Share

บทที่0008

Author: หวานไม่หวาน
ตอนที่ข้าตั้งครรภ์ได้สามเดือน

ในที่สุดสวี่จิงโม่ก็ทนไม่ไหวบุกมาตามหาข้า

ซึ่งขณะนั้นข้ากำลังแอบกินไอติมผลไม้อยู่ในเรือนเล็ก

เขาสวมชุดเปื้อนเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง

ตอนที่มองเห็นข้า ดวงตาของเขาก็แดงก่ำ

เขาเรียกข้าด้วยเสียงแหบแห้งและโหยหา

“อาเหยียน โชคดีที่ยังมีเจ้าอยู่”

“พวกเรากลับไปที่หมู่บ้านเถาซีกันเถอะ ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงลาภยศอะไรพวกนี้แล้ว”

นิสัยของสวี่จิงโม่เปลี่ยนแปลงแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขายังคิดจะใช้ข้าเป็นหินรองเท้า เพื่อก้าวสู่อำนาจอยู่เลย

ข้ามองสวี่จิงโม่ที่อยู่ในสภาพคนสติไม่เต็มร้อย กับชายเสื้อที่มีเลือดไหลหยดของเขา

ในใจเกิดหวาดระแวง จึงค่อยๆ ก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบ

สวี่จิงโม่ทำหน้าเจ็บปวด

“อาเหยียน เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”

“ข้าแค่สังหารคนที่ทำลายความสุขของพวกเราเท่านั้น”

ข้าหรี่ตาลง “เจ้าฆ่าใครไป? หลินเยียนเอ๋อร์? ท่านโหว?”

สวี่จิงโม่ยกยิ้มมุมปาก “มีมากกว่านั้นอีก”

ระหว่างที่บรรยากาศกำลังตึงเครียด

สามีสุดหล่อที่มีอกผายไหล่ผึ่งเอวสอบคนนั้น ก็เดินดุ่มๆ เข้ามาแบบไม่รู้ไม่ชี้

คว้าไอติมจากมือของข้าไป แล้วพูดจาประชดประชั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0009

    ทุกเหตุการณ์ที่สวี่จิงโม่ประสบพบเจอหลังจากเข้ามาในเมืองหลวง ล้วนเป็นแผนการของหลินเยียนเอ๋อร์และจวนโหวจ้าวตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ข้าเกือบจะโดนโจรลักพาตัวไป บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญหลังแต่งงาน สวี่จิงโม่ก็ไม่เคยได้แตะต้องนางคนของจวนโหวจ้าวดูแลหลินเยียนเอ๋อร์ประหนึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเขาตอนแรกสวี่จิงโม่รู้แค่ว่าฐานะของหลินเยียนเอ๋อร์ไม่ธรรมดา แต่ไม่รู้ว่านางเป็นสตรีของฮ่องเต้ตอนแรกเขาคิดจะกล้ำกลืนโทสะยอมโดนสวมเขา หากแลกกับการมีอนาคตที่สดใสก็ไม่ใช่เรื่องแย่แต่ตอนที่ท่านโหวจ้าวจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดฮ่องเต้หาข้ออ้างออกมานัดพบกับหลินเยียนเอ๋อร์ สวี่จิงโม่ดันบังเอิญเห็นเข้าฮ่องเต้ตรัสว่า ตอนแรกในการสอบหน้าพระพักตร์ปีนี้ เขาเลือกสวี่จิงโม่ให้เป็นจอหงวน“แต่พอคิดว่าเจ้าสารเลวนั่นเคยแต่งงานกับเจ้า ถึงจะเป็นแค่ฉากบังหน้า แต่ข้าก็อดขุ่นเคืองไม่ได้”“ข้าไม่อยากเห็นหน้าเขา”ฮ่องเต้ยังกล่าวอย่างชั่วร้ายอีกว่า“หลังจากนี้ไปถ้าสามีของเจ้าเข้าร่วมการสอบขุนนาง เราจะไม่ยอมให้เขาสอบผ่านเด็ดขาด”ตรัสเพียงไม่กี่ประโยค กลับเปลี่ยนชะตาชีวิตของสวี่จิงโม่อย่างสิ้นเชิง

