บนสนามรบ ไม่ใช่มีคนจำนวนมากแล้วจะต้องได้เปรียบเสมอไป!ตอนนี้พวกเขาเป็นเหมือนทรายหนึ่งชามที่แตกความสามัคคี!อีกทั้ง ยังเป็นทรายแตกความสามัคคีที่ชุดเกราะไม่สมบูรณ์กองทัพเช่นนี้ ทำได้เพียงสู้ไปตามทิศทางลม โดยพื้นฐานไม่มีทางต่อต้านทิศทางลมได้!ต่อให้คนของพวกเขามีจำนวนเป็นสองเท่าของทัพศัตรู ต่อสู้กับทัพศัตรูที่กำลังใจล้นเปี่ยม โดยพื้นฐานแล้วมีจุดจบเดียวคือพังทลายแม้ปู้ตูอยากจะสู้ตายไปพร้อมกับทัพศัตรูเช่นกัน แต่เขาก็รู้ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องสู้แล้ว“ข้ารู้!”เจียเหยากำหมัดแน่น กัดฟันกล่าว “แต่พวกเราหนีไปตลอดเช่นนี้ ทัพศัตรูไล่ตามมาตลอด ความเสียหายของพวกเราเองก็ไม่น้อยเช่นกัน! ทว่าทัพศัตรู สามารถทำให้ความเสียหายแทบเป็นศูนย์...”หนีไปตลอดเช่นนี้ เดิมก็ไม่ใช่วิธีพวกเขาคนมาก ต้องมีคนข้างหลังทีรั้งทายถูกศัตรูไล่ตามที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาต้องรวมตัวกับกองกำลังราชสำนักทางนั้น!พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ทัพศัตรูติดสอยห้อยตามพวกเขาจนถึงราชสำนัก!พวกเขาจะต้องชะลอการไล่ล่าของศัตรู ให้คนทางราชสำนักมีเวลาอพยพราชสำนักเมื่อได้ฟังคำของเจียเหยา ปู้ตูหมดคำพูดโดยทันทีเขารู้สิ่งที่เจียเหยาพูดเป็น
“องค์หญิง!”ปู้ตูเดินมาข้างหน้าอีกครั้ง ยังอยากเกลี่ยกล่อมเจียเหยาตัดบทปู้ตู กล่าวด้วยความร้อนใจ “ทัพศัตรูกำลังไล่ตามมา ไม่มีเวลาโอ้เอ้แล้ว!”ปู้ตูลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นหัวใจสับสน จากนั้นก็เข้าใกล้อีกครั้ง “องค์หญิง ท่านฟังข้าสักประโยค...”“อาจารย์เชิญกล่าว!”เจียเหยาตั้งใจฟังใจจดใจจ่อ“ความจริงแล้วพวกเรา...”ปู้ตูกำลังจะกล่าว ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ฝ่ามือฟาดไปที่ต้นคอของเจียเหยาทั้งสองคนอยู่ใกล้กันเกินไป เจียเหยาไม่มีการป้องกันใด เดิมก็ไม่ทันได้ตอบโต้ผลัก!ดาบร่วงหล่นเจียเหยาส่งเสียงอึดอัด จากนั้นก็สลบไปโดยตรงปู้ตูพยุงเจียเหยา กล่าวเสียงเข้ม “โม่ยื่อเกิน รีบพาองค์หญิงไป!”“ข้าพาคนไปปิดกั้นด้านหลัง!” โม่ยื่อเกินส่ายหน้า สีหน้าเด็ดเดี่ยว“เจ้าคุณสมบัติไม่พอ!”ปู้ตูคำราม “พาองค์หญิงไปเดี๋ยวนี้!”“ใต้เท้าปู้ตู!” โม่ยื่อเกินแผดเสียงสูง “ประโยชน์ของท่านมีมากกว่าข้า! องค์หญิงตอนนี้สูญเสียความมั่นใจหมดสิ้นแล้ว มีเพียงท่านที่สามารถช่วยองค์หญิงให้ฟื้นกลับมาได้ใหม่!”ปู้ตูเป็นที่พึ่งพาเดียวของเจียเหยาแล้ว!มีความช่วยเหลือจากใต้เท้าปู้ตู หวังว่าองค์หญ
