ตอนเช้า
“ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ร่างบางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเมื่อแสงแดดแยงตา ส่องกระทบเข้าที่ใบหน้าหวาน รู้สึกปวดหัวอย่างที่เธอไม่เคยปวดมากแบบนี้มาก่อน
“เมื่อคืน” มันเหมือนจะจำอะไรได้แต่ก็จำอะไรไม่ได้
พรึบ!!
“ว่าแต่” เธียร ดีดตัวลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง
“ที่นี่ที่ไหน? ห้องใคร? แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” คำถามนับร้อยพุ่งเข้ามาในหัว
“เสื้อผ้า” พร้อมก้มสำรวจร่างกายตัวเอง
“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอยังใส่ชุดเดิม ร่างกายไม่มีอะไรบุบสลาย ไม่เจ็บไม่ปวด
“แล้วที่นี่มันที่ไหน?” เด็กสาวในชุดคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ ค่อย ๆ ก้าวขาเดินสำรวจห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู ในโทนแดงดำ มันดูแปลก ๆ แต่ก็ดูสวยมันดูลึกลับน่าค้นหา
สองขาเรียวยังคงก้าวเดินสำรวจห้องไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน
พรึบ!!
โครม!
เพล้ง!!
“เฮือก!!” เธอสะดุ้งตกใจจนมือเธอเผลอไปปัด โมเดลจำลองเรือ Costa neoromantic มูลค่าหลายสิบล้านที่ทำจากคคริสตัลแท้ ตกลงแตกละเอียด เพราะมัวแต่เดินเหม่อมองนี่นั่นไม่ดูทาง ร่างบางชนเข้ากับแผงอกแกร่งไร้เสื้อผ้าปกคลุมของเจ้าของห้องเข้าอย่างจัง
“…..” คนตัวเล็กในอ้อมแขนคนตัวโตตาเบิกกว้างตกตะลึงกับใบหน้าหล่อคม มือเล็กนุ่มที่ลูบจับหน้าอกเขาอย่างเผลอตัว สายตาเย็นชาดุดันจ้องใบหน้าหวานไม่กะพริบตา ใช่เขากำลังโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
“จะลูบอีกนานมั้ย”
พรึบ!
ร่างเล็กถูกผลักเซถลาจนเกือบล้ม
‘ฉิบหายแล้วเธียร เธอทำอะไรลงไปเนี่ย’ พอตั้งสติได้มองดูความเสียหายที่เกิดขึ้นเธอถึงกับเข่าทรุด อายุยังไม่ทันจะเต็ม 18 ปีบริบูรณ์ เรียนก็ยังไม่จบจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเสียหาย ดูท่าแล้วคงจะหลายหมื่น กับแค่เงินพันกว่าจะได้มาแต่ละบาทเลือดตาแทบกระเด็นนับประสาอะไรกับเงินหมื่น แล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะจบ ม. 6 เงินค่าเทอมที่จะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยยังไม่มีสักบาท ตายแน่ เธอตายแน่ ธีรดา
“ออกไปจากห้องฉันก่อนที่ฉันจะฆ่าเธอ”
“เฮือก” แล้วต้องตกใจกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง แค่น้ำเสียงยังน่ากลัวขนาดนี้ไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าเขาจะดุขนาดไหน
“นะ...หนูขอโทษเดี๋ยวหนูจะจ่ายค่าเสียหายให้นะคะ” เด็กสาวค่อย ๆ หมุนตัวหันหน้าไปสบตาคู่ดุดันที่มองเธออย่างกับจะฆ่าคู่นั้น แล้วต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคอ เมื่อร่างสูงโปร่งผิวขาวเนียน มีแค่ผ้าขนหนูพันช่วงล่างเดินเข้ามาใกล้