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่ 0001

    ตอนที่สามีของข้าเดินทางไปสอบที่เมืองหลวง เขาได้พบโดยบังเอิญว่า ตัวเองคือบุตรชายภรรยาเอกที่พลัดพรากจากจวนโหวจ้าวมานานหลายปีบนถนนใหญ่มีคนราวสิบกว่าคน คุกเข่าห้อมล้อมรอบตัวสวี่จิงโม่“ท่านโหวออกตามหาท่านมานานสิบกว่าปีแล้ว!”"ปานแดงหลังใบหูของท่าน ข้าน้อยไม่มีวันจำผิดแน่!"ท่ามกลางบรรดาบ่าวรับใช้ ยังมีสาวงามรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบางคนหนึ่งยืนอยู่ เอ่ยเรียกด้วยแววตาหวานซึ้ง“พี่ชาย ข้าคือคู่หมั้นของท่าน”สวี่จิงโม่ถูกพาตัวเข้าไปในจวนโหวอันงดงามหรูหราและโอ่โถงกว้างใหญ่ ส่วนข้า ภรรยาที่ถูกต้องตามธรรมเนียมของสวี่จิงโม่ ยามนี้กำลังตะโกนขายบะหมี่ราคาชามละไม่กี่อีแปะ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย“นางเหยียนเลิกขายได้แล้ว! สามีเจ้ากลายเป็นท่านโหวน้อยไปแล้ว!”ลูกค้าคนหนึ่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนถนนเส้นหลักให้ข้าทราบสวี่จิงโม่เป็นเด็กกำพร้าในหมู่บ้านของพวกเราจริงแท้แน่นอน ไร้บิดามารดา ถูกแม่เฒ่าสวี่เก็บมาเลี้ยงจนเติบใหญ่ข้ากับแม่เฒ่าสวี่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจอย่างยิ่งสามีตามหาครอบครัวที่แท้จริงพบ ในที่สุดก็ไม่ต้องอยู่โดดเดี่ยวแล้วแม่เฒ่าสวี่พูดอย่างยินดีปรีดา“จวนโหวจ้าวมั่งคำร่ำรวย มีเงิน

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0002

    ตอนที่กลับมาถึงแผงขายบะหมี่ พวกชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็มามุงดูกันอย่างแน่นขนัดพวกเขาพูดจายกย่องชื่นชมเขาไม่ขาดปากข้าจึงเอ่ยถามเขาว่า“แปลว่าเจ้าคิดจะลดฐานะข้าจากภรรยาเอกเป็นอนุภรรยางั้นหรือ?”ผู้คนที่อยู่รอบๆ พากันปิดปากหัวเราะ“ต่อให้แม่นางเหยียนเป็นแค่อนุภรรยา แต่ภายภาคหน้าก็ไม่ต้องลำบากขายบะหมี่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำแล้ว”“สหายสวี่ยังระลึกถึงความรักเก่า ยอมรับเจ้าเข้าไปในจวนโหว ควรจะสำนึกบุญคุณบ้างนะ”สวี่จิงโม่ถูกผู้คนพูดจายกยอจนสูงส่ง“เหยียนอัน ยามนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”“ข้าเป็นบุตรชายภรรยาเอกของจวนโหว ภายภาคหน้าจะต้องสืบทอดตำแหน่งจากบิดา แล้วยังเป็นท่านโหวน้อยของจวนโหวจ้าวอีก ต้องแต่งสตรีที่ฐานะทัดเทียมกันเป็นภรรยาเอก”แม่เฒ่าสวี่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยข้าเขวี้ยงไม้นวดแป้งลงพื้นอย่างรุนแรง“ตอนแรกเจ้าพาแม่เฒ่าสวี่ที่ป่วยใกล้ตายมาหาข้า ขอแต่งเป็นเขยเข้าตระกูลเหยียนของข้า ทำไมไม่คิดถึงเรื่องฐานะเท่าเทียมกันล่ะ?”“แผงลอยขายบะหมี่ที่เจ้าเหยียบอยู่ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่ข้าเช่ามา”“เงินที่เจ้าใช้เดินทางไปสอบที่เมืองหลวง แม้แต่เสื้อผ้าที่มารดาเจ้าสวมอยู่ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงที่

