หยุนเจิงเห็นทหารม้ากองนั้นที่ทัพศัตรูส่งมาจากด้านข้าง ในใจอดรู้สึกกังวลไม่ได้ทัพศัตรูราวกับเดาได้ว่าพวกชวีจื้อหันหัววกกลับมา!หากชวีจื้อสามารถพุ่งทะลวงทัพศัตรูกองนั้นได้โดยเร็ว การรบครั้งนี้คงสู้กันไม่ยากแต่พวกชวี้จื้อถูกพัวพัน ความเสียหายของการรบครั้งนี้เกรงว่าจะมีมากกว่าเดิมทว่า ทหารม้าเป่ยหวนกองนี้เป็นนักรบที่รับสมัครมาชั่วคราว คงไม่มีศักยภาพพอที่จะพัวพันพวกชวีจื้อบนสนามรบ ทหารม้าต้าเฉียนคนหนึ่งถูกธนูยิง แต่ก็ไม่ได้เกิดอันตรายแต่อย่างใดทหารต้าเฉียนผู้นี้ไม่สนใจว่าลูกธนูจะแทงทะลุร่างกายหรือไม่ ยังคงถือทวนโจมตีทัพศัตรูต่อไปยาวขึ้นหนึ่งนิ้ว แข่งแกร่งขึ้นหนึ่งนิ้วทหารราบต้าเฉียนขี่ม้าถือทวนแทงทะลุร่างการทหารม้าเหมิงกู่ที่สวมชุดเกราะผุพังบนร่างกายทหารราบต้าเฉียนไม่หยุดแม้แต่น้อย ดึงทวนกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แทงทหารม้าเหมิงกู่อีกคนแล้วทำให้ทหารม้าเหมิงกู่คนหนึ่งตกจากหลังม้า ทหารม้าเหมิงกู่อีกคนพุ่งผ่านร่างกายเขาไป ดาบสันโค้งในมือฟันฉับอย่างแรง“แกร๊ง...”ดาบสันโค้งฟันใส่เกราะของทหารราบต้าเฉียน ไม่เพียงไม่ทำให้ทหารราบผู้นั้นบาดเจ็บ ในทางกลับกันดาบสันโค้งของทหารม้าเห
อีกหลายสิบคนที่เหลือ ก็ถูกทหารราบกองกำกับดูแลคนอื่นยิง“ผู้หลบหนี ฆ่า!”ทหารกองกำกับดูแลนำโดยปู้ตู ร้องตะโกนเผชิญหน้ากับการควบคุมของปู้ตู คนสองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอที่คิดจะหลบหนีทำได้เพียงหันหัวม้ากลับไปบุกฆ่าอีกครั้งทว่า ช่องว่างได้ถูกเปิดออกแล้วจากนั้นทหารต้าเฉียนจำนวนมากบุกเข้ามา คนสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอยิ่งเกิดความหวาดกลัว“ฆ่า!”“ฆ่า!”“บุกเข้าไป!”ตอนที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือน ด้านหลังของทหารราบเป่ยหวนก็มีเสียงร้องตะโกนฆ่าดังสนั่นลั่นท้องฟ้าเสียงร้องตะโกนฆ่าที่มาอย่างกะทันหันทำให้ทหารราบทุกกองตกใจกลัวแม้จะอยู่ในสนามรบอันดุเดือด คนไม่น้อยหันหลังกลับไปมองอย่างไม่รู้ตัวด้านหลังของสนามรบ มีทหารติดอาวุธต้าเฉียนที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่เมื่อใดทหารม้าต้าเฉียนพุ่งเข้ามาทางด้านหลังด้วยเจตนาฆ่าไม่มีสิ้นสุดกองทหารชั้นยอดที่นำโดยชวีจื้อได้ตั้งขบวนโจมตี บุกมาจากทางด้านหลังของทัพศัตรูทหารม้าปีกข้างของเป่ยหวนแตกตื่นในชั่วพริบตาไม่รอคำสั่งของเจียเหยา คนเหล่านี้เริ่มล่าถอยทันทีระหว่างทางที่พวกเขาล่าถอย กลับต้องเผชิญกับทหารม้าต้าเฉียนที่นำโดยชวีจื้อเผชิ
