Share

บทที่ 7

ตระกูลเย่ตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะลั่นออกมา

“หมอซ่ง อย่าล้อเล่นสิ เขาสุ่มจับร่างกายนายท่านของเราเพียงไม่กี่ครั้ง แล้วก็จะรักษาโรคหายเลยเหรอ? "

“งั้นคงไม่ใช่หมอแล้ว แต่เป็นหมอเทวดา!”

“ใช่ ให้ฉันทำยังได้เลย!”

หมอซ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า

"ไม่ใช่ แม้จะเป็นการจับจุด ก็เป็นงานทางเทคนิคของการแพทย์แผนจีน มันไม่ง่ายขนาดนั้น..."

เย่ซิงชางโบกมือและขัดจังหวะ

“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว หมอซ่ง ไปดื่มชาก่อนเถอะ! ตระกูลเย่ของฉันได้เก็บชาเถี่ยกวนอินที่ดีที่สุดไว้! "

หมอซ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ ช่างมันเถอะ ต่างอาชีพก็ห่างดั่งขุนเขากั้น พูดมากไปก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง

หลังจากนั้นไม่นานคนของตระกูลเย่ก็ส่งหมอซ่งกลับ

เย่เจิ้งกั๋วพูดอย่างไม่พอใจ

“ฉันดูแล้วหมอที่เก่งกาจในเมืองนี้ก็ไม่ได้เป็นดั่งที่ลือไว้ แม้แต่เด็กบ้าคนหนึ่งก็เห็นเป็นหมอเก่งกาจมีชื่อเสียงไปได้!”

เย่ซิงชางก็ลูบหนวดเคราของเขาและกล่าวว่า

“หมอซ่งยังไงก็ยังเป็นคนเริ่มมีอายุแล้ว อย่างไรเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงจะแค่มองพลาดไปเท่านั้น”

“พ่อ! เรื่องนี้พวกเราจะปล่อยผ่านไปแบบนี้เหรอ? วันนี้ผมโดนเด็กคนนี้ตบเลยนะ!"

เย่เจิ้งหมิงพูดด้วยความโกรธใบหน้ายังคงมีรอยแดงจากการโดนตบ

เย่ซิงชางยิ้มเยาะแล้วพูดว่า

“แน่นอนว่าไม่ปล่อยไปแบบนี้หรอก มันชื่อหลิงเฟิงใช่มั้ย? แล้วยังเป็นพนักงานในแผนกการตลาดของพวกเรา? แปลว่าถ้าอยากแก้แค้นมันก็เป็นเรื่องง่ายดายไม่ใช่เหรอ?”

“ท่านจะบอกว่า?” พี่สองพี่น้องของตระกูลเย่รู้สึกตื่นเต้น

การวางแผนร้ายกำลังก่อตัวขึ้น!

......

“จับพอหรือยัง?”

ไม่นานหลังจากออกจากบ้านหลิวเย่ซาน เย่อวี่หลิวก็สะบัดมือของหลิงเฟิงออกและมองเขาอย่างเย็นชา

“ข้อตกลงคือหนึ่งชั่วโมง แต่นี่มันเกินมาสิบนาทีแล้ว!”

หลิงเฟิงพูดอย่างอึกอัก "ผมขอโทษประธานเย่ด้วย ผมความจำไม่ดี"

อันที่จริงแล้วร่างกายของเย่อวี่หลิวให้สัมผัสนุ่มนิ่มเพลิดเพลินมาก เขาก็เลยเผลอตัวไป...

“วันนี้ที่เรียกนายมา นายก็คงเห็นแล้ว ว่าฉันแค่อยากใช้นายเป็นข้ออ้างปฏิเสธคู่หมั้นที่ครอบครัวของฉันจัดเตรียมไว้ให้! นายอย่าคิดเข้าข้างตัวเองล่ะ ว่าฉันชอบนายจริงๆแล้ว”

เย่อวี่หลิวกอดอกยืดอกขึ้น แล้วพูดคำต่อคำ

“เงินเดือนของนายแค่สามพันห้า เป็นพนักงานฝึกงานที่มีวุฒิการศึกษาเพียงมัธยมปลายเท่านั้น”

“แต่ฉัน เรียนจบปริญญาเอกจากนอก เป็นรองประธานบริษัท คนที่จะจีบฉันต่อแถวยาวจากชายฝั่งตะวันออกมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงเมืองชางไห่!”

