Share

บทที่ 169

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
เหล่าขุนนางต่างตกตะลึง

เหตุใดยังมีรายงานทางทหารอีกเล่า?

ใช่รายงานชัยชนะ หรือข่าวร้าย?

“ประกาศ!”

ฮ่องเต้หวู่โบกพระหัตถ์

ผู้ส่งสาส์นคุกเข่าหน้าประตู ตะโกนรายงาน “ผู้ตรวจการเมืองซั่วเป่ย แจ้งข่าวชัยชนะ! กองทัพทหารรักษาพระองค์ได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่! แม่ทัพเผ่าหมานสวี่เลี่ยตายในสนามรบ กองทัพแตกพ่าย!”

รายงานชัยชนะอีกแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้น มิใช่จางไป่เจิงส่งรายงานชัยชนะมา แต่เป็นผู้ตรวจการส่งมา

ข่าวด่วนแปดร้อยลี้เฉกเดียวกัน รายงานชัยชนะของผู้ตรวจการ ย่อมช้ากว่าจางไป่เจิงเล็กน้อย

ทว่า น่าเชื่อถือกว่ามาก

จางไป่เจิงรายงานการรบด้วยตนเอง เรื่องรายงานทางทหารอาจเป็นเท็จ ตนเองโอ้อวดอย่างไรก็ย่อมได้

ทว่า ผู้ตรวจการเป็นคนของราชสำนัก มิหนำซ้ำคนส่วนใหญ่ล้วนเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ บ้างก็เป็นขันทีภายในวัง

ความเป็นไปได้ที่จางไป่เจิงซื้อผู้ตรวจการต่ำมากนัก!

นั่นก็หมายความว่า

ชัยชนะเมืองซั่วเป่ยเป็นความจริง!

จางไป่เจิงได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่จริง!

“ฮ่าๆ...”

ฮ่องเต้หวู่ดีพระทัยมาก เงยพระพักตร์ทรงพระสรวลเสียงดังอย่างสุดระงับ สายพระเนตรตกลงบนตัวตู้เหวินหยวน “ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ เจ้าไม่เชื่อรายงานการรบของจาง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 170

    จางไป่เจิงเป็นคนรู้บุญคุณคนหนึ่งเพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ จึงมอบความดีความชอบให้หลี่หลงหลิน!ยิ่งไปกว่านั้นชัยชนะเมืองซั่วเป่ย ฆ่าเผ่าหมานจนหวาดกลัวหมดความกล้า พลิกสถานการณ์แล้วภายภาคหน้าต้องการความดีความชอบมากน้อยเพียงใด ก็ได้รับความดีความชอบมากน้อยเพียงนั้นแล้วมิใช่หรือ?“เจ้าเก้า...”“ที่แท้ก็เป็นความดีความชอบของเจ้าเก้า!”“ฮ่าๆ เรามีหลินเอ๋อร์ ก็มีวาสนาของบ้านเมือง!”ฮ่องเต้หวู่ยืนขึ้นอย่างอดไม่ได้ ทรงพระสรวลฮาฮาเสียงดังเปล่งคำนี้ออกมา ทุกคนล้วนอึ้งงันเหล่าขุนนางหันมองกันชัยชนะเมืองซั่วเป่ย มิใช่ความดีความชอบของจางไป่เจิงหรือ?เกี่ยวอันใดกับองค์ชายเก้าเล่า?ตู้เหวินหยวนขมวดคิ้วแน่น “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่เข้าใจ...”ฮ่องเต้หวู่ส่งจดหมายในมือให้เว่ยซวิน ออกคำสั่ง “นำลงไป ให้เหล่าขุนนางผ่านตา!”เว่ยซวินรับจดหมาย มอบให้ตู้เหวินหยวนเป็นคนแรกตู้เหวินหยวนรับไปอย่างอดรนทนไม่ไหว ก้มหน้าอ่าน สีหน้ายิ่งไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อย ๆเป็นไปได้เยี่ยงไร!ชัยชนะเมืองซั่วเป่ย ถึงขั้นเป็นความดีความชอบขององค์ชายเก้า?ตู้หวินหยวนคล้ายกินแมลงวันเข้าไป ทุกข์ทรมานอย่างร้ายกาจจางไป่เจิงเป็น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 171

