“เฟิร์นฉันว่าฉันไปขอถ่ายรูปกับคุณมาร์ตินดีกว่า ไหนๆ ก็ได้เจอตัวแล้ว” ลิลลี่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหามาร์ตินทันที ลิลลี่เข้าไปคุยกับมาร์ตินก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ
“อ้าวทำไมไม่ถ่ายละเขาไม่ถ่ายด้วยเหรอ” พิศลดาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินกลับมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย
“เปล่าแต่คุณมาร์ตินบอกว่าให้แกช่วยถ่ายให้จะดีกว่าเพราะเขาไม่อยากจะเซลฟี่นะแกไปถ่ายให้หน่อยนะนะ” ลิลลี่ดึงแขนเพื่อนให้ลุกไปถ่ายรูปให้
“เรื่องมากจริงเชียว” พิศลดาบ่นใบหน้าสวยงอง้ำแต่ก็ยอมเดินมาถ่ายให้เพื่อนแต่โดยดี
“ถ่ายได้เลยครับ” มาร์ตินนั่งอมยิ้มน้อยๆ ที่เขายิ้มไม่ใช่ยิ้มให้กล้องแต่ยิ้มให้ช่างภาพจำเป็นต่างหาก
“เสร็จแล้วฉันกลับไปนั่งรอที่โต๊ะนะ” พิศลดาส่งโทรศัพท์คืนให้เพื่อนแล้วหมุนตัวจะเดินกลับไปนั่งแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิเธอไม่ถ่ายรูปกับฉันเหรอ” มาร์ตินถามยิ้มๆ เห็นแก้มป่องแล้วอยากจะจับมาหอมแก้มนัก
“ไม่ค่ะคุณไม่ใช่ดาราสักหน่อย” พิศลดาปฏิเสธทันควันทำไมเธอต้องอยากถ่ายรูปกับเขาด้วย
“ถ้าเป็นดาราเธอถึงจะถ่ายรูปด้วยใช่ไหม” มาร์ตินถามเสียงห้วนไอดาราเจ้าบทบาทพวกนั้นจะมาสู้คนอย่างเขาได้ยังไง
“เปล่าแค่เปรียบเทียบเฉยๆ แล้วทำไมคุณต้องไม่พอใจฉันด้วย” พิศลดาถามเสียงสะบัดอย่างไม่พอใจที่คนตรงหน้ารวนใส่เธอโดยไม่ทราบสาเหตุ
“เอ่อฉันว่าเราไปกันเถอะขอตัวก่อนนะคะคุณมาร์ติน” ลิลลี่เอ่ยขอตัวจากมาร์ติน
“เดี๋ยวก่อน เธอชื่ออะไรสาวน้อย” มาร์ตินชี้มาที่พิศลดาแต่เธอไม่ตอบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
“เอ่อเพือ่นหนูชื่อพิศลดาค่ะชื่อเล่นว่าใบเฟิร์น” ลิลลี่เป็นฝ่ายตอบแทนเพื่อนก่อนจะเดินตามพิศลาไป
“ใบเฟิร์นงั้นเหรอชื่อน่ารักสมกับตัวเลย” มาร์ตินพึมพำเบาๆ
“คุณมาร์ตินมานานรึยังคะเนี่ย ถ้าอรรู้ว่าคุณมาแล้วจะรีบมาหาเลยค่ะ ถ้าไม่ออกมาหากาแฟดื่มก็คงไม่รู้ว่าคุณถึงแล้ว” สาวสวยในชุดเดรสสีแดงสดกับรองเท้าส้นสูงสีเดียวกันเดินเข้ามาหามาร์ตินแล้วทรุดกายเย้ายวนลงข้างๆ ชายหนุ่มมือขาวจับที่ท่อนแขนแกร่งหน้าอกหน้าใจถูไถไปที่แขนเขาอย่างยั่วยวน
“ผมเพิ่งมาถึงนะครับ” มาร์ตินตอบเสียงเรียบไม่สนใจการยั่วยวนของอาจารย์สาวที่เขาเคยมีสัมพันธ์ด้วย
“ค่ะ” อรนุชอาจารย์สาวคนสวยของมหาวิทยาลัยแสดงท่าทางสนิทสนมกับมาร์ตินอย่างออกนอกหน้าจนพิศลดากับลิลลี่ต้องเบ้ปาก
“อาจารย์อรนุชแทบจะสิงคุณมาร์ตินแล้วนะนั่นเป็นถึงอาจารย์แต่ดันทำตัวไม่เหมาะสมซะเอง” ลิลลี่กระซิบกับพิศลดาอย่างไม่ชอบใจ
“ฉันว่าก็พอกันทั้งคู่แหละ” พิศลดาพูดเสียงไม่เบานักแต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาแค่พูดลอยๆแต่มาร์ตินที่ได้ยินและรู้ดีว่าสาวน้อยนั้นหมายถึงเขาอย่างแน่นอนมีแต่อรนุชเท่านั้นที่ไม่ได้สนใจอะไรและไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งสิ้น
“ผมว่าคุณนั่งดีๆ ดีกว่านะคุณเป็นถึงอาจารย์มานั่งกอดแขนเบียดผมแบบนี้มันไม่เหมาะเท่าไหร่” มาร์ตินจับมือของอรนุชออกจากท่อนแขนของเขาถึงแม้ว่าเขากับอรนุชจะเคยมีสัมพันธ์กันแต่มันก็แค่เขาต้องการปลดปล่อยอารมณ์ของบุรุษเพศไม่ใช่ความเสน่หาหรือรักใคร่ใดๆ ทั้งสิ้นและที่สำคัญเขาไม่อยากจะให้สาวน้อยที่ของเขามองเขาในทางที่ไม่ดีมากไปกว่านี้เพราะดูท่าทางแล้วคงจะไม่ชอบหน้าเขาเอามากๆ เลย
