แชร์

บทที่ 1334

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
สีหน้าของจี้เหมี่ยวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่แล้วก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เฝิงอวี้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาก็แดงขึ้นเล็กน้อย เขาพยักหน้าและกล่าวว่า "งาม งามมาก!"

หยุนเจิงยิ้มอย่างพอใจแล้วหันไปมองจี้เหมี่ยว "นี่คือเฝิงอวี้ เป็นแม่ทัพใหญ่ของข้า ข้าต้องการให้ท่านมอบบุตรีของท่านให้เขา เจ้าคิดว่าอย่างไร?"

"ตามที่ท่านอ๋องต้องการ" จี้เหมี่ยวแม้จะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน

เขาเคยหวังว่า หยุนเจิงจะให้ความสนใจกับบุตรีของเขา

ไม่คิดเลยว่า หยุนเจิงจะมอบบุตรีของเขาให้เฝิงอวี้โดยตรง

แต่เมื่อคิดว่า เฝิงอวี้คือแม่ทัพของหยุนเจิง จี้เหมี่ยวจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

การได้พึ่งพิงแม่ทัพใหญ่ภายใต้บัญชาของหยุนเจิงก็นับว่าไม่เลว อย่างน้อยก็ถือว่ามีที่พึ่งพิงแล้ว

ด้วยความสัมพันธ์นี้ บวกกับความดีที่เขามีในการยอมมอบเมืองให้ เขาก็ยังมั่นใจว่า ตระกูลจี้จะไม่ถึงขั้นล่มจม

"ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสองไม่มีข้อโต้แย้ง เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้แล้วกัน!"

หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ "เฝิงอวี้ ยังไม่ไปทักทายพ่อตาของเจ้าหรือ?"

เฝิงอวี้รีบหันไปคำนับจี้เหมี่ยวและพูดว่า "ขอคำนับพ่อตาขอรับ!"
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1335

    ในตอนกลางคืน หยุนเจิงตั้งใจที่จะลงโทษเมี่ยวอินในพระตำหนักของหยวนซู่อย่างหนัก แต่น่าเสียดาย ที่มีคนมาหาเขาเพื่อรายงานเรื่องต่างๆ อยู่เรื่อยๆ เขาจึงต้องระงับเรื่องการลงโทษเมี่ยวอินเอาไว้ชั่วคราวอย่างไม่มีทางเลือก จนกระทั่งเกือบถึงรุ่งเช้า ตู๋กูเช่อก็ได้มาหาเขา ไฟใหญ่ในเมืองทั้งหมดถูกดับลงแล้ว พวกเขาได้เข้าควบคุมการป้องกันเมืองอย่างสมบูรณ์ ทหารที่ยอมจำนนส่วนใหญ่ถูกยึดอาวุธและเกราะ และถูกควบคุมดูแลรวมกันไว้พวกเขายังได้สอบปากคำทหารพิทักษ์พระราชวังที่ยอมจำนนและรายละเอียดทั้งหมดระหว่างสังหารหยวนซู่ การสังหารหยวนซู่ ความดีใหญ่ที่สุดยังคงเป็นของจี้เหมี่ยว เหยาชั่ว ซาติงสามคนนี้ เหยาชั่วและซาติงใช้โอกาสที่หยวนซู่หลับ โดยการอุดหายใจจนหยวนซู่ตาย จากนั้นเหยาชั่วก็สั่งการแทนหยวนซู่ และย้ายทหารพิทักษ์พระราชวังส่วนใหญ่ไปจับกุมเถียนถงที่ดูแลเมือง แล้วมอบหมายให้คนของจี้เหมี่ยว มาทำหน้าที่แทน จากนั้นใช้ชื่อของหยวนซู่ในการเรียกประชุมขุนนาง และใช้โอกาสนี้ในการฆ่าขุนนางที่ไม่ยอมจำนน แต่ว่าขุนนางเหล่านั้นไม่ได้ยอมให้ถูกฆ่าอย่างง่ายดาย พวกเขาต่อสู้กลับ หลังจากนั้นในเมืองก็เกิดการจลา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1336

