มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยนักศึกษามากหน้าหลายตาที่เดินสวนกันไปมาบ้างก็นั่งคุยบ้างก็นั่งเล่นกันหนึ่งในนั้นก็คือ ใบเฟิร์น หรือ พิศลดา อัครมณี สาวน้อยแสนสวยจากจังหวัดสุพรรณบุรีที่เข้ามาเป็นเฟรชชี่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย ด้วยหน้าตาที่สวยผิวพรรณที่ขาวนวลเนียนรูปร่างอรชรทำให้พวกผู้หญิงทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันต่างอิจฉาสาวน้อยบ้านนาคนนี้ พิศลดาศึกษาอยู่ที่คณะบริหารธุรกิจและวันนี้เธอและเพื่อนๆ ก็จะต้องเข้าฟังการบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านธุรกิจกับนักธุรกิจชื่อดังของประเทศ“เฟิร์นแกรู้ไหมว่าวันนี้เราจะได้เจอคุณมาร์ตินด้วยฉันเนี่ยอยากจะเจอตัวเป็นๆ มานานมากละวันนี้ฝันฉันเป็นจริงแล้ว” ลิลลี่สาวหมวยเพื่อนของพิศลดาพูดขึ้นขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่ภายในร้านกาแฟของมหาวิทยาลัย“เขาคือใครอ่ะฉันไม่รู้จัก” คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเธอไม่รู้จักจริงๆ เลยไม่รู้ว่าจะดีใจกับเพื่อนยังไง“นี่เธอไปอยู่ที่ไหนมายะถึงไม่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่ออย่างคุณมาร์ตินแต่ไม่เป็นไรฉันจะบอกให้เขาเนี่ยเป็นนักธุรกิจเจ้าของบริษัทบัตเตอร์เบียร์และก็เจ้าของคลับดังๆ แล้วก็ธุรกิจอื่นๆ อีกหลายอย่างรวยมากเลยแหละและที่สำค
“เฟิร์นฉันว่าฉันไปขอถ่ายรูปกับคุณมาร์ตินดีกว่า ไหนๆ ก็ได้เจอตัวแล้ว” ลิลลี่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหามาร์ตินทันที ลิลลี่เข้าไปคุยกับมาร์ตินก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ“อ้าวทำไมไม่ถ่ายละเขาไม่ถ่ายด้วยเหรอ” พิศลดาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินกลับมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย“เปล่าแต่คุณมาร์ตินบอกว่าให้แกช่วยถ่ายให้จะดีกว่าเพราะเขาไม่อยากจะเซลฟี่นะแกไปถ่ายให้หน่อยนะนะ” ลิลลี่ดึงแขนเพื่อนให้ลุกไปถ่ายรูปให้“เรื่องมากจริงเชียว” พิศลดาบ่นใบหน้าสวยงอง้ำแต่ก็ยอมเดินมาถ่ายให้เพื่อนแต่โดยดี“ถ่ายได้เลยครับ” มาร์ตินนั่งอมยิ้มน้อยๆ ที่เขายิ้มไม่ใช่ยิ้มให้กล้องแต่ยิ้มให้ช่างภาพจำเป็นต่างหาก“เสร็จแล้วฉันกลับไปนั่งรอที่โต๊ะนะ” พิศลดาส่งโทรศัพท์คืนให้เพื่อนแล้วหมุนตัวจะเดินกลับไปนั่งแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน“เดี๋ยวก่อนสิเธอไม่ถ่ายรูปกับฉันเหรอ” มาร์ตินถามยิ้มๆ เห็นแก้มป่องแล้วอยากจะจับมาหอมแก้มนัก“ไม่ค่ะคุณไม่ใช่ดาราสักหน่อย” พิศลดาปฏิเสธทันควันทำไมเธอต้องอยากถ่ายรูปกับเขาด้วย“ถ้าเป็นดาราเธอถึงจะถ่ายรูปด้วยใช่ไหม” มาร์ตินถามเสียงห้วนไอดาราเจ้าบทบาทพวกนั้นจะมาสู้คนอย่างเขาได้ยังไง“เปล่าแค่เปรียบเทียบเฉยๆ แล้วท