“คุณนี่น่ารักจังเลยค่ะ ห่วงภาพลักษณ์ของอรด้วย” อรนุชที่เข้าใจผิดคิดไปอีกทางนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อคิดว่ามาร์ตินเป็นห่วงภาพพจน์ความเป็นอาจารย์ของเธอเธอจึงโน้มหน้าเข้าไปหวังจะหอมแก้มเขาแต่เขาก็เบี่ยงใบหน้าหลบ
“ผมไม่ได้ห่วงคุณกรุณาอย่าเข้าใจผิดและที่สำคัญผมไม่ชอบให้ใครมาจูบมาหอมคุณก็น่าจะรู้ดีอย่ามาสำคัญตัวเองระหว่างเรามันก็เป็นแค่เพียงข้อตกลงไม่มีอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง” มาร์ตินพูดเสียงเรียบเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไว้หน้าใครแล้วไม่สนใจด้วยว่าอรนุชจะรู้สึกยังไง อรนุชที่ได้ยินดังนั้นก็นั่งเงียบไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกมาเพราะเสียงที่เขาพูดกับเธอไม่ได้เบาเลยทำให้ตอนนี้เธออายมากปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น แล้วมองมายังอรนุชกับมาร์ติน คนที่โดนหนักก็คงจะเป็นอรนุชที่ทำตัวไม่เหมาะสม แถมยังโดนฝ่ายชายพูดแบบไม่ไว้หน้าอีกท่าทางเชิดๆ หยิ่งๆ จึงไม่หลงเหลืออยู่เลย
“ไปกันเถอะลิลลี่” พิศลดาลุกขึ้นยืนเดินนำลิลลี่ออกไปจากร้านโดยมีสายตาของมาร์ตินคอยจับจ้องอยู่แล้วรีบลุกตามออกไปโดยไม่สนใจอรนุชอีกเลย“ยัยอาจารย์นั่นจากที่เชิดๆ หยิ่งๆ ตอนนี้หมดสภาพเลยเนอะ” ลิลลี่พูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กำลังเดินไปยังหอประชุม“นี่ล่ะผู้ชายพอเบื่อแล้วก็เขี่ยทิ้งแต่บางทีอาจารย์อรนุชก็ทำตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าเป็นได้แค่ของเล่นก็ยังจะไปเล่นกับเขาอีก”“เรื่องนั้นช่างมันเถอะตอนนั่งอยู่ในร้านฉันเห็นคุณมาร์ตินมองแกบ่อยมากนะแล้วที่สำคัญตอนที่เขาให้ฉันเรียกแกไปถ่ายรูปให้เขาก็เอาแต่จ้องแกไม่วางตาเลยฉันว่าเขาต้องชอบแกแน่ๆ เลยความสวยของแกคงเข้าตาคุณมาร์ตินเข้าแล้วละ”“จะบ้าเหรอ อย่างฉันเนี่ยนะ ไม่มีทางหรอกย่ะ แล้วอีกอย่างแกบอกว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยขนาดนี้ ก็คงมองฉันเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงด้วยนั่นแหละแต่เผอิญฉันไม่ได้เหมือนสาวๆ ของเขาฉันไม่ชอบคนเจ้าชู้แกก็รู้ถ้าฉันจะรักใครสักคนคนๆ นั้นต้องรักฉันจริงๆ และที่สำคัญนั่นรุ่นพ่อเลยนะ”“เว่อร์ แก 18 เขา 30 แค่ห่างกัน 12 ปี เองฮ่าๆ” ลิลลี่พูดอย่างขำๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรก็จริงอย่างที่เพื่อนเธอพูดถ้าเราจะรักใครสักคน คนนั้นจะต้องรักเราจริงๆ“ว
“ลีโอ ลีโอ ไอลีโอ” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ มาร์ตินก็แผดเสียงเอ็ดตะโรดังลั่นไปทั่วทั้งบ้าน ใบหน้าคมสันบึ้งตึง คิ้วเข้มขมวดมุ่น ยืนเท้าเอวจังก้าอยู่หน้าบ้าน“ครับคุณมาร์ติน” ลีโอรีบวิ่งหน้าตั้งมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้านายรูปหล่อ ที่ยืนทำหน้าเป็นยักษ์อยู่ ไม่รู้ว่าใครทำอะไรให้ไม่พอใจ เขาเลยซวยแต่เช้าเลย“ทำไมแกช้าอืดอาดเป็นเต่าแบบนี้วะ แล้วเรื่องที่ฉันให้ไปสืบได้เรื่องรึยัง” เขาใช้ให้ลีโอไปสืบประวัติของใบเฟิร์นมาเพราะเขาอยากจะรู้จักกับเธอปกติเขาไม่เคยที่จะต้องทำอะไรแบบนี้เลยมีแต่คนเสนอตัวอยากจะทำความรู้จักกับเขา“ได้เรื่องแล้วครับ ผมส่งเข้าอีเมลให้เรียบร้อยแล้ว” ที่เรียกเขาเสียงดังลั่นไปทั้งคฤหาสน์แต่เช้าก็เพราะเรื่องสาวน้อยคนนี้นี่เองตั้งแต่กลับมาจากการบรรยายพิเศษ เจ้านายของเขาก็เปลี่ยนไป ใจลอยบ่อย หรือว่านี่จะเป็นลางบอกอะไรบางอย่าง“เออ แกจะไปไหนก็ไป” มาร์ตินโบกมือไล่ลีโอส่วนตัวเขาก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะรีบไปเปิดดูเมลล์ชายหนุ่มเข้ามาในห้องทำงาน แล้วรีบเปิดโน้ตบุ๊กเช็กเมลล์ทันที และเมื่อเปิดได้ก็เริ่มไล่สายตาอ่านข้อมูลของสาวน้อยอย่างตั้งใจ บ้านเกิดอยู่ที่สุพรรณบุรี ครอบครัวเปิดร้านขา
