Share

บทที่ 17

Penulis: เฟเธอร์ในลมอ่อน
เฉียวซุนวิ่งกลับไปที่ห้องเช่า

จากที่ห่างไกลออกไป เสิ่นชิงที่กำลังกางร่มรออยู่ใต้ตึกอย่างกระวนกระวายใจ

เฉียวซุนเดินช้าลง “คุณป้าเสิ่น คุณป้ากลับมาได้อย่างไรคะ”

เมื่อถึงบ้านแล้ว เสิ่นชิงหยิบผ้าขนหนูให้เธอเช็ดผม พลางพูดไปด้วยว่า “ป้าไม่ค่อยสบายใจเลยกลับมาดูสักหน่อย ฝนตกหนักขนาดนี้ ทำไมไม่นั่งแท็กซี่ล่ะ”

เสิ่นชิงไล่เธอไปอาบน้ำ เมื่อเธอออกมาก็เตรียมซุปร้อนไว้ให้เธอเพื่อที่ร่างกายจะได้อบอุ่น

ครั้นเมื่อเฉียวซุนกำลังดื่มซุป เสิ่นชิงก็ถามด้วยความลังเล “เรื่องระหว่างเธอกับลู่เจ๋อเป็นยังไงบ้าง”

เฉียวซุนหยุดชะงักนิดหน่อย

ครั้นแล้วเธอก็ดื่มซุปต่อ พูดด้วยเสียงค่อยๆ ว่า “เขาไม่ยอมหย่าค่ะ! และหนูก็ยังหาคนที่รับทำคดีหย่าร้างชั่วคราวไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามหนูได้ยื่นขอแยกทางแล้ว อาจใช้เวลาถึงสองปี ในตอนนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอมแต่ก็ต้องหย่าอยู่ดีค่ะ”

ป้าเสิ่นให้เฉียวซุนกินยาโดยไม่พูดอะไร เมื่อดูแผลที่ปลายนิ้วนั่น เสิ่นชิงก็รู้สึกเศร้าใจ

ในตอนนั้น เฉียวซุนเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งของโรงเรียนดนตรี ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงล้วนอยากจะรับเธอ อย่างอัจฉริยะทางดนตรีแซ่เว่ยคนนั้น ในช่วงแรกก็มาทาบทามตั้งหลายครา

ในตอนนี้เธอกลับต้องไปเล่นไวโอลินในสถานที่แบบนั้น

เฉียวซุนดูออกว่าเธอคิดอะไร

เธอพูดปลอบเสิ่นชิงว่า “รอให้พ่อหายดี พี่ชายออกมา หนูก็กลับไปเรียนต่อได้แล้วนะคะ”

เสิ่นชิงถึงจะมีรอยยิ้มขึ้นมา “ป้าเชื่อเธอนะ! เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็จะกลายเป็นนักดนตรี”

เฉียวซุนยิ้มเพียงเล็กน้อย

นานแล้วที่เธอไม่ได้ยิ้มแบบนี้ ตอนที่เธอยิ้มนั้น เขี้ยวเล็กก็ค่อย ๆ เผยออกมา ช่างน่ารักมากจริง ๆ

เมื่อกลับมาถึงห้อง

เธอนั่งอยู่ที่ข้างเตียงนอน เช็ดไวโอลินที่หวงแหนอย่างระมัดระวัง

ในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผู้จัดการของบริษัทการแสดงโทรมา บอกว่าร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูจะเปิดให้บริการในวันพรุ่งนี้จึงต้องการแสดงที่มีระดับ

ผู้จัดการหัวเราะชอบใจ “ฉันนึกถึงคุณทันทีเลยนะเฉียวซุน เล่นเพียงแค่สี่ชั่วโมงก็ได้เงินสองหมื่นห้าพันบาท เงินตกลงมาจากฟ้าเชียว! เฉียวซุนฉันรู้ว่าคุณขัดสนเงินทอง เรื่องนี้พวกเราแบ่งกันคนละครึ่ง! น่าสนใจใช่มั้ยละ! ”

สี่ชั่วโมงสองหมื่นห้าพันบาทงั้นเหรอ

เฉียวซุนลุกขึ้นยืนทันที ปกติแล้วเธอไม่ชอบการเข้าสังคม ตอนนี้คำพูดที่นุ่มนวลไม่กี่คำก็พูดไปแล้ว

ผู้จัดการกำชับเป็นพิเศษ “พรุ่งนี้ใส่ชุดสวยเลยนะ!”

