“งั้นดี”หลงยวนหรี่ตามองอย่างเย็นชา:“เวลาหนึ่งสัปดาห์นี้ คนของตระกูลหลงตามที่ต่างๆ สามารถลงมือได้แล้ว ควบคุมผู้รับผิดชอบตระกูลถังที่กลับไปยังตระกูลย่อยแต่ละพื้นที่เอาไว้“หลงเซียว เธอรับผิดชอบจัดการหลินเฟิง”“สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็อยู่ที่สัปดาห์หน้าแล้ว ถ้าหากถึงเวลาแผนการเกิดความคลาดเคลื่อน งั้นพวกเราก็ทำได้เพียงใช้กำลังบังคับหลงยวนหรี่ตาลงใช่แล้วแผนการทั้งหมดต่างเป็นความคิดที่หลงยวนวางแผนเอาไว้รวมทั้งยึดตระกูลถังเป็นของตนเอง แม้กระทั่งตระกูลจี ต่างก็เป็นหลงยวนที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ถึงแม้พรสวรรค์การฝึกบำเพ็ญของเขาจะสู้น้องสามของตัวเองไม่ได้ แต่ความคิดกลับลึกยิ่งกว่าน้องสามของตัวเองจนน่ากลัวอย่างเช่นตระกูลถังก่อนหน้านี้ ตอนที่เผชิญหน้ากับหลินเฟิง ท่าทางที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟภายนอกนั้นไม่เหมือนกับเสแสร้งออกมาด้วยซ้ำต่อให้เป็นหลินเฟิงก็ไม่เห็นความเจ้าเล่ห์ที่หลงยวนแอบซ่อนเอาไว้“อ่อใช่ พี่ใหญ่”หลงเซียวมองไปทางหลงยวน ขมวดคิ้วพูดว่า:“ถ้าหากฉันจับหลินเฟิงได้ พี่แน่ใจว่าจะไม่ใช้การลงโทษกับเขาหน่อยเหรอ?”“ในเมื่อ...”“ในเมื่อเขากับถังหว่านสวีทกันขนาดนั้น ก็คือว่า...สวม
หลังจากที่ทักทายกับจีอวิ๋นเจี๋ย และขอบคุณ หลินเฟิงก็ได้รับโทรศัพท์ของคนที่ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมากหลี่กงเฉิงหลี่กงเฉิงก็คือคุณลุงของหลี่ฮุ่ยหรานเทียบกับถังเจี้ยนหยวนของตระกูลถัง หลี่กงเฉิงคนนี้ดูเป็นมิตรมากกว่าเยอะเลยหลังจากที่เขารับสาย ก็ถามอย่างเป็นมิตร:“คุณหลิน ไม่ทราบว่าช่วงนี้ฟาร์มของพ่อผมมีเรื่องอะไรกลุ้มใจไหมครับ?”“นี่ยังเหลืออีกเดือนกว่าๆ ก็จะต้องมอบรายงานบัญชีแล้ว ถ้าหากคุณพบเจอเรื่องลำบาก ไม่สู้ผมไปขอร้องคุณพ่อ ให้เขายืดเวลาออกไปหน่อย…”“ยืดเวลาเรื่องอะไร หลี่กงเฉิง คุณเข้าข้างคนอื่น!”ทางด้านหลี่กงเฉิง หลินเฟิงได้ยินเสียงด่าของโจวอวี้เฟิ่ง“หุบปาก ผู้ชายคุยกัน ผู้หญิงอย่าพูดแทรก!”หลี่กงเฉิงด่าประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ถามหลินเฟิงเสียงเบา:“หากไม่ได้จริงๆ ก็ขายที่เถอะครับ เพียงแค่นำเงินทุนกลับมาได้ ผมคิดว่าพ่อของผมก็ไม่มีทางพูดอะไร…”“ทั้งๆ ที่หลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานพวกเขาพูดจาใหญ่โต ทำไมพวกเราต้องไปช่วยพวกเขา…”โจวอวี้เฟิ่งยังพูดประชดประชันอยู่รอบๆ อย่างเห็นได้ชัด“โจวอวี้เฟิ่ง!”หลี่กงเฉิงตวาดเสียงแข็ง ทันใดนั้นก็ทำให้ข้างกายของเขาสงบลงทันที“หึหึ ขอโทษที
