หยุนลี่เพิ่งเดินไป เสิ่นลั่วเยี่ยนมองตามแผ่นหลังหยุนเจิงด้วยความเกลียดชัง “เอาเงินห้าหมื่นตำลึงไปไถ่ตัวหญิงโคมเขียว! เจ้ามันน่านัก!”“นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่สบอารมณ์แล้ว “นี่เจ้าคิดว่าพี่สามเป็นคนเช่นไร?”ใบหน้าเสิ่นลั่วเยี่ยนกระตุกเล็กน้อย กล่าวด้วยความโกรธว่า “ข้าพูดถึงเจ้า ไม่ใช่องค์ชายสาม!”“แต่ข้าพูดถึงพี่สาม”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้มพลางกล่าว “พี่สามแค่ล้อเล่นกับข้า! พี่สามใจดีกับข้าถึงเพียงนั้น จะเอาเงินข้าจริงๆ ได้อย่างไรกันเล่า พี่สามมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้ข้าแล้ว!”“เจ้าฝันกลางวันไปแล้วกระมัง!”เสิ่นลั่วเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกด้วยความเย้ยหยันมอบให้เขาอย่างนั้นหรือ?หากองค์ชายสามเต็มใจจะมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้เขาตั้งแต่แรกจริงๆ คงไม่ยื้อมานานถึงเพียงนี้หรอกเขาคิดว่าองค์ชายสามจะว่างเหมือนเขาอย่างนั้นหรือ“ข้าว่าเจ้ามีอคติกับพี่สามของข้ามากเกินไปแล้วกระมัง!”หยุนเจิงส่ายหน้าพลางกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “อันที่จริงแล้วพี่สามเป็นคนมีคุณธรรมมากนะ!”มีคุณธรรมอย่างนั้นหรือ?เสิ่นลั่วเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะหัวเราะเยาะออกมา
หลังจากที่ออกมาจากจวนหยุนเจิง หยุนลี่ก็มุ่งตรงไปที่จวนของสวีสือฝู่ทันทีเมื่อได้ยินคำเล่าของหยุนลี่ สวีสือฝู่ไม่เพียงแต่พยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น แต่ยังกล่าวด้วยความปลื้มอกปลื้มใจอีกว่า “เจ้าคิดได้ถึงขั้นนี้ ช่างหายากจริงๆ! ดูท่า เจ้าโตแล้วจริงๆ!”หยุนลี่หน้าแดงด้วยความเขินอาย กล่าวถามอีกว่า “ท่านอาเองก็คิดว่าหลานเดาถูกใช่หรือไม่?”“เป็นจริงเช่นนั้น!”สวีสือฝู่พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ใจจริงฝ่าบาทไม่อยากให้หยุนเจิงไปซั่วเป่ย แต่กลับจำใจต้องให้เข้าไป! หากเจ้าทำให้งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ครั้งนี้กลายเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิง เจ้าจะต้องได้ใจจากฝ่าบาทเป็นแน่!”ในตอนนี้ สวีสือฝู่ทอดถอนใจแล้วเหตุใดตนเองถึงไม่นึกถึข้อนี้เลยจักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่เป็นคนจัดงานเลี้ยววันไหว้พระจันทร์ขึ้น ก็เพื่อหวังให้เขาจัดเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิงแน่นอน!นี่ก็เป็นการทดสอบหยุนลี่ของจักรพรรดิเหวิน เพื่อดูว่าหยุนลี่เปลี่ยนตัวเองแล้วจริงๆ หรือไม่!หากจัดการเรื่องนี้ได้ดี และตราบใดที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดใดขึ้นอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาก็จะมั่นคงขึ้นแล้ว!ได้ยินสวีสือฝู่วิเคราะห์เช่นนี
หากนางไปกราบทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ มันจะส่งผลเสียต่อตัวเขาเองช่างเถอะ!อดทนไปก่อนก็แล้วกัน!วันหน้าหากตนเองได้ขึ้นบัลลังก์มังกร คนแรกที่เขาจะกำจัดก็คือนางผู้อิจฉาริษยาผู้นี้นี่แหละ!หลังจากสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ไปหลายครั้ง ในที่สุดหยุนลี่ก็ตัดสินใจไม่วู่วามที่จะทุบตีชายาองค์ชายสาม……วันต่อมา หยุนเจิงไปหาองค์ชายรองและพวกเพื่อทวงหนี้พนันที่พวกเขาค้างเอาไว้ในก่อนหน้านี้เยี่ยจื่อเอาเหตุผลที่ว่าจะไปทำธุระข้างนอก เพื่อหาโอกาสที่จะได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวไร้หนทาง ตอนนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนได้แต่งเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องแล้ว สาวน้อยผู้นี้มีอคติต่อหยุนเจิงมากอยู่แล้ว แม้แต่ตอนนอนก็จะต้องหนีไปนอนในห้องนางให้ได้ ยากมากที่นางจะมีโอกาสได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวในที่สุดเยี่ยจื่อก็ฉวยโอกาสนี้ถามเรื่องที่หยุนเจิงคุยกับหยุนลี่ในห้องตำราจนกระจ่างแล้ว และในที่สุดนางก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ของหยุนเจิงแล้ว“นี่เจ้าอดใจไม่ไหวอยากให้หยุนลี่ได้ตำแหน่งมากถึงปานนั้นเลยหรือ?”