แชร์

บทที่ 62

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
“นั่นสิ!”

หยุนถิงลุกขึ้นมากล่าวถากถาง “ไม่เพียงพวกเราที่สามารถเป็นพยานได้ ขุนนางมากมายล้วนเป็นพยาน! เจ้าหกตกใจกลัวเขาจนแทบจะไปหาเสด็จพ่อเพื่อขอพระราชทานเหล้าพิษ!”

“เสด็จพ่อ ลูกเป็นพยานได้พ่ะย่ะค่ะ!” เจ้าห้ากล่าวเสียงดัง “ขุนนางทั้งราชสำนักล้วนรู้ดี เจ้าหกเตะจุดสำคัญของพี่สาม พี่สามต้องอยากแก้แค้นเจ้าหก! ตามความเห็นของลูก คนที่สมคบคิดกับเป่ยหวนเพื่อใส่ร้ายเจ้าหก ก็เป็นพี่สามเช่นกัน!”

“ใช่!” หยุนถิงพยักหน้าหงึกๆ “พวกเราไร้ความขัดแย้งไร้ความคับแค้นใจกับเจ้าหก จะใส่ร้ายเจ้าหกไปเพื่อสิ่งใด?”

หยุนลี่โกรธจัด จากนั้นก็ชี้หน้าทั้งสามคนแล้วตวาดลั่น “ใส่ร้าย! พวกเจ้ากำลังใส่ร้าย...”

ท่ามกลางสายตาของทุกคน พวกพี่น้องเริ่มกัดกันเหมือนสุนัข

หยุนลี่หัวเดียวกระเทียมลีบต่อกรกับพวกเจ้ารองทั้งสามคน ในด้านกำลังอำนาจเขาเสียเปรียบแล้ว

พวกองค์ชายรองสามคนยิ่งกล่าวยิ่งรู้สึกฮึกเหิม ทั้งยังลากเหล่าขุนนางเป็นพยานเรื่องที่หยุนลี่กล่าวว่าจะส่งหยุนเจิงเดินทางเมื่อคืนวานก่อน

ทั้งสามคนรู้ดี นี่เป็นโอกาสทำลายหยุนลี่ให้ย่อยยับ

หากพวกเขาไม่ทำลายหยุนลี่ให้ย่อยยับ หยุนลี่ก็จะทำลายพวกเขาทิ้ง

กำจัดหยุนลี่ศัตรูตัวฉก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 63

    ในที่สุดจักรพรรดิเหวินก็ระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว พระองค์ทรงเตะต่อยลูกชายสี่คนต่อหน้าขุนนางโดยไม่สนพระทัยพิธีรีตรองหรือเกียรติยศใดทั้งนั้นทั้งสี่คนตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แม้ความเจ็บท่วมท้นแต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมาขุนนางมองฉากตรงหน้าด้วยความตกตะลึงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจักรพรรดิเหวินจะโกรธได้ถึงเพียงนี้แต่ว่าก็เข้าใจได้ไม่ยากลูกชายคนที่หกเดินทางไปเป่ยกวน กษัตริย์และขุนนางล้วนขึ้นเขา!องค์ชายทั้งสี่คนยอมทำทุกอย่างเพื่อทำลายองค์ชายหกหยุนเจิงก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมา พยายามกลั้นรอยยิ้มเอาไว้นี่เป็นผลลัพธ์ที่แม้แต่เขาก็ไม่คาดคิดจะว่าไปก็ต้องขอบคุณคนที่สมรู้ร่วมคิดกับเป่ยหวนทำร้ายเขา!หากไม่มีเรื่องเฮงซวยนี่ จักรพรรดิเหวินจะโกรธจัดจนทุบตีลูกชายสี่คนต่อหน้าขุนนางเช่นนี้ได้อย่างไรไม่ไว้หน้าองค์ชายสี่คนเลยสักนิด!“ฝ่าบาทระงับโทสะด้วย!”เมื่อเห็นจักรพรรดิเหวินโกรธจนใกล้หมดลมหายใจแล้ว มู่ซุ่นรีบวิ่งเข้าไปพยุงจักรพรรดิเหวิน กล่าวเตือนด้วยสีหน้าเป็นกังวล ““ฝ่าบาทระงับโทสะ! รักษาพระวรกายด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”บรรดาขุนนางได้สติกลับมาก็พากันคุกเข่าหยุนเจิงเอือมระอา ทำได้เพียงคุกเข่าตามจักร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 64