“ฉันกับนายไม่ได้อยู่โลกเดียวกัน ดวงดาวบนท้องฟ้าไม่เคยก้มมองปลากุ้งในแม่น้ำ”

หลิงเฟิงพูดอย่างใจเย็น "อืม งั้นตอนนี้ผมออกไปได้แล้วใช่มั้ย?"

เย่อวี่หลิวสะดุ้ง ตัวเองพูดคำพวกนี้เพื่อดับมโนของอีกฝ่ายแล้วก็เอาคืนชายคนนี้ด้วย

แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่สนใจเลย

เป็นอย่างที่คาดไว้ ผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่แบบชั้นต่ำมานาน โลกทัศน์และประสบการณ์ก็ถูกจำกัดมานานแล้ว ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ พอใจกับสิ่งที่มี

เย่อวี่หลิวเมื่อเห็นแบบนั้น ทั้งผิดหวังและโกรธที่มอบให้ครั้งแรกกับ...ผู้ชายแบบนี้!

แต่เมื่อเขากำลังจะหันหลังกลับและจากไป เธอก็พบว่าไม่ไกลมีคนของตระกูลเย่กำลังจับตาดูอยู่!

เธอรีบคว้าเสื้อของหลิงเฟิง “รอก่อน! ฉันให้นายไปแล้วเหรอ?”

หลังเฟิงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกพูดว่า “ประธานเย่ ยังมีเรื่องอะไรอีกมั้ย? หน้าที่โล่ไม่ใช่ว่าเสร็จแล้วเหรอ?”

เขาช่วยเย่อวี่หลิวในครั้งนี้ก็ถือว่าหายกันกับเรื่องที่เขาทำต่อเย่อวี่หลิวในห้องทำงานแล้ว

เย่อวี่หลิวเชิดคางขึ้นแล้วพูดอย่างเย็นชา "แค่ตามฉันมาก็พอแล้ว!"

“ยังจะไปอีกเหรอ? ไปไหน?” หลิงเฟิงหมอกและน้ำเต็มหัว

แต่เย่อวี่หลิว ผู้หญิงคนนี้ ไม่ให้โอกาสตัวเองอธิบายเลยกลับดึงเขาขึ้นรถอีกครั้ง

ขับรถเข้าไปในเมืองและไปยังอาคารสำนักงาน

ก่อนหลิงเฟิงจะตั้งสติขึ้นมาได้ “สำนักงานทะเบียนสมรสเหรอ? เดี๋ยวก่อน คุณ…”

“นายไม่มีสิทธิ์ถาม”

เย่อวี่หลิวพูดคำเหล่านี้แล้วลากหลิงเฟิงเข้าไป และพูดตรงๆว่า "สวัสดีค่ะ พวกเรามาขอทะเบียนสมรสค่ะ"

ผู้หญิงที่นั่งที่ช่องตกใจมากจนเกือบจะคิดว่าหลิงเฟิงถูกลักพาตัวมา แต่คิดแล้วคิดอีกไม่น่าเป็นไปได้

ผู้หญิงที่สวย เจ้าอารมณ์ และร่ำรวยขนาดนี้ จะหลงรักผู้ชายที่ตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ดูจนหมดเปลือกขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะอีกฝ่ายควันเขียวผุดจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษแน่เลย!

การจดทะเบียนก็เสร็จสิ้นภายในสิบนาที

หลิงเฟิงยังคงสับสน ตอนนี้เขาแต่งงานแล้วเหรอ?

