แชร์

บทที่ 1186

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 17:00:01
หยุนเจิงเพิ่งสนทนากับทั้งสองคน คนในจวนก็มารายงาน เฉินปู้มาแล้ว

“เช่นนั้นพวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าไปพบเฉินปู้”

หยุนเจิงลุกขึ้นยืน

ไม่นาน หยุนเจิงก็พบเฉินปู้

“คาราวะท่านอ๋อง”

เฉินปู้ทำความเคารพด้วยความนอบน้อม

เฉินปู้มีความเย่อหยิ่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหยุนเจิง เขาไม่กล้าหยิ่งผยอง

“ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าที่สวนดอกไม้ข้างหลังเถอะ!”

หยุนเจิงเรียกเฉินปู้ แล้วเดินไปยังสวนดอกไม้ของหลัง

เฉินปู้รีบตามไป

ขณะที่กำลังเดิน จู่ๆ หยุนเจิงก็ถาม “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะหรือไม่?”

คำถามที่มากะทันหันของหยุนเจิงทำให้เฉินปู้จับต้นชนปลายไม่ถูก

หลังขบคิดชั่วครู่ เฉินปู้ตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ความสามารถของข้าน้อย ไม่อาจเทียบท่านอ๋อง แต่ข้าน้อยมั่นใจ ข้านับว่าเป็นอัฉริยะ”

“ประจบประแจงได้ไม่เลว ต่อไปไม่ต้องประจบแล้ว”

หยุนเจิงหันหน้ามองเฉินปู้

เฉินปู้ส่ายหน้าเบาๆ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าน้อยไม่ได้ประจบประแจง ความสามารถของข้าน้อย ไม่อาจเทียบท่านอ๋องได้จริงๆ”

หยุนเจิงยิ้มเรียบๆ จากนั้นก็ถาม “ให้เจ้ารับหน้าที่จัดส่ง กำกับดูแลเสบียงอาหารกองทัพหนึ่งแสนแนวหน้า เจ้ารับหน้าที่ได้หรือไม่?”

“ได้!”

เฉิน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1187

    หลายวันต่อมา หยุนเจิงอยู่ที่ติ้งเป่ยตลอดนอกจากอยู่เป็นเพื่อผู้หญิงของเขาแล้ว เขาได้ทำการเตรียมพร้อมมากมายไม่ว่าด้านหน้าจะสู้กันเช่นไร ด้านหลังห้ามเกิดความวุ่นวายเด็ดขาดหลังจากย้ายจั่วเริ่นจากด่านเป่ยลู่แล้ว หยุนเจิงยังส่งผู้ช่วยสองคนไปเป็นผู้ช่วยเว่ยหยูกองทหารรักษาการณ์ของด่านเป่ยลู่น้อยไปกว่าเมื่อก่อนมาก ด่านเป่ยลู่จำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่าปล่อยให้ผู้ใดมีโอกาสยึดด่านเป่ยลู่ได้ระหว่างนั้น หยุนเจิงยังสั่งให้ช่างฝีมือในโรงตีเหล็กทำดวงตาพันลี้ออกมาหลายอัน สั่งคนส่งไปให้ตู๋กูเช่อสามอันหลายวันให้หลัง ทหารราบห้าพันคนของจั่วเริ่นได้เคลื่อนทัพมาถึงติ้งเป่ยแล้วสามารถถือโอกาสคุ้มกันขนส่งเสบียงบางส่วนจากติ้งเป่ย ลดแรงกดดันของการขนส่งเสบียงกองกำลังอื่นได้หลังจากกองกำลังจั่วเริ่นมาถึง ทุกคนล้วนรู้ดี ถึงเวลาที่หยุนเจิงต้องจากไปแล้วเช่นกันไม่มีการบอกลาที่เกิดกว่าเหตุ แล้วก็ไม่มีน้ำตามากมายหลังจากหยุนเจิงกอดเสิ่นลั่วเยี่ยนและเยี่ยจื่อ ก็ถอยไปด้านข้าง คาราวะบอกลาฮูหยินเสิ่นอย่างเคร่งครัด จากนั้นก็พลิกตัวขึ้นม้า นำทัพเดินทางไปยังชายแดนกู้เพิ่งออกเดินทางได้ไม่นาน หยุนเจิงก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1188

    เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง เมี่ยวอินอดยิ้มไม่ได้เจ้าหมอนี่ จับความคิดของจั่วเริ่นที่อย่างนำทัพเข้าร่วมรบได้แล้วแม้เขาไม่จำกัดเวลาจั่วเริ่น ทว่าจั่วเริ่นเพื่อที่จะเร่งเดินทางมาถึงค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนเพื่อเข้าร่วมศึกแล้ว ย่อมต้องเพิ่มความเร็วในการคุ้มกันขนส่งเสบียงสุดชีวิตจั่วเริ่นย่อมเข้าใจความหมายของหยุนเจิง รีบทุบอกรับประกัน “องค์ชายวางใจ ข้าต้องใช้อัตราความเร็วสูงสุดคุ้มกันขนส่งเสบียงไปถึงยังเขาห่านป่าหวนกลับ!”“ดี!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย “เช่นนั้นเรื่องที่เหลือมอบให้เจ้าแล้ว!”หลังมอบหมายงานให้จั่วเริ่นเสร็จ หยุนเจินนำกองกำลังทหารองค์รักษ์ของตัวเองออกไป รีบเดินทางไปชายแดนกูหลังกลับถึงชายแดนกู้ หยุนเจิงเรียกต่งกังมาทันที ถามความคืบหน้าของคนที่เขาปรับปรุงหลายวันมานี้ ต่งกังได้ใช้นักเรียนหนึ่งร้อยคนนั้นเป็นโครงสร้างในการปรับปรุงทหารราบสี่พันคนทว่า เนื่องม้าศึกไม่เพียงพอและปัญหาสุขภาพของทหาร สี่พันคนนี้ล้วนเป็นทหารราบทั้งหมดอีกทั้ง อุปกรณ์ของพวกเขาไม่อาจเทียบกับทหารราบเกราะหนักหนึ่งหมื่นคนของหวังชี่ได้แต่ต่งกังเชื่อ กำลังรบของสี่พันคนนี้ไม่เลวเลยแม้ว่าพวกเขาจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1189

    ตอนนี้ค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับมีคนประจำการสองหมื่นนอกจากทหารม้าชั้นยอดสองหมื่นคนของอวี๋ซื่อจงและเติ่งเป่าแล้ว ก็ยังมีทหารราบเกราะเหล็กหนึ่งหมื่นที่หวังชี่บัญชาการนอกจากนี้แล้ว ยังมีเชลยศึกหนึ่งหมื่นคนเป็นกรรมกรจับกังอยู่ที่นี่ค่ายถาวรที่เขาห่านป่าหวนกลับเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วสนามฝึกซ้อม แท่นแม่ทัพ คลังเสบียง โรงม้าและอื่นๆ โดยพื้นฐานสร้างเสร็จแล้ว แต่นี่ไม่ใช่แค่ผลงานของเชลยศึกเหล่านั้น กองกำลังของอวี๋ซื่อจงและหวังชี่ที่ประจำการอยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้ นอกจากการฝึกฝนประจำวันแล้ว ยังช่วยออกแรงไม่น้อย“บ้านพักทหารเล่า?”หยุนเจิงหัวหน้าถามอวี๋ซื่อจงที่อยู่ข้างกาย“คือว่า...”พูดถึงเรื่องบ้านพักทหาร อวี่ซื่อจงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนทันที “บ้านพักทหารยังไม่เคลื่นไหว ทำไม่ทันจริงๆ...”หยุนเจิงได้ฟังก็รู้แผนการของพวกอวี๋ซื่อจงเมื่อฤดูหนาวมาถึง คนสามารถไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ม้าจำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัยมนุษย์ ต่อให้ฤดูหนาวมาถึง หลบอยู่ในกระโจมก็สามารถหลบเลี่ยงลมหนาวจากหิมะได้แม้พวกเขาได้ม้าศึกมาจากเป่ยหวนไม่น้อย ทว่ากองทหารมณฑลทางเหนือก็ยังขาดแคลนม้าศึกอยู่ดีสำหรับม้าศึกเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1190

    ตอนนั้นศัตรูคนสำคัญของพวกเขาคือเป่ยหวน ใครจะมีแก่ใจไปสนใจพวกโฉวฉื่อ แคว้นต้าเย่ว์ทุกคนเมื่อเข้ามาก็ล้อมอยู่ด้านข้างถาดทรายอวี๋ซื่อจงไม่รอช้า หยิบท่อนกระบองชี้ไปที่ถาดทรายแล้วเริ่มอธิบายอวี๋ซื่อจงและหวังชี่ล้วนเลือกคนประมาณห้าร้อยคนจากในกองกำลัง จัดตั้งเป็นกองทหารชั้นยอดที่แข็งแกร่งทรงพลังพวกเขาจะส่งคนแทรกซึมเข้าไปในดินแดนเพื่อสืบข่าวและสำรวจภูมิประเทศของแคว้นศัตรูโฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ทะเลาะกันเอิกเกริกด้วยท่าทางต้องการสู้ตายหลายวันก่อน ทั้งสองแคว้นยังเปิดฉากโจมตีหยั่งเชิงกัน แต่ก็ฟ้าร้องดัง ฝนตกปรอยรายละเอียดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พวกเขาเองก็ไม่รู้ชัดเจนเป็นไปได้มากว่าไม่มีการบาดเจ็บแต่เสียชีวิตเลยด้วยซ้ำการวินิจฉัยของอวี๋ซื่อจงและหยุนเจิงสอดคล้องกันมากโฉวฉื่ิอและแคว้นค้าเย่ว์กำลังเล่นละครกันจริง แต่พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อระดมกำลังทหารออกจู่โจม เอาว่าทำเพื่อสร้างภาพว่าสองแคว้นทำศึกกัน หลอกล่อให้ต้าเฉียนเป็นฝ่ายบุกโจมตีเป่ยหมัวถัวทางตะวันตก โดยพื้นฐานแล้วเป็นพื้นที่ที่ราบสูงจุดตัดระหว่างโฉวฉื่อและเป่ยหมัวถัวนั้นเต็มไปด้วยภูเขาสูงต้าเฉียนคิดบุกเข้าโฉวฉื่อ แทบจะบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1191