    “เจ้าก็เลิกประจบข้าเถอะ” หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้ม ก่อนสั่งว่า “กลับไปให้แต่ละแผนกจัดทำสถิติคร่าวๆ ดูว่ามีกำลังพลที่ยังไม่ได้แต่งงานและสร้างครอบครัวเท่าไหร่ คนที่เหลือไว้เพื่อรักษาความสงบต้องเน้นที่ยังไม่ได้สร้างครอบครัวเป็นหลัก…” คนเหล่านี้สามารถแต่งงานกับหญิงสาวแห่งโฉวฉือได้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาชีวิตคู่ของพวกเขา และยังช่วยเร่งการผสมผสานระหว่างชนเผ่า อีกข้อหนึ่งคือ ทหารที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่ ต้องมีบ้านอยู่ในซั่วเป่ย อย่างน้อยต้องมีพ่อแม่หรือพี่น้องที่บ้าน ไม่ใช่ตัวคนเดียว นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพวกเขากำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวจากแคว้นที่พวกเขาพึ่งทำลาย พวกเขาต้องทำให้ทหารเหล่านี้มีสิ่งที่ต้องพะวง ไม่เช่นนั้นอาจถูกคำพูดสตรีเคียงหมอนเป่าจนหลงผิดได้ อย่างไรก็ตาม หยุนเจิงยังคงยึดถือกฎเดิม การสร้างครอบครัวและตั้งหลักปักฐานนั้นทำได้ แต่ต้องแต่งงานด้วยการสู่ขอตามประเพณีอย่างถูกต้อง ห้ามไม่ให้ใครกระทำการผิดศีลธรรมเด็ดขาด หากกล้าทำ ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะมีความดีความชอบมากแค่ไหน จะต้องถูกประหารสถานเดียว การพิชิตดินแดนแห่งนี้เป็นเพียงก้าวแรก การปกครองดินแดนนี้ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1337

    สองวันให้หลัง หยุนเจิงมอบหมายให้ตู๋กูเช่อจัดการงานที่เหลือ แล้วนำทัพ 80,000 นาย ซึ่งกล่าวอ้างว่าเป็น 100,000 นาย มุ่งหน้าสู่ป้อมซิ่งอัน บริเวณชายแดนตอนใต้ของโฉวฉือ ในกองทัพ 80,000 นายนี้ มีเพียง 20,000 นายที่เป็นกำลังจากกองทหารมณฑณทางเหนือ อีก 20,000 นายคือกองทัพบริวารที่ขยายกำลังขึ้นโดยใช้โครงสร้างจากกลุ่มของต่งกัง สิ่งนี้ต้องขอบคุณตู๋กูเช่อที่ก่อนหน้านี้โจมตีอย่างรวดเร็วใส่กองทัพใหญ่ของโหลวอี้ และยึดอาวุธและเกราะมาได้ไม่น้อย ไม่เช่นนั้น คงเป็นเรื่องยากที่จะระดมกำลังกองทัพบริวาร 20,000 นายนี้ได้ ส่วนอีก 40,000 คนล้วนเป็นแรงงานที่คอยขนส่งเสบียงและของใช้อย่างไรก็ตาม แรงงานเหล่านี้ล้วนเป็นชายฉกรรจ์ ในยามจำเป็น สามารถดึงชายฉกรรจ์เหล่านี้มาเสริมกำลังในกองทัพได้ทันที หยวนเว่ย ซึ่งเดิมถูกหยวนซู่จับขังคุก ก็ถูกหยุนเจิงพาตัวมาด้วย ตามที่จี้เหมี่ยวกล่าว ผู้บัญชาการป้อมซิ่งอัน หลี่เหวินโจว เป็นคนสนิทของหยวนเว่ย หวังว่าหลี่เหวินโจวจะรู้ความ และไม่ทำให้พวกเขาต้องใช้กำลัง หลังจากออกจากเมืองอวี้เฟิง หยุนเจิงสั่งการให้ฉินชีหู่นำกองทหารม้า 2,000 นาย คุมตัวหยวนเว่ยไปพบกับหลู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1338