“คุณ!!” พิศลดาหันกลับมามองคนที่เข้ามาประชิดตัวเธอแบบไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยใบหน้าที่งอง้ำอย่างไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเป็นใคร“มาร์ตินเรียกว่ามาร์ตินหรือจะเรียกว่าพี่ก็ได้เพราะฉันแก่กว่าเธอหลายปี” มาร์ตินไม่สนใจท่าทีของอีกฝ่าย พิศลดาอ้าปากค้างกับคำพูดของเขาอยู่ๆ จะสั่งให้เธอเรียกเขาแบบนั้นแบบนี้ทำไมไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมอะไรกันสักหน่อยบ้ารึป่าว“คุณบ้ารึป่าวเนี่ยอยู่ๆ ก็มาบอกให้ฉันเรียกคุณอย่างนั้นอย่างนี้” พิศลดาเอียงคอมองมาร์ตินอย่างงงๆ“ถ้าไม่เรียกจูบ” ใบหน้าหล่อของมาร์ตินยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าสวย พิศลดารีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองแน่นกลัวเขาจะบ้าระห่ำทำขึ้นมาจริงๆ“คนบ้า!” คนตัวเล็กแหวลั่น “ขยับหน้าออกไปห่างๆ จะได้ไหม” พิศลดาก้าวถอยหลังออกห่างเมื่อคนตัวโตตรงหน้ายังไม่ยอมถอยห่างเธอ“พี่มาร์ตินสาวน้อยเรียกให้ถูกด้วยพี่แก่กว่าเธอหลายปีนะใบเฟิร์น” มาร์ตินย้ำกับร่างบางตรงหน้าอีกครั้ง“ก็ได้ๆ แล้วคุณเอ่อพี่มาร์ตินมีอะไรกับหนูรึเปล่านักธุรกิจอย่างพี่ไม่น่าจะมีธุระอะไรกับหนูนะ”เถียงไปก็เปล่าประโยชน์เธอเลยเรียกๆเขาไปเธอกับเขาคงไม่ได้บังเอิญเจอกันแบบนี้บ่อยๆ หรอก แต่ก็แปลกที่คนอย่างเขาจะจำชื่อเธอได้ ส
พิศลดานอนอ่านหนังสือนิยายที่ชื่นชอบอยู่บนเตียงนอนภายในคอนโดหรู ที่ทางบ้านลงทุนซื้อให้เธอได้พักอาศัย โดยเน้นความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเดินทางไปเรียนเป็นหลัก ตอนแรกเธอก็ไม่ยอม เพราะเห็นว่ามันไม่จำเป็น เช่าเขาอยู่ก็ได้ และเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กนักศึกษาเท่านั้น แต่พ่อแม่และพี่ชายไม่ยอม เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมาอยู่ไกลบ้านเลยอยากให้อยู่ในสถานที่ที่พวกท่านเห็นชอบ ดังนั้นสามเสียงจึงชนะเสียงเดียวอย่างเธอขาดลอยเสียงการแจ้งเตือนไลน์ดังติดต่อกันถี่ๆ ทำให้พิศลดาละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ แล้วเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ตรงโต๊ะข้างเตียงมาเปิดดูข้อความแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อรู้ว่าใครที่บ้าระห่ำส่งข้อความมาให้เธอมากมายก็ขมวดคิ้วมุ่น เปิดไล่ดูแต่ละข้อความที่ถูกส่งมาจากมาร์ติน ซึ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนตัวของเธอกับเขาไปอย่างแน่นอน แล้วแต่ละข้อความก็ชวนขนลุก และน่าตบทั้งนั้น ไม่รู้เป็นบ้าอะไรถึงพิมพ์แบบนี้“หนูน้อยทำอะไรอยู่เอ่ย”“คิดถึงจังหนูจัง”“คิดถึงพี่ไหม”“ทานข้าวรึยังครับ”“วันนี้มีเรียนรึป่าว”“พี่อยากเจอหนูจัง”“ตอบพี่หน่อยนะคนสวย”“อยากจูบจัง”“อยากกอดด้วย”“ออกมาเ
