Share

บทที่ 9

Penulis: เฟเธอร์ในลมอ่อน
เฉียวซุนรู้สึกหมดความอดทน “ลู่เจ๋อ นี่โรงพยาบาลนะ!”

“ฉันรู้อยู่แล้ว”

หลู่เจ๋อไม่ไหวติง เขากดแนบร่างของเธอไว้ ใบหน้าอันหล่อเหลาก็แทบจะแนบกับข้างหูเธอ เสียงยิ่งเจือความอันตรายมากขึ้นเล็กน้อย “รู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?”

เฉียวซุนเดาความคิดที่ซ่อนอยู่ของเขาได้

เขาเป็นประธานบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ป มีฐานะและตำแหน่ง เขาไม่อนุญาตให้ภรรยาเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นมากเกินไป

เฉียวซุนยิ้มอย่างกล้ำกลืนฝืนทน

เธอเอ่ยว่า “ลู่เจ๋อ ฉันไม่ได้มีความคิดสกปรก ๆ แบบคุณนะ และฉันก็ไม่มีอารมณ์แบบนั้นเหมือนกัน...... คุณไม่ต้องห่วง ก่อนที่เราจะหย่ากัน ฉันจะไม่เล่นชู้หรอกน่า”

พูดจบ เธอก็ผลักเขาออก หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย

ลู่เจ๋อตามไปผลักประตูแล้วเข้าไป

พอเขาเข้าไปก็ถึงกับขมวดคิ้ว ปรากฏว่าไม่ใช่ห้องเดี่ยว

เสิ่นชิงย้ายเก้าอี้ให้เขาและกระซิบเบา ๆ ว่า “รีบนั่งเร็ว! เดี๋ยวป้าให้เฉียวซุนไปปอกผลไม้ให้คุณนะ......นี่ เฉียวซุนอย่ามัวยื่นบื้อสิ! เดี๋ยวแกก็กลับไปกับลู่เจ๋อเลยนะ พ่อของแกอยู่ตรงนี้มีฉันดูแลอยู่ทั้งคน!”

ลู่เจ๋อนั่งลงและพูดคุยเป็นเพื่อนกับเฉียวต้าซวิน

โดยปกติเขาจะทำตัวเย็นชากับเฉียวซุน แต่ต่อหน้าเฉียวต้าซวินจะแสดงออกอย่างไม่ให้มีช่องโหว่ เขาก็คลุกคลีอยู่ในโลกธุรกิจมาหลายปี แค่เพียงเขาเอาใจประจบมันก็ทำให้คนรู้สึกชอบและสนใจเขาอย่างง่ายดาย

เฉียวต้าซวินชื่นชอบเขามาโดยตลอด

แต่เมื่อลู่เจ๋อเสนอให้เปลี่ยนโรงพยาบาล เฉียวต้าซวินก็ยังคงปฏิเสธและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่รบกวนแล้วล่ะ! ที่นี่ออกจะดี หมอเฮ่อคนนั้นก็มีความรับผิดชอบมากด้วย”

ลู่เจ๋อวางเฉยและไม่ได้ฝืนใจ “พ่อพักจนชินแล้วก็ดีครับ!”

ในเวลานี้ เฉียวซุนปอกแอปเปิลแล้วส่งให้เขา

แต่ลู่เจ๋อกลับหยิบมาวางไว้ข้าง ๆ แล้วหันหลังมือจับข้อมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เขาหยัดตัวขึ้นแล้วเอ่ยกับคู่สามีภรรยาเฉียวต้าซวินว่า “งั้นผมขอพาเฉียวซุนกลับก่อนนะครับ พ่อดูแลสุขภาพด้วยนะครับ”

เฉียวต้าซวินพยักหน้า เฝ้าดูพวกเขาออกไป

เสิ่นชิงเก็บข้าวของ ทันใดนั้นเฉียวต้าซวินก็เอ่ยปากว่า “ช่วงนี้พวกเขากำลังมีปัญหากันอยู่ ใช่ไหม?”

มือของเสิ่นชิงสั่นเทา

เธอรีบปิดบัง “ไม่มีหรอก! เฉียวซุนและลู่เจ๋อก็อยู่ด้วยกันดีนี่นา!”