“ฮึ จะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่าย” เขาเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“หนูทำพังยังไงหนูก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ขอเวลาหนูหน่อย 1 เดือน ขอเวลา 1 เดือนเงินหมื่นหนึ่งมันไม่ใช่น้อย ๆ นะ” ถึงไม่รู้จะไปหามาจากไหน แต่ทำของคนอื่นเสียหายยังไงก็ต้องชดใช้ ถึงจะไม่มีพ่อมีแม่สอนเรื่องพวกนี้แต่เด็กอย่างเธอก็มีจิตสำนึกมากพอ
“ฮึ...หน้าอย่างเธอจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่ายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว! น่ารำคาญ!” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนทันที
“ยังไงหนูก็จะหาเงินมาคืนพี่ให้ได้!” เสียงใสตะโกนตามหลังเขาอย่างหนักแน่นจริงจัง
“แล้วจะกลับยังไง เงินก็ไม่มีกระเป๋าก็อยู่ที่ไหนไม่รู้” แต่พอจะก้าวขาออกจากห้องก็นึกขึ้นได้ เงินเมื่อคืนก็ไม่ได้สักบาทไม่รู้ว่าใครเอาไปแล้วกระเป๋าก็อยู่ที่ร้าน ถึงจะมีเงินในนั้นแค่สองร้อยแต่สองร้อยสำหรับเธอมันมีค่าต่อชีวิตได้หลายวันเลยนะ
“พี่คะ” ธีรดากลั้นใจเดินตรงเข้าไปหาเขาที่เดินออกมาจากห้องนอนในชุดสูท เขาดูหล่อเรียบหรูดูแพงมาก แต่น่ากลัวไปหน่อยตรงที่สายตาคู่นั้นที่มองมามันดูเย็นเยือกจนน่าขนลุก มองมาทีทำเอาแทบหายใจไม่ออก
“คือว่าหนูขอยืมเงินพี่ได้มั้ยคะ สองร้อย” หญิงสาวฉีกยิ้มหวานชูนิ้วสองนิ้ว แต่ต้องหุบยิ้มเมื่อถูกสายตาพิฆาตคู่นั้นจ้องหน้าจนต้องรีบก้มหน้าหลบ
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอตัวนะคะ ขอบคุณที่พี่ช่วยหนูไว้” ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมเธอถึงคิดว่าเขาช่วยเธอจากไอ้บ้ากามที่มันหลอกให้ดื่มเหล้าเมื่อคืนไว้ แต่ความรู้สึกเธอมันบอกว่าเขาเป็นคนดีถึงจะดูน่ากลัวก็เถอะ
ร่างเล็กในชุดน้อยชิ้นเดินก้มหน้าออกจากห้อง เฮ้อ...กว่าจะเดินถึงห้องคงสาย ๆ ถ้าไม่ได้อยู่ในชุดนี้คงไม่ต้องกลัว จะขอยืมเสื้อคลุมเขาก็คงจะไม่ได้ใครล่ะจะกล้าให้คนแปลกหน้ายืมของ
พรึบ!!!
“ตัวภาระ” ร่างเล็กเซถลาเมื่อถูกแจ็กเกตตัวใหญ่โยนใส่ตัว เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้นึกพิศวาสหรือสงสารอะไรแค่เห็นแล้วมันรำคาญลูกตา ไม่น่าช่วยเด็กใจแตกนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
น่าจะปล่อยให้ถูกลากไปข่มขืนเสียให้เข็ด อายุยังไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำกลับทำตัวเหลวแหลก
“ตามมา”
“พี่จะไปส่งหนูเหรอคะ?” ขนาดเขาทำหน้ายักษ์ใส่ยังจะไปยิ้มให้อีก
“…….” แต่ก็ต้องเม้มปากแน่น สองเท้าเดินตามร่างสูงไปขึ้นรถ ก่อนรถ BM คันหรูจะขับออกไปด้วยความไว
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” สองมือยกมือไหว้ พร้อมรอยยิ้มที่จริงใจ แต่กลับได้แต่ความเงียบและความเฉยชา ก่อนสองขาจะก้าวลงจากรถ
