“ขอบคุณพี่พาร์ทมากนะคะ งั้นเบียร์ขอพาลูกไปนอนก่อน”
“ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว พี่ไม่อยู่ดูแลตัวเองดูแลลูกดี ๆ นะรู้มั้ย ไว้พี่เคลียร์งานเสร็จจะรีบกลับมาหา”
“โอเคค่ะ ปะป๊า น้องพั้นซ์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ แล้วหนูจะคิดถึงปะป๊าทุกวัน”
“เป็นเด็กดีนะครับแล้วปะป๊าจะรีบกลับมา” พาร์ท หอมที่หัวเด็กน้อยวัย 5 เดือนเศษที่กำลังน่ารักน่าชัง เริ่มงอแงเพราะถึงเวลานอน
“ไปนอนกันดีกว่า” เขาได้แต่มองตามหลังร่างบางแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านเพราะต้องบินไปทำงานดูแลธุรกิจที่ประเทศไทย
“ป๋า แม่ครับพาร์ทไปแล้วนะ”
“อย่าคิดมากไว้ทุกอย่างลงตัวป๋ากับแม่จะย้ายกลับไปอยู่ที่ไทยด้วย”
“ครับป๋า” พาร์ทเดินเข้าไปกอดพ่อ
“พาร์ทรักแม่นะครับ” และไม่ลืมที่จะเข้าไปกอดแม่
“ดูแลตัวเอง อย่าเที่ยวให้มันมากเรื่องดื่มก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย อย่าทำตัวเหมือนป๋าลูก ยิ่งแก่ยิ่งน่าเบื่อขี้บ่น”
“ครับแม่ พาร์ทรู้แล้ว แม่ก็อย่าดื้อให้มันมากป๋าจะได้ไม่ต้องบ่น พาร์ทเห็นนะ ทำอะไรกัน”
“ตาพาร์ท เรานี่กะล่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนเป็นแม่ถึงกับเขินพูดอะไรไม่ออกเมื่อลูกชายทำท่าทางทะลึ่งกลอกตามองหน้าพ่อกับแม่ แล้วที่น่าหมั่นไส้คนพ่อกลับยิ้มรับอย่างภาคภูมิใจไม่อายสักนิด
“พี่พาร์ท น่ะ แล้วใครจะพาเพลงไปเที่ยว กว่าป๋ากับแม่จะพาไปหาพี่เพลงเฉาตายพอดี”
“ฮึ พี่พอร์ชก็อยู่ ให้พี่เขาพาไปก็ได้” พาร์ทเดินเข้าไปกอดน้องสาวที่ทำหน้างอบูดบึ้ง
“เชอะ พี่พอร์ชสนใจเพลงที่ไหนกันถ้าไม่ไปทำงานก็เอาแต่อยู่ในห้องอัด อีกอย่างไปทีไรหนูโดนรุมทุกที ไม่อยากไปกับคนดังเบื่อ” คนขี้งอนเอาแต่ใจหันไปมองค้อนพี่ชายอีกคนที่เดินลงมาจากบนห้องพอดี
“อะไรเพลงบ่นอะไรให้พี่ อย่าเลยนะครั้งก่อนก็พาไปเที่ยวแล้วยังจะมาบ่นอีก” เพราะขี้บ่นปากดีแบบนี้ไงน้องสาวถึงไม่ชอบหน้า
“เนี่ย พี่พาร์ทดูสิ ก็แบบนี้ ไม่มีใครรักเพลงเท่าพี่พาร์ท อีกแล้ว แล้วหนูจะแอบป๋าไปหานะคะ”
ฟอด!!
