ผู้ป่วยในกองทัพมากเกินไป ยังจะสู้อะไรได้อีก!ที่สำคัญที่สุดคือ ทหารของกองทหารมณฑลทางเหนือล้วนเป็นทหารทางเหนือคนมากมายว่ายน้ำไม่เป็น!ให้ทหารม้าขี่ม้าศึกข้ามแม่น้ำ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ดีไม่ดี ยังไม่ทันได้ทำสงคราม พวกเขาคนนับพันก็จมน้ำตายไปก่อนแล้วอีกทั้ง อาหารแห้งของพวกเขานอกจากเนื้อแห้งจำนวนน้อยแล้ว โดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นข้าวสาลีหรือข้าวไม่ขัดสี นอกจากนี้ยังมีเมล็ดข้าวสาลีจำนวนเล็กน้อยที่นำไปนึ่งแล้วทอดของพวกนี้เมื่อโดนน้ำ ก็จะเน่าเสียแล้วหากต้องการข้ามแม่น้ำ ก็มีคนและม้าที่พลัดแยกออกจากกันตอนข้ามแม่น้ำหืม?คิดไปคิดมา ดวงตาของหยุนเจิงพลันเป็นประกายเมื่อเห็นสีหน้าของหยุนเจิง เมี่ยวอินอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความรู้สึกดีใจ “เจ้าคิดวิธีข้ามแม่น้ำได้แล้ว?”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้า“รีบพูดมา วิธีได?”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าคาดหวังหยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย “ให้ข้าปิดเอาไว้ก่อน! การแบ่งทหารความคิดนี้สามารถทำได้จริง พวกเราหารือกลยุทธ์รับมือกันต่อ!”ได้!ยังจะปกปิดอีก!ก็ได้!ปกปิดก็ปกปิด!ขอแค่ข้ามแม่น้ำได้ก็พอ!“หากจัดการปัญหาข้ามแม่น้ำได้แล้ว พวกเราก็สามา
เช้าตรู่วันที่สอง พวกหยุนเจิงนำทหารม้าสองหมื่นออกเดินทางทหารม้าสองหมื่นด้านหลัง บัญชาการโดยตู๋กูเช่อมาถึงสถานที่ข้ามแม่น้ำ กองทหารมาหนึ่งหมื่นของหยุนเจิงลงหลังม้าทันทีจากนั้น ทุกคนก็ง่วนทำงานไม่นาน ทุกคนก็พบต้นไม้จากบริเวณโดยรอบบางส่วนที่ไม่ถูกไฟเผาก่อนหน้านี้วิธีข้ามแม่น้ำของหยุนเจิงแสนง่ายดายคนและหมาม้ากันข้ามแม่น้ำคนข้ามต้นไม้ที่โค่นเป็นสะพานในบริเวณที่แคบและกระแสน้ำไหลเร็ว ม้าศึกของพวกเขามอบให้ทหารม้าหนึ่งหมื่นคนที่นำโดยอวี๋ซื่อจงรอคนของพวกเขาข้ามไปเคลื่อนทัพไปยังสถานที่ที่ม้าศึกจะข้ามแม่น้ำไป อวี๋ซื่อจงค่อยนำม้าศึกของพวกเขาลงสู่แม่น้ำขอแค่ศัตรูไม่ส่งสายลับมาตรวจสอบบริเวณนี้ พวกเขาก็จะรวมตัวกันข้ามแม่น้ำได้อย่างราบรื่นคนของนักรบภูตสิบแปดข้ามไปอีกฝั่งล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กำจัดอุปสรรคทั้งหมดในบริเวณใกล้ๆ พวกเขาต้องมั่นใจว่าบริเวณโดยรอบไม่มีสายสืบของทัพศัตรูหรือคนของชนเผ่าพบเห็นการกระทำของพวกเขามิฉะนั้น พวกเขาก็จะสูญเสียความหมายของการจู่โจมไป“หนึ่งหมื่นคนที่เหลือ ก็ให้เจ้าและชวีจื้อบัญชาการ”ตอนที่กำลังรอแนวหน้าข้ามแม่น้ำ หยุนเจิงเริ่มสั่งงานอวี๋ซื่อจง