“คนอะไรดุแต่หล่อ แล้วยังใจดีมาส่งด้วย” เธียรได้แต่มองตามรถหรูที่วิ่งออกไปด้วยความเร็ว ยิ่งนึกถึงใบหน้าหล่อคม สายตาเย็นชาแทนที่เธอจะกลัวแต่กลับยิ้มแสดงความชื่นชมเขา เพราะถ้าเป็นคนอื่นไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่นี่ร่างกายเธอมันยังปลอดภัยดีทุกอย่าง
“ตายแล้ว ทำไมขี้ลืมแบบนี้นะ” แต่ก็ต้องตีหัวตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมเอาเสื้อคืนเขาไป
“ไว้ค่อยเอาไปคืน คนอะไรตัวหอม ๆ” ไม่พูดเปล่ามือเล็กจับปกเสื้อขึ้นมาดม
“เธอทำบ้าอะไรของเธอเธียร ทำตัวเป็นโรคจิตไปได้!” ถึงจะบ่นให้ตัวเองแต่ก็ยังสูดดมเสื้อ กลิ่นนี้มันกลิ่นผู้ชายชัด ๆ กลิ่นมันหอมมันมาดแมนแฮนด์ซัม อดที่จะดมไม่ได้ ดมแล้วก็ต้องดมอีก
ก่อนร่างเล็กจะเดินยิ้มบิดตัวเขินอายเดินขึ้นไปบนห้องเช่าเล็ก ๆ เท่ารูหนูของเธอ จะทำไงได้ล่ะ เด็กที่ไม่มีพ่อมีแม่ อายุก็แค่นี้มีปัญญาเช่าห้องถูก ๆ แบบนี้อยู่ก็ดีเท่าไร ดีกว่าต้องไปนอนข้างถนนเหมือนตอนเด็ก ๆ
ที่เธอยอมไปทำงานแทนพี่สาว เพราะถ้าพี่สาวไม่ช่วยเด็กน้อยที่นอนตากฝนอยู่ข้างถนนวันนั้นไว้ก็คงไม่มีเธียร เด็กสาวที่มองโลกในแง่บวกไม่เคยคิดร้ายกับใคร ผู้ที่หัวใจมีแต่ศิลปะและมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นจิตรกร
อยากสร้างสรรค์ผลงานอยากให้ทุกคนได้ยิ้มไปกับสิ่งที่เธอสื่อออกมา
หลายวันผ่านไปโรงเรียนเอกชนชื่อดัง“ว่าไงเธียรที่ให้วาดให้เสร็จมั้ย”“แค่นี้เอง นี่ไง”“ฝีมือดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่รับเป็นลูกศิษย์”“หนูต้องขอบคุณครูมากนะคะ ที่สอนวิชาความรู้ให้ ถ้าไม่มีครูเธียรคงแย่” เด็กสาวในชุดนักเรียน ม. ปลาย ถักเปียสองข้างหน้าตาน่ารักสดใสสมวัย“เสียดายที่เธียรน่าจะได้เรียนที่นี่ แต่ไม่เป็นไรคนมีพรสวรรค์อย่างเราเรียนที่ไหนมันก็เหมือนกัน” ครูหนุ่มใหญ่วัย 40 ต้น ๆ เป็นอีกคนที่คอยช่วยเหลือเด็กสาว ช่วยสอนศิลปะหางานให้ทำและวันนี้เพราะที่โรงเรียนที่ตัวเองสอนมีงานกิจกรรมแต่กลับไม่มีเวลา เลยไหว้วานเด็กสาวให้มาช่วยอุตส่าห์ไปขออนุญาตโรงเรียนวัดต้นสังกัดมาทำงานช่วยทั้งวัน เย็นนี้เห็นทีต้องเลี้ยงขนมเด็กสาวที่ครูเองก็รักและเอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวคนหนึ่ง“งั้นไปกินขนมกันครูพาไปเลี้ยง”“เย่ ๆ ๆ ๆ ๆ” เหล่าเด็กนักเรียนที่มาช่วยงานต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะนานที ปีครั้งคุณครูจะพาไปเลี้ยง วันนี้ถือเป็นลาภปากต้องยกความดีให้ ธีรดาที่ขยันทำงานจนเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี“แต่เดินไปนะ ครูไม่มีรถ” พอได้ยินครูพูดแบบนั้นเหล่าเด็กซน ต่างพากันบ่นกันใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่ปั