    จักรพรรดิเหวินเก็บสายพระเนตรกลับมา จากนั้นก็ทอดมองหยุนลี่ที่นั่งคุกเข่าใหม่อีกครั้ง พระองค์ตวาดลั่น “ข้าถามเจ้า เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าเงินบำนาญของทหารพิการและเสียชีวิตในสงครามที่ซั่วเป่ยถูกยักยอก เหตุใดไม่รายงาน?”“ว่าอย่างไรนะพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน เซียวว่านโฉวพลันลุกมา ดวงตาทั้งสองวาวโรจน์ด้วยไฟโทสะ “ที่ฝ่าบาททรงตรัสมาทั้งหมด เป็นเรื่องจริงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องนี้ค่อยว่ากันภายหลัง!”จักรพรรดิส่งสัญญาณให้เซียวว่านโฉวกลับไปที่ของตน จากนั้นทรงจ้องหยุนลี่ด้วยความเย็นชา “การประชุมขุนนางในวันนี้ ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้งก็เพื่อรอเจ้ารายงานเรื่องนี้ เหตุใดเจ้าไม่รายงาน?”ที่แท้เป็นเรื่องนี้เอง!หยุนลี่ถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “ลูกรู้ว่าหากรายงานเรื่องนี้ เสร็จพ่อต้องทรงกริ้วมาก ลูกคิดว่ารอให้เรื่องขอเสบียงของเป่ยหวนผ่านไปก่อนค่อยรายงานเสด็จพ่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เป่ยหวนได้เห็นเรื่องน่าขบขันนี้”“ฝ่าบาท กระหม่อมทราบเรื่องนี้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”สวีสือฝู่ลนลานลุกขึ้นมาโค้งคำนับ “เมื่อวานตอนที่องค์ชายสามทราบเรื่องนี้ก็มาหากระหม่อม เป็นกระหม่อมที่แ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 65

    สิ้นเสียงหยุนเจิง ใบหน้าทุกคนกระตุกอย่างแรง หยุนลี่แทบจะลุกขึ้นมาอ้าปากก่นด่า“ฮ่าๆๆ”รอจนกระทั่งได้สติกลับมา ทุกคนอดไม่ได้หัวเราะลั่นออกมานึกไม่ถึงว่าองค์ชายหกจะซุกซนอย่างนี้!เตะจุดสำคัญของหยุนลี่ครั้งเดียวไม่พอ ยังอยากมีครั้งที่สอง?อีกทั้งยังขออนุญาตจากจักรพรรดิเหวินด้วย?นี่กำลังล้อเล่นอยู่ไม่ใช่หรืออย่างไร?เมื่อได้ยินทุกคนหัวเราะ หยุนเจิงกลับกล่าวสิ่งใดไม่ออกเขาเข้าใจดีว่าจักรพรรดิเหวินทรงคิดจะแก้ไขความขัดแย้งระหว่างเขาและหยุนลี่จึงรับสั่งให้ตบหยุนลี่สักสองครั้ง ความหมายแฝงก็คือ ความแค้นของพวกเขา ให้สิ้นสุดเพียงเท่านี้!หากตบหน้าหยุนลี่สักสองครั้งจริง เกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนี้แล้ว“แค่กๆๆ”จักรพรรดิเหวินขบขันกับคำพูดของหยุนเจิง หลังจากทรงกระแอมเพื่อแก้เขินแล้ว พระองค์ส่ายหน้า “เช่นนั้นก็ช่างเถอะ พี่สามเจ้าคงทนความทรมานจากเจ้าไม่ไหวหรอก”หลังจากทรงครุ่นคิดชั่วครู่ จักรพรรดิเหวินตรัสขึ้น “เอาอย่างนี้ ตอนเจ้าแต่งงาน ก็ให้พี่สามเจ้าเตรียมของขวัญให้เจ้า! หากของขวัญไม่สมบูรณ์มากพอ ข้าจะตบหน้าเขาสองครั้งแทนเจ้าเอง!”กล่าวจบ จักรพรรดิเหวินถอนพระทัยยาวมองหยุนลี่หยุนลี่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 66