“ลีโอแกเช็กแน่แล้วใช่ไหมว่าหนูน้อยของฉันไม่มีเรียน และตอนนี้ก็อยู่ที่คอนโดน่ะ” ตอนนี้มาร์ตินกำลังเดินทางไปหาพิศลดาที่คอนโดของเธอบอกแล้วว่าเขาไม่ได้ขู่อยากจะรู้จริงๆ ว่าเมื่อเห็นหน้าของเขาน้องหนูจะทำหน้ายังไง“ผมโทรเช็กที่คอนโดของคุณใบเฟิร์นแล้วครับว่าเธออยู่ที่ห้อง ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย” ลีโอลูกน้องคนสนิทของมาร์ตินมองกระจกหลังลอบมองหน้าเจ้านายที่ทำหน้าบึ้งตึงตั้งแต่ออกจากบริษัท และที่เขารู้ว่าพิศลดาอยู่ที่คอนโดก็เพราะว่าเขาได้โทรไปสอบถามข้อมูลจากประชาสัมพันธ์ที่เขาได้จ้างให้เป็นหูเป็นตาและคอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับพิศลดาให้เรียบร้อยแล้ว“อือ”“เอ่อแล้วคุณมาร์ตินได้สมัครเฟซบุ๊กกับอินสตราแกรมยังครับ” เขาอุตส่าห์หามาให้หวังว่าเจ้านายจะไม่ทำให้เขาผิดหวังนะ“สมัครแล้วแกนี่ถามมากจังวะ” เขาสมัครตั้งแต่วันที่ได้อ่านข้อมูลของเธอนั่นแหละแล้วตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้วด้วยแต่เขาไม่ได้ใช้รูปของตัวเองหรอกแต่ใช้เป็นรูปแมวน่ารักๆ แทนกลัวว่าถ้าเป็นรูปตัวเองน้องหนูจะไม่รับ และก็ส่องดูความเคลื่อนไหวเแทบจะทุกชั่วโมง ตามกดถูกใจทุกโพสต์ แต่ก็ต้องโมโหเมื่อมีผู้ชายมากดถูกใจและคอมเมนต์“ก็ผมอยากรู้นี่นาว่าแ
“พี่อยากรู้ว่าในความคิดของหนูพี่เป็นยังไง” เขาอยากจะรู้ว่าในสายตาของหนูน้อยคนสวยของเขามองว่าเขาเป็นคนยังไงเขาจะได้แก้ให้เธอพอใจ“เจ้าชู้ เอาแต่ใจ น่าจะแค่นี้แหละค่ะเพราะหนูก็ไม่ได้รู้จักอะไรพี่มาร์ตินมากมายก็เลยไม่รู้นิสัยที่แท้จริง”“งั้นเราก็มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม” มาร์ตินจับมือนุ่มไล้หัวแม่มือที่หลังมือขาวเบาๆ พิศลดาจะชักมือออกแต่เขาไม่ยอม“แล้วพี่ก็ไม่ได้เจ้าชู้นะส่วนเอาแต่ใจพี่จะเป็นเฉพาะบางคน”“ปล่อยมือเลยค่ะ” พิศลดาตีหลังมือแกร่งแต่เขาก็ด้านเกินเลยไม่รู้สึกรู้สา“แล้วทำไมเราจะต้องทำความรู้จักกันเพิ่มมากขึ้นด้วยแล้วเรื่องที่ไม่เจ้าชู้นี่แน่ใจเหรอค่ะ”“ถ้าเรารู้จักกันมากขึ้นหนูก็จะได้รู้ยังไงล่ะว่าพี่ไม่ได้เจ้าชู้จริงๆ ถ้าจะรักใครก็จะรักแค่คนเดียวตลอดไป ส่วนที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่ความต้องการของผู้ชาย แล้วอีกอย่างพี่ก็ให้ในสิ่งที่พวกเธอเรียกร้อง นั่นก็คือเงิน ไม่ใช่ความรัก” มาร์ตินพูดจริงจังไม่ได้โกหกแม้แต่คำเดียว“แล้วมาบอกหนูทำไม” พิศลดาหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดของเขาที่เหมือนจะตั้งใจให้เธอรับรู้“ก็อยากให้รู้นี่นาจะได้เลิกคิดว่าพี่เจ้าชู้สักที” มาร์ตินเอาศ
“เฟิร์นโทรศัพท์แกดัง จะไม่รับหรอ” ลิลลี่ที่ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากกระเป๋าเพื่อนดัง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าของจะรับสาย “ไม่อ่ะ ไม่มีอะไรจะคุย ถ้าแกรำคาญ แกรับให้ฉันหน่อยละกัน” พิศลดาหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายส่งให้ลิลลี่ เมื่อเห็นรายชื่อที่เด่นหราบนหน้าจอลิลลี่ก็ต้องตาโต มองหน้าพิศลดาสลับกับมือถือในมือ “คุณมาร์ตินโทรหาแกทำไมอ่ะ ถ้าแกไม่รับฉันรับเลยนะอยากรู้” ลิลลี่รีบรับสายทันทีเพราะกลัวว่ามาร์ตินจะวางไปซะก่อน แล้วเธอจะไม่ได้รู้ว่าเขาโทรหาเพื่อนเธอทำไม แต่ลิลลี่ยังไม่ทันพูดอะไรมาร์ตินก็พูดขึ้นมาซะก่อน “ทำไมหนูรับสายพี่ช้า” เสียงห้วนดังมาตามสายอย่างไม่พอใจ แต่ที่ทำให้ลิลลี่ทึ่งก็คือคำว่าหนูที่มาร์ตินใช้เรียกพิศลดา ทำไมเขาถึงเรียกเพื่อนเธออย่างสนิทสนมขนาดนั้น “เอ่อ นี่ลิลลี่เองค่ะ ไม่ใช่ใบเฟิร์น” ลิลลี่ตอบกลับไปเสียงแผ่ว สลับกับมองหน้าพิศลดาที่ไม่สนใจอะไรนอกจากกินขนม “อ้าว แล้วใบเฟิร์นไปไหน ทำไมไม่รับโทรศัพท์เอง ไลน์ไปก็ไม่ตอบ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน” กระแสเสียงที่ห้วนหนักกว่าเดิมเริ่มดังขึ้นเมื่อคนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่คนที่เขาต้องการจะคุยด้วย “เฟิร์นทานขนมอยู่ค่ะคุณมาร์ติน แล้วตอน
