เมื่อแพ้แล้ว กองทหารติดอาวุธสุดท้ายของเป่ยหวนก็จะถูกกำจัดหมดสิ้นแล้ว!พวกเขาอยากเอาชนะ แต่พวกเขารับผลที่เกิดจากความพ่ายแพ้ไม่ได้“สมองเจ้าถูกตีจนโง่แล้วใช่หรือไม่?”หยุนเจิงจ้องมองเจียเหยาด้วยความหงุดหงิด “ข้าคิดว่า พวกเราหากส่งทหารออกไป คิดว่าส่งทหารไปช่วยพวกเจ้าโดยตรงดี หรือส่งไปโฉวฉือ แคว้นต้าเย่ว์ บุกเข้ากุ่ยฟางโดยตรงดี?”“การบริโภคเสบียงพวกเจ้าห้าหกหมื่นคนมาก หรือว่าการบริโภคเสบียงของทหารสองหมื่นมาก?”“ข้าให้เสบียงที่เพียงพอให้กับพวกเจ้า การเดินทางไกลเพียงนั้น การขนส่งไม่จำเป็นต้องใช้คนหรือ?”“เจ้ายินดีไปปล้นเสบียงทัพศัตรู หรือยินดีนำม้าศึกมาแลกเสบียง?”“พวกเจ้ามีม้าศึกมากน้อยเท่าใดนำมาแลกเสบียง? ต้องการส่งม้าศึกบรรณาการมากขึ้นหรือไม่?”“หากพวกเจ้าปล้นเอาเสบียงมา ยังจำเป็นต้องให้ข้าสนับสนุนอาวุธและชุดเกราะให้พวกเจ้าสาม ห้าหมื่นคนหรือ?”“หากเจ้าเป็นข้า เจ้ายินดีช่วยเหลือส่งอาวุธและชุดเกราะมากมายอย่างเต็มที่กับแคว้นที่เพิ่งมาสวามิภักดิหรือ?”“……”หยุนเจิงระเบิดอย่างรุนแรง ทุกคำถามถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่องเผชิญกับคำถามของหยุนเจิง เจียเหยาสติหลุดไปเล็กน้อยก่อนหน้านี้นาง
สองวันให้หลัง กองทัพหลักของเป่ยหวนมาถึงชายแดนกู้ห้าหมื่นคนของเป่ยหวนที่อพยพมา ไม่ได้เป็นคนหนุ่มสาวร่างกายแข็งแรงทั้งหมดโดยพื้นฐานแล้วคนเหล่านี้ต่างก็เคยเป็นชนเผ่าของเจียเหยา การอพยพดำเนินการโดยนับตามครัวเรือนทุกครัวเรือนรับประกันว่าอย่างน้อยมีหนุ่มสาวแข็งแรงสองคนสำหรับวิธีนี้ของเจียเหยา ก่อนหน้านี้หยุนเจิงตกลงแล้ว จึงไม่ได้กล่าวสิ่งใดวิธีการอพยพเช่นนี้ สำหรับเขาและผู้อพยพเหล่านั้นแล้ว ต่างก็ได้ประโยชน์อพยพเข้ามาทั้งครอบครัว ก็สะดวกต่อการจัดการรอนานเพียงนี้ หยุนเจิงในที่สุดก็ได้พบฉีเหยียนหลานชายของเจียเหยาฉีเหยียนยังเล็ก ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า เพียงแค่มองคนและสิ่งของรอบๆ ด้วยความสงสัย“ข้าว่า เด็กคนนี้คงไม่ใช่ตัวปลอมกระมัง?”หยุนเจิงมองประเมินฉีเหยียนหนึ่งรอบ จากนั้นก็ถามเจียเหยาด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มเขาไม่เคยพบฉีเหยียนเด็กคนนี้ใช่ฉีเหยียนหรือไม่ ยังรอยืนยันเรื่องแมวเสือดาวสับเปลี่ยนรัชทายาท เจียเหยาทำได้แน่นอนเจียเหยาเหลือบมองหยุนเจิง จากนั้นก็กล่าวนิ่งๆ “คนของพวกเราที่ถูกเจ้าจับเป็นเชลยศึกที่ทางเดินทะเลทรายตะวันออก หลายคนต่างก็เคยพบฉีเหยียน เจ้าถามพวก
