แชร์

หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง
หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง
ผู้แต่ง: Sanassetong

1

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-01 13:31:46

ในเทศกาลสิ้นปีโคมไฟรูปทรงต่างๆลอยขึ้นสู่ฟากฟ้ามีแสงสว่างเรืองรองต่อกันเป็นสาย ทุกคนต่างอธิษฐานขอให้ใต้ล่าสงบสุขในเร็ววัน ช่วงสงครามอย่างนี้หลายๆผู้หลายๆคนไม่มีกระจิตกระใจที่จะจัดงานปีใหม่ เหล่าแม่ทัพน้อยใหญ่ต่างก็ประจำกันอยู่ที่ด่านต่างๆ บันดาลูกและภรรยาต่างนั่งสวดมนต์อธิษฐานให้ท่านพ่อและสามีนั้นปลอดภัยจากสงคราม มีแต่รัชทายาทผู้เดียวเท่านั้น ที่ป้องกันอยู่ ณ ดินแดนทางเหนือของแคว้นตง ที่เขาถูกเรียกตัวกลับมาเมืองหลวง เพื่อที่จะเฉลิมฉลองในวันเทศกาลปีใหม่นี้ คราแรกเขาไม่เต็มใจมากนักเนื่องจากสถานการณ์ของสงครามนั้น ยังอยู่ช่วงวิกฤตอยู่ แต่เสด็จพ่อของเขาสั่งแล้วมิสามารถที่จะขัดคำสั่งได้ เป็นห่วงบ้านเมืองก็เป็นห่วงแต่ท่านพ่อของเขาเป็นถึงฮ่องเต้จะให้ขัดคำสั่งได้อย่างไร องค์ชายรัชทายาทมีกองกำลังอยู่นับครึ่งของแคว้น เขาได้สั่งแม่ทัพต่างๆก่อนที่เขาจะเดินทางกลับวังหลวงให้ดูแลเข้มงวด เพราะไม่รู้ว่าข้าศึกจะใช้ช่วงที่เขากลับวังนั้นโจมตีด่านต่างๆหรือไม่ มารดาของเขาได้เสียชีวิตไปในยามสงครามครั้งที่เขาอายุเพิ่งได้หกขวบ ครั้งนั้นเกิดวิกฤตใหญ่หลวงยังดีที่ฮ่องเต้ทรงหลุดพ้นออกมาได้ ถึงแม้ว่าภรรยาสุดที่รักจะเสียไป แต่เขาก็ยังกอบกู้แคว้นตรงขึ้นมาได้ ครั้งนี้ที่เสด็จพ่อได้เรียกตัวขององค์ชายรัชทายาทกลับมาเนื่องจากว่าเขาเองก็มีอายุยี่สิบปีแล้วจึงเหมาะสมที่จะหาคู่ครองเสียที แต่เนื่องจากเขาออกรบและประจำการอยู่ที่ด่านทางด้านทิศเหนือตลอดเวลา จึงไม่สามารถที่จะหาสตรีมาแต่งงานกับตนได้ ฮ่องเต้ไม่เคยต้องการให้บุตรชายออกไปรบแต่อย่างใด เป็นเพราะองค์ชายรัชทายาทนั้นฝังใจเรื่องมารดาที่เสียไปตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุได้เพียงหกขวบซึ่งครั้งนั้น ข้าศึกบุกเข้ามายังวังหลวงและจับสตรีทุกคนของฮ่องเต้จนในที่สุดก็ได้ฆ่ามารดาของเขา เขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียใครในสงคราม จึงต้องสละตัวเองที่ออกไปจัดการกับข้าศึกด้วยตัวเอง เรื่องแต่งงานนี้นเขาไม่เคยที่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ เดิมทีตำแหน่งรัชทายาทนั้นเขาไม่ต้องการแต่เพราะฮ่องเต้รักและชื่นชมในตัวของมารดาของเขาจึงมอบตำแหน่งนี้ให้ตั้งแต่ที่มารดาของเขาเสียไป บุรุษที่ใบหน้าหล่อเหลา ผิวกลับคล้ำเนื่องจากถูกแสงแดดเป็นเวลานาน ได้ขี่ม้ากลับมากับลูกน้องคนสนิท

"นายน้อยขอรับเราจะถึงวังหลวงแล้วจะเข้าไปเลยไหมขอรับหรือเราจะกลับตำหนักองค์ชายรัชทายาทเสียก่อน"

