แชร์

บทที่ 181

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-04 16:00:00
“นี่ น้ำ!” พูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ประคองฉู่เนี่ยนซีขึ้น แล้วยื่นแก้วน้ำไปที่ปากของนาง

ฉู่เนี่ยนซีจิบน้ำเล็กน้อย ลืมตาขึ้นช้า ๆ และเห็นสายตาที่เป็นกังวลของเย่เฟยหลี

“ขอบคุณ!”

เย่เฟยหลีขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแหบห้าวของนาง “ดื่มเพิ่มอีกหน่อย”

ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าและจิบน้ำอีกสองสามครั้ง

“ข้าจะไปให้คนเตรียมอาหาร!” เย่เฟยหลีให้ฉู่เนี่ยนซีนอนลง และหลังจากสั่งให้ขันทีเตรียมอาหารเสร็จ เขาก็กลับมา

“เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่!”

ฉู่เนี่ยนซีส่ายหัว ค่อย ๆ เอ่ยปากออกมา “ข้าสบายดี แค่ใช้แรงมากไปก็เลยเหนื่อยนิดหน่อย พวกเราอยู่ที่พระราชวังแล้วหรือ สนมฉิงเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ทุกอย่างเรียบร้อยดี หมอหลวงได้ตรวจวินิจฉัยแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ และเนื่องจากนางให้กำเนิดองค์ชาย จึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นพระชายา” เย่เฟยหลีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “แต่ว่าถุงบรรจุเลือดกับท่อที่เจ้าใช้ที่เรือนของสนมฉิงวันนี้...ของพวกนั้นเจ้าไปเอามาจากที่ใด?”

ฉู่เนี่ยนซีตกใจ และความง่วงที่มีก็หายเกือบครึ่ง “อะ...เอ่อ...ก่อนหน้านี้ข้าเอาเข้าไปด้วยน่ะ!”

“เอาเข้าไปหรือ เจ้าเอาติดตัวเข้าไปด้วย?” เย่เฟยหลีมองพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 182

    เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเย็นเสร็จ ไม่นานก็หลับไปอีกครั้ง เนื่องจากฉู่เนี่ยนซียังไม่หายดีนัก เย่เฟยหลีจึงรีบกลับจวนอ๋องแต่เช้าหลังจากตื่นนอน หลังจากนั้นรางวัลจากองค์จักรพรรดิก็มาถึงจวนอ๋องหลี นอกจากเครื่องประดับ เงินทอง เครื่องหัว ผ้าและอื่น ๆ แล้ว องค์จักรพรรดิยังมอบป้ายตราสำนักหมอหลวงซึ่งทำให้นางสามารถเข้าออกจากสำนักหมอหลวงได้อย่างอิสระ แม้ว่านางจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดใด แต่ก็จะได้รับประโยชน์จากหมอหลวง เย่เฟยลี่ที่ลงจากรถม้าพอดีพร้อมกับอุ้มฉู่เนี่ยนซีกลับไปที่เรือน ซ่างกวานเยียนเห็นดังนั้น ก็แทบอยากจะกัดฟันของตัวเองให้แตกออกเป็นชิ้น ๆ! นางกำมือแน่น พลางมองด้วยสายตาดุร้าย “ช่วงนี้ฉู่หว่านเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?” เฟยจูที่อยู่ด้านข้างโน้มตัวไปข้างหน้า “เรียนคุณหนู หลังจากที่นางถูกท่านอ๋องเหลียนลงโทษ ก็ถูกส่งกลับไปยังจวนมหาเสนาบดีฉู่ เดิมทีนางจะถูกส่งกลับไปที่บ้านเกิด ตีฟู่ แต่ดูเหมือนว่าฮูหยินฉู่จะใจอ่อน ขอว่าให้ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงดีก่อนค่อยส่งกลับเจ้าค่ะ!” “ฟื้นฟูร่างกาย? เกรงว่าหากนางหายดีแล้วคงจะไม่เต็มใจกลับไปน่ะสิ” ซ่างกวานเยียนใช้ความคิด สายตาของนางเหม่อมองไปยังเรือนขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-04
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 183

    ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมามองที่ซ่างกวานเยียน และอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันในใจ ‘ต้องมีอะไรบางอย่างร้ายแรงแอบแฝงอยู่แน่ ซ่างกวานเยียนคิดจะทำอะไรถึงได้มาบอกข้าโต้ง ๆ ว่าเย่เฟยหลีรักแต่นาง? อยากให้ข้าหึงรึ?’ “ที่นี่มีเราแค่สองคน เจ้าไม่จำเป็นต้องทำท่าทางอวดดีเช่นนี้ คิดจะทำอะไรก็พูดออกมาเลยดีกว่า!” ฉู่เนี่ยนซีเสียบปิ่นปักผมเข้าไปในผมมวยของตัวเองแล้วพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ “ฮ่าฮ่า...” ซ่างกวานเยียนปิดปากหัวเราะ ทำท่าทางไร้เดียงสาอีกครั้ง “พี่หญิง ท่านกำลังพูดถึงอะไร เยียนเอ๋อร์มาเชิญท่านด้วยความจริงใจ หรือว่าพระชายาเช่นท่านจะกลัวเสียแล้ว?” ฉู่เนี่ยนซีที่มองนางอย่างเรียบเฉย ก็หัวเราะขึ้น “ฮ่าฮ่า...กลัวหรือ? เจ้าหรือเปล่าที่กลัว? ในเมื่อต้องการให้ข้าไปมากนัก หากข้าไม่ทำตามคำขอก็คงจะไม่ได้” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็ลุกขึ้นและเดินนำไปยังประตู เมื่อนางไปถึงประตู นางก็หยุดและหันกลับมาทันที “จริงสิ ในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นพระชายา เช่นนั้นเจ้าก็ควรรู้สิว่าสถานะปัจจุบันของตัวเองไม่เหมาะกับอาภรณ์ชุดนี้” “เปลี่ยนอาภรณ์เสียเถอะ จะได้ไม่ถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะเอา!” ฉู่เนี่ยนซีกล่าวพลางเดินพ้นจากประตูไป ซ่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-05
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 184

    “วันนี้จวนอ๋องหลีช่างคึกคักจริง ๆ” ทุกคนนั่งลง ฉู่เนี่ยนซีที่ไม่ชอบงานแบบนี้และกำลังจะจากไป ก็มีเสียงของผู้ชายดังมาจากด้านหลัง ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาและเห็นเย่เหลียนเดินมาหานางโดยถือพัดพับอยู่ “ดูจากผิวพรรณของเจ้า เจ้าคงฟื้นตัวดีแล้ว!” เย่เหลียนเดินไปหาฉู่เนี่ยนซี ก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วมองเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาของนาง ฉู่เนี่ยนซีรีบถอยหลังไปสองสามก้าวและตีตัวออกห่าง “เสด็จพี่รองนี่เอง! เฟยหลีน่าจะอยู่ที่โถงรับแขกนะเพคะ” ความหมายก็คือแขกส่วนใหญ่อยู่ที่โถงรับแขกและท่านอ๋องไม่ควรพูดคุยกับสตรีที่แต่งงานแล้วอย่างหม่อมฉันที่นี่ พระองค์ควรไปหานายท่านของจวนอ๋องหลีดีกว่านะเพคะ เย่เหลียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยืดตัวขึ้นและยิ้มเต็มริมฝีปาก “ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบ! แต่ว่า...” ทันใดนั้นเขาก็เข้ามาใกล้อีกครั้งและพูดว่า “ข้าตั้งใจมาขอโทษแทนจาวอวิ๋น” “ขอโทษ? ไม่จำเป็นหรอกเพคะ! ถึงอย่างไรก็มีการลงโทษไปแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นก็ถูกคลี่คลายเรียบร้อยแล้วด้วย” ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งความเกรงกลัว จู่ ๆ เย่เหลียนก็ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง “เนี่ยนซีเป็นคนนิสัยดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-05
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 185