“มีสายสืบของทัพศูตรูเดินมาทางพวกเราหรือไม่?”หยุนเจิงถามภูติสิบสามตอบ “เมื่อคืนมีหลายสิบคนกำลังให้สัตว์แทะเล็มหญ้า ถูกพวกเราจัดการแล้ว คนของพวกเราตอนนี้ปลอมเป็นคนเลี้ยงสัตว์ จากนั้นก็ถือโอกาสสังเกตสถานการณ์โดยรอบ ตอนนี้ยังไม่พบหน่วยสอดแนมของทัพศัตรูใกล้เข้ามา!”“เช่นนั้นก็ดี!”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าว “จับตาดูต่อไป ห้ามให้ใครเข้าใกล้ทางนี้!”“ขอรับ!”ต่อไป หยุนเจิงส่งหน่วยสอดแนมตาหาร่องรอยของกองกำลังโปหลวน ให้โปหลวนแบ่งทัพเป็นสองทางเคลื่อนทัพตามเขาไปยังเขาห่านป่าหวนกลับอีกอย่าง ให้โปหลวนจับตาดูคนในกองกำลังเอาไว้ ป้องกันไม่ให้คนส่งข่าวรายงานกับฮูเจี๋ย ฮูเจี๋ยแค่ส่งหน่วยลาดตระเวนออกมา กองทัพใหญ่เร่งเดินทางมา ยังต้องใช้เวลาโปหลวนหากส่งหน่วยสอดแนมไปแล้วรู้การเคลื่อนไหวของกองกำลังฮูเจี๋ย น่าจะทำการเตรียมตัวไว้แล้วเวลาประมาณยามเซิน ในที่สุดพวกหยุนเจิงก็รวมตัวกันสำเร็จแล้วหยุนเจิงไม่หยุดรอ สั่งให้เคลื่อนทัพไปยังห่านป่าหวนกลับทันทีเวลาใกล้ฟ้ามืด หยุนเจิงได้รับข่าวที่หน่วยสอดแนมนำกลับมาหน่วยสอดแนมได้ติดต่อกับกองกำลังโปหลวนแล้ว ทั้งนำความคิดของหยุนเจิงบอกกับโปหลวน
บนทุ่งหญ้ามู่หม่าฮูเจี๋ยกำลังเร่งเดินทัพนำกำลังไปยังกองกำลังโปหลวนเขาไดรับข่าวที่ยืนยันแล้ว ทหารและม้ากองกำลังโปหลวนมีประมาณสองหมื่นคนด้านจำนวนคน กองกำลังฮูเจี๋ยนั้นเสียเปรียบพวกเขามีเพียงทหารม้าหนึ่งหมื่นคนต่อให้รับรวมทหารองครักษ์ของพวกเขาเข้าไปด้วย ก็มีเพียงหนึ่งหมื่นหนึ่งพันคนเท่านั้นแต่ฮูเจี๋ยเดิมก็ไม่เห็นโปหลวนอยู่ในสายตาคนเหล่านั้นที่โปหลวนเรียกระดมมาชั่วคราว เป็นเพียงอีกาที่รวมกลุ่มกันเท่านั้น!อีกทั้ง จิตใจของคนในกองโปหลวนแตกซ่าน ขวัญกำลังใจกองทัพไม่อาจเชื่อถือได้อาศัยคนหมื่นกว่าคนในมือเขา จัดการโปหลวนได้อย่างง่ายดายแน่นอน!โปหลวนยังคิดร่วมมือกับหยุนเจิง?คิดจะสร้างความวุ่นวายภายในเป่ยหวน?เขาไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสเด็ดขาด!“รายงาน...”เวลานี้เอง หน่วยสอดแนมที่อยู่ด้านหน้ามารายงาน “ประมุขใหญ่ ด้านหน้าประมาณสี่สิบลี้ พบร่องรอยกองกำลังโปหลวน!”“ดี! ดีมาก!”ฮูเจี๋ยดีใจ สั่งคนข้างกาย “ถ่ายทอดคำสั่ง เริ่มเปิดฉากโจมตีกองกำลังโปหลวน! หลังยี่สิบลี้เปลี่ยนม้า!”“ขอรับ!”ทหารส่งสารถ่ายทอดคำสั่งของฮูเจี๋ยลงไปทันทีตอนนี้ในใจฮูเจี๋ยมีเพียงอยากจะกำจัดโปหลวน บัญชากอง
