หยุนลี่เพิ่งเดินไป เสิ่นลั่วเยี่ยนมองตามแผ่นหลังหยุนเจิงด้วยความเกลียดชัง “เอาเงินห้าหมื่นตำลึงไปไถ่ตัวหญิงโคมเขียว! เจ้ามันน่านัก!”“นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่สบอารมณ์แล้ว “นี่เจ้าคิดว่าพี่สามเป็นคนเช่นไร?”ใบหน้าเสิ่นลั่วเยี่ยนกระตุกเล็กน้อย กล่าวด้วยความโกรธว่า “ข้าพูดถึงเจ้า ไม่ใช่องค์ชายสาม!”“แต่ข้าพูดถึงพี่สาม”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้มพลางกล่าว “พี่สามแค่ล้อเล่นกับข้า! พี่สามใจดีกับข้าถึงเพียงนั้น จะเอาเงินข้าจริงๆ ได้อย่างไรกันเล่า พี่สามมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้ข้าแล้ว!”“เจ้าฝันกลางวันไปแล้วกระมัง!”เสิ่นลั่วเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกด้วยความเย้ยหยันมอบให้เขาอย่างนั้นหรือ?หากองค์ชายสามเต็มใจจะมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้เขาตั้งแต่แรกจริงๆ คงไม่ยื้อมานานถึงเพียงนี้หรอกเขาคิดว่าองค์ชายสามจะว่างเหมือนเขาอย่างนั้นหรือ“ข้าว่าเจ้ามีอคติกับพี่สามของข้ามากเกินไปแล้วกระมัง!”หยุนเจิงส่ายหน้าพลางกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “อันที่จริงแล้วพี่สามเป็นคนมีคุณธรรมมากนะ!”มีคุณธรรมอย่างนั้นหรือ?เสิ่นลั่วเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะหัวเราะเยาะออกมา
หลังจากที่ออกมาจากจวนหยุนเจิง หยุนลี่ก็มุ่งตรงไปที่จวนของสวีสือฝู่ทันทีเมื่อได้ยินคำเล่าของหยุนลี่ สวีสือฝู่ไม่เพียงแต่พยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น แต่ยังกล่าวด้วยความปลื้มอกปลื้มใจอีกว่า “เจ้าคิดได้ถึงขั้นนี้ ช่างหายากจริงๆ! ดูท่า เจ้าโตแล้วจริงๆ!”หยุนลี่หน้าแดงด้วยความเขินอาย กล่าวถามอีกว่า “ท่านอาเองก็คิดว่าหลานเดาถูกใช่หรือไม่?”“เป็นจริงเช่นนั้น!”สวีสือฝู่พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ใจจริงฝ่าบาทไม่อยากให้หยุนเจิงไปซั่วเป่ย แต่กลับจำใจต้องให้เข้าไป! หากเจ้าทำให้งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ครั้งนี้กลายเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิง เจ้าจะต้องได้ใจจากฝ่าบาทเป็นแน่!”ในตอนนี้ สวีสือฝู่ทอดถอนใจแล้วเหตุใดตนเองถึงไม่นึกถึข้อนี้เลยจักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่เป็นคนจัดงานเลี้ยววันไหว้พระจันทร์ขึ้น ก็เพื่อหวังให้เขาจัดเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิงแน่นอน!นี่ก็เป็นการทดสอบหยุนลี่ของจักรพรรดิเหวิน เพื่อดูว่าหยุนลี่เปลี่ยนตัวเองแล้วจริงๆ หรือไม่!หากจัดการเรื่องนี้ได้ดี และตราบใดที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดใดขึ้นอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาก็จะมั่นคงขึ้นแล้ว!ได้ยินสวีสือฝู่วิเคราะห์เช่นนี
หากนางไปกราบทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ มันจะส่งผลเสียต่อตัวเขาเองช่างเถอะ!อดทนไปก่อนก็แล้วกัน!วันหน้าหากตนเองได้ขึ้นบัลลังก์มังกร คนแรกที่เขาจะกำจัดก็คือนางผู้อิจฉาริษยาผู้นี้นี่แหละ!หลังจากสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ไปหลายครั้ง ในที่สุดหยุนลี่ก็ตัดสินใจไม่วู่วามที่จะทุบตีชายาองค์ชายสาม……วันต่อมา หยุนเจิงไปหาองค์ชายรองและพวกเพื่อทวงหนี้พนันที่พวกเขาค้างเอาไว้ในก่อนหน้านี้เยี่ยจื่อเอาเหตุผลที่ว่าจะไปทำธุระข้างนอก เพื่อหาโอกาสที่จะได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวไร้หนทาง ตอนนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนได้แต่งเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องแล้ว สาวน้อยผู้นี้มีอคติต่อหยุนเจิงมากอยู่แล้ว แม้แต่ตอนนอนก็จะต้องหนีไปนอนในห้องนางให้ได้ ยากมากที่นางจะมีโอกาสได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวในที่สุดเยี่ยจื่อก็ฉวยโอกาสนี้ถามเรื่องที่หยุนเจิงคุยกับหยุนลี่ในห้องตำราจนกระจ่างแล้ว และในที่สุดนางก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ของหยุนเจิงแล้ว“นี่เจ้าอดใจไม่ไหวอยากให้หยุนลี่ได้ตำแหน่งมากถึงปานนั้นเลยหรือ?”