ปานปู้กัดฟัน แล้วพ่นคำออกจากร่องฟันหากไม่ดูสักหน่อย เขาจะยอมได้อย่างไร?เขาจะดูว่าหยุนเจิงดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างไร!แม้จะต้องกระอักเลือดอีกครั้ง เขาก็จะดูให้ได้!เจียเหยารู้นิสัยปานปู้ดี เขาถอนหายใจลับๆ แล้วยื่นจดหมายในมือให้กับปานปู้ช้าๆ“เอื๊อก…”ปานปู้เพียงแค่กวาดสายตามอง ก็กระอักเลือดแล้วปานปู้ไม่รู้ว่าตนกระอักเลือดเพราะหยุนเจิงกี่ครั้งกี่หนแล้วทว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดแน่นอนทันใดที่เลือดพุ่งออกไป ร่างกายที่เดิมทรุดโทรมอยู่แล้วของปานปู้ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก เขาล้มลงไปในบัดดลเจียเหยารีบวิ่งเข้าไปพยุงเขาไว้อย่างเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว“อัปยศ! อัปยศจริงๆ!”ดวงตาทั้งสองของปานปู้แดงก่ำ ร่ำไห้ทั้งน้ำตานี่คือความอัปยศที่สุดในทั้งชีวิตของเขา!“ดาบทอง! เอาดาบทองเฮงซวยนั่นมาให้ข้า! ข้าจะทำลายมันซะ…”ปานปู้เต็มไปด้วยโทสะ ร่ำตะโกนด้วยความโมโหหากไม่ใช่เพราะดาบทองนี้ คนของพวกเขาจะหลงเชื่อคำพูดของคนของหยุนเจิงได้อย่างไร!เพียงแค่ดาบทองเล่มเดียว ทำให้เป่ยหวนต้องสูญเสียพลทหารถึงหนึ่งหมื่นห้าพันนาย!แถมยังต้องสูญเสียเสบียงจำนวนมหาศาลด้วยสำหรับเป่ยหวนแล้ว นี่มัน
“องค์ชาย ข้าทำไม่ได้หรอก!”“นั่น…นั่นมันอวี้กั๋วกงเชียวนะ!”“ข้าจะกล้าทำตัวสูงศักดิ์ต่อหน้าเขาได้อย่างไร!”ตาเฒ่าซุนเอ่ยความลำบากใจให้กับหยุนเจิงเขาเคยเป็นอาจารย์สอนบทเรียนแค่สองปี แต่ให้ไปแสดงเป็นคนสูงศักดิ์ คนยอดฝีมือต่อหน้าแม่ทัพอาวุโสอย่างอวี้กั๋วกงเนี่ยนะ?แค่อีกฝ่ายส่งสายตามา เขาก็ตัวสั่นไปทั้งตัวแล้ว!ไม่มีพิรุษก็แปลกแล้ว!“ตาเฒ่าซุน เจ้าอย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีนะ!”หยุนเจิงเอ่ยยิ้มๆ “ไม่ใช่ว่าใครก็ได้จะสามารถแสร้งทำตัวเป็นยอดฝีมือต่อหน้าอวี้กั๋วกงได้นะ! หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ความรู้อันเล็กน้อยที่เจ้ามีล่ะก็ เรื่องดีๆ เช่นนี้คงตกไม่ถึงหัวเจ้าหรอก!”ตาเฒ่าแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว “ข้ารู้! แต่ทว่า…”“เจ้ายังอยากได้จางกงเมามายยี่สิบชั่งหรือไม่?” หยุนเจิงมองบนใส่เขา “หากเจ้าไม่เอา ข้าจะให้คนอื่นจริงๆ นะ!”เมื่อได้ยินหยุนเจิงเอ่ยถึงจางกงเมามาย ลูกกระเดือกของตาเฒ่าซุนพลันเคลื่อนไหวเล็กน้อยเขาไม่มีงานอดิเรกใดๆ เพียงแค่ชอบดื่มสุรายามว่างเท่านั้นจางกงเมามายนี้ เขาแค่ฝันยังอยากดื่มเลย!ตั้งยี่สิบชั่งเชียวนะ!ดื่มได้อีกนาน!ทว่าราคาจางกงเมามายนี่ก็แพงเหลือเกิน!ให้เขา
