Share

บทที่ 161

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
หลี่หลงหลินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “พวกเจ้าสตรีเหล่านี้น่ะ ไม่เข้าใจหัวอกของบุรุษ!”

“พวกเจ้าลองคิดดู เหล่าทหารมีกี่คนแต่งงานมีครอบครัว?”

“พวกเขาคนใดมิใช่ชายหนุ่มกระตือรือร้นบ้างเล่า?”

“เป็นทหารนานนับสามปี เห็นแม่หมูงดงามยิ่งกว่าเตียวฉาน โฉมงามที่จันทรายังอายเสียอีก หรือพวกเจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อนกระนั้น?”

ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า

แม้ทุกคนล้วนเรียกนางว่าบุรุษในคราบสตรี แต่อย่างไรเสียนางก็เป็นหญิงคนหนึ่ง

ความคิดของบุรุษ ไฉนเลยนางจะเข้าใจได้?

หลี่หลงหลินพูดต่อ “เหตุใดเหล่าทหารต้องเข้าร่วมกองทัพ ออกมาสู้รบในแนวหน้า? หรือว่าทำเพื่อปกป้องบ้านเมือง ขับไล่พวกหมานอี๋จริงหรือ? คนส่วนใหญ่ไม่มีจิตสำนึกสูงเพียงนั้นหรอกนะ”

“พวกเขาแค่อยากเป็นทหารเพื่อหากิน ทำสงครามนานหลายปี สามารถหาเงินได้เล็กน้อย กลับบ้านขอเมียได้!”

“พูดตามสัตย์จริง ที่พวกทหารต่อสู้ก็เพื่อสตรี!”

“บัดนี้พวกเขาติดอยู่ที่เมืองซั่วเป่ย คิดถึงสตรีแทบแย่แล้ว!”

“หากส่งเสื้อบุนวมนี้ไปให้ถึงมือพวกทหาร เพียงพวกเขาสวมใส่ ก็ได้กลิ่นหอมมีเสน่ห์ของสตรี ครั้นได้เห็นชื่อของสตรีบนปกคอเสื้อ รู้ว่าเสื้อบุนวมนี้ เป็นมือบอบบางดุจหยกของสตรีเย็บด้ายให้พวกเ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 162

    ณ เมืองซั่วเป่ยหิมะโปรยปราย อากาศหนาวเหน็บเสื้อผ้าจางไป่เจิงบางนัก ผิงตัวอยู่ที่ข้างกองไฟ ตัวสั่นหงึกหงัก “ท่านแม่ทัพ!”รองแม่ทัพทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว หยิบเสื้อคลุมขนสัตว์ห่มตัวจางไป่เจิง “อากาศหนาว ท่านอย่าเป็นหวัดเป็นอันขาด!”บ่าทั้งสองข้างของจางไป่เจิงสั่นกระเพื่อม ถอดเสื้อคลุมออก ห่มลงบนตัวรองแม่ทัพ ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ข้าเป็นแม่ทัพ ดีเลวอย่างไรก็สามารถผิงไฟทำตัวให้อุ่นภายในเมืองได้! แต่ตัวพวกเจ้าสวมเพียงเสื้อผ้าบางๆ ยังต้องยืนเฝ้ายามประจำตำแหน่ง....”“เฮ้อ สวรรค์ไม่เป็นใจ คนลำบากก็คือพวกเจ้า”เหล่าทหารเห็นจางไป่เจิงรักทหารเหมือนลูกชาย ต่างพากันพูดพลางสะอื้น “ท่านแม่ทัพ...”จางไป่เจิงโบกมือ “ข้าได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายที่ภายนอก พวกเผ่าหมานมาก่นด่าที่นอกเมืองอีกแล้วกระนั้น?”รองแม่ทัพเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ตอบท่านแม่ทัพ พวกเผ่าหมานก่นด่าที่นอกเมืองมานานราวสิบกว่าวันเห็นจะได้! พูดว่าพวกเราขี้ขลาดเหมือนหนู เป็นเต่าหัวหดอยู่ในกระดอง พวกเขายังจงใจฉี่ใส่กำแพงเมืองอีกด้วย...”“เหล่าทหารถูกเหยียดหยามเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนโมโหมากแล้ว ทว่าพวกเรายังไม่ยอมออกไปรบ ขวัญกำลังใจก็ถูกทำลาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 163

