แชร์

บทที่ 238

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-13 17:00:00
หยุนลี่เพิ่งเดินไป เสิ่นลั่วเยี่ยนมองตามแผ่นหลังหยุนเจิงด้วยความเกลียดชัง “เอาเงินห้าหมื่นตำลึงไปไถ่ตัวหญิงโคมเขียว! เจ้ามันน่านัก!”

“นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”

เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่สบอารมณ์แล้ว “นี่เจ้าคิดว่าพี่สามเป็นคนเช่นไร?”

ใบหน้าเสิ่นลั่วเยี่ยนกระตุกเล็กน้อย กล่าวด้วยความโกรธว่า “ข้าพูดถึงเจ้า ไม่ใช่องค์ชายสาม!”

“แต่ข้าพูดถึงพี่สาม”

หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้มพลางกล่าว “พี่สามแค่ล้อเล่นกับข้า! พี่สามใจดีกับข้าถึงเพียงนั้น จะเอาเงินข้าจริงๆ ได้อย่างไรกันเล่า พี่สามมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้ข้าแล้ว!”

“เจ้าฝันกลางวันไปแล้วกระมัง!”

เสิ่นลั่วเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกด้วยความเย้ยหยัน

มอบให้เขาอย่างนั้นหรือ?

หากองค์ชายสามเต็มใจจะมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้เขาตั้งแต่แรกจริงๆ คงไม่ยื้อมานานถึงเพียงนี้หรอก

เขาคิดว่าองค์ชายสามจะว่างเหมือนเขาอย่างนั้นหรือ

“ข้าว่าเจ้ามีอคติกับพี่สามของข้ามากเกินไปแล้วกระมัง!”

หยุนเจิงส่ายหน้าพลางกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “อันที่จริงแล้วพี่สามเป็นคนมีคุณธรรมมากนะ!”

มีคุณธรรมอย่างนั้นหรือ?

เสิ่นลั่วเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะหัวเราะเยาะออกมา

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 239

    หลังจากที่ออกมาจากจวนหยุนเจิง หยุนลี่ก็มุ่งตรงไปที่จวนของสวีสือฝู่ทันทีเมื่อได้ยินคำเล่าของหยุนลี่ สวีสือฝู่ไม่เพียงแต่พยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น แต่ยังกล่าวด้วยความปลื้มอกปลื้มใจอีกว่า “เจ้าคิดได้ถึงขั้นนี้ ช่างหายากจริงๆ! ดูท่า เจ้าโตแล้วจริงๆ!”หยุนลี่หน้าแดงด้วยความเขินอาย กล่าวถามอีกว่า “ท่านอาเองก็คิดว่าหลานเดาถูกใช่หรือไม่?”“เป็นจริงเช่นนั้น!”สวีสือฝู่พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ใจจริงฝ่าบาทไม่อยากให้หยุนเจิงไปซั่วเป่ย แต่กลับจำใจต้องให้เข้าไป! หากเจ้าทำให้งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ครั้งนี้กลายเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิง เจ้าจะต้องได้ใจจากฝ่าบาทเป็นแน่!”ในตอนนี้ สวีสือฝู่ทอดถอนใจแล้วเหตุใดตนเองถึงไม่นึกถึข้อนี้เลยจักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่เป็นคนจัดงานเลี้ยววันไหว้พระจันทร์ขึ้น ก็เพื่อหวังให้เขาจัดเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิงแน่นอน!นี่ก็เป็นการทดสอบหยุนลี่ของจักรพรรดิเหวิน เพื่อดูว่าหยุนลี่เปลี่ยนตัวเองแล้วจริงๆ หรือไม่!หากจัดการเรื่องนี้ได้ดี และตราบใดที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดใดขึ้นอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาก็จะมั่นคงขึ้นแล้ว!ได้ยินสวีสือฝู่วิเคราะห์เช่นนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-14
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 240

    หากนางไปกราบทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ มันจะส่งผลเสียต่อตัวเขาเองช่างเถอะ!อดทนไปก่อนก็แล้วกัน!วันหน้าหากตนเองได้ขึ้นบัลลังก์มังกร คนแรกที่เขาจะกำจัดก็คือนางผู้อิจฉาริษยาผู้นี้นี่แหละ!หลังจากสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ไปหลายครั้ง ในที่สุดหยุนลี่ก็ตัดสินใจไม่วู่วามที่จะทุบตีชายาองค์ชายสาม……วันต่อมา หยุนเจิงไปหาองค์ชายรองและพวกเพื่อทวงหนี้พนันที่พวกเขาค้างเอาไว้ในก่อนหน้านี้เยี่ยจื่อเอาเหตุผลที่ว่าจะไปทำธุระข้างนอก เพื่อหาโอกาสที่จะได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวไร้หนทาง ตอนนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนได้แต่งเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องแล้ว สาวน้อยผู้นี้มีอคติต่อหยุนเจิงมากอยู่แล้ว แม้แต่ตอนนอนก็จะต้องหนีไปนอนในห้องนางให้ได้ ยากมากที่นางจะมีโอกาสได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวในที่สุดเยี่ยจื่อก็ฉวยโอกาสนี้ถามเรื่องที่หยุนเจิงคุยกับหยุนลี่ในห้องตำราจนกระจ่างแล้ว และในที่สุดนางก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ของหยุนเจิงแล้ว“นี่เจ้าอดใจไม่ไหวอยากให้หยุนลี่ได้ตำแหน่งมากถึงปานนั้นเลยหรือ?”เยี่ยจื่อโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งหยุนเจิง“ข้าก็ทำได้แค่ช่วยเขาก็เท่านั้น!”หยุนเจิงยักไหล่ “อย่างไรเสียข้าก็เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-14
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 241

    วันนั้นตอนบ่าย องค์ชายสองและคนอื่นๆ ได้ส่งคนมามอบเงินหยุนเจิงก็คืนใบแจ้งหนี้ให้แก่พวกเขามีเงินอีกหกหมื่นตำลึงเข้ามาในบัญชี ถูกใจสุดๆ!เมื่อมองตั๋วเงินที่อยู่ในมือ หยุนเจิงก็จมอยู่ในความคิดอีกครั้งอื้ม กลับไปต้องให้เยี่ยจื่อนำตั๋วเงินเหล่านี้ไปแลกเป็นทองคำบริสุทธิ์ทั้งหมดเมื่อถึงซั่วเป่ย สิ่งของอย่างตั๋วเงินอาจไม่มีความหมาย!ควรแลกเป็นทองคำทั้งหมดจะดีที่สุด!เงินมากเงินไป อาจพกพาไม่สะดวกยามค่ำคืน หยุนเจิงนอนในห้องเพียงผู้เดียวเสิ่นลั่วเยี่ยนยังคงโกรธเขาอยู่ จึงไปนอนกับเยี่ยจื่อเมื่อมองฟูกที่นอนที่อยู่ข้างกาย หยุนเจิงก็แอบรู้สึกไม่พอใจเสิ่นลั่วเยี่ยน นางเสือร้าย นางไม่ยอมนอนกับตัวเองก็มากพอแล้ว ยังจะไปนอนกับเยี่ยจื่ออีก ทำให้ตัวเองไม่มีโอกาสได้สร้างสัมพันธ์กับนางเลย!นางเสือร้าย!ไม่มีจิตสำนึกของคนที่เป็นภรรยาสักนิดเดียว!ช่างเถอะ!ให้พวกนางเคยชินกับการนอนด้วยกันก็ดี!เมื่อคิดดูแล้ว หยุนเจิงก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมาอีกครั้งขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดฟุ้งซ่าน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก“ใคร?”หยุนเจิงหลุดจากภวังค์ความคิด และ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-14
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 242

    ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า นี่ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดาแน่นอน!หากเป็นเพียงศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดา แสดงในสนามฝึกก็ได้หนานย่วน!นั่นคือสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์เชียวนะ!นี่แสดงให้เห็นชัดเลยว่าเสด็จพ่อกำลังจัดการซ้อมอย่างจริงจัง!ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของตัวเอง เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกัน!น่าเบื่อจริง!“มัวอ้ำอึ้งอะไรอยู่เล่า?”เมื่อเห็นว่าหยุนเจิงนั่งราวกับกำลังเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ไม่พอใจในทันที “รีบกินข้า กินข้าวเสร็จก็ไปเขาเมาเอ่อร์เพื่อปรับปรุงทหารจวน!”เรื่องอื่นๆ นางไม่ชำนาญแต่การรบราฆ่าฟัน นางมั่นใจว่าตัวเองชำนาญอย่างมากอย่างน้อย ก็ดีกว่าหยุนเจิง!“เจ้าจะตื่นเต้นไปทำไมกัน?”หยุนเจิงกลอกตามองเสิ่นลั่วเยี่ยน และโยนพระราชโองการให้นาง “หากเจ้าฟังพระราชโองการไม่ชัดเจน เจ้าอ่านดูอีกรอบก็ได้นะ! ข้าคือแม่ทัพ เจ้าคือรองแม่ทัพ! เจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า!”“ท่านเนี่ยนะ?!”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่ไว้หน้าหยุนเจิงแม้แต่น้อย “ให้ท่านเป็นแม่ทัพ พวกเราไม่ต้องแสดงศิลปะการต่อสู้กันเลยดีกว่า ยอมแพ้ล่วงหน้าไปเลยก็ได้!”“...”หยุนเจิงทั้งโมโหทั้งตลก จากนั้นก็พูดอย่างนิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 243