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0003

    ช่วยชีวิตเจียงเยี่ยนนั้นง่ายนิดเดียวข้าลากเขาที่นอนหายใจรวยรินกลับมาที่แผงขายบะหมี่ลวกบะหมี่ร้อนๆ ให้เขาหนึ่งชาม เขาก็ฟื้นคืนชีพได้เกินครึ่งแล้วเขาลูบๆ คลำๆ ตัวเองอยู่นาน สุดท้ายก็ล้วงกุญแจอายุยืน[footnoteRef:1]สีทองออกมา ขอให้ข้าไปซื้อยาให้เขาหน่อย [1: ของที่ลักษณะคล้ายแม่กุญแจ มีไว้คล้องคอเด็กทารกเพื่ออวยพรให้อายุยืน] ความจริงแล้วของที่เขาให้มามีมูลค่ามากกว่าค่ายาตั้งเยอะเจียงเยี่ยนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ“ไม่เป็นไร”ตอนนั้นข้าดีใจจนเหมือนโลกทั้งใบมีดอกไม้บาน ยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองเก็บไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำได้ใครจะคาดคิด——ว่านั่นคือทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามีอยู่เขาเกาะติดข้าไม่ยอมไปไหนเจียงเยี่ยนประสบเหตุบนเขาจนความจำเสื่อม เขาจำได้แค่ชื่อของตัวเองเท่านั้นตอนนี้อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว เงินที่มีก็ใช้จนเกือบหมดแล้ว แต่เขากลับเกาะแกะข้าไม่ยอมเลิก ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไปข้าเท้าเอวด้วยความโมโห ไปที่แผงขายบะหมี่แล้วไล่เขากลับ“บ้านของข้าไม่ได้มีเอาไว้เลี้ยงดูบุรุษไร้หัวนอนปลายเท้านะ รีบ——”พอเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าเจียงเยี่ยนตัดฟืนทั้งหมด ขนน้ำมาเติมจนเต็มโอ่งตั้งแต่เช้าตรู

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0004

    เจียงเยี่ยนประสบเหตุจนสมองผิดเพี้ยนไป เลยไม่คิดจะฟังที่อีกฝ่ายพูด เขารัวหมัดชกใส่สวี่จิงโม่อย่างเมามัน“ต่อให้เจ้าจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่ถ้ากล้าพูดจาไม่เข้าหูพี่สาวของข้า ข้าก็พร้อมจะต่อยให้คว่ำอยู่ดี”“เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเจ้าหรือ ที่เลือกคบคนจากหน้าตา ตัดสินคนจากทรัพย์สินเงินทอง?”“มันน่ากระทืบให้ตายคาตีนจริงๆ!”เจียงเยี่ยนลงมือโหดเหี้ยมแล้วยังพูดจาแสลงหูด้วยในเมื่อใช้เหตุผลไม่ได้ ก็ต้องใช้กำลังเข้าข่ม“พี่เหยียนเป็นคนจิตใจดีงาม ครั้งแรกที่พบนางตรงชานเมือง ข้าก็หลงรักนางทันที”“แกเป็นใครมาจากไหน กล้าดีอย่างไรมาชี้นิ้วสั่งสอนพวกเรา?”แน่ใจนะ....ว่าที่หลงรักไม่ใช่เครื่องในวัวตุ๋นของข้า?ช่างเถอะเมื่อเห็นสวี่จิงโม่ถูกต่อยจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียว ข้าก็รู้สึกหายโกรธไปหลายส่วน“จับเขาโยนออกไปซะ อย่าให้รบกวนการทำมาค้าขายของพวกเรา”“ได้เลย!”หลังจากเขาจัดการเรียบร้อยก็กลับมาที่ห้อง ยืนเกาะขอบประตูด้วยท่าทางน่าสงสาร“ข้าได้ยินชาวบ้านที่อยู่ข้างนอกบอกว่า คนผู้นั้นเป็นสามีเก่าของพี่สาว”“ข้าไม่ทันได้ยั้งมือเอาไว้ ทำร้ายอดีตสามีพี่สาวจนเจ็บหนัก พี่สาวคงไม่โกรธข้าหรอกนะ?”

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0005

    “พี่สาวคิดอะไรอยู่หรือ ถึงได้เหม่อลอยขนาดนั้น?”เจียงเยี่ยนยื่นหน้าหล่อๆ เข้ามาหาข้า ปลุกข้าจากภวังค์ความคิดดวงตาของเขางดงามมาก ราวกับสะกดจิตของคนได้ข้าผลักเขาออก ไม่กล้ามองสบตาเขามากนัก“วันนี้...ต้องขอบพระทัยท่านอ๋องมาก ที่ช่วยออกหน้าแทนข้าสองครั้งแล้ว”“ท่านอ๋อง ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว ท่านออกจากจวนมานานมากแล้ว ไม่คิดจะกลับไปหรือ?”เจียงเยี่ยนตบศีรษะตัวเองเบาๆ “เจ้าพูดถูก ข้าเกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย”เขาแบกดาบโค้งเล่มนั้นออกไปด้วยความเร่งรีบรอบข้างกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งข้ามองตามแผ่นหลังที่ห่างออกไปไกลของเขา รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกแต่นั่นคืออ๋องหลินอันเชียวนะเป็นแม่ทัพหนุ่มในฝันของข้า ที่สง่างามและเจิดจรัสมากที่สุดสูงส่งจนไม่อาจเอื้อม......เพราะเรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ กว่าข้าจะออกมาขายบะหมี่ ฟ้าก็สว่างจ้าแล้วด้านนอกมีเสียงอึกทึกแผงขายบะหมี่ของข้าถูกของมีค่าแปลกประหลาดและหายากหลากสีสัน วางกองทับถมจนไม่มีที่จะเดินเจียงเยี่ยนยังพาข้ารับใช้จำนวนหนึ่งมาด้วย พวกเขาช่วยกันขนของเข้าไปในบ้านข้าข้ารับใช้ของเขาบอกกับชาวบ้านรอบๆ ว่า“แม่นางเหยียนคือผู้