จุดจบแห่งความพ่ายแพ้กำหนดไว้แล้ว!เขาไร้กำลังเปลี่ยนแปลงจุดจบตอนนี้ เขาทำได้เพียงนำทัพบุกโจมตีอย่างไม่กลัวตาย แย่งชิงเพื่อสังหารหยุนเจิง!ต่อให้ไม่พร้อมเพียงใด พยายามถ่วงเวลาอีกให้ได้ ให้เจียเหยาได้มีโอกาสบุกทะลวงออกไปเขาจำเป็นต้องรับประกันว่าเจียเหยาหนีไปได้อย่างปลอดภัยเป่ยหวนตอนนี้ มีเพียงเจียเหยาที่ออกคำสั่งทุกชนเผ่าเป่ยหวนได้หากสูญเสียเจียเหยาไป เป่ยหวนต้องมีคนมากมายตั้งตนเป็นกษัตริย์ ตกอยู่ในความแตกแยก!องค์หญิง...ท่านให้ข้าทำเรื่องสุดท้ายแทนท่านเถอะ!โม่ยื่อเกินถอนหายใจเงียบๆ จากนั้นก็ร้องคำราม “เหล่าผู้กล่า ฆ่าให้ข้า!”ความเด็ดเดี่ยวของโม่ยื่อเกินกระตุ้นความกล้าสุดท้ายของเหล่าทหาร“ฆ่า!”เวลานี้ ทุกคนแผดเสียงร้องฆ่าดั่งสนั่นหูด้วยการนำทัพของโม่ยื่อเกิน ทุกคนพากันจับจ้องธงอักษรซ่วยที่อยู่บริเวณไกลๆ ติดตามโม่ยื่อเกินบุกไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้นขณะเดียวกัน ทหารม้าต้าเฉียนก็พุ่งเข้ามาเช่นกันการต่อสู้ครั้งให้ดึงผ้าม่านเปิดฉากอีกครั้งตอนนี้โม่ยื่อเกินมีเพียงเป้าหมายเดียว สังหารหยุนเจิง!เขาไม่เคยเห็นหยุนเจิง แต่เขาจับจ้องธงอักษรซ่วยทหารม้าทั้งสองฝ่ายปะทะกั
“หยุด!” ขณะที่ทุกคนคิดจะแทงโม่ยื่อเกินให้ตาย เสียงของหยุนเจิงดังขึ้นหยุนเจิงขี่ม้าเข้ามา มองโม่ยื่อเกินด้วยความชื่นชม “เจ้าชื่ออะไร?”“ข้าคือโม่ยื่อเกินปู่ของเจ้า!”โม่ยื่อเกินสองดวงตาจ้องเขม็งหยุนเจิง “เจ้าคือหยุนเจิง?”หัวใจของโม่ยื่อเกินเต็มไปด้วยความเกลียดชัง พยายามยืนหยัดร่างกาย กุมดาบสันโค้งในมือเอาไว้แน่นหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าตอนนี้หยุนเจิงคงถูกหยุนเจิงยิงกลายเป็นรังผึ้งด้วยสายตาแล้ว“ไม่เลว!”หยุนเจิงพยักหน้า “ข้าก็คือท่านอาเขยของประมุขใหญ่ของพวกเจ้า!”อา...อาเขย?ใบหน้าโม่ยื่อเกินกระตุกอย่างแรง กัดฟันกรอดคำรามต่ำ “วันหน้า ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขา ต้องแก้แค้นแทนพวกเรา! ความอัปยศของพวกข้าในวันนี้ ก็คือความอัปยศของพวกเจ้าในวันหน้า!”หยุนเจิงยิ้มเรียบๆ ทว่าสายตากับเย็นชาเป็นพิเศษ “เช่นนั้นข้าจะทำลายเผ่าพันธุ์ของพวกเขาให้หมดสิ้นทั้งแคว้น ไม่เหลือไว้แม้แต่คนเดียว!”เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง สีหน้าโม่ยื่อเกินเปลี่ยนไปทันทีความกลัวไร้ที่มาที่ไปค่อยๆ คืบคลานในใจเขาหยุนเจิงขี้เกียจพูดพล่าม กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “อย่าพูดไร้สาระ ข้าขอถามเจ้าเพียงประโยคเดียว ยอม