เฉียวต้าซวินถอนหายใจเบา ๆ “คุณอย่ามาโกหกผม! สายตาที่เสี่ยวซุนมองเขามันไม่เหมือนเดิม แต่ก่อนเธอมองลู่เจ๋ออย่างมีประกาย แต่ตอนนี้ไม่มีแสงประกายอะไรเลย”

เสิ่นชิงตกตะลึงสักพักและเอ่ยเบา ๆ ว่า “คุณโน้มน้าวเธอหน่อย!”

เฉียวต้าซวินค่อย ๆ โน้มตัวไปทางหัวเตียง สักพักเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ไม่แล้ว! ถึงลูกจะไม่พูดอย่าคิดว่าผมจะไม่รู้! ......สือเยี่ยนไม่มีอิสระแล้ว ผมก็ไม่อยากให้เฉียวซุนไม่มีอิสระเหมือนกัน”

เสิ่นชิงอึกอักที่จะพูด

……

ลู่เจ๋อพาเฉียวซุนลงไปชั้นล่าง

พระอาทิตย์ตกดินในตอนเย็น ย้อมรถเบนท์ลีย์สีดำให้เป็นสีแดงเจิดจ้าทั้งคัน ทำให้ดูหรูหราและแพรวพราว

เฉียวซุนถูกดันให้ขึ้นรถ เธอคิดจะลงจากรถ แต่ข้อมือถูกเขารั้งไว้

ลู่เจ๋อมีสีหน้าที่เฉยเมย มองจากภายนอกรถไม่มีทางมองออกว่าเขาใช้กำลังมากขนาดไหน เฉียวซุนไม่สามารถกระดิกตัวได้เลย แสดงให้เห็นถึงความต่างพละกำลังของผู้ชายและผู้หญิงได้อย่างชัดเจน

รอจนเธอยอมแพ้ที่จะขัดขืน ลู่เจ๋อถึงได้คลายมือ

เขาสูบบุหรี่อย่างเงียบ ๆ ภายในรถ

ลมหายใจของเฉียวซุนติดขัดอยู่เล็กน้อย มองใบหน้าเสี้ยวเดียวของเขา แสงสลัว ๆ ทำให้เกิดเงาบนเสี้ยวหน้าของเขา ใบหน้าดูมีมิติและดูหล่อมากยิ่งขึ้น บวกกับฐานะที่ฟ้าประทาน สามารถทำให้ผู้หญิงใจเต้นได้อย่างง่ายดาย

เฉียวซุนคิดขึ้นได้จากการใจลอย

คราแรก ใบหน้านี้ทำให้เธอหลงใหลอย่างกับผีสิง ชอบมาตั้งหลายปี

ลู่เจ๋อหันตัวมาและมองไปยังเฉียวซุน

น้อยมากที่เขาจะรำคาญใจกับเรื่องของเฉียวซุน และเขาไม่ได้สนใจเธอมากด้วยซ้ำ แต่เขาไม่อยากเปลี่ยนภรรยา ผู้ชายที่มีฐานะมีหน้ามีตา การจะเปลี่ยนภรรยาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

สักพัก เขาก็ดับบุหรี่และคลำเอากล่องกำมะหยี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

เปิดออก โดยที่ข้างในมีแหวนเพชรอยู่

เฉียวซุนรู้สึกจุกที่คอ นี่มัน...... แหวนแต่งงานที่เธอขายเมื่อคืนนั้น

ลู่เจ๋อซื้อมันคืนมาเหรอ?

ลู่เจ๋อจ้องใบหน้าของเธอเอาไว้ โดยไม่ละสายตาไปจากการแสดงออกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของเธอ ราวกับว่าต้องการเห็นการประชดนั่นของเธออย่างชัดเจนอย่างไรอย่างนั้น

นานพอควร เขาเอ่ยปากอย่างราบเรียบว่า “ยื่นมือมา สวมแหวนซะ! แล้วตามฉันกลับบ้าน เรื่องก่อนหน้านั้นฉันจะแกล้งทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เธอยังคงเป็นคุณนายลู่อยู่”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 10

