ครอบครัวของเธอนั้นจะใช้ชีวิตในแบบชาวสวนที่พอเพียง บิดามักจะพร่ำสอนเธอเสมอให้รู้จักประหยัดอดออมและใช้ชีวิตแบบพอเพียงดังคำสอนของในหลวงและในบ้านเธอเองไม่เคยต้องซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองอะไรเกินความจำเป็นแม้ว่าฐานะทางบ้านของเธอเองก็อยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่ามีอันจะกินอยู่พอสมควร แต่ครอบครัวของเธอเลือกที่จะมีจะกินอะไรที่ง่ายๆ และสะดวกไม่ยุ่งยากเพราะที่บ้านสวนของเธอมีเกือบครบครันด้วยภูมิปัญญาของผู้เป็นบิดาที่หมั่นดัดแปลงสิ่งของต่างๆ ที่ไม่ใช้แล้วให้เป็นของใหม่น่าใช้เสมอ
ร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของ “ร้านกาแฟและต้นไม้อิ่มรัก” ที่มักจะลงมือรดน้ำพรวดดินเพาะพันธุ์ต้นไม้ดอกไม้ด้วยตัวเองและเป็นภาพที่ชินตาที่ลูกค้าทั่วไปจะพบเห็นเธออยู่ในโรงเพาะชำหรือกำลังรดต้นไม้แม้แต่เสนอขายต้นไม้ดอกไม้แก่ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาด้วยตัวเองอยู่เสมอๆ ด้วยอัธยาศัยที่น่ารักเป็นกันเองและราคาไม้ดอกไม้ประดับที่ร้านของเธอก็ราคาย่อมเยาเพราะถือว่าปลูกเองเพาะพันธุ์เอง ด้วยเหตุนี้ร้านกาแฟและต้นไม้อิ่มรัก จึงมีลูกค้าที่แวะเวียนมาอุดหนุนเป็นประจำมิได้ขาด และวันนี้ก็เช่นกันที่อรุณนารีจัดการผสมดินกับปุ๋ยอินทรีที่พ่อของเธอเป็นผู้ทำเองเพื่อใช้ในสวนและแบ่งให้ลูกสาวคนสวยเอามาใช้ที่ร้านต้นไม้ด้วย ในขณะที่นั่งผสมดินเพื่อเตรียมไว้ปลูกต้นไม้เธอก็ฮัมเพลงรักแสนหวานอย่างอารมณ์ดี ยิ้มให้ต้นไม้ใบหญ้าไปเรื่อยตามประสาของคนรักต้นไม้
“นั่นแน่ ยิ้มอะไรคนเดียวอ่ะ มีแฟนรึไงแก”
เสียงที่ไม่พึงประสงค์ดังขึ้นทำให้ภวังค์แสนหวานพังครืน เธอหันขวับมามองเพื่อนสาวสุดติสท์พลางส่งสายตาพิฆาตที่พยายามทำยังไงก็ไม่น่ากลัวให้เนตรนาราอย่างคาดโทษ
“มาแล้วก็ชอบทำลายความฝันที่แสนหวานของคนอื่นประจำนะแก”
“ว้าวๆ นี่นางสาวแมงปอ เดี๋ยวนี้ริอ่านมีความลับความรักรึเปล่าแก ไหนๆ มาดูซิหน้าตาคนที่จะมีความรักมันเป็นยังไง ฮ่าๆ” สาวสาวสุดติสท์จับใบหน้ารูปหัวใจนั่นพลิกซ้ายขวาแล้วหยิกแก้มเพื่อนรักอย่างมันเขี้ยว เพื่อนสาวร่างเล็กบอบบางอย่างแมงปอรึจะยอมให้เพื่อนสาวคนสวยที่มีเรือนร่างสูงโปร่งปราดเปรียวกระทำอยู่ฝ่ายเดียว หญิงสาวเอามือเล็กๆ ที่ตอนนี้มันเปื้อนเปรอะด้วยดินเพราะเธอเพิ่งจะพรวนดินต้นไม้และมันยังไม่ได้ล้างป้ายใบหน้าสวยเฉี่ยวคมของเนตรนาราคืนบ้าง แล้วสองสาวก็ไล่ต้อนกอดปล้ำกันอย่างไม่มีใครยอมใครเหมือนเด็กเล็กๆ เล่นกันไม่มีผิดทั้งๆ ที่ทั้งสองสาวบรรลุนิติภาวะมาหลายปีแล้ว
สองสาวหยอกเย้าวิ่งไล่ต้อนกันโดยไม่สนใจใครนั้น เป็นเรื่องที่เคยชินไปเสียแล้วเวลาที่เจอกัน และในขณะที่อรุณนารีวิ่งหลบเพื่อนสาวคนสวยโดยไม่ทันมองทางว่ามีอะไรขวางหน้าและทันใดนั้นเองเธอก็ชนเข้ากับใครบางคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ได้ชนคนแต่ชนกำแพงใหญ่มหึมาเลยทีเดียว
