หน้าหลัก / LGBTQ+ / องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์ / บทที่ ๑๓ โฉมงามกับเจ้าชายนิทรา (๕๐%)

แชร์

บทที่ ๑๓ โฉมงามกับเจ้าชายนิทรา (๕๐%)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-25 18:00:51

หลังผ่านสงครามร่วมหลายชั่วโมงเหล่าชาวบ้านพากันปันอาหารข้าวของเครื่องใช้บางส่วนเท่าที่จะให้ได้แก่ผู้ประสบภัยที่ต้องหนีระหกระเหินออกจากเขตสู้รบมารวมถึงเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บ โรงเรียนมัธยมเพียงหนึ่งเดียวถูกเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นของทหารญี่ปุ่น และโรงพยาบาลสนามชั่วคราว

บรรยากาศทั้งวันนั้นเต็มไปด้วยความอึมครึม เม็ดฝนทยอยโปรยปรายลงมาอ่อน ๆ พื้นดินพื้นหญ้าชื้นแฉะส่งกลิ่นหอมโชยขึ้นมาปลุกโฉมงามที่หลับใหลอยู่บนฟูกนอนผืนบาง ดวงตาเรียวสวยค่อย ๆ เปิดขึ้นพร้อมกับความรู้สึกปวดตุบในศีรษะ

ตรีศูลยันตัวเองขึ้นนั่งมองไปรอบ ๆ แล้วจึงเห็นว่าตอนนี้ตนเองอยู่บนอาคารเรียน พร้อมกับผู้คนอีกนับสิบที่นอนเรียงรายบาดเจ็บป่วยไข้กันอยู่ กลุ่มแพทย์พยาบาลเดินกันขวักไขว่เป็นพร้อมปลอกแขนสีขาวปักสายเครื่องหมายหน่วยพยาบาลสีแดงเด่น

"อาจารย์! ฟื้นแล้วเหรอ!?"

เสียงของเจ้าเด็กนพดังมาจากโถงทางเดิน เจ้าตัวเดินเข้ามาพร้อมสิงห์ที่หิ้วปิ่นโตกับจานผลไม้ปอก

"นี่กี่โมงแล้ว"

คนแก่กว่าถามด้วยความสงสัยเพราะท้องฟ้าด้านนอกก็บอกเวลาแทบไม่ได้ ทั้งยังไม่มีนาฬิกาแขวนในห้อง

"จะห้า

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๓ โฉมงามกับเจ้าชายนิทรา (๑๐๐%)

    เจ้าศรตกเย็นมาก็ดูอารมณ์จะดีขึ้นไม่เศร้าเรื่องที่แพ้สงคราม ทั้งยังกินอิ่มนอนหลับดีเขาจึงพอจะหมดห่วงไปได้ตรีศูลที่วันนี้ตื่นแต่เช้ามาอุ่นอาหารจะให้เจ้าศรทว่าก็นึกขึ้นได้ เนื่องด้วยตอนนี้โรงเรียนถูกเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นไปแล้ว นักเรียนจึงต้องพักการเรียนกะทันหันจนกว่าสถานการณ์จะซาลงไปจนสามารถดำเนินงานของสถานที่ได้เป็นปกติรวมไปถึงตารางงานของเดือนนี้ต้องถูกเลื่อนออกไปเพราะความไม่สงบ เขาจึงถือโอกาสให้เด็ก ๆ ในคณะได้พักผ่อน เว้นแต่เจ้านพและเจ้าสิงห์ที่วันนี้มาหาเนื่องจากปีหน้าศิษย์เอกของเขาคิดจะไปเรียนต่อระดับอุดมศึกษาหลังจากชะลอมาหนึ่งปีเพื่อรักษาแผลใจที่เสียพี่ไปจึงมาขอให้เข้าช่วยเก็บท่าโขนให้ ส่วนสิงห์ก็ถือตัวโอ้อวดใหญ่ว่าให้เรียกเขาว่าเป็นรุ่นพี่เพราะเข้าเรียนก่อน อย่างน้อย ๆ สีสันบนเรือนนี้ก็ยังไม่จางไป"โอ๊ย! เจ็บ ๆ อาจารย์พอก่อน!"นพตะโกนลั่นเรือนเมื่อหน้าขาทั้งสองถูกดันให้ชิดกำแพงเสียจนจะเป็นเส้นตรงอยู่แล้ว"ทนไว้ ถ้าเขาให้สอบจะได้ทำได้"นพที่พึ่งมาหัดฉีกขาครั้งแรกร้องโอดโอย แค่ท่าถีบเหลี่ยมก็ปวดหลังจะตายอยู่แล้วยังจะต้องมาปว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๔ งานเลี้ยง (๕๐%)