เยี่ยจื่อโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งหยุนเจิง“ข้าก็ทำได้แค่ช่วยเขาก็เท่านั้น!”หยุนเจิงยักไหล่ “อย่างไรเสียข้าก็เ
วันนั้นตอนบ่าย องค์ชายสองและคนอื่นๆ ได้ส่งคนมามอบเงินหยุนเจิงก็คืนใบแจ้งหนี้ให้แก่พวกเขามีเงินอีกหกหมื่นตำลึงเข้ามาในบัญชี ถูกใจสุดๆ!เมื่อมองตั๋วเงินที่อยู่ในมือ หยุนเจิงก็จมอยู่ในความคิดอีกครั้งอื้ม กลับไปต้องให้เยี่ยจื่อนำตั๋วเงินเหล่านี้ไปแลกเป็นทองคำบริสุทธิ์ทั้งหมดเมื่อถึงซั่วเป่ย สิ่งของอย่างตั๋วเงินอาจไม่มีความหมาย!ควรแลกเป็นทองคำทั้งหมดจะดีที่สุด!เงินมากเงินไป อาจพกพาไม่สะดวกยามค่ำคืน หยุนเจิงนอนในห้องเพียงผู้เดียวเสิ่นลั่วเยี่ยนยังคงโกรธเขาอยู่ จึงไปนอนกับเยี่ยจื่อเมื่อมองฟูกที่นอนที่อยู่ข้างกาย หยุนเจิงก็แอบรู้สึกไม่พอใจเสิ่นลั่วเยี่ยน นางเสือร้าย นางไม่ยอมนอนกับตัวเองก็มากพอแล้ว ยังจะไปนอนกับเยี่ยจื่ออีก ทำให้ตัวเองไม่มีโอกาสได้สร้างสัมพันธ์กับนางเลย!นางเสือร้าย!ไม่มีจิตสำนึกของคนที่เป็นภรรยาสักนิดเดียว!ช่างเถอะ!ให้พวกนางเคยชินกับการนอนด้วยกันก็ดี!เมื่อคิดดูแล้ว หยุนเจิงก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมาอีกครั้งขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดฟุ้งซ่าน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก“ใคร?”หยุนเจิงหลุดจากภวังค์ความคิด และ
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า นี่ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดาแน่นอน!หากเป็นเพียงศิลปะการต่อสู้แบบธรรมดา แสดงในสนามฝึกก็ได้หนานย่วน!นั่นคือสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์เชียวนะ!นี่แสดงให้เห็นชัดเลยว่าเสด็จพ่อกำลังจัดการซ้อมอย่างจริงจัง!ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของตัวเอง เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกัน!น่าเบื่อจริง!“มัวอ้ำอึ้งอะไรอยู่เล่า?”เมื่อเห็นว่าหยุนเจิงนั่งราวกับกำลังเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ไม่พอใจในทันที “รีบกินข้า กินข้าวเสร็จก็ไปเขาเมาเอ่อร์เพื่อปรับปรุงทหารจวน!”เรื่องอื่นๆ นางไม่ชำนาญแต่การรบราฆ่าฟัน นางมั่นใจว่าตัวเองชำนาญอย่างมากอย่างน้อย ก็ดีกว่าหยุนเจิง!“เจ้าจะตื่นเต้นไปทำไมกัน?”หยุนเจิงกลอกตามองเสิ่นลั่วเยี่ยน และโยนพระราชโองการให้นาง “หากเจ้าฟังพระราชโองการไม่ชัดเจน เจ้าอ่านดูอีกรอบก็ได้นะ! ข้าคือแม่ทัพ เจ้าคือรองแม่ทัพ! เจ้าต้องฟังคำสั่งของข้า!”“ท่านเนี่ยนะ?!”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่ไว้หน้าหยุนเจิงแม้แต่น้อย “ให้ท่านเป็นแม่ทัพ พวกเราไม่ต้องแสดงศิลปะการต่อสู้กันเลยดีกว่า ยอมแพ้ล่วงหน้าไปเลยก็ได้!”“...”หยุนเจิงทั้งโมโหทั้งตลก จากนั้นก็พูดอย่างนิ่ง
