Share

บทที่ ๒๖ ป่วยไข้ (๕๐%)

last update Last Updated: 2024-12-21 18:00:14

เช้าวันรุ่งขึ้นพิภพเป็นฝ่ายตื่นขึ้นมาก่อนอย่างเคย หลังพาตัวเองไปอาบน้ำอาบท่าและทำมื้อเช้ารอคนขี้เซา ทว่าเมื่อตระเตรียมข้าวปลาอาหารเสร็จจากปกติที่แม่นางรำจะตื่นไม่ห่างจากเขามากนักทว่ายามนี้กลับยังไม่เห็นอีกคนเดินออกมาล้างหน้าล้างตาก็ชวนให้พ่อทหารรู้สึกสงสัย จึงเดินวกกลับเข้าไปดูก็ยังเห็นว่าคนตัวเล็กยังคงซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มขดเป็นก้อนกลมในขณะที่ภายในห้องตอนนี้มีแสงแดดส่องเข้ามาจนจากอากาศที่เย็นเมื่อกลางคืนอุ่นขึ้นอย่างสัมผัสได้

พิภพในเสื้อผ้าอย่างง่ายเดินเข้าไปนั่งปลายเตียงก่อนจะแตะไปยังกลางลำตัวของแม่นางรำเป็นการปลุก

"คุณแก้วตื่นได้แล้วครับ ผมเตรียมมื้อเช้าเอาไว้ให้แล้ว"

ทว่าเมื่อกล่าวไปเช่นนั้นคนบนเตียงก็ยังคงขยับหยุกหยิกอยู่ใต้ผ้านวมแทนที่จะโผล่หน้ามาให้เห็นอย่างเคย จนพิภพเริ่มตงิดใจนายทหารจึงลุกขึ้นเดินไปเปิดผ้าห่มหัวเตียง

ตรีศูลที่นอนขดหันหลังให้พ่อทหารเมื่อจู่ ๆ ก็มีแสงแยงตาก็รีบพลิกร่างหันมามองพ่อทหารด้วยความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว แววตาทั้งสองหรี่ปรือด้วยความอ่อนแรงพร้อมกับเส้นผมยาวที่เกาะติดกับกรอบหน้าเพราะเหงื่อไคลที่ผุดขึ้นมาเป็นจำน

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๖ ป่วยไข้ (๑๐๐%)

    "ตอนนี้ยาควินินไม่มีเลยจ้ะพ่อ"พนักงานร้านขายยากล่าวตอบคำถามด้วยความสุภาพปนเศร้าหมอง เนื่องจากนี่ก็เข้าวันที่สามแล้วที่หญิงเจ้าเห็นชายคนนี้มาถามถึงยาตัวเดิม พิภพได้ยินคำตอบปฏิเสธมาด้วยกันแล้วไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ไม่ว่าร้านเล็กร้านใหญ่เขาล้วนเข้าไปสอบมาจนหมด ทว่าก็ได้รับแต่คำตอบเดิม ๆพิภพเดินคอตกออกมาจากร้าน ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของร้านยังบอกข่าวที่ชวนให้เขาหดหู่เข้าไปอีกว่าเมื่อหลายวันก่อนมีเหตุโจรปล้นรถไฟทำให้แม้กระทั่งยาแก้ปวดหัวที่ควรจะมีติดร้านเสมอก็ยังขาดตลาด ในตอนนี้เขาไม่รู้จะหาวิธีแก้ยังไงดีแล้วพ่อทหารกลับมาถึงก็นั่งหน้าดำคร่ำเครียด เขายอมไม่นอนเพื่อที่จะได้เป็นลูกค้ารายแรกเสมอแต่นี่จะสิบร้านรวมร้านแผงลอยก็แล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของยาแก้ไข้สักนิดพ่อทหารเดินคอตกกลับมาถึงเรือนในเวลาประมาณหกโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่ตรีศูลตื่นขึ้นมาพอดีและเด็ก ๆ นางรำที่อาสามาช่วยอยู่เฝ้าเรือนก็พากันกลับ แม่นางรำเดินออกมานั่งเล่นริมระเบียงรับลม ดีหน่อยที่เจ้านพพอรู้สูตรยาหม้อเพราะที่บ้านสอนมาจึงมอบให้เขาเป็นคนทำเพื่อบรรเทาอาการร้อน ๆ หนาว ๆ ของตรีศูลไปก่อนที่คว

    Last Updated : 2024-12-22
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๗ พ่อทหารขี้หึง (๕๐%)

