“พวกชวีจื้อไม่ใช่กลยุทธทะลวงศัตรูหรือ?”หยุนเจิงหัวเราะ “เจียเหยาทำเช่นนี้ มีข้อดี แล้วก็มีข้อเสีย...”หากพวกเขาไม่ได้ส่งทหารออกไปสร้างความประหลาดใจ บุกปะทะด้านหน้า ต้องเสียเปรียบอย่างหนักแน่นอนแต่ขอแค่พวกชวีจื้อทางนั้นไม่เกิดปัญหา ต่อให้พวกเขาบุกปะทะด้านหน้า ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้วเมื่อพวกชวีจื้อโผล่ออกมากะทันหัน ทัพศัตรูก็ย่อมตกอยู่ในความโกลาหลคนเหล่านี้ของเหมิงกู่และเจินเกอ ยังหวังจะให้พวกเขาม้าสู้ตายถวายชีวิตกับต้าเฉียนหรือ!สำหรับคนของสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอแล้ว นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของพวกเขาขอแค่สถานการณ์ไม่ถูกต้อง คนเหล่านี้ส่วนมากก็เลือกที่จะยอมจำนนเมื่อสองกำลังนี้ยอมจำนนตามทิศทางลม กองทัพใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็จะบุกเข้าไปทันทีถึงเวลานั้น นักรบที่เป่ยหวนรับสมัครมาชั่วคราว ยิ่งไม่มีใจอยากทำสงครามไม่หนี ก็ต้องจำนน!“องค์ชายฉลาดปราดเปรื่อง!”โจวมี่ประจบประแจง จากนั้นก็ถามต่อ “องค์ชายยังมีเป้าหมายอื่นอีกกระมัง? หากแค่ยืนยันตำแหน่งของกับดักม้า องค์ชายสั่งคนไปสำรวจสักรอบก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปหยั่งเชิง!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้ม กล่าวอย่างจริงใจ “หนึ่งตัดสินใจลงม
เวลาสองก้านธูปผ่านไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวหยุนเจิงสั่งเกาเหอ “ถ่ายทอดคำสั่งหวังชี่ นำกองกำลังไปรวมตัวกับกองกำลังฮั่วกู้ บุกโจมตีศัตรู! บอกพวกเขา ขอแค่ทัพศัตรูมีความเคลื่อนไหวใหญ่ ให้หันหัวถอยกลับทันที! ห้ามรับศึกศัตรู! ผู้ขัดคำสั่ง ประหาร!”“ขอรับ!”เกาเหอไปถ่ายทอดคำสั่งทันทีเมื่อหันกลับมา หยุนเจิงสั่งโจวที่ “สั่งกองทัพด้านหลัง รีบเข้าประชิดหวังชี่และฮั่วกู้!”โจวมี่ไปทำตามคำสั่งทันทีหยุนเจิงพลิกตัวขึ้นหลังม้าไม่นาน หยุนเขิงนำกองทัพด้านหลังเริ่มเข้าประชิดกับทัพหน้าขณะเดียวกัน ฮั่วกู้และหวังชี่ได้รวบตัวกันแล้ว จากนั้นก็ทำตามคำสั่งหยุนเจิง เริ่มเปิดฉากบุกโจมตีทัพศัตรูเมื่อเห็นทัพศัตรูเป็นฝ่ายบุก นัยน์ตาของเจียเหยาฉายแววสงสัยทัพศัตรูกำลังทำสิ่งใด?หรือว่า ก่อนหน้านี้เป็นนางที่คิดมากเกินไป?ศัตรูกำลังให้อาหารม้าอยู่จริง?เจียเหยาไม่สามารถเข้าใจเจตนาของศัตรูได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ยังสั่งให้ทหารม้าเป่ยหวนหนึ่งหมื่นห้าพันคนเตรียมรับศึกจากนั้น พวกเขาก็บุกออกยังไม่ถึงหนึ่งลี้ กองทัพศัตรูกลับหันหัวกลับ พากันล่าถอยเวลานี้ ด้านหลังกลับมีเสียงสัญญาณถอยทัพดังขึ้นแม่ทัพใหญ่ของ