หยุนเจิงหดหู่ใจอย่างมากเขาไม่รู้ว่าควรขอบคุณหรือด่าสองพ่อลูกตระกูลฉินดีหากจะด่าพวกเขา แต่พวกเขาก็ทำเพราะความหวังดีฉินชีหู่เป็นถึงผู้บัญชาการกองทหารเสินอู่เมื่อห้าปีก่อน หากไม่ใช่เพราะความหวังดี มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องบากหน้ามาเป็นรองแม่ทัพของตัวเอง?หากจะขอบคุณพวกเขา ฉินชีหู่ติดตามตัวเอง จะต้องทำให้ตัวเองผิดแผนอย่างแน่นอน!น่าเบื่อฉิบหายเลย!ก่อนจากไป ฉินชีหู่ยังกำชับหยุนเจิงอีกว่า อย่าพูดเรื่องที่พวกเขาคุยกันกับใครเด็ดขาดยังต้องบอกกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ ว่า วันนี้ไม่ได้พบเขามาก่อนเมื่อส่งฉินชีหู่ไปไกลแล้ว หยุนเจิงก็แอบฝืนยิ้มเงียบๆได้!การแสดงศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะให้ได้!หากว่าพ่ายแพ้ ฉินชีหู่ต้องติดตามเขา ต่อไปจะทำเฮี้ยอะไรได้บ้าง!แต่ว่าฉินชีหู่ไม่ได้บอกรายละเอียดของการแสดงศิลปะการต่อสู้กับเขาเพราะว่าจักรพรรดิเหวินก็ไม่ได้พูดจักรพรรดิเหวินเพียงแค่กำหนดเรื่องการแสดงศิลปะการต่อสู้ ส่วนเรื่องรายละเอียดของการแสดงศิลปะการต่อสู้ เขายังไม่ประกาศออกมาฉินชีหู่คาดเดาว่า จักรพรรดิเหวินรอประกาศในวันที่มีการแสดงศิลปะการต่อสู้“ฉินชีหู่พู
“พ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามรับคำสั่งทันที และรีบจัดระเบียบทหารจวนให้เริ่มทำการฝึกซ้อมเมื่อดูไปเรื่อยๆ หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาคนของกองทหารเสินอู่ที่เพิ่งโยกย้ายเข้ามาและทหารจวนที่มีอยู่เป็นเหมือนกับสองมือที่ไม่ประสานกัน มักจะเกิดการชนกันอยู่เสมอ มองดูแล้วเหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน“หยุด หยุด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนสั่งให้หยุดซ้อม และพูดด้วยความโมโหว่า “พวกเจ้ากำลังซ้อมอะไรกันอยู่? แม้แต่ความพร้อมเพรียงยังทำไม่ได้ จะฝึกซ้อมรูปแบบการทำสงครามได้อย่างไรกัน?”“ไม่ต้องสนใจนาง ฝึกซ้อมต่อไป!”หยุนเจิงเปิดปากพูดทันที เพื่อให้ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ฝึกซ้อมต่อไป“ข้าบอกให้หยุด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดเสียงดังทันที “พวกเขาเป็นแบบนี้ ไม่ต้องฝึกซ้อมแล้ว!”“ซ้อมต่อไป!”หยุนเจิงก็เสียงดังเช่นกัน และพูดตะโกนอย่างรุนแรงว่า “นอกจากข้าแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่บังอาจรบกวนการฝึกซ้อม ข้าจะลงโทษด้วยการโบยสามสิบไม้!”“ท่าน...”เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธมาก และจ้องหน้าหยุนเจิงด้วยความเคียดแค้น“ข้าเป็นแม่ทัพ!”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเขาจำเป็นต้องสร้างบารมีและชื่อเสียงต่อหน้าคนเหล่านี้
เมื่อได้รับคำชี้แนะจากหยุนเจิงแล้ว ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ก็รีบไปเลือกผู้ที่เหมาะสมทันทีไม่นาน พวกเขาก็ตัดสินใจเลือกคนได้แล้วเฝิงอวี้เดิมที่คนผู้นี้ก็คือนายกองทหารราบในกองทหารเสินอู่ รับผิดชอบดูแลทหารสองกองการให้เขาจัดกำลังห้าร้อยคนนี้ ถือว่าเหลือเฟือจั่วเริ่นถึงขนาดแนะนำหยุนเจิงว่า ให้เฝิงอวี้เป็นแม่ทัพ และเขาจะเป็นรองแม่ทัพให้แก่เฝิงอวี้“ได้!”หยุนเจิงตอบรับอย่างทันท่วงที และแอบพยักหน้าในใจเงียบๆจั่วเริ่นเป็นคนที่ไม่เลวเลยทีเดียวรู้ว่าต้องอุ้มชูคนหนึ่งในบรรดากองทหารเสินอู่ขึ้นมา เพื่อไม่ให้คนที่เพิ่งโยกย้ายมาใหม่คิดว่าท่านอ๋องเลือกแค่คนที่สนิทชิดเชื้อเท่านั้นเมื่อไปถึงซั่วเป่ยแล้ว จะต้องให้จั่วเริ่นนำทัพอย่างแน่นอน!หยุนเจิงพูดคุยกับเฝิงอวี้อย่างง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ จึงให้ทุกคนทำการฝึกซ้อมต่อไปเพียงทำตามวิชาการฝึกซ้อมตามปกติ ฝึกฝนตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลกับพวกเขาเลยจากนั้นหยุนเจิงก็สั่งโจวมี่อีกว่า “เจ้ารีบพาคนครัวไปซื้อเนื้อหมูกลับมา ค่ำนี้เราจะเพิ่มอาหารให้กับทุกคน! นอกจากนั้นก็ซื้อเหล้าดีๆ มาเยอะหน่อยนะ!”“ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”เสิ่นลั่วเยี