    ยากที่เขาจะใจกว้างให้อภัย แต่เฉียวซุนกลับปฏิเสธเธองอนิ้วที่ขาวบางเล็กน้อยความอดทนของลู่เจ๋อมีขีดจำกัด “คุณจะเอายังไงกันแน่?”เฉียวซุนพึมพำเบา ๆ ว่า “หย่า! ฉันอยากหย่ากับคุณ”ลู่เจ๋อยุ่งจนตัวเป็นเกลียว เฉียวซุนทะเลาะกับเขาจะไม่ยอมกลับบ้านให้ได้ เมื่อเช้าตรู่เขาอยากจะหากระดุมแขนเสื้อที่คู่กันก็หาไม่เจอ รู้สึกไม่มีความสุขเอาเสียเลย ในขณะที่กำลังจะโมโหก็กลับเห็นเฮ่อจี้ถังกำลังพูดคุยกับนางพยาบาลอยู่หน้ารถบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวคันหนึ่งที่ลานจอดรถด้านหน้าลู่เจ๋อยิ่งไม่มีความสุขมากขึ้น เอาลิ้นดุนโพรงปากในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นเลขาฉินที่โทรมา ลู่เจ๋อรับสายและเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก “มีอะไร?”เลขาฉินรีบบอกเขาตามหน้าที่ “เมื่อครู่คุณไป๋ลุกจากเตียง ไม่ทันระวังก็เลยหกล้มค่ะ อาจได้รับบาดเจ็บที่เส้นประสาทบริเวณขา ตอนนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร ประธานลู่คุณอยากจะไปดูเธอที่เมือง H ไหมคะ? ถ้าคุณไปเธอจะต้องดีใจมากแน่เลยค่ะ”ลู่เจ๋อถือโทรศัพท์ไว้ ไม่พูดในทันที เห็นได้ชัดว่ารู้สึกพะว้าพะวังเฉียวซุนที่อยู่ข้าง ๆ อยู่เล็กน้อยระดับเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาไม่เบา และเฉียวซุน

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 11

    สองวันต่อมา เฉียวซุนก็ขายบ้านไปแล้วบ้านมีราคาตลาดอยู่ที่สองร้อยห้าสิบล้านบาท แต่อีกฝ่ายกดราคาจนเหลือร้อยสี่สิบล้านบาท และป้าเสิ่นก็ด่าตวาดอีกฝ่ายว่าโลภออกมาทันทีแต่เฉียวซุนกลับกัดฟันพูดออกมาว่า “ขายค่ะ!”เพราะพี่ชายที่อยู่ข้างในนั้นก็รอไม่ไหวแล้ว นอกจากค่าทนาย ตระกูลเฉียวยังมีภาระขนาดมหึมาที่ต้องไปอุด ภายใต้แรงกดดันในแต่รูปแบบ เฉียวซุนไม่มีทางเลือกเลยหลังจากขายบ้านเสร็จสิ้น เธอคิดหาวิธีที่จะเจอกับเฉียวสือเยี่ยนเฉียวสือเยี่ยนผู้มีโฉมหน้าหล่อเหลาและมีเกียรติ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็จะมีลูกสาวเศรษฐีไล่จีบ ในเวลานี้กลับดูซีดเซียว โดยที่เขาและเฉียวซุนคุยกันผ่านกระจกหนึ่งบานที่กั้นเอาไว้[ไปหาทนายความที่ชื่อเมิ่งเยียนหุย][เสี่ยวซุน เขาช่วยพี่ได้และช่วยเธอได้ด้วย]……เฉียวซุนอยากจะถามให้ชัดเจนแต่หมดเวลาเสียแล้ว และเฉียวสือเยี่ยนก็ต้องถูกพาตัวกลับไปเขามองดูน้องสาว ทิ้งสายตาอาลัยอาวรณ์ไว้มากมาย เฉียวซุนน้องสาวของเขา ตั้งแต่เด็กก็เป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในตระกูลเฉียว ตอนนี้กลับต้องมาวิ่งเต้นเพื่อครอบครัวเฉียวสือเยี่ยนอ่านหนังสือพิมพ์สถานการณ์ของเฉียวซุน เขารู้อย่างชัดเจนก่อนจากไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 12

