แถมยังทำให้จักรพรรดิเหวินเข้าใจว่าเกาเหอยังทำงานให้เขาอย่างจงรักภักดีด้วย!เยี่ยม!เยี่ยมจริงๆ!วางแผนทุกกระบวนการทุกขั้นตอน!ความเป็นไปได้ทุกอย่างล้วนถูกเขาคาดเดาไว้หมดแล้ว!เยี่ยจื่อรู้สึกชื่นชมอย่างสุดซึ้ง แล้วมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าซับซ้อน “ตอนนี้ข้ายิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าใจท่านแล้ว”หยุนเจิงเม้มปากยิ้มๆ “มีตรงไหนไม่เข้าใจ? เดี๋ยวข้าบอกเจ้าเอง”“ท่านชำนาญเรื่องการวางแผนเกินไปแล้ว!”เยี่ยจื่อถอนหายใจเบาๆ “เช่นเรื่องของหยวนกุย ท่านถึงขั้นคาดเดาทุกอย่างล่วงหน้าเอาไว้แล้ว! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามที่ท่านคิด!”“เจ้าผิดแล้ว”หยุนเจิงส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ข้าคิด แต่เป็นเพราะข้าชักนำเรื่องทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ข้าคิดต่างหาก…”ความจริงแล้วในนั้นไม่มีแผนการเยี่ยมยอดอะไรหรอกเขาชักนำให้หยุนลี่ทุบตีหยวนกุยหยุนลี่ทุบตีหยวนกุยแล้ว เยี่ยจื่อก็ออกมาพูดแทนหยวนกุยได้สำเร็จ หยวนกุยย่อมต้องเชื่อใจเยี่ยจื่อมากกว่าอยู่แล้ว!เป็นไปได้หรือที่เขาจะเชื่อใจคนที่ทุบตีเขาอย่างหยุนลี่น่ะ?สิ่งเดียวที่เดาได้คือเรื่องที่หยวนกุยจะมอบผลประโยชน์ให้กับเยี่ยจื่อแต่ทว่าการวอนขอให้ผู้
ก่อนจะถึงพิธีอภิเษกสมรสระหว่างหยุนเจิงกับเสิ่นลั่วเยี่ยนเหลืออีกหนึ่งวันเท่านั้นจวนของหยุนเจิงยิ่งยุ่งวุ่นวายกว่าเดิมหลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ เยี่ยจื่อและคนอื่นๆ ในจวนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานทุกซอกทุกมุมในจวนต้องทำให้สะอาดเอี่ยม โต๊ะเก้าอี้ที่จำเป็นในงานเลี้ยงมงคลก็ต้องเริ่มนำไปจัดวาง ทั้งยังต้องให้คนตามพ่อครัวหลวงไปเบิกวัตถุดิบจำเป็นที่พระราชวังพร้อมลงบันทึก…คนในจวนยุ่งวุ่นวายกันจนแทบจะแยกร่างเป็นสองคนแล้วมีเพียงหยุนเจิงและซินเซิงเท่านั้นที่ว่างอยู่เรื่องในจวนมีเยี่ยจื่อและคนจากจวนฝ่ายในมาช่วยจัดการ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลซินเซิงเพียงแค่ปรณนิบัติเขาอยู่ข้างๆ ก็เพียงพอบริเวณเรือนหลังตำหนัก หยุนเจิงฝึกซ้อมวรยุทธ์เสร็จสรรพพร้อมรับผ้าเช็ดหน้าที่ซินเซิงยื่นมาให้มาซับเหงื่อบนหน้าเขาเพิ่งจะฝึกวรยุทธ์เอาตอนนี้ ไม่มีทางที่จะเป็นยอดฝีมือได้แน่นอน ทำได้เพียงภาวนาขอให้พระท่านช่วยเท่านั้นถึงแม้จะมีคนมากมายคุ้มกันความปลอดภัยของเขา แต่ตัวเขาเองก็ต้องรู้จักป้องกันตนเองบ้าง!“เฮ้อ หากพบเจอยอดฝีมือคนหนึ่งช่วยเปิดเส้นลมมปราณให้กับตนจนบรรลุเป็นปรมาจารย์เหมือนในหนังก็คงดี…”หยุนเจิ
