แชร์

บทที่ 459

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-05 16:00:00
“ชายาหลีเองก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยซินเอ๋อร์อย่างสุดหัวใจ พระชายา หม่อมฉันจะจดจำความเมตตาของท่านไว้ หากท่านต้องการอะไรจากตระกูลเหยียนก็กล่าวมาได้เลย ตระกูลเหยียนจะฝ่าฟันเพื่อท่านอย่างไม่อิดออด”

ดวงตาของฮูหยินเหยียนเต็มไปด้วยน้ำตา และนางก็รู้สึกซาบซึ้งมากจนโค้งคำนับให้ฉู่เนี่ยนซีเพื่อแสดงความขอบคุณ

เย่เฟยหลีรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าและห้ามฮูหยินเหยียน

ฉู่เนี่ยนซีสงบลงครู่หนึ่งและได้รับความแข็งแกร่งขึ้น นางกล่าวขึ้นอย่างรู้สึกผิดกับฮูหยินเหยียน “ฮูหยินเหยียน ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เป็นหม่อมฉันเองที่ควรจะขอโทษท่าน หม่อมฉันปกป้องจือซินได้ไม่ดี หนำซ้ำยังทำให้นางได้รับบาดเจ็บ หม่อมฉันรู้สึกขอโทษต่อท่านจริง ๆ เพคะ”

เย่เหลียนที่ยืนนิ่งเงียบเดินเข้าไปด้านข้างฮูหยินเหยียนและอธิบายแทนฉู่เนี่ยนซีฟังว่า “ฮูหยินเหยียน เวลานั้นสถานการณ์มันเร่งด่วนมาก เป็นเพราะความร่วมมือของข้ากับชายาหลีถึงได้หยุดยั้งคนเลวเหล่านั้นได้ การที่แม่นางเหยียนได้รับบาดเจ็บเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการเห็น แต่ชายาหลีได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นได้โปรดอย่าตำหนิข้าและ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 460

    ฝุ่นละอองเล็ก ๆ ในอากาศลอยขึ้นอย่างเบาบางท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่าง ราวกับพวกมันไม่อาจเปิดเผยคำโกหกของคนทั้งสองเย่เฟยหลีเสียใจและพูดว่า “เป็นเพราะข้าประมาทเกินไป ข้าควรจะเตรียมคนไว้คอยปกป้องข้างกายเจ้าแต่ข้ากลับปล่อยให้เจ้าออกไปข้างนอกกับเสี่ยวเถาเพียงลำพัง เมื่อครู่ตอนที่เห็นเจ้าดูอ่อนแรงจนแทบหมดสติไป เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นมาเต็มหลังของข้า ข้ากลัวเหลือเกิน”หมอทำความสะอาดบาดแผลอย่างระมัดระวังเนื่องจากฉู่เนี่ยนซีเอาแต่พูดคุยกับเย่เฟยหลี และดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยใบหน้าที่ดูโศกเศร้าราวกับว่าทำอะไรผิดของบุรุษเบื้องหน้า นางจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผลมากนักฉู่เนี่ยนซีอดทนต่อคลื่นที่หมุนอยู่ในใจและบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปในระหว่างการผ่าตัดก่อนหน้านี้ ความเจ็บปวดจึงลดลงไปไม่น้อยแล้วแต่ถึงอย่างนั้นนางก็จับมือเย่เฟยหลีไว้ไม่ปล่อยหลังจากที่หมอพันผ้าพันแผลให้นางเรียบร้อยแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็จัดเตรียมห้องไว้สำหรับรักษาและพักฟื้นของเหยียนจือซิน และให้เสี่ยวเถาไปคอยรับใช้ฮูหยินเหยียนเย่เหลียนกลับมาที่จวนอ๋องของตน และเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดออก เขาอาบน้ำอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 461