    ไม่ทันที่เฉียวซุนจะโต้ตอบ เขาก็เข้าประชิดเธอเรียบร้อยแล้ว เขาจับคางผิวละเอียดของเธอ แนบใบหูของเธอแล้วถามอย่างอันตรายว่า “คุณจะขายงั้นเหรอ?"ร่างของเฉียวซุนสั่นสะท้านไปทั้งตัวเธอไม่ปฏิเสธลู่เจ๋อไม่โกรธแต่กลับยิ้มให้แทน เขาประชิดตัวเธอ พึมพำเหมือนคนรักกัน “คุณจะขายให้ใครได้ ในเมือง B แห่งนี้คุณได้ชื่อว่าเป็นคุณนายลู่ ใครหน้าไหนมันจะกล้ามาเอาคุณ? อีกอย่างคนอื่นมาแตะต้องตัวคุณ คุณจะรับได้เหรอไง? ผู้ชายซื้อผู้หญิงก็อยากได้ทั้งนั้น เหมือนคืนแต่งงานของเราในคืนนั้น มันเจ็บยังไง......คุณลืมไปแล้วเหรอ?”สีหน้าเฉียวซุนซีดเซียวทำไมเธอจะจำไม่ได้ เพื่อแก้แค้นเธอ ในคืนแต่งงานนั่นลู่เจ๋อหยาบคายสุด ๆ คืนนั้น เขาทำให้เฉียวซุนเจ็บแทบจะขาดใจตายลู่เจ๋อหยุดอย่างพอประมาณเขาปล่อยเธอแล้วลูบใบหน้ารูปไข่เธออย่างนุ่มนวล “กลับมาเป็นคุณนายลู่ เราจะกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน”คอเรียวบอบบางของเฉียวซุนตึงขึ้นทันใดนั้น เธอก็เห็นไวโอลินตัวใหม่ที่เงาวับตัวหนึ่งวางอยู่ในตู้หนังสือฝั่งตรงข้ามเฉียวซุนจำข่าวซุบซิบที่ว่า ท่านประธานลู่ซื่อทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อไวโอลินที่ราคาสูงลิ่วถึงหนึ่งร้อยล้านบาท เพียงเพ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 13

    สภาพของเฉียวซุนดูแทบจะไม่ได้แต่ลู่เจ๋อกลับยังคงแต่งตัวดูดี มีเพียงกางเกงสแล็คขายาวสีเข้มที่เปื้อนความชื้นเล็กน้อยแสดงออกถึงการเสพสุขที่หวานซึ้งอยู่หลายส่วนมือของเฉียวซุนสั่นอย่างไม่เข้าท่า หลายครั้งที่เธอไม่สามารถควบคุมปุ่มที่งดงามและละเอียดอ่อนขนาดเท่าเมล็ดข้าวนั่นได้ลู่เจ๋อยืนมองด้วยสายตาเหยียดอยู่ข้าง ๆ ไม่แสดงการช่วยเหลือใด ๆเขาชอบสัมผัสกระดุมข้อมือจนเป็นนิสัย แต่กลับไม่ได้สัมผัสมัน ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้กระดุมข้อมือคู่นั้น เขายังหาไม่เจอ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้มหน้าถามในเวลานี้เป็นเวลานาน ในที่สุดเฉียวซุนก็แต่งตัวเรียบร้อยเธอเงยหน้ามองลู่เจ๋อ ลู่เจ๋อกำลังมองเธออยู่เช่นกัน สายตาที่ล้ำลึกเกินกว่าที่จะทำให้เธอเข้าใจ แต่เฉียวซุนก็ไม่อยากที่จะเข้าใจด้วย น้ำเสียงของเธอเจือความท้อแท้เล็กน้อย “ลู่เจ๋อ ฉันเหนื่อยจริง ๆ นะ! เราเจอกันด้วยดีก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะ!”พูดจบ เธอก็เปิดประตูแล้วเดินออกไปครั้งนี้ ลู่เจ๋อไม่ได้รั้งเธอไว้เขายืนอยู่ตรงนั้น มองดูร่างที่จากไปของเฉียวซุน เป็นเวลานาน เขาหลับตาลงและยิ้มเย็นชาบาง ๆสามีภรรยาหย่ากัน ส่วนใหญ่ต่างคนต่างก็ต้องเจ็บปวด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 14