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0006

    งานแต่งของข้ากับเจียงเยี่ยน มีกำหนดการวันเดียวกันกับงานแต่งของสวี่จิงโม่ด้วยข้ออ้างเรื่องความจำเสื่อม เจียงเยี่ยนจึงฉวยโอกาสนี้ขอลาออกจากราชการ กลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อแสดงความภักดีฮ่องเต้แม้จะมีสีหน้าเสียดาย แต่ก็พระราชทานเงินทองและของมีค่ามากมายให้เป็นค่าชดเชยงานของของพวกเราถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการสิ่งที่สวี่จิงโม่เคยให้คำมั่นสัญญากับข้าไว้ เจียงเยี่ยนกลับทำให้หมดทุกอย่างแม้จะไม่เคยพูดมาก่อนงานแต่งที่ทุ่มเงินจำนวนนับพันตำลึงเพื่อจัดขึ้นมา สร้างความอิจฉาให้บรรดาหญิงสาววัยบานสะพรั่งที่ยังไม่ออกเรือนมากมายขบวนสินสอดยาวสิบลี้ เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่และงดงามมากภายในเรือนหอ ข้านั่งกำหนังสือข้อตกลงแต่งงานด้วยความประหม่า“ข้า ข้า...จะเป็นภรรยาของเจ้าสามปี หลังจากฝ่าบาททรงคลายความหวาดระแวงแล้ว ข้าจะยกตำแหน่งพระชายาหลินอันคืนให้”“จะไม่ขัดขวางการหาคู่ครองคนใหม่ของท่านอ๋องแน่นอน——”นิ้วเรียวดุจหยกของเจียงเยี่ยนทาบทับริมฝีปากของข้าดวงตาเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกของเขาส่องประกาย กล่าวอย่างขบขันว่า“เรื่องนั้นไว้ค่อยพูดกันวันหลังเถอะ”“ภรรยา ตอนนี้——”“เล่นละครก็ต้องเล่นให้สมจริ

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0007

    ข้าได้พบสวี่จิงโม่อีกครั้ง ตอนที่ไปร่วมงานวันเกิดของท่านโหวจ้าวเพราะมันเป็นธรรมเนียม ข้ากับเจียงเยี่ยนเลยต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยวันนั้นหิมะตกหนักมากสวี่จิงโม่ยืนอยู่ด้านหลังท่านโหวจ้าว ดวงหน้าซีดเซียวเหี่ยวเฉา สีหน้าอารมณ์อมทุกข์ราวกับเผชิญเคราะห์กรรมใหญ่มาไม่เหลือความหยิ่งผยองในตอนแรกเริ่มข้ามอบของขวัญเสร็จก็นั่งร่วมงานกับเจียงเยี่ยนสักพัก ก่อนจะเตรียมตัวกลับกันก่อนกลับข้าบังเอิญเห็นหลินเยียนเอ๋อร์ เดินผ่านไปทางเรือนด้านหลังดูเหมือนกำลังรีบร้อนไปพบใครบางคนดูจากรูปร่างของนาง คาดว่าจะตั้งครรภ์ได้เจ็ดแปดเดือนแล้วแต่ข้ากับสวี่จิงโม่แต่งงานวันเดียวกัน หากนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ ก็เพิ่งจะผ่านไปห้าเดือนเท่านั้นได้ยินว่าในระหว่างนั้น เขายังใช้เวลาสองสามเดือนเตรียมตัวสอบหน้าพระที่นั่งด้วยนี่มัน...เจียงเยี่ยนเอามือแตะคาง ลอบหัวเราะอย่างสะใจอยู่ข้างๆ“สวี่จิงโม่คงจะโดนจวนโหวกับจวนเสนาบดีหลอกต้มแล้วล่ะ”ตอนที่ข้าเตรียมตัวจะขึ้นรถม้า เดินทางออกจากจวนโหวเจียงเยี่ยนก็โดนสหายขุนนางในวันวานลากตัวออกไปดื่มชาแม่เฒ่าสวี่ฉวยโอกาสนั้นเข้าหาข้านางพุ่งตัวเข้ามาหาข้าใน

