พอยุ่งทีไร เวลาครึ่งชั่วยามก็ผ่านไปไวเหมือนโกหกจนกระทั่งทั้งสองวางแผนตำแหน่งของงานแต่ละฝ่ายเสร็จ หยุนเจิงถึงจะกลับฐานแต่ทว่า หยุนเจิงไม่ได้ไปพบฮั่วกู้โดยตรง เพียงแค่สั่งการเกาเหอว่า “ไปหยิบชุดเกราะทองอันล้ำค่าของข้ามา!”“ขอรับ!”เกาเหอพยักหน้าตอบรับไม่นาน เกาเหอก็นำชุดเกราะทองอันล้ำค่ามาพร้อมสวมใส่ให้กับหยุนเจิงนี่เป็นครั้งแรกที่หยุนเจิงสวมใส่หลังจากที่ได้รับพระราชทานชุดเกราะจากจักรพรรดิเหวิน“องค์ชาย ชุดเกราะนี้สง่ามากจริงๆ!”เกาเหอเอ่ยชมด้วยความจริงใจ นัยน์ตามีกลิ่นอายของความอิจฉาเผยออกมาเล็กน้อยชุดเกราะทองอันล้ำค่านี้เป็นชุดเกราะที่ล้ำค่าที่สุดของราชวงศ์ต้าเฉียนแล้วทั้งกองทหารมณฑลทางเหนือ นอกจากท่านอ๋องกับพระชายาแล้ว ผู้ที่มีสิทธิ์สวมชุดเกราะนี้มีไม่เกินสามคน!“เจ้าอย่าได้อิจฉาเลยนะ”หยุนเจิงหัวเราะฮ่าๆ แล้วเอ่ยหยอกล้อว่า “ข้าไม่สามารถสร้างชุดเกราะนี้ได้หรอกนะ อย่างมากก็ทำได้เพียงให้เจ้ายืมใส่ครู่หนึ่งเท่านั้น”เกาเหอได้ยินดังนั้นพลันรีบส่ายศีรษะยิ้มแห้ง “ข้าน้อยไม่กล้าใส่หรอกขอรับ”“ไม่เป็นไร!”หยุนเจิงหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “แอบใส่ตอนอยู่ด้วยกันให้รับรู้ถึงเกียร
แอบเก็บชุดเกราะไว้คนเดียวเทียบเท่ากับการก่อกบฎเลยนะ!คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะกล่าวหาว่าเขาแอบเก็บชุดเกราะได้หลังจากที่สติลอยไปชั่วขณะ ฮั่วกู้ก็รีบควบคุมสติอารมณ์ของตนอย่างรวดเร็วเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่เขาต้องกังวล!เขาไม่เคยทำเรื่องนี้!หยุนเจิงกล่าวหาว่าเขาแอบเก็บชุดเกราะ ไม่เท่ากับว่าเขาต้องแอบเก็บชุดเกราะจริงๆคิดอยากโยนความผิดฐานแอบเก็บชุดเกราะไว้คนเดียวให้กับตนนั้นหรือ ฝันไปเถอะ!ฮั่วกู้รีบสงบสติอารมณ์ในแน่วแน่ แล้วเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ท่านอ๋องไม่รู้เสียแล้ว ครั้งนี้ ทหารจากกระทรวงต่างๆ ถูกระดมพลเพื่อฝึกฝน คลังแสงไม่สามารถผลิตชุดเกราะได้มากมายในคราวเดียว ไม่เพียงแต่ฝั่งท่านอ๋องเท่านั้น แต่รวมถึงกระทรวงทั้งหมดที่เข้ารับการฝึกฝนด้วย…”ทหารที่เข้าร่วมการฝึกฝนในครั้งนี้มีทั้งหมดนับแสนกว่านาย!ชุดเกราะก็เสียหายได้นะ!คนเหล่านี้ใช้งานมาห้าปีกว่าแล้ว!ชุดเกราะที่พวกเขาเก็บกลับมาที่คลังแสง ส่วนใหญ่ก็เอาไปทดแทนให้กองทหารที่เตรียมรบอยู่เสมอแล้วชุดเกราะกับอาวุธยุทโธปกรณ์นั้นแตกต่างกันแต่ละเมืองแต่ละกระทรวงต่างก็มีอาวุธที่คัดเลือกโดยเฉพาะอยู่แล้วด้วยเหตุนี้ อาวุธจึง