ในเวลานี้ เจ้าสี่หยุนถิงพูดด้วยรอยยิ้ม "น้องหก วันนี้พวกเรานำของดีมาให้เจ้าด้วยนะ""ของดี?"หยุนเจิงเบิกตากว้างแล้วถามอย่างสงสัย “ของดีอะไร?"ทั้งสามคนนี้นำของดีมาให้ตนด้วยนั้นรึ?คงไม่ใช่เพราะพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรอกกระมัง?หยุนถิงไม่ยอมบอก แล้วปรบมือในบัดดลไม่นาน ผู้ติดตามของพวกเขาทั้งสามก็ถือกล่องใบใหญ่เดินเข้ามาคราวนี้ ทำให้หยุนเจิงยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีกกล่องใหญ่ๆ เช่นนี้คงไม่ใช่ก้อนหินหรอกใช่ไหม?ขณะที่ยังสงสัย หยุนเจิงพลันหัวเราะอีกครั้งและพูดว่า "ข้ารู้แล้วว่าคืออะไร!""โอ๋?"หยุนถิงรู้สึกประหลาดใจ “น้องหกรู้แล้วงั้นหรือ?”"อื้ม!"หยุนเจิงพยักหน้าอย่างจริงจัง "ข้าเดาว่า พวกท่านรู้ว่าพิธีสมรสของข้ากำลังจะมาถึง และข้าก็ขาดแคลนเงิน ดังนั้นพวกท่านจึงส่งกล่องเงินมาให้ข้าโดยเฉพาะ! ข้าต้องขอบคุณพี่ทั้งสามมาก พวกท่านช่วยข้าคลี่คลายสถานการณ์ยากลำบากนี้ไว้ได้จริงๆ!”ไม่ว่าพวกเขาจะนำอะไรมาก็ตามตนขอแสร้งร้องว่าจนก่อนเลยแล้วกัน!หาโอกาสหลอกเงินของพวกเขามาสักหน่อยถึงกระนั้นก็ไม่ปล่อยให้สามคนนี้มายืมเงินตนหรอก“…”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว สีหน้าขอ
ประมาณการคร่าวๆ ในกล่องนี้น่าจะมีไพ่นกกระจอกอยู่จำนวนสิบกว่าชุดมารดามันเถอะ!ไอ้โง่สามคนนี้ป่วยหรือไงกัน!เอาไพ่นกกระจอกมากมายเพียงนี้มาให้ตนทำไม?จะให้ตนไปเปิดบ่อนพนันหรือไงกัน?ชักช้าอยู่ครึ่งวันไม่ยอมปริปากพูด แค่ไพ่นกกระจอกสิบกว่าชุดเนี่ยนะ?นี่มันตั้งใจรังแกตนชัดๆ!“พี่สอง พวกท่านให้ไพ่นกกระจอกข้ามากมายเช่นนี้ทำไมกัน?”หยุนเจิงบ่นในใจอย่างบ้าคลั่ง แล้วแสร้งทำหน้าทะมึนถาม“เจ้ารู้ด้วยหรือว่านี่เรียกว่าไพ่นกกระจอก?”ทั้งสามมองหยุนเจิงด้วยความสงสัยพวกเขาคิดว่าหยุนเจิงเห็นของเล่นนี่เป็นครั้งแรกเสียอีก!“ข้ารู้สิ สองวันก่อนข้าเคยเห็นคนเล่น”หยุนเจิงพยักหน้า“ก็จริง!”องค์ชายสองหัวเราะเหอะๆ “ช่วงนี้คนในเมืองจักรพรรดิต่างก็ชอบเล่นไพ่นกกระจอก ไม่เพียงแต่เหล่าตระกูลผู้ดีที่มีแรงเล่น แม้แต่เสด็จพ่อและพระสนมตำหนักเย็นก็ยังเล่น”ต้องยอมรับว่าการเล่นไพ่นกกระจอกนั้นแพร่หลายอย่างรวดเร็วมากจริงๆที่สำคัญคือของเล่นนี่ทั้งได้ใช้สมองทั้งได้ฆ่าเวลา สำหรับพระสนมตำหนักเย็นที่ไม่มีอะไรทำเหล่านั้นถือเป็นของดีแน่นอน!สำหรับจักรพรรดิเหวินนั้น การเล่นไพ่นกกระจอกกับพระสนมของตนยามว่าง ก็ถื