“โอ๊ย!!!” ร่างเล็กบางเซถลาก้นจ้ำเบ้าพลางร้องโอดโอยมือกุมสะโพกมนป้อยๆ พอตั้งสติได้เธอก็ค่อยๆ มองที่ตัวต้นเหตุไล่เรื่อยมาตั้งแต่รองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มยี่ห้อดังกลางเก่ากลางใหม่ เธอไล่สายตาเรื่อยมาตามขาแกร่งที่ยืนแยกขาน้อยๆ ตรงหน้าเธอ ชายเสื้อลายสก๊อตสีเขียวอ่อนสอดเข้าไปในขอบกางเกงยีนสีเข้มแขนแกร่งสีแทนสวยกอดอกหลวมๆ ด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ในความคิดของเธอ และเธอพยายามเพ่งมองใบหน้าของคนตัวโตที่ยืนค้ำหัวเธออยู่เพราะเขายืนหันหลังให้กับแสงของตะวันที่เริ่มบ่ายคล้อยพอดีทำให้เธอมองเห็นเพียงเงาทะมึนมืดของคนที่ยืนค้ำหัวเธออยู่อย่างไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลยแม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่มีเล็ดลอดออกมาจากปากคนตัวโต
ผู้ชายอะไรไม่มีน้ำใจและไร้มารยาท หญิงสาวคิดอย่างขัดเคืองใบหน้าน่ารักแดงจัดด้วยความกรุ่นโกรธและเหนื่อยหอบจากการวิ่งหนีเพื่อนรัก แต่ในขณะที่เธอสำรวจคนที่ยืนค้ำหัวตระหง่านอยู่นั้น คนร่างใหญ่โตดุจหินผานั้นก็ก้มมองสำรวจหญิงสาวร่างเล็กบอบบางตรงหน้าเช่นกัน
ร่างเล็กๆ ใบหน้ารูปหัวใจน่ารักนั้นมอมแมมด้วยดินโคลน ผมที่รวบเป็นหางม้าหลุดลุ่ยดูมอมแมมเหมือนเด็กซนๆ คนหนึ่งที่หนีพ่อแม่วิ่งเที่ยวเล่น ดวงตากลมโตสดใสมีแวววิบวับขุ่นเคือง จมูกเล็กๆ มีเหงื่อซึมนิดๆ ริมฝีปากบางน่ารักบิดเม้มอย่างขัดใจ ดูท่าว่าลูกแมวน้อยๆ ตรงหน้านี่เริ่มจะกลายร่างเสียแล้วสินะ
“เฮ้ย ไอ้แมงแกเป็นไรมากรึเปล่าอ่ะแก”
เนตรนาราที่วิ่งตามมาทีหลังลนลานพยุงร่างเล็กบอบบางของเพื่อนรักอย่างเป็นห่วงพลางลูบคลำตามเนื้อตัวของเพื่อนรักอย่างสำรวจตรวจตราว่าเจ็บตรงไหนบ้าง
“ไม่เป็นไรแก แค่ก้นระบมนิดหน่อย” เธอตอบพลางชำเลืองมาที่ตัวต้นเหตุที่ยืนทำเป็นทองไม่รู้ร้อนตรงหน้าและเธอก็เริ่มจะมองเห็นโครงหน้าของคนที่เธอชนจนล้มกระเด็นได้อย่างชัดเจนขึ้น
เขาเป็นผู้ชาย ก็แหงล่ะผู้หญิงที่ไหนจะร่างใหญ่โตแล้วก็แข็งแกร่งขนาดที่วิ่งชนแล้วเรากระเด็นเหมือนสิ่งของได้เล่า ชายหนุ่มตรงหน้านี้น่าจะมีอายุราวสามสิบต้นๆ หรืออาจจะมากกว่านั้น ใบหน้าเหลี่ยมดูแกร่งด้วยคางบึกบึนมีรอยบุ๋มและเคราเขียวครึ้มเพราะเจ้าตัวจงใจหรือไม่ได้ได้โกนก็สุดจะเดา ดวงตาคมสีน้ำเงินเข้มแทบจะเป็นดำคมกริบ จมูกโด่งสวยเป็นสันงดงามจนน่าอิจฉา ผมสีเข้มยาวระต้นคออย่างไม่เป็นระเบียบมากนักแต่รวมๆ แล้วเขาดูดีมากทีเดียว (ไม่ใช่แค่ดูดีแต่เข้าขั้นหล่อเลยล่ะ หญิงสาวแอบคิดในใจ) หากไม่ติดว่าความขัดเคืองยามที่เห็นแววตาคมที่มองมาที่เธออย่างเย็นชา และติดแววตำหนิกลายๆ มันทำให้เลือดในกายเธอประทุปุดๆ ได้เหมือนกันแต่เป็นความขัดใจใช่เขินอาย อรุณนารีตวัดสายตาอย่างหงุดหงิดให้คนตัวโตตรงหน้า ยิ่งเห็นสายตาที่ตอนนี้เหมือนสายตาของผู้ใหญ่ที่มองเด็กตัวเล็กๆ ที่หนีมาเล่นซนแล้วหกล้มและพาลฟาดงวงฟาดงา
“ขอโทษนะคะคุณ ต้องการต้นไม่หรือดอกไม้คะ ที่ร้านเรามีให้เลือกหลากหลายนะคะ”
เนตรนาราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้างอๆ ของเพื่อนตัวเล็ก ที่นานๆ ทีเธอจะเห็นอรุณนารีมีอารมณ์โกรธ
“ครับ ผมมาดูต้นไม้เพื่อเอาไปแต่งสวนที่บ้านพัก ได้ยินเพื่อนบอกว่าที่นี่ต้นไม้ดอกไม้สวย เจ้าของร้านนิสัยดีน่ารักและมีทีมแต่งสวนที่ยอดเยี่ยม ผมเลยแวะมา” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงห้าวทุ้ม ไม่เชิงกระด้างแต่ก็ไม่นุ่มนวล
“เอ่อแล้วคุณ...”
