เขาพบว่าคนพวกนี้ใจเย็นเกินไป!เผชิญหน้ากับพวกเขาที่มีจำนวนคนมากมาย แต่กลับไม่เผยสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดสถานการณ์เช่นนี้เห็นได้ชัดว่าผิดปกติมารดามันเถอะ!นี่คงไม่ใช่กับดักของทางการหรอกกระมัง?ทหารม้าหลายสิบนายนี้ก็ดูไม่ใช่พวกต่อกรง่ายเสียด้วย!หากลงไม้ลงมือขึ้นมาจริงๆ พวกเขาต้องบาดเจ็บเสียชีวิตหลายนายแน่!ตอบตกลงเจ้าเด็กนี่ดีหรือไม่?แต่ทว่า เมื่อเขาหันไปมองกลุ่มสตรีพวกเสิ่นลั่วเยี่ยนแล้ว ก็ตัดใจทำเช่นนั้นไม่ลงเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้เห็นสตรีงดงามเช่นนี้แถมยังไม่ใช่เพียงคนเดียวด้วย!บุรุษมีชีวิตอยู่ทั้งชาติก็เพื่อสองสิ่งไม่ใช่หรือ?สตรีงดงามเช่นนี้ ปล่อยไปแม้แต่ฝันตนก็คงรู้สึกเสียดายขณะที่จ้าวเฮยหู่กำลังสับสนลังเลอยู่นั้น บุคคลหนึ่งที่อยู่ข้างๆ พลางเอ่ยเรียกสติขึ้น “นายท่านหู่ เด็กนี่มันกำลังยื้อเวลาอยู่แน่! อย่าฟังมันสาธยายต่อไปเลย! รีบลงมือเถอะ!”ยื้อเวลานั้นหรือ?จ้าวเฮยหู่ได้สติในบัดดลจริงด้วย คนพวกนี้ต้องกำลังยื้อเวลาอยู่แน่ๆ!เมื่อคิดเช่นนี้ จ้าวเฮยหู่จึงรีบเอ่ยตะคอกด้วยโทสะว่า “นี่ เจ้าเด็กน้อย ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ทิ้งของที่ข้าต้องการไว้ แล
เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งก้านธูป สงครามครั้งนี้ก็สิ้นสุดลงเมื่อเผชิญหน้ากับนกที่ตกใจจนสติหลุดแล้ว หยุนเจิงพวกเขาไม่มีผู้ใดเสียชีวิตในสงคราม มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับบาดเจ็บเบาๆ ขณะที่พุ่งโจมตีเท่านั้น และยังมีอีกไม่กี่คนที่บาดเจ็บจากการตกม้าเพราะขี่ม้าไม่ชำนาญ“ขายขี้หน้าจริงๆ!”มองดูทหารที่บาดเจ็บจากการตกม้าแล้ว ทำให้หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะบ่นสั่งสอนยังดีที่พวกเขาโชคดี ผนวกกับพวกเขามีม้าเพียงพันตัวเท่านั้นจึงทำให้เจ้าพวกดวงไม่ดีรอดชีวิตมาได้หากมีม้าสักหมื่นตัวล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาคงได้เสียชีวิตคาเท้าม้ากลายเป็นโคลนเนื้อไปแล้วเมื่อเห็นสายตาของหยุนเจิงแล้ว คนเหล่านั้นจึงพากันก้มศีรษะอย่างรู้สึกผิด“องค์ชายอย่ากริ้วไป”จั่วเริ่นออกมาพูดแทนคนเหล่านี้ “ก่อนหน้านี้เรามีกำลังม้าจำกัด มีคนมากมายที่ไม่ได้ฝึกซ้อมดีๆ ผนวกกับเพิ่งทำสงครามครั้งแรก พวกเขาย่อมหวาดหวั่นเป็นธรรมดา…”กล่าวตามตรงจั่วเริ่นเองก็รู้สึกว่าพวกเขาขายขี้หน้าเช่นกันจากที่เขาดูแล้ว ทหารม้านับพันไม่ควรจะบาดเจ็บจากการสู้รบกับนกพวกนี้ด้วยซ้ำ!แต่ทว่า คนของพวกเขามีเวลาฝึกซ้อมอย่างจำกัด อีกอย่างมีหลายคนที่เพิ่งเคยเข้าร่วมสงครา