    ด้วยงานที่กระชั้นชิดเข้ามาทุกที แต่ละวันของตรีศูลจึงเอาแต่ฝึกซ้อม จัดชุดเครื่องประดับ เตรียมการวางแผนอะไรหลาย ๆ อย่างให้ทันภายในสามสัปดาห์ หากแต่เวลาไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญเท่าความอึดอัดใต้แผ่นอกที่เริ่มกัดกินเขาทีละนิด ด้วยเรื่องงานประกอบกับคนที่กำลังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงโรงพยาบาลกว่าเขาจะหาเวลามาเยี่ยมได้มาปาไปสี่ห้าวัน เดินเข้ามาก็เห็นว่าโรงเรียนมัธยมถูกเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นอย่างเต็มรูปแบบ นายทหารหลายนายต่างพากันขนย้ายแผ่นไม้เดินไปมา กางกระโจมตั้งโต๊ะวางเครื่องมือการช่าง ตรีศูลเดินผ่านมองด้วยสายตาเหม่อลอย แล้วจึงผินหน้าไปยังที่อื่นพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนมาปะหน้ากับหมอน้ำที่กำลังจะขึ้นอาคารพอดี"คุณน้ำสวัสดีครับ""ครับ"ตรีศูลยืนนิ่งแล้วคิดว่าบางทีอีกฝ่ายอาจจะเป็นคนพูดไม่เก่งถึงได้เอาแต่มองหน้าเขาไม่พูดไม่จาแบบนี้ ทว่าไม่นานอีกฝ่ายก็กล่าวต่อ"คือเมื่อวาน...ผมอาจจะพูดแรงไป ต้องขอโทษด้วยนะครับ"ตรีศูลพยายามย้อนจนนึกได้ว่าคงจะเป็นตอนที่เจ้าตัวรายงานอาการของคุณดินให้เขาได้ทราบ"เรื่องนั้นผมเข้าใจได้ครับ ยังไงเรื่องแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-27
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๔ งานเลี้ยง (๑๐๐%)

    พี่ตรีบอกว่าเจ้าตัวเอาจดหมายมามอบให้ช่วงหัวค่ำด้วยตัวคนเดียวผ่านการถามทางชาวบ้านรอบข้าง แต่เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนบอกทางไปบ้านใครสักคนกับทหารต่างชาติที่พึ่งเข้าประเทศมาได้เพียงไม่กี่วัน แม้เขาจะลองบอกเรื่องนี้ให้พี่ตรีทราบแล้วแต่เจ้าตัวก็บอกเพียงว่า'ไม่เป็นไรหรอก ยังไงพี่ก็คงไม่ได้คุยอะไรกับเขามากมายอยู่แล้ว'จนเมื่อจบการแสดงนายทหารคนนั้นมีท่าทีเหมือนจะเดินตรงเข้าหาเจ้าของคณะนางรำคล้ายว่ามีเรื่องจะคุยด้วย สิงห์และนพที่เคี้ยวขนมอยู่เต็มปากยืนกำกับอยู่จึงมองอย่างมาดร้าย ส่วนสองตาที่คราวแรกตั้งใจจะยืนเฝ้าเด็ก ๆ อยู่ด้วยแต่เพราะกลิ่นสุรามันหอมจึงร่นถอยไปร่วมวงกับทหารญี่ปุ่นเสียอย่างนั้น"คุณคือ...คุณแก้วใช่ไหมครับ?"คนในชุดสีเทาหม่นเดินเข้ามาถามไถ่เพราะตอนนี้อีกฝ่ายโกนหนวด ผัดหน้า แต่งกายสะสวยจนเขาเกือบจำไม่ได้"ครับผมเอง" โฉมงามเงยหน้าขึ้นตอบอย่างเป็นมิตร"คุณแสดงสวยมากเลยครับ ยิ้มก็สวย ผมไม่เคยดูอะไรแบบนี้มาก่อนเลยครับ""ผมได้ยินมาว่าที่ญี่ปุ่นก็มีรำแบบนี้เหมือนกันนี่ครับ"ตรีศูลผินหน้าไปทางอื่นกระชับแว่นแล้วจึงตอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๕ ได้คืบจะเอาศอก ได้เธอมาปลอบจะขอไปนอนบ้าน (๕๐%)