“ถ้าหากคุณไม่ยุ่ง ก็ได้ค่ะ พวกเรามาเจอกันที่โรงแรมชวนซานนอกทางด่วนของเขตเมืองใต้เถอะ”“ครับ”หลินเฟิงวางสาย ขับรถมาเซราติที่ตู้ไหวมอบให้เขาออกไปข้างนอก แล่นไปสถานที่ที่หลี่ฮุ่ยหรานบอกไว้ถึงโรงแรม หลินเฟิงไม่ได้เห็นเพียงหลี่ฮุ่ยหรานที่แต่งตัวชุดออฟฟิศ ที่ดูทะมัดทะแมงเป็นพิเศษ เขายังได้พบกับจางกุ้ยหลานที่นั่งอยู่ข้างเธอและหลี่เยว่หรูที่อยู่ตรงข้ามเธอ กับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นสวมชุดสูทแบรนด์ดัง เส้นผมแวววับ ผิวพรรณบำรุงรักษาได้ไม่เลวแค่ดูก็รู้ว่าเป็นคุณชายของตระกูลเศรษฐี“โอ๊ย ฉันบอกไว้แล้ว โปรเจ็กต์รับเหมานี้ให้หนานชางไม่ผิดแน่ พวกคุณยังจะกังวลอะไร?”หลี่เยว่หรูกำลังโอดครวญไม่หยุดหลินเฟิงเดินเข้าไป ดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที“หลินเฟิง มา ตรงนี้ค่ะ”หลี่ฮุ่ยหรานเรียกให้หลินเฟิงนั่งลงอย่างกระตือรือร้น ส่วนจางกุ้ยหลานกลับเบะปากด้วยความไม่สบอารมณ์เล็กน้อย“เขามาได้ยังไง?”หลี่เยว่หรูก็ไม่ได้มีนิสัยที่ดีขนาดนั้น เธอชี้หลินเฟิงอย่างไม่พอใจและพูดว่า:“ใครใช้ให้เขามากัน?”“ฉันเอง”หลี่ฮุ่ยหรานดื่มน้ำ และพยักหน้าอย่างนิ่งเฉย:“นี่คือสามีของฉัน ฉันให้เขามาไ
“งั้นก็ได้”เหมียวชางพูดด้วยความเสียดายเล็กน้อย: “เมื่อไหร่ที่คนยืนหยัดต่อไปไม่ไหว ก็บอกกับผม ยังไงผมก็สามารถช่วยคุณหางานได้” “ไซต์งานก่อสร้างของผมไม่รังเกียจที่มีคนเยอะ”“ไม่จำเป็นครับ”น้ำเสียงของหลินเฟิงแฝงไปด้วยความเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดดูท่าเหมียวชางคนนี้ไม่ได้เห็นเขาเป็นคนด้วยซ้ำสินะ! บอกว่าทำเพื่อหางานให้เขา แต่แท้จริงก็เพื่อหัวเราะเยาะเขาหลินเฟิงจึงไม่ได้ติดกับเขาอยู่แล้ว และก็ไม่มีทางติดกับคนประเภทนี้“เอาล่ะเอาล่ะ”เห็นหลินเฟิงนั่งลง หลี่ฮุ่ยหรานหยิบสัญญาชุดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสารที่อยู่ข้างๆ และดันไปให้หลินเฟิงที่บนโต๊ะจากนั้นพูดว่า:“หลินเฟิง ทางด้านตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานจะสร้างวิลล่าหลังหนึ่งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้คุณปู่หลี่ไห่หงได้ใช้ชีวิตในวัยเกษียณ นี่คือกองทุนโครงการที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้ และยังมีความต้องการประเภทต่างๆ”“คุณดูสักหน่อย มีสิ่งของอะไรขาดแคลนหรือเปล่า”หลินเฟิงหยิบสัญญามา ขณะที่ตรวจดูอย่างละเอียด หลี่เยว่หรูที่อยู่ข้างๆ ก็อดกลั้นความอดทนไม่ไหแล้ว:“หลี่ฮุ่ยหรานฉันถามหน่อย เธอจะเซ็นหรือไม่เซ็น?”“ทางเหมียงชางเป็นตัวช่วยที่ฉันพยายามอย่างม
หลี่เยว่หรูสีหน้าไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ที่หลินเฟิงมาถึง เรื่องราวก็เปลี่ยนไปซับซ้อนขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องแค่การปั๊มตรา และเซ็นชื่อ“ฮุ่ยหราน งั้นพวกเธอก็ไปกันก่อนเถอะ ฉันไม่เคยมาเมืองจิง อยากจะเดินเที่ยวเล่นให้เต็มที่”จางกุ้ยหลานฝืนยิ้มออกมา“หือ?”