หลี่เยว่หรูสีหน้าไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ที่หลินเฟิงมาถึง เรื่องราวก็เปลี่ยนไปซับซ้อนขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องแค่การปั๊มตรา และเซ็นชื่อ“ฮุ่ยหราน งั้นพวกเธอก็ไปกันก่อนเถอะ ฉันไม่เคยมาเมืองจิง อยากจะเดินเที่ยวเล่นให้เต็มที่”จางกุ้ยหลานฝืนยิ้มออกมา“หือ?”หลินเฟิงมองอะไรบางอย่างออกมาจากสีหน้าของจางกุ้ยหลาน เธอเหมือนพยายามปิดบังอะไรไว้อยู่ดูท่าเธอมาเมืองจิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเพราะมีเป้าหมายของตัวเองไม่น่าแปลกใจที่เมื่อครู่ตั้งแต่เริ่มต้นก็แสดงออกได้ว่าง่ายถึงขนาดนั้น ไม่ทำตัวเด่น นี่ไม่เหมือนกับนิสัยของเธอโดยสิ้นเชิง“อืม งั้นแม่ระวังความปลอดภัยของตัวเองด้วย”หลี่ฮุ่ยหรานพูดประโยคนี้จบ ก็ถือกระเป๋าเอกสาร เดินออกจากประตูโรงแรมไปพร้อมกับหลินเฟิง หลี่เยว่หรู และเหมียวชางขณะเดียวกับที่พวกเขาออกไปจากประตูโรงแรม จางกุ้ยหลานก็กดโทรหาเบอร์แปลกหน้าตามติดกันและเบอร์นี้กลับไม่ใช่เบอร์ท้องถิ่นประเทศมังกร แต่เป็นระยะไกลจากต่างประเทศ“ฉัน...ฉันมาถึงเมืองจิงแล้ว พวกแกอยู่ไหน ซินเอ่อร์ ซินเอ่อร์ล่ะ? เธอเป็นยังไงบ้าง?!”“คุณป้า ช่วยฉัน ช่วยฉันด้วย!”ในโทรศัพท์มีเสียงร้องโอดครวญของจางซินที
“หึหึ ฉันบอกกับเธอแล้วสินะ?”หลี่เยว่หรูกอดอกหัวเราะอย่างลำพองใจและพูดว่า:“บริษัทรับเหมาของเหมียวชางไม่ต้องมาดูด้วยซ้ำ ที่บริษัทของเขาได้มาตรฐาน เอาล่ะ พวกเราดูเสร็จแล้วก็ออกไปเที่ยวเถอะ”“กว่าจะได้มาเมืองจิงสักครั้ง ฉันไม่อยากเสียเวลาอยู่เพียงแค่งานที่น่าเบื่อหรอกนะ”ขณะพูด เธอก็โอบคอของเหมียวชางเอาไว้ไม่เสแสร้งแล้ว“อืม ในเมื่อเป็นแบบนี้...”หลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งหยิบสัญญาออกมาจากในกระเป๋าเอกสาร ก็จะปั๊มตราและเซ็นชื่อ จู่ๆ หลินเฟิงกลับยื่นมือออกไป และจับมือของหลี่ฮุ่ยหรานที่จะหยิบสัญญาออกมา“หือ?”หลี่ฮุ่ยหรานเงยหน้าขึ้น และมองไปทางหลินเฟิงด้วยความสงสัย“หลินเฟิงนายจะทำอะไรอีก?!”หลี่เยว่หรูมองหลินเฟิงที่ยื่นมือออกมา และระเบิดโมโห เท้าเอวด่าทอหลินเฟิง:“นายตั้งใจมาหาเรื่องบาดหมางกับพวกเราใช่ไหม? ถ้าหากนายตั้งใจมาเสียเวลาของพวกเรา งั้นก็รีบหายไปจากสายตาของพวกเราซะ!”“คุณหลิน”เหมียวชางเดินเข้ามา สีหน้ายิ้มเย็นชาพูดว่า: “ที่นี่คือบริษัทของผม คนเหล่านี้เป็นพนักงานของผม พวกเราก็มีหนังสือรับรองธุรกิจที่ถูกกฎหมายและเป็นไปตามข้อกำหนดและได้รับการอนุมัติตามมาตรฐาน”“ตอนนี้คุณยังมา
