แชร์

บทที่ 54

ผู้เขียน: ลูกพีชแสนสวย
ทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงเย็น ๆ แต่แฝงความอ่อนโยนของกู้จือโม่ดังขึ้น “ดื่มได้ไหม?”

เฉินเยวี่ยเม้มริมฝีปากและเงยหน้ามองกู้จือโม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขที่ปิดไม่มิด “ดื่มได้นิดหน่อย”

หลังจากนั้นเฉินเยวี่ยก็ยกแก้วขึ้นชนกับทุกคน

เมื่อถึงตาฉัน เฉินเยวี่ยยิ้มให้ฉันด้วยแววตาที่ดูเหมือนจะมีความภูมิใจ “ซิงลั่ว”

ฉันมองเธอด้วยความไม่อยากเล่นเกมนี้ แต่ด้วยคนรอบข้างที่มากเกินไป ทำให้ฉันไม่สามารถปะทะกับเธอได้ในที่สาธารณะ

ฉันยืนขึ้น ยกขวดนมเปรี้ยวขึ้นมาชนแก้วกับเธอแบบไม่จริงจังนัก แล้วดื่มพอเป็นพิธี

เมื่อเลิกงานแล้วก็เกือบสามทุ่ม ด้วยความที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ นักเรียนบางคนก็กลับบ้าน ส่วนบางคนก็กำลังวางแผนไปเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ต

สุดท้ายเหลือแค่ฉัน กู้จือโม่ เฉินเยวี่ย และช่างภาพจากฝ่ายวางแผนอีกคน

ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมา เฉินเยวี่ยถามฉันด้วยท่าทีเสแสร้งว่า “ซิงลั่ว อยากไปกับพวกเราไหม?”

ในขณะที่เฉินเยวี่ยพูด กู้จือโม่ก็ขับรถมาถึงข้างเธอแล้ว

รถสปอร์ตมาเซราติสีดำคันนั้นมีแค่สองที่นั่ง

ฉันไม่แน่ใจว่าเฉินเยวี่ยยังเสแสร้งอีกนานแค่ไหน ฉันจึงยิ้มออกมาพร้อมตอบกลับไปว่า “ได้สิ งั้นฉันนั่งข้างหน้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 55

    วันถัดมาหลังเลิกเรียน เฉียวเจี้ยนกั๋วก็โทรหาฉันตั้งแต่เปิดเทอมมาเป็นเดือน ๆ นอกจากหลี่เหม่ยอิงที่ส่งเงินค่าใช้จ่ายมาให้ตามปกติแล้ว ฉันก็แทบไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยฉันมองดูชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ โดยไม่แน่ใจถึงจุดประสงค์ของโทรศัพท์สายนี้หลังจากหยุดไปสักครู่ ฉันก็ตัดสินใจรับสายเสียงของเฉียวเจี้ยนกั๋วดังมาจากปลายสาย ไม่มีการถามไถ่สุขทุกข์ใด ๆ เขาเข้าประเด็นทันที "วันชาตินี้จะกลับบ้านไหม?"ฉันถือหนังสือไว้ในมือ ขณะกำลังเดินกลับหอพัก "มีงานเยอะ ไม่กลับค่ะ"“ดีเลย” เฉียวเจี้ยนกั๋วพูดต่อ เหมือนเขากำลังดื่มชาอยู่ เพราะฉันได้ยินเสียงแก้วกระทบโต๊ะ “พอดีมีลูกชายเพื่อนพ่ออยู่ที่ปักกิ่งเหมือนกัน วันชาติถ้าไม่กลับบ้าน ก็ไปเจอกับเขาหน่อยสิ”ฉันรู้สึกทั้งตลกและโกรธไปพร้อมกันฉันเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกแท้ ๆ แต่เขากลับเริ่มรีบร้อนแนะนำผู้ชายให้ฉันเสียแล้วถ้าฉันไม่ได้กลับมามีชีวิตใหม่ และเตรียมตัวรับมือไว้ล่วงหน้า ฉันอาจจะถูกเขาขายให้คนอื่นก่อนจบมหาวิทยาลัยเสียด้วยซ้ำฉันหยุดยืนอยู่ตรงจุดที่เงียบสงบไม่ไกลจากหอพักมากนัก “หนูไม่ไป”"ว่าอะไรนะ?" เฉียวเจี้ยนกั๋วพูดด้วยน้ำเสียงดัง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 56

    ฉันยืนคิดอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปสอบถามฉันมีใบรับรองการเล่นเปียโนระดับแปด พอหัวหน้าเห็นก็ให้ฉันเล่นโชว์ครึ่งชั่วโมงทันที แล้วถามว่าฉันสามารถมาทำงานวันพุธ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ได้ไหม ซึ่งเวลาทำงานคือช่วงสองทุ่มถึงเที่ยงคืน และเขาจะให้ค่าจ้างฉันชั่วโมงละห้าร้อยบาทหนึ่งคืนฉันจะได้สองพันบาท สัปดาห์ละสามวันก็ตกเป็นเงินกว่าห้าพันบาท เดือนหนึ่งฉันจะมีเงินเหลือเก็บไว้บ้างฉันดีใจมาก จึงตอบตกลงทันทีระหว่างทางกลับหอพัก ฉันแวะร้านชานมและไก่ทอด แล้วสั่งใส่กล่องกลับไปฝากเพื่อน ๆ ด้วยขณะที่กำลังรออยู่ในร้านชานม โทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นฉันกดรับสาย และเสียงเฉิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจและเสียงสะอื้นดังมาจากปลายสาย “ลั่วลั่ว เธอพอจะมารับฉันที่สถานีตำรวจได้ไหม?”สถานีตำรวจ!สองคำนี้ระเบิดในหัวของฉัน ฉันรีบหันหลังกลับแล้วยกมือเรียกแท็กซี่นิสัยของเฉิงเฉิงไม่มีทางก่อเรื่องแน่ ๆ เธอเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไห่เฉิง แล้วใครกันที่รังแกเธอ?ฉันกระโดดขึ้นแท็กซี่ “ไม่ต้องห่วง อย่ากลัวนะ ฉันกำลังจะไปสนามบินเดี๋ยวนี้ ฉันจะซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่เร็วที่สุด แล้วจะไปเดี๋ยวนี้”“เฉิงเฉิง ไม่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 57

    ความตั้งใจของกู้จือโม่ชัดเจนมาก เขายังคงปกป้องเฉินเยวี่ยเหมือนเคย ไม่ว่ายังไงก็ตาม แม้ว่าเฉินเยวี่ยจะเป็นฝ่ายผิด เขาก็ไม่อยากให้ฉันทำให้เธอลำบากแต่ทำไมฉันต้องยอมด้วย?เฉินเยวี่ยก่อเรื่องมาหลายครั้งแล้ว ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยว แต่ไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมให้เธอรังแกไปตลอดฉันจ้องมองกู้จือโม่โดยไม่พูดอะไร ความเงียบครอบงำเราชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาฉัน “เรามาคุยกันหน่อย”เขาคงตั้งใจว่าจะปกป้องเฉินเยวี่ย และฉันก็ไม่มีทางปล่อยให้เฉิงเฉิงต้องโดนรังแกฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการคุยอะไร และก็ไม่มีความสนใจที่จะฟัง แต่ก่อนที่ฉันจะปฏิเสธ เขาก็จับข้อมือฉันแล้วดึงออกไปด้านนอกทันทีเฉินเยวี่ยรีบลุกขึ้น “อาโม่!”กู้จือโม่ไม่หันกลับไป “เธออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวฉันรีบกลับมา”ฉันถูกบังคับให้เดินตามเขา ความโกรธพลุ่งพล่านในใจฉันพยายามดิ้นและสะบัดมือ แต่ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ไม่สามารถดึงมือออกจากการจับกุมของเขาได้เลยฉันโกรธจัดจนเผลอจะก้มลงกัดมือของกู้จือโม่ แต่เขากลับหยุดเดิน พร้อมกับยิ้มเยาะ “มีแต่ลูกหมาเท่านั้นที่กัดคน”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็หยุดการกระทำของตัวเองฉันเงยหน้ามองเขาและพูดด้วยน้ำ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 58

