แถมยังทำให้จักรพรรดิเหวินเข้าใจว่าเกาเหอยังทำงานให้เขาอย่างจงรักภักดีด้วย!เยี่ยม!เยี่ยมจริงๆ!วางแผนทุกกระบวนการทุกขั้นตอน!ความเป็นไปได้ทุกอย่างล้วนถูกเขาคาดเดาไว้หมดแล้ว!เยี่ยจื่อรู้สึกชื่นชมอย่างสุดซึ้ง แล้วมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าซับซ้อน “ตอนนี้ข้ายิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าใจท่านแล้ว”หยุนเจิงเม้มปากยิ้มๆ “มีตรงไหนไม่เข้าใจ? เดี๋ยวข้าบอกเจ้าเอง”“ท่านชำนาญเรื่องการวางแผนเกินไปแล้ว!”เยี่ยจื่อถอนหายใจเบาๆ “เช่นเรื่องของหยวนกุย ท่านถึงขั้นคาดเดาทุกอย่างล่วงหน้าเอาไว้แล้ว! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามที่ท่านคิด!”“เจ้าผิดแล้ว”หยุนเจิงส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ข้าคิด แต่เป็นเพราะข้าชักนำเรื่องทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ข้าคิดต่างหาก…”ความจริงแล้วในนั้นไม่มีแผนการเยี่ยมยอดอะไรหรอกเขาชักนำให้หยุนลี่ทุบตีหยวนกุยหยุนลี่ทุบตีหยวนกุยแล้ว เยี่ยจื่อก็ออกมาพูดแทนหยวนกุยได้สำเร็จ หยวนกุยย่อมต้องเชื่อใจเยี่ยจื่อมากกว่าอยู่แล้ว!เป็นไปได้หรือที่เขาจะเชื่อใจคนที่ทุบตีเขาอย่างหยุนลี่น่ะ?สิ่งเดียวที่เดาได้คือเรื่องที่หยวนกุยจะมอบผลประโยชน์ให้กับเยี่ยจื่อแต่ทว่าการวอนขอให้ผู้
ก่อนจะถึงพิธีอภิเษกสมรสระหว่างหยุนเจิงกับเสิ่นลั่วเยี่ยนเหลืออีกหนึ่งวันเท่านั้นจวนของหยุนเจิงยิ่งยุ่งวุ่นวายกว่าเดิมหลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ เยี่ยจื่อและคนอื่นๆ ในจวนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานทุกซอกทุกมุมในจวนต้องทำให้สะอาดเอี่ยม โต๊ะเก้าอี้ที่จำเป็นในงานเลี้ยงมงคลก็ต้องเริ่มนำไปจัดวาง ทั้งยังต้องให้คนตามพ่อครัวหลวงไปเบิกวัตถุดิบจำเป็นที่พระราชวังพร้อมลงบันทึก…คนในจวนยุ่งวุ่นวายกันจนแทบจะแยกร่างเป็นสองคนแล้วมีเพียงหยุนเจิงและซินเซิงเท่านั้นที่ว่างอยู่เรื่องในจวนมีเยี่ยจื่อและคนจากจวนฝ่ายในมาช่วยจัดการ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลซินเซิงเพียงแค่ปรณนิบัติเขาอยู่ข้างๆ ก็เพียงพอบริเวณเรือนหลังตำหนัก หยุนเจิงฝึกซ้อมวรยุทธ์เสร็จสรรพพร้อมรับผ้าเช็ดหน้าที่ซินเซิงยื่นมาให้มาซับเหงื่อบนหน้าเขาเพิ่งจะฝึกวรยุทธ์เอาตอนนี้ ไม่มีทางที่จะเป็นยอดฝีมือได้แน่นอน ทำได้เพียงภาวนาขอให้พระท่านช่วยเท่านั้นถึงแม้จะมีคนมากมายคุ้มกันความปลอดภัยของเขา แต่ตัวเขาเองก็ต้องรู้จักป้องกันตนเองบ้าง!“เฮ้อ หากพบเจอยอดฝีมือคนหนึ่งช่วยเปิดเส้นลมมปราณให้กับตนจนบรรลุเป็นปรมาจารย์เหมือนในหนังก็คงดี…”หยุนเจิ