เยี่ยจื่อโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งหยุนเจิง“ข้าก็ทำได้แค่ช่วยเขาก็เท่านั้น!”หยุนเจิงยักไหล่ “อย่างไรเสียข้าก็เ
วันนั้นตอนบ่าย องค์ชายสองและคนอื่นๆ ได้ส่งคนมามอบเงินหยุนเจิงก็คืนใบแจ้งหนี้ให้แก่พวกเขามีเงินอีกหกหมื่นตำลึงเข้ามาในบัญชี ถูกใจสุดๆ!เมื่อมองตั๋วเงินที่อยู่ในมือ หยุนเจิงก็จมอยู่ในความคิดอีกครั้งอื้ม กลับไปต้องให้เยี่ยจื่อนำตั๋วเงินเหล่านี้ไปแลกเป็นทองคำบริสุทธิ์ทั้งหมดเมื่อถึงซั่วเป่ย สิ่งของอย่างตั๋วเงินอาจไม่มีความหมาย!ควรแลกเป็นทองคำทั้งหมดจะดีที่สุด!เงินมากเงินไป อาจพกพาไม่สะดวกยามค่ำคืน หยุนเจิงนอนในห้องเพียงผู้เดียวเสิ่นลั่วเยี่ยนยังคงโกรธเขาอยู่ จึงไปนอนกับเยี่ยจื่อเมื่อมองฟูกที่นอนที่อยู่ข้างกาย หยุนเจิงก็แอบรู้สึกไม่พอใจเสิ่นลั่วเยี่ยน นางเสือร้าย นางไม่ยอมนอนกับตัวเองก็มากพอแล้ว ยังจะไปนอนกับเยี่ยจื่ออีก ทำให้ตัวเองไม่มีโอกาสได้สร้างสัมพันธ์กับนางเลย!นางเสือร้าย!ไม่มีจิตสำนึกของคนที่เป็นภรรยาสักนิดเดียว!ช่างเถอะ!ให้พวกนางเคยชินกับการนอนด้วยกันก็ดี!เมื่อคิดดูแล้ว หยุนเจิงก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมาอีกครั้งขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดฟุ้งซ่าน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก“ใคร?”หยุนเจิงหลุดจากภวังค์ความคิด และ
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า นี่ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดาแน่นอน!หากเป็นเพียงศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดา แสดงในสนามฝึกก็ได้หนานย่วน!นั่นคือสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์เชียวนะ!นี่แสดงให้เห็นชัดเลยว่าเสด็จพ่อกำลังจัดการซ้อมอย่างจริงจัง!ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของตัวเอง เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกัน!น่าเบื่อจริง!“มัวอ้ำอึ้งอะไรอยู่เล่า?”เมื่อเห็นว่าหยุนเจิงนั่งราวกับกำลังเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ไม่พอใจในทันที “รีบกินข้า กินข้าวเสร็จก็ไปเขาเมาเอ่อร์เพื่อปรับปรุงทหารจวน!”เรื่องอื่นๆ นางไม่ชำนาญแต่การรบราฆ่าฟัน นางมั่นใจว่าตัวเองชำนาญอย่างมากอย่างน้อย ก็ดีกว่าหยุนเจิง!“เจ้าจะตื่นเต้นไปทำไมกัน?”หยุนเจิงกลอกตามองเสิ่นลั่วเยี่ยน และโยนพระราชโองการให้นาง “หากเจ้าฟังพระราชโองการไม่ชัดเจน เจ้าอ่านดูอีกรอบก็ได้นะ! ข้าคือแม่ทัพ เจ้าคือรองแม่ทัพ! เจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า!”“ท่านเนี่ยนะ?!”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่ไว้หน้าหยุนเจิงแม้แต่น้อย “ให้ท่านเป็นแม่ทัพ พวกเราไม่ต้องแสดงศิลปะการต่อสู้กันเลยดีกว่า ยอมแพ้ล่วงหน้าไปเลยก็ได้!”“...”หยุนเจิงทั้งโมโหทั้งตลก จากนั้นก็พูดอย่างนิ่ง
