"นี่ เล่ามาซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ตรีศูลนั่งกอดอกมองสามแสบ นพ สิงห์ ศร ที่กำลังนั่งคุกเข่าเตรียมรอรับความผิดอยู่ด้วยสายตาที่เลิ่กลั่กไม่ต่างกันเท่าไรนัก
จนเหตุการณ์ทั้งหมดขมวดปมได้ว่าเจ้าสิงห์มันเห็นว่าคุณดินมองตัวเขาบ่อยเลยอยากแกล้งเล่น จึงลองใจโดยการเข้าทำเป็นสนิทชิดเชื้อกับเขาตลอดทั้งงาน
ส่วนเจ้าศรไม่รู้เป็นไงมาไงเด็กดีคนนี้ถึงโกรธเกลียดเจ้าสิงห์มันนัก อยู่ ๆ ก็มองเขม่นใส่ พูดจาไม่ไพเราะอย่างเคย
หนักสุดเห็นจะเป็นเจ้านพศิษย์เอกที่สารภาพออกมาหมดทุกอย่างว่าตัวเองคอยเป็นเบื้องหลังสนับสนุนคุณดินหรือ'ลุงทหาร'อย่างที่เจ้าตัวเรียก เพื่อจะผลักดันให้คุณมาเป็น'องครักษ์พิทักษ์ครูแก้วจากตาแก่พรเทพ' เป็นชื่อที่ได้ยินก็แสลงหูแล้ว ถึงจะรู้ว่าไม่ชอบหน้าอย่างไรแต่เขาก็คือคนที่ให้เงินเรามานะ!
"เฮ้อ ศรครั้งนี้พี่ให้อภัย ส่วนอีกสองคน..."
นพกับสิงห์ขนลุกซู่เมื่อดวงตาเรียวยาวตวัดมองมาทางพวกเขา
"ให้เลือกระหว่างไม้เรียวอันนี้กับทำความสะอาดเรือนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เลือกมา"
ลูกศิษย์สองสะดุ้งเฮือก พวกเขารู้ซึ้งดีถึงอานุภาพของไม้ก้านบาง ๆ
"เชิญคร้าบ เชิญนั่งเลยนะคร้าบ"ปลื้มปีติยิ้มต้อนรับแขกคนพิเศษหน้าบาน วาดมือนำโฉมงามมานั่งลงที่โต๊ะรับแขก จัดเตรียมขนมเพียบพร้อมกับชาร้อน ๆ สำหรับหน้าฝนที่อุณหภูมิลดลงต่ำ"กระผมดีใจจริง ๆ ที่จะมีนางฟ้ามาช่วยงาน"นายสิบกุมมือทั้งสองข้างของนางรำหนุ่มยกขึ้นลงเป็นการขอบคุณอย่างสุดซึ้งเพราะเขาเองก็แก้เอกสารมาไม่ต่ำกว่าสิบรอบได้แล้ว แต่เบื้องบนก็ยังไม่อนุมัติงบให้เสียทีจนต้องมาพึ่งวิธีเรี่ยไรเงินแบบนี้นี่แล"ขออภัยที่แนะนำตัวช้าครับคุณแก้ว ผมสิบเอกปลื้มปีติ วิภา เรียกปลื้มก็ได้ครับ เป็นรุ่นน้องของร้อยครับ"นายทหารร่างสันทัดกล่าวเสียงเจื้อยแจ้ว แล้วจึงรินน้ำใส่แก้วให้แขกคนสำคัญดื่ม"ครั้งก่อนผมมารบกวนไว้เยอะเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับ"ตรีศูลกระชับเสื้อแขนยาวกันหนาวโน้มตัวกล่าวด้วยความจริงใจ ในวันนั้นเขามาด้วยอารมณ์เลยอาจพลั้งพลาดเสียมารยาทไป"แหม ๆ ไม่เป็นไรเลยครับ พวกผมเข้าใจถึงความเป็นห่วงในฐานะผู้ปกครองดี""แล้วเรื่องที่เรียกผมมาวันนี้...""ยุทธกีฬาครับ"ร้อยที่ยืนจัดเรียงเอกสารอยู่หน้าโต๊ะกล