“บ๊ายบาย” ตัวเล็กเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มพี่ชายก่อนจะรีบขึ้นห้องเพราะได้เวลาดูรายการโปรด
“เดินทางปลอดภัยครับพี่ชาย” พอร์ช เดินเข้าไปกอดพี่ชาย
“ดูแลฟองเบียร์ด้วย และดูแลตัวเองด้วย พี่รู้ว่าทุกอย่างมันสำคัญกับพอร์ชมากแค่ไหน”
“ครับผมจะไม่ลืมที่พี่บอก” พี่น้องยิ้มให้กัน กอดกันแสดงความรัก คนเป็นพ่อแม่ได้แต่ยิ้มที่เห็นลูก ๆ รักกัน
ประเทศไทย
หลายวันผ่านไป
“ว้าว!!! พี่พาร์ทที่นี่คนเยอะจังเลย” ญี่ปุ่นในชุดเดรสรัดรูปสีดำสุดเซ็กซี่ในมือถือแก้วไวน์พูดอย่างตื่นเต้น ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับพี่ชายแดดดี้สุดหวงคงไม่ให้เธอมาเที่ยวที่แบบนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่บ้านก็เปิดผับไนต์คลับแต่กลับสั่งห้าม
“ภูผา ภูผายิ้มหน่อยสิ ตั้งแต่มาญี่ปุ่นเห็นภูผานั่งนิ่งเลยนะ” ละแน่นอนไม่ว่าจะไปไหนมาไหนคนที่ญี่ปุ่นลากไปด้วยคือภูผา
“ไปนั่งที่อื่นได้มั้ยญี่ปุ่นน่ารำคาญ” แต่ก็พูดได้แค่นั้นเมื่อร่างบางหย่อนก้นนั่งบนตักแกร่ง
“ไม่เอา เราชอบนั่งตักนาย เราไม่ชอบที่สาว ๆ พวกนั้นมองนายเลย อาเปอร์หวงภูผาเราต้องทำหน้าที่แทน” ก็หาข้ออ้างในการแกล้งเพื่อนได้ตลอด จากที่ทุกคนห้ามจนตอนนี้เป็นเรื่องปกติคุ้นชินไปแล้วที่เห็นญี่ปุ่นคลอเคลียภูผาแบบนี้
“เราก็นะแกล้งน้องอยู่ได้ ภูผาก็เหมือนกันเพราะเรายอมยัยตัวแสบแบบนี้ไงถึงได้ใจแกล้งเราไม่เลิก เอาเป็นว่าอย่าดื่มเยอะ พี่ขอตัว” สิ้นคำพูดพาร์ทรีบเดินหลบมุมแยกตัวออกมาจากเหล่าพนักงาน เหนื่อยมาทั้งวันอยากจะรีบกลับไปนอนให้หายเมื่อยสักหน่อย
VIP
“One shot ดื่มหมดนี่พี่ให้แก้วละพัน” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมวางเรียงแบงก์พันสีม่วงนับสิบใบ ไว้ต่อหน้าหญิงสาวตัวเล็กผิวขาว หุ่นดีในชุดคอสตูมพนักงานแม่บ้านสุดเซ็กซี่
“คิดให้ดีนะน้องเงินหมื่นเลยนะ” ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยสะดุดตา บวกกับที่เธอยังเด็กไม่ว่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ก็อยากที่จะสานต่อสัมพันธ์
“เธียร” ดวงตากลมโตสั่งระริกด้วยความกลัวเพราะไม่เคยทำงานแบบนี้ ที่ยอมมาเพราะพี่สาวคนสนิทไม่สบายและที่เธอขาดงานวันนี้ก็ต้องโดนไล่ออกถ้าเธอโดนไล่ออกจะเอาเงินที่ไหนรักษาน้องชายที่กำลังป่วย ที่เธอยอมมาแทน เพราะมีแค่พี่สาวต่างสายเลือดที่คอยดูแลตั้งแต่พ่อแม่จากไปตั้งแต่เธอยังเล็ก อะไรช่วยพี่ได้ก็เลยอยากช่วย
‘เอาวะเธียรแค่ดื่มเหล้ามันจะเป็นอะไร 10 แก้วก็หมื่นหนึ่ง 20 แก้วก็สองหมื่นถึงจะไม่พอค่ายา เนวินแต่ก็ดีกว่าไม่มีเงินสักบาท’
เธียรมองแก้วเหล้าพร้อมเงินแบงก์พัน ก่อนจะตัดสินใจหยิบแก้วเหล้าเข้าปากทั้ง ๆ ที่ไม่เคยดื่ม จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม จนหมดทุกแก้ว