    "เฉิงเฉิง เธอเชื่อใจฉันไหม?"เฉิงเฉิงพยักหน้าแรง ๆ "เชื่อสิ ฉันเชื่อในตัวลั่วลั่วที่สุดเลย"ฉันยิ้มเล็กน้อย แล้วเอื้อมมือไปจัดผมให้เธอ "ถ้าเชื่อในตัวฉัน วันนี้ตบที่พวกเขาตบเธอ ฉันจะทวงคืนให้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้""ตกลงไหม?" ฉันมองเธอด้วยความมั่นใจเฉิงเฉิงขยับเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบเบา ๆ "เธอจะไปสู้กับพวกเขาด้วยเหรอ?"ฉันมองหน้าเธอแล้วกระซิบกลับ "จะจัดการพวกนั้นให้หมดในทีเดียวเลย""จริงเหรอ? ต้องการให้ฉันช่วยไหม? หรือเราจะไปซื้อสเปรย์พริกไทยกันก่อนดี?"เฉิงเฉิงก็ยังคงเป็นเฉิงเฉิงที่ร่าเริงและมองโลกในแง่ดีเสมอ เธอคอยดูแลความรู้สึกของฉันตลอดเวลาฉันส่ายหัว แล้วบอกให้เธอรอฉันสักครู่หลังจากนั้น กู้จือโม่ก็พาเฉินเยวี่ยออกจากห้องไกล่เกลี่ยเฉินเยวี่ยยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ภายนอกเธอดูไร้เดียงสาและน่าสงสาร แต่สายตาที่เธอมองฉันกลับแฝงด้วยความท้าทายที่ยากจะสังเกตในชาติก่อน ฉันถูกหลอกด้วยท่าทางใสซื่อแบบนี้ของเธอมานาน แต่ตอนนี้…"เฉินเยวี่ย เฉิงเฉิงทำร้ายเธอโดยไม่ตั้งใจ ฉันขอโทษแทนเธอด้วย""ไม่ต้องหรอก" เฉินเยวี่ยดึงชายเสื้อของกู้จือโม่แล้วยิ้มเล็กน้อย "เฉิงเฉิงไม่ได้ตั้งใจ""ฉันขอโทษแล้วนะ" ฉ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 59

    เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันบอกเฉิงเฉิงว่าฉันมีเรียนตอนเช้า ให้เธอนอนต่อไปก่อน พอฉันเรียนเสร็จจะกลับมารับแล้วไปเที่ยวด้วยกันพอไปถึงมหาวิทยาลัย ฉันขอเบอร์โทรศัพท์ของเฉินเยวี่ยจากเพื่อนคนหนึ่ง แล้วส่งข้อความไปหาเธอ บอกให้เธอไปพบฉันที่ป่าหลังสนามกีฬาไม่นานนัก เฉินเยวี่ยก็มาถึงวันนี้เธอแต่งตัวเหมือนนางฟ้า แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความบริสุทธิ์และใจดีภายนอกของเธอ ภายในจิตใจของเธอนั้นจะเน่าเฟะฉันไม่เข้าใจและไม่อยากเข้าใจเลยว่า ทำไมเธอต้องทำถึงขนาดนี้ เพียงแค่เพื่อผู้ชายคนเดียว ถ้ามันเป็นของเธอ มันก็จะเป็นของเธอ ถ้าไม่ใช่ของเธอ ต่อให้เธอใช้เล่ห์กลมากมายแค่ไหน สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์เฉินเยวี่ยเดินมาถึงตรงหน้าฉัน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความพึงพอใจ"เฉียวซิงลั่ว เธอมีอะไรจะ..."ฉันไม่รอให้เธอพูดจบ มือซ้ายของฉันจับผมลอนใหญ่ของเธอ แล้วมือขวาก็ฟาดไปที่หน้าของเธอเต็มแรงเสียง ‘เพียะ’ ดังสนั่น พร้อมกับรอยฝ่ามือสีแดงปรากฏบนหน้าของเฉินเยวี่ยหลังจากที่ฉันฟาดเธอเสร็จ ฉันก็ปล่อยมือจากผมเธอเฉินเยวี่ยเอามือกุมหน้า เธอยืนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหันมามองฉันด้วยความตกตะลึง "เฉียวซิงลั่ว เธอกล้าตบฉันเหรอ?"ฉันมอง