    จักรพรรดิเหวินเดาคำพูดช่วงหลังของหยุนเจิงออกจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอพระทัยนัก “เจ้าเนี่ยนะ ขอสิ่งใดไม่มีสิ่งนั้น หากเจ้าก่อกบฏได้สำเร็จจริงๆ ล่ะก็ แม้นข้าจะกลับคืนสู่สวรรค์แล้ว ก็จะคลานออกมาจากหลุมมาร่วมยินดีกับเจ้า!”“…”หยุนเจิงหมดคำพูดเขาพูดขนาดนี้แล้ว ตนก็ต้องก่อกบฏให้สำเร็จก่อนที่เขาจะสิ้นลมหายใจน่ะสิ?จะให้เขาคลานออกมาจากหลุมมาร่วมยินดีให้กับตนก็ออกจะโหดร้ายไปหน่อย“เอาเถอะ จัดการเองก็แล้วกัน!”จักรพรรดิเหวินจ้องเขาเขม็ง “ต่อหน้าขุนนางฝ่ายทหารและพลเรือนทั้งราชสำนักวันนี้ ข้าจะอนุญาตเจ้าเรื่องหนึ่ง! ต่อไปนอกจากข้าแล้ว หากผู้ใดกล้ากล่าวหาว่าเจ้าคิดก่อกบฏอีก เจ้าทุบมันได้เลย! ใครที่ไม่พอใจให้มาหาข้า!”ให้ตายยังมีเรื่องดีๆ เช่นนี้ด้วยหรือ?หยุนเจิงแม้ฝันยังไม่คิดว่าจะได้รับผลประโยชน์เช่นนี้ เขาจึงเอ่ยขอบพระทัยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจให้ตายเถอะ!ต่อไปหากไม่ขอบขี้หน้าใคร ก็หาเรื่องให้เขากล่าวหาตนว่าคิดก่อบกฏจากนั้นค่อยทุบตีเขาให้สะใจ!นี่มันกระบี่อาญาสิทธิ์เชียวนะนั่น!หลังจากที่ได้ยินวาจาของจักรพรรดิเหวินแล้ว เหล่าขุนนางต่างก็หัวเราะขมขื่นอยู่ในใจต่อไปใครที่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 67

    ทันทีที่กลับถึงเรือน หยุนเจิงก็ได้รับข่าวดีทันใดตู้กุยหยวนมาหาพร้อมกับสหายพี่น้องอีกสองคนจั่วเริ่นและอวี๋ซื่อจงทั้งสองคนล้วนแต่เคยเป็นคนของกองทหารโลหิต และเป็นสองในสิบกว่าคนในกองทหารโลหิตที่ยังถือว่าครบองค์ประกอบอยู่ได้ยินว่าตู้กุยหยวนจะเดินทางไปยังซั่วเป่ยอีกครั้ง ทั้งสองจึงตัดสินใจตามมาด้วยสำหรับการเข้าร่วมของทั้งสองนั้น หยุนเจิงยินดีมากอยู่แล้วมารดามันเถอะ นี่ล้วนแต่เป็นกองทัพเดิมของตนเลยนะ!“ในเมื่อมาแล้ว ก็อยู่ต่อเถอะ!”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ แล้วเอ่ยถามว่า “ใช่สิ ฝีมือของพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? หรือว่าพวกเจ้าสองคนลองประลองกับเกาเหอและโจวมี่ดู?”“ตามใจองค์ชาย”ทั้งสองไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเกาเหอและโจวมี่สบตากันแวบหนึ่ง แล้วยิ้มขมขื่นในใจภายใต้คำขอของหยุนเจิง ทั้งสี่คนจึงเริ่มการประลองง่ายๆ ขึ้นผลคือ เกาเหอและโจวมี่แพ้ราบคาบ“เยี่ยมจริงๆ!”หยุนเจิงพลางปรบมือพลางเอ่ยยิ้มแย้มว่า “วันนี้ข้าทำให้ราชครูของเป่ยหวนไม่พอใจ อวี้กั๋วกงยังเตือนข้าให้ระวังเป่ยหวนจะส่งคนมาลอบสังหารข้า เอาเช่นนี้ ต่อไปหากข้าออกไปไหน พวกเจ้าสองคนก็ไปพร้อมข้าแล้วกัน!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสอง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 68

    ต่อจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเกาเหอแล้วเขากำลังบังคับให้เกาเหอเลือกระหว่างเขากับจักรพรรดิเหวิน!หยุนเจิงยิ้มฮี่ๆ แล้วเอ่ยหยอกล้อว่า “ต่อหน้าพ่อบ้านเมื่อครู่นี้ เจ้าแสดงได้ไม่เลวเลยนะ”“องค์ชายเองก็ไม่แย่นะเพคะ!” เยี่ยจื่อหัวเราะคิกคักแท้จริงแล้ว พวกเขาเจรจาเรื่องนี้กันตั้งนานแล้วขายของขวัญให้หมด เพื่อป้องกันการถูกสงสัยให้เยี่ยจื่อใช้เหตุผลที่เข้าใจความหมายของหยุนเจิงผิดมาเป็นฉากบังหน้าขายของขวัญให้หมด เช่นนี้จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติยิ่งกว่าถึงแม้ผู้อื่นจะสงสัยว่าเยี่ยจื่อจงใจขายของให้หมด ก็จะคิดเพียงว่าเยี่ยจื่อจงใจรังแกหยุนเจิง เพื่อแก้แค้นความไม่ยุติธรรมให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนหยุนเจิงยิ้มแย้ม แล้วเอ่ยทอดถอนใจว่า “หากเสด็จพ่อพระราชทานเจ้าให้สมรสกับข้าก็คงดี”เทียบกับเสิ่นลั่วเยี่ยนที่เหี้ยมหาญและโอหังแล้ว เขาชอบภรรยาที่ฉลาดปราดเปรื่องอย่างเยี่ยจื่อมากกว่าเมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ใบหน้าของเยี่ยจื่อพลันแดงก่ำ แล้วเอ่ยอย่างโมโหว่า “องค์ชายอย่าพูดจาเหลวไหล ข้าเป็นหญิงหม้ายครองตัวโสดมาหลายปี หากคำพูดของท่านแพร่ออกไป ข้าก็ไม่ต้องเป็นคนแล้ว”“ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ”หยุนเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 69