“จะไปไหนเธียรจะกลับบ้าน!” ร่างบางอ่อนปวกเปียกพูดไม่รู้เรื่องเมื่อฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน
“ไปกับพี่แล้วพี่จะจ่ายเพิ่ม” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะตั้งใจจะมอมเหล้าเธอตั้งแต่แรก แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจะคออ่อนขนาดนี้ดื่มไปไม่กี่แก้วก็เมา พอเขาพูดหว่านล้อมเธอก็ดื่มต่อจนหมด เลยอยู่ในสภาพที่ไม่ได้สติแบบนี้
“ไม่เอาเธียรจะกลับบ้าน อย่ามายุ่ง!” แต่ถึงจะเมายังไงเธอก็พยายามตั้งสติและจำได้แค่ว่าต้องกลับบ้าน
“ไม่เอาสิน้องไปกับพี่ พี่จะพาไปขึ้นสวรรค์” มาถึงขนาดนี้แล้วมีเหรออีกฝ่ายจะยอม
“บอกว่าไม่ไปปล่อยสิวะ!!” เธียรสะบัดมือเดินเซออกไปนอกร้านแล้วดูชุดที่เธอใส่ แล้วเมาขนาดนี้มันจะถึงบ้านไหม
ตุบ!!
“……” เธียรเงียบ เพ่งตามองเมื่อเดินไปชนกับร่างสูง เขามองเธออย่างพิจารณา สายตาคู่นั้นมันเย็นชา และรำคาญเธอมากไม่ชอบที่สุดคือผู้หญิงแบบนี้
“ไปส่งหนูหน่อยหนูเมากลับบ้านไม่ได้”
พรึบ!!
สิ้นคำพูดร่างบางสลบ ใบหน้าหวานแนบชิดติดแผงอกแกร่ง
“โทษทีน้องพอดีคนนี้เด็กพี่” ชายอีกคนที่มอมเหล้าเธอเดินออกมา อุ้มร่างบางที่เมาไม่ได้สติเดินตรงไปที่รถเขาทันที
ตอนเช้า“ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ร่างบางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเมื่อแสงแดดแยงตา ส่องกระทบเข้าที่ใบหน้าหวาน รู้สึกปวดหัวอย่างที่เธอไม่เคยปวดมากแบบนี้มาก่อน“เมื่อคืน” มันเหมือนจะจำอะไรได้แต่ก็จำอะไรไม่ได้พรึบ!!“ว่าแต่” เธียร ดีดตัวลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง“ที่นี่ที่ไหน? ห้องใคร? แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” คำถามนับร้อยพุ่งเข้ามาในหัว“เสื้อผ้า” พร้อมก้มสำรวจร่างกายตัวเอง“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอยังใส่ชุดเดิม ร่างกายไม่มีอะไรบุบสลาย ไม่เจ็บไม่ปวด“แล้วที่นี่มันที่ไหน?” เด็กสาวในชุดคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ ค่อย ๆ ก้าวขาเดินสำรวจห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู ในโทนแดงดำ มันดูแปลก ๆ แต่ก็ดูสวยมันดูลึกลับน่าค้นหาสองขาเรียวยังคงก้าวเดินสำรวจห้องไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลินพรึบ!!โครม!เพล้ง!!“เฮือก!!” เธอสะดุ้งตกใจจนมือเธอเผลอไปปัด โมเดลจำลองเรือ Costa neoromantic มูลค่าหลายสิบล้านที่ทำจากคคริสตัลแท้ ตกลงแตกละเอียด เพราะมัวแต่เดินเหม่อมองนี่นั่นไม่ดูทาง ร่างบางชนเข้ากับแผงอกแกร่งไร้เสื้อผ้าปกคลุมของเจ้าของห้องเข้าอย่างจัง“…..” คนตัวเล็กในอ้อมแขนคนตัวโตตาเบิกกว้างตกตะลึงกับใบหน้าหล่อคม ม