    ภาพประทับใจแรกมักหยั่งรากลึกอยู่เสมอภายในหัวใจจางไป่เจิง องค์ชายเก้าหลี่หลงหลินเป็นคนไร้การศึกษาไร้ความสามารถคนหนึ่ง รู้จักเพียงหาความสุขสำราญในหอนางโลม เพลิดเพลินกับชีวิตสุขสบาย เป็นตัวไร้ประโยชน์ทำแต่เรื่องไร้สาระ!เดิมทีจางไป่เจิงหมิ่นแคลนหลี่หลงหลินมากนักกอปรกับในระยะนี้มีข่าวลือส่งมาจากเมืองหลวง พูดว่าองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินเป็นตะวันพันมังกร ชมชอบบุรุษ ชนิดที่ว่าทำเรื่องรุ่มร่ามบนถนนจางไป่เจิงเป็นคนซื่อตรงคนหนึ่ง ภาพประทับใจที่มีต่อหลี่หลงหลินย่อมต่ำเตี้ยเรี่ยดิน!อันที่จริงไม่เพียงแค่จางไป่เจิง ทหารรักษาพระองค์นับแสนคนเองก็หมิ่นแคลนหลี่หลงหลินเฉกเช่นเดียวกันชื่อเสียงภายในกองทัพขององค์ชายเก้าท่านนี้แย่มากนัก แย่มากเสียจนกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว!ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ ราชสำนักไม่ถามไถ่ ตรงข้ามกันกลับเป็นองค์ชายเก้าส่งเสื้อบุนวมมาให้?จางไป่เจิงฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นได้อย่างฉับพลันเบี้ยเลี้ยงของทหารรักษาพระองค์หนึ่งล้านตำลึงก็เป็นหลี่หลงหลินวางอุบาย หลอกมาจากเว่ยซวินได้!หรือว่าองค์ชายเก้าท่านนี้เก็บซ่อนความสามารถเอาไว้จริงๆ?“องค์ชายเก้าส่งเสื้อบุนวมมามากน้อยเพียงใด?”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 164

    เสื้อบุนวมมีกลิ่นของสตรี ยังมีชื่อของสตรีอีกด้วย?องค์ชายเก้ากำลังเล่นพิเรนทร์อันใด!จางไป่เจิงขมวดคิ้วทีหนึ่ง หยิบเสื้อบุนวมหนึ่งตัวขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ปรากฏว่าพบตัวอักษรงดงามบนปกคอเสื้อ...อวี้จู๋“อวี้จู๋?”“ลั่วอวี้จู๋?”“สะใภ้ใหญ่ของสกุลซู?”จางไป่เจิงนึกขึ้นได้ในทันใด “ใช่แล้ว ฝ่าบาทพระราชทานสมรส องค์ชายเก้าแต่งเป็นเขยสกุลซู! เสื้อบุนวมเหล่านี้ ดูท่าแล้วเป็นญาติฝ่ายหญิงสกุลซูเย็บเองกับมือ! เพราะเหตุนี้ถึงมีกลิ่นหอมของสตรี...”ทหารหน่วยกล้าตายทุกคนได้ยินคำพูดของจางไป่เจิงแล้ว กระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น“สตรีของสกุลซู ได้ยินมาว่าแต่ละคนล้วนงดงามเหมือนเทพธิดา!”“สะใภ้สี่ของสกุลซูหลิ่วหรูเยียน เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าแห่งสำนักการสังคีต!”“เว้นเสียแต่สกุลซูแล้ว น่าจะยังมีแม่ม่ายของกองทัพสกุลซูอีกด้วย พวกนางล้วนเป็นหญิงออกเรือนแล้วจิตใจดีมีคุณธรรม ทว่าน่าเสียดายทั้งหมดล้วนเป็นแม่ม่าย!”“แม่ม่ายแล้วอย่างไร? แม่ม่ายก็แต่งใหม่ได้ พาลูกชายมาให้เจ้าคนหนึ่ง นี่เจ้าได้กำไรมากมิใช่หรือ!”พยับเมฆที่ผ่านมาถูกกวาดออกไปในทันใด เกิดเสียงตลกขบขันภายในค่ายหลงหยาบนเสื้อบุนวมมีกลิ่นขอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 165

