“หยุด!” ขณะที่ทุกคนคิดจะแทงโม่ยื่อเกินให้ตาย เสียงของหยุนเจิงดังขึ้นหยุนเจิงขี่ม้าเข้ามา มองโม่ยื่อเกินด้วยความชื่นชม “เจ้าชื่ออะไร?”“ข้าคือโม่ยื่อเกินปู่ของเจ้า!”โม่ยื่อเกินสองดวงตาจ้องเขม็งหยุนเจิง “เจ้าคือหยุนเจิง?”หัวใจของโม่ยื่อเกินเต็มไปด้วยความเกลียดชัง พยายามยืนหยัดร่างกาย กุมดาบสันโค้งในมือเอาไว้แน่นหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าตอนนี้หยุนเจิงคงถูกหยุนเจิงยิงกลายเป็นรังผึ้งด้วยสายตาแล้ว“ไม่เลว!”หยุนเจิงพยักหน้า “ข้าก็คือท่านอาเขยของประมุขใหญ่ของพวกเจ้า!”อา...อาเขย?ใบหน้าโม่ยื่อเกินกระตุกอย่างแรง กัดฟันกรอดคำรามต่ำ “วันหน้า ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขา ต้องแก้แค้นแทนพวกเรา! ความอัปยศของพวกข้าในวันนี้ ก็คือความอัปยศของพวกเจ้าในวันหน้า!”หยุนเจิงยิ้มเรียบๆ ทว่าสายตากับเย็นชาเป็นพิเศษ “เช่นนั้นข้าจะทำลายเผ่าพันธุ์ของพวกเขาให้หมดสิ้นทั้งแคว้น ไม่เหลือไว้แม้แต่คนเดียว!”เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง สีหน้าโม่ยื่อเกินเปลี่ยนไปทันทีความกลัวไร้ที่มาที่ไปค่อยๆ คืบคลานในใจเขาหยุนเจิงขี้เกียจพูดพล่าม กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “อย่าพูดไร้สาระ ข้าขอถามเจ้าเพียงประโยคเดียว ยอม
หยุนเจิงหันหน้ากลับมา มองศพของโม่ยื่อเกินเงียบๆ ในใจรู้สึกเสียดายคนผู้นี้ ไม่ผิดต่อชื่อเสียงผู้กล้าอันดับหนึ่งของเป่ยหวนคนระดับล่างอย่างฟางหยุนซื่อ ไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้คนผู้นี้เลยด้วยซ้ำ!หยุนเจิงทอดถอนใจเงียบๆ จากนั้นก็ออกคำสั่ง “เกาเหอ สั่งคนฝังศพโม่ยื่อเกิน!”“ชวีจื้อ เหลือเชลยศึกไว้รับใช้สองสามคน ส่งทหารห้าร้อยคนนำเชลยศัพที่เหลือ ผู้บาดเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไป!”“ถ่ายทอดคำสั่งฮั่วกู้ หลังรวบรวมทัพศัตรูที่ยอมจำนน นำทหารห้าพันคนรวมตัวกับพวกเรา!”“สั่งการกองขนส่งเสบียงข้างหลัง รีบห้ามหยุดม้าคุ้มกันขนส่งเสบียงมุ่งไปที่ทางเดินทะเลทรายตะวันออก...”หยุนเจิงถ่ายทอดคำสั่งอย่างรวดเร็ว ในใจรู้สึกกลัดกลุ้มกำลังรบของทหารม้าที่เตรียมใจว่าต้องตายมาเพื่อขัดขวางช่างองอาจห้าวหาญเป็นพิเศษต่อให้จำนวนคนของพวกเขามีเป็นห้าเท่าของทัพศัตรู พวกเขายังสูญเสียไปสองร้อยกว่าคนยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนนับร้อยสู้กันจนสุดท้ายยังถูกคนกัดหนึ่งที!ช่างไม่คุ้ยเอาเสียเลย!หลังจากหยุนเจิงถ่ายทอดคำสั่งลงไป กลุ่มเชลยศึกถูกถิดชุดเกราะและมัดเอาไว้เรื่องเหล่านี้ หยุนเจิงไม่จำเป็นต้อง