    "จริง ๆ เราไม่ต้องเอามาให้เขาก็ได้นะครับ"นี่เป็นคำถามของพิภพที่สงสัยในตัวของโฉมงามซึ่งตอนนี้กำลังเดินถือตะกร้าผลไม้ลงจากรถสามล้อด้วยความร่าเริงที่ตัวเองหายป่วยและกลับมาเดินเหินได้อีกครั้ง คนงามที่วันนี้ใส่เสื้อปิดเนื้อแขนจึงหันมาตอบกับพ่อทหารฉะฉาน"ไม่ได้ครับ เขาสู้อุตส่าห์เดินทางมาตรวจให้ผมตั้งสองสามรอบ"ตรีศูลกล่าว ภายในสามวันแรกที่เขาทานยาตามหมอสั่งก็มีอาการดีขึ้นจนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แน่นอนว่าระยะเวลาอีกสี่วันที่เหลือแม้ภายนอกจะดูหายแล้วแต่ก็ต้องทานยาให้ครบเพราะคุณหมอบอกว่าเดี๋ยวจะเสี่ยงเป็นโรคได้อีก กระนั้นขนาดเขาไม่ได้มีอาการน่าเป็นห่วง เจ้าตัวก็ยังยอมมาถึงเรือนตามคำขอร้องของคุณดินเอง แล้วจะมาบอกว่าไม่ต้องเอาของตอบแทนไปให้นี่มันก็กระไรอยู่นายทหารและนางรำหนุ่มเดินเข้าไปยังสถานีอนามัย เป็นตรีศูลที่สอดส่องมองหานายแพทย์วัยกลางคนที่เคยมาตรวจจนเห็นว่าเจ้าตัวกำลังเดินมาคุยกับนางพยาบาลหน้าแผนกต้อนรับพอดี"อ้าว สวัสดีครับ ครั้งนี้เป็นอะไรมาอีกรึเปล่า" คนในชุดกาวน์ถามตามหน้าที่"เปล่าหรอกครับ ผมแค่อยากเอาของมาขอบคุณเฉย ๆ"

    Last Updated : 2024-12-23
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๗ พ่อทหารขี้หึง (๑๐๐%)

    รุ่งอรุณในอีกสองวัน นายทหารปลื้มปีติก็ได้มาหาถึงเรือนพร้อมกับแบกเหล่าขนมมากมายมาฝากอย่างเคย นอกจากจะมาแจ้งข่าวว่ากองทัพทหารญี่ปุ่นกำลังเร่งย้ายเขตก่อสร้างไปอีกตำบลหนึ่งภายในไม่กี่สัปดาห์นี้เพราะเกิดปัญหาภายในอู่ต่อเรือ เจ้าตัวยังมาเป็นที่ปรึกษาความรักให้แก่แม่นางรำที่กำลังสงสัยอดีตของพ่อทหารอีกด้วย"เอ่อ...ถ้าเป็นเรื่องนี้ถึงผมจะทราบรายละเอียด แต่ให้รุ่นพี่เขาเป็นคนพูดเองน่าจะดีกว่านะครับ"ปลื้มนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีที่แล้วก็ยังรู้สึกเจ็บช้ำแทนเจ้าตัวไม่หาย ไม่รู้ว่าเจ้าของเรื่องในตอนนี้จะบรรเทาลงไปมากขนาดไหนแล้วแต่อย่างไรเสียให้คนนอกอย่างเขามาเล่าแทนคงไม่เป็นการเหมาะสักเท่าไรนัก"หรืออย่างไร ลองถามเจ้าตัวเรื่อง..."ปลื้มเห็นท่าทีแม่นางรำดูจะเป็นทุกข์จึงเอ่ยเสียงกระซิบ เพราะกลัวเจ้าเรื่องจะมาได้ยินเข้าปลื้มนั้นรู้ดีว่านิสัยรุ่นพี่ตัวเองนั้นเป็นอย่างไร ดูจากเรื่องที่คุณแก้วเล่าวีรกรรมให้ฟังแล้ว ถ้าไม่สะกิดเสียหน่อยละก็มีหวังสักวันคุณนางรำคงโดนจับขังกรงไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเป็นแน่"งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ"

    Last Updated : 2024-12-24
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๘ จูบแรก (๕๐%)