ตกเย็นมาร้อยเอกที่จัดการเอกสารทุกอย่างครบแล้วก็ได้เวลาออกจากสถานที่ทำงาน พิภพตอนนี้แม้ภายนอกจะดูเป็นคนมาดดุแต่ก็เป็นที่นับหน้าถือตาของคนภายในโรงเรียน มีคนทักทายบ้างประปรายจนทำให้เขานึกถึงนางรำหนุ่มที่มีคนรู้จักแทบจะทั้งชุมชนก็อดอมยิ้มขึ้นมาไม่ได้เมื่อนั้นพิภพก้มหน้าเอามือป้องปากเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าเขาเป็นบ้าเพราะยิ้มอยู่คนเดียวไปเสียก่อน ทันทีเมื่อหางตาชำเลืองไปเห็นว่าปลายทางเป็นเรือนไทยดังจุดหมายจึงสาวเท้าให้ไวกว่าเดิมจนในที่สุดก็มาถึงเสียทีเสียงระนาดดังมาจากบนเรือนผสานกับเสียงนับจังหวะของคนที่คุ้นเคย รองเท้าหนังสีดำขลับจากที่เดินลงน้ำหนักมาตลอดกลับค่อย ๆ ก้าวขึ้นเรือนมาอย่างช้า ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงจนเมื่อหัวโผล่พ้นบานกั้นพิภพจึงตาเบิกโพลง เมื่อมองไปยังนางรำหนุ่มที่กำลังนำนักเรียนอยู่ ท่วงท่ายังคงลื่นไหลและสวยงามอย่างเคยจนคนมองได้แต่เคลิบเคลิ้มมองเสียจนนักดนตรีที่เดี่ยวระนาดอยู่สังเกตเห็นสิงห์ที่นั่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากหน้าบันไดมากได้เห็นผู้มาใหม่ก็ยกยิ้ม นพบอกเขามาหมดแล้ว ดังนั้นสิ่งที่สิงห์ตัดสินใจทำคือการหยุดเพลงระนาดไปเสียดื้อ ๆ ทำเอ
ตรีศูลในวันนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำอาหารเองกับมือสำหรับให้เจ้าศรน้องน้อยได้ทานหลังจากแสดงมาเหนื่อย ๆ ตอนพักกลางวัน ผมเผ้าจากที่รวบแบบหยาบ ๆ เช้านี้เป็นมวยกลมรวบผมขึ้นไปจนหมด มือคู่สวยจัดการตั้งไฟกระทะราดน้ำมันด้วยแววตาอันมุ่งมั่น ทว่าท้ายที่สุดผลลัพธ์ของการตื่นตีสี่มาทำอาหารเองก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จากวัตถุดิบอันเลอค่ากลายเป็นตอตะโกดำมิดหมีนางรำหนุ่มกุมขมับและตระหนักได้ว่าตนเองเป็นนางรำมีหน้าที่รำ ดังนั้นอาหารจึงเป็นหน้าที่ของพ่อครัว คิดแล้วก็ตัดสินใจหยิบกระเป๋าเงินวิ่งไปตลาดซื้ออาหารสำเร็จตามแผงมาอุ่นไว้แทน"พี่ตรี ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง?"อดิศรที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำยกผ้าขนหนูซับหัว
'ถ้าสารอาหารคุณไปหากินที่อื่นก็ได้นะครับ ไม่ต้องมาตรงนี้''ผมนั่งตรงนี้แล้ว จะลุกไปเฉย ๆ คงจะเสียมารยาทกับครูแก้วเปล่า ๆ ครับ''เก้าอี้คุณก็มีให้นั่ง ทำไมไม่นั่งล่ะครับ''ลูกศิษย์คุณเสื่ออื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมมานั่งเสื่อนี้ล่ะครับ'ในขณะที่สองหนุ่มจ้องไฟแทบลุก เมื่อพิภพเผลอก็เป็นฝ่ายของพรเทพที่ได้จานตรงกลางไปครอบครอง เศรษฐีหนุ่มหันมายิ้มเยาะกับนายทหารยศร้อยเอกไปหนึ่งทีก่อนจะก้มลงไปละเมียดตักแบ่งข้าวและกับขึ้นมาชิมอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่พิภพต้องตกอย
