เมี่ยวอินส่ายศีรษะซ้ำๆ นัยน์ตาฉายแววลำพองใจเงียบๆเสิ่นลั่วเยี่ยนเดินมาที่เรือนหลังด้วยอารมณ์คุกรุ่น ระบายความโกรธทั้งหมดใส่เสาไม้ที่เป็นตัวแทนของหยุนเจิงภายใต้การโจมตีอันดุเดือดของเสิ่นลั่วเยี่ยน เสาไม้ก็แตกเป็นชิ้นๆ เต็มพื้นเสิ่นลั่วเยี่ยนยังไม่พอใจ ไม่ปล่อยเศษไม้ที่หักแล้วด้วยซ้ำ นางทำลายเศษไม้เหล่านั้นเป็นผุยผงเฉกเช่นการบดขยี้หยุนเจิงให้กลายเป็นเถ้าถ่านตอนที่เยี่ยจื่อรีบมาหาเพราะได้รับรายงานจากคนรับใช้ เสิ่นลั่วเยี่ยนยังคงกวัดแกว่งหอกลายเมฆทำลายเศษไม้บนพื้นระบายโทสะเรือนหลังเละเทะไปหมดเพราะฝีมือนางเมื่อเยี่ยจื่อเข้ามาใกล้ เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ตวัดหอกและแทงตรงไปยังเยี่ยจื่อพอนางเห็นชัดเจนว่าผู้ที่มาคือเยี่ยจื่อ นางก็รีบเก็บหอกกลับคืน“เจ้าต้องการเอาชีวิตของพี่สะใภ้งั้นหรือ!”เยี่ยจื่อมองค้อนนาง“เปล่า!” เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดด้วยความโมโห “ข้าคิดว่าเป็น...”พูดไปได้ครึ่งประโยค เสิ่นลั่วเยี่ยนก็หยุดพูด“เจ้าคิดว่าเป็นองค์ชายหกใช่ไหม”เยี่ยจื่อเม้มปากยิ้ม “เจ้ากำลังรอให้เขามาโอ๋เจ้าหรือมาขอโทษเจ้าใช่หรือไม่”“ข้าไม่สนใจหรอก!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดอย่างปากแข็ง“ปากไม่ตรงกับ
ในตอนกลางคืน หยุนลี่มาหาถึงจวนมาเร็วดีนี่นา!“พี่สาม ข้าบอกว่าจะไปหาท่านพรุ่งนี้! ทำไมท่านถึงมาก่อน”หยุนเจิงต้อนรับเขาอย่างกระตือรือร้น โดยไม่สำนึกตัวแม้แต่น้อยว่าถูกทวงเงินหยุนลี่ตบไหล่หยุนเจิง พูดด้วยรอยยิ้มแต่ตาไม่ยิ้ม “น้องหก หากเจ้าไม่พอใจพี่สาม เจ้าก็บอกพี่สามมาได้เลย!”“พี่สาม ดูท่านพูดสิ!” หยุนเจิงยิ้มแล้วพูดว่า “พี่สามดีกับข้าขนาดนี้ ข้าจะไม่พอใจพี่สามได้อย่างไร”“ไม่ใช่กระมัง”หยุนลี่เลิกคิ้วยิ้มๆ “ถ้าเจ้าไม่ได้ไม่พอใจพี่สาม ทำไมเจ้าถึงไปปล้นคนถึงฉวินฟางย่วนของพี่สามล่ะ ที่เจ้าทำคือการตบหน้าพี่สามไม่ใช่หรอกรึ”เลวระยำหมานี่!ตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่อง เขายังกล้ามาหาเรื่องตัวเองอีก?เขาถือว่าตัวเองเป็นลูกพลับอ่อนๆ หรือเขาคิดว่าได้แต่งตั้งขึ้นเป็นอ๋องแล้วจะดีกว่าคนอื่น?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนลี่ ใบหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยนก็กระตุกทันทีที่หยุนลี่พูดหมายความว่า หยุนเจิงไปปล้นตัวเมี่ยวอินและหมิงเย่ว์มาจากฉวินฟางย่วนเลยงั้นสิไม่จ่ายแม้แต่อีแปะเดียว?ไอ้คนไร้ยางอาย!เป็นถึงจิ้งเป่ยอ๋อง แต่กลับวิ่งโร่ไปปล้นหญิงนางโลมถึงหอนางโลม จะไร้อายเกินไปแล้ว?ที่สำคัญคือ ฉวินฟางย่