    อย่างไรก็ตาม กำแพงของป้อมซิ่งอันค่อนข้างเรียบง่าย กำแพงลักษณะนี้ ด้านนอกเป็นหิน ด้านในอัดด้วยดินอัดแน่น ดูคล้ายขนมปังกรอบไส้ใน ป้อมซิ่งอันไม่ได้ใหญ่โตมาก สามารถรองรับกองกำลังทหารประมาณห้าถึงหกพันนายก็ถือว่าเต็มที่แล้ว เมื่อหยุนเจิงนำกองทัพมาถึง ฉินชีหู่ก็นำคนออกมาต้อนรับทันที “เสบียงแห้งเตรียมพร้อมหรือยัง?” ทันทีที่เห็นฉินชีหู่ หยุนเจิงก็ถามขึ้น “เตรียมพร้อมแล้ว!” ฉินชีหู่กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “รอเพียงพวกเจ้าพักฟื้นเสร็จ เราก็สามารถเคลื่อนพลได้!” “ดีมาก!” หยุนเจิงยิ้มอย่างพอใจ “ให้กองทัพพักฟื้นหนึ่งวัน เช้าหลังจากวันพรุ่งนี้ เจ้านำกองทหารโลหิตร่วมกับกองของเติ่งเป่าเคลื่อนพล จงสร้างความโกลาหลให้ใหญ่เข้าไว้ ให้ชนเผ่าโม่ซีรู้ว่าเราบุกมาแล้ว!” แม้ว่ากองทหารโลหิตจะไม่เหมาะกับการเดินทางไกล แต่จำเป็นต้องส่งไป ต้องให้ชนเผ่าโม่ซีได้เห็นกำลังพลทหารม้าหนักแห่งต้าเฉียน! แสดงให้พวกเขาเห็นก่อนสักสองพันนาย! ส่วนจำนวนทหารม้าหนักที่แท้จริง มีเท่าไหร่นั้น ปล่อยให้ชนเผ่าโม่ซีเดาเอาเอง! ฉินชีหู่ขยับเข้าใกล้เล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “น้องชาย ข้าคิดว่าครั้งน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1339

    หยุนเจิงเป็นคนทำงานรวดเร็วฉับไว ในวันเดียวกัน หยุนเจิงก็สั่งขยายป้อมซิ่งอันทันที เนื่องจากวัสดุในพื้นที่มีจำกัด หยุนเจิงจึงสั่งให้สร้างกำแพงโดยใช้วิธีเดียวกับการสร้างกำแพงของป้อมซิ่งอัน ให้สร้างกำแพงรอบนอกก่อน แล้วค่อยปรับปรุงด้านในทีหลัง แรงงานพลเรือน 40,000 คน และผู้ลี้ภัยที่ติดตามมาคือกำลังสำคัญในการสร้างกำแพง หยุนเจิงมอบหน้าที่ขยายป้อมซิ่งอันให้หลี่เหวินโจว พร้อมส่งทหาร 5,000 นายของเขาเป็นผู้ควบคุมงาน เช้าตรู่ของวันถัดมา บริเวณรอบนอกของป้อมซิ่งอันก็เริ่มคึกคัก บางคนขนหิน บางคนขนดิน และบางคนเริ่มสร้างโรงงานชั่วคราวเพื่อเตรียมการก่อสร้างกำแพง หยุนเจิงพอใจกับประสิทธิภาพการทำงานของหลี่เหวินโจวมาก พอตกบ่าย ภูตเก้าก็ส่งคนกลับมารายงาน พวกเขาแอบลอบเข้าไปในป้อมยามแนวหน้าแห่งหนึ่ง และได้ยินจากการสนทนาของทหารในป้อมโดยบังเอิญว่า กำลังพลทั้งหมดของปู้วั่งต๋า รวมถึงสองป้อมยามแนวหน้ามีเพียง 3,000 นายเท่านั้น! การป้องกันของศัตรูค่อนข้างหละหลวม ดูเหมือนจะคิดว่าโฉวฉือไม่กล้าบุกชนเผ่าโม่ซี หากไม่กลัวว่าจะทำให้ศัตรูระแวง พวกเขาก็สามารถจัดการทหารในสองป้อมยามแนวหน้าได้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1340