“แปลกประหลาด?”หยุนเจิงสงสัย “มีวิธีแปลกประหลาดใด?”หน่วยสอดแนมตอบกลับ “ในชนเผ่าแห่งนั้นมีแต่แสงสว่าง มองไกลๆ มีคนมากมาย แต่ไม่มีความวุ่นวายเลยสักนิด...”ไม่มีความวุ่นวายเลยสักนิด?ค่อนข้างแปลกจริงด้วย!ตามหลักแล้ว กองทัพพวกเขาบุกมาแล้ว กองกำลังหลักของพวกเจียเหยาพ่ายแพ้ล่าถอยแล้ว ตอนนี้เวลานี้ คนของชนเผ่าเหล่านี้น่าจะสับสนวุ่นวายถึงที่สุด ควรอพยพตบอดทั้งคืนถึงจะถูก?นี่มันสถานการณ์ใดหรือว่า นี่คือกับดักของทัพศัตรู?หรือเป็นแผนลวงของศัตรู?หรือบางที คนของชนเผ่านี้โดยพื้นฐานแล้วไม่รู้ว่ากองประจำการทางเดินตะวันออกพ่ายแพ้แล้ว?หยุนเจิงครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็สั่งนักรบภูตสิบแปดไปตรวจสอบ กองทัพใหญ่ของพวกเขาค่อยๆ ผลักดันเข้ามา ทั้งยังส่งหน่วยลาดตระเวนสำรวจทุกทิศทางหลังหนึ่งชั่วยาม นักรบภูตสิบสามกลับมารายงาน “องค์ชาย ทัพศูตรไม่มีการซุ่มโจมตี แต่ว่า...”พูดถึงด้านหลัง นักรบภูตเก้ากระอักกระอ่วนดูเหมือนมีเรื่องที่ยากจะกล่าว“แต่ว่าสิ่งใด?”หยุนเจิงทำหน้าประหลาดใจบนสนามรบ ยังจะพูดครึ่งๆ กลางๆ กับเขา?ต้องการให้จัดระเบียบใหม่กระมัง?นักรบภูตสามกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าน้อยก็ไ
ดื่มสายลม?ผู้เฒ่ารอยยิ้มขมขื่นก็เหมือนกับการดื่มสายลมไม่ใช่หรือ?มิฉะนั้น แม้แต่กำลังในการเคลื่อนไหวพวกเขาล้วนไม่มีไม่ใช่หรือ?ผู้เฒ่าไม่อธิบาย ทำเพียงค่อยๆ คุกเข่า หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากบนตัว ประคองยกถวายทั้งสองมือแล้วกล่าวว่า “นี่คือจดหมายที่องค์หญิงเจียเหยาทิ้งไว้ให้ท่านอ๋อง ถ้าหากแม่ทัพน้อยไม่ใช่ท่านอ๋องต้าเฉียน โปรดนำจดหมายนี้ให้กับท่านอ๋องต้าเฉียนด้วย…”เจียเหยา?ตอนผู้หญิงคนนี้นำทัพล่าถอย ยังมีเวลาเขียนจดหมายถึงเขาด้วย?ไม่กระมัง?ด้วยความสงสัยในใจ หุนเจิงรับจดหมายมาเปิดอ่านทันทีเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย ใบหน้าของหยุนเจิงเปลี่ยนไปเป็นชื่นชมอย่างยิ่งเวลานี้ หยุนเจิงอยากจะไถ่ถามถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเจียเหยา ทั้งยังรู้สึกขบขันแค่เห็นย่อหน้าจดหมายนั้น ก็ทำให้หยุดเจิงอยากหัวเราะสามี:ตอนที่ท่านเห็นจดหมายฉบับนี้ ก็เท่ากับว่าพวกเราแพ้สงครามแล้วข้าไม่มีความสามารถในการเอาชนะท่าน ทำได้เพียงอพยพชนเผ่าทั้งหมดไปด้านหลังแต่ตอนนี้พวกเราขาดแคลนเสบียงเกินไป ต่อให้พวกเราฆ่าปศุสัตว์ทั้งหมดเพื่อประทังชีวิต เกรงว่าต้องมีคนหิวตายจำนวนมากข้าสั่งคนให้นำผู้ชราอ่อนแอจากทุ