    ฉู่เนี่ยนซีมองไปยังท่าทางที่อ่อนแอของนางแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย มหาเสนาบดีฉู่บอกนางไว้ก่อนหน้านี้ว่าฉู่หว่านเอ๋อร์จะถูกส่งกลับจวนเดิมหลังจากที่นางหายจากอาการบาดเจ็บ เท่าที่ดูตอนนี้นางน่าจะเกือบจะหายดีแล้ว แต่ก็ยังไม่รีบเก็บข้าวของ อีกทั้งยังมีกะจิตกะใจมาที่จวนอ๋องหลีอีก เห็นทีเกรงว่าเรื่องราวคงจะไม่จบลงง่าย ๆ เป็นแน่ ฉู่เนี่ยนซีมองไปยังซ่างกวานเยียนที่อยู่ในระยะไกล และเห็นว่านางก็มองมาทางนี้เช่นกัน ซ่างกวานเยียนเห็นฉู่เนี่ยนซีมองมาที่ตัวเองก็ลุกขึ้นและเดินช้า ๆ ไปทางนั้น เมื่อนางเห็นเสื้อผ้าที่เปื้อนชาของฉู่เนี่ยนซี นางก็ทำท่าตกใจและพูดว่า “ตายแล้วพี่หญิง เหตุใดเสื้อผ้าของท่านถึงเปื้อนคราบชาคราบใหญ่ขนาดนี้ รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเถิดเจ้าค่ะ” “พระชายา หม่อมฉันขออภัยจริง ๆ เพคะ หม่อมฉันแค่คิดถึงสิ่งที่เคยทำผิดไว้และอยากจะมาแสดงความสำนึกผิดก่อนที่จะจากไป หม่อมฉันไม่นึกว่าพระชายาจะหันมากระทันหันเช่นนี้” ท่าทางของฉู่หว่านเอ๋อร์ที่ดูอ่อนแอไร้เดียงสาและเหมือนกำลังจะร้องไห้ ทำให้ทุกคนมองมาที่นาง ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองทั้งสองคนอย่างเย็นชา ริมฝีปากของนางเอ่ยออกมาเบา ๆ “ไม่เป็นไร แค่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-05
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 186

    “รนหาที่ตายเสียแล้ว!” ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะได้จับตัวนาง มือเรียวงามคู่หนึ่งก็บีบข้อมือของเขาไว้แน่น ทำให้เขาตกใจร้องออกมาอย่างเจ็บปวด “เจ็บ! เจ็บเจ็บ...” เขาร้องด้วยความเจ็บปวดและมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความตกตะลึง “เหตุใดเจ้าถึงไม่เป็นอะไรล่ะ?” เนื่องจากยาปลุกกำหนัดนี้มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง เขาจึงกินยาป้องกันไว้ล่วงหน้าทำให้ไม่เป็นอะไร แต่ฉู่เนี่ยนซีที่ไม่ได้เตรียมตัวป้องกันไว้จะไม่เป็นอะไรเลยได้อย่างไร! ฉู่เนี่ยนซียิ้มเยาะ ‘ขันนัก’ ด้วยความสามารถใหม่ของห้วงว่างเปล่า นางไม่จำเป็นต้องกินยาบรรเทาพิษ ก็สามารถต้านพิษได้ กับแค่ยาปลุกกำหนัดแค่นี้จะทำอะไรนางได้อย่างไร? เหตุผลที่เมื่อครู่นางแกล้งทำเป็นถูกหลอกเพราะจะใช้ประโยชน์จากกับดัก เพื่อให้แผนของซ่างกวานเยียนดำเนินต่อไปได้ “เจ้าดูเอาเองก็แล้วกันว่าข้าเป็นอะไรหรือไม่ แต่ตอนนี้เจ้างานเข้าแน่นอน!” ดวงตาของฉู่เนี่ยนซีเย็นชาจนชายร่างใหญ่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น “กะ...กระหม่อมผิดไปแล้ว! กระหม่อมถูกใครบางคนติดสินบนมาเลยหลงผิดไปครู่หนึ่ง พระชายาหลีโปรดไว้ชีวิตด้วย! กระหม่อมจะไม่ทำอีกต่อไปแล้ว!” ชายร่างใหญ่ถูกฉู่เนี่ยนซีจับไว้ หากเขาเคลื่อนไหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 187

    ​“เกรงว่าเสด็จพี่รองกำลังเข้าใจผิด ซีเอ๋อร์อยู่ที่นี่คนเดียวตลอดเวลาเพคะ” ฉู่เนี่ยนซียักไหล่อย่างไร้เดียงสา เย่เหลียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าแน่ใจหรือ? ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าจะใจกล้าอยู่กับบุรุษแปลกหน้าในห้องตามลำพัง! ข้าเกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป...คงกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวแน่” “อ้อ? จริงหรือเพคะ? ถ้าเช่นนั้นซีเอ๋อร์ก็คงต้องรีบออกไป เพราะเสด็จพี่รองก็ถือเป็นบุรุษแปลกหน้าเช่นเดียวกัน!” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็เมินเฉยต่อสีหน้าจับผิดของเย่เหลียน พลางยิ้มและเดินกำลังจะออกจากห้องไป “จริงสิ เสด็จพี่รองก็รีบออกไปจะดีกว่า หากอยู่ในห้องนี้จะอันตรายมากนะเพคะ!” ฉู่เนี่ยนซีนึกอะไรออกจึงเตือนเขาแล้วจากไป หารู้ไม่ว่าตรงมุมนั้น มีร่างร่างหนึ่งยืนกำหมัดแน่นและกำลังจ้องมองตามหลังนางไปอย่างอาฆาต หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีออกมาจากเรือนของซ่างกวานเยียน นางก็ไม่ได้กลับไปที่สวนท้ายจวน แต่นางกลับมาหาที่สงบ ๆ ขึ้นไปนอนเอนอยู่บนกิ่งไม้แล้วหลับไป ... อีกด้านหนึ่งที่สวนท้ายจวน บนเวทีนั้นคณะละครก็กำลังแสดงเพลงที่เป็นที่นิยมที่สุด ขณะทุกคนที่กำลังรับชมอย่างเพลิดเพลิน ซ่างกวานเยียนก็มองขึ้นไปที่ดวงอาทิตย์และคา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 188