ซูเสวี่ยลูกน้องของคนสนิทของหนามกงฟู่กล่าวถามผู้เป็นนายขึ้น

"ไปถวายบังคมเสด็จพ่อก่อนเถอะเดี๋ยวค่อยกลับตำหนัก"

หนามกงฟู่กล่าวขึ้นพลางลงจากหลังม้าและยื่นเชือกให้ลูกน้องของตัวเองแล้วเดินเข้าไปในวังทันที

"เสด็จพ่อลูกของคารวะพะยะค่ะ ขณะนี้ทางค่ายทหารของทิศเหนือกำลังเตรียมตัวเพื่อที่จะรอให้ทหารฝ่ายแคว้นอี้โจมตีก่อนพวกเราสู้กับแน่นอนขอรับ"

หนามกงฟู่กล่าวขึ้น

"อ้ามาแล้วหรือ เราเรียกตัวเจ้ากลับมาเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ เราไม่ได้เรียกตัวเจ้ากลับมาเพื่อที่จะมารายงานเรื่องสนามรบ เจ้าพอกับเรื่องรบได้แล้ว เจ้าให้แม่ทัพที่อยู่ฝ่ายเหนือนั้นทำเถอะเจ้ากลับมาอยู่ในพระราชวัง เราจะหาบุตรีแม่ทัพ หรือบุตรีขุนนางให้สักคนเพื่อที่จะตกแต่งกับเจ้า เรื่องของมารดาเจ้าก็ปล่อยวางเสียเถอะพ่อคิดว่าแม่ทัพของพวกเรา ก็มีแต่คนที่เก่งกาจซึ่งเขาก็เป็นลูกน้องของเจ้าทั้งนั้น เจ้าก็น่าจะเชื่อใจในตัวลูกน้องของเจ้านะ พวกเขาน่าจะพาแคว้นตงของเราให้อยู่รอดได้"

ฮ่องเต้หนามกงเฉินกล่าวกับบุตรชาย

"มันไม่เหมือนกันนะขอรับท่านพ่อ หากข้าได้ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารและท่านแม่ทัพทุกคนมันก็จะเป็นขวัญและกำลังใจให้พวกเขาต่อด้านศัตรูได้ดี ข้าเองเป็นถึงราชวงศ์แต่ยังออกรบด้วยตนเองนั่นแหละทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขานั้นสำคัญขนาดไหนข้าถึงทำงานร่วมกับพวกเขา"

องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่กล่าวขึ้น

"พ่อไม่เถียงเจ้าแล้วก็ได้ เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว งานเทศกาลปีใหม่นี้ข้าให้แม่เจ้าจัดเตรียมสาวงามลูกหลานของเหล่าแม่ทัพ ในการแต่งงานของเจ้า ถึงข้าจะเป็นบิดาแต่ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า ข้าอยากให้เจ้าเปิดใจให้สาวงามพวกนั้นหากเจ้าสนใจผู้ใดเจ้ามารายงานกับท่านแม่เจ้าได้เลย"

ฮ่องเต้หนามกงเฉิงกล่าวขึ้น องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่ได้ฟังก็ยิ้มเล็กน้อย ตัวเขาเองยังไม่คิดที่จะมีชายานะเวลานี้ หากเขามีชายา ณ เวลานี้ก็จะทำให้เขาต้องอยู่ในพระราชวังเพื่อที่จะปกป้องดูแลชายา และเขาก็คิดอยู่เสมอว่าท่านพ่อของเขานั้นมี ชายามากจึงทำให้ท่านพ่อปวดหัวไม่น้อย เขาจึงสาบานกับตัวเองแล้วว่าเขาจะมีเพียงชายาอย่างเดียว หลังจากกลับตำหนักไปเขาก็ให้ลูกน้องคนสนิทซูเสวี่ย ไปตามสืบข้อมูลของลูกหลานแม่ทัพ ว่ามีผู้ใดพอใช้ได้บ้าง ผู้ที่จะเป็นผู้บังหน้าในการเป็นชายาของเขาเพราะเขายังไม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจัง เขาคิดว่าหลังจากจบจากเทศกาลปีใหม่เขาต้องรีบขึ้นเหนือเพื่อที่จะไปเฝ้าประจำการอยู่ที่ด่านเหนือ