“ผมชื่อเหมันต์ เหมันต์ หิรัญวารินทร์ เรียกผมว่า มาร์คก็ได้ครับ”
เขาเอ่ยแนะนำตัวอย่างง่ายๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับ นายหัวเหมันต์ หิรัญวารินทร์ จะเอ่ยปากแนะนำตัวกับหญิงสาวแปลกหน้าก่อน แต่เพราะเหตุใดมิอาจรู้ได้เขารู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าทั้งสองคนโดยเฉพาะคนผมสั้นปราดเปรียวเธอดูน่าพูดคุยและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนตัวเล็กที่ตอนนี้ใบหน้าน่ารักเริ่มงอง้ำ หรือจะด้วยความปลอดโปร่งและผ่อนคลาย นับแต่ย่างก้าวเข้ามาในบริเวณร้านต้นไม้แห่งนี้ อาจเป็นเพราะความร่มรื่นและกลิ่นกรุ่นหอมของกาแฟ ผสมผสานกับกลิ่นหอมของดอกไม้ในที่แห่งนี้
“จริงเหรอคะคุณมาร์คที่ว่าเจ้าของน่ารักนิสัยดีและทีมงานเยี่ยม ฉันเนตรนารานะคะเรียกเนตรก็ได้ แล้วนี่ยัยแมงค่ะชื่อเต็มๆ คือแมงปอค่ะ เจ้าของร้านนี้ค่ะ”
เนตรนาราเอ่ยอย่างตื่นเต้นทันทีที่ได้รับคำชมเชยถึงทีมงานแต่งสวน แหมก็เธอนี่แหละหัวหน้าทีมงานที่ว่านั่น
“ยัยเนตร!!!” อรุณนารีหยิกเพื่อนตัวแสบอย่างเคืองๆ แหมทีตัวเองแนะนำเสียดิบดี
“โอ้ย หยิกฉันทำไม่อ่ะแก เจ็บนะ แหะๆ โทษทีนะคะคุณมาร์ค นี่อรุณนารีหรือแมงปอค่ะเป็นเจ้าของร้านแสนน่ารัก” เนตรนาราเอ่ยแนะนำ ในขณะที่ที่เป็นเจ้าของร้านแสนน่ารักนั้น ยืนกอดอกหน้าตูมบอกบุญไม่รับ
ตอนที่4.“คุณมาร์คต้องการสวนแบบไหนแล้วต้นอะไรบ้างคะ เดี๋ยวเชิญทางนี้เลยนะคะ”เนตรนาราไม่สนใจเพื่อนรักแล้วในเวลานี้เพราะตอนนี้เธอมีลูกค้าที่น่าจะเป็นรายใหญ่มาเยื่ยมเยือนถึงร้าน ดังนั้นเธอจึงจะพลาดโอกาสนำเสนอผลงานและปิดการขายลูกค้ารายนี้ให้ได้ แล้วเนตรนาราก็เดินนำหน้าชายหนุ่มที่มีนามว่า คุณมาร์ค ไปยังเรือนปีกไม้ทันทีอย่างลิงโลด ปล่อยให้คนตัวเล็กยอนมองตามด้วยความขุ่นเคือง“เฮ้ย ยัยเนตร แกทิ้งฉันเฉยเลยเหรอ”อรุณนารีร้องขึ้นอย่างขัดเคืองเมื่อเห็นเพื่อนรักชักชวนชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไปยังมุมที่จัดไว้เป็นออฟฟิศทำงานกลายๆ ของร้านอย่างไม่สนใจเธอ หญิงสาวก็ได้แต่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่อย่างนั้นด้วยน้อยใจเพื่อนรักที่เห็นลูกค้าสำคัญเสมอช่างงกจริงๆ ยัยหมวยมหาภัยเรือนปีกไม้หลังน้อยที่เนตรนาราเป็นคนออกแบบและหาวัสดุอุปกรณ์มาสร้างเองนั้นเป็นเรือนปีกไม้ขนาดกระทัดรัดแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกันคือส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวนั้นจะเป็นห้องโล่งกว้างมีเตียงโบราญสี่เสาขนาดหกฟุตอยู่กลางห้องและมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบเก๋ๆ และทีวี LCD บนชั้นวางที่ทำจากกระจกใสสวยแปลกตา ห้องนี้อรุณนารีและเนตรนารามักจะมานอนพักอยู่ที่
ตอนที่5.“ฮื่อ” สั้นๆ แต่ได้ใจความที่มีแค่สองพี่น้องนี้เท่านั้นที่เข้าใจ นายหัวเหมันต์ พูดน้อยและเงียบขรึมจนดูเหมือนหยิ่งและเย็นชา ยิ่งดวงตาสีน้ำเงินเข้มเกือบดำนั้น เวลาที่เจ้าตัวโกรธจัดมันจะมืดดำดูน่ากลัวจนคนที่ถูกมองเสียววาบเย็นไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียว สองพี่น้องได้แต่มองหน้ากันอย่างปลงๆ กับความเย็นชาเสมอต้นเสมอปลายของนายหัวหนุ่ม ที่เป็นมาตลอดเกือบเจ็ดปี่ที่ผ่านมานับตั้งแต่เลิกรากับแฟนสาวสวยลูกครึ่งนามว่า แอนนิต้า รามอส นางแบบไฮโซที่ตอนนี้เธอแต่งงานอยู่กินกับสามีชาวฝรั่งเศสหลังจากทิ้งเจ้านายเขาไปอย่างไม่ไยดีเมื่อถึงบ้านพักหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรสุดหรู แถวชานกรุงนายหัวหนุ่มก็รีบขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวกลับเกาะ เหมันต์ยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาในห้องน้ำใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามด้วยอยู่กลางแจ้งเป็นนิจนั้นดูเย็นชา เงาที่สะท้อนออกมาจากกระจกนั้น เป็นภาพภาพชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาเยี่ยงเทพบุตรพึงมี ใบหน้าเหลี่ยมหล่อเหลาเข้มคม สันกรามแกร่งมีรอยผ่าบุ๋มที่คางบึกบึน จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักหนาสีเข้ม ผิวสีแทนสวย แผงอกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามดั่งรูปปั้นนักรบโรมันผู้ห้าวหาญ แต่แววตาส