    หากศัตรูถูกสกัดอยู่ในโกบีแห่งนี้เป็นเวลานาน คงไม่สามารถต้านทานได้นานนัก “ฝ่าบาท หากวันหน้าพวกเราจะบุกชนเผ่าโม่ซีจากเส้นทางนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่าย!” หลูซิ่งเงยหน้ามองรอบด้าน พลางพูดกับหยุนเจิงด้วยความกังวล “ย่อมไม่ง่ายอยู่แล้ว” หยุนเจิงพยักหน้า “ปัญหาใหญ่ที่สุดคือน้ำ! หากบุกด้วยทหารราบยังพอไหว แต่หากเป็นกองทัพม้าคงต้องใช้รถบรรทุกน้ำจำนวนมาก...” “ข้าว่า พวกเจ้ากังวลเกินไปแล้ว” ฉินชีหู่พูดพลางตบปากตัวเอง “ที่นี่คงไม่ถึงกับไม่มีฝนตกทั้งปีหรอกใช่ไหม? รอให้ฝนตก พื้นที่นี้ก็น่าจะมีน้ำขังให้ใช้ แบบนั้นก็ค่อยบุกโจมตีก็ได้!” “……” เมื่อได้ยินคำพูดของฉินชีหู่ ทั้งสองคนถึงกับชะงักไป เหมือนจะ...จริงอย่างที่พูด! “ดูเหมือนพวกเราจะคิดมากเกินไปแล้ว!” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ความคิดพลันโล่งโปร่งขึ้นทันที ฉินชีหู่พูดถูก ถึงแม้ว่าฝนจะตกน้อย แต่ก็คงไม่ถึงกับไม่มีฝนทั้งปี ต่อให้ปีนี้ไม่มีฝนตก ก็ยังสามารถหวังพึ่งฝนในปีหน้าได้ อย่างไรก็ต้องมีช่วงเวลาที่ฝนตก! ตราบใดที่ชนเผ่าโม่ซีถอนกำลัง ในช่วงระยะสั้นพวกเขาก็คงไม่สามารถบุกโจมตีชนเผ่าโม่ซีครั้งใหญ่ได้ อืม ก็หวัง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1341

    ภายใต้แสงอาทิตย์ยามอัสดง ป้อมปู้วั่งต๋าถูกปกคลุมด้วยแสงสีทอง ภายใต้แสงสีทองนั้น ควันไฟจากการหุงหาอาหารลอยขึ้นในป้อม นั่นคือเหล่าทหารในป้อมปู้วั่งต๋ากำลังจุดไฟทำอาหาร ทหารในป้อมปู้วั่งต๋ายังคงมีท่าทีเกียจคร้านเหมือนเช่นเคย ก็โทษพวกเขาไม่ได้ เพราะทหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ประจำการอยู่ที่ป้อมนี้มากว่าสิบปีแล้ว เป้าหมายของป้อมปู้วั่งต๋า มีเพียงโฉวฉือ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โฉวฉือไม่เคยส่งทหารข้ามโกบีใหญ่มาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการโจมตี ผู้ที่ข้ามโกบีใหญ่มา ล้วนเป็นพ่อค้าที่สัญจรไปมาระหว่างโฉวฉือกับเผ่าต่างๆ แห่งแคว้นม่อซี อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่สองเดือนก่อน โฉวฉือได้ปิดพรมแดน ได้ยินว่าโฉวฉือดูเหมือนกำลังจะทำสงครามกับแคว้นต้าเย่ว์ โฉวฉือกังวลว่าในระหว่างที่ทำศึกกับแคว้นต้าเย่ว์ ชนเผ่าโม่ซีจะฉวยโอกาสโจมตีป้อมซิ่งอัน จึงได้ปิดพรมแดน ที่ผ่านมา เมื่อมีพ่อค้าเดินทางผ่าน พวกเขาก็ได้ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ จากพ่อค้าเหล่านั้น บางครั้งก็เป็นทรัพย์สินทองเงิน บางครั้งก็เป็นของกินที่ถวายให้ อย่างไรก็ดี ทุกครั้งที่มีพ่อค้าเดินผ่าน พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์เสมอ ตอนนี้โฉวฉือป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1342