หลินเฟิงมองอะไรบางอย่างออกมาจากสีหน้าของจางกุ้ยหลาน เธอเหมือนพยายามปิดบังอะไรไว้อยู่ดูท่าเธอมาเมืองจิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเพราะมีเป้าหมายของตัวเองไม่น่าแปลกใจที่เมื่อครู่ตั้งแต่เริ่มต้นก็แสดงออกได้ว่าง่ายถึงขนาดนั้น ไม่ทำตัวเด่น นี่ไม่เหมือนกับนิสัยของเธอโดยสิ้นเชิง“อืม งั้นแม่ระวังความปลอดภัยของตัวเองด้วย”หลี่ฮุ่ยหรานพูดประโยคนี้จบ ก็ถือกระเป๋าเอกสาร เดินออกจากประตูโรงแรมไปพร้อมกับหลินเฟิง หลี่เยว่หรู และเหมียวชางขณะเดียวกับที่พวกเขาออกไปจากประตูโรงแรม จางกุ้ยหลานก็กดโทรหาเบอร์แปลกหน้าตามติดกันและเบอร์นี้กลับไม่ใช่เบอร์ท้องถิ่นประเทศมังกร แต่เป็นระยะไกลจากต่างประเทศ“ฉัน...ฉันมาถึงเมืองจิงแล้ว พวกแกอยู่ไหน ซินเอ่อร์ ซินเอ่อร์ล่ะ? เธอเป็นยังไงบ้าง?!”“คุณป้า ช่วยฉัน ช่วยฉันด้วย!”ในโทรศัพท์มีเสียงร้องโอดครวญของจางซินที
“หึหึ ฉันบอกกับเธอแล้วสินะ?”หลี่เยว่หรูกอดอกหัวเราะอย่างลำพองใจและพูดว่า:“บริษัทรับเหมาของเหมียวชางไม่ต้องมาดูด้วยซ้ำ ที่บริษัทของเขาได้มาตรฐาน เอาล่ะ พวกเราดูเสร็จแล้วก็ออกไปเที่ยวเถอะ”“กว่าจะได้มาเมืองจิงสักครั้ง ฉันไม่อยากเสียเวลาอยู่เพียงแค่งานที่น่าเบื่อหรอกนะ”ขณะพูด เธอก็โอบคอของเหมียวชางเอาไว้ไม่เสแสร้งแล้ว“อืม ในเมื่อเป็นแบบนี้...”หลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งหยิบสัญญาออกมาจากในกระเป๋าเอกสาร ก็จะปั๊มตราและเซ็นชื่อ จู่ๆ หลินเฟิงกลับยื่นมือออกไป และจับมือของหลี่ฮุ่ยหรานที่จะหยิบสัญญาออกมา“หือ?”หลี่ฮุ่ยหรานเงยหน้าขึ้น และมองไปทางหลินเฟิงด้วยความสงสัย“หลินเฟิงนายจะทำอะไรอีก?!”หลี่เยว่หรูมองหลินเฟิงที่ยื่นมือออกมา และระเบิดโมโห เท้าเอวด่าทอหลินเฟิง:“นายตั้งใจมาหาเรื่องบาดหมางกับพวกเราใช่ไหม? ถ้าหากนายตั้งใจมาเสียเวลาของพวกเรา งั้นก็รีบหายไปจากสายตาของพวกเราซะ!”“คุณหลิน”เหมียวชางเดินเข้ามา สีหน้ายิ้มเย็นชาพูดว่า: “ที่นี่คือบริษัทของผม คนเหล่านี้เป็นพนักงานของผม พวกเราก็มีหนังสือรับรองธุรกิจที่ถูกกฎหมายและเป็นไปตามข้อกำหนดและได้รับการอนุมัติตามมาตรฐาน”“ตอนนี้คุณยังมา
“หลี่เยว่หรู ฉันจำได้ว่าก่อนออกมา คุณปู่เคยพูดเอาไว้ เรื่องนี้ให้ฉันมีอำนาจการตัดสินใจ”“เธอลืมไปแล้วใช่ไหม?”“ฉัน..ฉัน...”หรี่เยว่หรูเม้มปาก ล้วงโทรศัพท์ออกมา และร้องไห้โฮพูดว่า: “ฉันจะโทรหาแม่ของฉัน พวกแกรวมตัวกันรังแกฉัน...”“เธอ...”หลี่ฮุ่ยหรานสูดหายใจเข้าลึกๆ และล็อกกระเป๋าเอกสาร จ้องมองเหมียวชางอย่างเย็นชา:“เถ้าแก่เหมียว ในเมื่อสถานการณ์ที่คุณบอกมาไม่เป็นความจริง งั้นก็อย่าโทษฉันนะคะ การร่วมของฉันกับบริษัทของคุณก็พอแค่นี้แล้วกันค่ะ”“เอ๊ะ อย่า ประธานหลี่ เอ๊ย ประธานหลี่...”เหมียวชางตกตะลึงอย่างมาก รีบขยับเข้าไปใกล้และพูดไพเราะ ขอร้องอ้อนวอน: “ประธานหลี่ นี่เป็นโอกาสเดียวของผมนะครับ ผมสารภาพ ผมสารภาพ!”“บริษัทแห่งนี้ไม่ใช่ของผม เป็นของเพื่อนผม”“เอาแบบนี้แล้วกัน ผมแนะนำคุณให้กับเพื่อนผม ท่างด้านเพื่อนผมต้องการเงินเจ็ดพันห้าร้อยล้านก็สามารถจัดการได้แล้ว ส่วนอื่นพวกเราแบ่งกันคนละครึ่งเป็นยังไง? เอ๊ะ คิดว่ายังไงล่ะครับ!”ได้ยินเหมียวชางขอร้องอย่างน่าไม่อายแบบนี้ หลี่ฮุ่ยหรานไม่มีความคิดที่อยากจะอยู่ต่อที่นี่แม้แต่นิดเดียว เธอหันหลังเดินจากไปโดยตรง“ประธานหลี่!”ในตอน