"ท่านแม่ขอรับเจ้าฟู่กลับมาแล้วหรือขอรับ ข้าจะเริ่มแผนของพวกเราพรุ่งนี้เลยนะขอรับ"

หนามกงเฉียวองชายสามกล่าวกับมารดา ซึ่งตอนนี้มารดาของตนได้กลายเป็นฮองเฮาแล้ว หลังจากที่มารดาของหนามกงฟู่สิ้นไป แต่ถึงมารดาของตนจะได้เป็นฮองเฮา แต่ผู้เป็นบุตรก็ไร้ตำแหน่งองค์รัชทายาท เขาก็คิดตลอดว่าตำแหน่งนี้ต้องเป็นของบุตรชายของเขา ถ้ามันไม่มีหนามกงฟู่อยู่ กลางคืนพรุ่งนี้เขาต้องจัดการหนามกงฟู่ให้อยู่มัด ถึงแม้เขาจะรู้ว่าบุรุษผู้นั้นมีทหารอยู่ในมือมากเพียงใดแม่ทัพคนใดบ้างที่อยู่ข้างของเขา แต่ตอนนี้เขาก็ได้แม่ทัพผู้นึงที่อยู่ในเมืองหลวงมาอยู่ข้างตนแล้วนั่นก็คือคนตะกูลหลิว เพราะตอนนี้เขาทำให้บุตรีที่เกิดขึ้นกับฮูหยินของแม่ทัพหลิวนั้นตกหลุมรักอย่างมาก ไม่มีทางที่กองทับรักษาวังหลวงแห่งนี้จะตกเป็นของรัชทายาทไปได้ เดิมทีหลิวเสียงเหย่านั้นก็แทบจะเป็นแม่ทัพน้อยอยู่แล้ว แต่เป็นหนางกงเฉียวที่เข้าไปทำให้นางปั่นป่วน จนล้มเลิกที่จะฝึกวรยุทธและหันกลับมาเย็บปักถักร้อยเพื่อที่จะได้ออกเรือนกับหนามกงเฉียว นางปฏิบัติตัวราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อก่อนตื่นเช้านางต้องฝึกร่างกายให้แข็งแรงเนื่องจากว่านางติดตามบิดาออกไปซ้อมกับทหารจึงทำให้นางนั้นซ้อมด้วย จนทุกทุกคนในกองทหารของท่านพ่อชอบนางและเคารพนางเป็นอย่างมาก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   2

    ในคืนงานเลี้ยงเทศกาลปีใหม่ของวังหลวงจัดขึ้น ในวังหลวงนั้นมีทั้งบุรุษและสตรีมากมายที่เข้ามาร่วมเฉลิมฉลอง หลังจากที่ฮ่องเต้เปิดงานเทศกาลปีใหม่ หลายๆคนก็ดื่มดำกับความสุขในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ทางราชวังก็ยินดีให้ลูกหลานของขุนนางและเหล่าแม่ทัพทั้งหลายเข้ามาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย หย่าเซี่ยหว่านลูกขุนนางตระกูลหย่า วันนี้นางมาในชุดแบบเรียบหรูแต่ดูแล้วนางมีเสน่ห์เหลือเกิน บุรุษทุกคนต้องหันหน้ามองนางราวกับว่านางเป็นเจ้าของงานในค่ำคืนนี้ แม้กระโปรงของนางจะเป็นเพียงสีฟ้าอ่อนแต่มันขับกับผิวของนางทำให้นางโดดเด่นซะเหลือเกิน หนามกงฟู่เหลือบมองเล็กน้อย สตรีผู้นี้อันตรายอยู่มาก เป็นสตรีที่ลือเลื่อง และเก่งแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรือนหลัง นางยังร่ำเรียนเกี่ยวกับขุนนางแบบท่านพ่อของนางด้วย ซูเสวี่ยรายงานให้เขาฟังเขาจึงตัดสตรีผู้นี้ออกทันที เพราะหากว่าเป็นบุตรของขุนนางตระกูลหย่าและหัวดื้อรั้นก็คงจะหนีไม่พ้นต้องเกี่ยวดองด้วยแบบจริงจัง เขาไม่ได้มองผู้ใด เนื่องจากว่าซูเสวี่ยลูกน้องของเขายังสืบข้อมูลของบุตรหลานของท่านแม่ทัพและเหล่าขุนนางยังไม่มากพอ แต่ตัวของซูเสวี่ยเองนั้นสนใจบุตรสาวของตระกูลแม่ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-01
  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   3