เฉียวซุนตอบแค่อืมไปสั้น ๆ

หลังจากที่วางโทรศัพท์แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะหยิบไวโอลินขึ้นมา สัมผัสไปมาอยู่อย่างนั้น

หลังจากที่มีความสุขได้สักพัก เธอก็ไปเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม

เธอหาอยู่ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดเธอก็เจอเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวกับกระโปรงยาวสีดำชุดนั้น เฉียวซุนมองไปสัมผัสไป คลับคล้ายคลับคลาว่า เธอสวมชุดนี้ตอนที่เธอเป็นคุณนายลู่

ผ่านมานานแล้ว เธอไม่เคยสวมมันอีกเลย

……

ในคืนต่อมา ณ ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูที่ตั้งอยู่ในถนนละแวกที่ดีที่สุดของเมือง B สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ

พนักงานเสิร์ฟถือถาดอาหารเดินไปมา

เฉียวซุนสวมชุดผ้าไหมกระโปรงยาว ผมสีดำผูกไว้ด้านหลังคอขาวเผยให้เห็นต่างหูมุกคู่หนึ่ง ช่างสวยงามอย่างน่าประหลาดใจ

ภายใต้โคมไฟคริสตัล เธอดูอ่อนโยนและงดงามขณะเล่นไวโอลิน

ผ่านกระจกกั้นสูงจากพื้นจรดเพดาน

รถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ด้านนอก ลู่เจ๋อที่กำลังพิงรถสูบบุหรี่ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงลำลองสีดำ ดูแต่งตัวสบายๆ กว่าชุดทำงานปกติเล็กน้อย

ควันสีเทาที่พ่นออกมา กลับถูกสายลมยามค่ำคืนพัดพาไป

ครั้งแรกที่ลู่เจ๋อเห็นเฉียวซุนเล่นไวโอลิน

สายตาที่เขามองเธอนั้น เผยให้เห็นความคิดที่หยาบคายของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง เขายังแสดงความเป็นเจ้าของโดยที่ไม่รู้ตัว

เขาไม่ได้เข้าไปในร้านอาหาร เพียงแค่ยืนรออยู่ด้านนอก

ในบางครั้งเขาเห็นว่ามีผู้ชายประทับใจเฉียวซุนมากจนยื่นนามบัตรให้เธอ แต่เฉียวซุนยิ้มปฏิเสธทุกคน เธอเพียงแค่เล่นไวโอลินของเธอเท่านั้น ลู่เจ๋อค่อนข้างพอใจ

เขาคิดว่าตราบใดที่เฉียวซุนกลับบ้านกับเขา ช่วงเวลานี้เขาจะถือซะว่าการที่เธอต่อต้านเขานั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น

ร้านอาหารปิด เวลาสี่ทุ่มครึ่ง

เมื่อเฉียวซุนเก็บไวโอลินเสร็จ เธอก็บอกลากับผู้จัดการร้านอาหาร ผู้จัดการร้านพอใจเธอมากให้เงินอย่างตรงไปตรงมา เขายังบอกอีกว่าถ้ามีงานอะไรจะเรียกเธอ

เฉียวซุนกล่าวขอบคุณอีกครั้ง

เธอเดินออกมาจากร้านอาหาร เมื่อลู่เจ๋อเห็นเธอจึงค่อยหยิบบุหรี่ออกมาอย่างช้า ๆ ขณะที่เขากำลังเรียกเธอนั้นกลับมีใครนำหน้าเขาไปหนึ่งก้าว

“เสี่ยวซุน!”