เหมียวชางเป็นเพื่อนในเน็ตที่หลี่เยว่หรูรู้จักเธอเคยเห็นรูปภาพของเหมียวชางบนอินเทอร์เน็ต คนหน้าตาหล่อพอใช้ได้ ได้ยินว่าเขาบริหารบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองจิง จึงคิดถึงการทอดสะพานระหว่างกลางขึ้นมาได้แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้“เธอ?”เหมียวชางเหลือบมองหลี่เยว่หรูด้วยความดูถูก และฉีกยิ้มพูดว่า:“เธอไม่ส่องกระจกดูบ้าง ดูว่าเธอหน้าตาสภาพแบบนั้น เหมือนกับแม่หมูตัวใหญ่ต้นตำรับตัวหนึ่ง”“ถ้าฉันไม่ได้ทำเพราะเงิน จะชอบเธอได้งั้นเหรอ?”ได้ยินคำพูดฉีกหน้าแบบนี้ของเหมียวชาง หลี่เยว่หรูเหมือนกับโดนฟ้าผ่าแสกหน้า“ดังนั้นแล้วความรักออนไลน์ต้องระมัดระวังไง”หลินเฟิงเผชิญหน้ากับพวกอันธพาลที่ล้อมเข้ามา ก็ไม่ได้เป็ฯกังวล เหมือนกับสบายใจเฉิบ ถึงขั้นยังมีอารมณ์ล้อเล่นอีก“หลินเฟิง พวกเราควรทำอย่างไร?”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างร้อนรน“วางใจเถอะ ในเมื่อวันนี้มีผมอยู่ที่นี่ ใครก็ไม่สามารถแตะต้องคุณได้”ฟังหลินเฟิงพูดจาใหญ่โต เหมียวชางก็นั่งลงทันทีเขาโยนประแจที่อยู่ในมือไปทางหลินเฟิง และตะคอกด้วยความโมโห: “พรรคพวก ลุยเข้าไปทั้งหมด!”“กระทืบผู้ชายคนนั้นให้ฉันอย่างหนัก กระทืบจนกว่าจะตาย
เจ้าของรถจำนวนไม่น้อยต่างพากันเบิกตากว้าง มองรอยยางรถที่อยู่บนพื้นด้วยความอิจฉาส่วนหลินเฟิงที่เหยียบคันเร่งจนเครื่องยนค์มายบัคคำรามลั่น หายไปจากสายตาของทุกคนในทันที......วันต่อมา มหาวิทยาลัยเจียงโจวหลินเสวี่ยฮุ่ยที่กำลังนั่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟัง และไม่ได้ยินชื่อหลินเฟิงปรากฏในรายชื่อของศาตราจารย์ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนว่าตัวเธอเองยังไร้เดียงสาเกินไปแล้วก็ใช่ตอนนี้พี่หลินเฟิงคบค้าสมาคบกับบุคคลแบบไหน ส่วนเธอเองเป็นคนแบบไหน เธอจบการศีกษา ก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อยเกินไปที่จะรบกวนหลินเฟิงหูหนวกตาบอดเกินไปแล้วจริง ๆเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลินเสวี่ยฮุ่ยก็จับชายกระโปรงไว้ แต่ภายในดวงตากลับมีความเสียใจที่ไม่อาจควบคุมได้ดูเหมือนว่าจะต้องขอโทษพี่หลินเฟิงในภายหลังซะแล้วหลินเสวี่ยฮุ่ยคิดได้อย่างนี้“เสวี่ยฮุ่ย อย่าเสียใจไปเลย”โจวเสี่ยวหาง เพื่อนสนิทของหลินเสวี่ยฮุ่ยตบที่มือของหลินเสวี่ยฮุ่ย พร้อมกับปลอบใจว่า :“ไม่มาก็ไม่มา หลังจากนี้ยังมีเวลาอีกมาก”“ทำท่าทางดี ๆหน่อย หลังจากนี้เธอยังต้องพูดสุนทรพจน์กับแสดงละครอีกไม่