“กล้า!”ทุกคนพากันร้องคำราม ทุกคนราวกับมีกองไฟถูกจุดขึ้นภายในใจต่อให้คนที่อยู่ห่างไกลไม่ได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ก็ตะโกนร้องออกมาเช่นหยุนเจิงยกมือหยุดเสียงร้องคำรามของทุกคน จากนั้นก็ชักดาบออกมาชี้ไปทางทัพศัตรู ร้องคำรามด้วยเจตนาฆ่าเข้มข้น “ความฝันของคนหลายรุ่นของต้าเฉียนเรา วันนี้ พวกเราจะทำให้เป็นจริง! บุกเข้าไป ย่ำม้าสู่ราชสำนัก!”“บุกเข้าไป!”“ย่ำม้าสู่ราชสำนัก!”“ย่ำม้าสู่ราชสำนัก!”“ฆ่า!”“ฆ่า!”เวลานี้ เหล่าทหารส่งเสียงร้องสะเทือนก้องภูเขาเสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่ากลายเป็นเหมือนกระแสน้ำ จู่โจมจิตใจของทัพศัตรูอย่างต่อเนื่อง“ฆ่า!”สิ้นเสียงคำสั่งของหยุนเจิง ทันใดนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน“ฆ่า!”“ฆ่า!”“ฆ่า...”เสียงเกือกเท้ามาไม่อาจกลบเสียงร้องฆ่าของทหารต้าเฉียนได้เสียงร้องตะโกนฆ่าดังสะเทือนฟ้าลอยก้องไปทั่วบรรยากาศการสังหาร!ดูเหมือนไร้รูปร่าง ทว่ามันมีอยู่จริงเผชิญหน้ากับทหารม้าต้าเฉียนที่บุกตรงเข้ามา กลางกองทัพเป่ยหวนเกินความวุ่นวายม้าศึกของคนมากมายเริ่มกระวนกระวายอยู่ไม่สุข สะบัดหัวส่งเสียงร้องออกมาไม่หยุดภาพเงาการรบพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง ปราก
หยุนเจิงเห็นทหารม้ากองนั้นที่ทัพศัตรูส่งมาจากด้านข้าง ในใจอดรู้สึกกังวลไม่ได้ทัพศัตรูราวกับเดาได้ว่าพวกชวีจื้อหันหัววกกลับมา!หากชวีจื้อสามารถพุ่งทะลวงทัพศัตรูกองนั้นได้โดยเร็ว การรบครั้งนี้คงสู้กันไม่ยากแต่พวกชวี้จื้อถูกพัวพัน ความเสียหายของการรบครั้งนี้เกรงว่าจะมีมากกว่าเดิมทว่า ทหารม้าเป่ยหวนกองนี้เป็นนักรบที่รับสมัครมาชั่วคราว คงไม่มีศักยภาพพอที่จะพัวพันพวกชวีจื้อบนสนามรบ ทหารม้าต้าเฉียนคนหนึ่งถูกธนูยิง แต่ก็ไม่ได้เกิดอันตรายแต่อย่างใดทหารต้าเฉียนผู้นี้ไม่สนใจว่าลูกธนูจะแทงทะลุร่างกายหรือไม่ ยังคงถือทวนโจมตีทัพศัตรูต่อไปยาวขึ้นหนึ่งนิ้ว แข่งแกร่งขึ้นหนึ่งนิ้วทหารราบต้าเฉียนขี่ม้าถือทวนแทงทะลุร่างการทหารม้าเหมิงกู่ที่สวมชุดเกราะผุพังบนร่างกายทหารราบต้าเฉียนไม่หยุดแม้แต่น้อย ดึงทวนกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แทงทหารม้าเหมิงกู่อีกคนแล้วทำให้ทหารม้าเหมิงกู่คนหนึ่งตกจากหลังม้า ทหารม้าเหมิงกู่อีกคนพุ่งผ่านร่างกายเขาไป ดาบสันโค้งในมือฟันฉับอย่างแรง“แกร๊ง...”ดาบสันโค้งฟันใส่เกราะของทหารราบต้าเฉียน ไม่เพียงไม่ทำให้ทหารราบผู้นั้นบาดเจ็บ ในทางกลับกันดาบสันโค้งของทหารม้าเห