เฉียวซุนหันไปตามเสียง

ระยะห่างเพียงไม่กี่ก้าว เฮ่อจี้ถังที่เพิ่งจอดรถ ลดกระจกลงแล้วกวักมือเรียกเธอ “ขึ้นรถสิ ผมไปส่งคุณเอง”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 18

    เฉียวซุนรู้สึกว่าสนิทสนมมากเกินไปขณะที่กำลังจะปฏิเสธ เฮ่อจี้ถังก็หยิบกล่องถนอมอาหารตรงที่นั่งผู้โดยสารออกมา “แม่ผมทำเกี๊ยวเองเลยนะ ไส้ขึ้นฉ่ายที่คุณชอบทาน ท่านจึงให้ผมเอามาให้คุณ”เฉียวซุนรู้สึกเกรงใจนิดหน่อย “คุณป้ายังจำได้!”เฮ่อจี้ถังยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเอียงตัวเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร “ขึ้นรถสิ ผมผ่านทางนั้นพอดี”เฉียวซุนคิดว่าคงไม่ดีแน่หากจะปฏิเสธอีกครั้งเธอขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย “รบกวนคุณแล้วค่ะ”มือทั้งสองข้างของเฮ่อจี้ถังจับพวงมาลัย เอียงตัวหันไปมองเธอที่กำลังกอดกล่องถนอมอาหารด้วยสายตาที่อบอุ่น “ถ้าหิวแล้วก็เปิดทานเถอะ มันกำลังร้อน ๆ อยู่”เฉียวซุนไม่คิดที่จะสนิทสนมมากเกินไป นอกจากนี้แล้วเธอกลัวว่าจะทำรถเขาสกปรก เธอส่ายหน้า “ฉันอยากกลับไปทานที่บ้านค่ะ”เฮ่อจี้ถังไม่บังคับเธอ เขาค่อย ๆ เหยียบคันเร่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ “กลับบ้านแล้วค่อย ๆ ทานก็ดีเหมือนกัน!”รถบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวขับออกไปอย่างช้า ๆห่างออกไปประมาณสิบเมตร ลู่เจ๋อมองไปยังรถที่เคลื่อนออกไป ด้วยสีหน้าอึมครึมราวกับจะมีน้ำสามารถหยดได้เขาหยิบโทรศัพท์มาจากในรถ ต่อสายโทรศัพท์หาใครบางคน ไม่นานเขาก็ได้คำ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 19

    ลู่เจ๋อและเธอเคยใช้ชีวิตสามีภรรยาร่วมกันมานานกว่าสามปีเขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เธอมีอารมณ์ร่วมได้อย่างเร็ว ทำอย่างไรให้เธอสบาย และทําอย่างไรให้เธออ่อนปวกเปียกจนทนไม่ไหวในทางเดินที่มืดและทรุดโทรม ชายหญิงนัวเนียกันอยู่อย่างนั้นพวกเขาได้รับการศึกษาระดับสูงมาตั้งแต่เด็ก โดยที่เฉียวซุนเป็นคุณหนูตระกูลผู้ดีโดยแท้ ส่วนลู่เจ๋อก็ยิ่งดูพิถีพิถันกับสถานที่และรักความสะอาดเป็นอย่างมากแต่ในเวลานี้ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วเขาต้องการเห็นเธอในสภาพที่พังทลาย อยากเห็นเธอร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและไร้เรี่ยวแรง แล้วก็เรียกชื่อของเขาอย่างไม่รู้ตัวออกมา...เฉียวซุนแทบจะเสียสติ“ไม่นะ!ไม่ใช่สักหน่อย!”เสียงของเธอแหบแห้งและสั่นเครือ แต่กลับสามารถทำให้แรงปรารถนาของผู้ชายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกทุกครั้งที่เธอพยายามดิ้นรนออกมาเพียงเล็กน้อย เธอก็กลับถูกลู่เจ๋อกดเอาไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นก็จะปฏิบัติต่อเธออย่างรุนแรงและหยาบคาย แม้กระทั่งกระซิบไปที่ใบหูของเธอด้วยเสียงพึมพำที่ชั่วร้าย...“รู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?”“ไม่เห็นว่าเขาจะคล้ายกับผมสักเท่าไหร

