แม้เว่ยเหวินจงจะคาดการณ์ผลลัพธ์นี้ได้แล้ว แต่อัตราความเร็วในการหลบหนีของทหารเหล่านี้เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มากทว่า สำหรับเว่ยเหวินจงแล้ว กลับไม่นับว่าเป็นเรื่องเลวร้ายทำให้คนเหล่านั้นที่สงสัยเขา ไม่เชื่อเขาหนีไปให้หมดก็ดี ป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้รบกวนขวัญกำลังใจทหารจากนั้น เขาจะได้พาคนที่ยืนหยัดเชื่อมั่นเขาเว่ยเหวินจงไม่เปลี่ยนแปลงออกจากเทียนหูทางตะวันออกเฉียงใต้ อ้อมสนามม้าโม่หยางไปทางใต้ สุดท้ายก็ข้ามเทือกเขาหยุนหลิงแสนกว้างใหญ่ นำทุกคนกลับไปในด่าน ป้องกันการถูกกลุ่มกบฏลักพาตัวแน่นอน นี่เป็นวาทศาสตร์ที่เว่ยเหวินจงบอกกับหวังชี่และฮั่วกู้เขายังต้องการพวกหวังชี่!หากขณะที่หลบหนีเผชิญเข้ากับการจู่โจมของพวกเสิ่นลั่วเยี่ยน เขาก็จะได้ส่งหวังชี่และฮั่วกู้นำกองทัพไปต่อต้านได้สะดวกเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็จะสามารถเร่งเวลาพาทหารคนสนิทของเขาข้ามแม่น้ำไป๋สุ่ย ไปยังดินแดนเป่ยหวน ลี้ภัยที่เป่ยหวน!ตอนนี้ ขอแค่ลี้ภัยที่เป่ยหวน เขาถึงจะมีความหวังว่าจะรอดชีวิต ถึงจะมีความหวังในการล้างแค้นหยุนเจิงมิฉะนั้น เขามีแต่ต้องตายสถานเดียว!กลางดึก เว่ยเหวินจงเรียกหวังชี่และฮั่วกู้มายังห้องของเขา“
วันถัดไป หยุนเจิงและตู๋กูเช่อวางแผนเชิญแม้ทัพระดับกลางขึ้นไปของด่านเป่ยลู่มางานเลี้ยงงานเลี้ยงจบลงไปแล้วครึ่งหนึ่ง ตู๋กูเช่อบอกเรื่องที่เว่ยเหวินจงสมคบคิดศัตรูกับทุกคน แจ้งให้ทราบอย่างตรงไปตรงมา หลังจากนี้หยุนเจิงเป็นผู้ดูแลกองทหารมณฑลทางเหนือคำพูดของตู๋กูเช่อ เป็นดั่งศิลาหนึ่งก้อนก่อเกิดระลอกคลื่นนับพันจนถึงเวลานี้ แม่ทัพทุกคนถึงเข้าใจ พวกหยุนเจิงต้องการยึดอำนาจจริงๆหลังจากหยุนเจิงและตู๋กูเช่อวิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าต่อหน้าเหล่าแม่ทัพอย่างอดทน แม่ทัพกว่าครึ่งเลือกฟังคำสั่งหยุนเจิง อีกครึ่งยอมตายดีกว่ายอมจำนนเหล่าแม่ทัพที่ยอมตายดีกว่ายอมจำนวน โดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นลูกหลานหรือลูกศิษย์ของคนในราชสำนักคิดจะทำให้คนเหล่านี้ยอมรับ เป็นเรื่องยากมากหยุนเจิงจนปัญญา ทำได้เพียงจับพวกเขาขังไว้ชั่วคราว แล้วก็รับประกัน นอกจากขังพวกเขาเอาไว้ ไม่มีทางทำให้พวกเขาลำบาก เนื้อและสุรามีให้พวกเขาไม่ขาดหลังจากนำคนเหล่านั้นเข้าคุกแล้ว หยุนเจิงบอกกับเหล่าแม่ทัพที่เข้าร่วมกับเขา “แม่ทัพนายกองทุกท่าน ตั่งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะสับเปลี่ยนทหารคนสนิทข้างกายของพวกท่าน!”“ข้าไม่กลัวที่จะบอกความจริงพ