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 60

    ผู้จัดการร้านอาหารรีบพาพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามา แต่ด้วยความที่ชายคนนั้นมีรูปร่างใหญ่โตและมีตำแหน่งฐานะอยู่บ้าง ทำให้พวกเขาไม่กล้าใช้กำลังทันที ผู้จัดการพยายามพูดเกลี้ยกล่อม แต่ชายคนนั้นกลับผลักผู้จัดการออกแล้วดึงตัวฉันเข้าไป “จะโวยวายไปทำไม? อย่าขัดจังหวะเวลาฉันจีบสาวสิ”จริง ๆ แล้ว ฉันสามารถหลบมือของชายคนนั้นได้ แต่ทันทีที่เฉิงเฉิงยืนขึ้นขวางทางเพื่อปกป้องฉัน ชายคนนั้นก็ยื่นมือมาคว้าเฉิงเฉิง ฉันจึงรีบไปดึงเธอออกมา แต่กลับถูกชายอ้วนคนนั้นจับข้อมือแล้วดึงฉันเข้ามาในอ้อมแขน"ปล่อยฉันนะ!"เขากอดเอวฉันไว้ มือของเขาลูบแขนฉันอย่างไม่เกรงใจ จมูกของเขาสูดดมเส้นผมของฉันอย่างน่าขยะแขยงเมื่อฉันรู้สึกว่าเส้นความอดทนของตัวเองกำลังจะขาดสะบั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยก็กดตัวชายอ้วนลงกับพื้นได้สำเร็จชายอ้วนคนนั้นเริ่มสาปแช่งเสียงดัง แขกหลายคนเริ่มพูดถึงพฤติกรรมของชายอ้วนและวิธีการจัดการของทางร้านเฉิงเฉิงโอบฉันไว้และปลอบโยน ฉันหลับตาลงกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ฉันอยากกลับบ้าน”“อื้ม ๆ เรากลับบ้านกัน” เฉิงเฉิงพาฉันเดินไปหาผู้จัดการร้านแล้วพูดว่า “เห็นพนักงานโดนลวนลามแต่ไม่ห้าม ปล่อยให้โดนดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 61

    วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันไม่ได้กลับไปทำงานที่ร้านอาหารเพราะพี่ชายของเฉิงเฉิงเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ทำให้ร้านต้องจ่ายเงินชดเชยให้ฉัน และในที่สุดฉันก็พบภาพของเฉินเยวี่ยในกล้องวงจรปิดของร้านอาหารด้วยไม่นานหลังจากนั้น เฉิงเฉิงก็ถือโทรศัพท์วิ่งเข้ามาหาฉัน “ลั่วลั่ว ดูนี่สิ”ฉันรับโทรศัพท์จากเธอ ในโทรศัพท์มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายอ้วนคนนั้น ฉันเปิดดูข้อมูลพลางฟังเฉิงเฉิงพูดไปด้วย “พี่ชายฉันบอกว่าหมอนี้ไม่ใช่คนปักกิ่ง แถมไม่ใช่คนจากตระกูลใหญ่อะไรเลย พี่ฉันบอกว่าน่าจะเป็นพวกนักเลงหัวไม้ที่แอบเข้ามาในร้านอาหาร”คำถามในหัวของฉันเริ่มปะติดปะต่อกันได้แล้วทำไมฉันถึงเห็นเฉินเยวี่ยในร้านอาหาร? และทำไมร้านอาหารหรูแบบนั้น ถึงได้ปล่อยให้พนักงานถูกลวนลามโดยไม่ทำอะไรเลย แถมยังทำเป็นนิ่งดูดายอีกด้วยเฉิงเฉิงพูดพลางนั่งลงข้าง ๆ ฉัน มือของเธอวางบนแขนฉัน “ลั่วลั่ว ฉันว่าพวกเราช่วงนี้โชคร้ายกันนิดหน่อย เราไปขอเครื่องรางที่วัดกันดีไหม?”ฉันหลุดออกจากความคิด หันไปมองเธอแล้วยิ้มออกมา “ได้สิ”เฉิงเฉิงเป็นคนที่คิดอะไรแล้วก็ต้องทำตามนั้นทันที พอฉันตอบตกลง เธอก็พูดเลยว่าไปกันเถอะหลังจากนั้นเธอก็พ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 62