    นับตั้งแต่หลี่หลงหลินอาศัยกำลังทหารที่หลงเหลืออยู่ของสกุลซู ปราบกบฏขององค์ชายหกลงได้ ก็ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท!ชื่อเสียงของเขามีมากขึ้นเรื่อย ๆ นางหลินผู้เป็นมารดาถูกแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟยได้ยินว่าฝ่าบาทยังพระราชทานกระบี่อาญาสิทธิ์หนึ่งเล่มให้หลี่หลงหลินอีกด้วย!นี่ต้องรีบไปผูกสัมพันธ์เสียแล้ว!ดังนั้น วันที่ได้รับเชิญ พ่อค้าเหล่านี้หลั่งไหลเข้ามาดุจปลาแหวกว่ายในวารี นั่งรถม้าเดินทางไปยังตลาดทิศทักษิณเดิมทีตลาดทิศทักษิณก็มีคนมากอยู่แล้ว คราวนี้แน่นขนัดจนแม้แต่น้ำมิอาจผ่านทางได้พวกพ่อค้าจนใจ ทำได้เพียงลงจากรถม้าและเดินไประหว่างเดินทาง เว้นเสียแต่พ่อค้าที่ได้รับเทียบเชิญแล้ว ยังมีราษฎร์มาดูความครึกครื้นไม่น้อย ทั้งหมดล้วนรวมตัวกันที่ร้านขายผ้าสกุลซูคึกคักเพียงนี้ นี่ครึกครื้นยิ่งกว่าวันสิ้นปีเสียอีก!เว้นเสียแต่ร้านขายผ้าสกุลซูแล้ว ระยะนี้ร้านรวงที่ตลาดทิศทักษิณก็เปิดกิจการไม่น้อย ขายซาลาเปาน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋และอาหารอีกมากมาย แต่ละร้านล้วนตะโกนเสียงดัง การค้าเฟื่องฟูพวกพ่อค้าเห็นสถานการณ์แล้ว ทั้งหมดก็เผยสีหน้าตกตะลึงได้ยินมิสู้ได้เห็นเองกับตาพวกเขาล้วนได้ยินมาว่าต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 166