“คุณมาร์ตินจะไปไหนครับ เรายังประชุมไม่เสร็จเลยนะครับ” สุธีร์เลขาหนุ่มสาวเท้ายาวๆ เดินตามหลังเจ้านายเมื่อมาร์ตินสั่งให้พักการประชุมแล้วตัวเจ้านายเขาก็ทำท่าจะออกไปข้างนอกอีก“เดี๋ยวฉันมา นายกับลีโอคอยอยู่ดูแลให้ก่อนละกัน แล้วเดี๋ยวฉันจะกลับมา” มาร์ตินตบไหล่สุธีร์แล้วรีบลงลิฟต์ไปทันทีหลังจากเลิกเรียนพิศลดาก็รีบเก็บของเข้ากระเป๋าแล้วรีบลงจากตึกเรียน รีบถึงขนาดไม่รอลิลลี่กับชมพู่ สายตากลมโตกวาดมองรอบตัวเมื่อไม่เห็นมาร์ตินพิศลดาก็ระบายลมหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้วางใจซะทีเดียว ขาเล็กๆ รีบก้าวยาวไปตามฟุตบาทเพื่อออกไปขึ้นรถที่หน้ามหาวิทยาลัยMclaren สีแดงคันหรูของมาร์ตินวิ่งเข้ามาในมหาวิทยาลัย มือหนาก็คอยกดโทรศัพท์หาพิศลดา เพราะนี่ก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว ได้เวลาที่หนูตัวน้อยของเขาเลิกเรียนแล้ว สายตาคมคอยกวาดมองไปข้างทางที่รถวิ่งผ่านก็สะดุดเข้ากับร่างบางที่คุ้นตาในชุดนักศึกษากำลังจะเดินออกไปนอกมหาวิทยาลัย มาร์ตินจึงรีบจอดรถที่ข้างทางเปิดกระจกเรียกเด็กดื้อของเขา“น้องเฟิร์น” พิศลดาชะงักแล้วหันกลับไปมองตามเสียงเรียกแล้วก็เห็นว่าเป็นมาร์ติน“พี่มาร์ติน” พิศลดาพึมพำด้วยความตกใจ“ขึ้นรถค่ะ” มาร์ตินพู
“พี่มาร์ติน!” พิศลดาเดินมาเกาะคอกไม้เอาไว้แล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ในนั้น“เมียจ๋า ดูไอ้สามตัวนี่มันเลียผัวสิ!” มาร์ตินส่งเสียงฟ้องเมียหวังจะให้ช่วย แต่เปล่าเลยเมียกลับหัวเราคิกคักอย่างชอบใจ“เข้าไปทำอะไรในนั้นคะ หรือว่าเหงาเลยต้องเข้าไปเล่นกับเพื่อน” พิศลดาถามยิ้มๆ มองดูนักธุรกิจใหญ่ที่โดนควายรุมล้อม มือบางหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายคลิปเอาไว้ เพราะมันเป็นภาพที่หาดูได้ยาก“ไม่ได้เหงา คุณพ่อให้ป๋าไปอาบน้ำให้พวกมัน” มาร์ตินหน้าง้ำ มองเมียที่หัวเราะคิกคักสนุกกับการถ่ายคลิปเขา“ก็นึกว่าเหงาซะอีก ชูสองนิ้วหน่อยค่ะป๋าขา” ตากล้องบอกเสียงหวาน คนถูกถ่ายไม่ยอมทำตามคำสั่งเดินไปปิดน้ำ เอาหญ้ามาวางในรางให้พวกมันได้กิน แล้วเดินออกมาจากคอก“สนุกใหญ่เลยนะทูนหัว” มือหนาคว้าเอวบางเข้ามาประชิดตัว โดยที่พิศลดาไม่ทันระวัง ปากร้อนฉกลงบนแก้มนวลแรงๆอย่างหมันเขี้ยว“อื้อ” พิศลดาผลักอกแกร่งขาวจั๊วะให้ออกห่าง“ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ อาบน้ำควายเสร็จก็ต้องไปอาบน้ำตัวเองนะ เหม็นขี้ควาย” พิศลดาหัวเราะเสียงใสจะหมุนตัวเดินกลับแต่ถูกมือใหญ่คว้าแขนเอาไว้ มาร์ตินไม่ปล่อยให้เมียได้หัวเราะเขานาน มือใหญ่ช้อนคนตัวเล็กขึ้นอุ้มพาดบ่า