…. เธียร…..ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คล้าย ๆ โลกมันเปลี่ยนไปมองไปทางไหน สวยงามกว่าเคยทุกครั้งทางโน้นก็ดูแปลกไป หัวเราะได้จนสุดทางโลกช่างสดใสทั้งวัน“คิ้ว หู ตา จมูก ปาก”“คนอะไรหล่อไม่มีที่ติ”“พี่พาร์ท พี่พาร์ท พี่พาร์ทของน้องเธียร” ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรเหมือนกัน ถึงได้กลายเป็นคนบ้าถึงขนาดเก็บเอามาฝัน ลุกขึ้นหยิบดินสอมาวาดภาพ ผู้ชายที่แทบจะไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ นี่ไหมนะเขาเรียกรักแรกพบ“จะมองมุม ซ้ายก็หล่อ ขวาก็หล่อ จะมุมข้าง ๆ ด้านหน้า ด้านหลัง อร๊าย ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดดดดด คนหล่อ”…ธีรดาพูดยิ้มคนเดียวมองภาพชายหนุ่มในฝันที่เธอลงมือวาดขึ้นมา ไม่ว่าจะมองภาพนี้ทีไรมันก็ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ พองโต“ทำยังไงนะหนูถึงจะได้เจอพี่อีก” เฮ้อ แต่ก็คงได้แค่แอบฝัน คนที่มีพร้อมทุกอย่างแบบนั้น เขาคงจะมาสนใจเด็กข้างถนนอย่างเธอ ธีรดา แต่ใครสนกันล่ะ การรักใครสักคนมันไม่ได้จำกัดว่าต้องได้เขามาครองแค่ได้แอบมองและแอบรักมันก็สุขใจก็เหมือนเวลาเราดูซีรีส์แล้วเห็นพระเอกหล่อ ๆ ใครถูกใจก็มโนว่าเขาคือแฟนเรา ความสุขมันอยู่ที่เราต่างหาก แต่ตอนนี้เธอควรตื่นจากฝันยัยบ๊องแล้วอาบน้ำไปทำงานได้แล้ว ไม่ได้บอกใครนะฉันบอกกับตัวเอง
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู”“…….” พี่เขาเงียบเอาแต่จ้องหน้าสีหน้าเขามันบอกอย่างชัดเจนว่าเอือมระอา เบื่อหน้าฉันเอามาก ๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนสวยพี่โมจิ กับพี่ผู้ชายสุดหล่อเข้ามาช่วย พี่พาร์ท เทพบุตรสุดหล่อคงไม่พามาที่โรงพยาบาลแน่นอน“จะมองอีกนานมั้ย” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้สติมันกลับคืนมา ก็จะอะไรเขาหล่อไงเลยเอาแต่มอง“ขอโทษค่ะ ก็พี่หล่อหนูเลยอยากมองนาน ๆ ถือว่าเป็นบุญตา งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้วจะกลับไปทำงานก็คงเดินไม่ไหว แค่จะเดินไปป้ายรถเมล์ยังคิดหนักเลย เฮ้อ“รู้มั้ยเจอเธอทีไรฉันซวยทุกที แทนที่จะได้กินข้าวแต่ต้องพาใครก็ไม่รู้มาหาหมอ” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ขอโทษค่ะ ที่หนูทำให้พี่เดือดร้อน” สองมือยกขึ้นไหว้เขาแล้วเดินขากะเผลกไปที่ป้ายรถเมล์ ไม่ได้โกรธเขาหรอก ที่พี่เขาพูดแบบนั้นก็มันเป็นเรื่องจริง ใคร ๆ ก็บอกว่าฉันมันคือตัวซวย! ไม่งั้นจะทำให้พ่อแม่ตายเหรอ“เจ็บชะมัดเลย แล้วแบบนี้จะทำงานยังไงเนี่ย” กว่าจะเดินมาถึงป้ายรถเมล์ ก็ใช้เวลามากพอสมควร แล้วหมอคือบอก ห้ามเดินเยอะไม่เดินแล้วจะทำงานยังไง เฮ้อ...ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ อีกแค่ 5 เดือนจะจบ ม. ต