หลายวันผ่านไปโรงเรียนเอกชนชื่อดัง“ว่าไงเธียรที่ให้วาดให้เสร็จมั้ย”“แค่นี้เอง นี่ไง”“ฝีมือดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่รับเป็นลูกศิษย์”“หนูต้องขอบคุณครูมากนะคะ ที่สอนวิชาความรู้ให้ ถ้าไม่มีครูเธียรคงแย่” เด็กสาวในชุดนักเรียน ม. ปลาย ถักเปียสองข้างหน้าตาน่ารักสดใสสมวัย“เสียดายที่เธียรน่าจะได้เรียนที่นี่ แต่ไม่เป็นไรคนมีพรสวรรค์อย่างเราเรียนที่ไหนมันก็เหมือนกัน” ครูหนุ่มใหญ่วัย 40 ต้น ๆ เป็นอีกคนที่คอยช่วยเหลือเด็กสาว ช่วยสอนศิลปะหางานให้ทำและวันนี้เพราะที่โรงเรียนที่ตัวเองสอนมีงานกิจกรรมแต่กลับไม่มีเวลา เลยไหว้วานเด็กสาวให้มาช่วยอุตส่าห์ไปขออนุญาตโรงเรียนวัดต้นสังกัดมาทำงานช่วยทั้งวัน เย็นนี้เห็นทีต้องเลี้ยงขนมเด็กสาวที่ครูเองก็รักและเอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวคนหนึ่ง“งั้นไปกินขนมกันครูพาไปเลี้ยง”“เย่ ๆ ๆ ๆ ๆ” เหล่าเด็กนักเรียนที่มาช่วยงานต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะนานที ปีครั้งคุณครูจะพาไปเลี้ยง วันนี้ถือเป็นลาภปากต้องยกความดีให้ ธีรดาที่ขยันทำงานจนเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี“แต่เดินไปนะ ครูไม่มีรถ” พอได้ยินครูพูดแบบนั้นเหล่าเด็กซน ต่างพากันบ่นกันใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่ปั
…. เธียร…..ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คล้าย ๆ โลกมันเปลี่ยนไปมองไปทางไหน สวยงามกว่าเคยทุกครั้งทางโน้นก็ดูแปลกไป หัวเราะได้จนสุดทางโลกช่างสดใสทั้งวัน“คิ้ว หู ตา จมูก ปาก”“คนอะไรหล่อไม่มีที่ติ”“พี่พาร์ท พี่พาร์ท พี่พาร์ทของน้องเธียร” ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรเหมือนกัน ถึงได้กลายเป็นคนบ้าถึงขนาดเก็บเอามาฝัน ลุกขึ้นหยิบดินสอมาวาดภาพ ผู้ชายที่แทบจะไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ นี่ไหมนะเขาเรียกรักแรกพบ“จะมองมุม ซ้ายก็หล่อ ขวาก็หล่อ จะมุมข้าง ๆ ด้านหน้า ด้านหลัง อร๊าย ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดดดดด คนหล่อ”…ธีรดาพูดยิ้มคนเดียวมองภาพชายหนุ่มในฝันที่เธอลงมือวาดขึ้นมา ไม่ว่าจะมองภาพนี้ทีไรมันก็ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ พองโต“ทำยังไงนะหนูถึงจะได้เจอพี่อีก” เฮ้อ แต่ก็คงได้แค่แอบฝัน คนที่มีพร้อมทุกอย่างแบบนั้น เขาคงจะมาสนใจเด็กข้างถนนอย่างเธอ ธีรดา แต่ใครสนกันล่ะ การรักใครสักคนมันไม่ได้จำกัดว่าต้องได้เขามาครองแค่ได้แอบมองและแอบรักมันก็สุขใจก็เหมือนเวลาเราดูซีรีส์แล้วเห็นพระเอกหล่อ ๆ ใครถูกใจก็มโนว่าเขาคือแฟนเรา ความสุขมันอยู่ที่เราต่างหาก แต่ตอนนี้เธอควรตื่นจากฝันยัยบ๊องแล้วอาบน้ำไปทำงานได้แล้ว ไม่ได้บอกใครนะฉันบอกกับตัวเอง