หากไม่ใช่การกระทำชุดนี้ของเจียเหยา การต่อสู้ของพวกเขาครั้งนี้ ยึดอาวุธจากข้าศึกที่รบแพ้ก็จะได้มากขึ้นข้อเสียของเจียเหยา น่าจะเป็นเรื่องทักษะการรบทุกสิ่งที่เขาเรียนมา ล้วนเป็นทักษะการรบที่ตกผลึกมากจากเหล่าบรรพบุรุษนับไม่ถ้วนเมื่อหลายพันปีก่อนส่วนทุกสิ่งที่เจียเหยาเรียน ย่อมไม่ได้กว้างขวางเท่าใดหากเจียเหยาได้เรียนสิ่งเหล่านั้นเช่นกัน ตัวเขาก็ไม่ได้ว่าจะเอาชนะเจียเหยาได้ทั้งครั้งแล้วครั้งเล่าเห้อ!คนอย่างเจียเหยา หากสามารฝึกอบรมอยู่ข้างกายเขา ในอนาคตต้องเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถที่สุดไม่ว่าจะการปกครองภายในหรือการทหาร!น่าเสียดาย!เจียเหยาก้มหน้าอยู่นานมาก จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยเสียงดัง “เจียเหยาขอโทษทุกคน!”“ต่อจากนี้ไป ทุกคนก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ต้าเฉียอย่างสบายใจเถอะ!”“วันหน้าหากมีโอกาส เจียเหยาจะไปเยี่ยมเยียนทุกคน!”“ชาตินี้ที่ติดค้างทุกคนไว้ เจียเหยามีเพียงต้องใช้คืนชาติหน้าแล้ว…”เมื่อได้ฟังคำพูดของเจียเหยา กลุ่มคนร้องไห้สะอึกสะอื้อออกมากะทันหันไม่นาน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนี้แค่กระจายออกไปทุกคนคุกเข่าอยู่กับพื้น เสียงร้องไห้สะอื้นดังไปทั่วเมื่อได้ยินเสียง
กลางคืน เจียเหยากับหยุนเจิงและเมี่ยวอินนั่งด้วยกันหยุนเจิงเรียกคนเตรียมอาหารหลายจานและสุราสองสามไห นับว่าเป็นการพิธีส่งเจียเหยา“นี่นับว่าเป็นสุรามงคลของพวกเราหรือ?”เจียเหยาช้อนตามองหยุนเจิง สีหน้าเต็มไปด้วยการถากถางตัวเอง“หากเจ้าคิดเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้”หยุนเจิงยกไหสุราขึ้นมาอย่างขอไปที รินสุราให้พวกนางและตัวเองหนึ่งถ้วยเขายังไม่ทันวางไหสุราลง เจียเหายาก็กระดกสุราจางกงเมามายหมดรวดเดียว“ปัง!”เจียเหยาวางถ้วยสุราลง เห็นได้ชัดว่ารอให้หยุนเจิงรินสุราให้นาง“เจ้ารินเอาเอง!”หยุนเจิงไหนเลยจะมีแก่ใจปรนนิบัตินาง!ให้เกียรตินางเล็กน้อย นางก็คิดจะได้ใจแล้วเจียเหยาไม่พูดจา สองมือยื่นไป หยิบถ้วยเหล้าของหยุนเจิงและเมี่ยวอินมาท่ามกลางสายตามึนงงของหยุนเจิงและเมี่ยวอิน เจียเหยาราวกับดื่มน้ำ กระดกถ้วยสุราของทั้งสองคนรวดเดียวหมดไม่เหลือสักหยด จากนั้นก็หยิบไหสุรา รินเติมถ้วยสุราให้ทั้งสามคน“เจ้าอยากดื่มจนเมา?”หยุนเจิงมองเจียเหยาด้วยสงสัย “ดูเหมือนเจ้าดื่มไม่เมากระมัง?”“ใช่แล้ว! ดื่มไม่เมา”เจียเหยาใบหน้าโศกเศร้า กล่าวถากถางตัวเอง “ข้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ แม้แต่คิดจะดื่มจนเ