    กองทหารม้า! กองทหารม้าจำนวนมหาศาล! มองไปไกลสุดสายตาก็ไม่เห็นจุดสิ้นสุด ตอนนี้ กองทหารม้าศัตรูบุกมาถึงระยะไม่ถึงสองร้อยเมตรจากกำแพงป้อมแล้ว เขาเห็นชุดเกราะและธงรบของศัตรูอย่างชัดเจน นี่มันกองทหารม้าของต้าเฉียนจริงๆ! ต๋าจ้านยืนนิ่งมองกองทหารม้าต้าเฉียนที่บุกเข้ามาด้วยความฮึกเหิมจนลืมแม้แต่จะสั่งการป้องกัน จนกระทั่งลูกธนูพุ่งผ่านข้างหูของเขาไป เขาถึงเหมือนตื่นจากฝัน “เร็ว เข้าไปป้องกันจุดที่พัง! ตั้งแนวป้องกัน! ตั้งแนวป้องกัน!” ต๋าจ้านตะโกนจนสุดเสียง แต่ก็ไร้ความหมายใดๆ “ตั๊งๆๆ……” เสียงระฆังเตือนภัยดังสนั่นไม่หยุด ทหารในป้อมปู้ต๋าวั่งพยายามตั้งแนวป้องกันอย่างสับสน แต่ก่อนจะตั้งแนวเสร็จ ฝนลูกธนูก็พุ่งเข้ามา ถัดมา กองทหารม้าต้าเฉียนบุกทะลุช่องกำแพงเข้ามา สังหารทหารป้อมเหมือนฟันผลไม้ “หนีเร็ว!” “หนีเร็วเข้า!” “ช่วยด้วย ช่วยด้วย…” ขวัญกำลังใจของทหารป้อมปู้วั่งต๋าถูกทำลายแทบจะในทันที มีเพียงไม่กี่คนที่ยังต้านไว้สุดชีวิต แต่ส่วนใหญ่เหมือนแมลงวันไร้หัว วิ่งหนีอย่างอลหม่าน ตั้งแต่วินาทีที่กองทหารม้าต้าเฉียนปรากฏตัว พวกเขาก็พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิ

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1630

    หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1629

    สองวันต่อมา หยุนลี่ได้รับจดหมายตอบกลับจากหยุนเจิง เมื่อมองเนื้อหาในจดหมาย หยุนลี่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาถึงกับขยี้ตาหลายรอบ กลัวว่าตัวเองจะมองผิดไป ตกลงแล้ว! เจ้าหกสุนัขชั่วนั่นตอบตกลงจริงๆ! หยุนเจิงยอมจ่ายเงิน หนึ่งล้านสองแสนตำลึง พร้อมกับส่งตัวหยางหุยโจว เพื่อแลกกับอิสรภาพของฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัวทั้งสิบสามชีวิต ท้ายจดหมาย หยุนเจิงยังกล่าวข่มขู่ หากครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งมีอันเป็นไป อย่าได้โทษว่าเขาไม่ไว้หน้า! "ฮ่าๆๆ!" เมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้อ่านผิดไป หยุนลี่ถึงกับหัวเราะลั่น หนึ่งล้านสองแสนตำลึง แม้จะยังไม่เทียบเท่ากับจำนวนเงินที่เขาเคยถูกหยุนเจิงโกงไป แต่หนึ่งล้านสองแสนตำลึงก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย สำหรับเขาแล้ว นี่มีความหมายไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถหลอกเอาเงินจากหยุนเจิงได้! และครั้งแรกนี้ก็เล่นไปถึง หนึ่งล้านสองแสนตำลึง! จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไร!? ปากของฮั่วเหวินจิ้งแข็งเกินไป หากฆ่าฮั่วเหวินจิ้งทิ้งเพียงเพราะความโกรธ ก็มีแต่เสียเปล่า แต่ถ้าใช้เขามารีดเงินจากเจ้าหกได้… ไม่ใช่ว่าเป็นประโยชน์กว่าหรือ!? คิดไม่ถึงว่า มันสำเร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1628

    เมื่อหยุนเจิงกล่าวจบ ก็เล่าถึงข้อสันนิษฐานของตนให้เสิ่นควานฟัง นอกจากเหตุผลนี้แล้ว เขาก็นึกไม่ออกถึงสาเหตุอื่นเลย หยุนลี่คงไม่ถึงกับยากจนขนาดจับใครมาเรียกค่าไถ่จากเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกใช่ไหม? หากมีสิ่งผิดปกติ ย่อมต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่! เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง เสิ่นควานก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด ว่ากันตามตรง ข้อสันนิษฐานของฝ่าบาทก็มีความเป็นไปได้อยู่มาก ฝ่าบาทจับตัวคนของหยุนลี่ แล้วเรียกค่าไถ่ หยุนลี่ก็ทำตามแบบเดียวกัน จับตัวคนที่เขาคิดว่าเป็นสายของฝ่าบาท แล้วเรียกค่าไถ่บ้าง? หรือว่านี่จะเป็นการใช้วิธีของศัตรูมาตอบโต้ศัตรูแบบที่ฝ่าบาทเคยพูดสินะ? “กราบทูลฝ่าบาท แม่ทัพอวี่ชื่อจงส่งสาสน์เร่งด่วนมา!” ในขณะนั้นเอง กองทหารองครักษ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน พร้อมถือจดหมายฉบับหนึ่งไว้ในมือ สาสน์ด่วนจากอวี่ชื่อจง? หรือว่าเจ้าสามคิดลงมือแล้ว!? เจ้าสามคงไม่บ้าถึงขั้นเปิดศึกในเวลานี้หรอกกระมัง? “นำมานี่!” หยุนเจิงรีบให้เสิ่นควานรับจดหมายมา เมื่อได้รับจดหมายจากเสิ่นควาน หยุนเจิงก็เปิดอ่านอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย สีหน้าของเขากลั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1627

