา ช่วงเวลาจะได้บดขยี้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็อยู่อีกไม่ไกลแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขุนนางบู๊เร่งไล่ตามหลัง ต่างพากันพูด “พวกกระหม่อมขอขอบพระทัยองค์ชายเก้าแทนทหารของต้าเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ!”ทันใดนั้นเสียงตบบั้นท้ายม้าประจบเอาใจก็ดังขึ้นระลอกหนึ่งสีหน้าตู้เหวินยวนไม่สบอารมณ์สุดขีดองค์ชายเก้าทำถึงขั้นนี้ มอบวิธีทำเหล็กกล้าตีร้อยครั้งออกมา!นั่นคือเหล็กกล้าตีร้อยครั้งเชียวนะ!ความดีความชอบยิ่งใหญ่เพียงนี้ ฝ่าบาทแต่งตั้งองค์ชายเก้าเป็นอ๋องโดยตรงก็เหลือเฟือ!เพียงเหล่าขุนนางบุ๋นกลุ่มหนึ่งก็คิดเขย่าตำแหน่งขององค์ชายเก้า?ยากเกินไป!“เฮ้อ การต่อสู้ครั้งนี้ พ่ายแพ้อีกแล้ว!”ตู้เหวินยวนทอดถอนใจภายในใจแตกต่างจากที่ผ่านมา ครั้งนี้ตู้เหวินยวนยอมรับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง“เห็นที ทำได้เพียงเปลี่ยนวิธีการ สังหารด้วยคำชมเสียแล้ว!”ดวงตาตู้เหวินยวนกลิ้งกลอก สมองปรากฏแผนโหดเหี้ยมอำมห
สีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ดีพระทัยมาก รีบตรัสถาม “เช่นนั้นเจ้าต้องการสิ่งใด? ขอเพียงเจ้าพูด เราก็จะประทานให้เจ้า!”ครั้งนี้ฮ่องเต้หวู่ดีใจอย่างแท้จริง อยากประทานรางวัลให้หลี่หลงหลินเว้นเสียแต่เงิน ก็คือตำแหน่งมิใช่หรือเหล็กกล้าตีร้อยครั้ง แลกกับตำแหน่งอ๋อง นี่เหลือเฟือมากนัก!สีหน้าหลี่หลงหลินลำบากใจอยู่มาก “ลูกมีคำขอไม่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่ง! แต่ลูกกลัวเสด็จพ่อและเหล่าขุนนางไม่รับปากพ่ะย่ะค่ะ!”สายตาฮ่องเต้หวู่ตกลงบนตัวตู้เหวินยวน ตรัสว่า “คำขอของเจ้าเก้า เราต้องรับปากแน่! ขุนนางผู้ภักดี พวกเจ้าเล่า? คงไม่ห้ามเราประทานรางวัลให้เจ้าเก้าหรอกกระมัง?”ตู้เหวินยวนชะงักองค์ชายเก้าอันตรายยิ่งนัก!รู้อุบายผู้อื่นแล้วยังใช้อุบายนั้นโจมตีย้อนกลับได้ว่องไวเพียงนี้?แต่ถึงอย่างไรตู้เหวินยวนก็คือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ รีบคลี่ยิ้มเอื้อนเอ่ย “ฝ่าบาท ดูพระองค์รับสั่งเถิด! ประทานรางวัลแก่องค์ชายเก้า เป็นกระหม่อมเสนอเอง ไฉนเลยจะบิดพลิ้วได้เล่า!”“วันนี้กระหม่อมขอพูดตรงนี้เลย!”“หากคำขอขององค์ชายเก้า พรั่งพร้อมไปด้วยเหตุและผล ทำเพื่อราชสำนัก เพื่อต้าเซี่ย เพื่อฝ่าบาท!”“กระหม่อมก็ไม่มีเหตุผลให้ป