    "เดี๋ยวผมไปทำชาร้อนมาให้นะครับ จะได้นอนหลับสบาย"ตรีศูลกล่าวในขณะที่ได้ทีหยิกแก้มพ่อทหารบ้าง คนอะไรปากหนักเหลือเกินมีอะไรไม่ยอมพูดระบายออกมา แบบนี้มันน่าตีด้วยไม้เรียวจริง ๆแม่นางรำเมื่อเห็นว่าพ่อทหารใจเย็นลงแล้วจึงค่อย ๆ รวบผ้ารวบผ่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงโดยที่มีพิภพคอยช่วยประคองตะเกียงในมือ"คุณแก้วได้ทายากันยุงรึยังครับ"พิภพถาม ออกมานั่งข้างนอกนานเป็นนาทีแบบนี้หากไม่ทายากันไว้คงได้ป่วยอีกรอบเป็นแน่"ทาแล้วครับ คุณดินนั่นแหละยังไม่ได้ทา รีบเข้าไปทาเลยนะครับ"ครั้งนี้ถึงตาแม่นางรำออกโรงดุบ้าง ตรีศูลใช้แรงเท่าที่มีดันตัวพ่อทหารให้ก้าวเข้าห้องไปเสียทีเพราะเจ้าตัวดูจะเป็นห่วงหนักหนา พูดนู่นพูดนี่จนจากที่จะยืนอยู่ข้างนอกเพียงไม่กี่นาทีคงจะกลายเป็นหลักชั่วโมงในไม่ช้ากระมังตรีศูลบริการพ่อทหารโดยการเปิดไฟให้เสร็จสรรพก่อนจะปิดประตูดัง'กรึบ' ขาเรียวยาวรีบเดินไปยังครัวจุดเตาตั้งน้ำร้อนแล้วจึงเปิดตู้หากระป๋องใบชาตากแห้ง คนงามจัดการหมุนฝาใช้ช้อนกลางตักชาหมักสีน้ำตาลเข้มใส่ภาชนะแยกเอาไว้ เมื่อหันมาดูน้ำในกาก็เดือดพอดี มือขาวค่อย

    Last Updated : 2024-12-25
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๘ จูบแรก (๑๐๐%)

    แม้จะเป็นเวลาใกล้สองทุ่มแล้วทว่าผู้ใหญ่ทั้งสองบนเตียงยังคงไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเหงาหาวนอนแต่อย่างใด พิภพจึงยังคงปล่อยให้ตรีศูลนั่งเล่นอยู่บนตักไปเพลิน ๆ สักพักแม่นางรำก็จับสังเกตเห็นขนาดมือที่ต่างกันคนละขั้วกับเขาแม้จะเป็นชายเหมือนกัน จึงลองเอานิ้วไปแหย่เล่นเลยโดนเจ้าของตักรวบเข้าให้"จะทำอะไรเหรอครับ หือ?""มือคุณดินใหญ่มากเลย"เขาพึ่งได้มาดูจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนนี้ เจ้าตัวเป็นถึงทหารถือปืน จะมีเส้นเลือดหนาเห็นข้อนิ้วชัดแบบนี้คงไม่แปลก เทียบกันแล้วของเขาดูเป็นมือเด็กไปเลยพิภพไม่กล่าวตอบอะไรแทนที่ด้วยการตั้งใจฟังเสียงพูดงุ้งงิ้งของคนบนตักและปล่อยให้แม่นางรำเล่นมือตัวเองไปตามใจชอบ มันชวนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมีอุ้งเท้าแมวมานวดมืออย่างไรอย่างนั้นพิภพคิดพลางจรดปลายจมูกไปยังกลุ่มผมยาวซึ่งเป็นส่วนที่เขานิยมชมชอบรองจากผิวกายอันนุ่มนิ่มของแม่นางรำ สูดดมกลิ่นสบู่ก้อนผสมปนเปกับน้ำอบที่โฉมงามมักใช้ชโลมผิวชวนให้ชื่นใจตรีศูลแม้รู้ถึงสัมผัสอุ่นบริเวณศีรษะก็ทำเป็นสงวนท่าทีทว่าความจริงแล้วเขาเองก็ชอบให้อีกฝ่ายมาใกล้ชิดเสน่หาแบบนี้เช่นกัน

    Last Updated : 2024-12-26
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๙ ครั้งแรกของคนใจร้าย (NC) (๕๐%)

    พิภพ ณ ขณะนี้กำลังยืนตากผ้าอยู่ใต้ถุนเรือน ฝ่ามือหนาคลี่เสื้อสีเขียวแก่สะบัดก่อนจะใส่ราวแขวน ทว่าสายตาคมกลับดูเหม่อลอยไร้ทิศทางคล้ายวิญญาณจะหลุดออกจากร่างเป็นครั้งที่สองหลังจากไปเสี่ยงอยู่ในสมรภูมิรบเนื่องจากวันนี้จะเป็นวันหยุดพักวันสุดท้ายของเขา ในวันพรุ่งนี้เขาจะต้องสวมเครื่องแบบออกไปทำงานสักทีหลังจากพักอยู่เรือนมานาน ทว่านั่นกลับไม่เป็นปัญหาสักเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับสิ่งที่มันยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา'คุณดิน ถ้า...ถ้าไม่รังเกียจ ผมอยากจะขออะไรที่มันมากกว่านี้ได้ไหมครับ?'ดวงตาไร้เดียงสามองช้อนขึ้นมาจากบนตักแม้จะมีท่าที่ขัดเขินแต่ดูจากน้ำเสียงที่แน่วแน่เจ้าตัวคงจะไตร่ตรองมาดีแล้วถึงได้เอ่ยคำขอนั้นออกมาเมื่อคืน ทว่าด้วยความที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเพียงกล่าว'ไว้เป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะครับ'แล้วนั่นคือผลของการพูดไม่ทันคิด เพราะพรุ่งนี้ของเมื่อวานก็คือวันนี้ซึ่งห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงแล้วเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปเตรียมใจ ไอ้เขาน่ะไม่เป็นไรหรอกแต่คนที่น่าเป็นห่วงคือคุณแก้วต่างหาก ถึงเจ้าตัวจะเป็นคนออกปากขอเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต

    Last Updated : 2024-12-27
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๙ ครั้งแรกของคนใจร้าย (NC) (๑๐๐%)

    "อย่าแกล้งกันอีกนะ"ตรีศูลกำชับพ่อทหารเจ้าเล่ห์ คิ้วเรียวบางกดลงก่อนจะยื่นคำขาด ไม่เข้าใจทำไมนายทหารถึงชอบกลั่นแกล้งเขาในตอนที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มนักฝ่ามือหนาเข้าลูบกลุ่มผมเงางาม พลางยื่นหน้าเข้าไปซุกไซ้ซอกคอขาวที่ตอนนี้มีรอยขบเม้มขึ้นบ้างประปรายจนความสากคันจากตอหนวดชวนให้แม่นางรำส่งเสียงหัวเราะใสด้วยความจั๊กจี้ออกมาจากลำคอ ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกินขณะเดียวกันมือที่ว่างเว้นจากภารกิจก็ค่อย ๆ จับไปยังขอบกางเกงของคนเบื้องล่างก่อนดึงลงเปิดให้เห็นแก่นกายขนาดกะทัดรัดฉ่ำเยิ้มไปด้วยของเหลวข้นใสตรงส่วนปลาย ด้วยว่าพ่อทหารอยากบำเรอร่างกายเล็กนี้ให้ไปถึงฝั่งฝัน นิ้วทั้งสิบจึงเข้าสัมผัสส่วนอ่อนไหวของโฉมงาม รูดรั้งปรนเปรออย่างไม่กระดากอายจนนางรำหนุ่มร้องเสียงหลง ยิ่งขาอ่อนถูกแหวกออกไร้ซึ่งทางจะปิดกั้นร่างทั้งร่างจึงได้แต่บิดพลิ้วอ่อนระทวยรวยรื่นลากพาผ้าปูยับยู่ยี่ผ่านเล็บที่จิกลงไปตามแรงกำหนัด เขี้ยวแหลมของพ่อทหารจากที่เพียงครูดไปตามเนื้อขาอ่อนในทีแรกเริ่มฝังรากตีตราความเป็นเจ้าของจนแม่นางรำคนรักรู้สึกได้ถึงความเจ็บแสบที่แล่นขึ้นมาโดยพลัน ตรีศูลไม่คิดมาก่อนว่าก

    Last Updated : 2024-12-28
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๐ ทำงานวันแรก (๕๐%)

    เสียงจักจั่นแว่วผ่านช่องหน้าต่างเปิดกว้างเข้ามาพร้อมกับแสงอาทิตย์ในรุ่งอรุณของวันใหม่สาดส่องไปยังโฉมงามบนเตียง ร่างแน่งน้อยซุกกายอยู่ใต้ผืนผ้าห่มหนา เปลือกตาสีไข่และเรียวคิ้วขมวดเมื่อรู้สึกตัว ริมฝีปากบางกระตุกตามเจ้าของผู้ยังคงอยากจมอยู่ในห้วงฝัน ทว่าไอร้อนใต้ผืนผ้าค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้นเสียจนคนสวยต้องฝืนลืมตาตื่น แขนเรียวยาวยกขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมอ้าปากส่งเสียงง่วงเหงาหาวนอนตามความเคยชิน ก่อนที่จะส่งมือไปควานหาชายที่ควรจะนอนอยู่ข้าง ๆ ทว่ากลับพบแต่ความว่างเปล่า จึงพลิกกายมามองข้าง ๆ จนได้เห็นบุรุษคนรักยืนอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งของเจ้าของเรือนร่างกายกำยำยืนจัดแจงปกเสื้อเชิ้ตสีขาวให้เข้าที่ ลอนผมสั้นที่ถูกปล่อยลงอยู่เป็นนิจยามอยู่เรือนตอนนี้ได้ถูกหวีขึ้นเป็นทรงเรียบแปล้ดังเดิมเพื่อเสริมมาด จนเหมือนชายเจ้าจะได้ยินเสียงเสียดสีกันของผ้าจึงชำเลืองตามองก่อนจะหันมาอย่างเต็มตัวก็เจอแม่นางรำสวมแว่นแอบมองกันเสียแล้ว"อรุณสวัสดิ์ครับคุณแก้ว"พิภพเอ่ยทักทายก่อนจะละมือจากเครื่องแต่งกายเข้าไปนั่งยังหัวเตียง จรดริมฝีปากหอมแก้มทักทาย"อรุณ...สวัสดิ์...คร