“หลี่เยว่หรู ฉันจำได้ว่าก่อนออกมา คุณปู่เคยพูดเอาไว้ เรื่องนี้ให้ฉันมีอำนาจการตัดสินใจ”“เธอลืมไปแล้วใช่ไหม?”“ฉัน..ฉัน...”หรี่เยว่หรูเม้มปาก ล้วงโทรศัพท์ออกมา และร้องไห้โฮพูดว่า: “ฉันจะโทรหาแม่ของฉัน พวกแกรวมตัวกันรังแกฉัน...”“เธอ...”หลี่ฮุ่ยหรานสูดหายใจเข้าลึกๆ และล็อกกระเป๋าเอกสาร จ้องมองเหมียวชางอย่างเย็นชา:“เถ้าแก่เหมียว ในเมื่อสถานการณ์ที่คุณบอกมาไม่เป็นความจริง งั้นก็อย่าโทษฉันนะคะ การร่วมของฉันกับบริษัทของคุณก็พอแค่นี้แล้วกันค่ะ”“เอ๊ะ อย่า ประธานหลี่ เอ๊ย ประธานหลี่...”เหมียวชางตกตะลึงอย่างมาก รีบขยับเข้าไปใกล้และพูดไพเราะ ขอร้องอ้อนวอน: “ประธานหลี่ นี่เป็นโอกาสเดียวของผมนะครับ ผมสารภาพ ผมสารภาพ!”“บริษัทแห่งนี้ไม่ใช่ของผม เป็นของเพื่อนผม”“เอาแบบนี้แล้วกัน ผมแนะนำคุณให้กับเพื่อนผม ท่างด้านเพื่อนผมต้องการเงินเจ็ดพันห้าร้อยล้านก็สามารถจัดการได้แล้ว ส่วนอื่นพวกเราแบ่งกันคนละครึ่งเป็นยังไง? เอ๊ะ คิดว่ายังไงล่ะครับ!”ได้ยินเหมียวชางขอร้องอย่างน่าไม่อายแบบนี้ หลี่ฮุ่ยหรานไม่มีความคิดที่อยากจะอยู่ต่อที่นี่แม้แต่นิดเดียว เธอหันหลังเดินจากไปโดยตรง“ประธานหลี่!”ในตอน
เหมียวชางเป็นเพื่อนในเน็ตที่หลี่เยว่หรูรู้จักเธอเคยเห็นรูปภาพของเหมียวชางบนอินเทอร์เน็ต คนหน้าตาหล่อพอใช้ได้ ได้ยินว่าเขาบริหารบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองจิง จึงคิดถึงการทอดสะพานระหว่างกลางขึ้นมาได้แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้“เธอ?”เหมียวชางเหลือบมองหลี่เยว่หรูด้วยความดูถูก และฉีกยิ้มพูดว่า:“เธอไม่ส่องกระจกดูบ้าง ดูว่าเธอหน้าตาสภาพแบบนั้น เหมือนกับแม่หมูตัวใหญ่ต้นตำรับตัวหนึ่ง”“ถ้าฉันไม่ได้ทำเพราะเงิน จะชอบเธอได้งั้นเหรอ?”ได้ยินคำพูดฉีกหน้าแบบนี้ของเหมียวชาง หลี่เยว่หรูเหมือนกับโดนฟ้าผ่าแสกหน้า“ดังนั้นแล้วความรักออนไลน์ต้องระมัดระวังไง”หลินเฟิงเผชิญหน้ากับพวกอันธพาลที่ล้อมเข้ามา ก็ไม่ได้เป็ฯกังวล เหมือนกับสบายใจเฉิบ ถึงขั้นยังมีอารมณ์ล้อเล่นอีก“หลินเฟิง พวกเราควรทำอย่างไร?”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างร้อนรน“วางใจเถอะ ในเมื่อวันนี้มีผมอยู่ที่นี่ ใครก็ไม่สามารถแตะต้องคุณได้”ฟังหลินเฟิงพูดจาใหญ่โต เหมียวชางก็นั่งลงทันทีเขาโยนประแจที่อยู่ในมือไปทางหลินเฟิง และตะคอกด้วยความโมโห: “พรรคพวก ลุยเข้าไปทั้งหมด!”“กระทืบผู้ชายคนนั้นให้ฉันอย่างหนัก กระทืบจนกว่าจะตาย