ในเวลานี้ เจ้าสี่หยุนถิงพูดด้วยรอยยิ้ม "น้องหก วันนี้พวกเรานำของดีมาให้เจ้าด้วยนะ""ของดี?"หยุนเจิงเบิกตากว้างแล้วถามอย่างสงสัย “ของดีอะไร?"ทั้งสามคนนี้นำของดีมาให้ตนด้วยนั้นรึ?คงไม่ใช่เพราะพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรอกกระมัง?หยุนถิงไม่ยอมบอก แล้วปรบมือในบัดดลไม่นาน ผู้ติดตามของพวกเขาทั้งสามก็ถือกล่องใบใหญ่เดินเข้ามาคราวนี้ ทำให้หยุนเจิงยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีกกล่องใหญ่ๆ เช่นนี้คงไม่ใช่ก้อนหินหรอกใช่ไหม?ขณะที่ยังสงสัย หยุนเจิงพลันหัวเราะอีกครั้งและพูดว่า "ข้ารู้แล้วว่าคืออะไร!""โอ๋?"หยุนถิงรู้สึกประหลาดใจ “น้องหกรู้แล้วงั้นหรือ?”"อื้ม!"หยุนเจิงพยักหน้าอย่างจริงจัง "ข้าเดาว่า พวกท่านรู้ว่าพิธีสมรสของข้ากำลังจะมาถึง และข้าก็ขาดแคลนเงิน ดังนั้นพวกท่านจึงส่งกล่องเงินมาให้ข้าโดยเฉพาะ! ข้าต้องขอบคุณพี่ทั้งสามมาก พวกท่านช่วยข้าคลี่คลายสถานการณ์ยากลำบากนี้ไว้ได้จริงๆ!”ไม่ว่าพวกเขาจะนำอะไรมาก็ตามตนขอแสร้งร้องว่าจนก่อนเลยแล้วกัน!หาโอกาสหลอกเงินของพวกเขามาสักหน่อยถึงกระนั้นก็ไม่ปล่อยให้สามคนนี้มายืมเงินตนหรอก“…”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว สีหน้าขอ
ประมาณการคร่าวๆ ในกล่องนี้น่าจะมีไพ่นกกระจอกอยู่จำนวนสิบกว่าชุดมารดามันเถอะ!ไอ้โง่สามคนนี้ป่วยหรือไงกัน!เอาไพ่นกกระจอกมากมายเพียงนี้มาให้ตนทำไม?จะให้ตนไปเปิดบ่อนพนันหรือไงกัน?ชักช้าอยู่ครึ่งวันไม่ยอมปริปากพูด แค่ไพ่นกกระจอกสิบกว่าชุดเนี่ยนะ?นี่มันตั้งใจรังแกตนชัดๆ!“พี่สอง พวกท่านให้ไพ่นกกระจอกข้ามากมายเช่นนี้ทำไมกัน?”หยุนเจิงบ่นในใจอย่างบ้าคลั่ง แล้วแสร้งทำหน้าทะมึนถาม“เจ้ารู้ด้วยหรือว่านี่เรียกว่าไพ่นกกระจอก?”ทั้งสามมองหยุนเจิงด้วยความสงสัยพวกเขาคิดว่าหยุนเจิงเห็นของเล่นนี่เป็นครั้งแรกเสียอีก!“ข้ารู้สิ สองวันก่อนข้าเคยเห็นคนเล่น”หยุนเจิงพยักหน้า“ก็จริง!”องค์ชายสองหัวเราะเหอะๆ “ช่วงนี้คนในเมืองจักรพรรดิต่างก็ชอบเล่นไพ่นกกระจอก ไม่เพียงแต่เหล่าตระกูลผู้ดีที่มีแรงเล่น แม้แต่เสด็จพ่อและพระสนมตำหนักเย็นก็ยังเล่น”ต้องยอมรับว่าการเล่นไพ่นกกระจอกนั้นแพร่หลายอย่างรวดเร็วมากจริงๆที่สำคัญคือของเล่นนี่ทั้งได้ใช้สมองทั้งได้ฆ่าเวลา สำหรับพระสนมตำหนักเย็นที่ไม่มีอะไรทำเหล่านั้นถือเป็นของดีแน่นอน!สำหรับจักรพรรดิเหวินนั้น การเล่นไพ่นกกระจอกกับพระสนมของตนยามว่าง ก็ถื