    Last Updated : 2024-12-29

Latest chapter

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๖ แก้วตาพาเที่ยว (๕๐%)

    "แก้ว รู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนเราบ้างหรือเปล่า?"พิภพถามเนื่องจากเขาเพียงมองแวบแรกก็รู้ได้แล้วว่าเจ้าเพื่อนสนิทมันคิดไม่ซื่อ ทว่าดูเหมือนแม่คนงามดูจะพูดคุยสนิทชิดเชื้ออย่างไม่มีตงิดใจถึงเรื่องนี้เลยสักนิด"รู้อะไรเหรอครับ" ตรีศูลฉงนสงสัยไม่เข้าใจ"รู้ไหมว่าเพื่อนคนนั้นเขาชอบเราอยู่"พิภพก้มลงกระซิบในขณะที่เดินถือกระเป๋าเดินออกจากสถานีใหญ่ ชวนให้แม่นางรำขำก๊ากกับสิ่งที่คนรักขี้หึงกำลังคิดอยู่"ฮ่า ๆ ไม่หรอกครับ อย่างมันน่ะเหรอจะมาชอบผม""ชะล่าใจเกินไปแล้ว"พิภพกล่าวออกมาอย่างหน่ายใจ ปล่อยให้โฉมงามไม่รู้เช่นนี้ก็ดี ดูจากสภาพการณ์พ่อหนุ่มคนนั้นหลังจากที่เห็นเขาแล้วดูจะเกร็ง ๆ กับแก้วขึ้นมาทันควัน ไม่มีทางข้ามเส้นไปได้มากกว่าสถานะเพื่อนหรอก"พี่ครับ""หือ?"พิภพหันไปสบตาแม่นางรำ ก่อนที่เมื่อถึงมุมอับลับตาคนตรีศูลจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปให้ริมฝีปากใกล้ใบหูของพ่อทหารมากที่สุดแล้วจึงกล่าว"ถึงด้วงมันจะชอบผมจริง แต่ยังไงผมก็รักพี่ดินคนเดียวนะครับ"คนในชุดสีขาวสะอาดกลับมายืนเต็มตามความสูง ยกยิ้มตาหยี

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๕ พ่อมาเยือน (๑๐๐%)

    พิภพที่ได้เปิดจดหมายน้อยขึ้นมาอ่านแทบจะสำลักความน่ารักที่ล้นทะลักออกมาจากหน้ากระดาษ เขากำลังเก็บข้าวของเตรียมจะไปขึ้นรถไฟเย็นนี้บุรุษไปรษณีย์ก็มาส่งจดหมาย ทีแรกเขาคิดว่าจะมาส่งไม่ทัน หรือไม่มันอาจจะจบที่ฉบับแรกฉบับเดียวเสียด้วยซ้ำ ทว่าพอได้มาเห็นแบบนี้ก็อยากจะรีบวิ่งข้ามจังหวัดไปหาคนรักโดยพลัน คนอะไรแค่บรรยายเรื่องราวผ่านตัวหนังสือยังน่ารักน่าชังได้ถึงขนาดนี้พิภพค่อย ๆ จับกระดาษแผ่นยาวพับกลับคืนรูปเดิมเก็บกลับเข้าซองอย่างทะนุถนอม ก่อนจะนำไปรวมอยู่ในซองสีน้ำตาลซึ่งเต็มไปด้วยจดหมายฉบับเก่า ๆ ที่เขาเคยได้รับมาจากโฉมงาม ไม่น่าเชื่อว่าบางฉบับยังคงมีกลิ่นหอมน้ำอบดอกไม้โชยขึ้นมาแตะจมูกหรือเพราะเขาเก็บพวกมันในที่มิดชิดกันแน่พ่อทหารคิดไปยิ้มไปพลางพับเสื้อผ้าที่มีอยู่อย่างน้อยนิดลงกระเป๋าเดินทาง*แกร๊ก* เสียงโลหะเส้นเล็กหล่นลงกระทบพื้นไม้เมื่อเขาสะบัดกางเกงสีเขียวแก่ประจำตำแหน่ง เมื่อมองดูจึงเห็นเป็น'สายคล้องแว่น'ที่เขาซื้อมันมาตั้งแต่ต้นปีทว่ากลับไม่มีโอกาสได้ให้แม่นางรำเพราะดันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเสียก่อนพิภพหยิบมันขึ้นมามอง เขาตั้งใจจะให้มันเป็