    ขุนนางระดับธรรมดาต้องทำงานหนักมาตลอดชีวิต ได้เลื่อนขั้นเป็นบรรดาศักดิ์ป๋อเจวี๋ย ก็โชคดีที่ได้ตำแหน่งใหญ่แต่ในฐานะองค์ชาย หลี่หลงหลินเกิดมาพร้อมกับคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดตามกฎของต้าเซี่ย องค์ชายจะถูกเรียกว่าป๋อเจวี๋ยเมื่อย่างเข้าสู่อายุยี่สิบปีส่วนเฟิงโหว จะต้องเข้าร่วมสนามรบด้วยตนเอง และสะสมคุณงามความดี ถึงจะสามารถทำได้!ในบรรดาองค์ชายทั้งเก้า มีเพียงองค์ชายสามคนแรกเท่านั้นที่อายุมากที่สุด และมีอำนาจในราชสำนักมากที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นโหวเจวี๋ยแม้แต่องค์ชายสี่หลี่จื้อก็ยังได้เป็นแค่ป๋อเจวี๋ย ไม่สามารถเติบโตไปกว่านี้ได้ฮ่องเต้หวู่ไม่เพียงแต่ต้องการคืนตำแหน่งป๋อเจวี๋ยให้เป็นเจ้าเก้าหลี่หลงหลินเท่านั้น แต่ยังต้องการแต่งตั้งให้เขาเป็นเฟิงโหวอีกด้วยรางวัลเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของฮ่องเต้!สีหน้าของตู้เหวินหยวนเปลี่ยนไปมาก “ฝ่าบาท สิ่งนี้ขัดต่อกฎ ... “ฮ่องเต้หวู่ตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กฎ? กฎอะไร กฎของบรรพบุรุษหรือ? เมื่อก่อนพวกเจ้าก็เอาแต่พูดว่าเจ้าเก้าไม่อาจถูกแต่งตั้งได้หากไม่มีคุณงามความดี! ตอนนี้ เจ้าเก้ามีคุณงามความดีอย่างมาก พวกเจ้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 172

    ข่าวที่เมืองซั่วเป่ยได้รับชัยชนะนั้นได้แพร่กระจายจากราชสำนักไปสู่หมู่ราษฎรทั่วทั้งเมืองหลวง ชาวบ้านต่างพากันฮือฮาผู้คนนับไม่ถ้วนปิดหน้าร้องไห้ด้วยความดีใจในช่วงเวลานี้ พวกเขาใช้ชีวิตด้วยหวาดกลัวตอนนี้ดีมากแล้วจางไป่เจิงเอาชนะพวกเผ่าหมาน ปกป้องเมืองหลวงเอาไว้ได้หมอกควันแห่งความสิ้นหวังที่คอยปกคลุมเหนือหัวของชาวบ้านก็ถูกกวาดหายไปในทันที!ด้วยความดีใจ ชาวบ้านจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็คุกเข่าลงบนพื้นและโน้มตัวไปทางทิศเหนือ “เทพเจ้าไม่ทอดทิ้งต้าเซี่ยของข้า! ขอบคุณแม่ทัพจาง!”“แม่ทัพจางเป็นวีรบุรุษของต้าเซี่ย!”“ถูกต้อง เขาเป็นวีรบุรุษ! หวังว่าเขาจะมีอายุยืนยาว ขับไล่พวกชนกลุ่มน้อยออกไป และฟื้นฟูแคว้นของเรา!”สำหรับวีรบุรุษ พวกชาวบ้านไม่เคยลังเลที่จะสรรเสริญชั่วครู่นั้น คำสรรเสริญจำนวนนับไม่ถ้วนก็รวมอยู่ที่ตัวของจางไป่เจิงบางคนถึงกับเสนอให้สร้างศาลเชิดชูให้กับจางไป่เจิง เพื่อจะได้จุดธูปสักการะแต่บางคนก็ยังตั้งคำถามว่า “ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้ มันมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ จะมีปัญหาอะไรใช่หรือไม่? ตอนนั้นองค์ชายเก้าโกหกเรื่องสถานการณ์ทางทหารจนทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่!”และมีคนโต้ก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 173