    "วันนี้คุณสวยจริง ๆ นะครับ""คุณดินพอได้แล้วครับ!"ตรีศูลในตอนนี้กำลังสนทนากับนายทหารพิภพด้วยความหัวเสียเพราะเจ้าตัวแทนที่จะถามเรื่องสำคัญกลับพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องวนไปวนมาเสียอย่างนั้น คิดว่าสารภาพรักแล้วจะทำอะไรก็ได้รึอย่างไรแม่นางรำทำท่ากอดอกฮึดฮัดแก้เขินเป็นที่ถูกอกถูกใจแก่พิภพจนอยากจะแกล้งพูดอีกเยอะ ๆ เสียจริง*ตึก* พิภพที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียงได้ยินเสียงเดินจึงชะโงกหน้าไปดู ตรีศูลจึงหันตามจึงเห็นว่าหมอน้ำมาเดินตรวจพอดี ใบหน้าหวานยิ้มร่าในที่สุดเขาก็จะได้หลุดจากสถานการณ์ที่โดนกลั่นแกล้งทางคำพูดจากคุณดินเสียที!"สายัณห์สวัสดิ์ครับคุณน้ำ""ครับคุณแก้ว"พิภพมองอึ้ง เขาหลับไปหนึ่งเดือนคุณแก้วไปตกใครมาได้อีกแล้วเหรอ!? นายทหารบนเตียงกระวนกระวายอยู่ในใจในขณะที่ได้รับการตรวจก็เหล่มองแม่นางรำข้างเตียงพลางสังเกตพฤติกรรมไปด้วย"หันหลังครับ"พิภพทำตามอย่างว่าง่ายทั้ง ๆ ที่ปากมันคันยุบยิบอยากจะถามโฉมงามให้รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครถึงได้ทักทายสนิทสนมกันนัก แต่เมื่อนายแพทย์ที่กำลังตรวจเขาอยู่เลื่อนมือขึ้นมาดูต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๕ ได้คืบจะเอาศอก ได้เธอมาปลอบจะขอไปนอนบ้าน (๑๐๐%)

    เช้าขึ้นมาศรที่นอนอยู่ห้องข้าง ๆ เดินมาถามเลยว่าเมื่อคืนที่ห้องพี่ชายเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเพราะเขาได้ยินเสียงตึงตังแว่วมา ตรีศูลจึงปฏิเสธไปเพียงว่าของหล่นนิดหน่อย ทั้งที่จริงรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองเขินผู้ชายจนไม่เป็นอันหลับอันนอนนอนกลิ้งไปกลิ้งมากว่าจะได้นอนก็ปาไปห้าทุ่มจนตื่นสิบเอ็ดโมงจนได้ศรในวันนี้ขอตัวออกไปเล่นที่บ้านเพื่อน ตรีศูลจึงอนุญาตในขณะที่เขาก็จะขอตัวไปโรงพยาบาลสนามเช่นกันทว่าเมื่อมาถึงกลับเห็นว่าคุณดินกำลังนั่งคุยอยู่กับหญิงชราแล้วก็...เด็กอยู่! ตรีศูลที่ยังไม่ก้าวเข้าไปในห้องเต็มที่จึงแอบสอดส่องมองเมียงไปก่อน แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่เขาก็พอจะได้ยินอยู่บางส่วน'แล้วที่ผ่านมาแม่นอนที่ไหน''โรงแรมแถวนี้แหละ เอ็งไม่ต้องห่วงหรอกเงินแม่มีเหลือเฟือ หัดซื้อให้ตัวเองบ้างไม่ใช่ใส่แต่เสื้อขาด ๆ'ตรีศูลได้ยินก็นึกถึงข้อความของคุณดินบนจดหมายเมื่อนานมาแล้วก็ลอบยิ้ม เขาอยากเห็นเลยว่าในตู้เสื้อผ้าของคุณดินจะเป็นอย่างที่คุณแม่เจ้าตัวพูดหรือเปล่า'พ่อปลื้มบอกแม่ว่าเอ็งมีเมียใหม่เป็นนางรำรึ?'ประโยคต่อม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๖ เดี๋ยวจีบ เดี๋ยวหยอก (๕๐%)