หลังจากการบุกของกองกำลังชวี้จื้อ หยุนเจิงรู้ การต่อสู้สนามนี้ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้วบนสนามรบ มีต่างศพทุกหนทุกแห่งแต่ว่า ศพของคนสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอมีมากหน่อยเวลาเช่นนี้ ความแตกต่างระหว่างชุดเกราะที่สมบูรณ์และชุดเกราะที่ไม่สมบูรณ์นั้นแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่หลายครั้งมากมายที่ร่างกายทหารต้าเฉียนถูกดาบฟัน แต่ด้วยการป้องกันจากชุดเกราะ จึงไม่ได้เป็นสิ่งใดร้ายแรงทว่าทัพศัตรูที่ไม่มีการป้องกันจากชุดเกราะเหล่านั้น ขอแค่สัมผัสกับอาวุธของทหารต้าเฉียน โดยพื้นฐานแล้วล้วนลงเอยด้วยจุดจบที่ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส มีเพียงคนโชคดีจำนวนน้อยที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเดิมขวัญทหารของเหมิงกู่และเจินเกอก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว การบุกมากะทันหันของกองกำลังชวีจื้อ นับว่าเป็นการทำลายการป้องกันด้านจิตใจสุดท้ายของพวกเขาไม่นาน คนสองกองกำลังเหมิงกู่และเกินเจอเริ่มยอมจำนนถึงเช่นไร ต่อให้ทหารม้าต้าเฉียนบุกทะลวงแนวป้องกันของพวกเขาไป ที่บุกรุกเข้าไปก็คือด้านหลังของต้าเฉียน ไม่ใช่ด้านหลังของพวกเขารักษาชีวิตไว้สำคัญที่สุด!มองดูสองกองกำลังเหมิงกู่และเจินเกอทยอยยอมจำนน ทหารม้าเป่ยหวนที่ถูกโจมต
บนสนามรบ ไม่ใช่มีคนจำนวนมากแล้วจะต้องได้เปรียบเสมอไป!ตอนนี้พวกเขาเป็นเหมือนทรายหนึ่งชามที่แตกความสามัคคี!อีกทั้ง ยังเป็นทรายแตกความสามัคคีที่ชุดเกราะไม่สมบูรณ์กองทัพเช่นนี้ ทำได้เพียงสู้ไปตามทิศทางลม โดยพื้นฐานไม่มีทางต่อต้านทิศทางลมได้!ต่อให้คนของพวกเขามีจำนวนเป็นสองเท่าของทัพศัตรู ต่อสู้กับทัพศัตรูที่กำลังใจล้นเปี่ยม โดยพื้นฐานแล้วมีจุดจบเดียวคือพังทลายแม้ปู้ตูอยากจะสู้ตายไปพร้อมกับทัพศัตรูเช่นกัน แต่เขาก็รู้ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องสู้แล้ว“ข้ารู้!”เจียเหยากำหมัดแน่น กัดฟันกล่าว “แต่พวกเราหนีไปตลอดเช่นนี้ ทัพศัตรูไล่ตามมาตลอด ความเสียหายของพวกเราเองก็ไม่น้อยเช่นกัน! ทว่าทัพศัตรู สามารถทำให้ความเสียหายแทบเป็นศูนย์...”หนีไปตลอดเช่นนี้ เดิมก็ไม่ใช่วิธีพวกเขาคนมาก ต้องมีคนข้างหลังทีรั้งทายถูกศัตรูไล่ตามที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาต้องรวมตัวกับกองกำลังราชสำนักทางนั้น!พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ทัพศัตรูติดสอยห้อยตามพวกเขาจนถึงราชสำนัก!พวกเขาจะต้องชะลอการไล่ล่าของศัตรู ให้คนทางราชสำนักมีเวลาอพยพราชสำนักเมื่อได้ฟังคำของเจียเหยา ปู้ตูหมดคำพูดโดยทันทีเขารู้สิ่งที่เจียเหยาพูดเป็น