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 20

    ในตอนที่เฉียวซุนจากไป ขาของเธอก็ไร้เรี่ยวแรงไปอย่างสิ้นเชิงแต่เธอยังคงพยายามอดกลั้นเอาไว้ ไม่อยากให้ลู่เจ๋อมองออก เพราะเกรงจะแย่ไปกว่านี้และในความจริง มันจะมีอะไรอีกล่ะ?มันก็แค่ฉากรักระหว่างชายหญิงเท่านั้น ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ท่าทางที่แย่ๆลู่เจ๋อก็เคยใช้กับเธอมาก่อนแล้วทั้งนั้น และในตอนนี้มันก็แค่เพิ่มมาอีกหนึ่งอย่างก็เท่านั้นเองยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้ทำจริงๆสักหน่อยทางเดินยังคงมืดครึ้ม กลิ่นอายการพัวพันระหว่างชายหญิงก็ยังคลุมเครืออยู่แบบนั้น เฉียวซุนกลั้นหายใจแล้วก้มลงไปหยิบเกี๊ยวทำมือที่ตกอยู่กล่องนั้นและไวโอลินที่ถูกละเลยขึ้นมาเธอลากร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับมาบ้าน ขณะที่กำลังจะเปิดประตู ก็มีเสียงเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา“เฉียวซุน!”จู่ๆไฟทางเดินก็สว่างขึ้นมาเมื่อเห็นใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคย เฉียวซุนก็ได้พึมพำอย่างไม่รู้ตัวออกมาว่า“หลินเซียว”ผ่านไปสักพัก เธอก็ดึงสติกลับมาได้“เธอรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”“ฉันไปโรงพยาบาลมาน่ะ ป้าเสิ่นให้ที่อยู่ฉันมา”หลินเซียวพูดพลางยกคางขึ้น“เพิ่งลงเครื่องก็มาเลย ทำอะไรให้ฉันกินหน่อยสิ ฉันหิวมาเกือบ12ชั่วโมงแล้วนะ อาหารบนเครื่องไม่อร่อยเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 21

    เฉียวซุนพึมพำออกมา“ฉันรู้!ลู่เจ๋อเป็นคนเชิญมาน่ะ”หลินเซียวตกตะลึง“งั้นชู้รักนั่นก็คือไป๋เซียวเซียวยังงั้นเหรอ?...เฉียวซุนเธอว่าสองคนนั้นทำไมไม่ไปผุดไปเกินสักทีนะ!หากตอนนั้นไม่ใช่เกิดผิดพลาดขึ้นมา เธอก็คงจะไปเรียนต่อกับอาจารย์เว่ยที่ต่างประเทศตั้งนานแล้วนะ แล้วก็คงไม่ต้องมาปรนนิบัติพัดวีลู่เจ๋ออยู่แบบนี้หรอก!”หลินเซียวสูบบุหรี่เพื่อระงับอาการตื่นตระหนกแต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังอดก่นด่าออกมาไม่ได้ว่า“ลู่เจ๋อนี่แผนสูงจริงๆเลยนะ แค่นอนด้วยก็คุ้มขนาดนี้แล้ว!”เธอคิดว่าเฉียวซุนคงจะถอยอย่างแน่นอนแต่เฉียวซุนกลับพูดอย่างเรียบๆออกมาว่า“อาจารย์เว่ยโทรหาฉันแล้ว เขาบอกว่าหวังว่าภายในสี่ปีที่เขากลับประเทศ ฉันจะไปเรียนกับเขาได้”หลินเซียวรู้สึกตื่นเต้นแบบสุดๆ จนต้องดับบุหรี่เลยทีเดียว“หากเธอพลาดโอกาสแบบนี้ไปอีก เฉียวซุน ฉันจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเธอไปแน่ๆ”เฉียวซุนยิ้มเจื่อนๆ“ฉันรู้”ในที่สุดอารมณ์ก็ผ่อนคลายลง หลังจากที่เฉียวซุนเก็บจานชามเรียบร้อยแล้ว เธอก็อาบน้ำและกลับไปที่บนเตียงอีกครั้งโดยที่หลินเซียวได้ผล็อยหลับไปแล้วเฉียวซุนนอนอยู่ข้างๆหลินเซียว และอดไม่ได้ที่จะพิงไหล่ของเธอเอาไว