บัดซบ!เห็นตัวเองเป็นคนโง่หลอกง่ายจริงๆ!เมื่อเห็นท่าทางของหยุนเจิง หยุนลี่ก็หัวเราะในใจเลวระยำหมา!ตกอยู่ในกำมือของข้าแล้วล่ะสิ?ตอนแรกสามหมื่นตำลึง เจ้ายังยื้อแย่งกับข้า!ตอนนี้ ถ้าไม่จ่ายห้าหมื่นตำลึง ก็ให้ข้าพาคนกลับไป!เขาถึงขั้นไม่อยากให้หยุนเจิงเอาเงินออกมาด้วยซ้ำเขาอยากได้เมี่ยวอิน มากกว่าเงินห้าหมื่นตำลึง!“น้องหก เจ้าพูดแบบนั้นไม่ได้”หยุนลี่ส่ายศีรษะและพูดว่า “ก่อนหน้าคนในฉวินฟางย่วนตกใจกลัวเจ้า จึงบอกว่าสามหมื่นตำลึง แต่เจ้าคงไม่มาขู่พี่สามกระมัง ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเจ้าจะพาคนออกมาแล้ว แต่สัญญาการซื้อขายตัวเมี่ยวอินพวกนางยังอยู่กับข้า!”ความหมายของหยุนลี่ชัดเจนแล้วหากสัญญาซื้อขายตัวของเมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ยังอยู่ในมือของเขา การซื้อขายนี้ก็ถือว่าไม่สำเร็จ!จะตั้งราคาเท่าไหร่ ก็เป็นเรื่องของเขา!หากหยุนเจิงไม่สามารถนำเงินห้าหมื่นตำลึงออกมาได้ ก็ให้เขาพาเมี่ยวอินออกไป!“พี่สาม ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้กระมัง”หยุนเจิงมองดูหยุนลี่อย่างขมขื่น “พี่สาม ข้าชอบเหมี่ยวหยินจริงๆ ท่านคิดว่ามอบนางเป็นของขวัญให้ข้า ได้ไหม?”เสิ่นลั่วเยี่ยนตกตะลึงอีกครั้งกับพลังอันไร้ยางอาย
ทันทีที่ได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง หยุนลี่ก็เข้าใจทันทีว่าไอ้สารเลววางแผนร้ายอะไรเขากำลังจะไปซั่วเป่ย ของพวกนี้เอาไปไม่ได้ ถึงได้นำของพวกนี้มาชำระให้เขาแทน?ช่างเป็นคนเลวระยำหมาไร้ยางอายจริงๆ!เมื่อเขาขึ้นครองบัลลังก์จักรพรรดิ สิ่งของเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นของเขาไม่ใช่หรือนี่ก็เท่ากับว่าเอาของตัวเองมาชดใช้ให้ตัวเองไม่ใช่หรอกหรือ“น้องหก จะจ่ายเงินหรือว่าคืนคน เจ้าบอกพี่สามมาเลยดีกว่า!”หยุนลี่หมดความอดทน พูดเรียบๆ “พี่สามยังต้องเตรียมงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ มีงานให้ทำเยอะแยะทุกวัน เจ้าอย่าทำให้พี่สามเสียเวลาเลย”“งานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์?”หยุนเจิงเปลี่ยนเรื่องทันที “งานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่กรมวังเป็นผู้จัดเตรียมไม่ใช่หรือ”หยุนลี่หัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “ในอดีตเป็นกรมวังที่จัดงาน แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม! เมื่อวานเสด็จพ่อมีราชโองการ ให้อำนาจแก่ข้าอย่างเต็มที่ในการเตรียมงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ครั้งนี้”โอ้โห?ไม่เอาไหนขนาดนี้ เสด็จพ่อยังมีราชโองการให้เจ้าสสามจัดตรียมงานอีก?ทำไมถึงรู้สึกแปลกพิกลเสด็จพ่อกำลังทดสอบเจ้าสามอยู่งั้นรึแต่แค่การจัดเตรียมงานเลี้ยงเ