“องค์หญิง!”ปู้ตูเดินมาข้างหน้าอีกครั้ง ยังอยากเกลี่ยกล่อมเจียเหยาตัดบทปู้ตู กล่าวด้วยความร้อนใจ “ทัพศัตรูกำลังไล่ตามมา ไม่มีเวลาโอ้เอ้แล้ว!”ปู้ตูลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นหัวใจสับสน จากนั้นก็เข้าใกล้อีกครั้ง “องค์หญิง ท่านฟังข้าสักประโยค...”“อาจารย์เชิญกล่าว!”เจียเหยาตั้งใจฟังใจจดใจจ่อ“ความจริงแล้วพวกเรา...”ปู้ตูกำลังจะกล่าว ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ฝ่ามือฟาดไปที่ต้นคอของเจียเหยาทั้งสองคนอยู่ใกล้กันเกินไป เจียเหยาไม่มีการป้องกันใด เดิมก็ไม่ทันได้ตอบโต้ผลัก!ดาบร่วงหล่นเจียเหยาส่งเสียงอึดอัด จากนั้นก็สลบไปโดยตรงปู้ตูพยุงเจียเหยา กล่าวเสียงเข้ม “โม่ยื่อเกิน รีบพาองค์หญิงไป!”“ข้าพาคนไปปิดกั้นด้านหลัง!” โม่ยื่อเกินส่ายหน้า สีหน้าเด็ดเดี่ยว“เจ้าคุณสมบัติไม่พอ!”ปู้ตูคำราม “พาองค์หญิงไปเดี๋ยวนี้!”“ใต้เท้าปู้ตู!” โม่ยื่อเกินแผดเสียงสูง “ประโยชน์ของท่านมีมากกว่าข้า! องค์หญิงตอนนี้สูญเสียความมั่นใจหมดสิ้นแล้ว มีเพียงท่านที่สามารถช่วยองค์หญิงให้ฟื้นกลับมาได้ใหม่!”ปู้ตูเป็นที่พึ่งพาเดียวของเจียเหยาแล้ว!มีความช่วยเหลือจากใต้เท้าปู้ตู หวังว่าองค์หญ
จุดจบแห่งความพ่ายแพ้กำหนดไว้แล้ว!เขาไร้กำลังเปลี่ยนแปลงจุดจบตอนนี้ เขาทำได้เพียงนำทัพบุกโจมตีอย่างไม่กลัวตาย แย่งชิงเพื่อสังหารหยุนเจิง!ต่อให้ไม่พร้อมเพียงใด พยายามถ่วงเวลาอีกให้ได้ ให้เจียเหยาได้มีโอกาสบุกทะลวงออกไปเขาจำเป็นต้องรับประกันว่าเจียเหยาหนีไปได้อย่างปลอดภัยเป่ยหวนตอนนี้ มีเพียงเจียเหยาที่ออกคำสั่งทุกชนเผ่าเป่ยหวนได้หากสูญเสียเจียเหยาไป เป่ยหวนต้องมีคนมากมายตั้งตนเป็นกษัตริย์ ตกอยู่ในความแตกแยก!องค์หญิง...ท่านให้ข้าทำเรื่องสุดท้ายแทนท่านเถอะ!โม่ยื่อเกินถอนหายใจเงียบๆ จากนั้นก็ร้องคำราม “เหล่าผู้กล่า ฆ่าให้ข้า!”ความเด็ดเดี่ยวของโม่ยื่อเกินกระตุ้นความกล้าสุดท้ายของเหล่าทหาร“ฆ่า!”เวลานี้ ทุกคนแผดเสียงร้องฆ่าดั่งสนั่นหูด้วยการนำทัพของโม่ยื่อเกิน ทุกคนพากันจับจ้องธงอักษรซ่วยที่อยู่บริเวณไกลๆ ติดตามโม่ยื่อเกินบุกไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้นขณะเดียวกัน ทหารม้าต้าเฉียนก็พุ่งเข้ามาเช่นกันการต่อสู้ครั้งให้ดึงผ้าม่านเปิดฉากอีกครั้งตอนนี้โม่ยื่อเกินมีเพียงเป้าหมายเดียว สังหารหยุนเจิง!เขาไม่เคยเห็นหยุนเจิง แต่เขาจับจ้องธงอักษรซ่วยทหารม้าทั้งสองฝ่ายปะทะกั