    ฉันมุ่งมั่นตั้งใจเรียนและเริ่มมองหางานฝึกงาน ฉันไม่ได้จำกัดการหางานไว้แค่ตำแหน่งผู้ช่วยดีไซเนอร์เท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงงานที่เกี่ยวข้องกับอัญมณี ผ้า การผลิตเสื้อผ้า หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเสื้อผ้า ฉันก็อยากลองดูไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือเปล่า แต่ฉันดันหาตำแหน่งผู้ช่วยดีไซเนอร์ได้จนได้ ดีไซเนอร์คนนี้ถือว่ามีชื่อเสียงพอสมควรในวงการ เพียงแต่มีอารมณ์แปรปรวนและค่อนข้างจะมีนิสัยประหลาดหลังจากทำงานมาได้สัปดาห์หนึ่ง เฉียวเจี้ยนกั๋วก็โทรมาหาฉันอีกครั้งตอนนั้นฉันเพิ่งเลิกงาน กำลังลงจากรถเมล์และกำลังเดินกลับมหาวิทยาลัยเขาถามว่าฉันอยู่ที่ไหน ฉันมองดูพระจันทร์บนท้องฟ้าแล้วตอบไปว่า “คุณเฉียว คุณอาจจะลืมไปแล้วว่า คุณได้ตัดรายได้ของฉันไปแล้ว ตอนนี้พวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก ฉันจะอยู่ที่ไหนทำไมต้องบอกคุณด้วย?”เสียงของเฉียวเจี้ยนกั๋วเต็มไปด้วยความโกรธ “เฉียวซิงลั่ว แกไม่อยากให้ฉันไปรับย่าของแกออกจากบ้านพักคนชราใช่ไหม?”ฉันได้ยินดังนั้น เสียงของฉันก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที “เฉียวเจี้ยนกั๋ว พ่อกล้าเหรอ! นั่นแม่ของพ่อนะ!”เฉียวเจี้ยนกั๋วหัวเราะเยาะ “แม่ของฉัน? ยายแก่คนนั้น

บทล่าสุด

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 348

    แววตาของเขาสะท้อนอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเจอเรื่องร้าย”ฉันถอนหายใจเบา ๆ ในใจรู้สึกซับซ้อนอยู่ไม่น้อยความห่วงใยของกู้จือโม่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกดดันไปด้วยฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และยิ่งไม่อยากให้เขาทำอะไรที่หุนหันพลันแล่นเพราะความเข้าใจผิดนั้น“กู้จือโม่ ฉันรู้ว่านายหวังดี แต่ฉันกับซูข่ายเหวินเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เราทั้งคู่กำลังพยายามเปิดโปงความผิดของศาสตราจารย์จาง ฉันหวังว่านายจะเข้าใจนะ”ฉันพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงใจที่สุดเขาเงียบไปสักพัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้า“ได้ ฉันเชื่อเธอ แต่เธอต้องระวังตัวให้ดี ศาสตราจารย์จางไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ”ฉันมองเขาด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วพยักหน้าเบา ๆ“ฉันจะระวังตัว ขอบคุณนะ กู้จือโม่”เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาสะท้อนความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย“ไม่ต้องเกรงใจ ไปเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอพักเอง”พวกเราเดินไปด้วยกันในบริเวณโรงเรียน แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องกระทบตัวเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบฉันรู้สึกถึงความสงบและความมั่นใจที่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 347