    เมื่อแสงอรุณขึ้นในยามเช้าของวันปีใหม่ หมู่นกน้อยใหญ่ต่างบินโพลไปหาอาหาร เสียงร้องของนกปลุกให้ผู้คนที่หลับไหลตื่นลืมตา เสียงฝีเท้าจำนวนมากวิ่งกรูกันเข้ามายังห้องหนึ่งห้องในพระราชวัง พวกเขาเปิดเข้ามาและทำเสียงเอะอะโวยวาย จนสองร่างที่อยู่บนเตียงนั้นตกใจตื่น "เจ้าฟู่เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร เจ้ารู้ดีว่าข้ารักใคร่กับเสียงเหย่ามากเพียงใดดูเจ้าทำกับนางสิ"หนามกงเฉียวกระโกนก้องและลากตัวหนามกงฟู่ หมัดของเขาปล่อยออกไปหนึ่งครั้งถูกปากของหนามกงฟู่อย่างจัง ทำให้เขาที่รู้สึกว่ามึนหัวและปวดหัวอยู่เล็กน้อยนั้นตื่นลืมตาได้เต็มที่ เขาทำสิ่งใดเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำเมื่อมองไปข้างๆก็พบว่ามีสติผู้หนึ่งที่กำลังใจผ้าห่มนั้นคลุมร่างตัวเองแล้วสะอื้นร้องไห้ ภาพเมื่อคืนจึงแวบเข้ามาให้เห็นบ้าง หนามกงฟู่สะบัดหัวไปมาก่อนที่ถูกลากตัวไปห้องขังทันที หลิวเสียงเหย่าที่ร้องห่มร้องไห้ราวกับบุบผาที่ต้องฝน น้ำตาที่ไหลรินทำให้คนสงสารยิ่งนัก มีบุตรีของขุนนางฝ่ายซ้ายเดินเข้ามาอาดๆ รามกับว่าได้เตรียมการรออยู่หน้าห้องนานแล้ว"เสียงเหย่าเจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่ ไอ้คนเลวทรามคงถือว่าตัวเองเป็นรัชทายาท ถึงกระทำย่ำยีผู้ใดก็ได้แบบนี้ ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-01
  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   4

    "ทูลฝ่าบาทแม่ทัพหลิวขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ"เสียงดังลั่นขึ้น ฮ่องเต้มองทุกคนที่อยู่ด้านล่างด้วยความกลัดกลุ้ม แม่ทัพหลิวเป็นแม่ทัพที่ควบคุมทหารองครักษ์ทั้งหมดหากมีปัญหากับเขาแบบนี้จะได้อย่างไร ถึงตอนนี้เขาต้องปลดองค์ชายรัชทายาทจริงๆเสียแล้ว "ทุกคนออกไปให้หมดเจ้าหนามกงฟู่ เจ้าต้องอยู่รับมือกับท่านแม่ทัพหลิว เขาต้องการอย่างไรข้าจะจัดการให้เขา แม้นเขาต้องการที่จะปลดเจ้าออกจากองค์ชายรัชทายาทข้าก็ต้องทำ เพราะกองกำลังรักษาการในวังหลวงนั้นเป็นของเขา แล้วเรียกแม่ทัพหลิวเข้ามา"ฮองเต้พูดขึ้น ไม่นานแม่ทัพหลิวก็เดินเข้ามา เมื่อก่อนที่เขาจะเข้าวังมาราวๆหนึ่งก้านธูป บุตรสาวก็ได้บอกกับผู้เป็นมารดาให้สนับสนุนองค์ชายรัชทายาท เขาจึงถวายบังโคมฮ้องเต้ และคำนับองค์ชายรัชทายาทเล็กน้อย "ท่านพ่อข้าผิดไปแล้วเจ้าคะ ข้ากลับองค์ชายรัชทายาทนั้นรักกันมาก จึงมิอาจจะพรากจากกันได้ เราเคยเจอกันเมื่อสามปีที่แล้ว ครั้งที่องค์ชายรัชทายาทเข้ามาในค่ายทหารของพวกเรา ข้ากับเขาก็ได้ชอบพอกันแต่ครั้งเมื่อเขานั้นต้องไปทำศึกที่ค่ายทางทิศเหนือ จึงทำให้เราห่างไกลกัน จนฮองเฮานั้นบังคับให้ข้าต้องชอบพอกับองค์ชายสาม แต่เมื่อคืนนั้นเราได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-01
  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   5