    “จากสถานการณ์ตอนนี้ การบุกโจมตีจากแม่น้ำซัวเล่ย เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย”หยุนเจิงตอบ “แต่ว่า ข้ากำลังคิดมาตลอด สามารถโจมตีด่านเทียนฉงได้หรือไม่!”แผนการก่อนหน้านี้ของเขาคือบุกโจมตีจากแม่น้ำซัวเล่ยแต่หากคิดแผนการที่ดีในการยึดด่านเทียนฉงได้ การบุกโจมตีด่านเทียนฉง เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดหากเปิดประตูใหญ่ของโฉวฉื่อได้แล้ว กำลังทหารด้านหลังของโฉวฉือว่างเปล่า ก็จำเป็นต้องถอนทัพจากชายแดนกลับมาช่วยเหลือถึงขั้นบอกได้ว่า ขอแค่ตีทะลวงด่านเทียนฉง โฉวฉื่อจะล่มสลายก็ไม่ไกลแล้วเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง อวี๋ซื่อจงและหวังชี่อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันแล้วยิ้มสุดท้าย องค์ชายกับพวกเขาก็เหมือนกัน มีความคิดอยากตีด่านเทียนฉงแต่ความคิดจะตีด่านเทียนฉง ปัญหาก็กลับไปอยู่ที่จะตีทะลวงด่านเทียนฉงได้เช่นไรใช้กำลังบุกโจมตีด่านอย่างด่านเทียนฉง ไม่ว่าเป็นพวกเขาหรือหยุนเจิง ล้วนไม่อยากทำคนที่ปกป้องด่านเทียนฉงก็คือแม่ทัพใหญ่เถี่ยสงของโฉวฉื่อสำหรับเถี่ยสง พวกเขาไม่เข้าใจมากนักรู้เพียงว่าแม่ทัพท่านนี้ชำนาญในการปกป้องเมืองพวกเขาคนชีวิตคนไปกองไว้ ล้วนไม่อาจยึดด่านเทียนฉงได้ตอนที่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1192

    นี่ก็เหมือนการต่อสู้ของฮว๋าเซี่ยสมัยโบราณไม่ทันไรก็มีกองทัพหนึ่งแสนในนามอย่างง่ายดายทว่ากองกำลังที่สามารถทำศึกได้จริงๆ โดยปกติแล้วล้วนไม่ถึงครึ่ง“องค์ชาย โฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ไม่อาจดูถูกได้”เวลานี้ เติ่งเป่าเอ่ยปากเตือนขึ้นมากะทันหัน“เหตุใดกล่าวเช่นนี้?”หยุนเจิงถามด้วยความสนใจเติ่งเป่าสีหน้าจริงจัง “ตัดการใช้ทหารกับเป่ยหมัวถัวก่อนหน้านี้ออก โฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ไม่เกิดเรื่องทำศึกมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ทั้งสองแคว้นแม้จะเล็ก แต่น่าจะมีทรัพย์สมบัติเก็บสะสมอยู่บ้าง”“ใช่แล้ว”หวังชี่พยักหน้าเห็นด้วย “เมื่อก่อนเป่ยหวนแข็งแกร่ง ฉวนหรงและเป่ยหมัวถัวล้วนอาศัยพึ่งพาเป่ยหวน สองแคว้นต่อให้มีใจ ก็ไม่กล้าใช้ทหารกับเป่ยหมัวถัวและฉวนหรงโดยง่าย ส่วนศักยภาพของชนเผ่าโม่ซีและกุ้งฟางที่อยู่ด้านข้างพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่า พวกเขาทำได้เพียงบำรุงสุขภาพและสะสมกำลัง รอเวลาที่เหมาะสม”หยุนเจิงครุ่นคิด พยักหน้าเบาๆ “มันก็จริง”อื้ม ดูเหมือนเขาดูถูกศัตรูไปหน่อยแล้วไม่ว่าศักยภาพสองแคว้นเป็นเช่นไร ในเมื่อตัดสินใจส่งทหารแล้ว เช่นนั้นก็ต้องทุ่มสุดตัวหยุนเจิงปรับสภาพจิตใจ จากนั้นก็จ้องถาดทรายตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1193