    หยุนเจิงหดหู่ใจอย่างมากเขาไม่รู้ว่าควรขอบคุณหรือด่าสองพ่อลูกตระกูลฉินดีหากจะด่าพวกเขา แต่พวกเขาก็ทำเพราะความหวังดีฉินชีหู่เป็นถึงผู้บัญชาการกองทหารเสินอู่เมื่อห้าปีก่อน หากไม่ใช่เพราะความหวังดี มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องบากหน้ามาเป็นรองแม่ทัพของตัวเอง?หากจะขอบคุณพวกเขา ฉินชีหู่ติดตามตัวเอง จะต้องทำให้ตัวเองผิดแผนอย่างแน่นอน!น่าเบื่อฉิบหายเลย!ก่อนจากไป ฉินชีหู่ยังกำชับหยุนเจิงอีกว่า อย่าพูดเรื่องที่พวกเขาคุยกันกับใครเด็ดขาดยังต้องบอกกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ ว่า วันนี้ไม่ได้พบเขามาก่อนเมื่อส่งฉินชีหู่ไปไกลแล้ว หยุนเจิงก็แอบฝืนยิ้มเงียบๆได้!การแสดงศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะให้ได้!หากว่าพ่ายแพ้ ฉินชีหู่ต้องติดตามเขา ต่อไปจะทำเฮี้ยอะไรได้บ้าง!แต่ว่าฉินชีหู่ไม่ได้บอกรายละเอียดของการแสดงศิลปะการต่อสู้กับเขาเพราะว่าจักรพรรดิเหวินก็ไม่ได้พูดจักรพรรดิเหวินเพียงแค่กำหนดเรื่องการแสดงศิลปะการต่อสู้ ส่วนเรื่องรายละเอียดของการแสดงศิลปะการต่อสู้ เขายังไม่ประกาศออกมาฉินชีหู่คาดเดาว่า จักรพรรดิเหวินรอประกาศในวันที่มีการแสดงศิลปะการต่อสู้“ฉินชีหู่พู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 244

    “พ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามรับคำสั่งทันที และรีบจัดระเบียบทหารจวนให้เริ่มทำการฝึกซ้อมเมื่อดูไปเรื่อยๆ หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาคนของกองทหารเสินอู่ที่เพิ่งโยกย้ายเข้ามาและทหารจวนที่มีอยู่เป็นเหมือนกับสองมือที่ไม่ประสานกัน มักจะเกิดการชนกันอยู่เสมอ มองดูแล้วเหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน“หยุด หยุด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนสั่งให้หยุดซ้อม และพูดด้วยความโมโหว่า “พวกเจ้ากำลังซ้อมอะไรกันอยู่? แม้แต่ความพร้อมเพรียงยังทำไม่ได้ จะฝึกซ้อมรูปแบบการทำสงครามได้อย่างไรกัน?”“ไม่ต้องสนใจนาง ฝึกซ้อมต่อไป!”หยุนเจิงเปิดปากพูดทันที เพื่อให้ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ฝึกซ้อมต่อไป“ข้าบอกให้หยุด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดเสียงดังทันที “พวกเขาเป็นแบบนี้ ไม่ต้องฝึกซ้อมแล้ว!”“ซ้อมต่อไป!”หยุนเจิงก็เสียงดังเช่นกัน และพูดตะโกนอย่างรุนแรงว่า “นอกจากข้าแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่บังอาจรบกวนการฝึกซ้อม ข้าจะลงโทษด้วยการโบยสามสิบไม้!”“ท่าน...”เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธมาก และจ้องหน้าหยุนเจิงด้วยความเคียดแค้น“ข้าเป็นแม่ทัพ!”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเขาจำเป็นต้องสร้างบารมีและชื่อเสียงต่อหน้าคนเหล่านี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-15
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 245