    เย่เฟยหลียังป้อนอาหารให้ฉู่เนี่ยนซีด้วยตัวเองเช่นเดียวกับตอนที่นางเจ็บหลัง แต่ผลลัพธ์กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงครั้งก่อนฉู่เนี่ยนซีปฏิเสธทุกวิถีทางเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้เสี่ยวเถาเป็นคนป้อน จนเย่เฟยหลีต้องแตะจุดฝังเข็มของนางถึงได้ป้อนอาหารให้นางได้ แต่คราวนี้ฉู่เนี่ยนซีเชื่อฟังเขาอย่างมาก นางผลักออกแค่สองครั้งก็เลิกไป หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็มองไปที่เย่เฟยหลีซึ่งยังอยู่ในห้อง นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดขึ้นว่า “ข้าอยากเปลี่ยนเสื้อผ้า”นางตั้งใจจะให้เย่เฟยหลีออกไป ไม่เช่นนั้นนางก็ไม่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่ได้ แต่เย่เฟยหลีเข้าใจความหมายของฉู่เนี่ยนซีผิด และเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าของนางก่อนจะถามขึ้นว่า “เจ้าอยากเปลี่ยนชุดไหน?”ฉู่เนี่ยนซีมองไปที่เย่เฟยหลีที่กำลังเลือกอย่างตั้งใจโดยไม่พูดอะไร “ข้าจะให้เสี่ยวเถาเปลี่ยนให้ ท่านออกไปเถิด”เย่เฟยหลีซึ่งโดยปกติจะเป็นคนเย็นชาแต่เวลานี้หูของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง หัวใจของเขาร้อนผ่าวเพราะเขาเห็นชุดชั้นในสีแดงท่ามกลางกองเสื้อผ้าฉู่เนี่ยนซีมองดูบุรุษที่ดูคล้ายจะกลายเป็นหิน นางไม่รู้ว่าเขากำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-07
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 462

    หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีเปิดมันออก นางก็เห็นกำไลหยกคุณภาพดีอยู่ข้างใน นางหยิบมันขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง และได้ยินเสี่ยวเถาพูดต่อว่า “ฮูหยินเหยียนบอกว่านี่เป็นสินสอดของแม่นางในตอนนั้น และส่งต่อให้นางใช้เป็นสินสอด เดิมทีมันเป็นคู่ อีกอันอยู่ที่คุณหนูเหยียนเพคะ”“เอาเก็บไว้ดี ๆ”ฉู่เนี่ยนซีวางกำไลหยกกลับคืนแล้วมอบให้เสี่ยวเถานางรู้ว่ากำไลหยกเส้นนี้เป็นตัวแทนของความหวังที่ผู้เป็นแม่มีต่อบุตรสาว และฮูหยินเหยียนก็แสดงความจริงใจต่อนางแล้วรถม้าที่จอดอยู่ที่ทางเข้าจวนอ๋องเหลียนได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา และสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็แสดงความเคารพจนมากเกินไปเล็กน้อย ราวกับว่ากลัวจะถูกดุหากนางทำหรือพูดอะไรผิดไป เด็กสาวผู้สง่างามคนหนึ่งโผล่ออกมาจากรถม้า หน้าตาของนางสวยงามแต่มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว นางลงจากรถม้าโดยมีสาวใช้คอยพยุงอยู่ข้าง ๆ และอุ้มกระโปรงก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปที่ประตูสีแดง“ถวายบังคมองค์หญิงห้าพ่ะย่ะค่ะ” ยามที่อยู่ถัดจากประตูสีชาดทำความเคารพเย่เซวียนเล่อเดินตรงเข้าไปในประตูจวนอ๋องเหลียนราวกับว่าไม่เห็นพวกเขาสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดลานบ้านก็คำนับต่อเย่เซวียนเล่อทันทีเมื่อเห็นนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-08
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 463

    เย่เซวียนเล่อเย้ยหยันความคิดของเย่เหลียน พลางคิดว่าตัวเองกำลังเสียเวลา“ตอนนี้ช่วยไม่ได้ แต่อนาคตไม่แน่ น้องห้า หลายวันมานี้ เจ้าน่าจะเห็นว่าฉู่เนี่ยนซีไม่ใช่คนธรรมดา หากทำให้นางมาเป็นคนของเรา ภายภาคหน้าจะทำเรื่องอันใดก็ไม่ต้องเปลืองแรงเลยไม่ใช่หรือ?”“ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่เนี่ยนซีสามารถเป็นสายลับข้างกายเย่เฟยหลีได้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเราจะรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเขา ทั้งยังคอยมีฉู่เนี่ยนซีคอยเป่าหู พวกเราอยากจะให้เย่เฟยหลี ทำอะไรก็ได้นี่?”เย่เหลียนพูดโน้มน้าว สิ่งที่เขาพูดครึ่งหนึ่งเป็นความจริง อีกครึ่งเป็นเท็จเขาอยากได้ความสามารถของฉู่เนี่ยนซี แต่เขาก็อยากได้ตัวฉู่เนี่ยนซีจริง ๆ ด้วย และหลังจากเขาได้ตัวนางแล้ว เขาก็ไม่คิดจะให้นางอยู่กับเย่เฟยหลี“พี่รอง ที่ท่านต้องเดือดร้อนเพราะซ่างกวานเยียนนั่นยังไม่เพียงพออีกหรือ? เพราะเรื่องนั้นเสด็จแม่จึงต้องมาลงเอยเช่นนี้ อย่าคิดถึงเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเหล่านี้อีกเลยเพคะ”เย่เซวียนเล่อยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อนางคิดถึงซ่างกวานเยียน นอกจากนางจะไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดใด อีกทั้งยังตกลงไปในหลุมลึกและไม่สามารถปีนออกมาได้“น้องห้า เจ้าเชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 464