    ปลื้มที่เข้ามาผิดจังหวะเกือบโดนรุ่นพี่แพ่นกบาล เขาก้มกราบแทบไม่ทัน ก็คนมันไม่รู้ว่ากำลังตะล่อมอยู่ให้ทำอย่างไรได้เพื่อเป็นการลงโทษรุ่นน้องตัวดีจึงถูกใช้เป็นคนถือของฝากที่ชักจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนนายสิบคิด 'นี่คุณพี่จะซื้อไปถมที่หรือเจ้าคะ' แล้วนี่ก็ปาไปบ่ายโมงตรงใครไม่รู้บ้างว่าแดดประเทศไทยมันร้อนนรกกินหัวขนาดไหนพิภพที่เดินหิ้วสัมภาระตัวเองสบายตัวมองหาอะไรไปเรื่อยจนหางตาไปสะดุดกับร้านขายเครื่องนอนแล้วนึกขึ้นได้ว่าผ้าห่มคุณแก้วค่อนข้างบาง ผนวกกับเดี๋ยวนี้คนพระนครนิยมห่มผ้านวมกันแล้วหากได้แบบนั้นก็คงดีในตอนที่เขาเตรียมตัวจะควักเงินจ่ายก็เงยหน้าขึ้นไปเห็นเตียงพับสามตอนแล้วจึงคิดว่าจะซื้อแยกไปเป็นที่นอนของตัวเองเลยดีไหม แต่เมื่อกลับมามองผ้าห่มผืนกว้างสำหรับสองคนแล้วจึงปัดความคิดที่จะซื้อของเพิ่มไปโดยปริยายในเมื่อมีเตียงอยู่แล้วจะซื้อฟูกนอนเพิ่มไปอีกทำไม"ร้อย...แค่ไปนอนพักชั่วคราวถึงกับต้องซื้อของแพงขนาดนั้นเลยดิ"ปลื้มออกปากบ่นด้วยความอิดโรย ผ้าห่มผืนนั้นราคาตั้งสิบห้าบาทแต่รุ่นพี่แกกลับหยิบเงินขึ้นจ่ายแบบไม่คิดสักนิด เงินขนาดน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๖ เดี๋ยวจีบ เดี๋ยวหยอก (๑๐๐%)

    ตรีศูลไม่รู้จะตกใจกับรอยสักที่มีอยู่เต็มแผ่นหลัง หรือมวลกล้ามเนื้ออย่างชายชาติทหารนี้ดี โฉมงามรีบกลั้นใจแต้มยาจรดปลายนิ้วทาลงไปบนแผลพลางทอดสายมองยันต์บนผิวหนังหยาบ จนเกิดความสงสัยว่าถ้าเป็นด้านหน้าเจ้าตัวจะสักเหมือนกันไหม แม้จะเคยเห็นราง ๆ ตอนเอาเสื้อผ้าไปให้หน้าห้องน้ำคราวนู้นแต่เพราะเขินเลยไม่ทันได้สังเกต"คุณดินสักเยอะจังเลยนะครับ"ตรีศูลทักขึ้นพลางคิด หรือบางทีนี่อาจจะของปกติในวงการตำรวจทหารก็ได้ แต่เขาไม่ได้ช่ำชองเรื่องพวกนี้ แถมเป็นนางรำมีรอยสักจะใส่เสื้อผ้าเปิดเนื้อหนังทีหนึ่งเป็นเขาคงรู้สึกขัด ๆ เขิน ๆ"พ่อจับผมสักตั้งแต่เด็กน่ะครับ""ทำไมคุณพ่อถึงทำแบบนั้นเหรอครับ?"ตรีศูลพูดแล้วก็มารู้สึกผิดในใจ นี่เขาถามล้วงลึกไปรึเปล่าพิภพยังไม่ตอบเพียงแต่หยิบเสื้อมาสวมเข้าที่เดิม ทิ้งคำถามของแม่นางรำไปสักพัก ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาเมื่อทำใจได้แล้ว"ผมเคยอยู่ชุมเสือมาก่อนครับ""ครับ?"ตรีศูลอึ้งเมื่อได้ยินในขณะที่กำลังลุกขึ้น สงสัยเมื่อครู่เขาอาจจะฟังผิดไป"ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของชุมโจรครับ""งะ...งั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๑๗ เรื่องที่จะพูด (๕๐%)

    ตรีศูลเม้มปากผินหน้าไปทางอื่นหยิบช่อผมขึ้นมาเล่นอย่างขัดเขิน พลอยช้อนสายตามองอดีตเพื่อนทางจดหมายเป็นพัก ๆเสียงประตูแง้มปิดลงล็อกดัง'ปึง'ทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบจึงเงียบสงัดขึ้นมาทันควัน จุดกำเนิดแสงสะท้อนใบหน้างามให้เห็นริ้วแดงจาง ๆ บนแก้มนวล ไออุ่นจากตะเกียงไม่อาจเทียบความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นใต้อกได้เลยสักนิด"คุณแก้วครับ"นายทหารโน้มตัวลงพอเป็นพิธีเชยมือคู่น้อยที่คล้องสายสิญจน์ขึ้นเชยชมผิวพรรณเนียนละเอียดแล้วจึงประทับริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา"ผมรักคุณ"น้ำเสียงทุ้มต่ำกล่าวอย่างหนักแน่น ร่างสูงใหญ่กระชับมือบางเข้ามาใกล้ แล้วจึงกล่าวต่อโดยมองเข้าไปยังนัยน์ตากลมใสของแม่คนงาม "ดังนั้นแล้วคุณแก้ว...ได้โปรดมาเป็นคนรักของผมได้ไหมครับ?"นางรำหนุ่มมองเข้าไปยังนัยน์ตาคมกริบนั้น เขาไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเมื่อจังหวะนี้มาถึงข้างในตัวเขามันจะรู้สึกเบาหวิวได้ขนาดนี้ แม้ไม่มีสายลมพัดผ่านอยู่ใต้ปีกก็รู้สึกเหมือนกำลังโผบินอยู่ หรือแม้ค่ำคืนในฤดูฝนนี้จะหนาวเพียงใดทว่าเพียงสัมผัสฝ่ามือหนาของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๕ พ่อมาเยือน (๑๐๐%)