ตรีศูลขอตัวออกมาชำระล้างร่างกายที่เปียกปอนไปทั้งตัว แม้มือจะสามารถขยับได้ปกติดีแล้วแต่อาการวิตกในใจก็ยังไม่จางหายไป มือปรางค์เท้าร่างเปลือยเปล่ากับขอบโอ่งยันตัวเองเอาไว้ไม่ให้เป็นลมไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นส่องกระจกแขวนแล้วจึงเห็นสภาพขอบตาตัวเองแดงรื้น'อายุปูนนี้แล้วยังร้องไห้กับเรื่องเก่า ๆ อยู่อีกนะเรา'ร่างโปร่งถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนรีบจัดการตักขันน้ำรดตัวสระผมล้างร่างกายให้สะอาดนุ่งผ้าขาวม้า ก่อนจะมารู้ตัวว่าเขาลืมหยิบเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนติดมือด้วยมา ตรีศูลเลิ่กลั่กเสื้อตัวเก่าก็อยู่ที่ตะกร้าด้านนอกทั้งยังปนกับผ้าเหม็นไปแล้ว แถมคุณดินยังอยู่ในห้องเขาจะเข้าไปเปลี่ยนตามปกติแม้พวกเราจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เขาก็อายอยู่ดี *แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก* ตรีศูลที่ตีกับตัวเองอยู่หน้าห้องน้ำหูกระตุก เร่งไฟตะเกียงเดินออกมายังใจกลางเรือนก่อนจะพบว่าที่หน้าห้องนอนตัวเองได้มีแม่แมวกับลูก ๆ ของมันราวกว่าสิบตัวตะกุยประตูอยู่*ม้าว* เสียงใสของเหล่าลูกแมวร้องประสาน ตรีศูลที่เห็นภาพนี้จนชินตาจึงวางทุกอย่างเดินไปหน้าห้องเก็บลูกแมวข
พิภพโล่งอกที่วันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องตื่นแต่มืดเพื่อเดินกลับบ้านพักไปจัดการข้าวของ นายทหารที่ไม่มีอะไรทำนั่งพิงกำแพงชำเลืองมองเจ้าของเรือนกำลังสางผมอยู่อย่างเหม่อลอยอยู่หน้ากระจกมือคู่สวยจับแบ่งลอนผมชื้นเป็นช่อไล่สางปลายผมลงอย่างประณีต กระทั่งท่านั่งบนเก้าอี้กลมยังเก็บขาเรียบร้อย"อ๊ะ!"ตรีศูลอุทานเมื่อหวีไปติดเข้ากับเส้นผมไม่ว่าจะพยายามแก้เท่าไรก็ไม่คลายเสียที"ให้ผมช่วยนะครับ"มือหนาเข้าประชิดใต้กกหู ค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วแก้ปมอย่างใจเย็น ดวงตาสีหม่นหรี่ลงใช้สมาธิมองไปยังเส้นผมเงางาม โดยไม่เห็นเลยว่าใบหูของคนบนเก้าอี้ขึ้นสีเลือดฝาด ตรีศูลนั่งเกร็งไม่ขยับอะไรเพราะอีกคนดูจะตั้งใจช่วยมาก"ขะ...ขอบคุณครับ คุณดูคล่องจังเลย"ตรีศูลจับช่อผมเรียบแปล้ไม่มีปมก่อนจะสางเล่น เมื่อกี้ทำเขาตกอกตกใจหมด"ผมทำบ่อยน่ะครับ ตอนหวีผมให้ภรรยากับลูก"ตรีศูลตาเบิกโพลง หยุดการกระทำทุกอย่างและหันขวับมามองนายทหารที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เมื่อกี้นี้เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม"คุณดินแต่งงานมีลูกแล้วเหรอคร