พันธุ์สุนัขนี่!คิดจะมาให้ของที่นี่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จริงด้วย!ไอ้โง่ทั้งสามเอ๊ย!ตนเล่นไพ่นกกระจอกเป็นตั้งแต่หกขวบแล้ว!พวกเขายังกล้ามาเล่นไพ่นกกระจอกกับตนอีก?ไอ้โง่ที่ส่งตัวมาให้เปล่าๆ เช่นนี้ หากไม่หลอกสักนิดคงรู้สึกผิดกับตนเองแย่!“ไม่…ไม่ดีหรอกกระมัง?”หยุนเจิงเกาศีรษะกล่าวอย่างลังเล “หากเสด็จพ่อรู้ว่าเราเล่นพนันกันจะต้องถูกลงโทษนะ”“นี่จะเรียกว่าเป็นการพนันได้อย่างไร?”องค์ชายสองส่ายศีรษะหัวเราะพลางกล่าวว่า “เสด็จพ่อเองก็ลงเงินเล่นกับเหล่าพระสนมเช่นกัน เขาจะถือโทษเราได้อย่างไร?”“เช่นนี้นี่เอง”หยุนเจิงครุ่นคิดอีกครั้งพลางเอ่ยลองเชิงว่า “เช่นนั้นเราลงเงินจำนวนน้อยๆ หน่อยแล้วกัน ข้าจนจริงๆ”“ไม่มีปัญหา”หยุนถิงหัวเราะฮ่าๆ “พวกเราเองก็มาเพื่อเล่นเป็นเพื่อนเจ้าให้เจ้าคุ้นเคยเท่านั้น ลงพนันสักหน่อยก็เพื่อความสนุก ไม่จำเป็นต้องลงเงินเยอะหรอก”“เช่นนั้นเราเล่นตาละหนึ่งตำลึงได้หรือไม่?” หยุนเจิงทำท่ากลัวแพ้“หนึ่งตำลึง? เจ้าขี้งกเกินไปหน่อยกระมัง?”หยุนถิงไม่ชอบใจ “อย่างไรก็ต้องลงอย่างน้อยห้าตำลึงสิ!”“อะไรนะ? ห้าสิบตำลึง?”หยุนเจิงตกใจสะท้าน และส่ายศีรษะราวกับของ
หลังจากเหม่อไปชั่วขณะ หยุนถิงก็อดหัวเราะไม่ได้อีก“เจ้าหก เจ้าต้องดูให้ดีๆ นะ! ดูผิดจะแพ้เอานะ”หยุนถิงไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะจั่วได้เทียนหู (รูปแบบการชนะของไพ่นกกระจอก ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก)เทียนหูมีหรือจะได้มาง่ายๆ เขาคิดจริงๆ หรือว่าเขาที่ใกล้จะได้เป็นเจ้าบ่าวแล้ว จะโชคดีขนาดนั้น?“ถูกต้อง เจ้าหก เจ้าดูดีๆ ล่ะ ถ้าดูผิดจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้เราสามคนนะ!”“อย่าหาว่าเรารังแกเจ้านะ เจ้าตรวจดูดีๆ จะดีกว่า”องค์ชายรองและองค์ชายห้าก็เห็นคล้อยตามเช่นกันแน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะเจอชุดไพ่ดีๆ แบบเทียนหูได้หลังจากหยุนเจิงได้ยินดังนี้ ก็ก้มลงดูอย่างซื่อๆ ทันทีจากนั้น เขาก็วางไพ่ลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “ข้าได้เทียนหูจริงๆ”“ดีๆ!”หยุนถิงหัวเราะ “เช่นนั้น มารอตรวจสอบไพ่ทีหลังกัน!”ว่าแล้วหยุนถิงก็เริ่มเปิดไพ่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะได้เทียนหูไม่นานไพ่ตานี้ก็จบลงพวกเขาทั้งสามแทบรอไม่ไหวที่จะตรวจสอบไพ่ของหยุนเจิงขณะที่กำลังดูๆ อยู่ สีหน้าของทั้งสามคนก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวเทียนหู!เขาได้เทียนหูจริงๆ งั้นหรือ?เศษสวะนี่ โชคดีขนาดนี้ได้อย่างไรทั้งสาม