“ทหารของข้า โจมตีต่อไป!”ฮูเจี๋ยถ่ายทอดคำสั่งอย่างรวดเร็ว“ขอรับ!”ทหารส่งสารควบม้าไปทางไห่เจ๋อทันที“พวกเรา บุก!”ฮูเจี๋ยร้องคำรามแม้ว่า เสียงของเขาถูกกลบด้วยเสียงเกือกเท้าม้า แต่ฮูเจี๋ยก็ยังคำรามไม่หยุดกองกำลังฮูเจี๋ย ยังมีทหารห้าพันคนรวมกับทหารองครักษ์หนึ่งพันของเขา พวกเขามีคนหกพันคน!จัดการฝูงอีกาที่โปหลวนระดมพลมา ทหารหกพันคนก็พอแล้ว!ขอแค่กองกำลังไห่เจ๋อขวางทหารม้าต้าเฉียนทางด้านขวาหลังไว้ได้ รอจนกว่าเขาจะเอาชนะกองทัพของโปหลวน ก็สามารถนำกองกำลังกลับมาสนับสนุนได้ทหารม้าติดอาวุธของเป่ยหวน ล้วนสามารถโจมตีทหารม้าเป่ยหวนอย่างหนักได้!ด้วยการบัญชาของฮูเจี๋ย ทหารหกพันมุ่งหน้าไปยังกองกำลังโปหลวนด้วยความดุดันเห็นกองกำลังฮูเจี๋ยบุกมา กองกำลังโปหลวนเกิดความตื่นตระหนกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากไม่ใช่โปหลวนยังมีบารมีอยู่ ทหารเหล่านี้เกรงว่าคนเริ่มทยอยหนีกันแล้ว ตอนที่กองทัพโปหลวนบุกไป ทว่ากลับเห็นทัพศัตรูทางปีกด้านขวาของพวกเขาเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน เคลื่อนไปยังทางด้านซ้ายหลังด้านซ้ายหลัง?โปหลวนชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจแล้วหยุนเจิง!ต้องเป็นทหารม้าต้าเฉียนของหยุนเจิ
สนามรบอีกแห่งหยุนเจิงและกองทัพแปดหมื่นคนฉินชีหู่ได้เผชิญหน้ากันกับกองทหารห้าพันคนของไห่เจ๋อที่อยู่ห่างกันไม่ถึงสิบลี้หน่วยสอดแนมตรวจสอบชัดเจน ทัพศัตรูอีกกองไปทำสงครามกับโปหลวน ตอนนี้กองกำลังที่มาสกัดพวกเขา มีเพียงม้าและคนไม่กี่พันคน“เหตุใดมีคนเพียงเท่านี้?”หยุนเจิงขยับยืดเส้นยืดสายลำคอ ใบหน้าเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยม “คนเพียงเท่านี้ ก็ขัดจะขัดขวางพวกเรา?”“น้องชาย เจ้าอย่าประมาท!”ฉินชีหู่กล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ “สิงโตกระโจนเข้าหากระต่าย ต้องทุ่มเข้าไปสุดแรง! ทัพศัตรูกองนี้เป็นทหารชั้นยอดที่แข็งแกร่งของเป่ยหวน พวกเราจำเป็นทุ่มเข้าไปสุดแรง!”“วางใจ ทุ่มสุดแรงเป็นเรื่องแน่นอน!”หยุนเจิงพยักหน้า จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ส่วนทหารชั้นยอดหรือ? คนที่ข้าจะตีก็คือทหารชั้นยอด!”ท้าทายศัตรูอย่างมีกลยุทธ์ มุ่งความสนใจไปที่ศัตรูอย่างมีกลยุทธ์!ฉินชีหู่ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะตาม “ใช่ พวกเราจะตีทหารชั้นยอดของเป่ยหวนโดยเฉพาะ!”หยุนเจิงออกคำสั่งทันที “สั่งอวี๋จู้ นำทหารสองพันคนไปยังปีกซ้าย ออกล่าทางปีกซ้าย! ถ่ายทอดคำสั่งเสิ่นลั่วเยี่ยน ให้เช้าประชิดกองกำลังของข้า เปิดฉากล่าทัพศัตรูทา