    เฉียวซุนหน้าตาดี เล่นไวโอลินเก่งผู้รับผิดชอบให้เงินเธอหนึ่งพันห้าร้อยบาทต่องาน เมื่อมีงานเข้ามาเยอะ เฉียวซุนต้องวิ่งแสดงสามถึงสี่งานต่อวัน ในแต่ละวันเธอต้องเล่นอย่างน้อยหกชั่วโมง นิ้วเรียวบางลอกด้านและมีตุ่มน้ำชีวิตลำบาก ต้องเดินทางกลับไปกลับมา แต่เฉียวซุนไม่เคยเสียใจเธอไม่ได้โทรหาลู่เจ๋อ และลู่เจ๋อก็ไม่ได้โทรหาเช่นกัน...... บางครั้งเธอก็เห็นข่าวของเขา ร่วมงานราตรี เข้าซื้อกิจการบริษัทต่าง ๆในแต่ละงานพบปะ ลู่เจ๋อดูหล่อเหลาและมีเกียรติงานพบปะเหล่านี้ แต่ก่อนเฉียวซุนเคยอยู่เคียงข้างเขาเป็นบางครั้ง ดูท่าทางที่อาจหาญทรงอำนาจของเขา รู้สึกประทับใจอย่างเงียบๆแต่ในตอนนี้พอเห็นสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง เฉียวซุนรู้สึกไกลตัวและไม่คุ้นเคย……ในตอนเย็น ชั้นบนสุดของโรงพยาบาลเฉียวซุนนั่งเงียบ ๆ พร้อมขวดโค้กแช่เย็นที่ซื้อมาจากร้านขายของชำ หากเป็นแต่ก่อนเธอไม่มีทางดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ตอนนี้เธอดื่มบ้างนิดหน่อยเป็นครั้งคราวเฮ่อจี้ถังก็เดินเข้ามาในเวลานี้ ร่างสูงยาว สวมเสื้อกาวน์สีขาวของหมอแผนกศัลยกรรมเขายืนอยู่ข้างเฉียวซุน มองดูพระอาทิตย์ตกดินเป็นเพื่อนเธออย่

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 15

    อาจเป็นเพราะไป๋เซียวเซียวโอ้อวดมากเกินไป ในที่สุดไปรบกวนคุณหญิงลู่จนได้คุณหญิงลู่ตามหาเฉียวซุนในตอนนั้น เฉียวซุนกำลังทำการแสดงอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต สวมชุดราตรีราคาถูกที่บริษัทการแสดงเช่าให้และมือที่จับไวโอลินก็มีพลาสเตอร์ติดไว้หลายแผ่นถ้าไม่บอก ใครจะคิดว่านี่คือคุณนายของลู่ซื่อกรุ๊ป?คุณหญิงลู่ยืนอยู่ล่างเวทีด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อเฉียวซุนเห็นเธอ ปลายนิ้วชะงัก แต่เธอก็จดจ่อไปที่การเล่นเปียโนในทันทีในระหว่างพักการแสดง คุณหญิงลู่เข้ามา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและห่างเหิน “มีร้านกาแฟอยู่ข้างนอก ฉันจะรอเธออยู่ที่นั่น” พูดจบ เธอก็จากไปแล้วเฉียวซุนยังคงเล่นเปียโนต่อไปเพื่อนร่วมงานข้าง ๆ เป็นกังวล เข้ามากระซิบใกล้ ๆ ว่า “เฉียวซุน เธอมีปัญหาหรือเปล่า? ผู้หญิงคนนั้นเมื่อกี้ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่คนที่จะไปยุ่งด้วยได้ง่าย ๆ!”เฉียวซุนส่ายหัวและยิ้มบาง ๆ “ไม่มีอะไร! แค่ผู้ใหญ่......ที่รู้จัก”เพื่อนคนนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเฉียวซุนเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเองและไปที่ทางเข้าร้านกาแฟคุณหญิงลู่นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง เพราะเธอสง่างามเกินไปจึงเห็นได้อย่างชัดเจนเฉียวซุนเดินเข้าไปและนั่งล