มาแล้ว!ตาเฒ่าซุนใจวูบวาบ รู้สึกลนลานขึ้นมาในบัดดลโชคดีที่เซียวว่านโฉวอยู่ข้างหลังเขา ทำให้ไม่เห็นสีหน้าของเขาหลังจากที่พยายามเก็บซ่อนอารมณ์ไว้ ตาเฒ่าซุนพลันส่ายศีรษะเบาๆ “ข้าไม่รู้ทักษะยุทธการอะไรทั้งนั้น เพียงแค่ออกสู่โลกภายนอกนานเกินไป ไม่มีความกังวลอะไรในใจ จึงเข้าใจจิตใจผู้คนมากกว่าคนทั่วไปเท่านั้น!”“จิตใจผู้คน?”เซียวว่านโฉวขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่เข้าใจ “ขออภัยในความโง่เขลาของข้า ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ?”ตาเฒ่าซุนจ้องมองปลาที่ลอยอยู่ในหลุมน้ำแข็งนิ่งๆ แล้วเอ่ยว่า “เจ้าคือศัตรู ศัตรูคือเจ้า!”ได้ยินคำพูดของตาเฒ่าซุนแล้ว เซียวว่านโฉวพลันอดไม่ได้ครุ่นคิดหนักเจ้าคือศัตรู ศัตรูคือเจ้า?คำพูดนี้ ฟังดูลึกซึ้งคาดเดาไม่ถูกจริงๆ!ขณะที่เซียวว่านโฉวกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ตาเฒ่าซุนก็เอ่ยนิ่งๆ อีกว่า “ทักษะยุทธการนับหมื่น ไม่สู้จิตใจผู้คนคำนี้! ขณะที่เจ้ากำลังคาดเดาความคิดของศัตรู ศัตรูก็กำลังคาดเดาความคิดของเจ้าเช่นกัน…”เซียวว่านโฉวครุ่นคิดนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เผยสีหน้าเข้าใจขึ้นมา“ท่านพูดถูก!”เซียวว่านโฉวโน้มตัวคำนับอีกครั้ง “ฟังคำจากผู้เชี่ยวชาญ มีชัยไปกว่าการเรี
การมาถึงของเว่ยเหวินจง อยู่ภายใต้การคาดการณ์ของหยุนเจิงเพียงแต่ หยุนเจิงไม่คิดจะมาเจอหน้าเว่ยเหวินจงเลยจึงได้หันกลับไปถามว่าฉินชีหู่มาด้วยหรือไม่เมื่อได้รู้ว่าฉินชีหู่ก็มาด้วย หยุนเจิงจึงสั่งการให้ทหารผู้มารายงานว่า “เรียกฉินชีหู่มาหาข้าที่จวน!”เซียวว่านโฉวขมวดคิ้วเบาๆ “องค์ชายไม่อยู่รอพบเว่ยเหวินจงหน่อยหรือ?”“ไม่!”หยุนเจิงกล่าวด้วยความโมโห “ข้ากลัวว่าเห็นหน้าเว่ยเหวินจงแล้ว ข้าจะชัดดาบแทงเขา!”เมื่อเห็นท่าทีกรุ่นโกรธของหยุนเจิงแล้ว เซียวว่านโฉวพลันส่ายศีรษะอย่างอดไม่ได้เซียวว่านโฉวกล่าว “องค์ชายไม่ต้องกริ้วเพียงนี้ เว่ยเหวินจงเป็นคนจริงจัง ที่เขาตัดสินใจทำเช่นนี้ ก็เพราะไม่มีทางเลือก! ข้าคิดว่า แม้เว่ยเหวินจงจะมีความคิดอยากทำร้ายท่านอ๋องจริงๆ แต่เขาก็ไม่กล้าเพียงนี้หรอก…”“อย่างไรข้าก็คิดว่าเว่ยเหวินจงคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร!” หยุนเจิงกล่าว “รบกวนอวี้กั๋วกงอยู่ต้อนรับเว่ยเหวินจงหน่อยแล้วกัน ข้าไม่ไปที่ค่ายแล้ว”เซียวว่านโฉวหมดหนทาง ทำได้เพียงตอบตกลงแม่ทัพเข้ากันไม่ได้!เป็นเรื่องที่น่าปวดศีรษะมากจริงๆ!ไม่นาน เซียวว่านโฉวก็มาถึงในฐานค่าย“คารวะอวี้กั๋วกง!”ฝูงชนพากันล