“อื้อ อย่ากัดสิคนบ้า!” คนหื่นงับปากดูดดึงอยู่ที่บนเนินเนื้อของถ้ำสวาทจนเจ้าของถึงกับสะดุ้ง“ก็มันน่างับน่ากินนี่นาทูนหัว” ลิ้มหนาแลบออกมาไล้เลียริมฝีปากแห้งผาก จ้องมองกลีบสวาทตาเยิ้ม นิ้วยาวเขี่ยไปตามรอยแยก ขบเม้มที่ต้นขาจนเกิดรอยแดง ชื่นชมจนพอใจแล้วก็เริ่มใช้ลิ้น ใช้ปาก ใช้จมูก จู่โจมลงบนถ้ำสวาทฟิตแน่นร่างบางนอนกระสับกระส่ายแอ่นตัวขึ้นตามจังหวะลิ้นของมาร์ติน มือหนาช้อนอยู่ที่ก้นงามงอนให้ปากแนบชิดติดอยู่กับร่องเสียว สายตาคมเหลือบมองหน้างามเป็นระยะ ท่าทางซ่านสยิวของเมียเด็กมันช่างเซ็กซี่ยิ่งกว่านางเอกหนังเอวีที่เคยดูตอนวัยรุ่นเสียอีก“อ๊าย อ๊าย” เสียงหวานครางลั่นเมื่อลิ้นสากเร่งจังหวะหนักขึ้น ใบหน้าที่ซุกอยู่ตรงหว่างขาถูกหนีบแน่น จนแทบจะขาดอากาศตาย แต่คนอย่างมาร์ตินก็ไม่เคยหวั่น“กะจะฆ่าป๋าให้ตายคาหอยหอมเลยใช่ไหมเมียจ๋า” ป๋าหื่นถอนใบหน้าออกมาเมื่อเมียเด็กกระตุก ขึ้นไปแตะขอบสวรรค์แล้วหนึ่งรอบ“ก็ทำให้หนูเสียวทำไมล่ะ” พิศลดามองค้อนตาคว่ำ“ไม่หน้างอน่าคนสวย มากินไอติมป๋าหน่อยเร็วคนดี” มาร์ตินจับร่างบางให้ขึ้นคล่อมตัวเขา ในท่ากลับหัวกลับท้ายกัน ต่างฝ่ายต่างใช้ลิ้นใช้ปากทำรักให้แก่กัน“อือ
มือหนาควานไปทั่วที่นอนหวังจะคว้าเมียมากอด แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ตาที่ปิดสนิทลืมขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ลุกจาที่นอนเดินเข้าห้องน้ำอย่างรีบเร่ง พอออกมาจากห้องก็พบแต่เพียงพ่อตานั่งดูทีวีอยู่คนเดียว“คุณพ่อเมียผมไปไหนครับ” มาร์ตินไม่รอช้าที่จะสอบถาม“ไอ้นี่ ตื่นมาก็ร้องหาลูกสาวฉันเลยนะ ห่างๆ กันบ้างก็ได้โว้ย!” พ่อตาละสายตาจากรายการทีวีมามองหน้าบึ้งๆ ของลูกเขย“ยัยเฟิร์นไปช่วยขายทองที่ร้าน แล้วก็ฝากบอกแกว่าไม่ต้องเสนอหน้าไป เข้าไหมไอ้ฝรั่ง” ไอ้นี่มันติดลูกสาวเขายังกับตังเม ตื่นมาไม่เจอก็หน้าหงิกหน้างอ เห็นแล้วขัดหูขัดตา“แล้วทำไมน้องเฟิร์นไม่บอกผมก่อน” มาร์ตินกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาแรงๆ ไปไหนแทนที่จะปลุกบอกผัว เมื่อคืนก็จับกินไปตั้งหลายรอบ ยังจะมีแรงลุกออกไปจากห้องอีก“พูดมากจริงโว้ย!” พ่อตามองลูกเขยตาขวางแล้วก็เปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แทน โดยที่ลูกเขยตัวโตไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะเอาแต่นั่งจิ้มโทรศัพท์“ไหนๆ วันนี้ฉันก็ต้องอยู่กับแกแค่สองคนแล้ว แกช่วยฉันทำงานหน่อยสิไอ้ฝรั่ง” มาร์ตินเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ไว้ใจ“งานอะไรครับ” เขาก็ไม่เห็นว่าที่บ้านจะมีงานอะไรให้ทำเลย ขายทองก็ไม่น่าใช่ เพราะเข
“แฟนหรอเฟิร์น” ไปป์กระซิบถามเพื่อนสาวเบาๆ แต่ทว่ามันก็ยังคงเบาไม่พอ“ผัวไม่ใช่แฟน” พิศลดาได้แต่กรอกตามองบน“ครับ ผมชื่อไปป์ เป็นเพื่อนของเฟิร์น” ไปป์ยิ้มให้มาร์ตินที่พูดตรงจนเขายังอึ้ง“อือ”“นี่คุณมาร์ติน ไปป์อย่าไปถือสาเขานะ เขาชอบเป็นแบบแหละ” พิศลดายิ้มเจื่อนๆให้เพื่อน อยากจะหยิกตาเฒ่าให้เนื้อหลุดจริงเชียว“ขอฉันกับพี่เสรีนั่งด้วยคนนะ” ชบาในชุดสายเดี่ยวสีเหลืองสดเดินมากับเสรี ดึงเก้าอี้ออกมานั่งทั้งที่ยังไม่ได้รับการเชื้อเชิญ เสรีนั่งตามน้องสาว สายตาจับจ้องอยู่ที่พิศลดาอย่างไม่วางตา“ถ้าจะนั่งขนาดนี้ไม่ต้องขอแล้วล่ะ” พิศลดาพูดขึ้นลอยๆ“ช่างเขาเถอะทูนหัว” นิ้วยาวเกลี่ยแก้มเนี่ยนนุ่มเล่นเบาๆ“แหม สวีทกันจังนะคะ ไม่อายสายตาใครเลยอะ”“ทำไมจะต้องอายด้วยคนเขารักกัน ก็ต้องอยากแสดงความรักต่อกัน มันไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามหนิ หรือว่าคุณอิจฉาคุณชบา” มาร์ตินเอียงคอมองชบา สีหน้าไม่มีรอยยิ้มใดๆ ทั้งสิ้น ชบาเม้มปากแน่นเมื่อโดนตอกกลับมานิ่มๆแบบนี้“พี่มาร์ตินไม่น่าถามจี้ใจดำพี่ชบาแบบนั้นเลยค่ะ เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าเธออิจฉา” พิศลดายกมือขึ้นมาบีบจมูกมาร์ติน แต่สายตามองมายังชบาที่นั่งกำมือแน่น ไปป์นั่งอม