“หยุด!” ขณะที่ทุกคนคิดจะแทงโม่ยื่อเกินให้ตาย เสียงของหยุนเจิงดังขึ้นหยุนเจิงขี่ม้าเข้ามา มองโม่ยื่อเกินด้วยความชื่นชม “เจ้าชื่ออะไร?”“ข้าคือโม่ยื่อเกินปู่ของเจ้า!”โม่ยื่อเกินสองดวงตาจ้องเขม็งหยุนเจิง “เจ้าคือหยุนเจิง?”หัวใจของโม่ยื่อเกินเต็มไปด้วยความเกลียดชัง พยายามยืนหยัดร่างกาย กุมดาบสันโค้งในมือเอาไว้แน่นหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าตอนนี้หยุนเจิงคงถูกหยุนเจิงยิงกลายเป็นรังผึ้งด้วยสายตาแล้ว“ไม่เลว!”หยุนเจิงพยักหน้า “ข้าก็คือท่านอาเขยของประมุขใหญ่ของพวกเจ้า!”อา...อาเขย?ใบหน้าโม่ยื่อเกินกระตุกอย่างแรง กัดฟันกรอดคำรามต่ำ “วันหน้า ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขา ต้องแก้แค้นแทนพวกเรา! ความอัปยศของพวกข้าในวันนี้ ก็คือความอัปยศของพวกเจ้าในวันหน้า!”หยุนเจิงยิ้มเรียบๆ ทว่าสายตากับเย็นชาเป็นพิเศษ “เช่นนั้นข้าจะทำลายเผ่าพันธุ์ของพวกเขาให้หมดสิ้นทั้งแคว้น ไม่เหลือไว้แม้แต่คนเดียว!”เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง สีหน้าโม่ยื่อเกินเปลี่ยนไปทันทีความกลัวไร้ที่มาที่ไปค่อยๆ คืบคลานในใจเขาหยุนเจิงขี้เกียจพูดพล่าม กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “อย่าพูดไร้สาระ ข้าขอถามเจ้าเพียงประโยคเดียว ยอม
หยุนเจิงหันหน้ากลับมา มองศพของโม่ยื่อเกินเงียบๆ ในใจรู้สึกเสียดายคนผู้นี้ ไม่ผิดต่อชื่อเสียงผู้กล้าอันดับหนึ่งของเป่ยหวนคนระดับล่างอย่างฟางหยุนซื่อ ไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้คนผู้นี้เลยด้วยซ้ำ!หยุนเจิงทอดถอนใจเงียบๆ จากนั้นก็ออกคำสั่ง “เกาเหอ สั่งคนฝังศพโม่ยื่อเกิน!”“ชวีจื้อ เหลือเชลยศึกไว้รับใช้สองสามคน ส่งทหารห้าร้อยคนนำเชลยศัพที่เหลือ ผู้บาดเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไป!”“ถ่ายทอดคำสั่งฮั่วกู้ หลังรวบรวมทัพศัตรูที่ยอมจำนน นำทหารห้าพันคนรวมตัวกับพวกเรา!”“สั่งการกองขนส่งเสบียงข้างหลัง รีบห้ามหยุดม้าคุ้มกันขนส่งเสบียงมุ่งไปที่ทางเดินทะเลทรายตะวันออก...”หยุนเจิงถ่ายทอดคำสั่งอย่างรวดเร็ว ในใจรู้สึกกลัดกลุ้มกำลังรบของทหารม้าที่เตรียมใจว่าต้องตายมาเพื่อขัดขวางช่างองอาจห้าวหาญเป็นพิเศษต่อให้จำนวนคนของพวกเขามีเป็นห้าเท่าของทัพศัตรู พวกเขายังสูญเสียไปสองร้อยกว่าคนยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนนับร้อยสู้กันจนสุดท้ายยังถูกคนกัดหนึ่งที!ช่างไม่คุ้ยเอาเสียเลย!หลังจากหยุนเจิงถ่ายทอดคำสั่งลงไป กลุ่มเชลยศึกถูกถิดชุดเกราะและมัดเอาไว้เรื่องเหล่านี้ หยุนเจิงไม่จำเป็นต้อง