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู”“…….” พี่เขาเงียบเอาแต่จ้องหน้าสีหน้าเขามันบอกอย่างชัดเจนว่าเอือมระอา เบื่อหน้าฉันเอามาก ๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนสวยพี่โมจิ กับพี่ผู้ชายสุดหล่อเข้ามาช่วย พี่พาร์ท เทพบุตรสุดหล่อคงไม่พามาที่โรงพยาบาลแน่นอน“จะมองอีกนานมั้ย” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้สติมันกลับคืนมา ก็จะอะไรเขาหล่อไงเลยเอาแต่มอง“ขอโทษค่ะ ก็พี่หล่อหนูเลยอยากมองนาน ๆ ถือว่าเป็นบุญตา งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้วจะกลับไปทำงานก็คงเดินไม่ไหว แค่จะเดินไปป้ายรถเมล์ยังคิดหนักเลย เฮ้อ“รู้มั้ยเจอเธอทีไรฉันซวยทุกที แทนที่จะได้กินข้าวแต่ต้องพาใครก็ไม่รู้มาหาหมอ” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ขอโทษค่ะ ที่หนูทำให้พี่เดือดร้อน” สองมือยกขึ้นไหว้เขาแล้วเดินขากะเผลกไปที่ป้ายรถเมล์ ไม่ได้โกรธเขาหรอก ที่พี่เขาพูดแบบนั้นก็มันเป็นเรื่องจริง ใคร ๆ ก็บอกว่าฉันมันคือตัวซวย! ไม่งั้นจะทำให้พ่อแม่ตายเหรอ“เจ็บชะมัดเลย แล้วแบบนี้จะทำงานยังไงเนี่ย” กว่าจะเดินมาถึงป้ายรถเมล์ ก็ใช้เวลามากพอสมควร แล้วหมอคือบอก ห้ามเดินเยอะไม่เดินแล้วจะทำงานยังไง เฮ้อ...ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ อีกแค่ 5 เดือนจะจบ ม. ต
โรงพยาบาล“……….” ตอนนี้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงมันขยับตัวไม่ได้เพราะปวดท้องมาก เหตุจากเพราะวันนี้ทั้งวันไม่ได้กินข้าว แล้วฉันก็ไม่มีญาติที่ไหนพี่พาร์ทเลยรับเป็นเจ้าของไข้ แต่โรงพยาบาลใหญ่แบบนี้คงจะแพงน่าดูแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่าย เฮ้อ“ไว้เสร็จเรื่องทางนี้แล้วจะรีบกลับไปเคลียร์” เสียงพี่พาร์ทที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงห้องดังขึ้น“……” ริมฝีปากบางเม้มปากแน่นเมื่อสายตาคมกริบคู่นั้นมองมา พร้อมร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นพี่จัดการแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี” ไม่รู้ว่าเขาคุยกับใครแต่น้ำเสียงมันเต็มไปด้วยความห่วงใย ต่างจากสายตาที่มองฉันมันเต็มไปด้วยความรำคาญ“ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้จะมาเมื่อไหร่ก็บอก”“อึก” ในขณะที่กำลังจะดันตัวลุกขึ้น มือหนาก็กดที่ไหล่ดันร่างเล็กกดให้นอนที่เดิม ทำเอาตกใจหัวใจหล่นวูบเลยทีเดียว“งั้นเดี๋ยวพี่โทรหา แค่นี้นะ” เขาวางสาย ใบหน้าหล่อยื่นเข้ามาใกล้ ๆ“อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เสียงเข้มดุดันเอ่ยขึ้น เอื้อมมือมาจับที่เส้นผม ฉันได้แต่มองเขาอย่างไม่กะพริบตา ทำไมผู้ชายคนนี้เขาดูอบอุ่นจัง เขาค่อย ๆ แกะผมที่ติดกับราวเตียงออกอย่างใจเย็นกลิ่นน้ำหอมราคาแ