คุณครูนาฏศิลป์ในวันนี้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่เนื่องจากหลายเดือนมานี้ตั้งแต่เขาได้มีน้องชายคนละแม่มาร่วมอาศัยอยู่ด้วย เขาเลยจำต้องตื่นมาอุ่นอาหารให้เจ้าตัวทุกเช้าเป็นกิจวัตรจึงจะกลับไปนอนต่อได้ ทว่าระหว่างที่เขากำลังตั้งหม้ออุ่นแกงเหลืองอยู่นั้นเองก็พึ่งนึกได้ว่าเจ้าศรมันออกไปลาดตระเวนอีกสามวันกว่าจะกลับ จึงตักแบ่งเฉพาะส่วนของตัวเองมาราดข้าวและเอาส่วนที่เหลือในหม้อเก็บกลับเข้าตู้เนื่องด้วยวันนี้เขาต้องออกงานช่วงสายจึงสามารถตื่นหกโมงมากินข้าว ฉีกเนื้อปลาให้อาหารแมว และอาบน้ำได้อย่างไม่เร่งรีบอะไร"สวัสดีตอนเช้าครับอาจารย์"นพกระพุ่มมือไหว้ วางกระเป๋าย่ามพิงระเบียงเข้ามาหาอาจารย์ วันนี้ไม่มีซ้อมแต่เจ้าตัวต้องติดตามผู้เป็นครูออกไปเรียนรู้งานเพื่อเตรียมตัวสำหรับรับช่วงต่อเจ้าเด็กแสบก็ได้แต่ง้องอนที่ทำไมอาจารย์แกจะเกษียณไวแท้ ยังมีเศรษฐีหน้าหม้อให้เราปอกลอกเงินอยู่ตั้งเยอะแยะ แต่ครูเจ้าพอได้ยินก็ใช้กำปั้นมะเหงกศิษย์เอกเห็นแก่เงินไปทีหนึ่ง"แล้วถ้าอาจารย์ไม่เป็นเจ้าของแล้ว อาจารย์จะทำอะไรอะ""คิดว่าจะเข้าไปทำงานที่พระนครน่ะ" เพราะเขาก
"เฮือก!!" พิภพกระเด้งตัวตื่นขึ้นมากลางดึกจากฝันร้ายนั้น ใช้มือลูบหน้าลูบตา เหงื่อผุดตามใบหน้าด้วยความกระวนกระวายจากเหตุการณ์ในฝัน เขาหันซ้ายหันขวาดูสิ่งแวดล้อมรอบกายเลยยังเห็นว่าตัวเองยังคงอยู่ในค่ายลาดตระเวนพร้อมเหล่ายุวชนทหารบางส่วนนอนเรียงรายกันอยู่ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกปวดหนึบที่กลางกาย จึงก้มลงไปดูและเห็นว่า'มัน'ผงาดขึ้นจนเห็นเป็นกระโจมเขาไม่น่าไปฟังเรื่องที่เจ้านพมันเล่าก่อนจะมาลาดตระเวนเลย'ผมกับสิงห์ไม่ได้นอนเรือน ศรก็ออกไปลาดตระเวน อาจารย์อยู่คนเดียว จะโดนทำมิดีมิร้ายหรือเปล่าก็ไม่รู้'เพราะประโยคนั้นประโยคเดียวทำเอาเขาฝันเรื่องเดียวกันติดมาสองคืนแล้ว แถมได้ข่าวว่าช่วงที่เขาไม่อยู่ คุณแก้วต้องออกไปทำงานกับเจ้าหมอนั่นอีกทำเอาใจเขาไม่ดีเอาเสียเลยนายทหารคิดไปก็ยกมือขึ้นจับไปทั้งคอ นวดแก้เมื่อยก่อนจะหรี่ตาไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าอีกไม่เกินสองชั่วโมงหน่วยของรุ่นน้องเขาจะกลับมาจากลาดตระเวนแล้วจึงยืดเส้นยืดสายลุกเดินไปเปิดไฟปลุกเหล่าลูกเจี๊ยบให้ตื่นขึ้นมาเอาน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดกันก่อนผู้กองที