จัดการเรื่องเหยี่ยวขาวได้แล้ว เขาสามารถไปสร้างรหัสลับได้แล้วต้องให้ผู้ฝึกเหยี่ยวเหล่านั้นสอนทักษะให้คนของพวกเขาฝึกฝน ทั้งยังต้องจัดตั้งกองทหารรับผิดชอบส่งข่าวและถอนรหัสโดยเฉพาะต่อไปหากต้องส่งข้อมูล ก็จะสะดวกขึ้นมา“แล้วแต่เถอะ!”เจียเหยามองหยุนเจิงด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง จากนั้นก็กล่าว “ด้านเสบียงอาหาร ข้าหวังว่าภายภาคหน้าจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนได้มากขึ้น! เสบียงอาหารแค่สามแสนตั้น สำหรับพวกเราแล้ว มันน้อยมาก”ต่อไปภายในสองสามปี เป่ยหวนยังคงขาดแคลนอาหารคนขาดแคลนอาหารของเป่ยหวน จะเป็นจำนวนที่เยอะจนน่ากลัวเสบียงอาหารสามแสนตั้น ไม่ต่างอันใดกับน้ำน้อยแพ้ไฟหยุนเจิงครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็ยิ้มถาม “เงินทองของพวกเจ้าเยอะหรือไม่?”เงินทองหรือ?เจียเหยามองหยุนเจิงด้วยความตกใจเงินทองของเป่ยหวนมีไม่มากแต่ว่า เทียบกับนำม้าศึกแลกเสบียงอาหารแล้ว เจียเหยายินดีนำเงินทองซื้อเสบียงอาหารมากกว่า!ไม่มีกิน มีเงินทองอยู่ในมือ นอกจากดูแล้ว ยังสามารถทำสิ่งใดได้อีก?“เจ้ายินดีให้พวกเราใช้เงินทองซื้อเสบียง?”นัยน์ตาเจียเหยาในที่สุดก็มีราศรี มองหยุนเจิงด้วยความตื่นเต้น กลัวหยุนเจิงปฏิเสธเรื่องนี้
กลางวันของวันที่สอง พวกเจียเหยาพกเสบียงอาหารจำนวนน้อยออกจากชายแดนกู้ไปสุดท้ายหยุนเจิงก็ไม่ได้ส่งเจียเหยาทว่า ตอนที่เจียเหนาเดินทางออกไปค่อนข้างไกลแล้ว นางกลับหันไปมองหอคอยของชายแดนกู้โดยไม่รู้ตัวบนหอคอย ยังสามารถเห็นเงาของคนผู้หนึ่งได้แม้เงานั้นจะเลือนราง แต่เจียเหยามั่นใจ นั่นคือหยุนเจิงหยุนเจิงมองร่างไปที่อยู่ไกลๆ เงียบๆ ภายในใจถอนใจด้วยความจนใจ“คนเหล่านั้นของพวกเรา ส่งออกไปแล้วหรือยัง?”หยุนเจิงหันหน้าถามเมี่ยวอิน“ส่งออกไปแล้ว”เมี่ยวอินพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ถาม “เจ้าคิดว่าเจียเหยาจะทรยศ?”“ไม่รู้”หยุนเจิงหันหน้ามองทิศทางที่พวกเจียเหยาจากไป “ข้าหวังว่าเจียเหยาจะฉลาดพอ แต่ก็ต้องระวังพลังแห่งความเกลียดชังด้วย!”สำหรับเจียเหยา หยุนเจิงไม่ไว้ใจอุบายของผู้หญิงคนนี้มากมายเกินไปเป่ยหวนตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องยอมจำนนทันทีที่เป่ยหวนพักฟื้นกลับมา ไม่แน่ว่านางอาจเล่นลูกไม้ใดอีกแต่หวังว่า เจียเหยาจะคิดได้จริงๆ!เขาไม่หวังว่าสักวันต้องฆ่าเจียเหยาด้วยมือตัวเองเมี่ยวอินนิ่งเงียบ เวลานี้ไม่รู้ควรกล่าวสิ่งใดนางเองก็ไม่หวังให้หยุนเจิงฆ่าเจียเหยาด้วยมือเขาในสักวันแต่น่