    คำพูดของลั่วอวี้จู๋ ฟังดูแล้วน่าสนใจแต่ใช้งานจริงไม่ได้หากเป็นสถานการณ์ปกติ เหล่าพ่อค้าต้องมิอาจข่มตนเองได้ แย่งกันซื้อแล้วเป็นแน่ทว่าวันนี้ไม่เหมือนวันวานแล้วเหล่าพ่อค้ากลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ชนิดที่ว่ามีคนไม่น้อยอ้าปากหาวแล้วลั่วอวี้จู๋พูดอยู่นาน ปากสีกันจนจะแตกแล้ว คอเองก็เริ่มแสบร้อน แต่ก็ยังไม่สามารถขายได้พ่อค้าคนหนึ่งลุกขึ้น พูดเสียงดัง “เจ้าของร้านลั่ว ท่านเองก็คือคนทำการค้า! มิใช่พวกเราไม่ชื่นชมองค์ชายเก้า! แต่พวกเจ้าขายร้านราคาสูงเกินไปแล้ว!”พ่อค้าคนอื่นต่างพากันร้องรับ “ใช่แล้ว ตอนนี้เป็นเวลาใด? เผ่าหมานใกล้ตีถึงเมืองหลวงแล้ว เมื่อนั้นร้านเหล่านี้ก็ราคาไม่ถึงหนึ่งอีแปะแล้ว!”“หากถูกลงกว่านี้อีกหน่อย พวกเราอาจยังพิจารณาดู!”“แพงเพียงนี้ คนโง่ต่างหากจะซื้อ!”แม้ฐานะของพวกพ่อค้าในสังคมต่ำมาก แต่พวกเขาล้วนมีไหวพริบ ไม่มีวันติดกับอย่างง่ายดายลั่วอวี้จู๋เอือมระอา ทอดสายตาขอความช่วยเหลือไปทางหลี่หลงหลินตอนนี้ หลี่หลงหลินกำลังนั่งอยู่ที่ฝั่งหนึ่ง ขาทั้งสองข้างไขว้กัน จิบชาช้าๆซูเฟิ่งหลิงถือกระบี่อาญาสิทธิ์ ยืนข้างกายเขา ทำหน้าที่เป็นผู้คุมกัน“องค์ชายเก้า พวกพ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 167

    ยิ่งไปกว่านั้น ตู้เหวินหยวนและพวกขุนนางฝ่ายบุ๋น ยังถูกราษฎร์โยนอึใส่เต็มตัวอีกด้วยได้ยินมาว่าหลังตู้เหวินหยวนกลับไปแล้ว อาบน้ำนานถึงสองชั่วยาม แต่ยังไม่สามารถชำระล้างกลิ่นเหม็นบนตัวได้ หลายวันนี้ข้าวก็กินไม่ลง!สำหรับตู้เหวินหยวนแล้ว นี่คือความอัปยศอดสู!เพราะเหตุนี้ ตู้เหวินหยวนร่วมมือกับขุนนางฝ่ายบุ๋นอย่างอดรนทนแทบไม่ไหว ต้องการทวงตำแหน่งกลับคืนมา!ครั้งนี้ พวกเขาต้องการลงมือกับจางไป่เจิง!“ทำเช่นไรดี?”ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรขุนนางกลุ่มนั้น ตกอยู่ในสถานการณ์เดินหน้าถอยหลังล้วนยากทั้งสองทางแม้เจ้าเก้าพูดอย่างมั่นใจ ส่งเสื้อบุนวมหนึ่งหมื่นตัวไปที่เมืองซั่วเป่ย ก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ทำให้กองทัพทหารรักษาพระองค์ได้รับชัยชนะแต่เสื้อบุนวมหนึ่งหมื่นตัว พูดง่ายที่ใดกัน?ผ่านไปหลายวันเพียงนี้แล้ว เจ้าเก้าเตรียมเสื้อบุนวมเพียงสามพันตัว ส่งไปที่ซั่วเป่ยแล้วเสื้อบุนวมเพียงเล็กน้อยนี้ก็คือกำลังใช้น้ำหนึ่งแก้วดับกองเพลิงโดยแท้...“ดูท่าแล้ว...”“สถานการณ์โดยรวมยากจะนำคืนกลับมา!”ฮ่องเต้หวู่ถอนหายใจเฮือกหนึ่งเพื่อแผนในวันนี้ ทำได้เพียงเรียกตัวจางไป่เจิงกลับมา ทำให้ราชสำนักสงบลงก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 168