    หลังสำรับเที่ยง เกาเหอใช้โอกาสที่พ่อบ้านออกไปทำธุระดึงตัวหยุนเจิงมาข้างๆ“องค์ชาย ประเดี๋ยวท่านบอกกับผู้อื่นว่าท่านซื้อร้านตีเหล็กนั่นมาเพื่อมอบให้กับผู้บัญชาการตู้นะพ่ะย่ะค่ะ”เกาเหอกวาดมองรอบๆ ทั่วสารทิศ แล้วเอ่ยจริงจังต่อหยุนเจิง“ทำไมล่ะ?”หยุนเจิงแสร้งทำเป็นไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ “แต่นั่นข้าซื้อมาใช้เองนะ”“องค์ชาย!”เกาเหอเป็นกังวล “ท่านซื้อร้านตีเหล็กเอง แต่กลับซื้อในนามของผู้บัญชาการตู้ หากเรื่องนี้แพร่ไปถึงหูฝ่าบาทล่ะก็ ฝ่าบาทต้องทรงคิดว่าท่านมีใจคิดก่อกบฏเป็นแน่!”“เป็นไปไม่ได้”หยุนเจิงส่ายศีรษะหัวเราะ “เสด็จพ่อไม่มีทางเชื่อคำพูดเช่นนี้แน่ ข้าจะคิดก่อกบฏได้อย่างไรกัน!”“องค์ชาย! หัวใจกษัตริย์คาดเดายาก!” เกาเหอพูดกล่อมสุดชีวิต“นั้นหรือ?”หยุนเจิงยกมุมปากขึ้น ในที่สุดก็เอ่ยถาม “เจ้าเป็นคนของเสด็จพ่อที่มาสอดส่องข้าใช่ไหม?”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง เปลือกตาของเกาเหอพลันกระตุกขึ้นมาหลังจากรวบรวมสติได้ เกาเหอถึงรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ“ไม่เพียงแต่เจ้า รวมถึงพ่อบ้านด้วยใช่ไหมล่ะ?”รอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนเจิงดูเบ่งบานกว่าปกติ “แท้จริงแล้ว เรื่องคดียักยอกเงินบำนาญนั่น ข้าไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 70

    “…”หยุนเจิงหมดคำจะพูดพลางมองจางฮว๋ายด้วยสีหน้ายิ้มและร้องไห้ในเวลาเดียวกันตาเฒ่านี่เป็นตาเฒ่ามีความรู้จริงๆ ด้วย!เพียงแค่เรื่องนี้ถึงกับอาหารไม่ย่อยเชียวหรือ?“เอาอย่างไร เราไปคุยกันที่ห้องหนังสือกันดีกว่า!”หยุนเจิงยิ้มแย้ม “รอให้เราคิดเลขเสร็จ ก็ถึงเวลากินข้าวแล้ว”“ไวเพียงนั้นเชียว?”จางฮว๋ายตะลึงงัน“ไม่ยากอยู่แล้ว”หยุนเจิงยิ้มๆ“ดีๆ เช่นนั้นเรารีบไปที่ห้องหนังสือกันดีกว่า!”จางฮว๋ายดีใจขีดสุด รีบลากตัวหยุนเจิงไปที่ห้องหนังสือทันทีเสมือนกลัวว่าหยุนเจิงจะหนีอย่างไรอย่างนั้นหยุนเจิงเห็นดังนั้น จึงแอบหัวเราะอยู่ในใจหากตาเฒ่าผู้นี้อยู่ในยุคปัจจุบันล่ะก็ คงเป็นศาสตราจารย์ที่หมกมุ่นอยู่กับความรู้วิชาการอย่างเดียวเป็นแน่ตาเฒ่าคนนี้ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ความรู้ก็มีถมเถ เพียงแต่เป็นคนอวดรู้ไปหน่อยเขาเองก็เป็นหนึ่งในฝ่ายสันติด้วยเช่นกันเมื่อมาถึงห้องหนังสือ หยุนเจิงก็เริ่มสอนจางฮว๋ายคิดเลขทันทีหลักๆ แล้วสิ่งที่ค่อนข้างยาก ก็มีเพียงตารางสูตรคูณกับตัวทดเท่านั้นโชคดีที่ตาเฒ่าคนนี้ถึงแม้จะเป็นคนอวดรู้ แต่ก็มีวิธีการศึกษาหาความรู้ เขาใช้เวลาไปเพียงสามสิบนาที ก็เข้าใจประ