    พิภพที่ได้เปิดจดหมายน้อยขึ้นมาอ่านแทบจะสำลักความน่ารักที่ล้นทะลักออกมาจากหน้ากระดาษ เขากำลังเก็บข้าวของเตรียมจะไปขึ้นรถไฟเย็นนี้บุรุษไปรษณีย์ก็มาส่งจดหมาย ทีแรกเขาคิดว่าจะมาส่งไม่ทัน หรือไม่มันอาจจะจบที่ฉบับแรกฉบับเดียวเสียด้วยซ้ำ ทว่าพอได้มาเห็นแบบนี้ก็อยากจะรีบวิ่งข้ามจังหวัดไปหาคนรักโดยพลัน คนอะไรแค่บรรยายเรื่องราวผ่านตัวหนังสือยังน่ารักน่าชังได้ถึงขนาดนี้พิภพค่อย ๆ จับกระดาษแผ่นยาวพับกลับคืนรูปเดิมเก็บกลับเข้าซองอย่างทะนุถนอม ก่อนจะนำไปรวมอยู่ในซองสีน้ำตาลซึ่งเต็มไปด้วยจดหมายฉบับเก่า ๆ ที่เขาเคยได้รับมาจากโฉมงาม ไม่น่าเชื่อว่าบางฉบับยังคงมีกลิ่นหอมน้ำอบดอกไม้โชยขึ้นมาแตะจมูกหรือเพราะเขาเก็บพวกมันในที่มิดชิดกันแน่พ่อทหารคิดไปยิ้มไปพลางพับเสื้อผ้าที่มีอยู่อย่างน้อยนิดลงกระเป๋าเดินทาง*แกร๊ก* เสียงโลหะเส้นเล็กหล่นลงกระทบพื้นไม้เมื่อเขาสะบัดกางเกงสีเขียวแก่ประจำตำแหน่ง เมื่อมองดูจึงเห็นเป็น'สายคล้องแว่น'ที่เขาซื้อมันมาตั้งแต่ต้นปีทว่ากลับไม่มีโอกาสได้ให้แม่นางรำเพราะดันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเสียก่อนพิภพหยิบมันขึ้นมามอง เขาตั้งใจจะให้มันเป็

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๕ พ่อมาเยือน (๕๐%)

    เรือนนางรำ๔ เมษายน ๒๔๘๕ถึง แก้วทีแรกพี่เป็นห่วงกลัวว่าเราจะเป็นอะไรไปเพราะจดหมายส่งถึงช้ามาก แต่ก็ดีแล้วที่แก้วปลอดภัยถ้าเราเป็นอะไรไปอีกพี่คงไปหาทันทีไม่ได้เรื่องออกกำลังกายที่พระนครคงไม่ค่อยถนัดนัก ถนนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเปิดให้คนเดินกันแล้วเพราะมีแต่รถวิ่ง ไว้เดี๋ยวพี่กลับไปสอนเรานะครับพระนครก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ ขนาดพี่ที่อยู่มาตลอดก่อนจะมาชุมพรข้าวของแทบจะเปลี่ยนรายปี ไวมากจริง ๆ จนเกือบตามไม่ทัน ส่วนห้างห้างนั้นคงจะเป็นไนติงเกลใช่ไหมครับ มันเปิดมาได้เกือบสิบปีแล้ว แต่ยังมีคนเข้าไปซื้อของกันอยู่เลย พี่ไม่เคยไปเป็นการส่วนตัว เพราะส่วนมากจะเป็นผู้หญิงเดินเข้าไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ พี่เป็นผู้ชายเข้าไปคนเดียวคงรู้สึกแปลกพิกล แต่ถ้าไปกับแก้วก็อีกเรื่องนะครับแม่นมนี่เป็นคนอย่างไรเหรอ ถ้าเป็นแบบตาเทิดตาไฮ้พี่คงต้องเตรียมหมวกกันกระสุนไปด้วย ส่วนเรื่องแต่งตัวถ้าพี่ใส่ชุดทหารไปนี่จะหล่อถูกใจเราไหมครับถ้าวิทยาลัยของเด็ก ๆ ห่างกับเราแบบนี้คงเจอกันยาก แก้วจะไม่

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๔ เพื่อนเก่า (๑๐๐%)

    เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง เป็นป้าทูลที่มาเคาะปลุกพร้อมนำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ แม้หญิงเจ้าจะบอกว่าเป็นเสื้อที่กะวัดด้วยสายตาแต่มันกลับพอดีตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาชักจะแปลกใจขึ้นทุกทีเมื่อได้เห็นบริการอันเกินจินตนาการของคนงานบ้านนี้ตรีศูลวันนี้นัดเพื่อนเก่าเอาไว้ที่สถานี ทีแรกเขากะจะไปเองเพราะเมื่อวานก็พอจำทางได้แล้วแต่คุณลุงคนขับที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกจากเขตบ้านก็ส่งสายตาวิบวับเป็นประกาย"ให้ผมไปส่งคุณหนูนะครับ""ไม่เป็น-"รับทราบครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเตรียมรถรบกวนรอสักครู่นะครับ"ไม่ทันที่ตรีศูลจะได้ปราม คุณลุงก็วิ่งแจ้นออกไปยังลานจอดโดยทิ้งเขาไว้แต่เพียงผู้เดียว บรรยากาศแบบนี้ชวนให้นึกไปถึงมื้อเช้าที่หากคนใช้ทั้งหลายป้อนได้คงจับช้อนป้อนแล้ว'คุณหนูทานนี่สิคะ ป้าทำเองกับมือ''คุณหนูรับขนมเพิ่มไหมคะ กว่าจะไปถึงสถานีคงหิวแย่''คุณหนูจะไปเจอเพื่อนเก่าเหรอคะ มานี่มาเดี๋ยวยายทำผมให้'โดยเหตุการณ์ข้างต้นเจ้าศรก็โดนไม่ต่างกัน ด้วยนิสัยอันสงบเสงี่ยมน่ารักน่าเอ็นดูมาแต่เด็กแม้จะไม่ใช่ทายาทต

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๔ เพื่อนเก่า (๕๐%)

    ร่างสูงสันทัดก้าวเดินด้วยความมั่นคงไปตามพื้นกระเบื้องเงา เสียงรองเท้าหนังเคาะเป็นจังหวะกระชับตามวิถีก้าวอันรวดเร็ว แม้จะเป็นเวลาเช้ามืดนอกจากผู้มารอรถแล้ว จำนวนพนักงานยังคงบางตา คนในชุดกากีพร้อมหมวกหม้อน้ำตาลหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้กลมแววตาคมคร้ามจ้องมองไปยังทางรถไฟอย่างเหม่อลอย เขามักจะมาก่อนใครและกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอ"ไอ้ด้วง มาเช้าอีกแล้วนะเอ็ง พักบ้างก็ได้ ฮ่า ๆ "เพื่อนคนสนิทเดินเข้ามาคล้องคอชิดเชื้อถูไถหน้าไปมา"เอ็งอย่ามาจับน่า รำคาญ""กะจะเก็บไว้ให้เมียจับอย่างเดียวเลยสิ!""เมียอะไรไอ้แผน กูไม่คิดจะมี"เจ้าของชื่อทำหน้ามุ่ย นั่งยองลงกับพื้นเงยหน้าสบตาพ่อหนุ่มหน้ายักษ์ นับตั้งแต่รู้จักการตอนเป็นพนักงานฝ่ายปฏิบัติก็ไม่เห็นเจ้าตัวจะใฝ่รักหญิงสักคน ทั้ง ๆ ที่มันเองก็ใช่ว่าจะไม่มีสาวมาวอแว"แล้วคนที่เอ็งรอเขากลับมาอยู่เนี่ย ไม่ได้กะจะเอามาทำเมียรึ?""เงียบได้แล้ว คนอื่นเขามอง""แหม เนียนเลยนะ"แผนลากเสียงยาวยกมือป้องปากแซะแซวเพื่อนขี้เก๊กด้วงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ เบนหน้าเมินสายตาของเพื่อนร่วมงานท

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๓ ไอ้เสือตรอมใจ (๑๐๐%)