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวว่านโฉวแล้ว เว่ยเหวินจงพลันยิ้มแห้งอย่างต่อเนื่องอวี้กั๋วกงเองก็คิดว่าตนขี้ขลาดขี้กลัวเหมือนกันนั้นหรือ?สงครามครั้งนี้ เขานำกองทหารใหญ่เจ็ดหมื่นนาย แต่กลับขี้กลัวเสียอย่างนั้นส่วนฝ่ายหยุนเจิง รวมกันทั้งหมดมีไม่ถึงสองหมื่นนาย กลับคาดการณ์ศัตรูได้ก่อน และวางกลยุทธ์ได้อย่างแยบยลไม่เพียงแต่สามารถทำให้กองทหารใหญ่เป่ยหวนถอยทัพ แต่ยังซุ่มโจมตีกองทหารเป่ยหวนที่หุบผาชันช่องลมได้อีกครั้งโดยใช้วิธีที่ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง และสร้างตำนานเทพเจ้าอีกครั้ง!เมื่อเทียบกันแล้ว เขาเว่ยเหวินจงไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!ต่อจากนี้ เกรงว่าตนคงหนีไม่พ้นกับคำด่าว่าเป็นคนขี้กลัวแล้วเพียงแค่สงครามเดียว ผลงานทั้งหมดที่เขาสะสมมาในกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือก็หายสาบสูญในชั่วพริบตา“ขอบใจอวี้กั๋วกงที่ชี้แนะ เหวินจงทราบแล้วขอรับ!”เว่ยเหวินจงโน้มตัวคำนับ“ไม่ถึงกับชี้แนะหรอก”เซียวว่านโฉวส่ายศีรษะ “เจ้าเป็นคนหนักแน่น และไม่ทำให้กองทหารมณฑลฝ่ายเหนือสูญเสียทหารไปมาก ตามหลักแล้ว สงครามครั้งนี้เจ้าก็มีคุณงามความดีอยู่! แต่ในฐานะที่เป็นผู้นำ หากไม่สามารถควบคุมทุกคนได้ เช่นนั้นตำแหน่งนี้ ก็อยู่ได้
ณ จวนของหยุนเจิง ฉินชีหู่พลางดื่มสุรากับหยุนเจิงพลางก่นด่าเว่ยเหวินจงเมื่อด่าจนพอใจแล้ว ฉินชีหู่ก็ส่งเสียงหัวเราะร่าออกมา “น้องชาย เจ้าไม่รู้ เมื่อไปกี่วันก่อนตอนที่เว่ยเหวินจงนำกองทหารใหญ่แล้วหยุดไม่เดินต่อ แม่ทัพแต่ละคนในค่ายแทบจะชี้จมูกด่าเว่ยเหวินจงแล้ว แม้แต่แม่ทัพตู๋กูนั่นก็สู้กับเว่ยเหวินจงด้วย…”เมื่อพูดถึงสถานการณ์ในตอนนั้น ฉินชีหู่พลันอดไม่ได้หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของฉินชีหู่แล้ว หยุนเจิงก็อดไม่ได้แอบดีใจขึ้นมาเยี่ยม!ผลลัพธ์ที่ใหญ่ที่สุดที่ได้รับจากสงครามครั้งนี้ไม่ใช่หลอกเป่ยหวนได้กี่คน แต่เป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของเว่ยเหวินจงในกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือต่างหากเช่นนี้ก็ง่ายต่อการยึดอำนาจของตนแล้ว!ดี!การระมัดระวังตัวของเว่ยเหวินจงได้ช่วยตนไปไม่น้อยเช่นกันหยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ แล้วยกสุราขึ้นกล่าวว่า “ขอบใจพี่ใหญ่ฉินที่ช่วยออกหน้าแทนข้ามาก ข้าขอดื่มให้กับท่านจอกหนึ่ง!”“เจ้ากับข้ายังจะเกรงใจกันอีก?”ฉินชีหู่โบกมืออย่างสบายๆ แล้วกล่าวด้วยความหดหู่ว่า “ข้าน่ะอิจฉาเจ้าจริงๆ! ดูซิ ฝั่งเจ้าชนะสงครามไม่หยุดหย่อน แต่ฝั่งข้าแพ้ อยากจะหาเป่ยหวนเพื่อทวงคืนชัยชนะก็