Latest chapter

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0009

    ทุกเหตุการณ์ที่สวี่จิงโม่ประสบพบเจอหลังจากเข้ามาในเมืองหลวง ล้วนเป็นแผนการของหลินเยียนเอ๋อร์และจวนโหวจ้าวตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ข้าเกือบจะโดนโจรลักพาตัวไป บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญหลังแต่งงาน สวี่จิงโม่ก็ไม่เคยได้แตะต้องนางคนของจวนโหวจ้าวดูแลหลินเยียนเอ๋อร์ประหนึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเขาตอนแรกสวี่จิงโม่รู้แค่ว่าฐานะของหลินเยียนเอ๋อร์ไม่ธรรมดา แต่ไม่รู้ว่านางเป็นสตรีของฮ่องเต้ตอนแรกเขาคิดจะกล้ำกลืนโทสะยอมโดนสวมเขา หากแลกกับการมีอนาคตที่สดใสก็ไม่ใช่เรื่องแย่แต่ตอนที่ท่านโหวจ้าวจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดฮ่องเต้หาข้ออ้างออกมานัดพบกับหลินเยียนเอ๋อร์ สวี่จิงโม่ดันบังเอิญเห็นเข้าฮ่องเต้ตรัสว่า ตอนแรกในการสอบหน้าพระพักตร์ปีนี้ เขาเลือกสวี่จิงโม่ให้เป็นจอหงวน“แต่พอคิดว่าเจ้าสารเลวนั่นเคยแต่งงานกับเจ้า ถึงจะเป็นแค่ฉากบังหน้า แต่ข้าก็อดขุ่นเคืองไม่ได้”“ข้าไม่อยากเห็นหน้าเขา”ฮ่องเต้ยังกล่าวอย่างชั่วร้ายอีกว่า“หลังจากนี้ไปถ้าสามีของเจ้าเข้าร่วมการสอบขุนนาง เราจะไม่ยอมให้เขาสอบผ่านเด็ดขาด”ตรัสเพียงไม่กี่ประโยค กลับเปลี่ยนชะตาชีวิตของสวี่จิงโม่อย่างสิ้นเชิง

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0008

    ตอนที่ข้าตั้งครรภ์ได้สามเดือนในที่สุดสวี่จิงโม่ก็ทนไม่ไหวบุกมาตามหาข้าซึ่งขณะนั้นข้ากำลังแอบกินไอติมผลไม้อยู่ในเรือนเล็กเขาสวมชุดเปื้อนเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิงตอนที่มองเห็นข้า ดวงตาของเขาก็แดงก่ำเขาเรียกข้าด้วยเสียงแหบแห้งและโหยหา“อาเหยียน โชคดีที่ยังมีเจ้าอยู่”“พวกเรากลับไปที่หมู่บ้านเถาซีกันเถอะ ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงลาภยศอะไรพวกนี้แล้ว”นิสัยของสวี่จิงโม่เปลี่ยนแปลงแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขายังคิดจะใช้ข้าเป็นหินรองเท้า เพื่อก้าวสู่อำนาจอยู่เลยข้ามองสวี่จิงโม่ที่อยู่ในสภาพคนสติไม่เต็มร้อย กับชายเสื้อที่มีเลือดไหลหยดของเขาในใจเกิดหวาดระแวง จึงค่อยๆ ก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบสวี่จิงโม่ทำหน้าเจ็บปวด“อาเหยียน เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”“ข้าแค่สังหารคนที่ทำลายความสุขของพวกเราเท่านั้น”ข้าหรี่ตาลง “เจ้าฆ่าใครไป? หลินเยียนเอ๋อร์? ท่านโหว?”สวี่จิงโม่ยกยิ้มมุมปาก “มีมากกว่านั้นอีก”ระหว่างที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดสามีสุดหล่อที่มีอกผายไหล่ผึ่งเอวสอบคนนั้น ก็เดินดุ่มๆ เข้ามาแบบไม่รู้ไม่ชี้คว้าไอติมจากมือของข้าไป แล้วพูดจาประชดประชั