กลิ่นเขม่าควันฉุนจมูกและสายลมที่พัดพากลุ่มเพลิงภายในบ้านเด็กกำพร้าโหมกระหน่ำ คานไม้โทรมถล่มลงมาทับร่างของหญิงชราอันเป็นที่รักพร้อมกับเหล่าพี่น้องต่างสายเลือด มีเพียงเด็กตัวเล็กคนหนึ่งที่กระทำผิดกฎออกมาเล่นกลางดึกทว่ากลับต้องสลดเมื่อมาเห็นภาพความตายนับสิบ ฝ่ามือคู่น้อยอดทนต่อความร้อนดึงท่อนไม้ดำเมี่ยมออกในขณะที่เจ็บจนน้ำตาเล็ด สะเก็ดไฟที่ยังลุกกระเด็นโดนแขนบ้างหน้าขาบ้างทว่าเด็กชายยังไม่หยุด สุดท้ายทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ เหล่าคนที่รักได้กลายเป็นเถ้าธุลีไม่ต่างจากตอไม้อันใกล้ที่โดนลูกหลงเด็กชายทรุดนั่งมองเหล่าร่างไร้วิญญาณ ทั้งตัวชาหนึบไม่จนไม่อาจรู้สึกรู้สาอะไร ทว่ากลับมีสิ่งหนึ่งที่ติดตาเด็กชาย ร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคนที่หัวเราะร่าพร้อมด้วยเงินถุงโตในมือและลูกน้องมากหน้าหลายตา ที่ไม่ทันได้สังเกตเด็กน้อย'เงินแค่นี้ก็พอจะให้ไอ้ดินมันแต่งเมียได้ล่ะวะ ฮ่า ๆ 'รอยสักอินทรีโอบพระจันทร์หลังคอ ลอนผมประกายครามสะท้อนผ่านแสงกองไฟที่ยังคงไม่มอดดี เสี้ยววินาทีนั้นเขาก็หาเป้าหมายของการใช้ชีวิตเจอคือการแก้แค้นไอ้ชั่วคนนั้นอย่างสาสมทว่ารู้อีกท
"คุณหมอจ๊ะ ป้าทำขนมมาฝาก ขอบคุณที่ช่วยดูอาการสามีป้านะจ๊ะ""มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว...ครับ"หมอน้ำรับห่อใบตองมาด้วยความยินดีพร้อมส่งยิ้มการค้าไปให้หญิงวัยกลางคนที่มีสีหน้าเบิกบานใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดอะไรต่ออีกนิดหน่อยตามประสาผู้หญิง นอกจากเจ้าหล่อนจะกล่าวขอบคุณที่เขาตรวจให้แบบไม่เสียเงินแล้วยังพูดถึงเรื่องพลทหารญี่ปุ่นที่บางครั้งก็ตั้งวงเหล้าพูดจาโหวกเหวกโวยวาย จึงมาฝากเขาให้ไปเตือนเสียหน่อยซึ่งไม่รู้ว่าทำไมพักนี้ถึงมีคนรับฝากหมายสารเขาเยอะเสียเหลือเกิน เขาดูเป็นมิตรขนาดนั้นเลยหรืออย่างไรอาซามิคิดพลางแง้มห่อใบตองดูขนมภายในจนกลิ่นหอมหวานของกะทิและน้ำตาลลอยขึ้นมาเตะจมูกก็ชวนให้นายแพทย์ที่คิดว่าจะเก็บสิ่งนี้เอาไว้ทานเป็นของหวานมื้อเที่ยงต้องคิดใหม่แล้วเลื่อนตารางเวลาขึ้นมากินมันเสียตอนนี้แทน ทว่าในขณะที่กำลังจะเปิดขนมก้อนนั้นขึ้นมากินทันใดนั้นเสียงของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญก็โผล่พรวดขึ้นมาจากประตูหน้าห้อง"อรุณสวัสดิ์คร้าบหมอ ผมซื้อขนมมาฝากคร้าบ"คุณหมอจิ๊ปากกระตุกคิ้วไม่พอใจ กล้ามาขัดจังหวะความสุขเพียงไม่กี่อย่างของเขาเนี่ยนะ อาซาม