    “นั่นสิ พี่รองกับพี่สามก็เข้าร่วมด้วยนะ ตอนที่พี่รองพูดเรื่องนี้ในคราที่ไปเยี่ยมเสด็จแม่ ข้าก็ได้อยู่ฟังด้วย ดูน่าสนใจมาก แต่ข้าก็คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีบัณฑิตคนใดเทียบฉู่เนี่ยนซีได้เลย ท้ายที่สุดพวกเขาก็พ่ายให้กับนาง”เย่เซวียนเล่อทอดสายตารังเกียจไปข้างหน้า รู้สึกว่างานบนเรือวันนั้นจัดได้ไม่ดี ทำให้ฉู่เนี่ยนซีขโมยความสนใจทั้งหมดไปที่ตัวเองคนเดียวสีหน้าของซุนจื่อซีมีความชื่นชมและแปลกใจเล็กน้อย“หม่อมฉันได้ยินมานานแล้วว่าพระชายาหลีมีพรสวรรค์มาก นางไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เท่านั้น แต่นางยังเป็นผู้ที่โดดเด่นของตระกูลที่มีชื่อเสียงในด้านการเขียนบทกวีด้วย หากเป็นเช่นนี้หม่อมฉันไม่ออกไปข้างนอกจะดีกว่า เพื่อไม่ให้เสียหน้าและเป็นตัวตลกในสายตาผู้อื่นแต่คงจะดีไม่น้อยหากหม่อมฉันมีความสามารถสักอย่างหนึ่งเหมือนพระชายาหลี ในฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็นเช่นนี้หากเป็นคนที่มีสุขภาพดีก็อาจไม่เจ็บป่วยง่าย แต่คงไม่ต้องพูดถึงเสด็จย่าที่ทรงชราภาพแล้ว หากหม่อมฉันสามารถเรียนรู้อะไรจากพระชายาหลีมาได้บ้าง เสด็จย่าก็คงไม่ต้องทรงประชวรและทรมานเช่นนี้ หม่อมฉันทำอะไรไม่ได้เลย”“เรียนรู้?”เย่เซวียนเล่อมองซุน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 465

    เย่เซวียนเล่อพูดโดยที่ไม่ได้มีสีหน้ารู้สึกผิด“ฝ่าบาททรงกำลังเครียดเรื่องงานราชการ องค์หญิงห้ามาได้จังหวะพอดี ดูสิว่าฝ่าบาททรงพระเกษมสำราญเพียงใดที่ได้เห็นองค์หญิง”ฉู่กุ้ยเฟยยิ้มอย่างอ่อนโยนและสง่างาม แต่หางตาของนางดูล้าเล็กน้อย ช่วงนี้นางเหนื่อยมากกับการจัดการเรื่องในวังหลัง“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าในฤดูหนาวเช่นนี้อากาศเย็นจะซึมเข้าร่างกายได้ง่ายที่สุด ดังนั้นลูกจึงเตรียมโจ๊กเห็ดหูหนูขาวใส่พุทราแดงมาเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเพิ่มผงมันฮ่อบดซึ่งมีคุณประโยชน์ในการบำรุงร่างกายอย่างมากเพคะ”เย่เซวียนเล่อหยิบโจ๊กออกมาจากกล่องอาหารและวางอาหารรสเลิศอีกหลายจานไว้บนโต๊ะ“เล่อเอ๋อร์ช่างจิตใจดีนัก”องค์จักรพรรดิยิ้มอย่างอบอุ่นพลางชิมโจ๊กแล้วชมว่ารสชาติดีมาก“เสด็จพ่อ ช่วงนี้ลูกไปอ่านตำรามา ในนั้นเขียนไว้ว่าการบำรุงสุขภาพด้วยอาหารดีกว่าการดื่มยารักษาโรครสขม ๆ ลูกจึงเตรียมของพวกนี้มาให้เสด็จพ่อลองชิมเพคะ”เย่เซวียนเล่อได้กลิ่นหอมอันล้ำลึกในห้องโถง และเมื่อแสงแดดส่องลงมาบนใบหน้าที่สดใสของนาง นางก็ดูอ่อนเยาว์มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น“ทว่าสูตรอาหารที่บันทึกไว้ในตำราไม่ชัดเจนนัก ลูกเกรงว่าวัตถุดิบบางอย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-11
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 466