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0007

    ข้าได้พบสวี่จิงโม่อีกครั้ง ตอนที่ไปร่วมงานวันเกิดของท่านโหวจ้าวเพราะมันเป็นธรรมเนียม ข้ากับเจียงเยี่ยนเลยต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยวันนั้นหิมะตกหนักมากสวี่จิงโม่ยืนอยู่ด้านหลังท่านโหวจ้าว ดวงหน้าซีดเซียวเหี่ยวเฉา สีหน้าอารมณ์อมทุกข์ราวกับเผชิญเคราะห์กรรมใหญ่มาไม่เหลือความหยิ่งผยองในตอนแรกเริ่มข้ามอบของขวัญเสร็จก็นั่งร่วมงานกับเจียงเยี่ยนสักพัก ก่อนจะเตรียมตัวกลับกันก่อนกลับข้าบังเอิญเห็นหลินเยียนเอ๋อร์ เดินผ่านไปทางเรือนด้านหลังดูเหมือนกำลังรีบร้อนไปพบใครบางคนดูจากรูปร่างของนาง คาดว่าจะตั้งครรภ์ได้เจ็ดแปดเดือนแล้วแต่ข้ากับสวี่จิงโม่แต่งงานวันเดียวกัน หากนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ ก็เพิ่งจะผ่านไปห้าเดือนเท่านั้นได้ยินว่าในระหว่างนั้น เขายังใช้เวลาสองสามเดือนเตรียมตัวสอบหน้าพระที่นั่งด้วยนี่มัน...เจียงเยี่ยนเอามือแตะคาง ลอบหัวเราะอย่างสะใจอยู่ข้างๆ“สวี่จิงโม่คงจะโดนจวนโหวกับจวนเสนาบดีหลอกต้มแล้วล่ะ”ตอนที่ข้าเตรียมตัวจะขึ้นรถม้า เดินทางออกจากจวนโหวเจียงเยี่ยนก็โดนสหายขุนนางในวันวานลากตัวออกไปดื่มชาแม่เฒ่าสวี่ฉวยโอกาสนั้นเข้าหาข้านางพุ่งตัวเข้ามาหาข้าใน

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0006

    งานแต่งของข้ากับเจียงเยี่ยน มีกำหนดการวันเดียวกันกับงานแต่งของสวี่จิงโม่ด้วยข้ออ้างเรื่องความจำเสื่อม เจียงเยี่ยนจึงฉวยโอกาสนี้ขอลาออกจากราชการ กลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อแสดงความภักดีฮ่องเต้แม้จะมีสีหน้าเสียดาย แต่ก็พระราชทานเงินทองและของมีค่ามากมายให้เป็นค่าชดเชยงานของของพวกเราถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการสิ่งที่สวี่จิงโม่เคยให้คำมั่นสัญญากับข้าไว้ เจียงเยี่ยนกลับทำให้หมดทุกอย่างแม้จะไม่เคยพูดมาก่อนงานแต่งที่ทุ่มเงินจำนวนนับพันตำลึงเพื่อจัดขึ้นมา สร้างความอิจฉาให้บรรดาหญิงสาววัยบานสะพรั่งที่ยังไม่ออกเรือนมากมายขบวนสินสอดยาวสิบลี้ เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่และงดงามมากภายในเรือนหอ ข้านั่งกำหนังสือข้อตกลงแต่งงานด้วยความประหม่า“ข้า ข้า...จะเป็นภรรยาของเจ้าสามปี หลังจากฝ่าบาททรงคลายความหวาดระแวงแล้ว ข้าจะยกตำแหน่งพระชายาหลินอันคืนให้”“จะไม่ขัดขวางการหาคู่ครองคนใหม่ของท่านอ๋องแน่นอน——”นิ้วเรียวดุจหยกของเจียงเยี่ยนทาบทับริมฝีปากของข้าดวงตาเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกของเขาส่องประกาย กล่าวอย่างขบขันว่า“เรื่องนั้นไว้ค่อยพูดกันวันหลังเถอะ”“ภรรยา ตอนนี้——”“เล่นละครก็ต้องเล่นให้สมจริ

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0005

    “พี่สาวคิดอะไรอยู่หรือ ถึงได้เหม่อลอยขนาดนั้น?”เจียงเยี่ยนยื่นหน้าหล่อๆ เข้ามาหาข้า ปลุกข้าจากภวังค์ความคิดดวงตาของเขางดงามมาก ราวกับสะกดจิตของคนได้ข้าผลักเขาออก ไม่กล้ามองสบตาเขามากนัก“วันนี้...ต้องขอบพระทัยท่านอ๋องมาก ที่ช่วยออกหน้าแทนข้าสองครั้งแล้ว”“ท่านอ๋อง ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว ท่านออกจากจวนมานานมากแล้ว ไม่คิดจะกลับไปหรือ?”เจียงเยี่ยนตบศีรษะตัวเองเบาๆ “เจ้าพูดถูก ข้าเกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย”เขาแบกดาบโค้งเล่มนั้นออกไปด้วยความเร่งรีบรอบข้างกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งข้ามองตามแผ่นหลังที่ห่างออกไปไกลของเขา รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกแต่นั่นคืออ๋องหลินอันเชียวนะเป็นแม่ทัพหนุ่มในฝันของข้า ที่สง่างามและเจิดจรัสมากที่สุดสูงส่งจนไม่อาจเอื้อม......เพราะเรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ กว่าข้าจะออกมาขายบะหมี่ ฟ้าก็สว่างจ้าแล้วด้านนอกมีเสียงอึกทึกแผงขายบะหมี่ของข้าถูกของมีค่าแปลกประหลาดและหายากหลากสีสัน วางกองทับถมจนไม่มีที่จะเดินเจียงเยี่ยนยังพาข้ารับใช้จำนวนหนึ่งมาด้วย พวกเขาช่วยกันขนของเข้าไปในบ้านข้าข้ารับใช้ของเขาบอกกับชาวบ้านรอบๆ ว่า“แม่นางเหยียนคือผู้