    ในเวลานี้ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ราชโองการ! องค์ชายเก้าหลี่หลงหลินรับราชโองการ!”ทุกคนต่างก็หลีกทางให้ เห็นขันทีสวมชุดงูเหลือมเดินมา รอบๆ ก็มีทหารองครักษ์กลุ่มหนึ่งเว่ยซวินพระเก้าพันปี!บรรดาพ่อค้าต่างตกตะลึงเมื่อนึกฐานะของขันทีขึ้นมาได้พระเก้าพันปีผู้นี้เป็นคนสำคัญที่พวกเขาไม่อาจล่วงเกินได้!พระเก้าพันปีมาถ่ายทอดราชโองการด้วยตนเองเช่นนี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน!ลั่วอวี้จู๋ ซูเฟิ่งหลิงและคนอื่นๆ ในตระกูลซูต่างก็รู้สึกเวียนหัวและตกตะลึงเช่นกันเมื่อเห็นเว่ยซวินมาถ่ายทอดราชโองการแม้ว่าตระกูลซูจะเป็นตระกูลที่ได้รับการสืบทอดในต้าเซี่ยมาหลายร้อยปีต่อให้ตอนที่แม่ทัพอาวุโสซูยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังไม่เคยเห็นราชโองการสักฉบับเดียวสำหรับเว่ยซวินพระเก้าพันปี เขาคือคนสำคัญที่ไกลเกินคว้าแต่หลังจากที่หลี่หลงหลินกลายเป็นลูกเขยของตระกูลซูแล้ว เว่ยซวินก็มาที่นี่หลายครั้ง ราชโองการมาฉบับแล้วฉบับเล่า ราวกับว่าไม่ต้องการเงินนี่คือองค์ชาย!นี่คือราชวงศ์ใช่หรือไม่?หลี่หลงหลินก้าวไปข้างหน้าทันที “หลี่หลงหลินลูกขอน้อมรับราชโองการ!”เว่ยซวินเปิดราชโองการของฮ่องเต้และอ่านเสียงดัง “ด้วยโองก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 174

    ร้านค้าในตลาดทิศทักษิณที่แต่เดิมไม่เคยได้รับความสนใจ ตอนนี้กลับถูกเหล่าพ่อค้าจำนวนนับไม่ถ้วนพากันแย่งซื้อ!ตั๋วเงินจำนวนมากถูกโบกอยู่ตรงหน้า ทำให้ทุกคนตะลึงจนอ้าปากค้าง!ทั่วทั้งสถานที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยบรรยากาศดุเดือด!ร้านค้าที่ขายในราคาหลายหมื่นตำลึงก็ถูกแย่งซื้อจนขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาทีนี่เป็นครั้งแรกที่ซูเฟิ่งหลิงได้เห็นเหตุการณ์ที่บ้าคลั่งเช่นนี้ ในสมองของนางก็ว่างเปล่าทันที “พวกเขาเอาเงินมากมายเช่นนี้มาจากไหนกัน...”หลี่หลงหลินยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นพ่อค้าธรรมดาหรือ เจ้าคิดผิดแล้ว! พวกเขาก็เหมือนกับแปดหอการค้าใหญ่ เบื้องหลังถ้าไม่ใช่ขุนนาง ก็เป็นผู้สูงศักดิ์ หรือขันที หรือราชวงศ์!” “ตั้งแต่สถาปนาต้าเซี่ยมาก็สามร้อยปีแล้ว!”“สามร้อยปีที่เจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง ทองคำและเงินตรานับไม่ถ้วนไปรวมอยู่ในมือของใคร!”“ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา!”“แต่เป็นคนพวกนี้!” “ตอนนี้ยังเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กน้อยเท่านั้น!”“เจ้ายังไม่เคยไปหอนางโลม ไม่รู้ว่าพวกคุณชายเสเพลเหล่านั้น เมื่ออยู่ในศึกชิงรักหักสวาทต่อหน้าหญิงคณิกา ก็ใช้เงินไปจำนวนมาก เหตุการณ์นั้นมันบ้าคลั่งยิ่งก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 175

    แน่นอนว่าความแตกต่างนี้มันช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!ซูเฟิ่งหลิงถูกหลี่หลงหลินมองเช่นนี้ก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา ใบหน้าอันงดงามของนางก็แดงเรื่อ “เจ้ามองข้าทำไม? เจ้าไม่เคยเห็นข้ามาก่อนหรืออย่างไร?”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเคยเห็นแม่เสือแก่ แต่สตรีลามกเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก”ซูเฟิ่งหลิงตะลึง แล้วพูดด้วยความโกรธ “เจ้าว่าใครเป็นสตรีลามก?”หลี่หลงหลินจ้องไปที่ใบหน้าอันงดงามของซูเฟิ่งหลิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แล้วจะใครได้อีกล่ะ? ดึกดื่นป่านนี้ไม่ยอมนอน กลับวิ่งมาที่ห้องบุรุษ ถ้าไม่ใช่สตรีลามกแล้วจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ...” “เจ้า...”ซูเฟิ่งหลิงโกรธมากตนกว่าจะแต่งหน้าหวีผมสวมชุดสตรีเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ตนรู้สึกว่ามีเสน่ห์เย้ายวนใจ ไม่แพ้เหล่าพี่สะใภ้แต่ผลสุดท้าย เจ้าหลี่หลงหลินสุนัขตัวนี้กลับไม่ชมว่าตนสวยยังไม่พอแต่ยังบอกว่าตนเป็นสตรีลามกอีก?นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!ซูเฟิ่งหลิงโกรธมากและจ้องมองไปที่หลี่หลงหลิน “พูดเรื่องไร้สาระให้มันน้อยลงหน่อย ที่ข้ามาหาเจ้าตอนดึกเช่นนี้ เพราะมีเรื่องอยากจะถามเจ้า”หลี่หลงหลินยังคงยิ้มและยื่นมือไปทาง ซูเฟิ่งหลิง “ข้าตอบคำถามเจ้าได้! แต่เจ้าต้อ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 176