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๕ พ่อมาเยือน (๕๐%)

    เรือนนางรำ๔ เมษายน ๒๔๘๕ถึง แก้วทีแรกพี่เป็นห่วงกลัวว่าเราจะเป็นอะไรไปเพราะจดหมายส่งถึงช้ามาก แต่ก็ดีแล้วที่แก้วปลอดภัยถ้าเราเป็นอะไรไปอีกพี่คงไปหาทันทีไม่ได้เรื่องออกกำลังกายที่พระนครคงไม่ค่อยถนัดนัก ถนนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเปิดให้คนเดินกันแล้วเพราะมีแต่รถวิ่ง ไว้เดี๋ยวพี่กลับไปสอนเรานะครับพระนครก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ ขนาดพี่ที่อยู่มาตลอดก่อนจะมาชุมพรข้าวของแทบจะเปลี่ยนรายปี ไวมากจริง ๆ จนเกือบตามไม่ทัน ส่วนห้างห้างนั้นคงจะเป็นไนติงเกลใช่ไหมครับ มันเปิดมาได้เกือบสิบปีแล้ว แต่ยังมีคนเข้าไปซื้อของกันอยู่เลย พี่ไม่เคยไปเป็นการส่วนตัว เพราะส่วนมากจะเป็นผู้หญิงเดินเข้าไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ พี่เป็นผู้ชายเข้าไปคนเดียวคงรู้สึกแปลกพิกล แต่ถ้าไปกับแก้วก็อีกเรื่องนะครับแม่นมนี่เป็นคนอย่างไรเหรอ ถ้าเป็นแบบตาเทิดตาไฮ้พี่คงต้องเตรียมหมวกกันกระสุนไปด้วย ส่วนเรื่องแต่งตัวถ้าพี่ใส่ชุดทหารไปนี่จะหล่อถูกใจเราไหมครับถ้าวิทยาลัยของเด็ก ๆ ห่างกับเราแบบนี้คงเจอกันยาก แก้วจะไม่

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๔ เพื่อนเก่า (๑๐๐%)

    เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง เป็นป้าทูลที่มาเคาะปลุกพร้อมนำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ แม้หญิงเจ้าจะบอกว่าเป็นเสื้อที่กะวัดด้วยสายตาแต่มันกลับพอดีตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาชักจะแปลกใจขึ้นทุกทีเมื่อได้เห็นบริการอันเกินจินตนาการของคนงานบ้านนี้ตรีศูลวันนี้นัดเพื่อนเก่าเอาไว้ที่สถานี ทีแรกเขากะจะไปเองเพราะเมื่อวานก็พอจำทางได้แล้วแต่คุณลุงคนขับที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกจากเขตบ้านก็ส่งสายตาวิบวับเป็นประกาย"ให้ผมไปส่งคุณหนูนะครับ""ไม่เป็น-"รับทราบครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเตรียมรถรบกวนรอสักครู่นะครับ"ไม่ทันที่ตรีศูลจะได้ปราม คุณลุงก็วิ่งแจ้นออกไปยังลานจอดโดยทิ้งเขาไว้แต่เพียงผู้เดียว บรรยากาศแบบนี้ชวนให้นึกไปถึงมื้อเช้าที่หากคนใช้ทั้งหลายป้อนได้คงจับช้อนป้อนแล้ว'คุณหนูทานนี่สิคะ ป้าทำเองกับมือ''คุณหนูรับขนมเพิ่มไหมคะ กว่าจะไปถึงสถานีคงหิวแย่''คุณหนูจะไปเจอเพื่อนเก่าเหรอคะ มานี่มาเดี๋ยวยายทำผมให้'โดยเหตุการณ์ข้างต้นเจ้าศรก็โดนไม่ต่างกัน ด้วยนิสัยอันสงบเสงี่ยมน่ารักน่าเอ็นดูมาแต่เด็กแม้จะไม่ใช่ทายาทต

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๔ เพื่อนเก่า (๕๐%)