“ไปกันเถอะลิลลี่” พิศลดาลุกขึ้นยืนเดินนำลิลลี่ออกไปจากร้านโดยมีสายตาของมาร์ตินคอยจับจ้องอยู่แล้วรีบลุกตามออกไปโดยไม่สนใจอรนุชอีกเลย“ยัยอาจารย์นั่นจากที่เชิดๆ หยิ่งๆ ตอนนี้หมดสภาพเลยเนอะ” ลิลลี่พูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กำลังเดินไปยังหอประชุม“นี่ล่ะผู้ชายพอเบื่อแล้วก็เขี่ยทิ้งแต่บางทีอาจารย์อรนุชก็ทำตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าเป็นได้แค่ของเล่นก็ยังจะไปเล่นกับเขาอีก”“เรื่องนั้นช่างมันเถอะตอนนั่งอยู่ในร้านฉันเห็นคุณมาร์ตินมองแกบ่อยมากนะแล้วที่สำคัญตอนที่เขาให้ฉันเรียกแกไปถ่ายรูปให้เขาก็เอาแต่จ้องแกไม่วางตาเลยฉันว่าเขาต้องชอบแกแน่ๆ เลยความสวยของแกคงเข้าตาคุณมาร์ตินเข้าแล้วละ”“จะบ้าเหรอ อย่างฉันเนี่ยนะ ไม่มีทางหรอกย่ะ แล้วอีกอย่างแกบอกว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยขนาดนี้ ก็คงมองฉันเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงด้วยนั่นแหละแต่เผอิญฉันไม่ได้เหมือนสาวๆ ของเขาฉันไม่ชอบคนเจ้าชู้แกก็รู้ถ้าฉันจะรักใครสักคนคนๆ นั้นต้องรักฉันจริงๆ และที่สำคัญนั่นรุ่นพ่อเลยนะ”“เว่อร์ แก 18 เขา 30 แค่ห่างกัน 12 ปี เองฮ่าๆ” ลิลลี่พูดอย่างขำๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรก็จริงอย่างที่เพื่อนเธอพูดถ้าเราจะรักใครสักคน คนนั้นจะต้องรักเราจริงๆ“ว
“ลีโอ ลีโอ ไอลีโอ” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ มาร์ตินก็แผดเสียงเอ็ดตะโรดังลั่นไปทั่วทั้งบ้าน ใบหน้าคมสันบึ้งตึง คิ้วเข้มขมวดมุ่น ยืนเท้าเอวจังก้าอยู่หน้าบ้าน“ครับคุณมาร์ติน” ลีโอรีบวิ่งหน้าตั้งมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้านายรูปหล่อ ที่ยืนทำหน้าเป็นยักษ์อยู่ ไม่รู้ว่าใครทำอะไรให้ไม่พอใจ เขาเลยซวยแต่เช้าเลย“ทำไมแกช้าอืดอาดเป็นเต่าแบบนี้วะ แล้วเรื่องที่ฉันให้ไปสืบได้เรื่องรึยัง” เขาใช้ให้ลีโอไปสืบประวัติของใบเฟิร์นมาเพราะเขาอยากจะรู้จักกับเธอปกติเขาไม่เคยที่จะต้องทำอะไรแบบนี้เลยมีแต่คนเสนอตัวอยากจะทำความรู้จักกับเขา“ได้เรื่องแล้วครับ ผมส่งเข้าอีเมลให้เรียบร้อยแล้ว” ที่เรียกเขาเสียงดังลั่นไปทั้งคฤหาสน์แต่เช้าก็เพราะเรื่องสาวน้อยคนนี้นี่เองตั้งแต่กลับมาจากการบรรยายพิเศษ เจ้านายของเขาก็เปลี่ยนไป ใจลอยบ่อย หรือว่านี่จะเป็นลางบอกอะไรบางอย่าง“เออ แกจะไปไหนก็ไป” มาร์ตินโบกมือไล่ลีโอส่วนตัวเขาก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะรีบไปเปิดดูเมลล์ชายหนุ่มเข้ามาในห้องทำงาน แล้วรีบเปิดโน้ตบุ๊กเช็กเมลล์ทันที และเมื่อเปิดได้ก็เริ่มไล่สายตาอ่านข้อมูลของสาวน้อยอย่างตั้งใจ บ้านเกิดอยู่ที่สุพรรณบุรี ครอบครัวเปิดร้านขา