    "หลานไปก่อนนะจ๊ะตา"ตรีศูลเดินลงมาหาตาเทิดตาไฮ้ที่อาสารับหน้าที่ดูแลเรือนตลอดการไปศึกษาของเจ้าของคณะ"เอ้อ ๆ ไปดีมาดีล่ะ" ตาเทิดรับไหว้หลาน"อย่าไปนอกใจไอ้เสือมันล่ะ ฮ่า ๆ เดี๋ยวได้โดนมันจับขังอีกหรอก""ตาละก็!"ตาไฮ้แซะแซวหลานสุดที่รัก พวกเขาไปได้ยินเรื่องวีรกรรมของเจ้าหลานเขยคนนี้มาแล้วเป็นที่เรียบร้อยตรีศูลได้ยินก็ยิ่งอายเขาจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไรเล่า แม่นางรำโกรธพิดพัดกอดอกไม่พอใจเป็นที่ขบขันแก่สองตาช่างแกล้ง ส่วนอดิศรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เป็นที่เอ็นดูไม่แพ้กัน เห็นสงบเสงี่ยมแบบนี้เจ้าศรเองก็สนิทกับสองตาพอสมควร"ไว้ผมจะกลับมาหานะครับ"เด็กชายกล่าว แม้เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในคณะเหมือนพี่ชาย แต่อย่างไรที่แห่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่เขาจะไม่มีวันลืมพี่น้องทั้งสองเมื่อกล่าวลาผู้อาวุโสเสร็จจึงเดินไปยังประตูรั้วหน้าเรือนที่ถูกเปิดเตรียมเอาไว้ ตรีศูลเงยมองหน้าพ่อทหารที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว"รีบไปเถอะครับ ป่านนี้นพคงบ่นแล้ว"คุณครูนาฏศิลป์คำนึงถึงลูกศิษย์ตัวเองที่ขี้โวยวายเป็นที่หนึ่ง พร้อมก

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๓ ไอ้เสือตรอมใจ (๕๐%)

    วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีแน่นอนว่าหากเป็นวันในสัปดาห์เช่นนี้พิภพจำต้องออกไปทำงาน ทว่านั่นหาใช่ประเด็นไม่ เพราะเย็นวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องไปส่งคนรักขึ้นรถไฟพร้อมกับเด็ก ๆพิภพนั่งตวัดข้อมือร่างเอกสารไปอย่างเหม่อลอย เพียงคิดภาพที่ต้องไกลห่าง ความรู้สึกคิดถึงก็ผุดขึ้นมาเสียแล้ว ตลอดหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาตื่นเต้นในทุกเย็นหลังเวลาเลิกงานเมื่อรู้ว่าจะได้กลับไปสอนหนังสือแม่นางรำ ดังนั้นช่วงเวลางานในหัวเขากลับเอาแต่คิดแต่วิธีการสอน ไม่ก็มัวแต่จดจ่อกับการตระเตรียมเอกสารการเรียนให้แก้วจนบางครั้งเกือบไม่เป็นอันทำงานเพราะหากเจ้าตัวสอบติดวิทยาลัยพระนครหมายความว่าแก้วจะได้เป็นฝ่ายมาอยู่บ้านของเขา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขาอดใจรอแทบไม่ไหวเช่นกัน มันจะดีสักแค่ไหนกันเชียวหากได้เห็นโฉมงามเดินทำกิจภายในบ้านตนเอง"เหม่ออีกแล้วนะครับ"ปลื้มที่เดินเอารายงานมาให้ตรวจทักขึ้น ไม่รู้ทำไมช่วงนี้รุ่นพี่เขาถึงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนี้ แต่คงจะเป็นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ตามเคย ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะสามารถเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"มีเรื่อง

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๒ ก้าวผ่านซุ้มประตู (๑๐๐%)

    เดินเข้าไปใกล้ศาลาการเปรียญเรื่อย ๆ ผู้คนก็เริ่มชุกชุม เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กน้อยชวนให้ตรีศูลรู้สึกสบายใจขึ้นมาเป็นเท่าตัว มองเข้าไปก็เห็นคุณนายผอ.กำลังยืนพูดอยู่หน้าแถว ก่อนที่เจ้าตัวจะทำท่ากวักมือมาทางพวกเขา"พี่ต้องไปแล้ว ส่วนแก้วพี่ว่าเรานั่งพักสักหน่อยก็ดีนะครับ"พิภพที่ต้องไปทำหน้าที่ยังไม่วายเป็นห่วงโฉมงาม ตรีศูลเลือกหย่อนกายลงม้านั่งโบกมือเบา ๆ ส่งพ่อทหารแล้วจึงมองตามแผ่นหลังนั้นไปยังหน้าศาลาด้วยความขัด ๆ เขิน ๆ เล็กน้อยจากความไม่คุ้นชินในศัพท์คำพูดตอนนั้นจนถึงตอนนี้ตรีศูลไม่รู้จะขอบคุณพ่อทหารอย่างไรดี หากไม่มีเจ้าตัวเข้ามาเผลอ ๆ เขาอาจจะต้องระทมทุกข์ไปกับความทรงจำอันเลวร้ายนั่นตลอดทั้งชีวิตแม่นางรำนั่งเรียบร้อยใช้สายตาทอดมองไปยังหน้าเคหสถาน เห็นคนรักกำลังพูดชมเชยเหล่าสมาชิกยุวชนทหาร เสียงทุ้มเมื่ออยู่ในหน้าที่พูดจาฉะฉานตรงประเด็นสมกับสัมมาอาชีพ แม้ตนจะไม่ได้ไปยืนอยู่ ณ ตำแหน่งนั้นก็รู้สึกภูมิใจแทนเสียจนต้องอมยิ้มออกมา ผู้ชายอะไรครบเครื่องจริง ๆ ดังนั้นเขาจะต้องพัฒนาตัวเองไม่ให้น้อยหน้า ชักจะมีกำลังใจในการเรียนขึ้นมาแล้วสิ&