โรงพยาบาล“……….” ตอนนี้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงมันขยับตัวไม่ได้เพราะปวดท้องมาก เหตุจากเพราะวันนี้ทั้งวันไม่ได้กินข้าว แล้วฉันก็ไม่มีญาติที่ไหนพี่พาร์ทเลยรับเป็นเจ้าของไข้ แต่โรงพยาบาลใหญ่แบบนี้คงจะแพงน่าดูแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่าย เฮ้อ“ไว้เสร็จเรื่องทางนี้แล้วจะรีบกลับไปเคลียร์” เสียงพี่พาร์ทที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงห้องดังขึ้น“……” ริมฝีปากบางเม้มปากแน่นเมื่อสายตาคมกริบคู่นั้นมองมา พร้อมร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นพี่จัดการแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี” ไม่รู้ว่าเขาคุยกับใครแต่น้ำเสียงมันเต็มไปด้วยความห่วงใย ต่างจากสายตาที่มองฉันมันเต็มไปด้วยความรำคาญ“ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้จะมาเมื่อไหร่ก็บอก”“อึก” ในขณะที่กำลังจะดันตัวลุกขึ้น มือหนาก็กดที่ไหล่ดันร่างเล็กกดให้นอนที่เดิม ทำเอาตกใจหัวใจหล่นวูบเลยทีเดียว“งั้นเดี๋ยวพี่โทรหา แค่นี้นะ” เขาวางสาย ใบหน้าหล่อยื่นเข้ามาใกล้ ๆ“อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เสียงเข้มดุดันเอ่ยขึ้น เอื้อมมือมาจับที่เส้นผม ฉันได้แต่มองเขาอย่างไม่กะพริบตา ทำไมผู้ชายคนนี้เขาดูอบอุ่นจัง เขาค่อย ๆ แกะผมที่ติดกับราวเตียงออกอย่างใจเย็นกลิ่นน้ำหอมราคาแ
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู”“…….” พี่เขาเงียบเอาแต่จ้องหน้าสีหน้าเขามันบอกอย่างชัดเจนว่าเอือมระอา เบื่อหน้าฉันเอามาก ๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนสวยพี่โมจิ กับพี่ผู้ชายสุดหล่อเข้ามาช่วย พี่พาร์ท เทพบุตรสุดหล่อคงไม่พามาที่โรงพยาบาลแน่นอน“จะมองอีกนานมั้ย” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้สติมันกลับคืนมา ก็จะอะไรเขาหล่อไงเลยเอาแต่มอง“ขอโทษค่ะ ก็พี่หล่อหนูเลยอยากมองนาน ๆ ถือว่าเป็นบุญตา งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้วจะกลับไปทำงานก็คงเดินไม่ไหว แค่จะเดินไปป้ายรถเมล์ยังคิดหนักเลย เฮ้อ“รู้มั้ยเจอเธอทีไรฉันซวยทุกที แทนที่จะได้กินข้าวแต่ต้องพาใครก็ไม่รู้มาหาหมอ” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ขอโทษค่ะ ที่หนูทำให้พี่เดือดร้อน” สองมือยกขึ้นไหว้เขาแล้วเดินขากะเผลกไปที่ป้ายรถเมล์ ไม่ได้โกรธเขาหรอก ที่พี่เขาพูดแบบนั้นก็มันเป็นเรื่องจริง ใคร ๆ ก็บอกว่าฉันมันคือตัวซวย! ไม่งั้นจะทำให้พ่อแม่ตายเหรอ“เจ็บชะมัดเลย แล้วแบบนี้จะทำงานยังไงเนี่ย” กว่าจะเดินมาถึงป้ายรถเมล์ ก็ใช้เวลามากพอสมควร แล้วหมอคือบอก ห้ามเดินเยอะไม่เดินแล้วจะทำงานยังไง เฮ้อ...ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ อีกแค่ 5 เดือนจะจบ ม. ต