    อุทยานบุปผาหลวง หลังจากการประชุมเช้าเสร็จสิ้น จักรพรรดิเหวินรับสั่งให้คนไปแจ้งหยุนลี่ ให้มาเดินเล่นเป็นเพื่อน บิดาและบุตรก้าวเดินไปข้างหน้า ขณะที่มู่ชุ่นและขุนนางติดตามคนอื่นๆ จงใจเว้นระยะห่างออกไป "ฮั่วเหวินจิ้งยังไม่ยอมเปิดปากรึ?" จักรพรรดิเหวินทรงไขว้พระหัตถ์ไว้เบื้องหลัง ตรัสถามด้วยพระพักตร์เคร่งขรึม "ยังพ่ะย่ะค่ะ" หยุนลี่ส่ายศีรษะเบาๆ "ฮั่วเหวินจิ้งไม่กลัวทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง ยืนกรานไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อพรรคพวก" จักรพรรดิเหวินตรัส "ในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งไม่ยอมพูด เช่นนั้นก็เปลี่ยนวิธีเถิด!" เปลี่ยนวิธี? หยุนลี่มองจักรพรรดิเหวินด้วยความฉงน "เสด็จพ่อทรงมีแผนใด?" "แผนการวิเศษอะไรนั้นไม่มี มีแค่แผนโง่ๆ แผนหนึ่ง" จักรพรรดิเหวินแย้มสรวล "เจ้าหกไม่เคยเล่นงานเจ้ารึ? เช่นนั้นเจ้าก็เอาฮั่วเหวินจิ้งมาเล่นงานเขาบ้างสิ! ให้เขานำเงินมาไถ่ตัวฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัวของเขา!" อืม? หยุนลี่ได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวินเช่นนั้น พลันเกิดประกายความคิด สามารถทำเช่นนี้ได้ด้วยรึ? "แผนนี้ของเสด็จพ่อแยบยลยิ่ง!" หยุนลี่รีบกล่าวคำเยินยอจักรพรรดิเวหิน ก่อนจะมีท่าทีล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1626

    "ข้าให้ความไว้วางใจเจ้าไม่น้อย แต่เจ้าเอาความภักดีไปให้สุนัขกินแล้วหรือ?" "ข้าทำผิดอะไรกับเจ้าหรือ?" ยิ่งพูดยิ่งโกรธ หยุนลี่กระทืบฮั่วเหวินจิ้งซ้ำอีกหลายครั้ง หากไม่ใช่เพราะต้องการเก็บชีวิตของมันไว้เพื่อรีดข้อมูล เขาคงสั่งให้จับมันไปประหารเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว! "แค่กๆ..." ฮั่วเหวินจิ้งถูกเตะซ้ำๆ จนกระอักเลือดออกมาเป็นสาย หยุนลี่พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้เผลอฆ่ามันซะก่อน ตะคอกเสียงดัง "บอกมา! ยังมีพวกของเจ้ากี่คน!?" ฮั่วเหวินจิ้งนอนตัวสั่นอยู่บนพื้น แววตาเจ็บปวด "กระหม่อม...ไม่รู้จริงๆ... แค่กๆ..." กล่าวจบฮั่วเหวินจิ้งก็สำลักเลือดออกมาอีก "ไม่รู้? คิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือไง!?" หยุนลี่มองฮั่วเหวินจิ้งด้วยสายตาเย็นชา "ข้ากำลังให้โอกาสเจ้า หากเจ้ายังไม่เห็นค่าของมัน ข้าไม่เพียงจะทำให้เจ้าอยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้ แต่จะส่งคนไปสังหารทั้งตระกูลเจ้าให้สิ้นซาก!" น้ำเสียงของหยุนลี่เย็นเยียบดุจน้ำแข็ง เขาต้องรีดเอาข้อมูลออกมาให้ได้! ต้องรู้ให้แน่ชัดว่าข้างกายเขายังมีคนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่อีกหรือไม่! "กระหม่อมไม่รู้จริงๆ!" ฮั่วเหวินจิ้งส่งเสียงคร่ำครวญ "ต่อให้ฝ่าบาทสั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1625