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1590

    หลังจากออกจากตระกูลซู โหวซื่อไคก็รีบเดินทางไปยังหัวเมืองสี่ทิศเพื่อทำการซื้อขายน้ำตาลแดงหัวเมืองสี่ทิศแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาเขตของตระกูลซูโดยสมบูรณ์ การกระทำของโหวซื่อไค ย่อมไม่อาจเล็ดลอดสายตาของคนในตระกูลซูไปได้จากพฤติกรรมของโหวซื่อไค พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า น้ำตาลขาวนั้นผลิตขึ้นจากน้ำตาลแดงที่ผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์เมื่อคิดถึงกำไรอันมหาศาลของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รีบเรียกประชุมผู้อาวุโสทั้งหกของตระกูลซูในทันที เพื่อหารือกันว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ำตาลขาวนี้ได้อย่างไรโอกาสอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว!หากมีเงินให้หา ยังนิ่งเฉยอยู่ ก็คงเป็นพวกโง่งมเต็มที!แต่ว่า โหวซื่อไคกลับปากแข็งเกินไปและที่สำคัญ ดูเหมือนว่าโหวซื่อไคจะไม่ต้องการให้ตระกูลซูเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งในธุรกิจนี้เลย!หากต้องการเข้ามาในธุรกิจน้ำตาลขาว ก็ต้องหาทางให้โหวซื่อไคเปิดปากให้ได้ขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันว่าจะบีบให้โหวซื่อไคพูดออกมาได้อย่างไร จู่ๆ ก็มีคนจากจวนของซูเฮ่อเหนียนรีบรุดเข้ามา เขาก้มกระซิบข้างหูซูเฮ่อเหนียนอย่างลับๆ“ว่าอย่างไรนะ!?”ซูเฮ่อเหนียนถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที ก่อนจะลากพ่อบ้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1589

    เมื่อเห็นว่าโหวซื่อไคไม่ยอมบอกที่มาของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รู้สึกไม่พอใจอีกครั้งทว่า ครั้งนี้ เขาไม่ได้แสดงออกมา“หลานชาย น้ำตาลขาวเหล่านี้ เจ้าซื้อมาด้วยเงินเท่าใด?”ซูซ่งฝู่มองน้ำตาลขาวที่โหวซื่อไคเพิ่งห่อกลับไปด้วยสายตาเป็นประกาย“อืม… ห้าร้อยตำลึง!”โหวซื่อไคกล่าวพลางยิ้มกว้างห้าร้อยตำลึง?เป็นไปได้หรือ?หากน้ำตาลขาวเพียงแค่นี้มีราคาห้าร้อยตำลึง โหวซื่อไคจะกล้าเสนออัตราดอกเบี้ยสูงถึงเพียงนี้หรือ?เขาคงตั้งใจแจ้งราคาซื้อให้สูงเกินจริงแน่!ไม่แน่ว่า ต้นทุนที่แท้จริง อาจไม่ถึงสามร้อยตำลึงด้วยซ้ำ!แต่หากขายออกไปแล้ว ของเพียงเท่านี้ อาจมีราคาถึงเจ็ดถึงแปดตำลึงทองเลยก็ได้!กำไรมหาศาล!นี่คือกำไรที่แท้จริง!ไม่น่าแปลกใจเลยที่โหวซื่อไคกล้าเสนออัตราดอกเบี้ยสูงถึงสองส่วน!ทันใดนั้น จิตใจของซูซ่งฝู่ก็เริ่มเคลื่อนไหวในเมื่อสามารถทำกำไรได้มากถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดต้องให้โหวซื่อไคเป็นฝ่ายทำกำไรไปทั้งหมด? เหตุใดต้องให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยเงินกู้ แล้วรับเพียงดอกเบี้ยสองส่วน?แม้ว่าดอกเบี้ยสองส่วนจะสูงมากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับกำไรของโหวซื่อไคแล้ว ยังห่างชั้นกันมาก!ใครกันจะไม่อยากห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1588