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 22

    ลู่ซื่อกรุ๊ปเลขาฉินเคาะประตู หลังจากได้รับการอนุญาตแล้ว เธอก็ผลักประตูเข้าไปลู่เจ๋อกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ โดยที่ปลายสายเป็นคุณนายลู่ และเนื้อหาการสนทนานั้นก็เป็นเรื่องที่เลขาฉินกำลังจะรายงานกับลู่เจ๋ออยู่พอดี[ลู่เจ๋อ ลูกปล่อยให้เฉียวซุนออกหน้าออกตาแบบนี้ได้ยังไง?][ลู่จิ้นเซิงเป็นใครกัน?][แล้วยังจะคนที่ชื่อหลินเซียวนั่นอีก ชื่อเสียงแย่ขนาดนั้น เฉียวซุนจะไปมาหาสู่กับเธอไม่ได้อย่างเด็ดขาด!ลู่เจ๋อ ลูกต้องคอยดูภรรยาของตัวเองหน่อยนะ]......และน้ำเสียงของลู่เจ๋อก็แฝงความเฉยเมยอยู่เล็กน้อย“แม่ครับ เฉียวซุนกำลังอาละวาดอยากจะหย่ากับผมอยู่นะครับ!แล้วจะคอยดูได้ยังไง?”คุณนายลู่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตระกูลลู่เป็นอย่างมากเธอพูดพร่ำอยู่นานโดยลูกชายไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย และเธอก็วางสายไปอย่างโกรธลู่เจ๋อวางโทรศัพท์ลง มองไปทางเลขาฉินแล้วพูดว่า“เฉียวซุนไปทำงานที่ลู่จิ้นเซิงงั้นเหรอ?”และเลขาฉินต่างหากล่ะที่อยากจะพูดจู่ๆเธอก็เห็นกล่องกำมะหยี่วางอยู่ข้างมือของลู่เจ๋อ เธอจำกล่องนั้นได้ และภายในเป็นแหวนแต่งงานของเฉียวซุนนั่นเอง ซึ่งหากเมื่อวางอยู่ข้างๆมือแบบนี้ คาดว่าเขาจะต้องเปิดออกมา

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 23

    เขาตั้งใจที่จะทำให้เฉียวซุนลำบากใจ จึงหันข้างมายิ้มๆ แล้วพูดด้วยความหมายหยั่งเชิงเล็กน้อยขึ้นมาว่า“ลู่เจ๋อ เฉียวซุนก็อยู่ด้วยหรือเนี่ย!”ลู่เจ๋อเล่นไฟแช็กโดยไม่พูดอะไรสักคําและหลีรุ่ยก็แน่ใจแล้วว่า ลู่เจ๋อไม่ได้สนใจเฉียวซุนแต่อย่างใด เขาจึงหันไปทักทายเฉียวซุนที่อยู่บนเวที“เฉียวซุน!”เฉียวซุนหันมามองเธอรู้ว่าหลีรุ่ยไม่มีเจตนาดี แต่ลู่จิ้นเซิงก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอจำเป็นต้องไว้หน้าลู่จิ้นเซิงอย่างไม่มีทางเลือกเมื่อเฉียวซุนเดินเข้ามา หลีรุ่ยก็รินไวน์แดงสามแก้วให้กับเธอและหลีรุ่ยก็พูดอย่างสุภาพขึ้นมาว่า“เฉียวซุน คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอคุณที่นี่ได้?ตอนนั้นที่คุณกับลู่เจ๋อแต่งงานกัน ชิงเฉิงไม่รู้ประสา เลยนิสัยเสียอาละวาดออกไปแบบนั้น วันนี้ผมจะขอชดเชยแทนเธอก็แล้วกันนะ!”หลีรุ่ยมีงานสังสรรค์ในบ่อยครั้ง และคงไม่ต้องพูดถึงว่าเขาดื่มเก่งแค่ไหน?และเขาก็กระดกไวน์แดงทั้งสามแก้วราวกับน้ำเปล่าหลังจากดื่มเสร็จ เขาก็จ้องมาที่เฉียวซุนตรงๆ“เฉียวซุน คุณนายลู่อย่างคุณคงไม่ดูถูกผมและไม่ไว้หน้าผมหรอกใช่มั้ย?”ขณะที่ลู่จิ้นเซิงนั่งอยู่ เขาก็ใช้นิ้วเรียวยาวหนึ่งนิ้วดันคางเอาไว้ด้วยเดิมที เฉียวซ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 24