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 16

    กระจกรถเลื่อนลงครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นใบหน้าอันสง่างามของลู่เจ๋อเขาสวมชุดสูทคลาสสิกขาวดำ ท่าทางเหมือนเพิ่งออกมาจากสถานที่ที่เป็นทางการจากไหนสักแห่ง ทั้งตัวให้ความรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย......ซึ่งทำให้เฉียวซุนรู้สึกจนตรอกมากยิ่งขึ้นคืนฝนตกที่คั่นการสบตาของกันและกัน มองกันอย่างเงียบ ๆริมฝีปากของเฉียวซุนสั่นเทาจากความหนาวเย็นมือของเธอกอดไวโอลินไว้แน่น ราวกับกำลังคว้าหญ้าที่ลอยน้ำต้นสุดท้ายในชีวิตของเธอไว้...... เธอรู้อยู่แก่ใจว่า นี่เป็นบันไดที่ลู่เจ๋อมอบให้เธอตอนนี้ เธอแค่ต้องยอมจำนนและขึ้นรถไปอีกไม่นานเธอก็จะได้ผ้าห่มที่สะอาดและน้ำอุ่น ๆ พรุ่งนี้เช้าไม่ต้องไปทำการแสดงที่ห้าง เธอจะได้ตื่นขึ้นบนเตียงที่หรูหราและนุ่มสบาย ได้กลับเป็นคุณนายลู่คนนั้นอีกครั้งแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ!เฉียวซุนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน มองดูเขาอย่างเงียบ ๆฝนตกหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนตาเปียกชื้น บดบังการมองเห็นของกันและกันประมาณหนึ่งนาที เธอก็ใช้มือเดียวบังศีรษะไว้ แล้ววิ่งไปข้างหน้าท่ามกลางสายฝน......น้ำฝนสาดกระเซ็น กระเด็นใส่ตัวรถแบรนด์ดังราคาสูงเธอและเขาเลยผ่านกันไปในคืนฝนตกบนถนนกลางดึก เส

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 17

    เฉียวซุนวิ่งกลับไปที่ห้องเช่าจากที่ห่างไกลออกไป เสิ่นชิงที่กำลังกางร่มรออยู่ใต้ตึกอย่างกระวนกระวายใจเฉียวซุนเดินช้าลง “คุณป้าเสิ่น คุณป้ากลับมาได้อย่างไรคะ”เมื่อถึงบ้านแล้ว เสิ่นชิงหยิบผ้าขนหนูให้เธอเช็ดผม พลางพูดไปด้วยว่า “ป้าไม่ค่อยสบายใจเลยกลับมาดูสักหน่อย ฝนตกหนักขนาดนี้ ทำไมไม่นั่งแท็กซี่ล่ะ”เสิ่นชิงไล่เธอไปอาบน้ำ เมื่อเธอออกมาก็เตรียมซุปร้อนไว้ให้เธอเพื่อที่ร่างกายจะได้อบอุ่นครั้นเมื่อเฉียวซุนกำลังดื่มซุป เสิ่นชิงก็ถามด้วยความลังเล “เรื่องระหว่างเธอกับลู่เจ๋อเป็นยังไงบ้าง”เฉียวซุนหยุดชะงักนิดหน่อยครั้นแล้วเธอก็ดื่มซุปต่อ พูดด้วยเสียงค่อยๆ ว่า “เขาไม่ยอมหย่าค่ะ! และหนูก็ยังหาคนที่รับทำคดีหย่าร้างชั่วคราวไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามหนูได้ยื่นขอแยกทางแล้ว อาจใช้เวลาถึงสองปี ในตอนนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอมแต่ก็ต้องหย่าอยู่ดีค่ะ”ป้าเสิ่นให้เฉียวซุนกินยาโดยไม่พูดอะไร เมื่อดูแผลที่ปลายนิ้วนั่น เสิ่นชิงก็รู้สึกเศร้าใจในตอนนั้น เฉียวซุนเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งของโรงเรียนดนตรี ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงล้วนอยากจะรับเธอ อย่างอัจฉริยะทางดนตรีแซ่เว่ยคนนั้น ในช่วงแรกก็มาทาบทามตั้งหลาย

Bab terbaru

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status