ตู๋กูเช่อถอนหายใจยาว กล่าวด้วยความทอดถอนใจพวกเขาไม่เคยตึงเตรียมเช่นนี้มาก่อนสองวันนี้ ตู๋กูเช่ออยู่ด้วยความกังวลใจ แทบไม่ได้หลับตานอน“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ?”หยุนเจิงยักไหล่ จากนั้นก็ยิ้มแห้ง “ดังนั้น การจัดตำแหน่งของเสด็จพ่อช่างฉลาดปราดเปรื่อง! ให้ลูกหลานและลูกศิษย์ของเหล่าแม่ทัพในราชสำนักมายังด่านเป่ยลู่ ก็เท่ากับนำด่านเป่ยลู่และราชสำนักผูกมัดไว้ด้วยกัน! ต่อให้เว่ยเหวินจงคิดก่อกบฏ ก็ยากที่จะเคลื่อนย้ายทหารและม้าในด่านเป่ยลู่...”จักรพรรดิเหวินอาจมีข้อบกพร่องบางอย่างในด้านความทักษธทางการทหาร แต่เมื่อเป็นเรื่องของอำนาจ เขาเก่งกาจมากก็ใช่ ผู้ที่สามารถต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์จากองค์ชายมากมาย จะไม่เก่งเรื่องอำนาจได้เช่นไร?ตู๋กูเช่อพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง จากนั้นก็ถาม “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราควรไปพิชิตสามเมืองชายแดนหรือไม่?”“ควรลงมือได้แล้ว!”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มแห้งกล่าวอีกครั้ง “บอกตามตรง ตอนนี้ความหมายในการกอบกู้สามเมืองชายแดนไม่ได้มีมากมายแล้ว! สิ่งที่สำคัญสุดตอนนี้ก็คือยึดครองชายแดนกู้ เวลาที่จะพิชิตชายแดนชิงและเว่ยค่อยทำหลังจากนั้น...”ตอนนี้ ชายแดนกู้เป็นส
เช้าวันรุ่งขึ้น หยุนเจิงมอบหน้าที่แม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่ให้กับจั่วเริ่น ส่วนตนและตู๋กูเช่อรับหน้าที่พาหัวหน้าแม่ทัพด่านเป่ยลู่ห้าหกคนนำกองทหารยอดเยี่ยมสองหมื่นนายเริ่มเดินทางสู่ป้อมเมืองแนวหน้าทั้งสองพวกเขาสามารถชิงอาหารได้จากหม่าอี้ ดังนั้นจึงพกเสบียงอาหารแห้งมาเพียงเล็กน้อยขณะออกเดินทาง หยุนเจิงสั่งการให้จั่วเริ่นส่งคนไปรับคนตระกูลเสิ่นมายังด่านเป่ยลู่ พร้อมมอบจดหมายที่ปิดผนึกไว้อย่างดีให้จั่วเริ่นหนึ่งฉบับ ให้ส่งไปยังฮูหยินเสิ่นระหว่างที่พวกเขาเดินทางไปยังหม่าอี้ คนที่ถูกส่งไปติดต่อกับแต่ละฝ่ายได้นำข่าวดีกลับมาไม่น้อยเว่ยเหวินจงถูกจับกุมไว้ได้แล้ว และกำลังถูกกักขังไว้ที่ป้อมเมืองจิ้งอันเสิ่นลั่วเยี่ยนรวบรวมทหารที่หนีจากเมืองเทียนหูได้หลายพันนาย และกำลังนำกองทหารพักอาศัยอยู่ที่เมืองเทียนหูชั่วคราวฟู่เทียนเหยียนยึดครองหม่าอี้ได้แล้ว หยวนเลี่ยแม่ทัพรักษาการณ์ของหม่าอี้พยายามลอบสังหารฟู่เทียนเหยียน จึงถูกประหารชีวิตบัดนี้ ฟู่เทียนเหยียนกำลังตั้งหลักอยู่ที่หม่าอี้ พร้อมส่งคนไปติดต่อแม่ทัพรักษาการณ์ของโม่หยางตั้งแต่ที่แม่ทัพรักษาการณ์ของโม่หยางรู้ว่าเว่ยเหวินจงสูญเสีย