“คุณ!!” พิศลดาหันกลับมามองคนที่เข้ามาประชิดตัวเธอแบบไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยใบหน้าที่งอง้ำอย่างไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเป็นใคร“มาร์ตินเรียกว่ามาร์ตินหรือจะเรียกว่าพี่ก็ได้เพราะฉันแก่กว่าเธอหลายปี” มาร์ตินไม่สนใจท่าทีของอีกฝ่าย พิศลดาอ้าปากค้างกับคำพูดของเขาอยู่ๆ จะสั่งให้เธอเรียกเขาแบบนั้นแบบนี้ทำไมไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมอะไรกันสักหน่อยบ้ารึป่าว“คุณบ้ารึป่าวเนี่ยอยู่ๆ ก็มาบอกให้ฉันเรียกคุณอย่างนั้นอย่างนี้” พิศลดาเอียงคอมองมาร์ตินอย่างงงๆ“ถ้าไม่เรียกจูบ” ใบหน้าหล่อของมาร์ตินยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าสวย พิศลดารีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองแน่นกลัวเขาจะบ้าระห่ำทำขึ้นมาจริงๆ“คนบ้า!” คนตัวเล็กแหวลั่น “ขยับหน้าออกไปห่างๆ จะได้ไหม” พิศลดาก้าวถอยหลังออกห่างเมื่อคนตัวโตตรงหน้ายังไม่ยอมถอยห่างเธอ“พี่มาร์ตินสาวน้อยเรียกให้ถูกด้วยพี่แก่กว่าเธอหลายปีนะใบเฟิร์น” มาร์ตินย้ำกับร่างบางตรงหน้าอีกครั้ง“ก็ได้ๆ แล้วคุณเอ่อพี่มาร์ตินมีอะไรกับหนูรึเปล่านักธุรกิจอย่างพี่ไม่น่าจะมีธุระอะไรกับหนูนะ”เถียงไปก็เปล่าประโยชน์เธอเลยเรียกๆเขาไปเธอกับเขาคงไม่ได้บังเอิญเจอกันแบบนี้บ่อยๆ หรอก แต่ก็แปลกที่คนอย่างเขาจะจำชื่อเธอได้ ส
พิศลดานอนอ่านหนังสือนิยายที่ชื่นชอบอยู่บนเตียงนอนภายในคอนโดหรู ที่ทางบ้านลงทุนซื้อให้เธอได้พักอาศัย โดยเน้นความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเดินทางไปเรียนเป็นหลัก ตอนแรกเธอก็ไม่ยอม เพราะเห็นว่ามันไม่จำเป็น เช่าเขาอยู่ก็ได้ และเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กนักศึกษาเท่านั้น แต่พ่อแม่และพี่ชายไม่ยอม เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมาอยู่ไกลบ้านเลยอยากให้อยู่ในสถานที่ที่พวกท่านเห็นชอบ ดังนั้นสามเสียงจึงชนะเสียงเดียวอย่างเธอขาดลอยเสียงการแจ้งเตือนไลน์ดังติดต่อกันถี่ๆ ทำให้พิศลดาละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ แล้วเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ตรงโต๊ะข้างเตียงมาเปิดดูข้อความแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อรู้ว่าใครที่บ้าระห่ำส่งข้อความมาให้เธอมากมายก็ขมวดคิ้วมุ่น เปิดไล่ดูแต่ละข้อความที่ถูกส่งมาจากมาร์ติน ซึ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนตัวของเธอกับเขาไปอย่างแน่นอน แล้วแต่ละข้อความก็ชวนขนลุก และน่าตบทั้งนั้น ไม่รู้เป็นบ้าอะไรถึงพิมพ์แบบนี้“หนูน้อยทำอะไรอยู่เอ่ย”“คิดถึงจังหนูจัง”“คิดถึงพี่ไหม”“ทานข้าวรึยังครับ”“วันนี้มีเรียนรึป่าว”“พี่อยากเจอหนูจัง”“ตอบพี่หน่อยนะคนสวย”“อยากจูบจัง”“อยากกอดด้วย”“ออกมาเ
“ลีโอแกเช็กแน่แล้วใช่ไหมว่าหนูน้อยของฉันไม่มีเรียน และตอนนี้ก็อยู่ที่คอนโดน่ะ” ตอนนี้มาร์ตินกำลังเดินทางไปหาพิศลดาที่คอนโดของเธอบอกแล้วว่าเขาไม่ได้ขู่อยากจะรู้จริงๆ ว่าเมื่อเห็นหน้าของเขาน้องหนูจะทำหน้ายังไง“ผมโทรเช็กที่คอนโดของคุณใบเฟิร์นแล้วครับว่าเธออยู่ที่ห้อง ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย” ลีโอลูกน้องคนสนิทของมาร์ตินมองกระจกหลังลอบมองหน้าเจ้านายที่ทำหน้าบึ้งตึงตั้งแต่ออกจากบริษัท