…. เธียร…..ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คล้าย ๆ โลกมันเปลี่ยนไปมองไปทางไหน สวยงามกว่าเคยทุกครั้งทางโน้นก็ดูแปลกไป หัวเราะได้จนสุดทางโลกช่างสดใสทั้งวัน“คิ้ว หู ตา จมูก ปาก”“คนอะไรหล่อไม่มีที่ติ”“พี่พาร์ท พี่พาร์ท พี่พาร์ทของน้องเธียร” ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรเหมือนกัน ถึงได้กลายเป็นคนบ้าถึงขนาดเก็บเอามาฝัน ลุกขึ้นหยิบดินสอมาวาดภาพ ผู้ชายที่แทบจะไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ นี่ไหมนะเขาเรียกรักแรกพบ“จะมองมุม ซ้ายก็หล่อ ขวาก็หล่อ จะมุมข้าง ๆ ด้านหน้า ด้านหลัง อร๊าย ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดดดดด คนหล่อ”…ธีรดาพูดยิ้มคนเดียวมองภาพชายหนุ่มในฝันที่เธอลงมือวาดขึ้นมา ไม่ว่าจะมองภาพนี้ทีไรมันก็ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ พองโต“ทำยังไงนะหนูถึงจะได้เจอพี่อีก” เฮ้อ แต่ก็คงได้แค่แอบฝัน คนที่มีพร้อมทุกอย่างแบบนั้น เขาคงจะมาสนใจเด็กข้างถนนอย่างเธอ ธีรดา แต่ใครสนกันล่ะ การรักใครสักคนมันไม่ได้จำกัดว่าต้องได้เขามาครองแค่ได้แอบมองและแอบรักมันก็สุขใจก็เหมือนเวลาเราดูซีรีส์แล้วเห็นพระเอกหล่อ ๆ ใครถูกใจก็มโนว่าเขาคือแฟนเรา ความสุขมันอยู่ที่เราต่างหาก แต่ตอนนี้เธอควรตื่นจากฝันยัยบ๊องแล้วอาบน้ำไปทำงานได้แล้ว ไม่ได้บอกใครนะฉันบอกกับตัวเอง
หลายวันผ่านไปโรงเรียนเอกชนชื่อดัง“ว่าไงเธียรที่ให้วาดให้เสร็จมั้ย”“แค่นี้เอง นี่ไง”“ฝีมือดีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่รับเป็นลูกศิษย์”“หนูต้องขอบคุณครูมากนะคะ ที่สอนวิชาความรู้ให้ ถ้าไม่มีครูเธียรคงแย่” เด็กสาวในชุดนักเรียน ม. ปลาย ถักเปียสองข้างหน้าตาน่ารักสดใสสมวัย“เสียดายที่เธียรน่าจะได้เรียนที่นี่ แต่ไม่เป็นไรคนมีพรสวรรค์อย่างเราเรียนที่ไหนมันก็เหมือนกัน” ครูหนุ่มใหญ่วัย 40 ต้น ๆ เป็นอีกคนที่คอยช่วยเหลือเด็กสาว ช่วยสอนศิลปะหางานให้ทำและวันนี้เพราะที่โรงเรียนที่ตัวเองสอนมีงานกิจกรรมแต่กลับไม่มีเวลา เลยไหว้วานเด็กสาวให้มาช่วยอุตส่าห์ไปขออนุญาตโรงเรียนวัดต้นสังกัดมาทำงานช่วยทั้งวัน เย็นนี้เห็นทีต้องเลี้ยงขนมเด็กสาวที่ครูเองก็รักและเอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวคนหนึ่ง“งั้นไปกินขนมกันครูพาไปเลี้ยง”“เย่ ๆ ๆ ๆ ๆ” เหล่าเด็กนักเรียนที่มาช่วยงานต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะนานที ปีครั้งคุณครูจะพาไปเลี้ยง วันนี้ถือเป็นลาภปากต้องยกความดีให้ ธีรดาที่ขยันทำงานจนเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี“แต่เดินไปนะ ครูไม่มีรถ” พอได้ยินครูพูดแบบนั้นเหล่าเด็กซน ต่างพากันบ่นกันใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่ปั