พันธุ์สุนัขนี่!คิดจะมาให้ของที่นี่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จริงด้วย!ไอ้โง่ทั้งสามเอ๊ย!ตนเล่นไพ่นกกระจอกเป็นตั้งแต่หกขวบแล้ว!พวกเขายังกล้ามาเล่นไพ่นกกระจอกกับตนอีก?ไอ้โง่ที่ส่งตัวมาให้เปล่าๆ เช่นนี้ หากไม่หลอกสักนิดคงรู้สึกผิดกับตนเองแย่!“ไม่…ไม่ดีหรอกกระมัง?”หยุนเจิงเกาศีรษะกล่าวอย่างลังเล “หากเสด็จพ่อรู้ว่าเราเล่นพนันกันจะต้องถูกลงโทษนะ”“นี่จะเรียกว่าเป็นการพนันได้อย่างไร?”องค์ชายสองส่ายศีรษะหัวเราะพลางกล่าวว่า “เสด็จพ่อเองก็ลงเงินเล่นกับเหล่าพระสนมเช่นกัน เขาจะถือโทษเราได้อย่างไร?”“เช่นนี้นี่เอง”หยุนเจิงครุ่นคิดอีกครั้งพลางเอ่ยลองเชิงว่า “เช่นนั้นเราลงเงินจำนวนน้อยๆ หน่อยแล้วกัน ข้าจนจริงๆ”“ไม่มีปัญหา”หยุนถิงหัวเราะฮ่าๆ “พวกเราเองก็มาเพื่อเล่นเป็นเพื่อนเจ้าให้เจ้าคุ้นเคยเท่านั้น ลงพนันสักหน่อยก็เพื่อความสนุก ไม่จำเป็นต้องลงเงินเยอะหรอก”“เช่นนั้นเราเล่นตาละหนึ่งตำลึงได้หรือไม่?” หยุนเจิงทำท่ากลัวแพ้“หนึ่งตำลึง? เจ้าขี้งกเกินไปหน่อยกระมัง?”หยุนถิงไม่ชอบใจ “อย่างไรก็ต้องลงอย่างน้อยห้าตำลึงสิ!”“อะไรนะ? ห้าสิบตำลึง?”หยุนเจิงตกใจสะท้าน และส่ายศีรษะราวกับของ
หลังจากเหม่อไปชั่วขณะ หยุนถิงก็อดหัวเราะไม่ได้อีก“เจ้าหก เจ้าต้องดูให้ดีๆ นะ! ดูผิดจะแพ้เอานะ”หยุนถิงไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะจั่วได้เทียนหู (รูปแบบการชนะของไพ่นกกระจอก ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก)เทียนหูมีหรือจะได้มาง่ายๆ เขาคิดจริงๆ หรือว่าเขาที่ใกล้จะได้เป็นเจ้าบ่าวแล้ว จะโชคดีขนาดนั้น?“ถูกต้อง เจ้าหก เจ้าดูดีๆ ล่ะ ถ้าดูผิดจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้เราสามคนนะ!”“อย่าหาว่าเรารังแกเจ้านะ เจ้าตรวจดูดีๆ จะดีกว่า”องค์ชายรองและองค์ชายห้าก็เห็นคล้อยตามเช่นกันแน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะเจอชุดไพ่ดีๆ แบบเทียนหูได้หลังจากหยุนเจิงได้ยินดังนี้ ก็ก้มลงดูอย่างซื่อๆ ทันทีจากนั้น เขาก็วางไพ่ลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “ข้าได้เทียนหูจริงๆ”“ดีๆ!”หยุนถิงหัวเราะ “เช่นนั้น มารอตรวจสอบไพ่ทีหลังกัน!”ว่าแล้วหยุนถิงก็เริ่มเปิดไพ่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่เชื่อว่าหยุนเจิงจะได้เทียนหูไม่นานไพ่ตานี้ก็จบลงพวกเขาทั้งสามแทบรอไม่ไหวที่จะตรวจสอบไพ่ของหยุนเจิงขณะที่กำลังดูๆ อยู่ สีหน้าของทั้งสามคนก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวเทียนหู!เขาได้เทียนหูจริงๆ งั้นหรือ?เศษสวะนี่ โชคดีขนาดนี้ได้อย่างไรทั้งสาม