หยุนเจิงหันหน้ากลับมา มองศพของโม่ยื่อเกินเงียบๆ ในใจรู้สึกเสียดายคนผู้นี้ ไม่ผิดต่อชื่อเสียงผู้กล้าอันดับหนึ่งของเป่ยหวนคนระดับล่างอย่างฟางหยุนซื่อ ไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้คนผู้นี้เลยด้วยซ้ำ!หยุนเจิงทอดถอนใจเงียบๆ จากนั้นก็ออกคำสั่ง “เกาเหอ สั่งคนฝังศพโม่ยื่อเกิน!”“ชวีจื้อ เหลือเชลยศึกไว้รับใช้สองสามคน ส่งทหารห้าร้อยคนนำเชลยศัพที่เหลือ ผู้บาดเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไป!”“ถ่ายทอดคำสั่งฮั่วกู้ หลังรวบรวมทัพศัตรูที่ยอมจำนน นำทหารห้าพันคนรวมตัวกับพวกเรา!”“สั่งการกองขนส่งเสบียงข้างหลัง รีบห้ามหยุดม้าคุ้มกันขนส่งเสบียงมุ่งไปที่ทางเดินทะเลทรายตะวันออก...”หยุนเจิงถ่ายทอดคำสั่งอย่างรวดเร็ว ในใจรู้สึกกลัดกลุ้มกำลังรบของทหารม้าที่เตรียมใจว่าต้องตายมาเพื่อขัดขวางช่างองอาจห้าวหาญเป็นพิเศษต่อให้จำนวนคนของพวกเขามีเป็นห้าเท่าของทัพศัตรู พวกเขายังสูญเสียไปสองร้อยกว่าคนยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนนับร้อยสู้กันจนสุดท้ายยังถูกคนกัดหนึ่งที!ช่างไม่คุ้ยเอาเสียเลย!หลังจากหยุนเจิงถ่ายทอดคำสั่งลงไป กลุ่มเชลยศึกถูกถิดชุดเกราะและมัดเอาไว้เรื่องเหล่านี้ หยุนเจิงไม่จำเป็นต้อง
“แปลกประหลาด?”หยุนเจิงสงสัย “มีวิธีแปลกประหลาดใด?”หน่วยสอดแนมตอบกลับ “ในชนเผ่าแห่งนั้นมีแต่แสงสว่าง มองไกลๆ มีคนมากมาย แต่ไม่มีความวุ่นวายเลยสักนิด...”ไม่มีความวุ่นวายเลยสักนิด?ค่อนข้างแปลกจริงด้วย!ตามหลักแล้ว กองทัพพวกเขาบุกมาแล้ว กองกำลังหลักของพวกเจียเหยาพ่ายแพ้ล่าถอยแล้ว ตอนนี้เวลานี้ คนของชนเผ่าเหล่านี้น่าจะสับสนวุ่นวายถึงที่สุด ควรอพยพตบอดทั้งคืนถึงจะถูก?นี่มันสถานการณ์ใดหรือว่า นี่คือกับดักของทัพศัตรู?หรือเป็นแผนลวงของศัตรู?หรือบางที คนของชนเผ่านี้โดยพื้นฐานแล้วไม่รู้ว่ากองประจำการทางเดินตะวันออกพ่ายแพ้แล้ว?หยุนเจิงครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็สั่งนักรบภูตสิบแปดไปตรวจสอบ กองทัพใหญ่ของพวกเขาค่อยๆ ผลักดันเข้ามา ทั้งยังส่งหน่วยลาดตระเวนสำรวจทุกทิศทางหลังหนึ่งชั่วยาม นักรบภูตสิบสามกลับมารายงาน “องค์ชาย ทัพศูตรไม่มีการซุ่มโจมตี แต่ว่า...”พูดถึงด้านหลัง นักรบภูตเก้ากระอักกระอ่วนดูเหมือนมีเรื่องที่ยากจะกล่าว“แต่ว่าสิ่งใด?”หยุนเจิงทำหน้าประหลาดใจบนสนามรบ ยังจะพูดครึ่งๆ กลางๆ กับเขา?ต้องการให้จัดระเบียบใหม่กระมัง?นักรบภูตสามกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าน้อยก็ไ