    แต่สิ่งสำคัญคือ ทำธุรกิจอะไรถึงได้กำไรงามขนาดนั้น?ธุรกิจแบบไหนกัน ที่ทำให้โหวซื่อไคมั่นใจถึงเพียงนี้ ว่าจะสามารถหาเงินคืนทั้งต้นทั้งดอกได้ภายในหนึ่งเดือน!?“หลานชาย บอกลุงได้หรือไม่ว่า เจ้าไปทำธุรกิจอะไรกันแน่?”ซูซ่งฝู่เริ่มสนใจขึ้นมา “หากธุรกิจนี้ทำกำไรได้ดี ท่านลุงเองก็อยากมีส่วนร่วมกับเจ้าสักหน่อย”“เอ่อ…”โหวซื่อไคแสดงสีหน้าลำบากใจ ลังเลอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงใจ “ไม่ปิดบังท่านลุง เรื่องนี้ทำกำไรได้มากจริงๆ! มิใช่ว่าหลานไม่อยากบอกท่านลุง เพียงแต่ว่าหลานให้สัญญากับผู้อื่นไว้ ว่าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากเปิดเผยออกไป หลานอาจถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ”“ถึงแก่ชีวิต?”ธุรกิจอะไร ถึงกับต้องเสี่ยงหัวขาด!?ซูซ่งฝู่ยิ่งรู้สึกสงสัยและอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิมซูซ่งฝู่หัวเราะเบาๆ มองโหวซื่อไคด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “วางใจเถิด ท่านลุงเองก็ผ่านโลกมามากพอ ย่อมเข้าใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี! หากเจ้าบอกข้า ข้านอกจากจะช่วยเก็บเป็นความลับให้ ยังสามารถช่วยตรวจสอบให้ว่าเจ้าจะไม่ถูกหลอกอีกด้วย”“เอ่อ…”โหวซื่อไคยังคงลังเลชัดเจน ไม่ยอมพูดออกมาตรงๆ“อะไรกัน! เจ้ายังไม่ไว้ใจข้าอีกหรือ?”ซู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1587

    สามวันให้หลัง โหวซื่อไคเดินทางถึงจวีผิงสิ่งแรกที่โหวซื่อไคทำเมื่อมาถึง ก็คือไปเยี่ยมเยียนตระกูลซูตระกูลโหวและตระกูลซูมีความสัมพันธ์ด้านการค้าขายต่อกันไม่น้อย ดังนั้นตระกูลซูจึงให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นซูซ่งฝู่ หนึ่งในผู้อาวุโสเจ็ดคนของตระกูลซู เป็นผู้มาต้อนรับโหวซื่อไค“คารวะท่านลุงซู”เมื่อโหวซื่อไคพบหน้าซูซ่งฝู่ เขารีบโค้งคำนับให้ซูซ่งฝู่หัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องมากพิธี รีบเข้ามานั่งเถิด”“ขอบพระคุณท่านลุงซู”โหวซื่อไคกล่าวขอบคุณ ก่อนจะยื่นกล่องของขวัญที่สวยงามออกไป พร้อมกล่าวอย่างสุภาพว่า “ของกำนัลเล็กน้อย มิอาจแสดงความเคารพได้มาก หวังว่าท่านลุงจะรับไว้”“หลานชาย เจ้านี่ช่างเกรงใจนัก”ซูซ่งฝู่รับกล่องมา ก่อนจะสั่งให้คนชงชาให้โหวซื่อไค จากนั้นก็ยิ้มพลางถามว่า “บิดาของเจ้าสบายดีหรือไม่?”ขณะกล่าว เขาก็เปิดกล่องออกดู ภายในเป็นหยกเนื้อดีชิ้นหนึ่ง ประเมินคร่าวๆ น่าจะมีมูลค่าราวหลายร้อยตำลึงสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลซูกับตระกูลโหว ของกำนัลนี้แม้มิใช่สิ่งล้ำค่ามากนัก แต่ก็ถือว่าเหมาะสมไม่น้อย!“ขอบพระคุณท่านลุงซูที่เป็นห่วง บิดาของข้าสุขสบายดี” โหวซื่อไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1586