ตอนเช้า“ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ร่างบางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเมื่อแสงแดดแยงตา ส่องกระทบเข้าที่ใบหน้าหวาน รู้สึกปวดหัวอย่างที่เธอไม่เคยปวดมากแบบนี้มาก่อน“เมื่อคืน” มันเหมือนจะจำอะไรได้แต่ก็จำอะไรไม่ได้พรึบ!!“ว่าแต่” เธียร ดีดตัวลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง“ที่นี่ที่ไหน? ห้องใคร? แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” คำถามนับร้อยพุ่งเข้ามาในหัว“เสื้อผ้า” พร้อมก้มสำรวจร่างกายตัวเอง“เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอยังใส่ชุดเดิม ร่างกายไม่มีอะไรบุบสลาย ไม่เจ็บไม่ปวด“แล้วที่นี่มันที่ไหน?” เด็กสาวในชุดคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ ค่อย ๆ ก้าวขาเดินสำรวจห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู ในโทนแดงดำ มันดูแปลก ๆ แต่ก็ดูสวยมันดูลึกลับน่าค้นหาสองขาเรียวยังคงก้าวเดินสำรวจห้องไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลินพรึบ!!โครม!เพล้ง!!“เฮือก!!” เธอสะดุ้งตกใจจนมือเธอเผลอไปปัด โมเดลจำลองเรือ Costa neoromantic มูลค่าหลายสิบล้านที่ทำจากคคริสตัลแท้ ตกลงแตกละเอียด เพราะมัวแต่เดินเหม่อมองนี่นั่นไม่ดูทาง ร่างบางชนเข้ากับแผงอกแกร่งไร้เสื้อผ้าปกคลุมของเจ้าของห้องเข้าอย่างจัง“…..” คนตัวเล็กในอ้อมแขนคนตัวโตตาเบิกกว้างตกตะลึงกับใบหน้าหล่อคม ม
“ขอบคุณพี่พาร์ทมากนะคะ งั้นเบียร์ขอพาลูกไปนอนก่อน”“ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว พี่ไม่อยู่ดูแลตัวเองดูแลลูกดี ๆ นะรู้มั้ย ไว้พี่เคลียร์งานเสร็จจะรีบกลับมาหา”“โอเคค่ะ ปะป๊า น้องพั้นซ์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ แล้วหนูจะคิดถึงปะป๊าทุกวัน”“เป็นเด็กดีนะครับแล้วปะป๊าจะรีบกลับมา” พาร์ท หอมที่หัวเด็กน้อยวัย 5 เดือนเศษที่กำลังน่ารักน่าชัง เริ่มงอแงเพราะถึงเวลานอน“ไปนอนกันดีกว่า” เขาได้แต่มองตามหลังร่างบางแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านเพราะต้องบินไปทำงานดูแลธุรกิจที่ประเทศไทย“ป๋า แม่ครับพาร์ทไปแล้วนะ”“อย่าคิดมากไว้ทุกอย่างลงตัวป๋ากับแม่จะย้ายกลับไปอยู่ที่ไทยด้วย”“ครับป๋า” พาร์ทเดินเข้าไปกอดพ่อ“พาร์ทรักแม่นะครับ” และไม่ลืมที่จะเข้าไปกอดแม่“ดูแลตัวเอง อย่าเที่ยวให้มันมากเรื่องดื่มก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย อย่าทำตัวเหมือนป๋าลูก ยิ่งแก่ยิ่งน่าเบื่อขี้บ่น”“ครับแม่ พาร์ทรู้แล้ว แม่ก็อย่าดื้อให้มันมากป๋าจะได้ไม่ต้องบ่น พาร์ทเห็นนะ ทำอะไรกัน”“ตาพาร์ท เรานี่กะล่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” คนเป็นแม่ถึงกับเขินพูดอะไรไม่ออกเมื่อลูกชายทำท่าทางทะลึ่งกลอกตามองหน้าพ่อกับแม่ แล้วที่น่าหมั่นไส้คนพ่อกลับยิ้มรับอย่างภาคภูม