    เมื่อได้รับคำชี้แนะจากหยุนเจิงแล้ว ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ก็รีบไปเลือกผู้ที่เหมาะสมทันทีไม่นาน พวกเขาก็ตัดสินใจเลือกคนได้แล้วเฝิงอวี้เดิมที่คนผู้นี้ก็คือนายกองทหารราบในกองทหารเสินอู่ รับผิดชอบดูแลทหารสองกองการให้เขาจัดกำลังห้าร้อยคนนี้ ถือว่าเหลือเฟือจั่วเริ่นถึงขนาดแนะนำหยุนเจิงว่า ให้เฝิงอวี้เป็นแม่ทัพ และเขาจะเป็นรองแม่ทัพให้แก่เฝิงอวี้“ได้!”หยุนเจิงตอบรับอย่างทันท่วงที และแอบพยักหน้าในใจเงียบๆจั่วเริ่นเป็นคนที่ไม่เลวเลยทีเดียวรู้ว่าต้องอุ้มชูคนหนึ่งในบรรดากองทหารเสินอู่ขึ้นมา เพื่อไม่ให้คนที่เพิ่งโยกย้ายมาใหม่คิดว่าท่านอ๋องเลือกแค่คนที่สนิทชิดเชื้อเท่านั้นเมื่อไปถึงซั่วเป่ยแล้ว จะต้องให้จั่วเริ่นนำทัพอย่างแน่นอน!หยุนเจิงพูดคุยกับเฝิงอวี้อย่างง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ จึงให้ทุกคนทำการฝึกซ้อมต่อไปเพียงทำตามวิชาการฝึกซ้อมตามปกติ ฝึกฝนตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลกับพวกเขาเลยจากนั้นหยุนเจิงก็สั่งโจวมี่อีกว่า “เจ้ารีบพาคนครัวไปซื้อเนื้อหมูกลับมา ค่ำนี้เราจะเพิ่มอาหารให้กับทุกคน! นอกจากนั้นก็ซื้อเหล้าดีๆ มาเยอะหน่อยนะ!”“ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”เสิ่นลั่วเยี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 246

    เพียงแค่ไม่รู้ว่า เสด็จพ่อวางแผนจะใช้คนจำนวนเท่าใดมาล้อมรอบพวกเขาพูดตามตรงว่า ตอนนี้เขารู้สึกว่างเปล่าเล็กน้อยสำหรับสนามล่าสัตว์อย่างหนานย่วน ถือว่ามีขนาดใหญ่มากแล้วแตาหากเป็นสนามรบ มันเล็กมากเกินไปจริงๆ!ภายในของเขตที่เล็กเช่นนี้ พื้นที่ในการไล่ล่าทางยุทธศาสตร์ต้องมีขนาดเล็กมาก หากว่าเสด็จพ่อระดมพลทหารเข้ามาจับตัว เขาคงไม่มีโอกาสหนีรอดอย่างแน่นอน!ได้แค่หวังว่าตาแก่นี่จะไม่ลงมือโหดเหี้ยมเกินไป!เขาไม่ต้องการให้ฉินชีหู่ติดตามเขาเลยจริงๆ!ตลอดทั้งวันนี้ หยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนต่างก็อยู่ที่เขาเมาเอ่อร์แม้ว่าหยุนเจิงจะให้โจวมี่นำคนไปซื้อสุรารสเลิศจำนวนมากกลับมา แต่ก็ไม่ได้ดื่มเวลากลางวันเมื่อตกกลางคืนกองไฟถูกจุดท่ามกลางสนามฝึกชั่วคราวของเขาเมาเอ่อร์ และส่องสว่างไปทั่วบริเวณคนครัวงานยุ่งตลอดทั้งบ่าย เพื่อทำอาหารจานหลักมากมายออกมาถึงสิบหม้อใหญ่เมื่อเห็นเนื้อชิ้นโตที่อยู่ในหม้อ คนจำนวนมากต่างก็แอบกลืนน้ำลายไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะหรือเก้าอี้ เพียงวางหม้อไว้กลางสนามฝึกก็พอหยุนเจิงหยิบจอกเหล้าขึ้นมา ดึงตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนที่ไม่ค่อยเต็มใจเดินมาตรงกลาง และพูด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-16

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status