    ฉันแค่นหัวเราะเย็นโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ส่วนผู้หญิงตรงหน้าดูจะไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้“ฉันก็ไม่อยากพูดคำสวยหรูพวกนี้กับคุณ และก็ไม่มีเวลาจะเสียไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นพอแค่นี้เถอะ ฉันจะไปแล้ว”ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้เลยพอฉันกลับมาถึงมหาวิทยาลัยก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลตามคาดกู้จือโม่เดินเข้ามาหาทันที พร้อมจ้องมองฉันด้วยสายตาร้อนแรง“ได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เป็นยังไงบ้าง?”ฉันยิ้มบาง ๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูอ่อนแอจนเกินไป“ไม่มีอะไรน่าห่วง แค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น”กู้จือโม่ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉันนัก เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล“เธอแน่ใจนะ? ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ต้องบอกฉันนะ”ฉันพยักหน้าเบา ๆ ความอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นในใจในโลกที่ซับซ้อนใบนี้ การมีใครสักคนที่ห่วงใยอยู่เสมอเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจฉันไม่ได้แหลมคมเฉียบขาดเหมือนเมื่อก่อน และก็ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแบบเดิมอีกแล้ว“ขอบคุณนะ ฉันจะระวังตัว”กู้จือโม่ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉั

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 346

    ในช่วงหลายวันต่อมา ฉันและซูข่ายเหวินให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งติดตามข่าวจากสื่ออย่างใกล้ชิดไม่นานนัก อาชญากรรมของศาสตราจารย์จางก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละเรื่องแต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ เรื่องนี้กลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์อื่นอย่างรวดเร็วและเรื่องนี้ก็ถูกตำรวจจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคำตอบสุดท้ายจะทำให้ฉันประหลาดใจมาก โดยเฉพาะตอนที่ตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าฉันและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง“จากการสืบสวนของเรา พบว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่ต้องการปล้นเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาถูกจ้างวานให้ฆ่าแต่อย่างใด”ฉันเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินปล้นงั้นเหรอ?เป็นไปได้ยังไง?คนนั้นชัดเจนว่าเล็งเป้าหมายมาที่ฉันโดยตรง แถมยังทิ้งคำพูดที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์จางไว้หลังจากก่อเหตุ นี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้จริง ๆ เหรอ?“แต่... มีดในมือของเขา วิธีที่เขาโจมตีฉัน รวมถึงคำพูดนั้น...”ฉันพยายามอธิบาย แต่เสียงของฉันกลับอ่อนลงเรื่อย ๆซูข่ายเหวินจับมือฉันไว้ เป็นสัญญาณให้ฉันสงบสติอารมณ์ลงเขาหันไปมองตำรวจ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจตำรวจดู

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 345

    ฉันตกใจอย่างมาก คาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะลงมือทำร้ายฉันจริง ๆฉันรีบปรับสภาพจิตใจของตัวเองอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีที่อาจตามมาคนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนไม่คิดจะให้ฉันมีโอกาสได้พักหายใจเลย เขาเงื้อไม้เบสบอลขึ้นอีกครั้งแล้วฟาดมาทางฉันอย่างรุนแรง!ฉันหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว พลางมองหาจังหวะที่จะตอบโต้กลับไปหลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ฉันสังเกตได้ว่าคนคนนี้มีฝีมือพอตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นทางการฉันรู้สึกยินดีอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะเห็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเอาชนะเขาได้ฉันเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน พยายามทำลายจังหวะของเขาเพื่อให้เขาเสียสมดุลและเปิดช่องโหว่หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง ฉันก็พบช่องโหว่และซัดหมัดตรงเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง!เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นฉันถือโอกาสพุ่งเข้าไป หวังจะควบคุมตัวเขาให้สิ้นฤทธิ์แต่ในขณะนั้นเอง เขากลับควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วพุ่งแทงมาทางฉัน!ฉันตกใจสุดขีด รีบถอยหลังออกไปทันทีแต่ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีแรงมากนัก จะรับมือกับชายที่ดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร?มีดสั้นพุ่งตรงมาทางฉัน ก่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 344