ตอนที่6.ร่างสูงใหญ่ของบุตรชายที่นางเพิ่งคิดถึงเมื่อครู่ เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับโยนหมวกใบโปรดให้เจ้า คอบร้า สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานขนสีน้ำตาลแดงเข้มที่มันจะมาคอยรับนายหัวของมันเสมอๆโฮ่งๆๆ เจ้าสี่ขาเห่าอย่างขอความดีความชอบที่เอาหมวกไปเก็บไว้ที่แขวนหมวกอย่างเรียบร้อย เจ้าคอบร้าเคล้าเคลียเจ้านายหนุ่มอย่างยินดีเมื่อเขานำช็อกโกแลตเนยถั่วของโปรดยื่นให้ และมันก็รีบคาบไปกินที่มุมประจำของมัน“เป็นไงล่ะมาร์ค ได้คนที่จะมาแต่งรีสอร์ต ใหม่แล้วรึลูก”“ครับแม่ เป็นน้องสาวเพื่อนของเพื่อนอีกทีน่ะครับ เพิ่งจะเริ่มทำบริษัทของตัวเองแต่ก็ยังไม่เป็นทางการเหมือนกับว่าเขารับทำแค่เป็นช่วงระยะเวลาหรือตามความพอใจของคนทำน่ะครับ แต่ได้ข่าวว่าฝีมีดีงานเข้าไม่ขาดเลยลองไปคุยด้วยตัวเองดูก็เข้าท่าดี และมีทัศนคติในการออกแบบตกแต่งคล้ายๆ กันด้วยก็เลยตกลงว่าจ้างเขา”“แบบนี้ก็มีด้วย หึหึ แต่ก็ดีแล้วล่ะลูก ที่หาคนที่สนใจและทำงานไปในทางเดียวกันได้ ดีกว่าทำๆ ไปแล้วนึกเบื่อแล้วก็ออกไป เราก็ต้องเสียเวลาหาคนมาแทน”นายหญิงวาริน นึกประหลาดใจที่ยังมีคนที่รับงานตามอารมณ์ความพอใจของตัวเองมากกว่าอยากจะรับงานเพื่ออยากได้เงินเยอะๆ นับว่า
ตอนที่7.“มาร์คคะ แอนนี่ชอบที่นี่จังค่ะ มันสวยมากเหมือนดินแดนในฝันเลย”แอนนิต้า รามอส นางแบบสาวแสนสวยเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนหวาน เธอเป็นนางแบบไฮโซคนดังที่มีชื่อเสียงเพราะมีดีกรีเป็นถึงอดีตนางแบบโลกเมื่อสามปีก่อน และตอนนี้นี้เธอกำลังคบหาดูใจอยู่กับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีผิวสีแทนงดงามร่างแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง และใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มเยี่ยงบุรุษพึงมี ดวงตาสีน้ำเงินเข้มทอประกายเจิดจ้าส่องสว่างด้วยความสุข ริมฝีปากหยักสวยแย้มยิ้มอย่างมีเสน่ห์ด้วยลักยิ้มที่กรีดลงสองข้างแก้มยามที่เจ้าตัวเผยยิ้มกว้าง ทำให้ใบหน้านั้นอ่อนโยนและมีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว และเธอก็ภูมิใจนักหนาที่มีคนรักเป็นถึงเจ้าของเกาะพราวแสงจันทร์“ถ้าแอนนี่ชอบก็อยู่ที่นี่กับมาร์คเลยก็ได้นะ ยินดีให้อยู่ด้วยกันตลอดชีวิตเลย” เหมันต์สวมกอดร่างงามอย่างรักใคร่ พลางกดจมูกโด่งคมลงบนแก้มนวลฟอดใหญ่ ทำให้เจ้าของแก้มหอมมองค้อนอย่างมีจริต แต่ก็น่ารักในสายตาเขา“มาร์คนี่ ทำอะไรอายคนอื่นบ้างสิคะ”“มีใครที่ไหนกัน มีแต่เราเท่านั้นแหละที่นี่ เพราะถ้าขืนมีโผล่มาตอนนี้มาร์คจะเตะมันให้กระเด็นตกทะเลไปเลย”โฮ่ง โฮ่ง ไม่ทันขาดคำ เสียงของสุนัขที่
ตอนที่8.เมื่อชายหนุ่มรูปงามตัวต้นเหตุจากไป บรรยากาศระหว่างนายหัวหนุ่มและแฟนสาวก็อึมครึม อึดอัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มมองคนรักอย่างตัดพ้อและหึงหวง ส่วนหญิงสาวก็ทั้งโกรธทั้งอายที่เหมันต์แสดงความเป็นเจ้าของเธอต่อหน้าชายหนุ่มอีกคนที่เธอหมายปองให้เป็นที่หมายใหม่เพื่อเธอจะได้ยกระดับตัวเองเป็นหญิงสาวผู้โชคดี มีคนรักเป็นถึงมหาเศรษฐีระดับโลกมากกว่าเป็นแฟนนายหัวกระจอกๆ อย่างเหมันต์“มาร์คคุณทำอะไรเนี่ย เห็นมั๊ยว่าคุณริค เขาเข้าใจผิดเลย” หญิงสาวโวยวายทันที และมันทำให้เหมันต์ถึงกับผงะด้วยความรวดร้าว ไม่เคยเลยที่แอนนิต้าจะขึ้นเสียงกับเขาแบบนี้เพราะที่ผ่านมาเธอช่างเอาใจและอ่อนหวานจนเขาลุ่มหลง“ทำไมแอนนี่พูดกับมาร์คอย่างนี้ล่ะ เพราะผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย ใช่มั๊ย” ชายหนุ่มแผดเสียงดังลั่นพร้อมกับเขย่าร่างสวยจนหัวสั่นหัวคลอนด้วยแรงอารมณ์ที่ประทุด้วยความหึงหวงมากมาย“หยุดนะมาร์ค คุณบ้าไปแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับแอนนี่นะ คุณมันบ้า แค่นี้คุณก็กล่าวหาแอนนี่แล้ว คุณเห็นแอนนี่เป็นคนยังไง เขาหวังดีแค่มาส่งแอนนี่เพราะว่ามันค่ำแล้วกลัวเป็นอันตรายเขาแค่หวังดีแค่นั้นจริงๆ ใครจะเหมือนมาร์คที่ปล่อยแอนนี่ท