    "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช้แผนการของข้าแต่อย่างใดท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าแค่รู้บางสิ่งมาแต่มันก็สายไปเสียแล้ว คราวนี้ทำตามที่ข้าได้แจ้งท่านก็จะรอดแล้วปลอดภัย หากว่าท่านไม่ทำตามแล้ว ณืเวลานี้ท่านก็จะมีแต่เสียกับเสีย คนวางแผนนั้นต้องการให้ท่านทิ้งตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทไป ข้าก็ต้องเสียกองกำลังรักษาการวังหลวงไป ข้าเองคิดว่าเรามาร่วมมือกันจะดีเสียกว่า"องค์ชายรัชทายาทอ่านจดหมายที่ลายมือของนางนั่นช่างอ่อนช้อยและแข็งแกร่งไปในตัว "ซูเสวี่ยเจ้าไปสืบประวัติของบุตรีของแม่ทัพหลิว หลิวเสียงเหย่ามาได้หรือไม่ หาทางลอบออกจากตำหนักไปยังทิศในวังไม่น่าจะมีผู้ใดเฝ้าอยู่"องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่บอกลูกน้องคนสนิทไปตามสืบ ไม่นานเขานั้นก็หายตัวไปทันที"เราเคยเจอกันในค่ายทหารของท่านพ่อ ที่อยู่ในวังหลวงเมื่อสามปีก่อนท่านได้เข้ามาเยี่ยมเยียนภายในค่ายแห่งนี้ เราทั้งสองชอบพอกันแต่ท่านก็มีเหตุที่ต้องไปประจำตำแหน่งที่ค่ายด้านเหนือจึงทำให้เราไร้การติดต่อกัน"รัชทายาทหนามกงฟู่อ่านมาถึงท่อนนี้ก็รู้สึกน้ำเน่าสิ้นดี เหตุใดเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนหรือว่าเมื่อสามปีที่แล้วเขาจะพบกับสตรีที่ค่ายองครักษ์แล้วชอบนาง"แล้วค่ากั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03

บทล่าสุด

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   5

    "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช้แผนการของข้าแต่อย่างใดท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าแค่รู้บางสิ่งมาแต่มันก็สายไปเสียแล้ว คราวนี้ทำตามที่ข้าได้แจ้งท่านก็จะรอดแล้วปลอดภัย หากว่าท่านไม่ทำตามแล้ว ณืเวลานี้ท่านก็จะมีแต่เสียกับเสีย คนวางแผนนั้นต้องการให้ท่านทิ้งตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทไป ข้าก็ต้องเสียกองกำลังรักษาการวังหลวงไป ข้าเองคิดว่าเรามาร่วมมือกันจะดีเสียกว่า"องค์ชายรัชทายาทอ่านจดหมายที่ลายมือของนางนั่นช่างอ่อนช้อยและแข็งแกร่งไปในตัว "ซูเสวี่ยเจ้าไปสืบประวัติของบุตรีของแม่ทัพหลิว หลิวเสียงเหย่ามาได้หรือไม่ หาทางลอบออกจากตำหนักไปยังทิศในวังไม่น่าจะมีผู้ใดเฝ้าอยู่"องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่บอกลูกน้องคนสนิทไปตามสืบ ไม่นานเขานั้นก็หายตัวไปทันที"เราเคยเจอกันในค่ายทหารของท่านพ่อ ที่อยู่ในวังหลวงเมื่อสามปีก่อนท่านได้เข้ามาเยี่ยมเยียนภายในค่ายแห่งนี้ เราทั้งสองชอบพอกันแต่ท่านก็มีเหตุที่ต้องไปประจำตำแหน่งที่ค่ายด้านเหนือจึงทำให้เราไร้การติดต่อกัน"รัชทายาทหนามกงฟู่อ่านมาถึงท่อนนี้ก็รู้สึกน้ำเน่าสิ้นดี เหตุใดเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนหรือว่าเมื่อสามปีที่แล้วเขาจะพบกับสตรีที่ค่ายองครักษ์แล้วชอบนาง"แล้วค่ากั