ที่นี่มีคนไม่ถึงสองหมื่น แต่ก็เกือบถึงทุกวันกินได้อย่างมากสุดแพะแปดสิบตัวหลายคนล้วนอาศัยเนื้อเล็กน้อยและน้ำแกงชามโตประทังชีวิตผักป่าที่ขุดมาได้จากบริเวณโดยรอบ ล้วนถูกพวกเขาขุดจนเกลี้ยงแล้วแม้พวกเขายังมีแพะเกือบสี่ร้อยตัวให้กิน ทว่าพวกเขาไม่กล้ากินมากนี่คืออาหารห้าหกวันสำหรับพวกเขาจำนวนคนมากมายพวกเขาต้องพึ่งพาแพะเหล่านี้ผ่านพ้นไปวันต่อวันเมื่อเข้าใจสถานการณ์ของคนเหล่านี้ หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญสองหมื่นคน แพะแปดสิบกว่าตัว!อย่าว่าแต่กินเนื้อเลย ต่อให้เอาขนแพะมาต้มกินแล้ว ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี!ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนพวกนี้เป็นเช่นนี้กันหมด!เวลานี้ พวกเมี่ยวอินเองก็อ่านจดหมายฉบับนั้นจบแล้วเวลานี้ สีหน้าคนทุกคนเปลี่ยนชื่นชมเป็นพิเศษไม่รู้เพราะเหตุใด เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ พวกเขาอยากหัวเราะน่าจะเป็นเพราะเจียเหยาแจกไพ่คนดีให้กับหยุนเจิงแล้วกระมัง!“นี่...ทำเช่นนี้ได้ด้วย?”“เช่นไร เจียเหยาหวังให้พวกเราช่วยเลี้ยงคนชราพวกนี้?”“นางคิดสวยหรูไปแล้วกระมัง?”“นี่คือ...”“พูดมา แผนร้ายแรงของเจียเหยาคือสิ่งใด?”เนิ่นนาน ทุกคนพูดพร่ำเรื่อยเปื่อยขึ้นมา ทั้งน่
ให้โอกาสพวกเขารอดชีวิต!แต่หาพวกเขากินอิ่มแล้วต้องการหนี เช่นนั้นก็อย่าโทษเขาแล้วกัน!หากพวกเขาหนี ในทางกลับกันก็ให้เป่ยหวนแบกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นชวี้จื้อครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็กล่าวเสียงเฉียบ “หากพวกเราไม่สนใจคนชราเหล่านี้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องอดตาาย พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้ทำลายความเชื่อมั่นและบารมีของเจียเหยา!”“ทำไรได้ไม่เท่าใดหรอก”หยุนเจิงส่ายหน้าถอนหายใจ “สถานการณ์ของเป่ยหวน พวกเขาเองก็รู้ดี เดือนที่แล้วก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้! พูดจากความหมายบางอย่าง เจียเหยากำลังหาทางรอดแทนคนชราเหล่านี้…”ในเมื่อคนชราอ่อนแอเลือกที่จะอยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็น่าจะเต็มใจด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จะสามารถส่งผลกระทบต่อบารมีของเจียเหยาได้เท่าใดกันเชียว?บอกตามตรง ถ้าหากทิ้งคนชราเหล่านี้ไม่สนใจ ในทางกลับกันจะส่งผลกระทบกับพวกเขามากกว่าในอนาคตตอนที่ปกครองเป่ยหวน นั่นก็คือบัญชีหนึ่งยอด!การต่อสู้ครั้งนี้ ต้าเฉียนและเป่ยหวนต่างก็ได้รับผลประโยชน์!นอกจากคนชราเหล่านี้ พวกเขาก็ได้เฉลยศึกแข็งแรงกำยำไม่น้อย โดยเฉพาะคนสองชนเผ่าเหมิงกู่และเจินเกออย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง คนที่ใช้ขุดเหมืองเพียงพอแน่นอน!ส