แม่ทัพที่ถูกปลดเหล่านี้อยากขัดขืน แต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงปล่อยให้เกาเหอและโจวมี่ยึดอาวุธของพวกเขา“ตัดซะ!”หยุนเจิงตะคอกเสียงต่ำอีกครั้งอะไรนะ?คราวนี้ แม้แต่เกาเหอกับโจวมี่ก็อ้ำอึ้งด้วยเช่นกันท่านอ๋องจะตัดศีรษะพวกเขา?ท่านอ๋องคิดจะฆ่าไก่ขู่ลิงรึ?ส่วนแม่ทัพที่ถูกปลดเหล่านั้นก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด ต่างก็ส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ฮั่วกู้แม้แต่ฝันพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าเพียงแค่ไปฟ้องฮั่วกู้ หยุนเจิงก็จะตัดหัวพวกเขานี่มันไม่เห็นแก่กฎหมายเลยชัดๆ!“ท่านอ๋อง!”คราวนี้ฮั่วกู้โมโหจริงๆ แล้ว เขายืนบังข้างหน้าคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าเยือกเย็น “ถึงแม้ท่านอ๋องจะมีฐานะสูงส่ง แต่ก็ไม่อาจเข่นฆ่าแม่ทัพในกองทหารตามอำเภอใจได้! หากท่านอ๋องทำตามอำเภอใจเช่นนี้ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”“เจ้ากำลังขู่ข้าอยู่นั้นรึ?”มีไอเย็นวาบผ่านสายตาของหยุนเจิง ดวงตาทั้งสองข้างจ้องที่ฮั่วกู้เขม็ง “ข้ายืนอยู่ตรงนี้ไม่ขยับ แถมให้โอกาสแก่เจ้า ดูซิว่าเจ้าจะกล้าชักดาบต่อหน้าข้าหรือไม่!”เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่ค่อยดี โจวมี่จึงรีบสั่งการให้องค์รักษ์รอบๆ ไปตามเสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นได้ชัดว่าหยุนเจิงกำลังกริ้วโกรธ!พวกเขากลัว
หยุนเจิงให้พวกเขาตัดอาวุธของแม่ทัพพวกนี้น่ะหรือ?หากเขาหมายความเช่นนี้จริง เหตุใดถึงไม่พูดให้ชัดเจนตั้งแต่แรกเล่า?ไม่นาน เกาเหอและโจวมี่ก็ได้สติองค์ชายหกตั้งใจทำให้คนเข้าใจผิด!หรือไม่ก็เพราะต้องการทำให้แม่ทัพที่หนีไปฟ้องฮั่วกู้เหล่านี้ตกใจกลัว หรือไม่ก็กำลังทำลายศักดิ์ศรีของฮั่วกู้!หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง“ยืนบื้ออะไรอยู่อีก?”หยุนเจิงจ้องเกาเหอกับโจวมี่ “เร็วเข้าสิ ตัดอาวุธพวกมันซะ!”ตัดดาบเฉยๆ!ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว!ทั้งสองมึนงงเล็กน้อย แล้วหยิบอาวุธของแม่ทัพเหล่านั้นขึ้น จากนั้นก็ชักดาบของตนออกโดยไม่ลังเล เสียง “ต๊องแต๊ง” ดังขึ้น อาวุธของแม่ทัพเหล่านั้นก็ขาดออกเป็นสองท่อนเมื่อเห็นดาบที่หักเป็นสองท่อนบนพื้นแล้ว สีหน้าของฮั่วกู้ก็เปลี่ยนแม่ทัพที่สติหลุดเหล่านั้นต่างก็มองอาวุธที่ขาดสะบั้นบนพื้นด้วยสีหน้าตะลึงใจเช่นกันตัด…ตัดเช่นนี้ได้เลยหรือ?นี่มันอาวุธอะไรกัน?ถึงได้สามารถตัดอาวุธให้ขาดง่ายๆ เพียงนี้?ไม่รอให้คนเหล่านั้นได้สติ หยุนเจิงพลันรับดาบมาจากเกาเหอให้โยนให้กับฮั่วกู้หยุนเจิงมองฮั่วกู้นิ่งๆ “แม่ทัพฮั่ว ท่านคิดว่าดาบนี้เป็นอย่างไร?”ฮั่วกู้รวบรวมสติ แล