“อืม สี่พันตำลึงกว่าแล้ว”หยุนเจิงพยักหน้า พร้อมกับหัวเราะแหะๆ เหมือนคนโง่“เจ้าในฐานะเจ้าบ่าวใหม่ ช่างโชคดีจริงๆ!”องค์ชายห้าหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าโชคดีขนาดนี้ พวกเราก็ลงเดิมพันให้มากขึ้นอีกดีหรือไม่”คำพูดขององค์ชายที่ห้าได้รับความเห็นชอบจากองค์ชายรองและหยุนถิงทันทีทั้งสามคนรวมกัน อย่าให้ต่ำกว่ายี่สิบตำลึง เล่นห้าสิบตำลึงไปเลยหยุนเจิงแสร้งทำเป็นโอ้เอ้ให้พวกเขาพูดโน้มน้าว ในที่สุดก็ถูกบังคับให้ตกลงเจ้าทึ่มสามคนนี้ คิดจะเอาทุนคืนงั้นหรือด้วยระดับสติปัญญาของพวกเขา ต่อให้ตัวเองหลับตาข้างหนึ่งเล่นกับพวกเขา พวกเขาก็มีแต่จะแพ้!จากนั้นทั้งสี่คนก็เล่นไพ่นกกระจอกไปด้วยกินดื่มไปด้วยขั้นต่ำในการลงเดิมพันแต่ละตากลายเป็นห้าสิบตำลึง จำนวนสูงสุดก็เปลี่ยนเป็นสี่ร้อยตำลึงนี่เป็นการพนันครั้งใหญ่อย่างแน่นอนเพื่อค่าใช้จ่ายทางทหารในอนาคต หยุนเจิงจึงต้องพยายามอย่างหนักหนึ่งชั่วยามต่อมา องค์ชายห้าเสียเงินหนึ่งหมื่นตำลึงไปหมดเกลี้ยง แถมยังติดหนี้หยุนเจิงสองร้อยตำลึง“พี่ห้า ท่านแพ้แล้ว วันนี้เราพอเท่านี้เถอะ?”หยุนเจิงเตือนองค์ชายห้าอย่างใจดี “ท่านโชคไม่ดี หยุดเล่นดีกว่า”
“เสด็จพี่ทั้งสาม เล่นต่อไม่ได้แล้ว เงินจำนวนนี้ ให้แล้วไปเถอะ…”เมื่อถึงเกือบเที่ยงคืน หยุนเจิงก็บอกให้หยุดอีกเจ้าทึ่มสามคนนี้แพ้จนหมดตูดแล้ว ยิ่งอยากถอนทุนคืนเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียมากขึ้นเท่านั้นทั้งสามไม่เพียงเสียตั๋วเงินที่นำมาจนหมดหน้าตักเท่านั้น ทว่าแต่ละคนยังติดหนี้หยุนเจิงสองหมื่นตำลึงอีกด้วย“เล่น เล่นต่อ!”ดวงตาของหยุนถิงแห้งผาก แต่ยังคงยืนกรานที่จะเล่นต่อเขาไม่เชื่อว่าเจ้าหกโง่เง่าคนนี้จะโชคดีตลอด!“เล่นไม่ได้แล้วจริงๆ”หยุนเจิงหาว พูดว่า “ใกล้เที่ยงคืนแล้ว พรุ่งนี้วันแต่งงานของข้ายังมีธุระให้จัดการอีกมาก ถ้าทำให้เสียงานใหญ่ แล้วเสด็จพ่อซักไซ้ขึ้นมา เกรงว่าพวกเราทั้งสี่คนจะเดือดร้อนกันหมด...”“ข้า...”หยุนถิงอึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเขารู้ว่าที่หยุนเจิงพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหากทำให้งานแต่งงานเสียหาย คงเดือดร้อนแน่นอน!หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสามคนก็จากไปด้วยความเดือดดาล “เสด็จพี่ทั้งสามเดินทางกลับดีๆ...”หยุนเจิงส่งทั้งสามคนออกจากจวน และกล่าวคำอำลาด้วยรอยยิ้ม“ไอ้บ้านี่!”หยุนถิงกัดฟันก่นด่า แล้วขึ้นไปนั่งบนรถม้าด้วยความโกรธองค์ชายที่รองและองค์ชายห