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   4

    "ทูลฝ่าบาทแม่ทัพหลิวขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ"เสียงดังลั่นขึ้น ฮ่องเต้มองทุกคนที่อยู่ด้านล่างด้วยความกลัดกลุ้ม แม่ทัพหลิวเป็นแม่ทัพที่ควบคุมทหารองครักษ์ทั้งหมดหากมีปัญหากับเขาแบบนี้จะได้อย่างไร ถึงตอนนี้เขาต้องปลดองค์ชายรัชทายาทจริงๆเสียแล้ว "ทุกคนออกไปให้หมดเจ้าหนามกงฟู่ เจ้าต้องอยู่รับมือกับท่านแม่ทัพหลิว เขาต้องการอย่างไรข้าจะจัดการให้เขา แม้นเขาต้องการที่จะปลดเจ้าออกจากองค์ชายรัชทายาทข้าก็ต้องทำ เพราะกองกำลังรักษาการในวังหลวงนั้นเป็นของเขา แล้วเรียกแม่ทัพหลิวเข้ามา"ฮองเต้พูดขึ้น ไม่นานแม่ทัพหลิวก็เดินเข้ามา เมื่อก่อนที่เขาจะเข้าวังมาราวๆหนึ่งก้านธูป บุตรสาวก็ได้บอกกับผู้เป็นมารดาให้สนับสนุนองค์ชายรัชทายาท เขาจึงถวายบังโคมฮ้องเต้ และคำนับองค์ชายรัชทายาทเล็กน้อย "ท่านพ่อข้าผิดไปแล้วเจ้าคะ ข้ากลับองค์ชายรัชทายาทนั้นรักกันมาก จึงมิอาจจะพรากจากกันได้ เราเคยเจอกันเมื่อสามปีที่แล้ว ครั้งที่องค์ชายรัชทายาทเข้ามาในค่ายทหารของพวกเรา ข้ากับเขาก็ได้ชอบพอกันแต่ครั้งเมื่อเขานั้นต้องไปทำศึกที่ค่ายทางทิศเหนือ จึงทำให้เราห่างไกลกัน จนฮองเฮานั้นบังคับให้ข้าต้องชอบพอกับองค์ชายสาม แต่เมื่อคืนนั้นเราได้

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   3

    เมื่อแสงอรุณขึ้นในยามเช้าของวันปีใหม่ หมู่นกน้อยใหญ่ต่างบินโพลไปหาอาหาร เสียงร้องของนกปลุกให้ผู้คนที่หลับไหลตื่นลืมตา เสียงฝีเท้าจำนวนมากวิ่งกรูกันเข้ามายังห้องหนึ่งห้องในพระราชวัง พวกเขาเปิดเข้ามาและทำเสียงเอะอะโวยวาย จนสองร่างที่อยู่บนเตียงนั้นตกใจตื่น "เจ้าฟู่เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร เจ้ารู้ดีว่าข้ารักใคร่กับเสียงเหย่ามากเพียงใดดูเจ้าทำกับนางสิ"หนามกงเฉียวกระโกนก้องและลากตัวหนามกงฟู่ หมัดของเขาปล่อยออกไปหนึ่งครั้งถูกปากของหนามกงฟู่อย่างจัง ทำให้เขาที่รู้สึกว่ามึนหัวและปวดหัวอยู่เล็กน้อยนั้นตื่นลืมตาได้เต็มที่ เขาทำสิ่งใดเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำเมื่อมองไปข้างๆก็พบว่ามีสติผู้หนึ่งที่กำลังใจผ้าห่มนั้นคลุมร่างตัวเองแล้วสะอื้นร้องไห้ ภาพเมื่อคืนจึงแวบเข้ามาให้เห็นบ้าง หนามกงฟู่สะบัดหัวไปมาก่อนที่ถูกลากตัวไปห้องขังทันที หลิวเสียงเหย่าที่ร้องห่มร้องไห้ราวกับบุบผาที่ต้องฝน น้ำตาที่ไหลรินทำให้คนสงสารยิ่งนัก มีบุตรีของขุนนางฝ่ายซ้ายเดินเข้ามาอาดๆ รามกับว่าได้เตรียมการรออยู่หน้าห้องนานแล้ว"เสียงเหย่าเจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่ ไอ้คนเลวทรามคงถือว่าตัวเองเป็นรัชทายาท ถึงกระทำย่ำยีผู้ใดก็ได้แบบนี้ ข้า