    หลังจากที่เฉียวซุนดื่มไวน์ เธอก็สะลึมสะลือขึ้นมาแล้วลู่เจ๋อพาเธอไปที่ลานจอดรถ และเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับและขอให้เธอขึ้นรถเฉียวซุนไม่ยอม...เธอมึนแล้ว แต่ยังไม่ถึงกับเมาเธอเอามือค้ำประตูรถเอาไว้ เงยหน้าขึ้นมา และริมฝีปากแดงก็พูดด้วยเสียงที่สุดจะเซ็กซี่ออกมาว่า“ลู่เจ๋อ ฉันไม่ต้องการกลับบ้านไปพร้อมกับคุณ!เรากำลังจะหย่ากันแล้ว!”ลู่เจ๋อมองลงมา ดวงตาสีดำขลับจ้องมาเธออย่างไม่ละสายตา และจับจ้องลีลาท่าทางหลังจากเมามายของเธอด้วยเขาไม่เคยเห็นเฉียวซุนเป็นแบบนี้มาก่อนเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีแชมเปญและกระโปรงหางปลา ทั้งๆที่มันดูเรียบร้อยเอาเสียมากๆ แต่ในเวลานี้กลับสะท้อนความเป็นผู้หญิงออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมทุกตารางนิ้วของเส้นโค้งเว้นบนร่างกายของเธอ ล้วนล่อลวงผู้ชายให้ลูบคลําและครอบครองลู่เจ๋อโน้มตัวเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ แล้วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดออกมาว่า“ดูสภาพคุณในตอนนี้สิ มันยังมีความเป็นกุลสตรีอยู่หรือเปล่า?”เฉียวซุนเงยหน้าขึ้นมามองเขาแววตาของเธอดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นเล็กน้อย และมันก็พร่ามัวขึ้นมาอีกครั้งลู่เจ๋อเลิกที่จะพูดเหตุผลกับเธอ จากนั้นเขาก็ผลักเธอเข้าไปในรถด้วยแรงที่ค่อน

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 25

    เขาโอบคอเล็กๆของเฉียวซุนด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็กดท้ายทอยของเธอมาแนบกับตัวเอง โดยที่หน้าผากชนกัน และสันจมูกสูงของเขาก็ได้ปะทะกับเธอ ราวกับว่าริมฝีปาก...ได้หายใจไอร้อนๆออกมา และแผดเผาเฉียวซุนจนสั่นเทาเล็กน้อยเธอรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาเล็กน้อยแต่ลึกๆ แล้ว เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไปเธอกับลู่เจ๋อ ไม่ควรทําเรื่องแบบนี้...เมื่อฝ่ายชายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เฉียวซุนก็โอบคอเขา แล้วพูดกระซิบข้างหูว่า“ลู่เจ๋อ เราจะหย่ากันเมื่อไหร่?”ตัวของลู่เจ๋อแข็งทื่อขึ้นมาเล็กน้อยเขาบีบใบหน้าเล็กๆที่อ่อนนุ่มของเธอเพื่อบังคับให้เธอมองหน้าเขาใบหน้าของเฉียวซุนแดงระเรื่อ และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นหญิงอยู่ในตัว เธอมองไปที่เขาอย่างเงียบๆ พร้อมกับพึมพำอย่างไม่รู้ตัวออกมาว่า“ลู่เจ๋อ คุณรู้หรือเปล่าว่า...ความจริงฉันไม่ได้ชอบคุณแล้ว ไม่ได้ขอบแล้ว!”เธอพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า——จู่ๆใบหน้าของลู่เจ๋อก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เขาบีบคางของเธอ และจ้องมองเธอเป็นเวลานาน จากนั้นก็โพล่งคำพูดคำต่อคำออกมาว่า“คุณคิดว่าผมจะแคร์งั้นเหรอ?”เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเพราะเขาไม่ได้รักเธอ เพราะการแต่งงานของพวกเ

Bab terbaru

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status