โรงพยาบาล“……….” ตอนนี้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงมันขยับตัวไม่ได้เพราะปวดท้องมาก เหตุจากเพราะวันนี้ทั้งวันไม่ได้กินข้าว แล้วฉันก็ไม่มีญาติที่ไหนพี่พาร์ทเลยรับเป็นเจ้าของไข้ แต่โรงพยาบาลใหญ่แบบนี้คงจะแพงน่าดูแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่าย เฮ้อ“ไว้เสร็จเรื่องทางนี้แล้วจะรีบกลับไปเคลียร์” เสียงพี่พาร์ทที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงห้องดังขึ้น“……” ริมฝีปากบางเม้มปากแน่นเมื่อสายตาคมกริบคู่นั้นมองมา พร้อมร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นพี่จัดการแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี” ไม่รู้ว่าเขาคุยกับใครแต่น้ำเสียงมันเต็มไปด้วยความห่วงใย ต่างจากสายตาที่มองฉันมันเต็มไปด้วยความรำคาญ“ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้จะมาเมื่อไหร่ก็บอก”“อึก” ในขณะที่กำลังจะดันตัวลุกขึ้น มือหนาก็กดที่ไหล่ดันร่างเล็กกดให้นอนที่เดิม ทำเอาตกใจหัวใจหล่นวูบเลยทีเดียว“งั้นเดี๋ยวพี่โทรหา แค่นี้นะ” เขาวางสาย ใบหน้าหล่อยื่นเข้ามาใกล้ ๆ“อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เสียงเข้มดุดันเอ่ยขึ้น เอื้อมมือมาจับที่เส้นผม ฉันได้แต่มองเขาอย่างไม่กะพริบตา ทำไมผู้ชายคนนี้เขาดูอบอุ่นจัง เขาค่อย ๆ แกะผมที่ติดกับราวเตียงออกอย่างใจเย็นกลิ่นน้ำหอมราคาแ
“ขอบคุณพี่พาร์ทมากนะคะ งั้นเบียร์ขอพาลูกไปนอนก่อน”“ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว พี่ไม่อยู่ดูแลตัวเองดูแลลูกดี ๆ นะรู้มั้ย ไว้พี่เคลียร์งานเสร็จจะรีบกลับมาหา”“โอเคค่ะ ปะป๊า น้องพั้นซ์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ แล้วหนูจะคิดถึงปะป๊าทุกวัน”“เป็นเด็กดีนะครับแล้วปะป๊าจะรีบกลับมา” พาร์ท หอมที่หัวเด็กน้อยวัย 5 เดือนเศษที่กำลังน่ารักน่าชัง เริ่มงอแงเพราะถึงเวลานอน“ไปนอนกันดีกว่า” เขาได้แต่มองตามหลังร่างบางแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านเพราะต้องบินไปทำงานดูแลธุรกิจที่ประเทศไทย“ป๋า แม่ครับพาร์ทไปแล้วนะ”“อย่าคิดมากไว้ทุกอย่างลงตัวป๋ากับแม่จะย้ายกลับไปอยู่ที่ไทยด้วย”“ครับป๋า” พาร์ทเดินเข้าไปกอดพ่อ“พาร์ทรักแม่นะครับ” และไม่ลืมที่จะเข้าไปกอดแม่“ดูแลตัวเอง อย่าเที่ยวให้มันมากเรื่องดื่มก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย อย่าทำตัวเหมือนป๋าลูก ยิ่งแก่ยิ่งน่าเบื่อขี้บ่น”“ครับแม่ พาร์ทรู้แล้ว แม่ก็อย่าดื้อให้มันมากป๋าจะได้ไม่ต้องบ่น พาร์ทเห็นนะ ทำอะไรกัน”“ตาพาร์ท เรานี่กะล่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนเป็นแม่ถึงกับเขินพูดอะไรไม่ออกเมื่อลูกชายทำท่าทางทะลึ่งกลอกตามองหน้าพ่อกับแม่ แล้วที่น่าหมั่นไส้คนพ่อกลับยิ้มรับอย่างภาคภูม