ตอนที่9.“ถ้าแอนนี่โกรธเรื่องเมื่อว่านก่อนมาร์คขอโทษนะ แอนนี่ขอโทษมาร์ค ขอโทษ มาร์ครักแอนนี้นะ เรารักกัน”“ไม่มีประโยชน์แล้วค่ะมาร์ค แอนนี่ตัดสินใจแล้วเราเลิกกันเถอะค่ะ แอนนี่ทนอยู่บนเกาะที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าผืนน้ำ ท้องฟ้า สายลมและแสงแดดไม่ได้หรอกค่ะ มันเงียบเหงาเกินไปและถ้าแอนนี่มัวแต่รอคุณให้คุณทำงานพัฒนาเกาะบ้าๆ นี่ของคุณ แอนนี่คงเฉาตายพอดี แล้วตอนนี้แอนนี่ก็ไม่ได้รักคุณแล้วมาร์ค” หญิงสาวบอกอย่างไม่กักเก็บกักความรู้สึกอีกต่อไป“ไม่จริง ทำไมแอนนี่พูดแบบนี้ ทำไม เพราะไอ้หมอนั่นรึเปล่าแอนนี่ คุณเห็นว่าริครวยกว่าผมหรือแอนนี่ หรือเพราะอะไรกัน ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าที่พูดมาทั้งหมดคือความจริง แอนนี่ไม่รักมาร์คแล้ว แอนนี่รักคนอื่น” ชายหนุ่มถามอย่างปวดร้าวเมื่อได้ฟังคำตัดรอนจากคนรัก แววตาสี้น้ำเข้มบัดนี้ขุ่นมัวด้วยอารมณ์อันอ่อนไหว“ใช่แอนนี่พูดความจริงค่ะ แอนนี่ไม่รักคุณแล้ว และ ริคเขาก็รวยกว่าคุณค่ะมาร์ค แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือแอนนี่ทนไม่ได้ที่จะมาอยู่ในที่ห่างไกลความเจริญ และไอ้ความคิดอนุรักษ์นิยมบ้าบอของคุณ วันๆ ขลุกอยู่กับลิงค่างอยู่แต่ในป่าในสวนไม่สนใจแอนนี่เลยว่าเหงามั้ยอยากไปเที่ยวรึเป
ตอนที่10 .“หึไอ้พี่บ้า จี้เอวมาได้แทบขาดใจแนะ โอย...เหนื่อย” ดรุณนุช เดินบ่นกระปอดกระแปดเข้าห้องนอนตัวเอง พลางนึกถึงภาพที่ตนนั้น แอบเห็นฉากรักอันเร่าร้อนระหว่างยัยคุณแอนนิต้าหน้าวอก (มันเป็นชื่อที่เธอมักแอบเรียกแอนนิต้าลับหลังซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีนักที่เรียกขานผู้อื่นลับหลังเช่นนั้น หากนายหญิงวารินรู้เธอโดนบิดเนื้อเขียวแน่ๆ) กับไอ้ฝรั่งบ้ากามนั่นอย่างไม่ตั้งใจที่ท้ายเกาะอันเป็นที่พักของชายหนุ่มนามว่าริค เวลส์ไม่ได้ แค่คิดถึงใบหน้านวลของสาวน้อยก็แดงก่ำ นี่ขาดล้างหน้าล้างตาหลายรอบแล้วภาพนั้นยังชัดเต็มสองตา“ยี้ น่าเกลียดไอ้ฝรั่งบ้าลามก นิสัยไม่ดี” ว่าแล้วร่างบางของสาวน้อยก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนเข้านอนพร้อมกับภาพฝันว่าคนที่กำลังร่วมรักกันอย่างดุเดือดเร่าร้อนนั้นกลับเป็นเธอและไอ้ฝรั่งบ้ากามคนนั้น หาใช่แอนนิต้า รามอสไม่!!!ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจเดินขึ้นเรือนมาหยุดที่ชายหนุ่ม ผู้เป็นเจ้าของเกาะพราวแสงจันทร์ที่ตอนนี้สภาพยับเยิน เมาหยำเป หนวดเครารุงรัง ขวดเหล้าหลายต่อหลายขวดเกลื่อนกลาดทั่วชานบ้านเหมันต์มองปลายเท้าขาวสะอาดตรงหน้าพลางสะบัดหัวแ
ตอนที่11.“เอ้าว่าไงมีอะไรก็ว่ามา ง่วงนะนี่ต้องตื่นแต่เช้าอีกพรุ่งนี้เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดี”“แกจะไปนานมั้ยอ่ะ ฉันอยู่คนเดียวก็เหงาแย่สิ”หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนเพราะพรุ่งนี้เนตรนาราต้องเดินทางไปเกาะพราวแสงจันทร์ของนายหัวม้งมาร์คอะไรนั่น วันนี้ทั้งสองสาวจึงได้มาจัดเตรียมของที่จะนำไปตกแต่งสวนบ้านพักของรีสอร์ตผู้ว่าจ้าง นามว่าเหมันต์ หิรัญวารินทร์“โธ่ๆๆ อย่างแกนี่นะจะเหงา ฉันว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ แกจะเฉาตายก่อนแกเหงาตายอีกแมงปอ”“เชอะทำมาว่าเขา ตัวเองก็ใช่ย่อย” หญิงสาวพ้อเพื่อนพลางทำปากยื่นอย่างแสนงอนแล้วเธอก็เปลี่ยนโหมดกะทันหัน“แกๆ เมื่อกี้อธิษฐานอะไรน่ะ บอกหน่อยสิ นะนะ”“อะไรของแกนี่แมงปอปรับโหมดไวจังวะอยากรู้แกก็บอกของแกมาก่อนสิ”“ก็ได้ๆ ฉันน่ะนะอธิษฐานว่า ขอให้แมงปอตัวน้อยๆ ตัวนี้ได้พบกับชายหนุ่มผู้แสนดีและรักแมงปอสุดหัวใจ ขอให้เขาขอแมงปอแต่งงานภายใต้ท้องสีฟ้าคราม ท่ามกลางทะเลงามสายลมและแสงแดดที่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแม๊นติก อิอิอิ เขินจัง”เนตรนารามองกิริยา เขินจัง ของเพื่อนรักแล้วส่ายหน้าใบหน้าเล็กๆ รูปหัวใจแดงก่ำ ทำกระบิดกระบวนเอียงอาย หมอนที่เธอทุบปุบๆ อยู