ระหว่างที่พูด ฮั่วกู้ก็รีบโค้งคำนับขอโทษหยุนเจิงทันทีเห็นท่าทีของฮั่วกู้แล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงรีบเบือนหน้าหนีพยายามกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์หยุนเจิงไอ้สารเลวนี่ร้ายกาจจริงๆ!ฮั่วกู้มาพบเขาเพื่อต้องการคำอธิบายจากเขา ทว่าไม่เพียงแต่ถูกเขาทำจนตกใจไปยกใหญ่ แถมบัดนี้ยังย้อนกลับมาขอร้องเขาด้วย?ไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดในสมองของไอ้สารเลวคนนี้ถึงได้มีแผนการร้ายกาจมากมายเพียงนี้เขาอาศัยอยู่ในเรือนปี้ปัวมาหลายปี วันๆ คงเอาแต่คิดวิธีเล่นงานคนอื่นสินะ?เมื่อเห็นว่าเรื่องใหญ่พอควรแล้ว หยุนเจิงเองก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “เดิมทีข้าคิดจะเอาดาบล้ำค่าเช่นนี้พันเล่มมาแลกชุดเกราะกับเจ้าพันชุด หากทางราชสำนักนำชุดเกราะมาสนับสนุนกระทรวงข้าครบเมื่อไหร่ ข้าค่อยนำชุดเกราะไปคืนเจ้า แต่ดาบพวกนั้นก็ให้เจ้าเหมือนเดิม! แต่เจ้ากลับย้อนมาข่มขู่ข้า?”เมื่อฟังคำพูดของหยุนเจิงแล้ว หัวใจของฮั่วกู้พลันกระตุกไหวชุดเกราะหนึ่งพันชุดแลกดาบรบหนึ่งพันเล่ม?ที่สำคัญ เมื่อถึงตอนนั้นยังจะคืนชุดเกราะให้กับเขาด้วย!คิดคำนวณไปมาก็เท่ากับเขามอบดาบล้ำค่าพันเล่มนี้ให้เขาเปล่าๆ!นี่มันธุรกิจที่มีแต่ได้กั
ฮั่วกู้คิดว่าเจอกำไรก้อนใหญ่แล้วเสียอีกบัดนี้ดูแล้วกำไรก้อนนี้คงจะเก็บได้ไม่ง่ายนัก“ดูเจ้าซิ!”หยุนเจิงจ้องฮั่วกู้เขม็ง “ข้าหมายความว่า วัสดุที่เจ้าสามารถหามาให้ได้ก็ส่งมา! หากหาไม่ได้ เดี๋ยวข้าจะควักเงินไปซื้อเอง! ข้าจะเอาเปรียบเจ้าได้หรือไงกัน?”“อ้อๆ…”ฮั่วกู้หัวเราะร่าราวกับเข้าใจแจ่มแจ้ง “เช่นนั้นก็รบกวนท่านอ๋องแล้ว! ข้าจะจัดแจงช่างตีเหล็กมาให้โดยเร็ว!”“อืม ตามนี้แล้วกัน!”หยุนเจิงนวดดวงตา “พวกเจ้าไปทำธุระของพวกเจ้าเถอะ! ยังมีเรื่องในฐานทัพต้องทำอีกเยอะ ข้าเองก็ต้องกลับไปแล้วล่ะ!”“ขอตัวก่อนขอรับ!”ฮั่วกู้รีบพาแม่ทัพสองสามคนออกไปอย่างรวดเร็วผู้คนกำลังจะออกจากฐานทัพ ทว่ากลับเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินไล่แกะไปยังฐานทัพในรถไม้นั่นยังมีไก่เป็ดปลาเนื้อจำนวนมาก ดูเสียจนต้องกลืนน้ำลาย“พวกเจ้าทำอะไรน่ะ?”ฮั่วกู้เรียกทหารคนหนึ่งไว้ แล้วตะคอกไม่พอใจ “ของบำรุงพวกนี้ ใครให้พวกเจ้าส่งมา?”มารดามันเถอะ!ทหารชั้นยอดของตนยังไม่เคยได้รับของบำรุงเช่นนี้เลย!แต่กลับส่งเนื้อมากมายเพียงนี้มาให้กับทหารถุนเถียนพวกนี้อีก?ของดีๆ มอบให้กับหยุนเจิงผู้เป็นท่านอ๋องคนนี้หมดจริงๆแม่ทัพน้