โรงพยาบาล“……….” ตอนนี้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงมันขยับตัวไม่ได้เพราะปวดท้องมาก เหตุจากเพราะวันนี้ทั้งวันไม่ได้กินข้าว แล้วฉันก็ไม่มีญาติที่ไหนพี่พาร์ทเลยรับเป็นเจ้าของไข้ แต่โรงพยาบาลใหญ่แบบนี้คงจะแพงน่าดูแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่าย เฮ้อ“ไว้เสร็จเรื่องทางนี้แล้วจะรีบกลับไปเคลียร์” เสียงพี่พาร์ทที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงห้องดังขึ้น“……” ริมฝีปากบางเม้มปากแน่นเมื่อสายตาคมกริบคู่นั้นมองมา พร้อมร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นพี่จัดการแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี” ไม่รู้ว่าเขาคุยกับใครแต่น้ำเสียงมันเต็มไปด้วยความห่วงใย ต่างจากสายตาที่มองฉันมันเต็มไปด้วยความรำคาญ“ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้จะมาเมื่อไหร่ก็บอก”“อึก” ในขณะที่กำลังจะดันตัวลุกขึ้น มือหนาก็กดที่ไหล่ดันร่างเล็กกดให้นอนที่เดิม ทำเอาตกใจหัวใจหล่นวูบเลยทีเดียว“งั้นเดี๋ยวพี่โทรหา แค่นี้นะ” เขาวางสาย ใบหน้าหล่อยื่นเข้ามาใกล้ ๆ“อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เสียงเข้มดุดันเอ่ยขึ้น เอื้อมมือมาจับที่เส้นผม ฉันได้แต่มองเขาอย่างไม่กะพริบตา ทำไมผู้ชายคนนี้เขาดูอบอุ่นจัง เขาค่อย ๆ แกะผมที่ติดกับราวเตียงออกอย่างใจเย็นกลิ่นน้ำหอมราคาแ
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู”“…….” พี่เขาเงียบเอาแต่จ้องหน้าสีหน้าเขามันบอกอย่างชัดเจนว่าเอือมระอา เบื่อหน้าฉันเอามาก ๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนสวยพี่โมจิ กับพี่ผู้ชายสุดหล่อเข้ามาช่วย พี่พาร์ท เทพบุตรสุดหล่อคงไม่พามาที่โรงพยาบาลแน่นอน“จะมองอีกนานมั้ย” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้สติมันกลับคืนมา ก็จะอะไรเขาหล่อไงเลยเอาแต่มอง“ขอโทษค่ะ ก็พี่หล่อหนูเลยอยากมองนาน ๆ ถือว่าเป็นบุญตา งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้วจะกลับไปทำงานก็คงเดินไม่ไหว แค่จะเดินไปป้ายรถเมล์ยังคิดหนักเลย เฮ้อ“รู้มั้ยเจอเธอทีไรฉันซวยทุกที แทนที่จะได้กินข้าวแต่ต้องพาใครก็ไม่รู้มาหาหมอ” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ขอโทษค่ะ ที่หนูทำให้พี่เดือดร้อน” สองมือยกขึ้นไหว้เขาแล้วเดินขากะเผลกไปที่ป้ายรถเมล์ ไม่ได้โกรธเขาหรอก ที่พี่เขาพูดแบบนั้นก็มันเป็นเรื่องจริง ใคร ๆ ก็บอกว่าฉันมันคือตัวซวย! ไม่งั้นจะทำให้พ่อแม่ตายเหรอ“เจ็บชะมัดเลย แล้วแบบนี้จะทำงานยังไงเนี่ย” กว่าจะเดินมาถึงป้ายรถเมล์ ก็ใช้เวลามากพอสมควร แล้วหมอคือบอก ห้ามเดินเยอะไม่เดินแล้วจะทำงานยังไง เฮ้อ...ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ อีกแค่ 5 เดือนจะจบ ม. ต