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0004

    เจียงเยี่ยนประสบเหตุจนสมองผิดเพี้ยนไป เลยไม่คิดจะฟังที่อีกฝ่ายพูด เขารัวหมัดชกใส่สวี่จิงโม่อย่างเมามัน“ต่อให้เจ้าจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่ถ้ากล้าพูดจาไม่เข้าหูพี่สาวของข้า ข้าก็พร้อมจะต่อยให้คว่ำอยู่ดี”“เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเจ้าหรือ ที่เลือกคบคนจากหน้าตา ตัดสินคนจากทรัพย์สินเงินทอง?”“มันน่ากระทืบให้ตายคาตีนจริงๆ!”เจียงเยี่ยนลงมือโหดเหี้ยมแล้วยังพูดจาแสลงหูด้วยในเมื่อใช้เหตุผลไม่ได้ ก็ต้องใช้กำลังเข้าข่ม“พี่เหยียนเป็นคนจิตใจดีงาม ครั้งแรกที่พบนางตรงชานเมือง ข้าก็หลงรักนางทันที”“แกเป็นใครมาจากไหน กล้าดีอย่างไรมาชี้นิ้วสั่งสอนพวกเรา?”แน่ใจนะ....ว่าที่หลงรักไม่ใช่เครื่องในวัวตุ๋นของข้า?ช่างเถอะเมื่อเห็นสวี่จิงโม่ถูกต่อยจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียว ข้าก็รู้สึกหายโกรธไปหลายส่วน“จับเขาโยนออกไปซะ อย่าให้รบกวนการทำมาค้าขายของพวกเรา”“ได้เลย!”หลังจากเขาจัดการเรียบร้อยก็กลับมาที่ห้อง ยืนเกาะขอบประตูด้วยท่าทางน่าสงสาร“ข้าได้ยินชาวบ้านที่อยู่ข้างนอกบอกว่า คนผู้นั้นเป็นสามีเก่าของพี่สาว”“ข้าไม่ทันได้ยั้งมือเอาไว้ ทำร้ายอดีตสามีพี่สาวจนเจ็บหนัก พี่สาวคงไม่โกรธข้าหรอกนะ?”

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0003

    ช่วยชีวิตเจียงเยี่ยนนั้นง่ายนิดเดียวข้าลากเขาที่นอนหายใจรวยรินกลับมาที่แผงขายบะหมี่ลวกบะหมี่ร้อนๆ ให้เขาหนึ่งชาม เขาก็ฟื้นคืนชีพได้เกินครึ่งแล้วเขาลูบๆ คลำๆ ตัวเองอยู่นาน สุดท้ายก็ล้วงกุญแจอายุยืน[footnoteRef:1]สีทองออกมา ขอให้ข้าไปซื้อยาให้เขาหน่อย [1: ของที่ลักษณะคล้ายแม่กุญแจ มีไว้คล้องคอเด็กทารกเพื่ออวยพรให้อายุยืน] ความจริงแล้วของที่เขาให้มามีมูลค่ามากกว่าค่ายาตั้งเยอะเจียงเยี่ยนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ“ไม่เป็นไร”ตอนนั้นข้าดีใจจนเหมือนโลกทั้งใบมีดอกไม้บาน ยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองเก็บไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำได้ใครจะคาดคิด——ว่านั่นคือทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามีอยู่เขาเกาะติดข้าไม่ยอมไปไหนเจียงเยี่ยนประสบเหตุบนเขาจนความจำเสื่อม เขาจำได้แค่ชื่อของตัวเองเท่านั้นตอนนี้อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว เงินที่มีก็ใช้จนเกือบหมดแล้ว แต่เขากลับเกาะแกะข้าไม่ยอมเลิก ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไปข้าเท้าเอวด้วยความโมโห ไปที่แผงขายบะหมี่แล้วไล่เขากลับ“บ้านของข้าไม่ได้มีเอาไว้เลี้ยงดูบุรุษไร้หัวนอนปลายเท้านะ รีบ——”พอเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าเจียงเยี่ยนตัดฟืนทั้งหมด ขนน้ำมาเติมจนเต็มโอ่งตั้งแต่เช้าตรู