“ขอองค์ชายโปรดให้ทางรอดแก่ผู้น้อยด้วย ผู้น้อยยอมเป็นสุนัขเป็นม้ารับใช้ให้ท่าน…”จ้าวเฮยหู่ฝืนความเจ็บปวดลุกขึ้นคุกเข่า และโขกศีรษะขอความเมตตาไม่หยุดหย่อนเสิ่นลั่วเยี่ยนแอบลังเลแล้วเดินเข้าไปเอ่ยว่า “ฝีมือของเขาไม่เลวเลย อย่างไรก็จะตายอยู่แล้ว สู้รับเขาเข้ากองทัพแล้วให้ตายในสนามรบดีกว่า!”“เขาไม่คู่ควร!”หยุนเจิงปฏิเสธเสียงแข็ง “หากเขาเป็นศาลเตี้ย ข้าไม่เพียงไม่สังหารเขา แต่ยังจะใช้งานเขาด้วย! แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่!”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิ้วเบาๆ “สังหารไปเช่นนี้ น่าเสียดายไปหน่อยกระมัง?”ฝีมือของจ้าวเฮยหู่น่าจะไม่สู้ต่ำไปกว่าจั่วเริ่นพวกเขาหากจัดให้เป็นหนึ่งในลูกมือของหยุนเจิง ถือว่าไม่เลวเลยจัดให้ไปสู้รบ ไม่แน่อาจจะกำจัดคนเป่ยซั่วได้หลายคนด้วย“ไม่เสียดาย การตายของเขาถือว่าโชคดีแล้ว!”หยุนเจิงส่ายศีรษะแล้วเอ่ยเสียงสูงขึ้นพร้อมตะโกนด้วยน้ำเสียงสังหาร “วันนี้ ข้าจะใช้คนคนนี้ร่างกฏระเบียบให้กับพวกเจ้าหนึ่งข้อ! ในกองทัพของข้า หากมีผู้ใดที่กล้าล่วงประเวณีหญิงสาว ไม่ว่าเจ้าจะทำผลงานมากมายเพียงใด ขอเพียงข้าจับได้ เท่ากับตายสถานเดียว!”แววตาของหยุนเจิงเด็ดขาด น้ำเสียงแน่วแน่ดู
หยุนเจิงและจางซูอาเจียนอยู่นานมากทุกครั้งที่คนหนึ่งกำลังจะหายดีแล้ว แต่เมื่อได้ยินเสียงอาเจียนของอีกฝ่ายหนึ่ง ตนก็จะอดไม่ได้อาเจียนตามเยี่ยจื่อเองก็ไม่รู้ว่าทั้งสองจะอาเจียนถึงเมื่อไหร่ ทำได้เพียงให้คนไปตักน้ำมา รอเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับหยุนเจิงจนกระทั่งทั้งสองอาเจียนจนไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ทว่าทั้งสองก็ยังคงมีอาการกระอักกระอ่วนอยู่ผ่านไปราวๆ สองเค่อ ในที่สุดทั้งสองก็หยุดอาเจียนได้เสียทีหยุนเจิงเดินออกมาจากผืนป่าด้วยสีหน้าซีดเผือด กลับพบว่าผู้คนกำลังจ้องมองตนอยู่“มองอะไรกัน?”หยุนเจิงเบิกตามองฝูงชน “ข้าเป็นคนจิตใจดี ไม่เคยสังหารใครมาก่อน! คิดว่าข้าเป็นพวกกระหายเลือดเหมือนพวกเจ้าหรือไง!”“ฮ่าๆ…”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ฝูงชนพลันอดไม่ได้หัวเราะร่าขึ้นมาตามด้วยเสียงหัวเราะของฝูงชน กลิ่นอายสังหารก็ค่อยๆ จางหายไปด้วยขณะนี้ ซินเซิงได้สติรีบวิ่งเข้าไปพยุงตัว“ไม่ต้องพยุงข้า ไปเตรียมน้ำเกลือมาให้ข้าก็พอ แล้วก็เตรียมให้จางซูด้วย”หยุนเจิงโบกมือให้กับซินเซิง ยืนหยัดจะเดินออกไปด้วยตนเองอาเจียนขนาดนี้ก็หน้าขายหน้ามากแล้วหากยังเดินไม่ได้อีกจะยิ่งขายหน้าเข้าไปใหญ่จางซูท
เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง คนทั้งสามในรถม้าก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดพร้อมๆ กันใช่!ในเมื่อหยุนเจิงกำลังจะไปที่ซั่วเป่ย จะต้องผ่านด่านนี้ไม่ช้าก็เร็วตอนนี้อาเจียนออกสักหน่อยก็ดีถ้าในระหว่างการสู้รบกับเป่ยหวน ทหารฝ่ายตัวเองกำลังเข่นฆ่าจนท้องฟ้ามืดมิดอยู่ด้านหน้า แต่เขากลับอาเจียนโอ้กอ้ากอยู่ด้านหลัง นี่สิถึงจะเป็นเรื่องที่น่าขบขันที่สุด“ถึงวันนี้เจ้าจะรู้สึกน่าขายหน้า แต่ต้องบอกว่า เจ้ายังนับว่าเป็นบุรุษ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนส่งสายตาชื่นชมที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักไปทางหยุนเจิง “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎข้อนี้ที่ห้ามทหารข่มขืนสตรีโดยเด็ดขาด!”สำหรับกฎข้อนี้ นางเห็นด้วยเต็มที่นางก็เป็นสตรีหากนางถูกศัตรูจับตัวไปเป็นเชลย นางยอมตายดีกว่าถูกข่มขืนอย่างแน่นอนสำหรับสตรีคนหนึ่ง การถูกศัตรูฆ่าและการถูกศัตรูข่มขืนเป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันเมื่อได้ฟังคำชมของเสิ่นลั่วเยี่ยน หยุนเจิงก็ส่ายหัวเบาๆ “ที่ตั้งกฎข้อนี้ขึ้นมา ไม่เกี่ยวอะไรกับการว่าข้าเป็นบุรุษหรือไม่”“แล้วเกี่ยวกับอะไร” เสิ่นลั่วเยี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจหยุนเจิงถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดเนิบๆ “ที่สุดแล้วพวกเราก็จะกลายเป็นมารร้าย! แต่ ไม่
เวลาพลบค่ำ กัวทงผู้ว่าการมณฑลอู่หยางพากำลังคนนับร้อยตามมาทั้งที่อยู่ห่างออกไปไกล แต่ฝูงชนกลับได้กลิ่นคาวเลือดอันแสบจมูก“ใต้เท้า สถานการณ์ดูแปลกๆ ไม่ชอบมาพากลนะ!”จวินเฉิงขมวดคิ้วพลางเอ่ยเสียงต่ำว่า “องค์ชายหกคงไม่ได้จะฆ่าพวกเราหรอกกระมัง?”“เขาไม่กล้าหรอก!”กัวทงแค่นเสียงเย็นชา แล้วคัดค้าน “พวกเราต่างก็เป็นข้าหลวงของราชวงศ์ แม้ว่าเขาจะเป็นองค์ชาย แต่หากไม่ผ่านการไต่สวน เขาก็ไม่สามารถฆ่าเราได้! อีกอย่าง องค์ชายหกผู้นี้เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น เจ้าคิดว่าเขาจะมีความกล้านั้นหรือ?”“เป็นเช่นนี้ก็จริง แต่ข้าก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี!” จวินเฉิงขมวดคิ้วเอ่ย “ทางนี้ดูเหมือนจะมีคนเสียชีวิตไปไม่น้อย เป็นไปได้หรือไม่ที่องค์ชายหกถูกกลุ่มจ้าวเฮยหู่โจมตี แล้วอยากระบายอารมณ์กับพวกเราน่ะ?”มันจะเป็นเรื่องปกติหากหยุนเจิงวิ่งไปที่จวนผู้ว่ามณฑลเองทว่าหยุนเจิงกลับสั่งการให้พวกเขามาที่นี่ อีกอย่างกลิ่นคาวเลือดที่นี่ยังรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่าผิดปกติ!“อย่าลนลาน!”กัวทงหัวเราะเหอะๆ “จ้าวเฮยหู่โจมตีคนของเขาแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย? เราเกี่ยวข้องอะไรกับจ้าวเฮยหู่”“แต่เขาจะเอาเรื่องท
หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ จู่ๆ ก็เปลี่ยนน้ำเสียงพูด “แต่ทว่า จะบอกว่าข้าคืนความเงียบสงบให้กับชาวบ้านมณฑลอู่หยางนั้นเกินไปจริงๆ!”“ท่านอ๋องถ่อมตัวเกินไปแล้ว”กัวทงรีบเอ่ย “ชาวบ้านมณฑลอู่หยางกังวลเกี่ยวกับโจรพวกนี้มานาน เพราะว่าโจรพวกนี้ถึงทำให้ชาวบ้านมณฑลอู่หยางทุกข์ยาก! ข้าไร้ความสามารถ ส่งกองกำลังไปกำราบหลายครั้ง แต่ทว่าคนกลุ่มนี้มีกลอุบายมาก ทำให้ไม่สามารถกำราบได้สำเร็จ! บัดนี้ท่านอ๋องได้กำจัดโจรกลุ่มนี้แล้ว ในที่สุดชาวบ้านมณฑลอู่หยางก็ได้ใช้ชีวิตสงบสุขเสียที”กัวทงพูดจาสวยหรูมากทั้งชื่นชมเรื่องที่หยุนเจิงกำจัดโจรได้ ทั้งยังพูดเรื่องที่เขาส่งกำลังคนไปกำจัดโจรออกมาด้วยใช่ว่าเขาไม่ส่งทหารไปกำราบโจร!แต่เพราะพวกโจรมีกลอุบายมากเกินไป!หยุนเจิงฟังแล้วพลันอดไม่ได้ส่ายศีรษะยิ้มเยาะกัวทงคนนี้พูดจาเก่งจริงๆ!เกรงว่าความคิดของเขาคงจะใช้ไปกับการหาเงินและหาวิธีพูดจาสวยหรูกระมัง?ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนเช่นนี้นี่มันเยอะมากเสียจริง!“ข้ามีใจอยากคืนความสงบสุขให้กับชาวบ้านมณฑลอู่หยางจริง”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ แล้วจ้องกัวทงพลางเอ่ยว่า “ทว่าหากข้าต้องการบรรลุเป้าหมายนั้นจะต้องขอยืมของบางอย
หลังจากคำพูดของหยุนเจิงหยุดลง กัวทงและคนอื่นๆ พลันตกใจจนหน้าซีดเซ๊ยวขณะที่หยุนเจิงค่อยๆ ชักกระบี่ออกมา ใจของผู้คนยิ่งตกไปถึงตาตุ่มกัวทงพยายามทำให้ตนเองแน่วแน่ ตะโกนพูดขึ้นว่า “หากท่านอ๋องคิดจะฆ่าข้าจริงๆ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด! แต่หากท่านอ๋องจะกล่าวหาว่าข้าเป็นข้าหลวงทุจริต ข้าไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด! ข้ายอมตายได้ แต่ไม่ยอมแบกรับชื่อเสียอันเสื่อมโทรมนี้ได้!”“จริงหรือ?”หยุนเจิงกวาดตามองกัวทงด้วยแววตาเยือกเย็นไอ้สุนัขนี่ คุณภาพทางจิตวิทยาไม่เลวเลย!เวลานี้แล้วยังจะแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์อีก?โจรพวกนั้นพูดถึงการทุจริต ‘อันรุ่งโรจน์’ ของกัวทงไม่น้อยเลยนะ!ผ่านไปสักครู่ หยุนเจิงพลางเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ผู้ว่าการกัวใช่ข้าหลวงทุจริตจริงหรือไม่ เราค่อยมาพูดกัน! ในเมื่อพวกเจ้ามากันแล้ว ข้าจะขอเชิญพวกเจ้าให้ดูละครน่าสนใจสักหน่อยแล้วกัน!”กล่าวจบ หยุนเจิงก็โบกมือให้กับตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลออกไปผู้คนรับรู้ จากนั้นก็คุมตัวโจรหลายสิบคนออกมาตรงหน้ากัวทงและคนอื่นๆขณะที่กัวทงคิดว่าหยุนเจิงจะให้คนเหล่านี้ชี้ตัวตนนั้น จู่ๆ ฝูงชนก็ชักกระบี่ขึ้นมา“ชิ้ง…”กระบี่หลุดออกชิ้ง!ชิ้ง!แสง