และที่เขารู้ว่าพิศลดาอยู่ที่คอนโดก็เพราะว่าเขาได้โทรไปสอบถามข้อมูลจากประชาสัมพันธ์ที่เขาได้จ้างให้เป็นหูเป็นตาและคอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับพิศลดาให้เรียบร้อยแล้ว“อือ”“เอ่อแล้วคุณมาร์ตินได้สมัครเฟซบุ๊กกับอินสตราแกรมยังครับ” เขาอุตส่าห์หามาให้หวังว่าเจ้านายจะไม่ทำให้เขาผิดหวังนะ“สมัครแล้วแกนี่ถามมากจังวะ” เขาสมัครตั้งแต่วันที่ได้อ่านข้อมูลของเธอนั่นแหละแล้วตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้วด้วยแต่เขาไม่ได้ใช้รูปของตัวเองหรอกแต่ใช้เป็นรูปแมวน่ารักๆ แทนกลัวว่าถ้าเป็นรูปตัวเองน้องหนูจะไม่รับ และก็ส่องดูความเคลื่อนไหวเแทบจะทุกชั่วโมง ตามกดถูกใจทุกโพสต์ แต่ก็ต้องโมโหเมื่อมีผู้ชายมากดถูกใจและคอมเมนต์“ก็ผมอยากรู้นี่นาว่าแ
“พี่อยากรู้ว่าในความคิดของหนูพี่เป็นยังไง” เขาอยากจะรู้ว่าในสายตาของหนูน้อยคนสวยของเขามองว่าเขาเป็นคนยังไงเขาจะได้แก้ให้เธอพอใจ“เจ้าชู้ เอาแต่ใจ น่าจะแค่นี้แหละค่ะเพราะหนูก็ไม่ได้รู้จักอะไรพี่มาร์ตินมากมายก็เลยไม่รู้นิสัยที่แท้จริง”“งั้นเราก็มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม” มาร์ตินจับมือนุ่มไล้หัวแม่มือที่หลังมือขาวเบาๆ พิศลดาจะชักมือออกแต่เขาไม่ยอม“แล้วพี่ก็ไม่ได้เจ้าชู้นะส่วนเอาแต่ใจพี่จะเป็นเฉพาะบางคน”“ปล่อยมือเลยค่ะ” พิศลดาตีหลังมือแกร่งแต่เขาก็ด้านเกินเลยไม่รู้สึกรู้สา“แล้วทำไมเราจะต้องทำความรู้จักกันเพิ่มมากขึ้นด้วยแล้วเรื่องที่ไม่เจ้าชู้นี่แน่ใจเหรอค่ะ”“ถ้าเรารู้จักกันมากขึ้นหนูก็จะได้รู้ยังไงล่ะว่าพี่ไม่ได้เจ้าชู้จริงๆ ถ้าจะรักใครก็จะรักแค่คนเดียวตลอดไป ส่วนที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่ความต้องการของผู้ชาย แล้วอีกอย่างพี่ก็ให้ในสิ่งที่พวกเธอเรียกร้อง นั่นก็คือเงิน ไม่ใช่ความรัก” มาร์ตินพูดจริงจังไม่ได้โกหกแม้แต่คำเดียว“แล้วมาบอกหนูทำไม” พิศลดาหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดของเขาที่เหมือนจะตั้งใจให้เธอรับรู้“ก็อยากให้รู้นี่นาจะได้เลิกคิดว่าพี่เจ้าชู้สักที” มาร์ตินเอาศ
“หนูเป็นอะไรน้องเฟิร์นไปบอกว่าพี่เขาเหม็นได้ยังไง ตัวสะอาดสะอ้านหอมฟุ้งซะขนาดนี้” แม่นวลพรรณจับแขนลูกเขยอย่างเห็นใจ ไม่รู้ว่าลูกสาวนางแกล้งหรือเหม็นจริงๆ กันแน่ พ่อลูกบ้านนี้ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ นี่ก็ไม่รู้ว่าแอบไปวางแผนแกล้งมาร์ตินกันรึเปล่า“เอาล่ะๆ ไอ้ฝรั่งแกนั่งข้างแม่นวลไปโน่น ส่วนยัยเฟิร์นก็นั่งข้างพ่อนี่มา แยกๆ กันนั่งจะได้กินข้าวกันสักที” พ่อสุชาติดึงแขนลูกสาวให้ลงมานั่งข้างตัว“กินข้าวกันลูกมาร์ติน”“ครับคุณแม่” มาร์ตินนั่งลง สายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าสวยของเมียที่แทบจะไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ ตักนั่นตักนี่เอาใจพ่อกับแม่อย่างเดียว“กินเยอะๆ นะจ๊ะพ่อแม่ ทานสิคะพี่มาร์ติน ทำไมยังไม่กินอีก หนูไม่ตักให้หรอกนะ” มือบางคอยตักอาหารให้พ่อกับแม่ แล้วก็ดุตาเฒ่าที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวในจานมองหน้าเธอ“ครับ”หลังกินข้าวเสร็จคนโดนเมินจะเดินเข้าไปหาเมียทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เมียก็เดินหนีไม่ยอมให้เข้าใกล้ ทำอะไรไม่ได้เลยเดินมาที่คอกควายเพื่อระบายความทุกข์“พวกแกรู้ไหมว่าวันนี้ฉันยังไม่ได้หอม ยังไม่ได้จูบเมียเลย จะลงแดงตายอยู่แล้วเนี่ย ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจวะ เมื่อวานยังปกติดีอยู่เลย พอเช้
“โอ๊ย! มึนหัวจังวะ”“ฮื่อ”“เมียจ๋า”“เมี๊ยว เมี๊ยว”พ่อสุชาติลืมตาขึ้นมาก่อนคนแรก ลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเล เมื่อคืนดื่มหนักมากเลยทำให้ปวดหัวตุบๆ อยู่แบบนี้ กวาดสายตามองเพื่อนร่วมห้องนอนที่สะลึมสะลือ ก่อนจะค่อยๆ เอาหมอนไล่ตีลูกชายกับลูกเขยให้ตื่น “ไอ้ฝรั่ง ไอ้ต้นไม้ จะนอนกินบ้านกินเมืองกันอีกนานไหมวะ ตื่นๆ”“เมียจ๋าขอนอนต่ออีกหน่อยนะยังไม่อยากตื่นเลย อืม”“ฉันไม่ใช่เมียแกโว้ย! ไอ้บ้า”“เรียกยากเรียกเย็น ฉันไม่เรียกพวกแกแล้ว ไปกับตาดีกว่าครีมโอ ปล่อยให้ไอ้พวกขี้เซามันนอนกันต่อไปให้พอ”“อ่าว ตื่นแล้วเหรอพ่อ ต้นไม้กับมาร์ตินยังไม่ตื่นใช่ไหมเนี่ย”“ยัง นี่ยัยเฟิร์นก็ยังไม่ตื่นใช่ไหม งั้นแม่นวลก็เอาครีมโอไปก่อน ฉันจะไปอาบน้ำสักหน่อยเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว” แม่นวลพรรณพยักหน้า รับเอาครีมโอมาอุ้มแล้วพาเดินลงไปข้างล่าง“เราไปเดินเล่นกันดีกว่าเนอะลูกเนอะ”พิศลดานอนหลับตาพริ้มอยู่ดีๆ ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อถูกรบกวนการนอน มือบางปัดป่ายสิ่งที่ซุกอยู่แถวๆซอกคอ แต่สิ่งน่ารำคาญก็ยังไม่ยอมออกไป “อื้อ” มาร์ตินไม่สนใจอาการขัดขืนยังคงซุกหน้าเอาไว้แน่น จนพิศลดาทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ “ป๋าออกไ
“พ่อกับแม่ไปหาฤกษ์จดทะเบียนมาทำไมไม่ยอมบอกหนูเลยละคะ ปล่อยให้หนูรู้เป็นคนสุดท้ายได้ไง” พิศลดาทำหน้างอน“ก็ไอ้ฝรั่งมันไม่ยอมให้บอก” พ่อสุชาติพูดแล้วก้มลงมองครีมโอที่นอนหลับคาตักอย่างเอ็นดู ตอนนี้กลายป็นขวัญใจของคนทั้งบ้านไปแล้ว“เซอร์ไพรส์ไงตัวเล็ก”“บอกไม่บอกยังไงตอนนี้เราก็จดทะเบียนกับพี่เขาไปแล้ว มาทำหน้าตูมตอนนี้มันไม่ทันแล้วลูก” แม่นวลพรรณยิ้ม ตักปลาหมึกตัวโตใส่จานลูกสาวให้อย่างเอาใจ “กินเข้าไปเยอะๆ เลยเราน่ะ เดี๋ยวพ่อก็แย่งกินหมดหรอก”“อ่าวแม่ พ่อไม่ได้ตระกละถึงขนาดจะกินคนเดียวหมดนี่นะ ถ้าเป็นไอฝรั่งละก็ไม่แน่” พ่อสุชาติโวยวายโบ้ยไปให้ลูกเขยที่นั่งดื่มแต่เบียร์“ผมดื่มแต่เบียร์ยังไม่ค่อยได้กินอย่างอื่นเลยคุณพ่อมาโบ้ยผมได้ไงครับเนี่ย”“หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ แล้วก็หยุดดื่มทั้งคู่เลย ทานอาหารกันบ้าง” พิศลดาแย่งแก้วเบียร์ในมือพ่อและสามีมาไว้ข้างตัวเอง “ทานอย่างอื่นบ้าง ถ้าเมาคืนนี้ได้นอนนอกห้องแน่” มือบางตักกุ้งตักปลาหมึกย่างบริการให้สองหนุ่มที่นั่งประกบเธออยู่“ป้อนด้วยสิ” มาร์ตินกระซิบบอกเมียอย่างอ้อนๆ พิศลดาย่นจมูกแล้วจิ้มปลาหมึกย่างหอมๆ มาจ่อที่ปากคนช่างอ้อนให้ตามคำขอ“ทานเยอะๆน