    “บางทีคุณอาจพูดถูก หากไม่มีการสนับสนุนจากคุณ ฉันอาจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากขึ้น แต่ฉันก็เชื่อว่า ตราบใดที่ฉันพยายามมากพอและยืนหยัดอย่างมั่นคง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ และฉันก็เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีอีกหลายคนที่มีความฝันและพรสวรรค์เหมือนฉัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้!”เขาชัดเจนว่าโกรธจัดเพราะคำพูดของฉัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองฉันอย่างดุดัน“เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนอะไรได้งั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่าเธอคิดผิด! เธอจะต้องเสียใจในทุกสิ่งที่เธอทำในวันนี้แน่นอน!”ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“บางทีฉันอาจจะเสียใจ แต่ฉันจะไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ฉันเลือก เพราะฉันรู้ดีว่า มีเพียงหนทางนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันเป็นตัวของตัวเอง และทำให้ฉันสามารถเติมเต็มความฝันของตัวเองได้ และสำหรับคุณ ศาสตราจารย์จาง คุณจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของตัวเอง”พูดจบ ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปตอนนั้นเอง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาซูข่ายเหวิน“หลักฐานทั้งหมดเก็บรวบรวมเรียบร้อยหรือ

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 343

    คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกและเหยียดหยาม ราวกับว่าเขาได้จัดฉันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับเด็กสาวที่ยอมประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์ไปแล้วอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้อ่อนแอและถูกกดขี่ยังไงก็ได้อย่างที่เขาคิด ฉันมีหลักการและขอบเขตของตัวเองฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำให้จิตใจสงบลง จากนั้นก็มองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น“ศาสตราจารย์จาง บางทีคุณอาจเข้าใจอะไรผิดไป ฉันมาที่นี่เพราะความหลงใหลในงานออกแบบและความกระหายในความรู้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอย่างที่คุณว่า ถ้าคุณคิดว่าการกระทำของคุณจะทำให้ฉันยอมจำนน ฉันคงต้องบอกว่าคุณคิดผิดแล้ว”เขาไม่คาดคิดว่าฉันจะกล้าตอบโต้เขาอย่างตรงไปตรงมา สีหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงทันที ดวงตาเผยให้เห็นแววโกรธเคืองแวบหนึ่งอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ถอยหนีเพราะเหตุนี้ ฉันยังคงอธิบายจุดยืนของตัวเองต่อไป“ฉันรู้ว่า ในวงการนี้มีบางคนที่ใช้ตำแหน่งและอำนาจของตัวเองทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ฉันอยากบอกว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น และฉันก็จะไม่มีวันเป็นแบบนั้น ฉันให้เกียรติตัวเอง ทั้งยังให้เกียรติผู้อื่น ฉันหวังว่าคุณจะเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย”เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมาเบา

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 342

    บางทีอาจเป็นเพราะฉันเคยพบเจอผู้คนมามากมาย จึงทำให้ฉันเข้าใจได้ว่าคนประเภทนี้มีความคิดที่รอบคอบเพียงใด และยังทำให้ฉันรับรู้ได้ถึงเจตนาที่แท้จริงของพวกเขาด้วยนี่คิดจะใช้วิธีนี้เพื่อล่อให้ฉันตกหลุมพรางงั้นเหรอ? ดูเหมือนจะโง่ไปหน่อยนะ แต่ฉันจะไม่รีบร้อนหรอก ของดีมักจะมาในตอนท้าย และฉันมั่นใจว่าจะสามารถจับจุดอ่อนของเขาได้แน่นอนฉันแสร้งทำเป็นมีท่าทีคาดหวังอย่างตั้งใจ สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นความหมายที่ยากจะคาดเดา จากนั้นสายตาของเขาก็เริ่มเปล่งประกายร้อนแรงขณะมองมาที่ฉัน แล้วก้าวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น“ฉันได้พิจารณาแบบร่างของเธออย่างละเอียดแล้ว ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างธรรมดานะ แต่ที่เธอสามารถโดดเด่นขึ้นมาได้ในครั้งนี้ คงเป็นเพราะโชคช่วยเสียมากกว่า เพราะอันดับของเธอไม่ได้อยู่ในระดับต้น ๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ครั้งนี้เธอได้รับโอกาสที่ดีมาก ก็หวังว่าเธอจะสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์และค้นพบศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่”เมื่อได้ยินคำวิจารณ์ของเขา ฉันแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของฉันเลย แต่การที่เขาพูดแบบนี้ออกมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 341