อีกทั้งกับคนที่อยู่ตรงหน้า พูดให้ถูกก็คือ เย่อวี่หลิว เจ้านายคนปัจจุบันของเขาที่เขาเพิ่งพบในวันนี้!

เย่อวี่หลิวมองไปที่หลิงเฟิง เลิกคิ้วแล้วพูดว่า

“นายไม่อยากถามฉันเหรอว่าทำไมต้องทำแบบนี้?”

หลิงเฟิงรู้สึกหน้าชาสุดๆ “ประธานเย่ ผมถามตลอดเลยนะ แต่คุณไม่เคยตอบผมเลยสักครั้งใช่ไม่ใช่?”

จู่ๆ เย่อวี่หลิวรู้สึกพูดไม่ออก เหมือนว่าจะมีเรื่องแบบนั้นอยู่ก็เลยเปลี่ยนบทสนทนาว่า

ฉันขอให้นายแกล้งทำเป็นคู่หมั้นของฉันเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับนายน้อยหลี่หู่ของหู่เหมินแต่ว่าตระกูลเย่หลอกไม่ได้ง่ายๆ เพื่อที่จะรู้แผนการของฉัน พวกเขาจะต้องส่งคนมาตามดูฉันแน่ๆ”

“ดังนั้นนายจะต้องร่วมมือกับฉันแสดงละครเรื่องนี้ต่อไป! เล่นบทบาทนี้ให้ดี!”

หลังจากที่เย่อวี่หลิวพูดจบ เธอก็ขับรถพาหลิงเฟิงไปที่วิลล่าแห่งหนึ่งในย่านชานเมืองโดยไม่ถามหลิงเฟิงว่าตกลงหรือไม่

เย่อวี่หลิวพูดอย่างจริงจัง

“นี่คือบ้านของฉัน หลังจากนี้นายต้องมาอยู่ที่นี่สามวันต่อสัปดาห์ แบบนี้จะทำให้คนตระกูลเชื่อในความสัมพันธ์ของพวกเรา”

“ฉันอยู่บนชั้นสอง นายไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป ไม่ต้องแม้แต่จะมอง! ไม่อย่างนั้น ฮึ่ม!”

เมื่อเห็นเย่อวี่หลิวกำลังจะขึ้นไป ในที่สุดหลิงเฟิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วจึงพูดว่า

“ประธานเย่ แล้วจะให้ผมนอนตรงไหนล่ะ?”

เย่อวี่หลิวพูดอย่างเฉยเมย: "ชั้นแรกใหญ่มาก หาโซฟานอนไม่ได้เลยเหรอ?"

หลิงเฟิง “...”

หากเป็นนิสัยก่อนหน้านี้ของเขา ผู้หญิงคนนี้คงถูกเขาจับกดแล้วกระทำเรื่องโหดเหี้ยมไปแล้ว

“หรือว่า มีห้องเก็บของอยู่ที่ชั้นหนึ่งหลังจากทำความสะอาดแล้วบางทีคุณอาจจะอยู่ได้"

มุมปากของเย่อวี่หลิวงอเป็นการประชดประชัน

“หลิงเฟิง นายอย่าลืมล่ะ นายเป็นพนักงานของฉันต้องทำตามคำสั่งของเจ้านาย!”

คนยศต่ำกว่าต้องนอบน้อมคนสูงกว่าสินะ! หลิงเฟิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำตาม

ใครใช้ให้ทำให้ตัวเองโชคร้ายกันล่ะ ในห้องทำงานคุยกับเย่อวี่หลิว....

พลบค่ำ

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าเขาจะขนของในห้องเก็บของออกมา แล้วจัดแต่งให้เป็นห้องนอนของตัวเองได้

ในเวลาเดียวกัน

ก็มีเงาสีดำที่รวดเร็วเคลื่อนไหวผ่านหน้าเขาไป!

รวดเร็วปานสายฟ้า หลิงเฟิงกังวลขึ้นมาทันที ม่านตาของเขาไหววูบ “ใคร?”

มีคนต้องการฆ่าเย่อวี่หลิวงั้นหรือ?

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status