    หลี่หลงหลินมองใบหน้าอันงดงามของซูเฟิ่งหลิง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ “ถ้าเจ้าคิดว่าพรุ่งนี้มันเร็วเกินไป ข้าเปลี่ยนเป็นวันอื่นได้! เดือนหน้าก็ได้...”ซูเฟิ่งหลิงส่ายหัวแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้น “ไม่เร็วไปสักนิด! ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี! พรุ่งนี้กำลังเหมาะ! เช่นนั้นพวกเรามารับสมัครทหารกันก่อนดีหรือไม่?ในการสร้างกองทัพของตระกูลซูขึ้นมาใหม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการรับสมัครทหารหลี่หลงหลินส่ายหัว “ไม่ต้องกังวลเรื่องการรับสมัครทหาร! พวกเรามาเลือกสถานที่ฝึกทหารกันก่อนเถอะ!”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง แล้วเอ่ยเห็นด้วย “ใช่! สถานที่ฝึกทหารมีความสำคัญมากกว่า! แต่ที่ไหนเหมาะล่ะ?”หลี่หลงหลินยิ้มแล้วพูดว่า “ภูเขาทิศประจิมเป็นอย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงสะดุ้งเล็กน้อย “ภูเขาทิศประจิมอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง ค่อนข้างเงียบสงบ! ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเพิ่งจะทหารที่เหลืออยู่ไปตัดต้นไม้ในภูเขาทิศประจิม ค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นั่นดี มันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับฝึกทหารจริงๆ!” “แต่เกรงว่าคงจะไม่ได้...”หลี่หลงหลินเลิกคิ้ว “ทำไมไม่ได้ล่ะ?”ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยอย่างลำบากใจ “เจ้าไม่รู้อะไร แม้ว่าภูเขาทิศประจิมจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 177

    ซูเฟิ่งหลิงรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิด จึงบิดแขนหลี่หลงหลิน “ไม่ได้ เจ้าต้องชนะ! ข้าจะได้จูบเจ้า! ถ้าเจ้าแพ้ ข้า... ข้า...ข้า...”ซูเฟิ่งหลิงยิ่งพูดยิ่งสับสน ใบหน้าของนางร้อนผ่าว ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไปหลี่หลงหลินดูแผ่นหลังของนาง ยกมือขึ้นสัมผัสรอยริมฝีปากบนแก้มของตน จากนั้นก็ยิ้ม “แม่เสือตัวนี้น่ารักจริงๆ...”วันต่อมาในพระราชวังต้องห้ามเว่ยซวินกำลังนำขันทีหลายคนไปคำนวณรายรับรายจ่ายของคลังราชวงศ์ไม่ใช่อะไรวันนี้เป็นวันที่ต้องจ่ายเงินเดือนให้เหล่าราชวงศ์เงินเดือนของขุนนางก็จ่ายออกจากคลังหลวงสำหรับขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ เงินเดือนของพวกเขาจะได้จากคลังราชวงศ์ดังนั้นฮ่องเต้หวู่จึงร้อนใจมาก สั่งให้เว่ยซวินรีบคำนวณดูว่ามีเงินเหลืออยู่ในท้องพระคลังเท่าไหร่ พอต่อการจ่ายเงินเดือนให้กับเหล่าราชวงศ์หรือไม่หลังจากที่เว่ยซวินยุ่งมาครึ่งวัน ในที่สุดเขาก็จัดการบัญชีเรียบร้อย จากนั้นก็นำไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้หวู่ “ฝ่าบาท รายรับของคลังราชวงศ์ปีนี้คือ...”ฮ่องเต้หวู่พูดอย่างไม่อดทน “ข้าไม่ฟังเรื่องนี้! เจ้าบอกข้ามาว่ามันเหลืออยู่เท่าไหร่!”เว่ยซวินกระซิบ “ทูลฝ่าบาท ไม่ถึง... หนึ่งหมื่นตำลึง

Pinakabagong kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status