คำแนะนำอย่างจริงใจของเยี่ยเจื่อหากประชากรซั่วเป่ยเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก พวกเขาไม่มีทางจัดซื้อเสบียงอาหารอย่างเพียงพอภายในด่าน ซั่วเป่ยช้าเร็วก็จะประสบปัญหาขาดแคลนอาหารระหว่างสนทนา เยี่ยจื่อนำจดหมายที่จางซูส่งคนกลับมามอบให้หยุนเจิงในจดหมายจางซูบอกว่า ตอนนี้ พ่อค้าธัญพืชบางรายเริ่มผลักดันราคาธัญพืชให้สูงขึ้นแล้วราคาของอาหารทั้งหมดล้วนสูงขึ้นไม่น้อยเพิ่มราคาอย่างน้อยหนึ่งส่วน มากสุดสามส่วนตอนนี้ ราชสำนักได้เริ่มปราบปรามพ่อค้าที่โก่งราคาธีญพืชแล้ว แต่ใครก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะได้ผลเพียงใดสิ่งที่จางซูคิดคือ ไม่ต้องสนใจว่าราคาขึ้นมาน้อยเพียงใด พยายามซื้อเสบียงอาหารมาเก็บกักตุนเอาไว้ เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉินมิฉะนั้น ต่อให้ภายภาคหน้าเงินพวกเขามีเงินมากมายจนใช้ไม่หมด แต่ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมีเสบียงอาหารให้ซื้อหยุนเจิงวางจดหมายของจางซู ครุ่นคิดเงียบๆตอนนี้ซื้อเสบียงอาหารเข้ามามาก ก็จำเป็นต้องง่ายเงินจำนวนมากแต่ซั่วเป่ยก็ไม่อาจทำได้ถึงขั้นซื้อให้ตนเองจนเพียงพออีกทั้ง หลังฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ผลิ ซั่วเป่ยอาจเกิดการทำศึกอีกรอบพวกเขาจำเป็นต้องกักตุนอาหารจำนวนมาก!มิฉะนั้น
“รายงาน! รายงานด่วน! มีตั๊กแตนระบาดหนักในเป่ยหวน เป่ยหวนได้รวบรวมกำลังทหารม้าเหล็กจำนวนสองแสนนายที่ชายแดน ราชครูแห่งเป่ยหวนได้นำทัพด้วยตนเองมุ่งมาทางเมืองหลวงเพื่อขอเสบียง อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้วขอรับ!”“มาขอเสบียงต้องใช้กำลังพลทหารม้าเหล็กสองแสนนายเลยรึ เป่ยหวนสมควรตาย นี่มันกำลังข่มขู่ข้าชัดๆ!”“ฝ่าบาท ราชวงศ์ของเราเพิ่งประสบกับคดีที่องค์รัชทายาทกบฏ ภายในไม่มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง เวลานี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเปิดศึกกับเป่ยหวนได้นะพ่ะย่ะค่ะ”“มีราชโองการ: ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ขุนนางในราชสำนักเร่งมาที่พระราชวังเพื่อประชุมด่วน หากผู้ใดล่าช้า มีโทษประหาร!”...ณ ที่พำนักขององค์ชายหก เรือนปี้ปัว ราชวงศ์ต้าเฉียน หยุนเจิ้งนั่งอยู่คนเดียวที่ศาลาในสวนแม้ว่าเขาจะยอมรับความจริงเรื่องทะลุมิติเวลามาได้แล้ว แต่ในใจยังคงรู้สึกหดหู่อยู่เล็กน้อยเหตุใดจึงทะลุมิติเวลามาอยู่ในร่างขององค์ชายที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้เล่า!ที่สำคัญคือ คนผู้นี้ยังบังเอิญได้รับจดหมายเลือดที่องค์รัชทายาททิ้งไว้เพื่อเปิดโปงเรื่ององค์ชายสามกล่าวหาว่าองค์รัชทายาทก่อกบฏ หลังจากนั้นก็ทำให้เขาถูกองค์ชายสามจับตามองอยู