    รายงานชัยชนะมีลับลมคมใน?เพียงตู้เหวินหยวนพูดออกมา เสียงภายในราชสำนักก็เงียบกริบเหล่าขุนนางล้วนมีสีหน้าตกตะลึง รู้สึกเหลือจะเชื่อนี่เขาหมายความว่ากระไร?หรือว่าจางไป่เจิงยังขวัญกล้าโกหกในรายงานทางทหารอีกกระนั้น?ทว่า เพียงเหล่าขุนนางคิดดูแล้ว นี่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์ปกติทั่วไป จางไป่เจิงไม่มีวันกล้ารายงานเท็จนี่คือความผิดร้ายแรงต้องลงโทษตัดหัวประหารชีวิต!ต่อให้เป็นฝ่าบาท ก็ปกป้องเขาไม่ได้!อย่างไรก็ตาม จางไป่เจิงถูกเหล่าขุนนางกล่าวโทษ สถานการณ์เลวร้ายเป็นพิเศษ ต้องใช้ข่าวชนะศึกเร่งด่วน มาพิสูจน์ตนเองภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่แน่ว่าจางไป่เจิงอาจเป็นสุนัขจนตรอก!อย่างไรเสียช่วงเวลาที่ซั่วเป่ยได้รับชัยชนะ ก็บังเอิญเกินไปแล้ว!จางไป่เจิงหลบเลี่ยงออกรบอยู่ตลอด ติดอยู่ที่เมืองซั่วเป่ยเช่นนั้นจะมีเหตุผลอะไร ทำให้เขาออกรบอย่างกะทันหัน ได้รับชัยชนะกลับมา?ชัยชนะครั้งนี้ ไม่ปกติ!ฮ่องเต้หวู่สวมชุดมังกรนั่งบนบัลลังก์มังกร สีพระพักตร์แข็งทื่อดุจเหล็ก สบมองตู้เหวินหยวนสายพระเนตรเยียบเย็น “ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ เจ้าคิดว่าชัยชนะนี้เป็นเรื่องเท็จกระนั้น?”ตู้เหวินหยวนเป

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 169

    เหล่าขุนนางต่างตกตะลึงเหตุใดยังมีรายงานทางทหารอีกเล่า?ใช่รายงานชัยชนะ หรือข่าวร้าย?“ประกาศ!”ฮ่องเต้หวู่โบกพระหัตถ์ผู้ส่งสาส์นคุกเข่าหน้าประตู ตะโกนรายงาน “ผู้ตรวจการเมืองซั่วเป่ย แจ้งข่าวชัยชนะ! กองทัพทหารรักษาพระองค์ได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่! แม่ทัพเผ่าหมานสวี่เลี่ยตายในสนามรบ กองทัพแตกพ่าย!”รายงานชัยชนะอีกแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้น มิใช่จางไป่เจิงส่งรายงานชัยชนะมา แต่เป็นผู้ตรวจการส่งมาข่าวด่วนแปดร้อยลี้เฉกเดียวกัน รายงานชัยชนะของผู้ตรวจการ ย่อมช้ากว่าจางไป่เจิงเล็กน้อยทว่า น่าเชื่อถือกว่ามากจางไป่เจิงรายงานการรบด้วยตนเอง เรื่องรายงานทางทหารอาจเป็นเท็จ ตนเองโอ้อวดอย่างไรก็ย่อมได้ทว่า ผู้ตรวจการเป็นคนของราชสำนัก มิหนำซ้ำคนส่วนใหญ่ล้วนเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ บ้างก็เป็นขันทีภายในวังความเป็นไปได้ที่จางไป่เจิงซื้อผู้ตรวจการต่ำมากนัก!นั่นก็หมายความว่าชัยชนะเมืองซั่วเป่ยเป็นความจริง!จางไป่เจิงได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่จริง!“ฮ่าๆ...”ฮ่องเต้หวู่ดีพระทัยมาก เงยพระพักตร์ทรงพระสรวลเสียงดังอย่างสุดระงับ สายพระเนตรตกลงบนตัวตู้เหวินหยวน “ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ เจ้าไม่เชื่อรายงานการรบของจาง

Pinakabagong kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status