ฉินชีหู่โบกร่ายรำดาบใหญ่ในมือ ด้านหนึ่งห้ำหั่นทัพศัตรู ด้านหนึ่งตะโกนร้องโหวกเหวกส่วนอีกด้านหนึ่ง หยุนเจิงนำทหารองครักษ์บุกเข้าไปไม่ได้หยุด“เกร๊งๆๆ...”บนสนามรบ เสียงกระทับกันของดาบดังต่อเนื่องทหารชั้นยอดหนึ่งหมื่นของหยุนเจิง ใช้อาวุธที่ทำมาจากเหล็กลายบุปผาหลอมขึ้นด้วยวิธีใหม่ท่ามกลางเสียงกระทบกระทั่งของดาบ ดาบสันโค้งของทหารม้าเป่ยหวนถูกฟาดจนหักท่อนอย่างต่อเนื่องทางด้านปีกซ้ายของพวกเขา อวี๋จู้นำกำลังทหารม้าสองพันคน เปิดฉากล่าทัพศัตรูด้วยธนูไม่หยุดไห่เจ๋ออยากนำกำลังโจมตีเหล่ามือธนูที่น่ารังเกียจและอันตรายเหล่านี้ ทว่าไม่มีโอกาสหลังจากโจมตีไร้ผลอยู่หลายครั้ง ไห่เจ๋อกำหนดเป้าหมายเป็นธงอักษรซ้วยของหยุนเจิงอย่างรวดเร็ว“บุก! บุกไปยังธงอักษรซ้วยของทัพศัตรู!”“หยุนเจิง นั่นเป็นหยุนเจิงศัตรูตัวใหญ่ที่สุดของพวกเราเป่ยหวน!”“จัดการเขาซะ!”ไห่เจ๋อเลือดขึ้นตาจับจ้องธงอักษรซ้วยของหยุนเจิง คำรามด้วยความอาฆาตสิ้นเสียงร้องคำรามของไห๋เจ๋อ ทหารองครักษ์กลุ่มหนึ่งเริ่มติดตามไห่เจ๋อพุ่งไปหาธงอักษรซ้วยของหยุนจิงการโจมตีของไห่เจ๋อและองครักษ์ของเขา สร้างความเสียหายหนักในหับทหารม้าต้าเฉี
อะไรนะ?เมื่อได้ฟังคำพูดของหน่วยสอดแนม หยุนเจิงแทบกระโดดลุกขึ้นมาด่ามารดาโปหลวนไอสวะไร้ประโยชน์!คนและม้าเกือบสองหมื่น ถูกลำลายสิ้นด้วยคนไม่กี่พันคน?มารดาเขาสิเป็นแค่ฝูงอีการวมตัวกันจริงๆ!“ทัพศัตรูประมาณกี่คน?”หยุนเจิงถามด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล“ประมาณเจ็ดแปดพันคน!”หน่วยสอดแนมตอบกลับกระหืดกระหอบ“เท่าใด?”เมี่ยวอินมองหน่วยสอดแนมอย่างไม่เชื่อสายตาทัพศัตรูรวมทั้งหมดมีหมื่นกว่าคน ทางนี้พวกเขามีอย่างน้อยห้าพันคนกองกำลังอีกกองทำสงครามใหญ่กับโปหลวน ถึงเช่นไรก็ควรมีคนบาดเจ็บบ้างกระมัง?เหตุใดรู้สึกว่าจำนวนคนของทัพศัตรูยิ่งอยู่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว?“น่าจะเป็นทัพศัตรูรวมกับเศษส่วนหนึ่งของกองกำลังโปหลวน!”หยุนเจิงข่มกลั้นอารมณ์คุกกรุ่นที่อยากด่ามารดาเอาไว้ จากนั้นก็ถามหน่วยสอดแนม “รู้ว่าแม่ทัพหลักของทัพศัตรูเป็นใครหรือไม่?”“น่าจะเป็นฮูเจี๋ยนำทัพด้วยตัวเอง!”หน่วยสอดแนมตอบ “ประมุขใหญ่ของทัพศัตรูแขวนธงอ๋อง!”ฮูเจี๋ย?เมื่อได้ฟังคำของหน่วยสอดแรม หยุนเจิงและทุกคนข้างกายหนังตากระตุกฮูเจี๋ยนำทัพมาด้วยตัวเอง?หากเป็นฮูเจี๋ยนำกองทหารม้าชั้นยอดมาด้วยตัวเอง เช่นนั
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่