“ยังไม่จัดกระเป๋าอีกทำโทษก่อนไปดีไหมเนี่ย หืม” มาร์ตินเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าเมียคนสวยกำลังสาละวนอยู่กับการเลือกเสื้อผ้า เลยเดินเข้าไปช่วยหยิบในส่วนของตัวเองมาวางเอาไว้ที่เตียงรอให้เมียมาพับเก็บให้ ถ้าพับเองมันคงไม่เรียบร้อยแน่ๆ“ไม่ดีค่ะ” พิศลดาส่ายหน้าหวือ“ตอบแบบไม่คิดเลยนะทูนหัว ผัวเสียใจนะเนี่ย” มาร์ตินเดินมาหย่อนสะโพกลงนั่งบนเตียง มองดูเมียเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างพิถีพิถัน“หนูคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วค่ะ จัดเสร็จเราไปกันเลยนะคะไม่ต้องรอบ่ายหรอกเสียเวลา หนูอยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว” ตอนนี้ใจเธอล่องลอยกลับบ้านไปแล้ว และตัวก็อยากจะตามไปเร็วๆ ด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาคราวนั้นก็ยังไม่ได้กลับไปอีกเลย“ก็ได้จ้ะ ว่าแต่หนูจะเอาครีมโอไปด้วยไหมคะ ถ้าเอาไปป๋าจะได้ไปเตรียมของให้เจ้าตัวยุ่ง” มาร์ตินมองลูกชายที่นอนหลับอุตุอยู่ข้างเตียงอย่างเอ็นดู“เอาไปค่ะ”“โอเคครับ” มาร์ตินพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจัดการในส่วนของครีมโอ จัดของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่สุพรรณบุรีทันที“สองคนนั้นเมื่อไหร่จะถึงนะ” แม่นวลพรรณคอยชะเง้อคอมองลูกสาวกับลูกเขยที่บอกว่าจะมาหาที่ร้านทองก่อนเข้าบ้าน“เดี๋ยวก็มาน่าแ
แปดโมงเช้า มาร์ตินก็เดินโอบเอวบางของเมียรักลงมาจากห้องนอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในอ้อมกอดของพิศลดามีครีมโอนอนซุกอยู่กับอกนุ่ม ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีเจ้าหน้าที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟา สร้างความแปลกใจให้กับพิศลดาเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่ทราบมาก่อนว่าวันนี้มีอะไรเป็นพิเศษ ถามแล้วตาเฒ่าก็ไม่ยอมบอกเอาแต่ยิ้มอย่างเดียว จนกระทั่งมาร์ตินบอกว่าวันนี้เป็นฤกษ์ดีที่พ่อและแม่ของเธอได้ไปดูมาให้ สมควรแก่การจดทะเบียนสมรสเป็นที่สุด มาร์ตินจรดปากกาลงไปอย่างไม่ลังเลเช่นเดียวกับเธอ ตอนนี้กลายเป็นนางพิศลดา บัตเตอร์ มีสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย และในอีกสามเดือนข้างหน้าก็จะเข้าพิธีทางศาสนา ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้วโดยที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน“ทำไมหนูไม่เคยรู้เรื่องแต่งงานมาก่อนเลยคะ” พิศลดาถามขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องนั่งเล่น หลังจากที่เจ้าหน้าที่คนสำคัญได้กลับไปแล้ว“ก็ป๋าอยากจะเซอร์ไพรส์หนูเลยไม่อยากบอกก่อน ไม่มีการขอแต่งงานที่เลิศเลออะไรเหมือนใครเขา หนูคงไม่ว่าอะไรป๋าใช่ไหม” มาร์ตินรวบมือนุ่มทั้งสองข้างมาไว้ตรงหัวใจที่เต้นตุบๆ พิศลดาอมยิ้มขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ ยื่นหน้าเข้าไปจูบที่แก้มสากของคน