…. เธียร…..ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คล้าย ๆ โลกมันเปลี่ยนไปมองไปทางไหน สวยงามกว่าเคยทุกครั้งทางโน้นก็ดูแปลกไป หัวเราะได้จนสุดทางโลกช่างสดใสทั้งวัน“คิ้ว หู ตา จมูก ปาก”“คนอะไรหล่อไม่มีที่ติ”“พี่พาร์ท พี่พาร์ท พี่พาร์ทของน้องเธียร” ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรเหมือนกัน ถึงได้กลายเป็นคนบ้าถึงขนาดเก็บเอามาฝัน ลุกขึ้นหยิบดินสอมาวาดภาพ ผู้ชายที่แทบจะไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ นี่ไหมนะเขาเรียกรักแรกพบ“จะมองมุม ซ้ายก็หล่อ ขวาก็หล่อ จะมุมข้าง ๆ ด้านหน้า ด้านหลัง อร๊าย ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดดดดด คนหล่อ”…ธีรดาพูดยิ้มคนเดียวมองภาพชายหนุ่มในฝันที่เธอลงมือวาดขึ้นมา ไม่ว่าจะมองภาพนี้ทีไรมันก็ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ พองโต“ทำยังไงนะหนูถึงจะได้เจอพี่อีก” เฮ้อ แต่ก็คงได้แค่แอบฝัน คนที่มีพร้อมทุกอย่างแบบนั้น เขาคงจะมาสนใจเด็กข้างถนนอย่างเธอ ธีรดา แต่ใครสนกันล่ะ การรักใครสักคนมันไม่ได้จำกัดว่าต้องได้เขามาครองแค่ได้แอบมองและแอบรักมันก็สุขใจก็เหมือนเวลาเราดูซีรีส์แล้วเห็นพระเอกหล่อ ๆ ใครถูกใจก็มโนว่าเขาคือแฟนเรา ความสุขมันอยู่ที่เราต่างหาก แต่ตอนนี้เธอควรตื่นจากฝันยัยบ๊องแล้วอาบน้ำไปทำงานได้แล้ว ไม่ได้บอกใครนะฉันบอกกับตัวเอง
หลายวันผ่านไปโรงเรียนเอกชนชื่อดัง“ว่าไงเธียรที่ให้วาดให้เสร็จมั้ย”“แค่นี้เอง นี่ไง”“ฝีมือดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่รับเป็นลูกศิษย์”“หนูต้องขอบคุณครูมากนะคะ ที่สอนวิชาความรู้ให้ ถ้าไม่มีครูเธียรคงแย่” เด็กสาวในชุดนักเรียน ม. ปลาย ถักเปียสองข้างหน้าตาน่ารักสดใสสมวัย“เสียดายที่เธียรน่าจะได้เรียนที่นี่ แต่ไม่เป็นไรคนมีพรสวรรค์อย่างเราเรียนที่ไหนมันก็เหมือนกัน” ครูหนุ่มใหญ่วัย 40 ต้น ๆ เป็นอีกคนที่คอยช่วยเหลือเด็กสาว ช่วยสอนศิลปะหางานให้ทำและวันนี้เพราะที่โรงเรียนที่ตัวเองสอนมีงานกิจกรรมแต่กลับไม่มีเวลา เลยไหว้วานเด็กสาวให้มาช่วยอุตส่าห์ไปขออนุญาตโรงเรียนวัดต้นสังกัดมาทำงานช่วยทั้งวัน เย็นนี้เห็นทีต้องเลี้ยงขนมเด็กสาวที่ครูเองก็รักและเอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวคนหนึ่ง“งั้นไปกินขนมกันครูพาไปเลี้ยง”“เย่ ๆ ๆ ๆ ๆ” เหล่าเด็กนักเรียนที่มาช่วยงานต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะนานที ปีครั้งคุณครูจะพาไปเลี้ยง วันนี้ถือเป็นลาภปากต้องยกความดีให้ ธีรดาที่ขยันทำงานจนเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี“แต่เดินไปนะ ครูไม่มีรถ” พอได้ยินครูพูดแบบนั้นเหล่าเด็กซน ต่างพากันบ่นกันใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่ปั