หยุนเจิงหดหู่ใจอย่างมากเขาไม่รู้ว่าควรขอบคุณหรือด่าสองพ่อลูกตระกูลฉินดีหากจะด่าพวกเขา แต่พวกเขาก็ทำเพราะความหวังดีฉินชีหู่เป็นถึงผู้บัญชาการกองทหารเสินอู่เมื่อห้าปีก่อน หากไม่ใช่เพราะความหวังดี มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องบากหน้ามาเป็นรองแม่ทัพของตัวเอง?หากจะขอบคุณพวกเขา ฉินชีหู่ติดตามตัวเอง จะต้องทำให้ตัวเองผิดแผนอย่างแน่นอน!น่าเบื่อฉิบหายเลย!ก่อนจากไป ฉินชีหู่ยังกำชับหยุนเจิงอีกว่า อย่าพูดเรื่องที่พวกเขาคุยกันกับใครเด็ดขาดยังต้องบอกกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ ว่า วันนี้ไม่ได้พบเขามาก่อนเมื่อส่งฉินชีหู่ไปไกลแล้ว หยุนเจิงก็แอบฝืนยิ้มเงียบๆได้!การแสดงศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะให้ได้!หากว่าพ่ายแพ้ ฉินชีหู่ต้องติดตามเขา ต่อไปจะทำเฮี้ยอะไรได้บ้าง!แต่ว่าฉินชีหู่ไม่ได้บอกรายละเอียดของการแสดงศิลปะการต่อสู้กับเขาเพราะว่าจักรพรรดิเหวินก็ไม่ได้พูดจักรพรรดิเหวินเพียงแค่กำหนดเรื่องการแสดงศิลปะการต่อสู้ ส่วนเรื่องรายละเอียดของการแสดงศิลปะการต่อสู้ เขายังไม่ประกาศออกมาฉินชีหู่คาดเดาว่า จักรพรรดิเหวินรอประกาศในวันที่มีการแสดงศิลปะการต่อสู้“ฉินชีหู่พู
“พ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามรับคำสั่งทันที และรีบจัดระเบียบทหารจวนให้เริ่มทำการฝึกซ้อมเมื่อดูไปเรื่อยๆ หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาคนของกองทหารเสินอู่ที่เพิ่งโยกย้ายเข้ามาและทหารจวนที่มีอยู่เป็นเหมือนกับสองมือที่ไม่ประสานกัน มักจะเกิดการชนกันอยู่เสมอ มองดูแล้วเหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน“หยุด หยุด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนสั่งให้หยุดซ้อม และพูดด้วยความโมโหว่า “พวกเจ้ากำลังซ้อมอะไรกันอยู่? แม้แต่ความพร้อมเพรียงยังทำไม่ได้ จะฝึกซ้อมรูปแบบการทำสงครามได้อย่างไรกัน?”“ไม่ต้องสนใจนาง ฝึกซ้อมต่อไป!”หยุนเจิงเปิดปากพูดทันที เพื่อให้ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ฝึกซ้อมต่อไป“ข้าบอกให้หยุด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดเสียงดังทันที “พวกเขาเป็นแบบนี้ ไม่ต้องฝึกซ้อมแล้ว!”“ซ้อมต่อไป!”หยุนเจิงก็เสียงดังเช่นกัน และพูดตะโกนอย่างรุนแรงว่า “นอกจากข้าแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่บังอาจรบกวนการฝึกซ้อม ข้าจะลงโทษด้วยการโบยสามสิบไม้!”“ท่าน...”เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธมาก และจ้องหน้าหยุนเจิงด้วยความเคียดแค้น“ข้าเป็นแม่ทัพ!”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเขาจำเป็นต้องสร้างบารมีและชื่อเสียงต่อหน้าคนเหล่านี้
เมื่อได้รับคำชี้แนะจากหยุนเจิงแล้ว ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ก็รีบไปเลือกผู้ที่เหมาะสมทันทีไม่นาน พวกเขาก็ตัดสินใจเลือกคนได้แล้วเฝิงอวี้เดิมที่คนผู้นี้ก็คือนายกองทหารราบในกองทหารเสินอู่ รับผิดชอบดูแลทหารสองกองการให้เขาจัดกำลังห้าร้อยคนนี้ ถือว่าเหลือเฟือจั่วเริ่นถึงขนาดแนะนำหยุนเจิงว่า ให้เฝิงอวี้เป็นแม่ทัพ และเขาจะเป็นรองแม่ทัพให้แก่เฝิงอวี้“ได้!”หยุนเจิงตอบรับอย่างทันท่วงที และแอบพยักหน้าในใจเงียบๆจั่วเริ่นเป็นคนที่ไม่เลวเลยทีเดียวรู้ว่าต้องอุ้มชูคนหนึ่งในบรรดากองทหารเสินอู่ขึ้นมา เพื่อไม่ให้คนที่เพิ่งโยกย้ายมาใหม่คิดว่าท่านอ๋องเลือกแค่คนที่สนิทชิดเชื้อเท่านั้นเมื่อไปถึงซั่วเป่ยแล้ว จะต้องให้จั่วเริ่นนำทัพอย่างแน่นอน!หยุนเจิงพูดคุยกับเฝิงอวี้อย่างง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ จึงให้ทุกคนทำการฝึกซ้อมต่อไปเพียงทำตามวิชาการฝึกซ้อมตามปกติ ฝึกฝนตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลกับพวกเขาเลยจากนั้นหยุนเจิงก็สั่งโจวมี่อีกว่า “เจ้ารีบพาคนครัวไปซื้อเนื้อหมูกลับมา ค่ำนี้เราจะเพิ่มอาหารให้กับทุกคน! นอกจากนั้นก็ซื้อเหล้าดีๆ มาเยอะหน่อยนะ!”“ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”เสิ่นลั่วเยี
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่