คนจำนวนสิบกว่าคน ถูกผู้ชายคนนี้กระทืบจนนอนหมอบลงอย่างง่ายดายขนาดนี้ อีกทั้งดูท่าทางผ่อนคลายของเขา แม้แต่เหงื่อก็ยังไม่มีนี่บ่งบอกถึงอะไร?ผู้ชายคนนี้เป็นไปได้อย่างมากกว่าจะเป็นนักบู๊!วันนี้เขาเจอกับเรื่องยากเข้าแล้ว!“เมื่อกี้ฉันได้ยินนายพูดว่า อยากจะเล่นผู้หญิงของฉันสินะ?”หลินเฟิงนั่งยองลง ดึงผมของเหมียวชาง ถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง!”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ไกลออกไปมีใบหน้าจนปัญญาวุ่นวายอยู่นานเขาได้ยินแค่ประโยคนี้งั้นเหรอ?“เป็นยังไง? ตอนนี้ยังอยากเล่นไหม?”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ และเผยรอยยิ้ม “เป็นมิตร” ออกมานี่ทำให้เหมียวชางตกใจจนขี้หดตดหาย ส่ายหน้าเหมือนกับกลองเขย่า เกือบจะทำให้มันสมองของตัวเองเขย่าจนสมดุลแล้ว“ผู้หญิงของฉัน ตัวเองยังทำใจเล่นไม่ได้”หลินเฟิงถอนหายใจ จากนั้นสายตาเปลี่ยนไปดุดัน:“นายช่างกล้าพูดจริงๆ นะ!”“ไม่กล้าแล้ว ผมไม่กล้าแล้วจริงๆ! ท่านนักบู๊ ปล่อยผมไปเถอะ! ปล่อยผมไปเถอะนะ!”เหมียวชางหน้าตาโศกเศร้า เขาซวยเกินไปแล้วจริงๆนักบู๊น้อยขนาดนั้น ทำไมเขาถึงได้เจอกับคนเก่งขนาดนี้กันนะ อีกอย่างยังเป็นคนที่มาจากสถานที่เล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญซวยจริง
หลี่เยว่หรูเสียใจความเสียใจของเธอไม่ใช่เพราะเหมียวชางอยากจะหลอกเงินเธอแต่เพราะเหมียวชางยอมที่จะไปเกาะหลี่ฮุ่ยหราน ก็ไม่ยอมแตะต้องเธอ ผู้หญิงที่พาตัวเองไปส่งถึงที่“ความแตกต่างของฉันกับหลี่ฮุ่ยหรานเยอะขนาดนี้จริงๆเหรอ?”หลี่เยว่หรูซื้อความมึนเมาอยู่ตรงเคาน์เตอรืของร้านเหล้าเล็กๆหลินเฟิงกลับนั่งอยู่ตรงโต๊ะกับหลี่ฮุ่ยหราน รอใครบางคนอยู่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง“สหายหลิน”คุณชายรองตระกูลจี นั่นคือจีอวิ๋นเจี๋ยที่ถอดความอ่อนแอที่เสแสร้งออกมาก่อนหน้านี้ทิ้งไป เขามาพบกับหลินเฟิงด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าเขาเพิ่งนั่งลง ก็เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้างกายหลินเฟิง และลังเลเล็กน้อย จากนั้นถามว่า:“ท่านนี้คือ...”“ท่านนี้คือหลี่ฮุ่ยหรานอดีตภรรยาของผม ครั้งนี้ที่เรียกคุณมา ก็เพราะเรื่องของเธอ”หลินเฟิงยิ้มพูดแนะนำ“อดีตภรรยา?”จีอวิ๋นเจี๋ยอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก้ลุกขึ้นยืนจับมือกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นมารยาท และพูดชื่นชม:“คุณหลี่ฮุ่ยหรานสวยงามเพริศพริ้งอย่างถึงที่สุด เมื่อครู่เข้าประตูมาผมเกือบสงสัยว่าเป็นดาราดังบางท่านมาซะอีก”เมื่อพูดคำหยอกล้อเหล่านี้จบ เขาก็กวาดตามองหลินเฟิง
“อุปกรณ์ก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างการดำเนินการ พวกเราตระกูลจีจะจ่ายให้ก่อน หลังจากพวกคุณตรวจรับแล้ว ค่อยจ่ายเงินให้พวกผมภ่ายในครั้งเดียวก็พอครับ”“ทำงานก่อน ค่อยรับเงิน”“เป็นบริษัทก่อสร้างเทวดาอะไรกันเนี่ย?”หลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าที่จะเชื่อนิดหน่อยแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้มีบริษัทก่อสร้างที่น่าเชื่อถือขนาดนี้จริงๆหรือว่าเขาไม่กลัวว่าพวกเธอจะค้างชำระรายการใช้จ่ายงั้นเหรอ?เหมือนกับมองความสงสัยของหลี่ฮุ่ยหรานออก จีอวิ๋นเจี๋ยยิ้มบางและพูดว่า:“คุณหลี่ฮุ่ยหราน คุณอาจจะสงสัย แต่ผมจะบอกคุณว่า ผมเชื่อในคุณสมบัติของสหายหลิน”“การค้าขายที่สหายหลินแนะนำไม่มีทางผิดพลาด ยิ่งกว่านั้นคุณคืออดีตภรรยาของสหายหลิน”“จากมิตรภาพของผมกับสหายหลิน อย่าว่าแต่เงินแค่ห้าพันล้านบาท”“ห้าหมื่นล้านบาทก็ยังไม่เป็นไรครับ”หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากเป็นรูปตัวโอ เธอรับรู้อย่างลึกซึ้งเป็นครั้งแรก หน้าตาของหลินเฟิงมีประโยชน์ที่น่าเชื่อถือถึงขนาดนี้ด้วย“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันต้องขอบคุณคุณที่ตรงนี้ก่อนนะคะ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งตัวเคารพไปทางจีอวิ๋นเจี๋ยด้วยความซาบซึ้ง จีอวิ๋นเจี๋ยรีบห้ามปรามไว้ และยิ้มพู
“แต่ว่า!”หลี่เยว่หรูยื่นมือออกไป จับใบหน้าของจีอวิ๋นเจี๋ย และหัวเราะพูดว่า: “นอกจากสี่ตระกูลนี้ อันที่จริงยังมีหนึ่งตระกูลที่มีไม่สามารถมองข้ามอำนาจไปได้”“นั่นก็คือตระกูลจี!”หลี่เยว่หรูพูดว่า: “อีกทั้งฉันยังได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้ตระกูลจีเคยประกาศออกมา ว่าจะแทนที่ตระกูลหลินที่ช่วงนี้ไม่เปิดเผยตัวตนออกมา”“เธอว่า...”หลี่เยว่หรูมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความสงสาร และฉีกยิ้มพูด:“ตระกูลจีที่ธุรกิจใหญ่โตขนาดนั้น อำนาจมากมายขนาดนั้น เป็นไปได้อย่างไรว่าเรื่องบ้าบอเล็กน้อยแค่นี้ของเธอ จะทำให้คุณชายเดินทางมาโดยเฉพาะ?”“ดังนั้นหลี่ฮุ่ยหราน ฉันถึงได้พูดว่าถูกหลอกแล้ว!”หลี่เยว่หรูตบไหล่ของจีอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ ยิ้มเยาะพูด:“ไอ้หนุ่ม ฝีมือการแสดงของนายไม่เลว หลินเฟิงจ่ายเงินเท่าไหร่จ้างนาย? ทำไมรอบตัวนายถึงไม่พอผู้คุ้มกันมาด้วย?”“ตอนที่ซื้อเสื้อผ้าชุดนี้คงจะจ่ายเงินไปไม่น้อยสินะ?”เห็นหลี่เยว่หรูดึงเสื้อผ้าของตัวเอง จีอวิ๋นเจี๋ยปัดมือของเธอออกด้วยความรังเกียจ และมองไปทางหลินเฟิงแล้วถามว่า:“สหายหลิน คนผู้นี้คือใคร?”“คนผู้นี้คือลูกพี่ลูกน้องของฮุ่ยหราน สหายจี ไม่จำเป็นต้องสนใจเ