    ยามดึกสงัด ณ จวนองค์รัชทายาท แม้เวลาจะล่วงเข้าสู่เที่ยงคืนแล้ว แต่หยุนลี่ยังคงไม่ยอมนอน ฎีกาจากกรมกองต่างๆ ถูกส่งมารวมไว้ที่เขาทั้งหมด ปกติแล้วฎีกาเหล่านี้ก็มีไม่น้อยอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ปริมาณฎีกาเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว ที่สำคัญ เนื้อหาในฎีกาส่วนใหญ่มีเพียงเรื่องเดียว ขอเงิน! แม้เขาจะหาทางแก้ปัญหาเรื่องเงินไปบางส่วนแล้ว แต่เงินในท้องพระคลังยังคงร่อยหรอ ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าหกสุนัขชั่วนั่นคิดหาวิธีหลอกเอาเงินอยู่ตลอด! ขณะหยุนลีกำลังอ่านฎีกาชุดสุดท้าย ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก "ขอทูลองค์รัชทายาทฝ่าบาท ฮั่วเหวินจิ้งถูกจับกุมแล้วพ่ะย่ะค่ะ!" เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหยุนลี่ก็เปลี่ยนไปทันที ฮั่วเหวินจิ้ง! สารเลว! ที่แท้มันก็คือเขาจริงๆ ! "เข้ามา!" ประกายสังหารพุ่งวาบขึ้นในดวงตาของหยุนลี่ เขาแทบอยากฉีกทึ้งฮั่วเหวินจิ้งเป็นชิ้นๆ ยังดีที่เขาระแวดระวังไว้ก่อน ไม่เช่นนั้น ไม่รู้ว่าชายชั่วผู้นี้จะซ่อนตัวอยู่ข้างกายเขาอีกนานเท่าใด! สมควรตาย! ไม่นานนัก องครักษ์ผู้รายงานข่าวก็เดินเข้ามา "จับตัวได้เมื่อใด?

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1624

    ณ ชั่วขณะนั้น หยุนลี่พลันเข้าใจถึงความยากลำบากของจักรพรรดิเหวิน เหล่าขุนนางในราชสำนักนั้น ทั้งต้องใช้งาน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ปล่อยให้พวกเขามีอำนาจมากเกินไป จำเป็นต้องหาจุดสมดุลระหว่างการใช้งานกับการควบคุมพวกเขา ในราชสำนัก ย่อมไม่อาจปล่อยให้ขุนนางผู้ใดมีอำนาจล้นฟ้า แม้แต่ผู้ที่เขาไว้วางใจที่สุด! … ยามโพล้เพล้ ณ จวนฮั่ว "ฮั่วผิง นี่ก็ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว เจ้าจะออกไปไหน?" พ่อบ้านที่ประจำอยู่หน้าจวนฮั่วทักขึ้นเมื่อเห็นฮั่วผิงกำลังจูงม้าเทียมเกวียนออกจากจวน ฮั่วผิงตอบกลับ "ฟืนถ่านในจวนใกล้หมดแล้ว นายท่านสั่งให้ข้ารีบออกไปซื้อก่อนที่ฟ้าจะมืด" "เช่นนั้นเจ้าต้องรีบกลับมาให้ทันมื้อเย็นนะ ถ้าพลาดเวลาอาหารก็ต้องอดข้าวแล้ว" พ่อบ้านที่เฝ้าประตูเตือนขึ้น ฮั่วผิงยิ้มขื่นๆ พยักหน้ารับ ก่อนจะขับเกวียนออกไป ไม่นาน ฮั่วผิงก็มาถึงตลาดขายถ่านทางตอนใต้ของเมือง ขณะที่เขามาถึง ร้านค้าถ่านก็เตรียมจะปิดร้านกันแล้ว "พ่อค้า รอก่อน! ข้าจะซื้อถ่าน" ฮั่วผิงตะโกนเรียกพ่อค้าผู้กำลังจะปิดร้าน พ่อค้าหันมามอง ก่อนจะชะงักมือที่กำลังปิดประตูร้าน "พี่ฮั่ว ทำไมเจ้าถึง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1623