ไม่ว่าเขาจะปฏิเสธอย่างไร ก็ไร้ความหมายแล้ว“ข้าต้องการยึดอำนาจจริง!”หยุนเจิงไม่ปฏิเสธ แล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “แต่ข้าพูดจากใจได้เลยว่า ข้าไม่เคยคิดจะให้เหล่าทหารแม่ทัพของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือไปตาย! เจ้าไม่อยากให้ข้ายึดอำนาจ ก็เอาความสามารถมาสู้!”“แต่เจ้ากลับทำอะไรลงไป? นอกจากจะหวาดกลัวจนไม่กล้าเดินหน้าสู้แล้ว ก็รู้เพียงติดต่อกับศัตรูทรยศคนของตนเอง!”“หากเจ้านำความสามารถในการทรยศคนของตนเองไปใช่กับเป่ยหวนสักนิดล่ะก็ ข้าจะยังชื่นชมว่าเป็นบุรุษยอดเยี่ยมคนหนึ่ง!”“แต่บัดนี้ ข้าละอายใจที่มีคนทรยศอย่างเจ้าอยู่ในกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือ!”เผชิญหน้ากับสายตาอันเยือกเย็นของหยุนเจิงแล้ว ในใจเว่ยเหวินจงพลันรู้สึกหวั่นกลัวเล็กน้อยเพียงแต่ว่าไม่นานเว่ยเหวินจงก็กลับคืนสู่สภาพปกติตกอยู่ในกำมือของหยุนเจิงแล้ว เขายังจะกลัวอะไรอีก?“พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ผู้ชนะเป็นราชา ผู้แพ้เป็นโจรก็เท่านั้น!”เว่ยเหวินจงเอ่ยประชด “หยุนเจิง เจ้าอย่าดีใจเร็วไปหน่อยเลย แม้ว่าเจ้าจะยึดอำนาจกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือได้แล้วอย่างไร? เมื่อเผชิญกับการโจมตีจากราชสำนักและเป่ยหวนทั้งสองฝั่ง เจ้าคิดหรือว่าคนเท่านี้จะสามารถต้านทานได้
ณ ที่ประชุมราชสำนัก จักรพรรดิเหวินกำลังประทับอยู่บนพระที่นั่งด้วยสีพระพักตร์ไม่สู้ดีนักในพระหัตถ์ของเขาถือจดหมายจากฉินลิ่วก่านลายมืออักษรนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นของฉินลิ่วก่าน!ด่านเป่ยลู่ปิดด่านไปแล้ว!ฉินลิ่วก่านนำกองทหารและม้าเร่งเดินทางไปยังซั่วเป่ย แต่กลับไม่สามารถเข้าด่านเป่ยลู่ได้แม่ทัพรักษาการณ์ของด่านเป่ยลู่ ก็ไม่ใช่หยวนจงอีกแล้วด้วย!แต่เป็นจั่วเริ่น!จั่วเริ่นสั่งให้คนชูป้ายนอกด่านเป่ยลู่ว่า ด่านเป่ยลู่ปิดด่านเวลาหนึ่งเดือน!ฉินลิ่วก่านยืนด่าอยู่นอกด่านเป่ยลู่อยู่ครึ่งชั่วยาม จั่วเริ่นถึงจะสั่งให้คนปล่อยตัวฉินลิ่วก่านเข้ามาแต่ทว่าอนุญาตให้ฉินลิ่วก่านเข้ามาคนเดียวเท่านั้น!คนอื่นๆ ที่ฉินลิ่วก่านพามา ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสักคนหลังจากผ่านไปครึ่งวันเต็ม ฉินลิ่วก่านถึงจะเขียนจดหมายสั่งให้คนส่งกลับไปยังเมืองจักรพรรดิในจดหมายนั้น ฉินลิ่วก่านเองก็ได้รายงานถึงสถานการณ์จริงของด่านเป่ยลู่ให้กับจักรพรรดิเหวินเจ้าหกยังไม่ตาย!เสิ่นลั่วเยี่ยน ฉินชีหู่และตู๋กูเช่อก็ยังไม่ตาย!พวกเขาใช้แผนการของหยุนเจิง โดยแยกกองทหารเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งนำโดยตู๋กูเช่อ ฝ่าวงล้อมจากแนวหน้