    หลังจากฟังคำพูดของหยุนเจิงจบ โหวซื่อไคพลันตระหนักได้ในทันทีหยุนเจิงต้องการให้เขาร่วมมือกันหลอกตระกูลซูแห่งจวีผิง!เขาไม่รู้ว่าตระกูลซูแห่งจวีผิงไปล่วงเกินหยุนเจิงอย่างไร แต่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ หากหยุนเจิงลงมือเอง ตระกูลซูแห่งจวีผิงย่อมไม่มีทางลงเอยด้วยดีดีไม่ดี ตระกูลซูแห่งจวีผิงอาจถึงขั้นล่มสลายก็เป็นได้!หากให้เขาเลือกระหว่างหยุนเจิงกับตระกูลซูแห่งจวีผิง แน่นอนว่าเขาจะเลือกช่วยหยุนเจิงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างไรก็ตาม โหวซื่อไคตอนนี้เรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้นแล้วหากทำสำเร็จก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่หากไม่สำเร็จเล่า? เขาไม่รู้ว่าหยุนเจิงจะถือโทษโกรธเขาหรือไม่โหวซื่อไคครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลองหยั่งเชิงถามว่า “ท่านอ๋อง หากเรื่องนี้ไม่สำเร็จเล่า…”“วางใจเถิด!” หยุนเจิงรู้ดีว่าโหวซื่อไคกังวลเรื่องใด จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ตราบใดที่เจ้าทำเต็มที่แล้ว ต่อให้ไม่สำเร็จ ข้าก็จะมอบรางวัลให้เจ้าหนึ่งหมื่นตำลึง! แต่ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เด็ดขาด!”เช่นนั้นหรือ?หากไม่สำเร็จก็ไม่ต้องรับโทษ แถมยังได้รับหนึ่งหมื่นตำลึง?แม้ว่าหนึ่งหมื่นตำลึงจะไม่ใช่จ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1585

    โหวซื่อไคมาถึงเร็วกว่าที่หยุนเจิงคาดไว้เสียอีกในช่วงเที่ยงของวันถัดมา โหวซื่อไคก็มาถึงจวนอ๋องของหัวเมืองสี่ทิศหยุนเจิงรับเขาที่ห้องหนังสือของตนเอง“เจ้ามาได้เร็วไม่เบานี่!”หยุนเจิงมองโหวซื่อไคพลางยิ้ม “เดินทางมาเหนื่อยมากหรือไม่?”“ไม่เท่าไรพ่ะย่ะค่ะ ไม่เท่าไร” โหวซื่อไครีบแสร้งยิ้มเอาใจ “ท่านอ๋องมีรับสั่ง กระหม่อมย่อมไม่กล้าล่าช้า”จริงๆ แล้วเหนื่อยแทบขาดใจเขาขี่ม้าตลอดทางจากซั่วฟางมาที่นี่แม้จะเทียบไม่ได้กับการส่งสารด่วนแปดร้อยลี้ แต่ก็เร่งรีบสุดชีวิตแล้วดีที่ตอนนี้อากาศยังหนาวเย็น เขาสวมเสื้อผ้าหนา ไม่เช่นนั้น ขาของเขาคงถลอกปอกเปิกไปแล้ว“นั่งลงเถิด”หยุนเจิงชี้ไปยังที่นั่งข้างๆ ก่อนจะสั่งให้คนชงชาให้โหวซื่อไค“ขอบพระคุณท่านอ๋อง”โหวซื่อไครู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก รีบกล่าวขอบคุณซ้ำๆหยุนเจิงพยักหน้าเป็นเชิงให้สาวใช้ที่ชงชาถอยออกไป จากนั้นจึงหันไปมองโหวซื่อไคแล้วกล่าวว่า “เวลามีจำกัด ข้าจะไม่อ้อมค้อมกับเจ้าแล้ว! เจ้าสนิทสนมกับตระกูลซูแห่งจวีผิงเพียงใด?”ตระกูลซูแห่งจวีผิง?โหวซื่อไคชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบอย่างซื่อตรงว่า “กระหม่อมพอจ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1584

    เยี่ยจื่อเคยช่วยหยุนเจิงบริหารกิจการภายในเมืองมาแล้ว จึงมีความเข้าใจในเรื่องเกษตรกรรมมากกว่าหยุนเจิงอยู่มาก เมื่อนางวิเคราะห์เรื่องนี้กับหยุนเจิง ทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างเป็นระบบและชัดเจนข้อเสนอหลายอย่างที่นางยกขึ้นมา หยุนเจิงก็เห็นว่าดีเช่นกันตลอดเวลาที่หารือกัน ส่วนใหญ่เป็นเพียงหยุนเจิงกับเยี่ยจื่อที่พูดคุยกัน อวี๋ฝูแทบไม่ได้เอ่ยปาก กระทั่งเมื่อหยุนเจิงกับเยี่ยจื่อสอบถามความเห็นของเขาเกี่ยวกับการตัดสินใจเบื้องต้น อวี๋ฝูก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่ว่าดีหรือร้ายก็เพียงตอบรับว่า ตามแต่ท่านอ๋องและเยี่ยจื่อหยุนเจิงและเยี่ยจื่อหารือกันราวหนึ่งชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนการ“เอาล่ะ เจ้าไปทำงานของเจ้าเถอะ”หยุนเจิงโบกมือให้กับอวี๋ฝู “ข้ายังต้องพูดคุยกับฮูหยินจื่ออีกสักหน่อย”“ข้าขอทูลลา!”อวี๋ฝูลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รีบออกไปอย่างกับได้รับอภัยโทษหยุนเจิงมองตามแผ่นหลังที่จากไป ดวงตาฉายแววสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย“เขาน่าจะมีปัญหาจริงๆ”เยี่ยจื่อดูเหมือนจะเดาออกว่าหยุนเจิงคิดอะไรอยู่หยุนเจิงหันกลับมา “เจ้าก็คิดเช่นนั้นหรือ?”เยี่ยจื่อแย้มยิ้มบางๆ “เขาเป็นพ่อบ้าน แต่กลับไม่รู้อ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1583