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่0002

    ตอนที่กลับมาถึงแผงขายบะหมี่ พวกชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็มามุงดูกันอย่างแน่นขนัดพวกเขาพูดจายกย่องชื่นชมเขาไม่ขาดปากข้าจึงเอ่ยถามเขาว่า“แปลว่าเจ้าคิดจะลดฐานะข้าจากภรรยาเอกเป็นอนุภรรยางั้นหรือ?”ผู้คนที่อยู่รอบๆ พากันปิดปากหัวเราะ“ต่อให้แม่นางเหยียนเป็นแค่อนุภรรยา แต่ภายภาคหน้าก็ไม่ต้องลำบากขายบะหมี่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำแล้ว”“สหายสวี่ยังระลึกถึงความรักเก่า ยอมรับเจ้าเข้าไปในจวนโหว ควรจะสำนึกบุญคุณบ้างนะ”สวี่จิงโม่ถูกผู้คนพูดจายกยอจนสูงส่ง“เหยียนอัน ยามนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”“ข้าเป็นบุตรชายภรรยาเอกของจวนโหว ภายภาคหน้าจะต้องสืบทอดตำแหน่งจากบิดา แล้วยังเป็นท่านโหวน้อยของจวนโหวจ้าวอีก ต้องแต่งสตรีที่ฐานะทัดเทียมกันเป็นภรรยาเอก”แม่เฒ่าสวี่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยข้าเขวี้ยงไม้นวดแป้งลงพื้นอย่างรุนแรง“ตอนแรกเจ้าพาแม่เฒ่าสวี่ที่ป่วยใกล้ตายมาหาข้า ขอแต่งเป็นเขยเข้าตระกูลเหยียนของข้า ทำไมไม่คิดถึงเรื่องฐานะเท่าเทียมกันล่ะ?”“แผงลอยขายบะหมี่ที่เจ้าเหยียบอยู่ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่ข้าเช่ามา”“เงินที่เจ้าใช้เดินทางไปสอบที่เมืองหลวง แม้แต่เสื้อผ้าที่มารดาเจ้าสวมอยู่ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงที่

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่ 0001

    ตอนที่สามีของข้าเดินทางไปสอบที่เมืองหลวง เขาได้พบโดยบังเอิญว่า ตัวเองคือบุตรชายภรรยาเอกที่พลัดพรากจากจวนโหวจ้าวมานานหลายปีบนถนนใหญ่มีคนราวสิบกว่าคน คุกเข่าห้อมล้อมรอบตัวสวี่จิงโม่“ท่านโหวออกตามหาท่านมานานสิบกว่าปีแล้ว!”"ปานแดงหลังใบหูของท่าน ข้าน้อยไม่มีวันจำผิดแน่!"ท่ามกลางบรรดาบ่าวรับใช้ ยังมีสาวงามรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบางคนหนึ่งยืนอยู่ เอ่ยเรียกด้วยแววตาหวานซึ้ง“พี่ชาย ข้าคือคู่หมั้นของท่าน”สวี่จิงโม่ถูกพาตัวเข้าไปในจวนโหวอันงดงามหรูหราและโอ่โถงกว้างใหญ่ ส่วนข้า ภรรยาที่ถูกต้องตามธรรมเนียมของสวี่จิงโม่ ยามนี้กำลังตะโกนขายบะหมี่ราคาชามละไม่กี่อีแปะ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย“นางเหยียนเลิกขายได้แล้ว! สามีเจ้ากลายเป็นท่านโหวน้อยไปแล้ว!”ลูกค้าคนหนึ่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนถนนเส้นหลักให้ข้าทราบสวี่จิงโม่เป็นเด็กกำพร้าในหมู่บ้านของพวกเราจริงแท้แน่นอน ไร้บิดามารดา ถูกแม่เฒ่าสวี่เก็บมาเลี้ยงจนเติบใหญ่ข้ากับแม่เฒ่าสวี่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจอย่างยิ่งสามีตามหาครอบครัวที่แท้จริงพบ ในที่สุดก็ไม่ต้องอยู่โดดเดี่ยวแล้วแม่เฒ่าสวี่พูดอย่างยินดีปรีดา“จวนโหวจ้าวมั่งคำร่ำรวย มีเงิน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status