ตอนที่ 140. “เอาไว้งานเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะให้เธอได้พบกับแม่เธอเอง ไม่ต้องถามอะไรวุ่นวาย และถ้าวุ่นวายมากๆ เธออาจจะไม่ได้เจอหน้าแม่เธอเลยตลอดชีวิต” ชลเขตหันมาตะคอกสาวน้อยเสียงเข้มแต่รู้สึกสะใจลึกๆ ที่เห็นหน้าซีดเผือดหวาดหวั่นของฤดีชล “และขอให้ทำตัวน่ารักๆ หน่อยนะจ๊ะสาวๆ ฮ่าๆ ไม่น่าเชื่อว่าพวกเธอสองคนจะเป็นตัวเงินตัวทองที่มีค่ามหาศาล” แอนนิต้าอดไม่ได้ที่จะหันมาเยาะเย้ยคนที่รู้สึกริษยา อีกคนสวยน่ารักแม้ยังไม่เป็นสาวเต็มตัว แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังต้องมองเหลียวหลัง และอีกคนก็เป็นมารหัวใจที่ทำให้เป้าหมายในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอพังทลาย เมื่อประตูปิดลงอีกครั้งสองสาวก็ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรงเมื่อรับรู้ชะตากรรมของตนว่าต่อจากนี้พวกเธอคือเชลยดีๆ นี่เอง “พี่มาร์คจะต้องมาช่วยพี่แมงปอเชื่อสิคะแต่สำหรับหนูดี คงไม่ได้หวังจะให้ใครมาช่วย” สาวน้อยบอกอรุณนารีแต่คำหลังนั้นเธอพูดกับตัวเองในใจเพราะรู้สึกลึกๆ ในใจตนว่าบัดนี้ชีวิตของเธอไม่มีใครอีกแล้ว“พี่มาร์คจะต้องมาช่วยเราทั้งสองคนจ๊ะ มาเถอะมากินอะไรกันก่อนดีกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง” แล้วสองสาวก็นั่งกินอาหารที่เป็นเพ
ตอนที่ 139.ผู้กองวัยย่างสี่สิบซึ่งยังดูหนุ่มแน่นและแกร่งกว่าอายุ เอ่ยขัดขึ้นเพราะเขาเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ซึ่งเขาก็ตามทำคดีมานานมากแต่ก็คว้าน้ำเหลวมาตลอดจนหิรัญวารินทร์ยื่นมือเข้ามาช่วย และเขาเองก็กำลังจะได้สะสางบัญชีกับพวกอัครไพฑูรย์เสียที “ใช่ครับพี่มาร์ค เราต้องตั้งสติอย่าให้ความร้อนรนทำลายแผนของเรา”เหมันต์หันกลับมาด้วยใบหน้าและแววตาที่ยังไม่คลายกังวล ริคตบบ่าแกร่งเพื่อนรักเบาๆ อย่างให้กำลังใจ ตอนนี้เขาก็นึกถึงดรุณนุชผู้เป็นภรรยาที่รอเขาอยู่บนเกาะหากเป็นดรุณนุชถูกจับตัวไป เขาก็คงมีอาการไม่ต่างจากเหมันต์และคงอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำกระมัง “ทางเราได้เบาะแสแล้วครับผู้กอง”นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งเข้ามารายงานข่าวที่รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของ ราอูล ซาราฟ อดีตนักค้าอาวุธสงครามและยาเสพติดข้ามชาติซึ่งเขาห่างหายจากวงการนี้มานานพอสมควรเหมือนจะล้างมือแต่ยังเป็นที่ต้องการตัวของทางการอยู่ แล้วอยู่ๆ ก็โผล่มาที่เมืองไทยและตอนนี้ก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของชลเขตซึ่งกำลังกบดานอยู่ในอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีเขตติดต่อชายแดนพม่าในจังหวัดเล็กๆ ทางภาคตะวันตกและมันก็กำลังลำเลียงทั้งยาเสพติดและ
ตอนที่ 138. “หนูดีไม่กล้ารบกวนค่ะพี่แมงปอ แค่ให้พี่เด่นดังไปส่งก็พอ ไปถึงโรงพยาบาลแล้วค่อยโทรกลับมาบอกก็ได้หนูดีคิดว่าจะอยู่เฝ้าไข้แม่สักสองสามวันตอนนี้หนูดีอยากไปหาแม่เร็วๆ งั้นเราไปกันเลยนะคะ” สาวน้อยร้อนรนด้วยความห่วงหามารดาโดยไม่ได้นึกถึงสิ่งใด เพราะบัดนี้ดวงใจน้อยๆ ของเธอมันลอยไปอยู่แทบเท้าผู้เป็นมารดาที่นอนรอพบเธอในความคิดอันบริสุทธิ์ของตน “ไงคอบร้าแกก็อยากไปด้วยเหรอ อ้าวเจ้ากุ้งแก้วกับจัสมินด้วย พวกแกนี่ถูกไล่มาล่ะสิ เอ หรือว่าไปทำอะไรขวางหูขวางตาพี่ริครึเปล่า เอาเป็นว่าฉันให้พวกแกตามไปด้วยก็ได้ ไปๆ” อรุณนารีมองเจ้าหน้าขนทั้งสาม และพวกมันก็ทำเสียงเหมือนฟ้องว่า ที่เธอพูดมานั้นถูกต้องแล้วทั้งสองสาวพร้อมด้วยลิงสองตัวและหมาอีกหนึ่งตัวก็เดินไปหาเด่นดังที่บ้านเด็กเพราะรู้ดีว่าเด่นดังมักจะไปขลุกอยู่ที่นั่นยามว่างเว้นจากงานเพราะตอนนี้กำลังทำคะแนนเอาชนะใจครูดาวผู้น่ารักนั่นเอง “หนูดีแน่ใจนะว่าน้าฤดีน่ะอยู่โรงพยาบาลที่ว่าจริงๆ” เด่นดังถามอย่างสงสัยในขณะขับรถมาให้น้องสาวยังสถานที่ๆ ชลเขตบอกว่านำตัวดวงฤดีแม่ของฤดีชลมารักษาตัวหลังจากที่นำเครื่องบินเล็กลง