อีกอย่าง คนอื่นเขาเพียงแค่หาคนมาเรียกร้องความยุติธรรมเท่านั้น เขาจะตัดศีรษะคนอื่นเขาทำไมกัน?ไม่ชอบใจก็แค่ทำให้ตกใจสักหน่อยเป็นพอ!จะตัดศีรษะจริงๆ ได้อย่างไร!“อืมๆ!”ทุกคนพยักหน้า แล้วออกไปจากกระโจม“ท่านจะให้ดาบห้าร้อยเล่มกับพวกเขาจริงหรือ?”จนถึงบัดนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนถึงได้ถามหยุนเจิงอย่างสงสัยนางรู้สึกว่าหยุนเจิงจอมร้ายกาจนี่ไม่มีทางมอบดาบให้ฮั่วกู้แน่นอน“ให้สิ!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มๆ “ข้าน่ะเชื่อได้ที่สุดแล้ว บอกว่าจะให้ก็ต้องให้!”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิ้ว เอ่ยไม่พอใจ “คนของเรายังมีคนมากมายที่ไม่มีอาวุธนั้นเลย!”ปัจจุบัน นอกเหนือจากนางและหยุนเจิงแล้ว คนที่สามารถติดตั้งอาวุธที่สร้างจากเหล็กมีลวดลายก็มีเพียงทหารจวนหนึ่งพันนายของหยุนเจิงและองครักษ์ข้างกายอย่างพวกเกาเหอเท่านั้นแม้แต่ทหารรักษาพระองค์สิบกว่านายที่นางคัดเลือกจากตระกูลเสิ่น ก็ไม่มีอาวุธนี้ใช้ด้วยซ้ำ“รอให้ตีดาบเสร็จก็มีแล้วไม่ใช่หรือไง?”หยุนเจิงเอ่ยยิ้มแย้ม “ฮั่วกู้จะส่งช่างตีเหล็กมาไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นผนวกกับช่างตีเหล็กของเรา เพียงแค่ชำนาญแล้วไม่นานก็จะสามารถสร้างอาวุธของทุกคนออกมาได้.“เช่นนั้นสามารถ
คนเยอะกำลังมาก เพิ่งผ่านช่วงเย็นไป ต้นแบบของโรงหลอมก็ปรากฏขึ้นแล้วถึงจะหยาบไปหน่อย แต่ขอแค่ใช้งานได้ก็เป็นพอ!เรื่องอื่นสามารถใช้ไปแก้ไปได้ขณะที่เข้าใกล้ช่วงค่ำ ฮั่วกู้ก็ได้ส่งคนนำชุดเกราะหนึ่งพันชุดมาให้คนที่รับผิดชอบนำชุดเกราะมาส่งคือหม่าเซียนและทหารร้อยนายของเขาพวกเขาเพิ่งเข้าใกล้ที่หมาย ก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นของเนื้อกลิ่นหอมที่ลอยแตะจมูกทำให้ผู้คนอดกลืนน้ำลายไม่ได้“หม่าโถวเอ๋อร์ ทหารพวกนี้กินอะไรอยู่กัน? กลิ่นหอมเชียว!”ทหารหวังกุ้ยพลางกลืนน้ำลายพลางถามหม่าเซียน“ไร้สาระ!”หม่าเซียนตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ปกติเจ้าชอบบอกว่าตนเป็นจมูกสุนัขไม่ใช่หรือ? กลิ่นหอมของเนื้อชัดเจนปานนี้ดมไม่ออกหรือ?”“ข้ารู้ว่านี่กลิ่นหอมจากเนื้อ!”หวังกุ้ยกลืนน้ำลายอีกครั้ง “แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่าทหารพวกนี้จะได้กินเนื้อน่ะ!”กินเนื้อสำหรับทหารธรรมดาทั่วไปแล้วเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยมากแม้จะเป็นกองทหารมณฑลทางเหนืออย่างมากก็ได้กินเนื้อเพียงแค่เดือนละสองครั้งเท่านั้นอีกอย่าง เนื้อยังน้อยมากเสียจนน่าสงสาร คนหนึ่งได้กินเนื้อดิบเพียงหนึ่งถึงสองชิ้นเท่านั้น!เนื้อที่ต้มสุกแล้วก็หดเหลือขนาดเท่ารูฟันเท่าน