    เมื่อมีความคิดเช่นนี้ ฉันก็รักษาสีหน้าที่อ่อนโยนไว้ทันที เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งรถจอดลงที่นี่ ฉันก็เดินตามผู้ชายคนนั้นขึ้นไปบนชั้นอย่างรวดเร็วขณะอยู่ในลิฟต์ เขาหันกลับมามองฉันแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็แฝงไปด้วยอารมณ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจและแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก“ศาสตราจารย์จางเป็นอาจารย์ที่ทุกคนยกย่องมาโดยตลอด การที่เธอได้รับโอกาสนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หายาก แต่มีบางเรื่องที่ฉันต้องอธิบายให้เธอเข้าใจ”ฉันพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้อีกฝ่ายเชื่อจริง ๆ ว่าฉันเป็นคนไร้เดียงสาและใสซื่อ“ต่อจากนี้ ศาสตราจารย์จางอาจจะให้คำแนะนำเธอเกี่ยวกับบางประเด็น และยังเสนอวิธีที่ดียิ่งขึ้นให้กับเธอ เพื่อที่เธอจะสามารถก้าวไปได้ไกลขึ้นบนเส้นทางที่เกี่ยวข้องนี้”ฉันย่อมรู้ดีว่า ‘วิธี’ ที่ว่าก็คือการเรียนการสอนตามเส้นทางที่เป็นทางการเท่านั้น แต่ในตอนนี้ ฉันกลับแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย พร้อมกับถามเขาด้วยท่าทีไร้เดียงสา“แล้วทำไมถึงนัดที่นี่ล่ะคะ? นัดในห้องเรียนไม่ได้เหรอ?”ฉันแสร้งทำเป็นรู้

  • หวนรักหนีลิขิต   บทที่ 340

    หลังจากวางสาย ฉันรีบแจ้งเรื่องนี้ให้ซูข่ายเหวินรู้เป็นอันดับแรก แต่เขากลับไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจอย่างที่ฉันคาดไว้เลย ตรงกันข้าม เขากลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ จากนั้นก็เผยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า“ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ถ้าอย่างนั้น ต่อจากนี้คงต้องลำบากเธอหน่อย การต้องอยู่กับคนเลวแบบนี้คงเป็นเรื่องที่เหนื่อยแน่ ๆ เธอต้องทำให้เขาตายใจและลดความระมัดระวังลงให้ได้”ฉันพยักหน้าตอบรับ แน่นอนว่าฉันรู้ดีว่าสิ่งนี้อันตรายแค่ไหน และก็รู้เช่นกันว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างรอบคอบให้ดีที่สุด“อุปกรณ์ที่ฉันให้เธอ อย่าลืมใช้ล่ะ เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแน่ ๆ แต่มั่นใจได้เลยว่าอุปกรณ์ที่ฉันให้ จะสามารถบันทึกหลักฐานความผิดของเขาได้ทั้งหมด”ฉันพยักหน้า เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ซูข่ายเหวินให้ฉันนั้นต้องมีประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นฉันจะไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอย่างแน่นอนด้วยแผนการที่รอบคอบของเราทั้งสองคน เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน และเมื่อนั้นก็จะไม่มีใครสามารถคุกคามสาว ๆ ที่ไร้เดียงสาเหล่านี้ได้อีกต่อไปเมื่อลมเย็นพัดผ่านตัวฉันในค่ำคืนนี้ ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเวลานัดห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status