“ปู้ตู?”เสิ่นลั่วเยี่ยนตะลึง “เทพแห่งธนูพื้นหญ้าในตำนานน่ะหรือ?”“ใช่ๆ!” ฉินชีหู่พยักหน้า “น้องสะใภ้รู้จักปู้ตูด้วยหรือ?”“อืม อวี้กั๋วกงเคยพูดถึง”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้า “ว่ากันว่าคนคนนี้สามารถยิงธนูคู่ได้แถมไร้ที่ติด้วย!”“ใช่!”ฉินชีหู่พยักหน้ากล่าว “ได้ยินเฉลยศึกพวกนั้นพูดว่าเจียเหยานั่นยิ่งกว่า ดูเหมือนจะสามารถยิงธนูสามดอกพร้อมกันได้ด้วย! แต่ทว่า ข้าคิดว่าเฉลยศึกพวกนั้นคุยโวโอ้อวดเท่านั้น ธนูสามดอก คิดอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้…”“เป็นไปได้แน่นอน!”เสิ่นลั่วเยี่ยนและหยุนเจิงเอ่ยพร้อมกันฉินชีหู่ตะลึงใจ แล้วมองพวกเขาด้วยความสงสัยหยุนเจิงไม่ได้ปิดบัง เล่าเรื่องที่พวกเขาเจอกับเจียเหยาให้เขาฟังทันที“จริงหรือเนี่ย?”ฉินชีหู่ได้ฟังพลันอึ้งไปชั่วขณะ “ยิงธนูสามดอกพร้อมกันแถมไร้ที่ติ? สตรีผู้นี้เก่งกาจเพียงนั้นเชียวหรือ?”ยิงธนูสามดอกพร้อมกันไม่ยาก!ขอเพียงรู้วิธี คนที่มีพลังแขนมากก็ทำได้แต่ที่ยากคือยิงธนูสามดอกพร้อมกันอย่างไร้ที่ติ!สตรีผู้นี้ถูกเทพแห่งธนูสิงร่างหรือไงกัน?“จริงด้วย ตอนนี้ใครเฝ้าโขดเป่ยหยวนอยู่?”ทันใดนั้น หยุนเจิงพลันถามฉินชีหู่“เว่ยซั่ว!”ฉินชีหู่ตอ
หลังจากที่ถูกหยุนเจิงปฏิเสธ เว่ยเหวินจงก็ได้พาผู้คนจากไปบัดนี้ หยุนเจิงได้เลื่อนขั้น กองทหารเก้าพันนายที่รักษาการณ์ที่หุบผาชันช่องลมคราวก่อนก็กลับไปสู่ใต้บังคับบัญชาของหยุนเจิงเหมือนเดิมถึงแม้เว่ยเหวินจงจะไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะนี่เป็นคำเสนอของเซียวว่านโฉวเหตุผลของเซียวว่านโฉวก็หนักแน่นมาก ซั่วฟางมีกำลังพลน้อย กองทหารซั่วฟางที่หยุนเจิงเป็นผู้นำก็ทำให้กองทหารใหญ่เป่ยหวนสูญเสียไปจำนวนมากหลายครั้งหลายหนไม่มีใครรู้ได้ว่าเป่ยหวนจะมาจัดการกับหยุนเจิงไม้ไหนอีกแต่ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป่ยหวนอยากจะสังหารหยุนเจิงด้วยพันดาบหมื่นดาบแน่นอนดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร ในมือหยุนเจิงมีกำลังพลไว้ดีกว่าบัดนี้ เดิมก็มีคนมากมายสงสัยว่าเว่ยเหวินจงอยากยืมมือเป่ยหวนกำจัดหยุนเจิงทิ้ง หากเว่ยเหวินจงปฏิเสธคำเสนอของเซียวว่านโฉวอีก ก็จะยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยไม่ใช่หรือ?คนเก้าพันนายนั่น เว่ยเหวินจงเพียงแค่ขอหยวนเลี่ยไปผู้เดียวเท่านั้นแต่ทว่า ภารกิจป้องกันหุบผาชันช่องลมก็ได้ตกเป็นหน้าที่ของหยุนเจิงไปด้วยวันที่เว่ยเหวินจงพาคนออกไป เซียวว่านโฉวก็เอ่ยลาหยุนเจิงด้วยเช่นกันเขาเองก็อยู่ที่ซั