    แม้กู้ซิวจะคัดค้านอย่างหนัก แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจของหยุนลี่ได้ ท้ายที่สุด เรื่องนี้ก็ถูกกำหนดลงไป หยุนลี่ยังสั่งกำชับทั้งห้าว่าห้ามเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป เมื่อทุกคนค่อยๆ ถอนตัวออกไป สวีสือฝู่กลับอ้างว่ามีเรื่องสำคัญต้องหารือกับหยุนลี่ และขออยู่ต่อ "ฝ่าบาท ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?" สวีสือฝู่ขมวดคิ้ว ถามหยุนลี่ด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ตกปลา!" หยุนลี่เผยรอยยิ้มลึกลับ ดวงตามีแววเจ้าเล่ห์และภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ ความกังวลของกู้ซิวนั้นช่างเกินเหตุไป เขาคือองค์รัชทายาทผู้สำเร็จราชการในฐานะผู้แทนพระองค์ และเป็นจักรพรรดิในอนาคต! ย่อมเข้าใจผลกระทบของเรื่องนี้เป็นอย่างดี ไม่มีทางโง่เขลาถึงขั้นปล่อยเงินปลอมเข้าสู่ตลาดโดยตรง "ตกปลา?" แววตาของสวีสือฝู่ฉายแววเย็นเยียบ "ฝ่าบาททรงสงสัยว่ามีคนในพวกเราห้าคนนี้ไม่น่าไว้วางใจหรือ?" "ไม่ ไม่ใช่!" หยุนลี่รีบโบกมือ "ข้าย่อมเชื่อใจท่านลุงและพ่อตาแน่นอน! ข้าเพียงแต่สงสัยฮั่วเหวินจิ้งเท่านั้น…" กล่าวพลาง หยุนลี่ก็เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ฮั่วเหวินจิ้งพยายามบ่ายเบี่ยงไม่เดินทางไปฟู่โจว เขาถึงขั้นสงสัยว่า ครั้งก่อนท

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1622

    หากกองทัพเกิดความวุ่นวายขนานใหญ่ ต้าเฉียนก็จะเข้าสู่กลียุคในไม่ช้า"พวกเจ้าดูเถิด!" หยุนลี่ใบหน้ามืดครึ้ม หยิบจดหมายสองฉบับบนโต๊ะส่งให้ทั้งห้าคนดู ทั้งห้าคนไม่กล้าชักช้า รีบรุดเข้ามาอ่านเนื้อหาในจดหมาย "สามล้านตำลึงเงิน เสบียงอาหารสองแสนชั่ง ช่างต่อเรือหนึ่งพันคน เขาช่างกล้าขอจริงๆ…" "ก็ต้องให้สิ! ไม่ให้แล้วจะทำอย่างไร? นี่ล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทฝ่าบาทรับปากไว้ไม่ใช่หรือ?" "ต่อให้รับปากแล้ว ก็ยังสามารถถ่วงเวลาไปก่อนได้มิใช่หรือ?" "จะถ่วงเวลาอย่างไร? หากถ่วงไปอีก ก็จะเลยฤดูกาลเพาะพันธุ์มันเทศแล้ว!" "ค่าไถ่ตัวหยางหุยโจวก็ต้องจ่าย หากปล่อยให้หยุนเจิงประหารหยางหุยโจว เช่นนั้นจะกระทบต่อพระเกียรติยศของฝ่าบาท…" ยังไม่ทันที่หยุนลี่จะเอ่ยถาม ทั้งห้าก็ถกเถียงกันขึ้นมาเอง การถ่วงเวลาออกไป ย่อมเป็นผลดีต่อพวกเขา แต่ปัญหาก็คือ หยุนเจิงได้เตือนมาในจดหมายแล้ว หากยังไม่ส่งเงิน เสบียง และช่างต่อเรือไปยังฟู่โจว ฤดูกาลเพาะพันธุ์มันเทศก็จะผ่านพ้นไป และหากต้องการมันเทศอีก ก็ต้องรอจนถึงปีหน้า ขณะที่ทั้งห้าคนยังวิตกกังวล หยุนลี่กลับเผยรอยยิ้มออกมา "ต้องให้แน่นอน! มันเทศต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status