วันทั้งวันเขาทำงานไปยิ้มไป เพราะในระยะสายตาเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นกระดาษก็มักจะเห็นคนรักร่ายรำอยู่เกือบจะตลอด อะไรมันจะดีไปกว่าการได้ดูมหรสพขนาดเล็กและนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ ไปด้วยพิภพในตอนเย็นที่จัดการงานส่วนของวันนี้เสร็จแล้วก็ลงมานั่งเล่นกับลูกสาว ซึ่งดูเหมือนลูกศิษย์เขาอย่างศรจะกลายเป็นที่รักแทนคนเป็นพ่ออย่างเขาไปเสียแล้ว อย่างที่คนเถ้าคนแก่บอกเอาไว้ว่าต้องรีบเก็บเกี่ยวช่วงเวลาวัยเด็กของลูกเอาไว้เพราะเมื่อโตขึ้นพวกเขาก็จะไม่สนใจแล้ว แต่ลูกสาวเขาพึ่งเข้าชั้นประถมได้ไม่นานเอง ทำไมถึงได้ติดเจ้าศรงอมแงมขนาดนี้พ่อทหารลงมานั่งขัดสมาธิรับลูกสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด นั่งเล่นกันอยู่สักพักก่อนที่นพจะเดินมาบอกว่าอีกไม่นานจะพากันออกไปเดินตลาด'เขาว่าพวกทหารญี่ปุ่นมีของมาขายมีใครจะไปบ้าง'แน่นอนว่าเด็กหญิงขวัญย่อมสนอกสนใจยกมือไปเป็นคนแรก ก่อนจะตามด้วยคนในเรือน สรุปสุดท้ายคือไปกันหมดพิภพหยัดตัวลุกยืดเส้นยืดสายแล้วจะเดินตามคนอื่น ๆ ลงเรือน*แซก* เสียงใบไม้เสียดสีกันแว่วมาจากด้านในป่าข้างเรือนขณะที่ทุกอย่างเงียบสงัดไร้ซึ่งลมพัด ทว
เสียงฝนตกปรอย ๆ กระทบพื้นดินพื้นหญ้าในขณะที่แสงอาทิตย์รำไรฉายลงมาบอกกล่าวถึงเวลาย่ำรุ่ง ทว่าแม่นางรำยังคงนอนหลับปุ๋ย ด้วยลมหายใจสม่ำเสมอและใบหน้างามยามผ่อนคลายชวนให้นายทหารที่นอนอยู่ข้าง ๆ มองได้ไม่มีหน่ายพิภพเลือกที่จะเอื้อมหยิบเอกสารบนโต๊ะข้าง ๆ มานั่งอ่านบนเตียงรอโฉมงามตื่น ด้วยว่าเขาเดี้ยงมาหนึ่งเดือนเต็มเจ้าปลื้มมันเลยส่งเอกสารขอบุคลากรเพิ่ม ซึ่งก็เคยส่งไปแล้วแต่ครั้งนี้เหตุผลคงจะหนักจริงเพราะอีกไม่กี่สัปดาห์พวกเขาจะได้คนจากค่ายประจำจังหวัดมาช่วยแบ่งเบาเนื่องจากเขาคงต้องอยู่พักฟื้นไปอีกพักใหญ่เขาอยู่เรือนนี้มานานพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วก็รู้มาเพิ่มอีกอย่างหลังจากการนอนร่วมกับคนรักมาหลายคืนว่าคุณแก้วเป็นคนขี้เซา แม้จะนอนมาทั้งคืนก็ยังคงหาวระหว่างวันเป็นครั้งคราว ยิ่งตอนตื่นเจ้าตัวก็ไม่ค่อยอยากจะลุกออกจากเตียงเท่าไรนักชอบนอนคุดคู้ซุกตัวขดเป็นก้อนกลมที่หัวมุมเตียง เป็นภาพที่น่ารักไม่หยอกเชียว"คุณดินตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผมล่ะครับ"ตรีศูลงัวเงียเปิดผ้าห่มขยี้ตามองนายทหารที่ตื่นเช้ามาก็ทำงานทันที"ผมเห็นคุณนอนหลับสบายเลยไม่กล้าป