แล้วมาร์ตินก็ทำตามสัญญาว่าจะกินนมแค่อย่างเดียว แต่เวลาที่เขาใช้กินนมนั้นไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง นี่ขนาดเขาบอกว่าทำเวลาแล้วนะ ถ้าหากไม่ทำเวลามันจะนานขนาดไหน พอทั้งคู่ลงมาบรรดาแขกเหรื่อที่ถูกเชิญมางานเลี้ยงก็เริ่มทยอยมากันหนาตาแล้ว พิศลดาเดินเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนคุยอยู่กับเพื่อนบ้าน โดยมีมาร์ตินเดินตามไม่ห่างกาย และก็มีเสียงซุบซิบลอยมากระทบหูของทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา บ้างก็ว่ามาร์ตินนั้นเป็นฝรั่งที่พิศลดาไปคว้ามาจากไหน หล่อบ้างแหละ จนหรือรวย เรียนยังไม่ทันจบก็มีผัวซะละ ต่างๆ นานา พิศลดาที่ได้ยินก็พยายามไม่ใส่ใจ และแอบเคืองมาร์ตินอยู่ไม่น้อยที่อยากจะจัดงานเลี้ยงอะไรของเขาก็ไม่รู้ มีแต่คนมานั่งนินทาเธอกับเขาเต็มไปหมด ส่วนมาร์ตินนั้นได้แต่ยิ้มในหน้าให้กับคำครหาเหล่านั้น“น้องเฟิร์น มาร์ติน” แม่นวลพรรณเรียกลูกสาวกับลูกเขยที่กำลังเดินเข้ามาหา“พ่อกับแม่เชิญมาทำไมเยอะแยะคะ”พิศลดาพูดเสียงเบาเมื่อเดินมาถึงตัวแม่ แล้วก็มองดูรอบๆ ตัว มีโต๊ะผูกโบว์อย่างดีอาหารที่ถูกส่งตรงมาจากโรงแรม เครื่องดื่มอีกมากมายของบัตเตอร์เบียร์ และวงดนตรีขนาดใหญ่ ตอนแรกที่เห็นนึกว่าจะมีงานกินเลี้ยงทำบุญบ้านซะอีก ไม่อยากจะเ
“พี่เสรี พี่ว่าชุดนี้ฉันใส่แล้วสวยไหม” ชบาทาบชุดเดรสสีแขนกุดเหลืองอ๋อยให้พี่ชายช่วยพิจารณา ที่จริงเธอไม่ได้โดนเชิญให้ไปงานด้วยเลี้ยงหรอกมีแต่พ่อกับแม่ต่างหากที่ถูกเชิญ แต่เธอก็ไม่สน อยากจะรู้นักเชียวว่าบ้านนั้นมีงานอะไรกัน เมื่อเช้าตอนเอาขนมไปให้ยังไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีงาน อยู่ๆป้านวลแม่นังเฟิร์นก็มาบอดให้ไปงานเลี้ยงเย็นนี้ แล้วก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลยสักอย่าง มันยิ่งทำให้เธอต้องไป“เขาไม่ได้ชวนเรานะชบา แกจะไปหรอ”“ชวนพ่อกับแม่ก็เหมือนชวนเรานั่นแหละ พี่นะคิดมาก หรือว่าไม่อยากไปเห็นนังเฟิร์นกับผัวฝรั่งมันกันแน่” ชบาจี้ใจดำพี่ชาย“แอบรักมาตั้งนมนานสุดท้ายก็โดนฝรั่งคาบไปกินซะละ น่าสงสารเสียจริงพี่ชายฉัน”“ไม่ต้องมาพูดมากนังน้องบ้า! แกเองก็ไม่ต่างจากฉันหรอก ทำเป็นว่าน้องเฟิร์นอย่างงั้นอย่างงี้ จริงๆ แล้วแกก็อยากได้ไอ้ฝรั่งนั่นเหมือนกัน ปากบอกชาวบ้านเค้าไปทั่วว่าไอ้นั่นมันเป็นฝรั่งต๊อกต๋อย แต่ใจแกกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น ยัยขี้อิจฉา ถ้าไอ้ศักดิ์มันรู้ว่าแฟนมันบ้าผู้ชายอย่างนี้นะ มันจะเฉดหัวแกทิ้ง!” เสรีพูดจบก็เดินออกไปทันที“กรี๊ดดด”“คุณพ่อแต่งตัวซะหล่อเลยนะครับ แต่ว่านี่พึ่งจะสี่โมงเอง
“คุยอะไรกันอยู่คะเนี่ยน่าสนุกจัง” เสียงแหลมๆ ของชบาดังเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงเสียอีก“กลับมาบ้านด้วยหรอจ๊ะ” ชบาแสร้งยิ้มให้พิศลดา แล้วชายตามองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างรุ่นน้องสาว“มีอะไรชบา” พ่อสุชาติถามขึ้น“แม่ให้เอาขนมมาให้จ้ะลุงชาติ” ชบาวางถุงขนมหวานที่ถือมาไว้บนโต๊ะแล้วก็ลอบมองหน้ามาร์ติน