ตอนเช้า“ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ร่างบางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเมื่อแสงแดดแยงตา ส่องกระทบเข้าที่ใบหน้าหวาน รู้สึกปวดหัวอย่างที่เธอไม่เคยปวดมากแบบนี้มาก่อน“เมื่อคืน” มันเหมือนจะจำอะไรได้แต่ก็จำอะไรไม่ได้พรึบ!!“ว่าแต่” เธียร ดีดตัวลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง“ที่นี่ที่ไหน? ห้องใคร? แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” คำถามนับร้อยพุ่งเข้ามาในหัว“เสื้อผ้า” พร้อมก้มสำรวจร่างกายตัวเอง“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอยังใส่ชุดเดิม ร่างกายไม่มีอะไรบุบสลาย ไม่เจ็บไม่ปวด“แล้วที่นี่มันที่ไหน?” เด็กสาวในชุดคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ ค่อย ๆ ก้าวขาเดินสำรวจห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู ในโทนแดงดำ มันดูแปลก ๆ แต่ก็ดูสวยมันดูลึกลับน่าค้นหาสองขาเรียวยังคงก้าวเดินสำรวจห้องไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลินพรึบ!!โครม!เพล้ง!!“เฮือก!!” เธอสะดุ้งตกใจจนมือเธอเผลอไปปัด โมเดลจำลองเรือ Costa neoromantic มูลค่าหลายสิบล้านที่ทำจากคคริสตัลแท้ ตกลงแตกละเอียด เพราะมัวแต่เดินเหม่อมองนี่นั่นไม่ดูทาง ร่างบางชนเข้ากับแผงอกแกร่งไร้เสื้อผ้าปกคลุมของเจ้าของห้องเข้าอย่างจัง“…..” คนตัวเล็กในอ้อมแขนคนตัวโตตาเบิกกว้างตกตะลึงกับใบหน้าหล่อคม ม
“ขอบคุณพี่พาร์ทมากนะคะ งั้นเบียร์ขอพาลูกไปนอนก่อน”“ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว พี่ไม่อยู่ดูแลตัวเองดูแลลูกดี ๆ นะรู้มั้ย ไว้พี่เคลียร์งานเสร็จจะรีบกลับมาหา”“โอเคค่ะ ปะป๊า น้องพั้นซ์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ แล้วหนูจะคิดถึงปะป๊าทุกวัน”“เป็นเด็กดีนะครับแล้วปะป๊าจะรีบกลับมา” พาร์ท หอมที่หัวเด็กน้อยวัย 5 เดือนเศษที่กำลังน่ารักน่าชัง เริ่มงอแงเพราะถึงเวลานอน“ไปนอนกันดีกว่า” เขาได้แต่มองตามหลังร่างบางแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านเพราะต้องบินไปทำงานดูแลธุรกิจที่ประเทศไทย“ป๋า แม่ครับพาร์ทไปแล้วนะ”“อย่าคิดมากไว้ทุกอย่างลงตัวป๋ากับแม่จะย้ายกลับไปอยู่ที่ไทยด้วย”“ครับป๋า” พาร์ทเดินเข้าไปกอดพ่อ“พาร์ทรักแม่นะครับ” และไม่ลืมที่จะเข้าไปกอดแม่“ดูแลตัวเอง อย่าเที่ยวให้มันมากเรื่องดื่มก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย อย่าทำตัวเหมือนป๋าลูก ยิ่งแก่ยิ่งน่าเบื่อขี้บ่น”“ครับแม่ พาร์ทรู้แล้ว แม่ก็อย่าดื้อให้มันมากป๋าจะได้ไม่ต้องบ่น พาร์ทเห็นนะ ทำอะไรกัน”“ตาพาร์ท เรานี่กะล่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนเป็นแม่ถึงกับเขินพูดอะไรไม่ออกเมื่อลูกชายทำท่าทางทะลึ่งกลอกตามองหน้าพ่อกับแม่ แล้วที่น่าหมั่นไส้คนพ่อกลับยิ้มรับอย่างภาคภูม