    “เหตุใดเจ้าจึงไม่มอบวัวไถนาให้พวกเขาทุกคนเล่า?”ระหว่างทางกลับ เมี่ยวอินมองหยุนเจิงด้วยความสงสัยอย่างมากเสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็อยากถามคำถามนี้เช่นกัน แต่ถูกเมี่ยวอินชิงถามไปก่อน จึงได้แต่มองหยุนเจิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจหยุนเจิงมิใช่คนตระหนี่ต่อให้มอบวัวไถนาให้ชาวนาเฒ่าเหล่านั้นคนละตัว สำหรับเขาแล้ว ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นกระทั่ง มิอาจนับเป็นเศษเสี้ยวเสียด้วยซ้ำ“ต้องมีการแลกเปลี่ยน จึงจะได้รับผลตอบแทน”หยุนเจิงอธิบายพลางยิ้ม “ชาวนาเฒ่าผู้นั้นตอบคำถามของข้า นั่นถือเป็นสิ่งที่เขาลงแรงไป เขาสมควรได้รับรางวัลตอบแทน! ส่วนชาวนาเฒ่าคนอื่นๆ มิได้พูดอะไร ก็ทำได้เพียงพลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเล็กน้อยเท่านั้น…”วัวไถนาไม่กี่ตัว สำหรับเขาแล้ว นับเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างแท้จริงแต่เขามิอาจมอบวัวไถนาให้ทุกคนเพียงเพราะรู้สึกเวทนาในใต้หล้านี้ มีประชาชนที่ยากไร้เช่นนี้อีกมากมายเหลือคณา แล้วเขาจะมอบให้หมดได้อย่างไร?การช่วยเหลือที่แท้จริง คือการลดภาระของราษฎรทั้งหมดต่างหาก!ภาษีที่ดินที่แบ่งตามพื้นที่ของที่ดิน ก็ถูกกำหนดขึ้นด้วยจุดประสงค์นี้เช่นกันแววตาของเสิ่นลั่วเย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1582

    แน่นอนว่ามาตรฐานเหล่านี้ใช้กับที่ดินชั้นดีเท่านั้นส่วนที่ดินชั้นต่ำกว่านั้นมาตรฐานของการเก็บเกี่ยวที่ถือว่าผลผลิตดีจะต่ำกว่านี้อีกตามกฎของราชสำนักข้าวสาลีซึ่งเป็นพืชอาหารหลักจะต้องปลูกแต่ก็ไม่สามารถปลูกได้ตามอำเภอใจไม่ว่าจะปลูกมากหรือน้อยก็ล้วนมีการจำกัดสัดส่วนอย่างเข้มงวดนอกจากนี้ยังมีบางพื้นที่ที่ต้องใช้ปลูกพืชตระกูลถั่วหมุนเวียนกันไปเพราะหลังจากปลูกถั่วแล้วดินจะอุดมสมบูรณ์ขึ้นทำให้ปีถัดไปเมื่อปลูกพืชอื่นผลผลิตก็จะงอกงามกว่าเดิมชาวนาเฒ่าพยายามอธิบายอย่างละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านอ๋องเข้าใจผิดว่าพวกเขาจงใจปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่าในแคว้นต้าเฉียนการจงใจปล่อยที่ดินให้รกร้างโดยไม่มีเหตุผลอันควรเป็นความผิดที่ต้องได้รับโทษหนักเมื่อฟังคำอธิบายของชาวนาอาวุโสหยุนเจิงก็เข้าใจทันทีหากไม่ได้ลงมาดูด้วยตาตัวเองเขาก็คงไม่รู้ว่ามีเรื่องราวซับซ้อนเช่นนี้เกี่ยวกับการเกษตรเรื่องของที่ดินนี่ก็มีความรู้แฝงอยู่ไม่น้อยเช่นกันไม่อาจแยกตัวออกจากประชาชนได้จริงๆหยุนเจิงคิดในใจพลางถามต่อ “ที่ดินเหล่านี้เป็นของพวกเจ้าเองหรือเป็นของนายท่านคนใด?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าของชาวนาอาวุโสเผยรอย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status