    ซ่างกวานเยียนที่เผลอยิ้มอยู่ก็รีบหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว จากนั้นสีหน้าของนางก็ถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนก พลางมองไปทางเย่เฟยหลี “ทะ...ท่านอ๋อง...” เย่เฟยหลีมีสีหน้าที่ผิดปกติ ดวงตาลึกลับของเขาจ้องมองไปยังประตูที่ปิดอยู่ พลางฟังเสียงของชายและหญิงในห้อง ทุกคนมองหน้ากันอย่างคุ้นเคยและอยากจะออกไป แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีอยู่มากเช่นกัน “ก่อนหน้านี้พระชายาหลีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนของชายารองซ่างกวานไม่ใช่หรือ...” “หรือว่าคนที่อยู่ข้างในจะเป็น...” เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เฟยหลีก็จ้องมองผู้พูดด้วยสายตาเย็นชา ทำเอาชายคนนั้นที่พูดอยู่รู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองติดขัด บรรดาผู้ที่อยากดูด้วยความตื่นเต้นก็พลอยสั่นกลัวไปด้วย เมื่อคิดคำนวณว่าเรื่องซุบซิบหรือชีวิตสำคัญกว่ากัน พวกเขาจึงพากันถอยออกมา เย่เฟยหลีกวาดสายตามองฝูงชนพลางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ในเมื่อมาถึงแล้วก็ดูให้ชัดก่อนเถอะว่าใครที่อยู่ในห้อง แล้วค่อยเอามาพูด! ภรรยาของข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นแน่!” พูดจบ เย่เฟยหลีก็เปิดประตู คนที่เขินอายก้มหน้าไม่กล้ามอง แต่บางคนก็ยืดคอเพื่อมองเข้าไปข้างใน สายตาของซ่างกวานเยียนฉายแว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 189

    “อ๊ะ! พี่หญิง...ท่าน...ท่านทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ?!” ซ่างกวานเยียนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ปิดปากและตะโกนด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ เสียงดังมากจนเกือบจะได้ยินไปทั่วทั้งเรือน ผู้คนด้านนอกที่ได้ยินก็หันไปมองเย่เฟยหลีอย่างระมัดระวัง! หรือว่าคนที่อยู่ในห้องนี้จะเป็น...พระชายาหลี? มิน่าล่ะ นางหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งนานแล้วก็ยังไม่กลับมา! ท่านอ๋องหลีผู้นี้...ช่างน่าสงสารเหลือเกิน! ทุกคนคิดในขณะที่มองไปยังเย่เฟยหลีด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มีตั้งแต่ความเห็นอกเห็นใจไปจนถึงความสุขที่เห็นผู้อื่นเป็นทุกข์ “น้องหญิงเรียกใครว่าพี่หญิงรึ?” เสียงเย็นชาดังมาจากลานหน้าเรือน ทุกคนมองไปยังประตูเรือนและเห็นฉู่เนี่ยนซีเดินมาทางนี้อย่างช้า ๆ ด้วยสีหน้างงงวย “อ้าว? พระชายาหลีนี่! แล้วใคร...อยู่ข้างในนั้นล่ะ?” ผู้คนที่อยู่ในลานเรือนเริ่มอยากรู้อยากเห็น ตอนแรกที่ซ่างกวานเยียนบอกอย่างชัดเจนว่านั่นคือฉู่เนี่ยนซี แต่ตอนนี้ฉู่เนี่ยนซีกลับกำลังยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ซ่างกวานเยียนที่อยู่ตรงประตูก็มีท่าทีเหลือเชื่อเมื่อนางเห็นฉู่เนี่ยนซี ทันใดนั้นรูม่านตาของนางก็ขยายออกและมองไปที่เตียง “สามหาวนัก! เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-07

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status