ดื่มสายลม?ผู้เฒ่ารอยยิ้มขมขื่นก็เหมือนกับการดื่มสายลมไม่ใช่หรือ?มิฉะนั้น แม้แต่กำลังในการเคลื่อนไหวพวกเขาล้วนไม่มีไม่ใช่หรือ?ผู้เฒ่าไม่อธิบาย ทำเพียงค่อยๆ คุกเข่า หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากบนตัว ประคองยกถวายทั้งสองมือแล้วกล่าวว่า “นี่คือจดหมายที่องค์หญิงเจียเหยาทิ้งไว้ให้ท่านอ๋อง ถ้าหากแม่ทัพน้อยไม่ใช่ท่านอ๋องต้าเฉียน โปรดนำจดหมายนี้ให้กับท่านอ๋องต้าเฉียนด้วย…”เจียเหยา?ตอนผู้หญิงคนนี้นำทัพล่าถอย ยังมีเวลาเขียนจดหมายถึงเขาด้วย?ไม่กระมัง?ด้วยความสงสัยในใจ หุนเจิงรับจดหมายมาเปิดอ่านทันทีเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย ใบหน้าของหยุนเจิงเปลี่ยนไปเป็นชื่นชมอย่างยิ่งเวลานี้ หยุนเจิงอยากจะไถ่ถามถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเจียเหยา ทั้งยังรู้สึกขบขันแค่เห็นย่อหน้าจดหมายนั้น ก็ทำให้หยุดเจิงอยากหัวเราะสามี:ตอนที่ท่านเห็นจดหมายฉบับนี้ ก็เท่ากับว่าพวกเราแพ้สงครามแล้วข้าไม่มีความสามารถในการเอาชนะท่าน ทำได้เพียงอพยพชนเผ่าทั้งหมดไปด้านหลังแต่ตอนนี้พวกเราขาดแคลนเสบียงเกินไป ต่อให้พวกเราฆ่าปศุสัตว์ทั้งหมดเพื่อประทังชีวิต เกรงว่าต้องมีคนหิวตายจำนวนมากข้าสั่งคนให้นำผู้ชราอ่อนแอจากทุ
ที่นี่มีคนไม่ถึงสองหมื่น แต่ก็เกือบถึงทุกวันกินได้อย่างมากสุดแพะแปดสิบตัวหลายคนล้วนอาศัยเนื้อเล็กน้อยและน้ำแกงชามโตประทังชีวิตผักป่าที่ขุดมาได้จากบริเวณโดยรอบ ล้วนถูกพวกเขาขุดจนเกลี้ยงแล้วแม้พวกเขายังมีแพะเกือบสี่ร้อยตัวให้กิน ทว่าพวกเขาไม่กล้ากินมากนี่คืออาหารห้าหกวันสำหรับพวกเขาจำนวนคนมากมายพวกเขาต้องพึ่งพาแพะเหล่านี้ผ่านพ้นไปวันต่อวันเมื่อเข้าใจสถานการณ์ของคนเหล่านี้ หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญสองหมื่นคน แพะแปดสิบกว่าตัว!อย่าว่าแต่กินเนื้อเลย ต่อให้เอาขนแพะมาต้มกินแล้ว ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี!ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนพวกนี้เป็นเช่นนี้กันหมด!เวลานี้ พวกเมี่ยวอินเองก็อ่านจดหมายฉบับนั้นจบแล้วเวลานี้ สีหน้าคนทุกคนเปลี่ยนชื่นชมเป็นพิเศษไม่รู้เพราะเหตุใด เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ พวกเขาอยากหัวเราะน่าจะเป็นเพราะเจียเหยาแจกไพ่คนดีให้กับหยุนเจิงแล้วกระมัง!“นี่...ทำเช่นนี้ได้ด้วย?”“เช่นไร เจียเหยาหวังให้พวกเราช่วยเลี้ยงคนชราพวกนี้?”“นางคิดสวยหรูไปแล้วกระมัง?”“นี่คือ...”“พูดมา แผนร้ายแรงของเจียเหยาคือสิ่งใด?”เนิ่นนาน ทุกคนพูดพร่ำเรื่อยเปื่อยขึ้นมา ทั้งน่