    ร่างสูงสันทัดก้าวเดินด้วยความมั่นคงไปตามพื้นกระเบื้องเงา เสียงรองเท้าหนังเคาะเป็นจังหวะกระชับตามวิถีก้าวอันรวดเร็ว แม้จะเป็นเวลาเช้ามืดนอกจากผู้มารอรถแล้ว จำนวนพนักงานยังคงบางตา คนในชุดกากีพร้อมหมวกหม้อน้ำตาลหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้กลมแววตาคมคร้ามจ้องมองไปยังทางรถไฟอย่างเหม่อลอย เขามักจะมาก่อนใครและกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอ"ไอ้ด้วง มาเช้าอีกแล้วนะเอ็ง พักบ้างก็ได้ ฮ่า ๆ "เพื่อนคนสนิทเดินเข้ามาคล้องคอชิดเชื้อถูไถหน้าไปมา"เอ็งอย่ามาจับน่า รำคาญ""กะจะเก็บไว้ให้เมียจับอย่างเดียวเลยสิ!""เมียอะไรไอ้แผน กูไม่คิดจะมี"เจ้าของชื่อทำหน้ามุ่ย นั่งยองลงกับพื้นเงยหน้าสบตาพ่อหนุ่มหน้ายักษ์ นับตั้งแต่รู้จักการตอนเป็นพนักงานฝ่ายปฏิบัติก็ไม่เห็นเจ้าตัวจะใฝ่รักหญิงสักคน ทั้ง ๆ ที่มันเองก็ใช่ว่าจะไม่มีสาวมาวอแว"แล้วคนที่เอ็งรอเขากลับมาอยู่เนี่ย ไม่ได้กะจะเอามาทำเมียรึ?""เงียบได้แล้ว คนอื่นเขามอง""แหม เนียนเลยนะ"แผนลากเสียงยาวยกมือป้องปากแซะแซวเพื่อนขี้เก๊กด้วงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ เบนหน้าเมินสายตาของเพื่อนร่วมงานท

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๓ ไอ้เสือตรอมใจ (๑๐๐%)

    "หลานไปก่อนนะจ๊ะตา"ตรีศูลเดินลงมาหาตาเทิดตาไฮ้ที่อาสารับหน้าที่ดูแลเรือนตลอดการไปศึกษาของเจ้าของคณะ"เอ้อ ๆ ไปดีมาดีล่ะ" ตาเทิดรับไหว้หลาน"อย่าไปนอกใจไอ้เสือมันล่ะ ฮ่า ๆ เดี๋ยวได้โดนมันจับขังอีกหรอก""ตาละก็!"ตาไฮ้แซะแซวหลานสุดที่รัก พวกเขาไปได้ยินเรื่องวีรกรรมของเจ้าหลานเขยคนนี้มาแล้วเป็นที่เรียบร้อยตรีศูลได้ยินก็ยิ่งอายเขาจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไรเล่า แม่นางรำโกรธพิดพัดกอดอกไม่พอใจเป็นที่ขบขันแก่สองตาช่างแกล้ง ส่วนอดิศรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เป็นที่เอ็นดูไม่แพ้กัน เห็นสงบเสงี่ยมแบบนี้เจ้าศรเองก็สนิทกับสองตาพอสมควร"ไว้ผมจะกลับมาหานะครับ"เด็กชายกล่าว แม้เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในคณะเหมือนพี่ชาย แต่อย่างไรที่แห่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่เขาจะไม่มีวันลืมพี่น้องทั้งสองเมื่อกล่าวลาผู้อาวุโสเสร็จจึงเดินไปยังประตูรั้วหน้าเรือนที่ถูกเปิดเตรียมเอาไว้ ตรีศูลเงยมองหน้าพ่อทหารที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว"รีบไปเถอะครับ ป่านนี้นพคงบ่นแล้ว"คุณครูนาฏศิลป์คำนึงถึงลูกศิษย์ตัวเองที่ขี้โวยวายเป็นที่หนึ่ง พร้อมก

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๓ ไอ้เสือตรอมใจ (๕๐%)

    วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีแน่นอนว่าหากเป็นวันในสัปดาห์เช่นนี้พิภพจำต้องออกไปทำงาน ทว่านั่นหาใช่ประเด็นไม่ เพราะเย็นวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องไปส่งคนรักขึ้นรถไฟพร้อมกับเด็ก ๆพิภพนั่งตวัดข้อมือร่างเอกสารไปอย่างเหม่อลอย เพียงคิดภาพที่ต้องไกลห่าง ความรู้สึกคิดถึงก็ผุดขึ้นมาเสียแล้ว ตลอดหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาตื่นเต้นในทุกเย็นหลังเวลาเลิกงานเมื่อรู้ว่าจะได้กลับไปสอนหนังสือแม่นางรำ ดังนั้นช่วงเวลางานในหัวเขากลับเอาแต่คิดแต่วิธีการสอน ไม่ก็มัวแต่จดจ่อกับการตระเตรียมเอกสารการเรียนให้แก้วจนบางครั้งเกือบไม่เป็นอันทำงานเพราะหากเจ้าตัวสอบติดวิทยาลัยพระนครหมายความว่าแก้วจะได้เป็นฝ่ายมาอยู่บ้านของเขา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขาอดใจรอแทบไม่ไหวเช่นกัน มันจะดีสักแค่ไหนกันเชียวหากได้เห็นโฉมงามเดินทำกิจภายในบ้านตนเอง"เหม่ออีกแล้วนะครับ"ปลื้มที่เดินเอารายงานมาให้ตรวจทักขึ้น ไม่รู้ทำไมช่วงนี้รุ่นพี่เขาถึงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนี้ แต่คงจะเป็นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ตามเคย ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะสามารถเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"มีเรื่อง