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๒ ก้าวผ่านซุ้มประตู (๕๐%)

    ตรีศูลในตอนนี้กำลังหาย่ามที่น่าจะมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับการขนของ ไม่ใช่การจัดกระเป๋าสำหรับเดินทางไปพระนครเพราะเขายังคงเหลือเวลาอีกครึ่งเดือนในการเตรียมตัว แต่เขากำลังจะไปพูดคุยกับคุณนายผอ.เรื่องเรียนต่อเพิ่มอีกสักหน่อย ยิ่งเวลาที่เข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ก็ชวนให้เขาตื่นเต้นไม่ใช่น้อย หลายวันมานี้เขาขอหนังสือเจ้าศรน้องน้อยมาอ่านระหว่างวัน เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็สุดแล้วแต่บุญแต่กรรมแม่นางรำถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขารู้ดีว่าที่ตนอ่านหนังสือไม่เข้าหัวไม่ใช่เพราะเนื้อหาแต่เป็นเพราะเขาหาเวลาอ่านไม่ได้ต่างหาก ยิ่งต้นปีหลายบ้านหลายนายจ้างล้วนมีกิจทั้งนั้น แต่ละคนก็เข้ามาจ้างงานจนตารางแทบชนกัน ขนาดมีนพเข้ามาช่วยอย่างเต็มตัวภาระก็ยังคงหนักอยู่ดี กลายเป็นว่าอ่าน ๆ อยู่แล้วก็โดนเคาะเรียกให้ออกไปเก็บท่าบ้าง เพิ่มท่าบ้าง แปรแถวบ้างจนตัวหนังสือที่อ่านมาไหลออกไปจากหัวจนหมด แล้วแบบนี้ยังจะมีหน้าไปเรียนพระนครอีกแต่วันนี้เขาตั้งใจว่าจะไปหาคุณนายผอ.ถามเรื่องหนังสือโดยละเอียดอีกครั้ง ต่อให้ต้องเข้าไปนั่งเรียนกับเด็กวัยกระเตาะเข้าเขาก็ยอม"แก้ว เราจะไหวแน่เหรอ?"ชายค

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๑ ไม้กันหมาของคุณครูนาฏศิลป์ (๑๐๐%)

    พิภพเอนหลังปล่อยกายพิงพนักให้สบาย หรี่ตามภาพแผ่นหลังของแม่นางรำโฉมงามที่เตรียมตัวจัดท่าจัดทางให้เข้าที่พร้อมขึ้นแสดง นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มานั่งดูเจ้าตัวรำอย่างเป็นกิจจะลักษณะนอกจากจะเห็นฝึกซ้อมอยู่บนเรือน เท่าที่จำได้คงเป็นงานวันชาติกระมังที่เขาได้เห็นเจ้าตัวแต่งองค์ทรงเครื่อง แล้วก็คงมีอีกครั้งในตอนที่เขาตื่นมาจากการหลับใหลหลังผ่านสมรภูมิรบมาหากให้เทียบแล้วการได้มองคนงามซักซ้อมแม้จะใช้ท่วงท่าเดียวกันแต่มันคนละเรื่องกับการที่ได้มาเห็นเจ้าตัวครบองค์เช่นนี้เสียงบรรเลงระนาดเอกขึ้นพร้อมกับฝีเท้าบางซอยถี่วาดลวดลายเข้าไปยังใจกลางวงเสียงกระพรวนข้อเท้าแม้จะแผ่วเบาเมื่อเทียบกับปี่ที่เล่นอยู่ทว่าเมื่อผสานกันแล้วกลับเสนาะหูยิ่ง อุบะทัดหูเอนเอียงไปตามกรอบหน้างามเมื่อเจ้าของร่างบางกดเอวเบี่ยงกาย สายตาคู่สวยเชิดมองไปยังเหล่าคนดูที่แม้จะพร่ามัวแต่ก็จับได้ว่าพวกเขากำลังมองมาด้วยใบหน้าผ่องใสพิภพมองร่างผอมเพรียวอย่างเคลิบเคลิ้มสดับฟังท่อนร้องที่เอื้อนเอ่ยตามทำนองฉุยฉายเอยเจ้าช่างจำแลงแปลงกายงามคล้ายบุษบาหน้าเป็นใ

DMCA.com Protection Status