"คุณดิน...เชื่อผมแล้วเหรอครับ?"ตรีศูลยังคงแววตาแน่นิ่งด้วยความสับสน ชำเลืองเจ้าของอ้อมกอดที่นานเข้าก็รู้สึกถึงท่อนแขนยิ่งกกกอดเขาแน่นขึ้น"ทำไมผมจะไม่เชื่อล่ะ""ก็มัน...ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเอามาพูดกันง่าย ๆ นี่ครับ""แต่เมื่อกี้ผมเห็นคุณพูดก็ไม่ได้ดูง่ายเลยนะ"พิภพโดนโฉมงามในอ้อมกอดทุบอกมาทีหนึ่ง ก่อนจะตามด้วยเสียงสะอื้นและความชื้นบริเวณลาดไหล่ที่แม่นางร
พิภพหลังจากโดนโฉมงามไล่มาอาบน้ำ พอกลับมาพ่อทหารก็แอบด้อม ๆ มอง ๆ เจ้าของเรือนที่กำลังเสริมสวยอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพราะไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะ แต่ตรีศูลกลับหันมาเห็นพอดีนายทหารจึงอดดูขั้นตอนการประทินโฉมไปอย่างน่าเสียดาย"คุณดินแอบดูผมเหรอครับฮึ?"ตรีศูลหันมาหยอกล้อ ส่วนพิภพซึ่งยอมรับผิดได้แต่ทำตัวเล็ก ๆ อยู่มุมห้อง แม่นางรำที่เห็นจึงหัวเราะคิกคักในลำคอรู้สึกเหมือนได้แกล้งคน ก่อนที่จะหันไปหยิบขวดใสบรรจุน้ำบางอย่างมาตั้งเอาไว้บนโต๊ะ แล้วกวักมือเรียกพิภพให้เข้าไปนั่งเก้าอี้ด้วยกัน"ช่วงนี้ยุงชุม ทายาเอาไว้ด้วยนะครับ"
"ทำไมพ่อจ๋าถึงมาชอบผู้ชายแทนที่จะเป็นผู้หญิงเหรอจ๊ะ"เด็กหญิงถามหน้าซื่อตาใส จากสายตาเธอไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายบิดาหรือแม่นางรำแต่เธอสงสัยจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะคนรอบข้าง เพื่อน ๆ ก็มักจะบอกว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงตลอดพิภพไม่แปลกใจกับคำถามนั้นและไม่ได้โกรธที่จะถูกถามอย่างตรงไปตรงมา เพียงแต่เขาเองก็อธิบายเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยถนัดถนี่นัก"พ่อชอบคุณแก้ว แค่คุณแก้วที่พ่อชอบเป็นผู้ชาย"พิภพอธิบายเท่าที่ตนพอจะทำได้ แต่เด็กวัยประถมก็ยังตะขิดตะขวงใจอยู่ดี"ขวัญไม่เข้าใจจ้ะ"พิภพยกยิ้มมองเจ้าหญิงน้อยที่นั่งเอียงคองงเป็นนกเอี้ยง คิ้วกลมของน้องขวัญขมวดมุ่นปากเล็กยู่มู่ทู่จนแก้มนิ่มเป็นก้อนกลมน่าหยิกทีแรกเขาเข้าใจผิดว่าคุณแก้วเป็นผู้หญิงเสียด้วยซ้ำ ทว่าแม้เขามารู้ทีหลังว่าเจ้าตัวเป็นผู้ชายก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาได้ตกหลุมรักนางรำคนนี้ไปแล้ว จดหมายที่เคยเขียนถึงกันไม่ว่าจะหญิงหรือชายแต่หากมันไม่ได้มาจากปลายปากกาของแม่นางรำแล้วไซร้เขาคงจะไม่ได้ใส่ใจมันถึงเพียงนี้ หรือทุกคืนที่เขาสนทนากับโฉมงาม หากถ้อยคำพวกนั้นคุณแก้วไม่ได้เป็นคน