    “ท่านอ๋อง หมอหลวงจะดูแลอาการบาดเจ็บของพระชายาอย่างดี อีกทั้งยารักษาโรคมากมายในวังก็ดีที่สุดในใต้หล้า ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีเฉินพยุงเย่เฟยหลีให้ยืนขึ้นพร้อมพูดกระซิบ “เคราะห์ร้ายอาจให้โชค เคราะห์ดีอาจให้ทุกข์ หากเห็นว่าพระชายาหลีได้รับบาดเจ็บ องค์หญิงห้าคงไม่ทรงรบกวนนางมากเกินไปแน่พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่เย่เฟยหลีส่งขันทีเฉินกลับไป เขาก็นำพระราชโองการไปยังหอนอนของฉู่เนี่ยนซี ส่วนฉู่เนี่ยนซีกำลังให้เสี่ยวเถาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ แม้ว่าจะเป็นยาที่นางคิดค้นขึ้นเอง แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บมากจนนางขมวดคิ้ว“ข้าทำเอง” เย่เฟยหลีเดินเข้ามาหยิบขวดยาจากมือของเสี่ยวเถา เมื่อมองไปที่บาดแผล ดวงตาของเขาก็ฉายแววดุร้าย เขาจัดการโรยผงยาลงบนบาดแผลจนทั่วโดยไม่พูดอะไร แล้วใช้ผ้าพันแผลค่อย ๆ พันไปรอบ ๆฉู่เนี่ยนซีรู้สึกว่าเย่เฟยหลีมีบางอย่างผิดปกติ นางจึงส่งสายตาให้เสี่ยวเถาออกไป นางเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วมองไปยังใบหน้าด้านข้างของเย่เฟยหลี จากนั้นก็ยื่นนิ้วเย็น ๆ ไปเกลี่ยรอยย่นระหว่างคิ้วของเขาให้เรียบ“ข้าได้ยินจากคนข้างนอกว่าขันทีเฉินมาที่นี่ เขามาทำไมหรือ?” เสียงของฉู่เนี่ยนซีแผ่วเบาราวใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-12
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 467

    วันรุ่งขึ้น ฉู่เนี่ยนซีตื่นแต่เช้าและรับประทานอาหารเช้าที่จวนอ๋องหลี จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังพระราชวังกับเย่เฟยหลีระหว่างทาง เย่เฟยหลียังคงกำชับฉู่เนี่ยนซีว่าดูแลตัวเองให้ดี ฉู่เนี่ยนซีมองเขาอย่างจนใจพลางพูดว่า “ข้าไม่ยักรู้มาก่อนว่าท่านเป็นคนช่างพูดขนาดนี้”เย่เฟยหลียิ้มอย่างรักใคร่ เพียงแค่จับมือนางไว้และไม่พูดอะไรอีกหลังจากที่ทั้งสองมาถึงก็แยกย้ายกัน คนหนึ่งไปเข้าเฝ้าอย่างเป็นทางการ อีกคนหนึ่งนั่งรถม้าไปยังตำหนักโซ่วคังเมื่อนางกำนัลประจำตำหนักโซ่วคังเห็นรถม้าเคลื่อนเข้ามาจากระยะไกลก็รีบกลับไปทูลฉู่กุ้ยเฟยในทันทีหลังจากที่ฉู่กุ้ยเฟยได้ยินข่าว หยางเหอก็ช่วยประคองนางออกจากหอนอน และพบกับฉู่เนี่ยนซีที่มาถึงแล้ว“ท่านป้า” ฉู่เนี่ยนซีดีใจมากที่ได้เห็นฉู่กุ้ยเฟย แต่นางก็ยังคงทำความเคารพเพื่อรักษามารยาท “ถวายความเคารพกุ้ยเฟยเพคะ”“รีบลุกขึ้นเถิด”ฉู่กุ้ยเฟยยิ้มด้วยความรักและเอ็นดูพลางโบกมือเรียกฉู่เนี่ยนซีให้รีบเข้ามาหาหลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีจับแขนของฉู่กุ้ยเฟย พวกนางก็พูดคุยหัวเราะพร้อมเดินไปที่ศาลาอุ่นร้อนทางฝั่งตะวันออกด้วยกันฉู่กุ้ยเฟยเปิดม่านใสและเดินผ่านห้องโถงหลักไปยังหอนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-13

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status