ฮ่องเต้หวู่เงียบงันไม่พูดจาเขากำลังชั่งน้ำหนักความร้ายแรงที่สตรีเป็นขุนนาง ไปจนถึงผลประโยชน์ที่เหล็กกล้าตีร้อยครั้งนำมาให้ ตกลงอย่างใดมีน้ำหนักมากกว่ากันหลี่หลงหลินตีฝีปากกับตู้เหวินยวนต่อ“ใต้เท้าตู้ ท่านเสียมารยาทแล้ว!”“องค์ชายเก้า ข้ามิได้เสียมารยาท! ท่านพูดว่าคนผู้นี้เป็นสตรี ข้าย่อมไม่รับปากตั้งแต่แรก!”“สตรีแล้วอย่างไร? เหตุใดไม่สามารถเป็นขุนนางได้?”“นักปราชญ์กล่าวว่าสตรีและคนถ่อยเลี้ยงดูยากเฉกเดียวกัน!”“แม่ท่านก็เป็นสตรี! นี่ก็เลี้ยงท่านมามิใช่หรือ?”“องค์ชายเก้า ท่านๆ...ท่านพูดจาหยาบคายเกินไปแล้ว ไร้ความสุภาพนอบน้อม!”เห็นได้ชัดว่าตู้เหวินยวนมิใช่คู่ต่อสู้ของหลี่หลงหลิน ถูกด่าก็ตาเหลือกจวนเจียนจะหมดสติไปแล้ว“พอแล้ว!”ฮ่องเต้หวู่เอ่ยขัดทั้งสองที่กำลังทะเลาะกัน“เจ้าเก้า!”ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรหลี่หลงหลิน เปล่งเสียงหนัก “พี่สะใภ้รองของเจ้าคนนี้ต้องเข้ากรมโยธาให้ได้กระนั้นรึ?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เหล็กกล้าตีร้อยครั้งนี้เป็นพี่สะใภ้รองค้นพบ...”ซูเฟิ่งหลิงตกตะลึง จับจ้องหลี่หลงหลินเหล็กกล้าตีร้อยครั้งนี้เป็นท่านค้นพบและสอนพี่สะใภ้รองมิใช่หรือ?เหตุใดเป็นพี่
หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ ตู้เหวินยวนจิตใจสกปรก ลูกสกปรกยิ่งกว่า! คนชั่วกำราบคนชั่ว! ลูกไม่กลัวพวกเขา!”ฮ่องเต้หวู่เอือมระอา “นี่มิใช่เรื่องกลัวหรือไม่กลัว...”หลี่หลงหลินเอ่ยปากสีหน้าจริงจัง “เสด็จพ่อ วิจารณ์ต่อหน้าก็ดี ฝีมือของอันธพาลก็ช่างเถอะ! ลูกไม่กลัว! แต่ลูกกลับกังวลเรื่องหนึ่ง...”ฮ่องเต้หวู่ชะงัก ตรัสถาม “เรื่องใด?”หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงหนัก “ลูกกำลังสงสัย ภายในราชสำนักนี้ ต่อให้ไม่มีคนสอดแนมของเผ่าหมาน แต่ก็มีพี่สามอยู่ด้วย! เคล็ดลับเหล็กกล้าตีร้อยครั้งนี้สำคัญมากนัก!”“หากความลับแพร่งพรายออกจากกรมโยธาไปถึงเผ่าหมานหรือซีเหลียง”“น่ากลัวว่า...”“ผลที่ตามมาไม่อยากจะนึกถึง!”ฮ่องเต้หวู่ได้ยิน ตกตะลึงพรึงเพริดความคิดของเขายังอยู่ที่อุบายเจ้าเล่ห์ของตู้เหวินยวน ยังคิดขั้นนี้ไม่ถึงใคร่ครวญดูหนึ่งรอบ เหงื่อเย็นผุดทั่วทั้งสรรพางค์กายฮ่องเต้หวู่ถ้อยคำนี้ของเจ้าเก้ามิได้เจตนาพูดเพื่อทำให้ผู้ฟังตื่นตระหนกภายในราชสำนักจะต้องมีคนมีเจตนาซ่อนเร้น คิดเป็นอื่นอยู่อย่างแน่นอน!หาไม่แล้วตกลงใครคือผู้แย้มพรายเบาะแสของกองทัพสกุลซูกันเล่า?ยังมีคนสอดแนมของเผ่าหมานอีกด้วย
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