ไม่ได้สนใจคนอื่นที่มองเธออย่างไม่ชอบใจพิศลดาทำหน้าเซ็งเมื่อเห็นชบาชะม้อยชะม้ายมองตาเฒ่าของเธอ“จะมองแฟนหนูอีกนานไหมคะพี่ชบา” พิศลดาดึงแขนมาร์ตินมากอดเอาไว้อย่างหวงๆ“เอาขนมมาให้แล้วก็กลับไปได้แล้วค่ะ” ไม่มีใครห้ามปรามพิศลดาเพราะทุกคนก็อยากจะให้ชบากลับบ้านไปเหมือนกัน“แค่มองนิดมองหน่อยมันจะเป็นอะไรยะ ไม่มีมารยาทซะเลยไล่แขกที่มาบ้านเนี่ย” ชบาจิกตามองหน้าพิศลดาที่ไล่เธอกลับบ้านแบบไม่มีอ้อมสักนิด“กลัวฉันเอาไปพูดรึไงว่าแกพาผู้ชายกลับมานอนที่บ้านนะ” ชบาเหยียดยิ้ม“ยัยชบามันจะมากไปแล้วนะ” พ่อสุชาติเอ่ยปราม“ลุงชาติกับป้านวลนี่ก็ยังไงให้ท้ายลูกสาวตัวเองจังนะคะ ขนาดยัยเฟิร์นพาผู้ชายมานอนที่บ้านก็ไม่ว่าด้วย” ชบาจีบปากจีบคอพูดมาร์ตินไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับเขานั่งฟังเงียบๆ อย่างใช้ความคิดแล้วก็คอยลูบแขน
“พาลูกสาวฉันออกมาจากห้องได้แล้วเหรอไอ้ฝรั่ง” พ่อสุชาติที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ มองไอ้ฝรั่งที่โอบประคองเอว ลูกสาวเขาอย่างหมันไส้ เสียงที่ได้ยินเมื่อคืนต้องเป็นเสียงของมันแน่ๆ เขาไม่ได้หูฝาดอย่างที่คิดแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อ” มาร์ตินยกมือขึ้นไหว้พ่อตาที่กำลังนั่งหน้าบึ้งมองเขา“แกมาทำไมไอ้ฝรั่ง” พ่อสุชาติหรี่ตามองมาร์ติน“พ่อกับพี่มาร์ตินคุยกันไปนะคะ หนูจะไปช่วยแม่เตรียมข้าวเช้า” พิศลดาปลดมือใหญ่ออกจากเอว แล้วเดินลงบันไดบ้านไปช่วยแม่ในครัว ไม่อยากเป็นกรรมการห้ามศึกและอีกอย่างเธอก็ยังไม่หายโกรธตาเฒ่าด้วยพอลับร่างพิศลดาไปแล้ว มาร์ตินก็เข้ามานั่งตรงข้ามกับพ่อตาที่จ้องเขาอย่างไม่วางตา“ผมก็ตามเมียผมมาไงครับคุณพ่อ แล้วอีกอย่างผมก็คิดถึงคุณพ่อด้วยเลยมาหา คุณพ่อละครับคิดถึงลูกเขยหล่อ รวย คนนี้บ้างไหม”มาร์ตินยิ้มให้พ่อตาอย่างยั่วเย้า“ใครจะไปคิดถึงแกไอ้คนหลงตัวเอง มาทางไหนแกก็กลับไปทางนั้นเลยไป เหม็นขี้หน้า ไม่รู้ว่าจะมาทำไม” พ่อสุชาติพูดเสียงห้วน มองมาร์ตินตาขวาง“ไล่ยังไงผมก็ไม่ไปหรอกครับ เมียอยู่ที่ไหนผัวอย่างผมก็ต้องอยู่ที่นั่น คุณพ่ออย่าเหนื่อยไล่ผมเลยครับ” ไล่ยังไ
“อืมม หอมจังคนสวย” มาร์ตินสูดดมที่ร่องก้นที่เบียดกันแน่นฟิต เมื่อพอใจแล้วก็จับให้ร่างบางนอนคุกเข่า แยกขาเรียวออกจากัน“อ่าส์ เซ็กซี่มากที่รัก” มือหนาบีบนวดอยู่ที่ก้นงอนขาวเนียนจนเป็นรอยแดงของนิ้วมือ“อ๊ะ” พิศลดาซู๊ดปาก มือบางขยำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ เมื่อมาร์ตินทิ้งตัวลงนอนเอาสะโพกเธอคล่อมหน้า ใช้ลิ้นร้ายจ้วงเข้าไปที่ร่องเสียวของเธอ“อ๊า พี่มาร์ตินขาเดี๋ยวพ่อกับแม่ได้ยินนะคะ ห้องพ่ออยู่ติดกับเรานะ” ถึงแม้ว่าห้องของเธอจะค่อนข้างเก็บเสียงแต่ก็ไม่มั่นใจเมื่อต้องมาทำอะไรแบบนี้ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็นอนอยู่ที่ห้องข้างๆมาร์ตินหยุดเลียของโปรดแล้วพูดกับเมีย ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่สนใจพ่อตาแม่ยาย แต่เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผัวเมีย แล้วจะมาให้เขาอดกลั้นไม่มีทางเด็ดขาด อุตส่าห์ขับรถมาหาเมียกลางดึกแล้วจะมาให้นอนกอดเฉยๆ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ได้จัดเมียเขาคงนอนไม่หลับ หวังว่าพ่อตาจะไม่ตื่นมาขัดจังหวะนะ“ไม่ได้ยินหรอกน่าทูนหัวถ้าเราไม่ร้องเสียงดัง ป๋าว่าป่านนี้คุณพ่อคุณแม่นอนหลับลึกไปแล้วแหละค่ะ”“แต่ว่า อื้ออ” พิศลดายกมือขึ้นปิดปากเอาไว้เพราะกลัวเสียงเธอจะดังจนพ่อกับแม่ตกใจตื่นขึ้นมา“ไม่มีแต่ต