หยุนลี่เพิ่งเดินไป เสิ่นลั่วเยี่ยนมองตามแผ่นหลังหยุนเจิงด้วยความเกลียดชัง “เอาเงินห้าหมื่นตำลึงไปไถ่ตัวหญิงโคมเขียว! เจ้ามันน่านัก!”“นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่สบอารมณ์แล้ว “นี่เจ้าคิดว่าพี่สามเป็นคนเช่นไร?”ใบหน้าเสิ่นลั่วเยี่ยนกระตุกเล็กน้อย กล่าวด้วยความโกรธว่า “ข้าพูดถึงเจ้า ไม่ใช่องค์ชายสาม!”“แต่ข้าพูดถึงพี่สาม”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้มพลางกล่าว “พี่สามแค่ล้อเล่นกับข้า! พี่สามใจดีกับข้าถึงเพียงนั้น จะเอาเงินข้าจริงๆ ได้อย่างไรกันเล่า พี่สามมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้ข้าแล้ว!”“เจ้าฝันกลางวันไปแล้วกระมัง!”เสิ่นลั่วเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกด้วยความเย้ยหยันมอบให้เขาอย่างนั้นหรือ?หากองค์ชายสามเต็มใจจะมอบเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์ให้เขาตั้งแต่แรกจริงๆ คงไม่ยื้อมานานถึงเพียงนี้หรอกเขาคิดว่าองค์ชายสามจะว่างเหมือนเขาอย่างนั้นหรือ“ข้าว่าเจ้ามีอคติกับพี่สามของข้ามากเกินไปแล้วกระมัง!”หยุนเจิงส่ายหน้าพลางกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “อันที่จริงแล้วพี่สามเป็นคนมีคุณธรรมมากนะ!”มีคุณธรรมอย่างนั้นหรือ?เสิ่นลั่วเยี่ยนได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะหัวเราะเยาะออกมา
หลังจากที่ออกมาจากจวนหยุนเจิง หยุนลี่ก็มุ่งตรงไปที่จวนของสวีสือฝู่ทันทีเมื่อได้ยินคำเล่าของหยุนลี่ สวีสือฝู่ไม่เพียงแต่พยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น แต่ยังกล่าวด้วยความปลื้มอกปลื้มใจอีกว่า “เจ้าคิดได้ถึงขั้นนี้ ช่างหายากจริงๆ! ดูท่า เจ้าโตแล้วจริงๆ!”หยุนลี่หน้าแดงด้วยความเขินอาย กล่าวถามอีกว่า “ท่านอาเองก็คิดว่าหลานเดาถูกใช่หรือไม่?”“เป็นจริงเช่นนั้น!”สวีสือฝู่พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ใจจริงฝ่าบาทไม่อยากให้หยุนเจิงไปซั่วเป่ย แต่กลับจำใจต้องให้เข้าไป! หากเจ้าทำให้งานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ครั้งนี้กลายเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิง เจ้าจะต้องได้ใจจากฝ่าบาทเป็นแน่!”ในตอนนี้ สวีสือฝู่ทอดถอนใจแล้วเหตุใดตนเองถึงไม่นึกถึข้อนี้เลยจักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่เป็นคนจัดงานเลี้ยววันไหว้พระจันทร์ขึ้น ก็เพื่อหวังให้เขาจัดเป็นงานเลี้ยงส่งให้กับหยุนเจิงแน่นอน!นี่ก็เป็นการทดสอบหยุนลี่ของจักรพรรดิเหวิน เพื่อดูว่าหยุนลี่เปลี่ยนตัวเองแล้วจริงๆ หรือไม่!หากจัดการเรื่องนี้ได้ดี และตราบใดที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดใดขึ้นอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาก็จะมั่นคงขึ้นแล้ว!ได้ยินสวีสือฝู่วิเคราะห์เช่นนี
หากนางไปกราบทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ มันจะส่งผลเสียต่อตัวเขาเองช่างเถอะ!อดทนไปก่อนก็แล้วกัน!วันหน้าหากตนเองได้ขึ้นบัลลังก์มังกร คนแรกที่เขาจะกำจัดก็คือนางผู้อิจฉาริษยาผู้นี้นี่แหละ!หลังจากสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ไปหลายครั้ง ในที่สุดหยุนลี่ก็ตัดสินใจไม่วู่วามที่จะทุบตีชายาองค์ชายสาม……วันต่อมา หยุนเจิงไปหาองค์ชายรองและพวกเพื่อทวงหนี้พนันที่พวกเขาค้างเอาไว้ในก่อนหน้านี้เยี่ยจื่อเอาเหตุผลที่ว่าจะไปทำธุระข้างนอก เพื่อหาโอกาสที่จะได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวไร้หนทาง ตอนนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนได้แต่งเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องแล้ว สาวน้อยผู้นี้มีอคติต่อหยุนเจิงมากอยู่แล้ว แม้แต่ตอนนอนก็จะต้องหนีไปนอนในห้องนางให้ได้ ยากมากที่นางจะมีโอกาสได้คุยกับหยุนเจิงเป็นการส่วนตัวในที่สุดเยี่ยจื่อก็ฉวยโอกาสนี้ถามเรื่องที่หยุนเจิงคุยกับหยุนลี่ในห้องตำราจนกระจ่างแล้ว และในที่สุดนางก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ของหยุนเจิงแล้ว“นี่เจ้าอดใจไม่ไหวอยากให้หยุนลี่ได้ตำแหน่งมากถึงปานนั้นเลยหรือ?”เยี่ยจื่อโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งหยุนเจิง“ข้าก็ทำได้แค่ช่วยเขาก็เท่านั้น!”หยุนเจิงยักไหล่ “อย่างไรเสียข้าก็เ
วันนั้นตอนบ่าย องค์ชายสองและคนอื่นๆ ได้ส่งคนมามอบเงินหยุนเจิงก็คืนใบแจ้งหนี้ให้แก่พวกเขามีเงินอีกหกหมื่นตำลึงเข้ามาในบัญชี ถูกใจสุดๆ!เมื่อมองตั๋วเงินที่อยู่ในมือ หยุนเจิงก็จมอยู่ในความคิดอีกครั้งอื้ม กลับไปต้องให้เยี่ยจื่อนำตั๋วเงินเหล่านี้ไปแลกเป็นทองคำบริสุทธิ์ทั้งหมดเมื่อถึงซั่วเป่ย สิ่งของอย่างตั๋วเงินอาจไม่มีความหมาย!ควรแลกเป็นทองคำทั้งหมดจะดีที่สุด!เงินมากเงินไป อาจพกพาไม่สะดวกยามค่ำคืน หยุนเจิงนอนในห้องเพียงผู้เดียวเสิ่นลั่วเยี่ยนยังคงโกรธเขาอยู่ จึงไปนอนกับเยี่ยจื่อเมื่อมองฟูกที่นอนที่อยู่ข้างกาย หยุนเจิงก็แอบรู้สึกไม่พอใจเสิ่นลั่วเยี่ยน นางเสือร้าย นางไม่ยอมนอนกับตัวเองก็มากพอแล้ว ยังจะไปนอนกับเยี่ยจื่ออีก ทำให้ตัวเองไม่มีโอกาสได้สร้างสัมพันธ์กับนางเลย!นางเสือร้าย!ไม่มีจิตสำนึกของคนที่เป็นภรรยาสักนิดเดียว!ช่างเถอะ!ให้พวกนางเคยชินกับการนอนด้วยกันก็ดี!เมื่อคิดดูแล้ว หยุนเจิงก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมาอีกครั้งขณะที่หยุนเจิงกำลังคิดฟุ้งซ่าน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากด้านนอก“ใคร?”หยุนเจิงหลุดจากภวังค์ความคิด และ