ตอนที่ 137. “ถ้าพ่อกับแม่เขาไม่ยกให้ และสาวสวยคนนั้นไม่ยอมพี่มาร์คจะฉุดมาทำเมียเสียเฉยๆ พอมีลูกสักสี่ห้าคนค่อยพาไปขอขมาอีกทีคราวนี้คาดว่าตากับยายคงยอมเพราะเห็นแก่หลานฮ่าๆๆ” “กรี๊ดตาบ้าจะมาฉุดเขาเหรอนี่แนะๆๆ คนบ้าปล่อยแมงปอนะ มันเย็นแล้วแมงปอไม่อยากเล่นน้ำตอนนี้” หญิงสาวโวยวายเมื่อเขาทำท่าจะพาเธอเดินลงทะเลและต้องโอบกอดลำคอแกร่งวุ่นวายเมื่อเขาทำท่าจะโยนร่างเล็กๆ ของเธอลงทะเลเสียอย่างนั้น “พี่มาร์คหยุดนะถ้าโยนแมงปอนะจะโกรธจริงๆ ด้วยจะไม่พูดด้วยสามวัน” “โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วเราไปเดินเล่นกันก่อนกลับบ้านดีกว่า” ชายหนุ่มชวนและวางร่างเล็กบางลงบนผืนทรายนุ่มก่อนจะกุมมือบางเดินลัดเลาะชายหาดชื่นชมบรรยากาศของอาทิตย์อัสดงด้วยกัน แม้ว่าตอนนี้เขาพยายามไม่แสดงออกถึงความยุ่งยากใจและเรื่องที่สุมอยู่ในหัวให้หญิงสาวได้รับรู้ เขาเลือกที่จะกลบเกลื่อนมันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนตัวเล็กข้างๆ กายแต่เหมันต์ก็สัญญากับตนเองว่าจะจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ชายหนุ่มโอบประคองร่างเล็กไว้ในอ้อมกอด มองท้องทะเลยามอัสดงเกยคางแกร่งกับเรือนผมนุ่มดวงตาสีน้ำ
ตอนที่ 136. เขารู้แต่เพียงว่าเธอเป็นโรคร้ายแต่ไม่รู้ว่าเธอเป็นโรคร้ายที่เรื้อรังระยะสุดท้าย เธอถูกชลเขตนำตัวไปไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดโดยอ้างว่าจะพาเธอไปรักษาตัว แต่ความจริงแล้วชลเขตเพียงแต่นำเธอไปนอนรอความตายโดยที่ไม่ได้ให้การรักษาเธออย่างที่บอกใครๆ แล้วหลอกใช้ฤดีชลให้ทำตามแผนเพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้เหมันต์รับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงาน เขารู้แต่เพียงว่าชลเขตจัดฉากโดยให้ฤดีชลวางยานอนหลับเหมันต์และทำทีเหมือนทั้งสองได้เสียกัน โดยชลเขตกับแอนนิต้าเป็นคนจัดฉากและจัดการทุกอย่าง ในตอนนั้นความโลภและอยากเอาชนะคู่อริทำให้เขาเห็นดีเห็นงามไปด้วย และเห็นว่ามันเป็นเพียงการจัดฉากซึ่งฤดีชลเองก็เต็มใจยอมทำตาม เขาเลยปล่อยเลยตามเลย แต่เขาไม่รู้มาก่อนว่าเบื้องหลังการยินยอมของฤดีชล คือชีวิตของดวงฤดีผู้เป็นมารดาซึ่งชลเขตใช้มาต่อรองกับสาวน้อยผู้โชคร้ายซึ่งเธอก็เป็นลูกสาวของเขาเช่นกัน นายหัวใหญ่ชัชชลเดินไปที่ลิ้นชักหัวเตียงและหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งซึ่งเขาและดวงฤดีเคยถ่ายร่วมกันในวันวาน ภาพถ่ายนั้นทั้งเขาและเธอต่างยิ้มให้กล้องด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความสุข ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายค
ตอนที่ 135. “ไม่เห็นจะยากตรงไหน คุณมีน้องสาวเป็นถึงสะใภ้หิรัญวารินทร์ที่คนทั้งจังหวัดให้ความเกรงใจ แถมยังเป็นมาร์ติเนซคาร์เตอร์ ที่ทั้งร่ำรวยและทรงอิทธิพล คุณจะกลัวอะไร” “จริงสินะที่เธอพูดมันก็ถูก ขอบใจมากแอนนี่เธอนี่ฉลาดเป็นกรดไม่เปลี่ยนเลยนะ” ชายหนุ่มชมแกมประชดหญิงสาวแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้แคร์นักกับสิ่งที่เขาประชดเธอ “ฉันอยากให้เราลงมือเร็วที่สุด เพราะตอนนี้พวกนั้นอาจจะคิดว่าเราไม่กล้าเคลื่อนไหว เราชิงลงมือเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” แอนนิต้าบอกอย่างเป็นการเป็นงาน ใบหน้าสวยฉายแววเร่งร้อน ที่ชลเขตไม่อาจคาดเดาได้ว่าเธอร้อนเพราะความริษยาหรือร้อนเพราะอยากแก้แค้นเหมันต์ที่ไม่หันกลับมาหาเธออีกครั้งหรือแค้นที่ถูกอรุณนารีได้หัวใจของเหมันต์ไปครองกันแน่ “เอาเป็นว่าถ้าเธอพร้อมก็บอกมาฉันเตรียมพร้อมเสมอ อยากเอาคืนไอ้พวกชาวเกาะนั่นเหมือนกันฉันจะถล่มมันให้ราบทั้งเกาะเลยคอยดู” ชลเขตดวงตาวาวโรจน์ขึ้นมาเมื่อนึกถึงวันที่ตนจะได้แก้แค้น นึกถึงวันที่เขาถล่มเกาะนั่นจนราบคาบและทุกอย่างก็จะตกเป็นของเขาทั้งหิรัญวารินทร์ และมาร์ติ เนซ คาร์เตอร์เพราะหากทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ตอนที่ 134. “นายคิมมันคงโกรธและเกลียดหนูดี เจ้าหมอนี่ไม่ชอบวิธีตลบหลังแบบนี้ด้วยที่คิมทำแบบนั้นก็คงท้าทายฝ่ายโน้นและประกาศศึกเต็มที่ แต่ดูเหมือนไอ้เขตมันจะไม่กล้าสู้ซึ่งหน้า คิมหันต์ใจร้อนเกินไปฉันคิดว่าสิ่งที่ทั้งคิม และไอ้เขตมันทำ ผลเสียมันจะมีมากกว่าเพราะคนหลายคนต้องมาสูญเสีย” เหมันต์หน้าเครียดเมื่อคิดว่าการที่หลายชีวิตต้องมาสูญเสียก็เพราะความใจร้อนของคิมหันต์ “แต่มันก็ได้ผลเพราะชลเขตเริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้ว แต่อย่างนายว่า มันไม่กล้าสู้ซึ่งหน้าเราแน่นอน ตอนนี้มันก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่พอสมควรจะทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเดิมด้วยเพราะตอนนี้มันกำลังถูกจับตามอง ซึ่งมันก็เข้าทางเราพอดี” “เอาไงเอากัน เมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วฉันเองก็รอเวลานี้มานานแล้ว” สองหนุ่มมองหน้ากันด้วยอย่างรู้ใจและหันไปมองยังชายหาดเบื้องล่างที่มีหญิงสาวอันเป็นที่รักของพวกเขาอยู่ด้วยแววตาที่ฉายแววกังวลนิดๆ “โว้ยยย! ไอ้คิม ไอ้มาร์คมึง!” ชลเขตโวยวายขว้างปาข้าวของแตกกระจายไปทั่วบ้าน จนลูกน้องที่คอยสอพลอทั้งหลายต้องหามุมหลบดีๆ เพราะถ้าพลาดอาจโดนอะไรลอยมากระแทกหัวก็เป็นได้
ตอนที่ 133.“พี่น่ะไม่โกรธมันหรอกแมงปอ แค่อยากกระเตะก้านคอเฉยๆ นี่มาร์คนายรู้ไหมนั่นน่ะความฝันฉันเลยนะที่อยากจะพาเมียไปล่องเรือฮันนีมูนสุดท้ายนายได้ไปหวานกับแมงปอเฉยเลย ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับฉันแบบนี้” ริคทำท่าเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากร่างสูงเอนกายแหงนหงายไปกับพนักโซฟาตัวสวยพลางโอดครวญอย่างน่าสงสารและน่าหมั่นไส้ในสายตาของเหมันต์ ส่วนนายหญิงกับนายใหญ่ก็ได้แต่มองหนุ่มสาวยิ้มๆ ก่อนจะพากันเดินเลี่ยงไปปล่อยให้หนุ่มสาวคุยกันลำพัง“ก็มัวแต่ท่ามากล่ะ บางทีถ้านายเอานิสัยปากว่ามือถึงแบบเดิมๆ มาใช้ป่านนี้นายได้เข้าหอกับน้ำผึ้งไปแล้ว ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้าท่ามากปากหนักดีนักบางทีการกระทำอย่างเดียวผู้หญิงเขาก็ไม่เข้าใจทั้งหมดนะริค ต้องแบบนี้ แมงปอจ๋าพี่มาร์ครักแมงปอที่สุด แต่งงานกับพี่มาร์คนะจ๊ะที่รักๆๆ” คนที่กำลังมีความสุขได้ทีเอ่ยสอนและแสดงให้ดูด้วยทั้งแววตาท่าทางสุดแสนจะยียวนจนอรุณนารีหน้าแดงเพราะขัดเขินและไม่อยากจะเชื่อว่าชายหนุ่มที่ดูเงียบขรึมและแกร่งกระด้างอย่างเหมันต์จะมีมุมน่ารักๆ เพี้ยนๆ แบบนี้อยู่“พี่มาร์คบ้า ไม่คุยด้วยแล้วไปหาน้ำผึ้งดีกว่า” อรุณนารีเขินจัดที่ชายหนุ่มแสดงความรักต่อเธอด้วยการ
ตอนที่ 132. “ตัวแดงเป็นกุ้งแล้วยัยแมงเปลือย หึๆ ซ่อนรูปนะเราน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกเย้าเสียงกระเส่าแหบพร่าอยู่ริมหูบาง และเพิ่มความซ่านเสียวและเขินอายให้หญิงสาวมากขึ้นเมื่อจมูกและริมปากร้ายกาจฉกชิมความหอมละมุนของผิวสาวที่กลายเป็นสีชมพูไปทั้งตัวอย่างอดไม่ไหวกับความเย้ายวนตรงหน้าจนร่างที่เบี่ยงหนีไร้เรียวแรงขัดขืน ยอมจำนนให้เขาได้เชยชมร่างสาวอีกครั้งแต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่แดงซ่านหวามไหวและแสนจะยินยอมพร้อมใจไปกับบทโอ้โลมของเขา ก็ได้แต่คิดว่าเขาอาจจะอดใจไม่อยู่จริงๆ ร่างสูงจึงตัดใจจุมพิตหนักๆ ที่กลีบปากบวมช้ำเพราะจุมพิตเร่าร้อนดุเดือดของตนหนักๆ แล้วหันไปคว้าผ้าบาติกผืนงามที่เธอใช้พันร่างกายลงมาจากเรือคลุมร่างเล็กแสนเย้ายวนให้อย่างแสนเสียดาย แต่เขาไม่อยากให้เธอเสียใจและเสียความไว้วางใจที่มีต่อเขามากกว่า “เอาล่ะสาวน้อยขึ้นเรือไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ก่อนที่จะเสียสาวก่อนแต่งจริงๆ ยัยแมงปอแก่แดด” “พี่มาร์คคนบ้า” หญิงสาวได้แต่พึมพำเบาๆ แล้วทุบหนักๆ ลงไปบนอกแกร่งอย่างขัดเขินและอับอายสุดขีดที่ยอมเขาได้มากถึงเพียงนี้ นี่ถ้าหากเขาไม่หยุดเธอก็คงจะยอมให้เขาจ