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๒ ก้าวผ่านซุ้มประตู (๑๐๐%)

    เดินเข้าไปใกล้ศาลาการเปรียญเรื่อย ๆ ผู้คนก็เริ่มชุกชุม เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กน้อยชวนให้ตรีศูลรู้สึกสบายใจขึ้นมาเป็นเท่าตัว มองเข้าไปก็เห็นคุณนายผอ.กำลังยืนพูดอยู่หน้าแถว ก่อนที่เจ้าตัวจะทำท่ากวักมือมาทางพวกเขา"พี่ต้องไปแล้ว ส่วนแก้วพี่ว่าเรานั่งพักสักหน่อยก็ดีนะครับ"พิภพที่ต้องไปทำหน้าที่ยังไม่วายเป็นห่วงโฉมงาม ตรีศูลเลือกหย่อนกายลงม้านั่งโบกมือเบา ๆ ส่งพ่อทหารแล้วจึงมองตามแผ่นหลังนั้นไปยังหน้าศาลาด้วยความขัด ๆ เขิน ๆ เล็กน้อยจากความไม่คุ้นชินในศัพท์คำพูดตอนนั้นจนถึงตอนนี้ตรีศูลไม่รู้จะขอบคุณพ่อทหารอย่างไรดี หากไม่มีเจ้าตัวเข้ามาเผลอ ๆ เขาอาจจะต้องระทมทุกข์ไปกับความทรงจำอันเลวร้ายนั่นตลอดทั้งชีวิตแม่นางรำนั่งเรียบร้อยใช้สายตาทอดมองไปยังหน้าเคหสถาน เห็นคนรักกำลังพูดชมเชยเหล่าสมาชิกยุวชนทหาร เสียงทุ้มเมื่ออยู่ในหน้าที่พูดจาฉะฉานตรงประเด็นสมกับสัมมาอาชีพ แม้ตนจะไม่ได้ไปยืนอยู่ ณ ตำแหน่งนั้นก็รู้สึกภูมิใจแทนเสียจนต้องอมยิ้มออกมา ผู้ชายอะไรครบเครื่องจริง ๆ ดังนั้นเขาจะต้องพัฒนาตัวเองไม่ให้น้อยหน้า ชักจะมีกำลังใจในการเรียนขึ้นมาแล้วสิ&

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๒ ก้าวผ่านซุ้มประตู (๕๐%)

    ตรีศูลในตอนนี้กำลังหาย่ามที่น่าจะมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับการขนของ ไม่ใช่การจัดกระเป๋าสำหรับเดินทางไปพระนครเพราะเขายังคงเหลือเวลาอีกครึ่งเดือนในการเตรียมตัว แต่เขากำลังจะไปพูดคุยกับคุณนายผอ.เรื่องเรียนต่อเพิ่มอีกสักหน่อย ยิ่งเวลาที่เข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ก็ชวนให้เขาตื่นเต้นไม่ใช่น้อย หลายวันมานี้เขาขอหนังสือเจ้าศรน้องน้อยมาอ่านระหว่างวัน เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็สุดแล้วแต่บุญแต่กรรมแม่นางรำถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขารู้ดีว่าที่ตนอ่านหนังสือไม่เข้าหัวไม่ใช่เพราะเนื้อหาแต่เป็นเพราะเขาหาเวลาอ่านไม่ได้ต่างหาก ยิ่งต้นปีหลายบ้านหลายนายจ้างล้วนมีกิจทั้งนั้น แต่ละคนก็เข้ามาจ้างงานจนตารางแทบชนกัน ขนาดมีนพเข้ามาช่วยอย่างเต็มตัวภาระก็ยังคงหนักอยู่ดี กลายเป็นว่าอ่าน ๆ อยู่แล้วก็โดนเคาะเรียกให้ออกไปเก็บท่าบ้าง เพิ่มท่าบ้าง แปรแถวบ้างจนตัวหนังสือที่อ่านมาไหลออกไปจากหัวจนหมด แล้วแบบนี้ยังจะมีหน้าไปเรียนพระนครอีกแต่วันนี้เขาตั้งใจว่าจะไปหาคุณนายผอ.ถามเรื่องหนังสือโดยละเอียดอีกครั้ง ต่อให้ต้องเข้าไปนั่งเรียนกับเด็กวัยกระเตาะเข้าเขาก็ยอม"แก้ว เราจะไหวแน่เหรอ?"ชายค

DMCA.com Protection Status