“หลินเฟิง กลับบริษัท”หลี่ฮุ่ยหราน นั่งกอดเข่าของตัวเธอเองอยู่บนที่นั่งด้านข้างคนขับ โดยมีสีหน้าที่เศร้าเสียใจและสิ้นหวัง“ฮุ่ยหราน จริง ๆแล้ว.....”“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หลินเฟิง ฉันรู้ทุกอย่าง”หลี่ฮุ่ยหรานมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ไม่อยากให้หลินเฟิงเห็นน้ำตาของเธอ แล้วเธอก็พึมพำว่า :“ฉันไม่เสียใจ ฉันไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่น้อย”“......”หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง หลินเฟิงก็สตาร์ทรถในที่สุดฝนก็เริ่มตกปรอย ๆหลินเฟิงกำลังไปส่งหลี่ฮุ่ยหรานกลับไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ป ทั้งสองคนต่างก็เงียบกันไปตลอดทาง หลินเฟิงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก"หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฉันจะให้คุณลาหยุดสองวัน”ที่หน้าทางเข้าบริษัท เสียงของหลี่ฮุ่ยหรานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอที่พยายามกลั้นน้ำตามาตลอดทางนั้น แต่ก็ยังคงแสร้งยิ้มออกมา“คุณก็เหนื่อยแย่แล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”“อืม”เมื่อรู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานต้องการเวลา หลินเฟิงก็พยักหน้าแล้วออกไป“ใช่แล้ว ที่แม่ของฉันพูด คุณก็ไม่ต้องใส่ใจนะ”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มพร้อมกับพูดว่า :“แม้ว่าคุณจะเป็นสุนัข แต่ก็เป็นสุนัขที่ทรงพลังแล้วหล่อที่สุดในโลก”“หึ.....”หลินเฟิงถูกเธอทำใ
“แน่นอนว่าอยากจะให้บทเรียนกับไอ้หมอนั่น่สักหน่อย! ใครใช้ให้เขามักจะหยิ่งยโสต่อหน้าพวกเราล่ะ?”“เขาชอบโอ้อวดความเก่ง ก็ต้องมีจุดจบแบบนี้แหละ”จางซินพูดเต็มปากเต็มคำ“พอแล้ว”หลินเฟิงแย่งโทรศัพท์ไป เขากลัวว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโมโหจนทนไม่ไหวหลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉยว่า: “คุณน้าจาง วันนี้ผมถามพวกคุณเป็นครั้งสุดท้าย เพียงแค่เชื่อผม ที่ดินพวกนี้คุณได้ครอบครอง ก็สามารถทำเงินได้ไม่ใช่แค่สิบเท่า”“อีกทั้งถ้าหากไม่รับไป ถึงเวลาพวกคุณอย่ามาเอะอะโวยวาย ขอร้องให้ผมขายให้พวกคุณอีกนะ”ได้ยินคำพูดนี้ จางกุ้ยหลานพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“หลินเฟิง นายหมายความว่ายังไง? หรือว่าในสายตาของนาย ฉันก็คือผู้หญิงบ้าที่ชอบเอะอะโวยวายงั้นเหรอ?”“หึ แม่ไม่ใช่เหรอ?”คำพูดนี้ไม่ใช่หลินเฟิงเป็นคนพูด แต่เป็นหลี่ฮุ่ยหรานที่กอดอกพูดออกมาตอนนี้เธอถือว่าผิดหวังต่อแม่ของเธอเป็นที่สุดได้ยินคำพูดนี้ของลูกสาว จางกุ้ยหลานนิ่งอึ้งเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าถูกทำให้โมโหอย่างมาก“ได้เลยหลี่ฮุ่ยหราน แก...แกปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ ฉันทำเพื่อนแกมาโดยตลอด กลัวว่าแกจะแต่งงานกับคนชั่ว แกยิ่งอยู่ยิ่งไม่เห็นว่าฉันเป็นแม่แท้ๆ แล้ว”“แ