“อืม สี่พันตำลึงกว่าแล้ว”หยุนเจิงพยักหน้า พร้อมกับหัวเราะแหะๆ เหมือนคนโง่“เจ้าในฐานะเจ้าบ่าวใหม่ ช่างโชคดีจริงๆ!”องค์ชายห้าหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าโชคดีขนาดนี้ พวกเราก็ลงเดิมพันให้มากขึ้นอีกดีหรือไม่”คำพูดขององค์ชายที่ห้าได้รับความเห็นชอบจากองค์ชายรองและหยุนถิงทันทีทั้งสามคนรวมกัน อย่าให้ต่ำกว่ายี่สิบตำลึง เล่นห้าสิบตำลึงไปเลยหยุนเจิงแสร้งทำเป็นโอ้เอ้ให้พวกเขาพูดโน้มน้าว ในที่สุดก็ถูกบังคับให้ตกลงเจ้าทึ่มสามคนนี้ คิดจะเอาทุนคืนงั้นหรือด้วยระดับสติปัญญาของพวกเขา ต่อให้ตัวเองหลับตาข้างหนึ่งเล่นกับพวกเขา พวกเขาก็มีแต่จะแพ้!จากนั้นทั้งสี่คนก็เล่นไพ่นกกระจอกไปด้วยกินดื่มไปด้วยขั้นต่ำในการลงเดิมพันแต่ละตากลายเป็นห้าสิบตำลึง จำนวนสูงสุดก็เปลี่ยนเป็นสี่ร้อยตำลึงนี่เป็นการพนันครั้งใหญ่อย่างแน่นอนเพื่อค่าใช้จ่ายทางทหารในอนาคต หยุนเจิงจึงต้องพยายามอย่างหนักหนึ่งชั่วยามต่อมา องค์ชายห้าเสียเงินหนึ่งหมื่นตำลึงไปหมดเกลี้ยง แถมยังติดหนี้หยุนเจิงสองร้อยตำลึง“พี่ห้า ท่านแพ้แล้ว วันนี้เราพอเท่านี้เถอะ?”หยุนเจิงเตือนองค์ชายห้าอย่างใจดี “ท่านโชคไม่ดี หยุดเล่นดีกว่า”
“เสด็จพี่ทั้งสาม เล่นต่อไม่ได้แล้ว เงินจำนวนนี้ ให้แล้วไปเถอะ…”เมื่อถึงเกือบเที่ยงคืน หยุนเจิงก็บอกให้หยุดอีกเจ้าทึ่มสามคนนี้แพ้จนหมดตูดแล้ว ยิ่งอยากถอนทุนคืนเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียมากขึ้นเท่านั้นทั้งสามไม่เพียงเสียตั๋วเงินที่นำมาจนหมดหน้าตักเท่านั้น ทว่าแต่ละคนยังติดหนี้หยุนเจิงสองหมื่นตำลึงอีกด้วย“เล่น เล่นต่อ!”ดวงตาของหยุนถิงแห้งผาก แต่ยังคงยืนกรานที่จะเล่นต่อเขาไม่เชื่อว่าเจ้าหกโง่เง่าคนนี้จะโชคดีตลอด!“เล่นไม่ได้แล้วจริงๆ”หยุนเจิงหาว พูดว่า “ใกล้เที่ยงคืนแล้ว พรุ่งนี้วันแต่งงานของข้ายังมีธุระให้จัดการอีกมาก ถ้าทำให้เสียงานใหญ่ แล้วเสด็จพ่อซักไซ้ขึ้นมา เกรงว่าพวกเราทั้งสี่คนจะเดือดร้อนกันหมด...”“ข้า...”หยุนถิงอึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเขารู้ว่าที่หยุนเจิงพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหากทำให้งานแต่งงานเสียหาย คงเดือดร้อนแน่นอน!หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสามคนก็จากไปด้วยความเดือดดาล “เสด็จพี่ทั้งสามเดินทางกลับดีๆ...”หยุนเจิงส่งทั้งสามคนออกจากจวน และกล่าวคำอำลาด้วยรอยยิ้ม“ไอ้บ้านี่!”หยุนถิงกัดฟันก่นด่า แล้วขึ้นไปนั่งบนรถม้าด้วยความโกรธองค์ชายที่รองและองค์ชายห
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่