แม้ว่าหยุนเจิงพวกเขาจะสังหารเว่ยซั่ว จับตัวเว่ยเหวินจงไว้ได้ เขาก็ย่อมสามารถคิดว่าหยุนเจิงกำลังแก้แค้นแทนเหล่าทหารที่ตายเพราะเว่ยเหวินจง!แต่หยุนเจิงบังอาจจับตัวหยวนจงสองพ่อลูกและแม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่ได้อย่างไร?ใครให้อำนาจเขาในการแต่งตั้งแม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่กัน?แม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่ มีเพียงเขาที่เป็นจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์แต่งตั้งได้!แต่ทว่าจักรพรรดิเหวินคิดไม่ตกว่าเว่ยเหวินจงที่รักษาการณ์ซั่วเป่ยมาหลายปีเช่นนี้ เหตุใดเขาถึงต้องร่วมมือกับศัตรูด้วยการยึดคืนเมืองสามชายแดนกลับคืนมานั้น เจ้าหกก็มีส่วนช่วย แล้วมีหรือที่ตนจะไม่ให้คุณงานความดีกับเว่ยเหวินจง?เหตุใดเว่ยเหวินจงต้องนำชีวิตคนสี่หมื่นกว่าคนไปสู่ความตายด้วย!ไม่สิ หกหมื่นกว่าคนต่างหาก!ยังมีทหารชาวนาชราอ่อนแอที่ขนส่งเสบียงไปยังชายแดนกู้อีกสองหมื่นกว่านาย!เหตุใดเว่ยเหวินจงถึงได้อำมหิตถึงเพียงนี้?หากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเว่ยเหวินจงเลย เช่นนั้นเพราะเหตุใดทหารมณฑลฝ่ายเหนือถึงได้เปลี่ยนไปอยู่กับเจ้าหกล่ะ?แผ่นอกของจักรพรรดิเหวินอดไม่ได้ที่จะกระเพื่อมขึ้นลง ทว่าในศีรษะกลับสับสนวุ่นวา
เซวียเช่อไม่ได้พูดอย่างชัดเจนทว่าก็เข้าใจความหมายที่จะสื่อการบุกโจมตีด่านเป่ยลู่นั้นเสมือนกับส่งคนไปตาย!อีกอย่าง เขาแสดงความในใจออกมาทันทีว่าหากจะบุกโจมตีด่านเป่ยลู่ เขาขอปฏิเสธการนำทัพ!วินาทีนี้ จู่ๆ เซวียเช่อก็รู้สึกอิจฉาเซียวว่านโฉวขึ้นมาหากตนป่วยเหมือนเซียวว่านโฉวก็คงดีเช่นนั้น ตนก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องพรรค์นี้แล้วหลังจากได้ยินคำพูดของเซวียเช่อแล้ว แววตาเย็นชาพลันผุดขึ้นนัยน์ตาของหยุนลี่ตาเฒ่านี่!ไม่บุกโจมตีด่านเป่ยลู่ แล้วจะรอให้เจ้าหกไอ้สุนัขนั่นเป็นใหญ่หรือไง?หากไม่เร่งกำจัดเจ้าหกตอนนี้ ต่อไปเกรงว่าเจ้าหกต้องกำจัดเขาเป็นแน่!เจ้าหกอาจจะเตรียมแผนการกำจัดเขาไว้แล้วด้วยซ้ำ!เจ้าหกไอ้สุนัขนั่นต้องจงใจไม่สังหารเว่ยเหวินจงแน่ๆ!ไอ้สุนัขนั่นต้องคิดจะใช้เว่ยเหวินจงมาข่มขู่ตนแน่ๆ!เมื่อได้ยินคำพูดของเซวียเช่อแล้ว จักรพรรดิเหวินก็เงียบอย่างอดไม่ได้ถึงแม้เขาจะไม่รู้เรื่องยุทธการเท่าแม่ทัพอาวุโสอย่างเซวียเช่อเขานัก แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นจักรพรรดิที่ทรงนำทัพเองด่านเป่ยลู่!เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าด่านเป่ยลู่โจมตียากแค่ไหน!หากไม่ใช่เช่นนั้น เขาสั่งให้คนโจมตีด่านเ