แต่เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว เสียบรรยากาศไปจนหมดแล้วหลินเฟิงทำได้เพียงขยับโทรศัพท์มาที่ข้างหูด้วยความจนใจและพูดขึ้นว่า:“น้า....จาง เมื่อครู่ผมได้ทำการตรวจสอบแล้ว ที่ดินแห่งนี้อันที่จริงมีมูลค่าอย่างมาก”“หือ? มีมูลค่ายังไง?”จางกุ้ยหลานที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์มีความเยาะหยันเล็กน้อยถึงขั้นที่หลินเฟิงได้ยินเสียงหัวเราะของจางซินที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น อยู่ที่อีกฝ่ายของโทรศัพท์“คุณป้า ป้าว่าไอ้โง่นี่คิดว่าขาดทุนแล้วหรือเปล่า ถึงได้ขายที่ดินแห่งนี้ให้ป้าใหม่อีกครั้ง?”จางซินถึงขั้นที่พูดเยาะหยันออกมา“ผมได้รับข่าวสารที่เชื่อถือได้มา”หลินเฟิงไม่ได้ใส่ใจ แต่พูดปากเปียกปากแฉะว่า: “ที่ดินผืนนี้ต่อไปจะถูกนำไปรวมอยู่ในผังเมือง จะมีการเปิดถนนเลียบไปตามพื้นที่ที่พักอาศัยแห่งนี้”“ถึงเวลา มูลค่าของที่ดินแห่งนี้ก็จะเพิ่มขึ้นไม่เพียงแค่สิบเท่า!”ได้ยินคำพูดของหลินเฟิง จางซินไม่หัวเราะแล้ว จางกุ้ยหลานก็เงียบขรึมลงครู่หนึ่ง จางกุ้ยหลานถึงได้ถามลองเชิงว่า:“ดังนั้นล่ะหลินเฟิง ความหมายของนายคือ ให้ฉันซื้อที่ดินผืนนี้กลับไปมาจากมือของนาย?”“ผมคิดเอาไว้แบบนี้แหละครับ”หลินเฟิงพย
จางกุ้ยหลานถูกหลอกให้ซื้อที่ดินแห่งนี้เอาไว้ นั่นก็คือที่ดินที่ฉู่ฮวาจิ่นบอกหลินเฟิงก่อนหน้านี้ว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่สิบเท่าอย่ามองว่าหลินเฟิงตอนนี้ใช้เงินสองพันห้าร้อยล้านบาทซื้อที่ดินเอาไว้ผ่านไปอีกสองเดือน เกรงว่ามูลค่าของที่ดินแห่งนี้จะพุ่งขึ้นสูงด้วยความเร็วจรวด ไม่ใช่แค่เพียงสองหมื่นห้าพันล้านบาท!จางกุ้ยหลานกับจางซินและคนอื่นๆ ยังหัวเราะเยาะหลินเฟิงว่าเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกให้ใช้จ่ายเงินเมื่อดูแบบนี้แล้ว อันที่จริงพวกเธอต่างหากที่เป็นคนโง่มากที่สุด ถ้าหากพวกเธอได้รับรู้ข่าวสารนี้ภายหลัง จะต้องโมโหจนโรคหัวใจกำเริบหลินเฟิงบอกเรื่องนี้กับหลี่ฮุ่ยหรานช้าๆหลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากกว้างในทันที และมีใบหน้าตกตะลึง“นี่มันเรื่องจริงเหรอ?!”“น่าจะผิดพลาดไม่ได้”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อเป็นการยืนยัน แถมยังโทรศัพท์ไปหาจ้าวเว่ย ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหรานจ้าวเว่ยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการที่ควบคุมงานประมูล แต่ในฐานะพนักงานภายในหน่วยงานพัฒนาเมืองเจิ้งเต๋อ ก็ยังสามารถได้ยินข่าวคราวนโยบายอยู่บ้างเขาได้ยินการสอบถามของหลินเฟิง พูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย:“คุณหลิน เรื่องพื้นที่พักอาศัยผมไม่ท