หลังจากที่พาพ่อตาและเมียกลับเข้าคอนโดเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ มาร์ตินก็ขอตัวออกไปสังสรรค์กับเพื่อนที่โทรมาชวนตั้งแต่ตอนบ่าย พิศลดาก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้ไป แต่มีข้อแม้ว่าห้ามดื่มหนักและกลับดึก คนรักเมียก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดี สองพ่อลูกจึงได้มีเวลาคุยกันสองคน คุยนั่นคุยนี่กันไปเรื่อยจนกระทั่งสามทุ่มจึงได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำพิศลดานอนอ่านนิยายจนกระทั่งเที่ยงคืนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ร่างบางลุกขึ้นมาแนบใบหูกับบานประตูเพื่อฟังให้แน่ใจว่าเป็นตาเฒ่าของเธอรึเปล่า“เปิดประตูให้หน่อยทูนหัว” มาร์ตินหมุนลูกบิดประตูไปมา ไม่อยากเคาะเสียงดังกลัวว่าพ่อตาจะตื่นขึ้นมา เมื่อกี้แอบเปิดประตูอีกห้องเข้าไปดูก็เห็นว่าพ่อตานอนหลับอยู่ จึงรีบมาที่ห้องเมียแต่ดันมาล็อคประตู ทำให้เขาต้องเคาะเรียกเบาๆ“ไม่ต้องเคาะให้เมื่อยมือหรอกไอ้ฝรั่ง ยัยเฟิร์นมันหลับไปแล้วมานอนกับฉันนี่มา” พ่อสุชาติเปิดประตูห้องนอนออกมาพูดกับลูกเขย มันคงคิดว่าตอนที่เปิดประตูเข้าไปเขาหลับไปแล้ว หึ ไอ้ลูกหมาเอ๊ย! ใครจะไปหลับลงในเมื่อตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะรอให้มันกลับมาก่อน ลูกสาวเขาไม่มีทางขัดใจหรอกในเมื่อสั่งแล้วว่าถ้าไอ้นี่มาเคาะห้า
“ให้เขาเข้ามาได้เลยค่ะ แต่หนูขอลุกไปนั่งที่โซฟานะคะ นั่งแบบนี้มันดูไม่ดี” พิศลดาจะลุกขึ้นยืนแต่ติดที่มือหนาจับเอวเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นได้ “ปล่อยสิคะ จะจับเอาไว้ทำไม เกิดไม่ใช่คุณสุธีร์กับคุณลีโอจะทำยังไง ถ้าเป็นพนักงานหรือผู้บริหารคนอื่นมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของท่านประธานดูไม่ดีนะคะ”“ช่างหัวภาพลักษณ์มันสิ” มาร์ตินยักไหล่เขาไม่สนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว “เชิญครับ” สิ้นเสียงอนุญาตคนที่มาเคาะประตูก็เปิดเข้ามา“กว่าจะให้เข้ามาได้ยืนรากแทบงอก” เสียงบ่นอย่างไม่พอใจดังเข้ามา พร้อมกับหิ้วถุงอาหารมากมายเข้ามากับสุธีร์ “แล้วนั่นจะนั่งกอดกันอีกนานไหม”“ปล่อยก่อนพ่อมาไม่เห็นรึไง” พิศลดาแกะมือเหนียวออกจากเอว ส่งยิ้มหวานไปให้พ่อที่ยืนท้าวเอวมองดูอย่างไม่พอใจ“คุณพ่อมาได้ไงครับ” มาร์ตินยอมปล่อยให้เมียลุกขึ้นเดินไปหาพ่อตา ที่ยืนทำหน้ายักษ์มองเขาอยู่ มาแบบนี้เห็นทีเขาคงอดกินตับเมียไปตามระเบียบสินะเหอะ!“จะมายังไงก็ไม่เกี่ยวกับแก มานั่งนี่ยัยเฟิร์น” พ่อสุชาติดึงมือลูกสาวให้ไปนั่งข้างตัวเองที่โซฟา แกะอาหารน่าตาน่าทานออกมาให้ลูกสาวสุดที่รักได้กิน“พ่อมาที่นี่คนเดียวเหรอจ๊ะ แล้วมาถูกได้ยังไง ทำไมไม่โท