อดิศรในวันนี้ก็ตื่นมาแต่เช้าด้วยความผาสุก กลิ่นหอมอ่อนของดอกกาหลงข้างเรือนโชยเข้ามาให้ได้รู้สึกชื่นมื่นพร้อมลุกออกจากเตียง เด็กหนุ่มเดินถืออุปกรณ์อาบน้ำออกมาพร้อมกับฮัมเพลงในใจแล้วจึงจะหันไปกล่าวอรุณสวัสดิ์พี่ชาย ทว่ากลับต้องผงะ'ทำไมพี่ตรีสภาพเหมือนผีตายซากแบบนั้น!'พี่เขาเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้วจึงหันมองไปยังครูฝึกหน้าเรือนซึ่งก็มีหน้าตาซีดเซียวไม่ต่างกัน เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นตรีศูลเห็นน้องชายมองมาด้วยแววตาฉงนสงสัยพร้อมกังวลในถุงใต้ตาอันดำคล้ำของเขา ไม่อยากจะพูดเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าเขาจะสั่งให้ตัวเองหลับเท่าไรก็ทำไม่ได้เพราะจะขยับเขยื้อนไปตรงไหนก็มักจะไปโดนตัวของนายทหารที่นอนประกบเขาอยู่ตลอด คราวเมื่อพลิกตัวภาพตรงหน้าเขากลับเป็นคุณดินที่กำลังนอนหลับอยู่'จะต้องให้ย้ำอีกกี่ครั้งว่าเบ้าหน้าแบบนี้ควรไปเป็นดาราเสียให้สิ้นเรื่อง!'ไม่รู้ว่าครั้งก่อนเมื่อตอนมาค้างแรมยามร่วมงานเขาข่มตาหลับไปได้อย่างไรในขณะที่กำลังอุ่นมื้อเช้าอยู่ก็แอบเหล่มองพ่อทหารรูปหล่อที่ยืนจิบกาแฟ แล้วจึงผินหน้าหลบยามอีกฝ่ายหั
"ผะ...ผมพูดความจริงนี่ แล้วมันผิดตรงไหน?""แต่ผมยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่าคุณพูดอะไรผิด"พิภพกล่าวกลั้วหัวร่อคนร้อนตัวที่นั่งขดเป็นก้อนกลมด้วยความเอ็นดู คิดถูกจริง ๆ ที่ซื้อผ้านวมมาตรีศูลที่เขินจนเหนื่อยมาทั้งวันตัดสินใจถอดแว่นออกแล้วจึงเอนตัวลงนอนจะได้จบ ๆ ไปทั้งยังตวัดผ้าห่มคลุมร่างพ่อทหารด้วยอีกคน ผืนตั้งใหญ่ให้เขาห่มคนเดียวเนี่ยนะแม่นางรำขยับหยุกหยิกพลิกไปมาก่อนจะหาองศาการนอนได้ พิภพที่เห็นทุกอิริยาบถแล้วจึงคิดว่าเหมือนตนกำลังดูลูกนกนอนรังอยู่ก็ไม่ปาน จนเมื่อคราวจะนอนโฉมงามก็หันมาสบตากับเขาพอดี เป็นโอกาสเหมาะในการสนทนาถามไถ่"ตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาล ได้ยินว่าคุณป่วย..."เพราะเขาเองก็พึ่งมาได้ยินจากปากเจ้าปลื้มมันว่าแม่นางรำล้มพับไปในวันเดียวกันกับเขาเพราะพิษไข้"ตอนนี้หายแล้วครับ""ไม่ให้ผมแสดงความเป็นห่วงหน่อยเหรอครับ"พิภพเห็นแม่นางรำพูดตัดบทก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้แสดงความใส่ใจ"ไม่ให้ครับ เดี๋ยวคุณแกล้งผมอีก"ตรีศูลยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขยับหมอนให้เข้าที่ช้อนสายตามองนายทหารอย่างหยอกเย้า เขาได้ร