อีกหลายสิบคนที่เหลือ ก็ถูกทหารราบกองกำกับดูแลคนอื่นยิง“ผู้หลบหนี ฆ่า!”ทหารกองกำกับดูแลนำโดยปู้ตู ร้องตะโกนเผชิญหน้ากับการควบคุมของปู้ตู คนสองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอที่คิดจะหลบหนีทำได้เพียงหันหัวม้ากลับไปบุกฆ่าอีกครั้งทว่า ช่องว่างได้ถูกเปิดออกแล้วจากนั้นทหารต้าเฉียนจำนวนมากบุกเข้ามา คนสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอยิ่งเกิดความหวาดกลัว“ฆ่า!”“ฆ่า!”“บุกเข้าไป!”ตอนที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือน ด้านหลังของทหารราบเป่ยหวนก็มีเสียงร้องตะโกนฆ่าดังสนั่นลั่นท้องฟ้าเสียงร้องตะโกนฆ่าที่มาอย่างกะทันหันทำให้ทหารราบทุกกองตกใจกลัวแม้จะอยู่ในสนามรบอันดุเดือด คนไม่น้อยหันหลังกลับไปมองอย่างไม่รู้ตัวด้านหลังของสนามรบ มีทหารติดอาวุธต้าเฉียนที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่เมื่อใดทหารม้าต้าเฉียนพุ่งเข้ามาทางด้านหลังด้วยเจตนาฆ่าไม่มีสิ้นสุดกองทหารชั้นยอดที่นำโดยชวีจื้อได้ตั้งขบวนโจมตี บุกมาจากทางด้านหลังของทัพศัตรูทหารม้าปีกข้างของเป่ยหวนแตกตื่นในชั่วพริบตาไม่รอคำสั่งของเจียเหยา คนเหล่านี้เริ่มล่าถอยทันทีระหว่างทางที่พวกเขาล่าถอย กลับต้องเผชิญกับทหารม้าต้าเฉียนที่นำโดยชวีจื้อเผชิ
หลังจากการบุกของกองกำลังชวี้จื้อ หยุนเจิงรู้ การต่อสู้สนามนี้ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้วบนสนามรบ มีต่างศพทุกหนทุกแห่งแต่ว่า ศพของคนสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอมีมากหน่อยเวลาเช่นนี้ ความแตกต่างระหว่างชุดเกราะที่สมบูรณ์และชุดเกราะที่ไม่สมบูรณ์นั้นแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่หลายครั้งมากมายที่ร่างกายทหารต้าเฉียนถูกดาบฟัน แต่ด้วยการป้องกันจากชุดเกราะ จึงไม่ได้เป็นสิ่งใดร้ายแรงทว่าทัพศัตรูที่ไม่มีการป้องกันจากชุดเกราะเหล่านั้น ขอแค่สัมผัสกับอาวุธของทหารต้าเฉียน โดยพื้นฐานแล้วล้วนลงเอยด้วยจุดจบที่ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส มีเพียงคนโชคดีจำนวนน้อยที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเดิมขวัญทหารของเหมิงกู่และเจินเกอก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว การบุกมากะทันหันของกองกำลังชวีจื้อ นับว่าเป็นการทำลายการป้องกันด้านจิตใจสุดท้ายของพวกเขาไม่นาน คนสองกองกำลังเหมิงกู่และเกินเจอเริ่มยอมจำนนถึงเช่นไร ต่อให้ทหารม้าต้าเฉียนบุกทะลวงแนวป้องกันของพวกเขาไป ที่บุกรุกเข้าไปก็คือด้านหลังของต้าเฉียน ไม่ใช่ด้านหลังของพวกเขารักษาชีวิตไว้สำคัญที่สุด!มองดูสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอทยอยยอมจำนน ทหารม้าเป่ยหวนที่ถูกโจมต