“ทูนหัวผัวอยากกินกาแฟ” เสียงทุ้มร้องเรียกหากาแฟจากเมียรัก พิศลดาเงยหน้าขึ้นมาจากนิตยสารที่อยู่ในมือ มองท่านประธานใหญ่ที่นั่งทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง โดยไม่ละสายตาออกมาจากแฟ้มทั้งหลายที่กองอยู่ตรงหน้า“ดื่มไปสองแก้วแล้ววันนี้ พอแค่นั้นเลยค่ะ” พิศลดาเดินไปเปิดตู้เย็นที่หลบมุมอยู่แถวๆ ห้องน้ำ รินน้ำเย็นชื่นใจมาบริการให้สามีรูปหล่อที่วันนี้ดูจะตั้งใจทำงานเป็นพิเศษ“ชื่นใจจัง ดื่มน้ำเปล่าแทนกาแฟก็ทำให้ตาสว่างได้ เพราะคนเอามาให้กินมีฤทธิ์ที่ทำให้ผัวตาค้างได้” แขนเรียวถูกดึงทำให้ร่างบางเซถลาลงไปนั่งแหมะอยู่บนตักแกร่ง “ขอเพิ่มพลังก่อนนะจะได้มีแรงเคลียร์งาน” ปากอวบอิ่มที่อ้าเผยอต้องกลืนคำพูดลงเมื่อถูกจู่โจมด้วยจุมพิตร้อน“อื้อ ไหนบอกจะรีบเคลียร์งานไงคะ” มือนุ่มผลักหน้าหล่อที่คลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากออกห่าง “มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ มาฝึกงานแบบนี้มันสบายเกินไปให้หนูทำงานบ้างเถอะนะคะ” มาร์ตินส่ายหน้า ยกมือขึ้นมาบีบจมูกโด่งเชิดรั้นเบาๆ“ถ้าอยากช่วยก็ช่วยนั่งสวยๆ อยู่กับป๋าตรงนี้ ถ้ายังงอแงอีกสงสัยต้องจัดให้สักดอก เอาแบบนั้นไหมทูนหัวจะได้เลิกทำงานตอนนี้เลย” มือปลาหมึกลูบอยู่แถวขาขาวนวลที่โผล่พ้นกระโปรง
“หนูล้างจานอยู่นะ อะ...อื้อ อื้อ” ปากอวบอิ่มถูกจ้วงจูบจากคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง มือที่ถือจานไว้ก็ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น นานหลายนาทีกว่าจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ “บอกว่า ยะ...อย่าไง” เมื่อเป็นอิสระพิศลดาก็รีบพูดห้ามเสียงสั่น“ป๋าว่าไว้ค่อยให้แม่บ้านล้างต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้ป๋าอยากจะแย่อยู่แล้ว ขอตรงนี้เลยละกันนะคนดี” มาร์ตินเปิดก๊อกน้ำล้างมือนุ่มที่เต็มไปด้วยฟองที่เกิดจากน้ำยาล้างจาน สะอาดหมดจดแล้วก็จับพลิกร่างบางให้หันเข้าหาตัว ประคองแก้มเนียนจูบปากบวมแดงดังจ๊วบใหญ่ ดันก้นอวบอั๋นให้มาแนบชิดที่แก่นกายร้อนผ่าว ย่อตัวยกสะโพกงามขึ้นอุ้ม พาเดินไปวางไว้บนอ่างล้างจาน ขาเรียวสวยทั้งสองข้างเกาะเกี่ยวเอวหนาเอาไว้แน่น“ตรงนี้ไม่ได้นะคะ เกิดมีใครเดินเข้ามาจะทำยังไง” พิศลดาสั่นหน้า ยื้อมือหนาที่ลูบไล้อยู่ที่ขาสุดกำลัง“ไม่มีใครเข้ามาตอนนี้หรอกคนสวย ถ้าหนูไม่ครางเสียงดังก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราทำอะไรกัน ป๋าอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง แล้วอีกอย่างขึ้นห้องตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่าป๋าจะกระแทกตอนนี้และเดี๋ยวนี้” มาร์ตินรั้งร่างบางให้ลงมายืนหันหน้าเข้าหาอ่างล้างจาน ถอดกางเกงนอนลงไปกองไว้ที่พื้นแล้วถลกเสื้อ