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   2

    ในคืนงานเลี้ยงเทศกาลปีใหม่ของวังหลวงจัดขึ้น ในวังหลวงนั้นมีทั้งบุรุษและสตรีมากมายที่เข้ามาร่วมเฉลิมฉลอง หลังจากที่ฮ่องเต้เปิดงานเทศกาลปีใหม่ หลายๆคนก็ดื่มดำกับความสุขในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ทางราชวังก็ยินดีให้ลูกหลานของขุนนางและเหล่าแม่ทัพทั้งหลายเข้ามาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย หย่าเซี่ยหว่านลูกขุนนางตระกูลหย่า วันนี้นางมาในชุดแบบเรียบหรูแต่ดูแล้วนางมีเสน่ห์เหลือเกิน บุรุษทุกคนต้องหันหน้ามองนางราวกับว่านางเป็นเจ้าของงานในค่ำคืนนี้ แม้กระโปรงของนางจะเป็นเพียงสีฟ้าอ่อนแต่มันขับกับผิวของนางทำให้นางโดดเด่นซะเหลือเกิน หนามกงฟู่เหลือบมองเล็กน้อย สตรีผู้นี้อันตรายอยู่มาก เป็นสตรีที่ลือเลื่อง และเก่งแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรือนหลัง นางยังร่ำเรียนเกี่ยวกับขุนนางแบบท่านพ่อของนางด้วย ซูเสวี่ยรายงานให้เขาฟังเขาจึงตัดสตรีผู้นี้ออกทันที เพราะหากว่าเป็นบุตรของขุนนางตระกูลหย่าและหัวดื้อรั้นก็คงจะหนีไม่พ้นต้องเกี่ยวดองด้วยแบบจริงจัง เขาไม่ได้มองผู้ใด เนื่องจากว่าซูเสวี่ยลูกน้องของเขายังสืบข้อมูลของบุตรหลานของท่านแม่ทัพและเหล่าขุนนางยังไม่มากพอ แต่ตัวของซูเสวี่ยเองนั้นสนใจบุตรสาวของตระกูลแม่ท

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   1

    ในเทศกาลสิ้นปีโคมไฟรูปทรงต่างๆลอยขึ้นสู่ฟากฟ้ามีแสงสว่างเรืองรองต่อกันเป็นสาย ทุกคนต่างอธิษฐานขอให้ใต้ล่าสงบสุขในเร็ววัน ช่วงสงครามอย่างนี้หลายๆผู้หลายๆคนไม่มีกระจิตกระใจที่จะจัดงานปีใหม่ เหล่าแม่ทัพน้อยใหญ่ต่างก็ประจำกันอยู่ที่ด่านต่างๆ บันดาลูกและภรรยาต่างนั่งสวดมนต์อธิษฐานให้ท่านพ่อและสามีนั้นปลอดภัยจากสงคราม มีแต่รัชทายาทผู้เดียวเท่านั้น ที่ป้องกันอยู่ ณ ดินแดนทางเหนือของแคว้นตง ที่เขาถูกเรียกตัวกลับมาเมืองหลวง เพื่อที่จะเฉลิมฉลองในวันเทศกาลปีใหม่นี้ คราแรกเขาไม่เต็มใจมากนักเนื่องจากสถานการณ์ของสงครามนั้น ยังอยู่ช่วงวิกฤตอยู่ แต่เสด็จพ่อของเขาสั่งแล้วมิสามารถที่จะขัดคำสั่งได้ เป็นห่วงบ้านเมืองก็เป็นห่วงแต่ท่านพ่อของเขาเป็นถึงฮ่องเต้จะให้ขัดคำสั่งได้อย่างไร องค์ชายรัชทายาทมีกองกำลังอยู่นับครึ่งของแคว้น เขาได้สั่งแม่ทัพต่างๆก่อนที่เขาจะเดินทางกลับวังหลวงให้ดูแลเข้มงวด เพราะไม่รู้ว่าข้าศึกจะใช้ช่วงที่เขากลับวังนั้นโจมตีด่านต่างๆหรือไม่ มารดาของเขาได้เสียชีวิตไปในยามสงครามครั้งที่เขาอายุเพิ่งได้หกขวบ ครั้งนั้นเกิดวิกฤตใหญ่หลวงยังดีที่ฮ่องเต้ทรงหลุดพ้นออกมาได้ ถึงแม้ว่าภรรยาสุดที่รักจะ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status