บนสนามรบ ไม่ใช่มีคนจำนวนมากแล้วจะต้องได้เปรียบเสมอไป!ตอนนี้พวกเขาเป็นเหมือนทรายหนึ่งชามที่แตกความสามัคคี!อีกทั้ง ยังเป็นทรายแตกความสามัคคีที่ชุดเกราะไม่สมบูรณ์กองทัพเช่นนี้ ทำได้เพียงสู้ไปตามทิศทางลม โดยพื้นฐานไม่มีทางต่อต้านทิศทางลมได้!ต่อให้คนของพวกเขามีจำนวนเป็นสองเท่าของทัพศัตรู ต่อสู้กับทัพศัตรูที่กำลังใจล้นเปี่ยม โดยพื้นฐานแล้วมีจุดจบเดียวคือพังทลายแม้ปู้ตูอยากจะสู้ตายไปพร้อมกับทัพศัตรูเช่นกัน แต่เขาก็รู้ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องสู้แล้ว“ข้ารู้!”เจียเหยากำหมัดแน่น กัดฟันกล่าว “แต่พวกเราหนีไปตลอดเช่นนี้ ทัพศัตรูไล่ตามมาตลอด ความเสียหายของพวกเราเองก็ไม่น้อยเช่นกัน! ทว่าทัพศัตรู สามารถทำให้ความเสียหายแทบเป็นศูนย์...”หนีไปตลอดเช่นนี้ เดิมก็ไม่ใช่วิธีพวกเขาคนมาก ต้องมีคนข้างหลังทีรั้งทายถูกศัตรูไล่ตามที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาต้องรวมตัวกับกองกำลังราชสำนักทางนั้น!พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ทัพศัตรูติดสอยห้อยตามพวกเขาจนถึงราชสำนัก!พวกเขาจะต้องชะลอการไล่ล่าของศัตรู ให้คนทางราชสำนักมีเวลาอพยพราชสำนักเมื่อได้ฟังคำของเจียเหยา ปู้ตูหมดคำพูดโดยทันทีเขารู้สิ่งที่เจียเหยาพูดเป็น
“องค์หญิง!”ปู้ตูเดินมาข้างหน้าอีกครั้ง ยังอยากเกลี่ยกล่อมเจียเหยาตัดบทปู้ตู กล่าวด้วยความร้อนใจ “ทัพศัตรูกำลังไล่ตามมา ไม่มีเวลาโอ้เอ้แล้ว!”ปู้ตูลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นหัวใจสับสน จากนั้นก็เข้าใกล้อีกครั้ง “องค์หญิง ท่านฟังข้าสักประโยค...”“อาจารย์เชิญกล่าว!”เจียเหยาตั้งใจฟังใจจดใจจ่อ“ความจริงแล้วพวกเรา...”ปู้ตูกำลังจะกล่าว ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ฝ่ามือฟาดไปที่ต้นคอของเจียเหยาทั้งสองคนอยู่ใกล้กันเกินไป เจียเหยาไม่มีการป้องกันใด เดิมก็ไม่ทันได้ตอบโต้ผลัก!ดาบร่วงหล่นเจียเหยาส่งเสียงอึดอัด จากนั้นก็สลบไปโดยตรงปู้ตูพยุงเจียเหยา กล่าวเสียงเข้ม “โม่ยื่อเกิน รีบพาองค์หญิงไป!”“ข้าพาคนไปปิดกั้นด้านหลัง!” โม่ยื่อเกินส่ายหน้า สีหน้าเด็ดเดี่ยว“เจ้าคุณสมบัติไม่พอ!”ปู้ตูคำราม “พาองค์หญิงไปเดี๋ยวนี้!”“ใต้เท้าปู้ตู!” โม่ยื่อเกินแผดเสียงสูง “ประโยชน์ของท่านมีมากกว่าข้า! องค์หญิงตอนนี้สูญเสียความมั่นใจหมดสิ้นแล้ว มีเพียงท่านที่สามารถช่วยองค์หญิงให้ฟื้นกลับมาได้ใหม่!”ปู้ตูเป็นที่พึ่งพาเดียวของเจียเหยาแล้ว!มีความช่วยเหลือจากใต้เท้าปู้ตู หวังว่าองค์หญ