    ชักจูงให้ยอมแพ้?หลังสิ้นเสียงของหยุนเจิง ทุกคนต่างสีหน้าตกตะลึงพวกเขาไม่รู้ว่าหยุนเจิงเกิดความคิดแผลงๆ หรือคิดเพ้อเจ้อขึ้นมากะทันหันหยุนเจิงเหตุใดจึงคิดจะชักจูงเถี่ยสงให้ยอมแพ้?อวี๋ซื่อจงรู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ถามหยั่งเชิง “องค์ชายคงไม่คิดจะยุแยงเถี่ยวสงกับกษัตริย์โฉวฉื่อกระมัง?”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าเผยรอยยิ้มจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เติ่งเป่าค่อยๆ ขมวดคิ้ว “แผนการนี้ขององค์ชายไม่เลวเลน แต่ข้าได้ยินว่า กษัตริย์โฉวฉื่อหยวนซู่เชื่อใจเถี่ยสงเป็นพิเศษ อาศัยแค่จดหมายฉบับเดียวคิดจะยุแยงพวกเขา ความเป็นไปได้ไม่น่ามีมาก”“ไม่เป็นไร”“หยุนเจิงยักไหล่ “ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ช่างมัน! ถึงเช่นไรก็แค่จดหมายฉบับเดียวเท่านั้น ต่อให้ไม่สามารถยุแยงพวกเขาได้ สามารถฝังเมล็ดพันธ์แห่งความสงสัยพวกเขาขุนนางและกษัตริย์ได้ก็ยังดี!”นี่ก็เป็นแค่ทดลองอย่างขอไปทีเท่านั้นเขาไม่ได้คาดว่าอาศัยจดหมายฉบับเดียวจะสามารถชักจูงเถี่ยสงให้ยอมแพ้ได้หากไม่ได้ ก็ส่งคนไปสำรวจด่านเทียนฉง ดีที่สุดคือทำความเข้าใจสถานการณ์ด่านเทียนฉงโดยรวมได้บอกว่าจะเคลื่อนไหวก็เคลื่อนไหวไม่นาน หยุนเจิงก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่งเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1194

    ไม่ใช่แค่ฉินชีหู่ไม่เข้าใจ แม่ทัพนายกองคนอื่นก็ไม่เข้าใจเช่นกัน“เรื่องนี้กลับไปข้าค่อยอธิบายกับพวกเจ้า”หยุนเจิงหยุดการซักไซ้ไล่เรียงของพวกแม่ทัพ “สิ่งที่เรียกว่าคำบัญชาสวรรค์ ต้องมีความคลุมเครือ ทั้งยังต้องทำให้คนคิดเชื่อมโยงไปถึงเถี่ยสงก่อกบฎ ทุกคนล้วนคิดดูให้ดี คำบัญชานี้ควรเขียนเช่นไร? ไม่จำเป็นต้องเยอะเกินไป บทกวีสองประโยคก็ได้แล้ว”เขียนบทกวี?คราวนี้ ทุกคนลำบากใจแล้วพวกเขาล้วนเป็นแม่ทัพสายบุ๋น แม้ไม่ถึงขั้นกล่าวว่าไม่รู้จักสักคำ ทว่าเพื่อนร่วมเรียนของพวกเขาก็ไม่ได้สูงส่งไปถึงที่ใดให้เขียนโคลงกลอนที่ท่องด้วยปากเปล่ายังทำได้ ให้พวกเขาเขียนบทกวี ทำให้พวกเขาลำบากใจแล้วอีกทั้ง หยุนเจิงยังต้องการให้ทั้งคลุมเครือทั้งต้องทำให้คนคิดถึงความหมายโดยประมาณได้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขายากลำบากยิ่งขึ้นฉินชีหู่เป็นคนแรกที่ตีกลองล่าถอย “เรื่องวางเพลิงศัตรูมาหาข้าได้ เรื่องนี้ข้าขอไม่มีส่วนร่วม! พวกเจ้าค่อยๆ คิด ข้าไปทำงานก่อน”กล่าวจบ ฉินชีหู่ตัดบทแล้วหลบไปอย่างรวดเร็วจากนั้น เติ่งเป่า หวังชี่ อวี๋ซื่อจงงและคนอื่นๆ พากันหาข้ออ้างแล้วจากไปให้พวกเขาแม่ทัพฝ่ายบุ๋นทำเรื่องนี้ ฝืนบังคับกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status