รับสมัครพวกแก๊งเขี้ยวเขียวเหล่านี้ หลังจากที่หลินเฟิงจัดแจงพวกเขาให้พักอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้เพิ่งขึ้นรถ บนใบหน้าก็เผยความดิ้นรนที่แปลกประหลาดออกมา“เป็นอะไรไปหลินเฟิง มีตรงไหนผิดปกติงั้นเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบถามขึ้นมา“ไม่ใช่”หลินเฟิงมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ สุดท้ายก็ทำการตัดสินใจ ทอดถอนใจพูดว่า:“ฉันพูดความจริงกับนายแล้วกัน วันนั้นลูกค้าที่ชื่อคุณฉู่คนนั้นของคุณ อันที่จริงคือมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืด”“อะไรนะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานงุนงง ถึงแม้เธอคิดว่าคุณฉู่คนนั้นจะท่าทางไม่ธรรมดา อีกทั้งดูก็รู้ว่าเป็นคนที่มีเบื้องหลัง แต่พูดว่าเป็นมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืดความแตกต่างของสถานะนี้มันมากเกินไปหน่อยแล้วหลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงได้รู้สึกคอแห้งผาก มองไปทางหลินเฟิง และพูดขึ้นอย่างยากลำบาก: “ความหมายของคุณก็คือ...หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มเลิกการร่วมมือกับเธองั้นเหรอ?”“ไม่ ผมไม่ได้หมายความแบบนี้”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเคร่งขรึมว่า:“เธอไม่ได้ตั้งใจปิดบังสถานะของเธอต่อหน้าผม แต่กลับบอกผมโดยตรงผ่านวิธีบางอย่าง“งั้นเธอ
หลินเฟิงโบกมือพูดว่า: “ฉันไม่มีความคิดที่จะเป็นหัวหน้าแก๊งอะไรหรอกนะ เพียงแคร ต่อไปพวกนายห้ามทำความชั่วอีก”หลินเฟิงจับทรงผมโมฮอร์กของจิ่วเทา และสะบัดไปมาจากนั้นพูดว่า:“ตัดผมให้เรียบร้อย ฉันจะส่งคนมารับช่วงต่อ ส่งชุดฟอร์มที่เหมือนกันมาให้พวกนาย นับตั้งแต่วันนี้ พวกนายก็คือสมาชิกหน่วยใต้ดินของหน่วยรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว!”“ฮะ?”จิ่งเทาตั้งตัวไม่ทัน“ฮะอะไรกันล่ะ? หรือว่าพวกนายไม่เต็มใจ?”หลินเฟิงกวาดตามองพวกอันธพาลเหล่านี้ พวกอันธพาลส่วนหนึ่งในนั้นคุกเข่าให้หลินเฟิงด้วยความซาบซึ้งทันทีในเมื่อการเป็นอันธพาล บางครั้งไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากเป็นจริงๆแต่เป็นเพราะเกิดมาฐานะไม่ดี ไม่มีความรู้อะไร และก็ไม่มีความสามารถ ดังนั้นทำได้เพียงใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้สู้รบฆ่าฟันแต่ได้ยินข่าวที่พวกเขาถูกบริษัทใหญ่รับจ้าง คนจำนวนไม่น้อยมีสีหน้าต่อต้าน แต่ก็มีคนเผยความหวังออกมาเช่นกัน“คือว่า…หัวหน้าหลิน มี…มีเงินเดินไหม?”อันธพาลคนหนึ่งถามขึ้นกล้าๆ กลัวๆ“พูดไร้สาระ ประกันสังคม 5 รายการ และกองทุนที่อยู่อาศัย 1 รายการ แล้วยังมีเงินเบี้ยเลี้ยง เงินค่าอาหาร หรือถ้าพวกนายอยากคลอดลูกข ก
หลินเฟิงคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า : ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันมีเงื่อนไขในการ่วมมืออย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่านายจะยอมฟังหรือเปล่า?” “ เงื่อนไขอะไร?”ท่านจิ่วตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะมองไปทางหลินเฟิงด้วยแสงแห่งความหวังที่ผุดขึ้นในใจหากไม่ต้องออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ พวกเขาก็คงไม่อยากออกไปอย่างแน่นอน“ฉันจะจัดการแก๊งอีกสองแก๊งให้พวกนาย ทำให้พวกนายยังอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อต่อไปได้”“แน่นอน เงื่อนไขก็คือพวกนายจะต้องยอมเชื่อฟังหลี่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งก็คือ....”หลินเฟิงชี้ไปที่หลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะพูดอย่างยิ้ม ๆว่า :“คนนี้ ประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป ประธานหลี่”“อ่ะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกสับสนอันธพาลที่อยู่โยรอบ รวมถึงท่านจิ่วต่างก็รู้สึกสับสน“ทำไม? พวกนายไม่ยอมรับงั้นเหรอ?”หลินเฟิงขมวดคิ้วอย่างจงใจ“ยอมสิ ยอมแน่นอน เพื่อนและครอบครัวของพวกพี่น้องหลายๆ คนของพวกเราต่างก็อยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อ เว้นแต่ไม่มีทางเลือก พวกเราก็ไม่ยอมออกไปจากเมืองเจิ้งเต๋อหรอก เพียงแต่...”ท่านจิ่วรู้สึกลำบากใจ“เพียงแต่อะไร?”“เพียงแต่....”ท่านจิ่วจ้องมองไปที่หลินเฟิง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้จริง ๆเขาก็อยากจะพูดว
ดูเหมือนว่าอันธพาลแก๊งหมาป่าสีเลือดพวกนี้ต้องการที่จะหนีหลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าขัดขวางทางหลบหนีของท่านจิ่วก็เลยได้แต่บอกว่าหลินเฟิงชื่นชมท่านจิ่วอย่างมากเขายอมรับว่า หมัดที่ตัวเขาเองเพิ่งจะปล่อยออกไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะหมดนี้ท่านจิ่วกลับสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเองได้ในทันที และตัดสินว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่มีขอบเขตหากพูดจากมุมมองนี้ ท่านจิ่วก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง“คิดจะหนี? จบแล้ว”หลินเฟิงพูดซ้ำกับสิ่งที่ท่านจิ่วเคยพูดไว้เหมือนเดิมทุกประการกลับคืนไป จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ท่านจิ่ว...ที่นี่น่าจะไม่ใช่สมาชิกของแก๊งหมาป่าสีเลือดทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”“อ่ะ?!”เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟิง ท่านจิ่วก็ถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่กหรือว่ายอดฝีมือคนนี้ต้องการจะจัดการกับแก๊งหมาป่าสีเลือด?เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพร้อมกับกัดฟันและพูดขึ้นว่า:“ท่านยอดฝีมือพูดถูก ที่นี่....ที่นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆของแก๊งหมาป่าสีเลือดของพวกเราเท่านั้น”“จริง ๆแล้ว....เมื่อเร็ว ๆนี้แก๊งหมาป่าของพวกเ