โจมตี การโจมตีต่อเนื่อง!พวกหยุนเจิงออกเดินทางตลอดคืน เปิดฉากโจมตีราชสำนักของกองทัพศัตรูอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเจียเหยาได้ทำการอพยพชนเผ่าทั้งหมดโดยรอบไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเขาจึงไม่พบกับการต่อต้านใดแต่เช่นเดียวกัน พวกเขาก็ไม่ได้เสบียงอาหารใดเช่นกันแม้หยุนเจิงใช้วิธีเดินทัพอย่างปู้ตูครั้งก่อน แบ่งกองทัพจากหนึ่งเป็นสอง ให้กองทัพด้านหน้าขณะที่ให้อาหารม้าก็เก็บสะสมหญ้าให้กับกองทัพด้านหลัง แต่ความเร็วในการโจมตีของพวกเขาช้ากว่าธรรมดามาก ความโชคดีอย่างเดียวคือ หยุนเจิงได้สั่งให้คนเตรียมอาหารแห้งไว้ไม่น้อย คนของพวกเขายังมีอาหารแห้งกินมิฉะนั้น พวกเขายังไปไม่ถึงราชสำนัก คนก็อดตายก่อนแล้วลูกไม้นี้ของเจียเหยา ทำให้หยุนเจิงจนปัญญาแต่ว่า หยุนเจิงหาวิธีที่น่ารังเกียจของเจียเหยาเจอแล้วพวกเขาบุกมาตลอดทาง เห็นในที่ดินของเป่ยหวนมีต้นอ่อนงอกขึ้นมา สามารถให้ต้นอ่อนม้ากินตามใจชนเผ่าเหล่านี้สามารถอพยพไปได้แต่หลังอพยพกลับมา อย่าคิดว่าจะได้รับเสบียงอาหารจากสถานที่แห่งนี้เขาจะทำให้เป่ยหวนขาดแคลนอาหารมากขึ้น!เขาอยากจะเห็น รอจนถึงฤดูหนาว เป่ยหวนจะสามารถทนไปได้สักกี่น้ำ!ตอนที่หยุนเจิงกำลัง
ตรงหน้าจู่ๆ ก็พบชนเผ่าแห่งหนึ่ง หมายความว่าพวกเขาอยู่ห่างจากราชสำนักเป่ยหวนไม่ไกลแล้วราชสำนักเป่ยหวนราชสำนักเป่ยหวนในเวลานี้ สับสนวุ่นวายนานแล้วคนของราชสำนักรีบร้อนหนีแล้วแต่ว่า สัมภาระเหล่านั้น ถูกกำหนดไว้ว่าไม่สามารถเอาไปได้แล้วหากนำสัมภาระเหล่านี้ไปด้วย พวกเขาก็รอการไล่ล่าจากทหารไล่ติดตามได้เลย!กองทัพด้านหลังหนึ่งหมื่นที่นำโดยเจียเหยาและปู้ตู นี่คือคนอพยพชุดสุดท้ายแล้วเจียเหยาไม่คิดอพยพอพยพไปเช่นนี้ ราคาที่เป่ยหวนต้องจ่ายสูงมากถึงฤดูหนาว เป่ยหวนไม่รู้จะมีคนอดตายเท่าใดเป่ยหวนคิดอยากฟื้นคืนกำลัง ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเท่าใดถึงกระทั่ง เป่ยหวนรอไม่ถึงตอนที่พลังฟื้นคืน ก็ถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว“องค์หญิง เลิกดูได้แล้ว!”ปู้ตูสีมองเจียเหยาด้วยสีหน้าสับสน “ทัพศัตรูไม่มีทางอยู่ที่นี่ตลอด! รอทัพศัตรูล่าถอย พวกเราก็ยังสามารถกลับมาได้!”เจียเหยาก้มหน้าก้มตา ไม่รู้คิดสิ่งใดอยู่ผ่านไปเนิ่นนาน เจียเหยาจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเผยแววเด็ดเดี่ยว “อาจารย์ พวกเราสู้ศึกตัดสินกับทัพศัตรูที่นี่เถอะ! หากแพ้ พวกเราก็ยอมจำนน!”“องค์หญิง พวกเราไม่มีโอกาสชนะ!”ปู้ตูรีบยับยั้งความค