เมื่อพูดคำเหล่านี้ออกมา มันก็ใช้ได้ผลอย่างมากสีหน้าของลูกศิษย์ตระกูลเฝิงทั้งหมดต่างก็แสดงความหวาดกลัวออกมานิสัยของผู้นำ พวกเขารู้ดีที่สุดหากทำให้ผู้นำสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ งั้นก็แสดงว่าความแข็งแกร่งของหลินเฟิงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอนเมื่อนึกถึงการท้าทายแบบเด็ก ๆก่อนหน้านี้ที่พวกเขาล้อมหลินเฟิงเอาไว้ ทั้งยังท้าทายเขา หลาย ๆคนก็ถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว“ไปกันเถอะ พาเฝิงหลีกลับไป”“ครับ”ในที่สุดเหล่าลูกศิษย์ตระกูลเฝิงก็ยอมรับ พวกเขาจึงตระหนักได้ในตอนนี้ว่า หลินเฟิงมีความหมายต่อตระกูลเฝิงของพวกเขามากแค่ไหน......“หยินหลิง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงจะคิดยังไง หลินเฟิงก็ไม่ได้สนใจตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสนใจ ก็คือ หยินหลิงเมื่อหยินหลิงเห็นหลินเฟิงหันกลับมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทางที่ซับซ้อนเล็กน้อยว่า : “พี่หลินเฟิง ฉันขโมยชีพจรมังกรของพี่หรานฮุ่ยกับพี่ถังหว่านมา พี่ไม่ตำหนิฉันใช่ไหม?”“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?”หลินเฟิงกอดเธอไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับพูดขึ้นเบา ๆว่า :“สาวน้อยอย่างเธอเอาชีพจรมังกรมาล่อพลังงานให้ฉัน แล้วฉันจะไม่รู้ได
“พี่รอง หรือว่าพี่ใหญ่จะผิดสัญญา? ต้อง...ต้องการจะขัดแย้งกับสำนักร้อยพิษใช่ไหม?”เฝิงหลีรู้สึกตัวด้วยท่าทางที่หวาดกลัว“งั้นหลานชาย อวี้อู่ ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะสิ!”เมื่อเห็นว่าเขายังคงพูดเรื่องอวี้อู่ออกมา เฝิงเอ้อก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที จึงหันกลับไปตบหน้าเฝิงหลีอย่างแรง“ไอ้สารเลว แกยังมีหน้ามาพูดถึงอวี้อู่อีกงั้นเหรอ?!”“หากไม่ใช่เพราะไอ้สารเลวอย่างแกที่วางยาพิษซ้ำสอง เรื่องมันจะมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?!”“อะไรนะ?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงหลีที่พยายามคลานขึ้นมาจากพื้นก็ตกตะลึง“พวก...พวกพี่รู้ได้ยังไง?”เขาคิดว่าตัวเองทำอย่างลับ ๆแล้ว แต่ทำไมคนเหล่านี้ถึงได้รู้ล่ะ?“ดีจริง ที่แท้ก็คือแกนี่เอง!”เฝิงเอ้อพูดเพียงแค่นี้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเฝิงหลีจะสารภาพออกมาเองจริง ๆ เมื่อมองแบบนี้ หลินเฟิงก็พูดถูกแล้ว เหมาะสมแล้วที่เขาเป็นถึงอาจารย์หมอ!เมื่อเห็นเฝิงหลีไร้ยางอายขนาดนี้ เฝิงเอ้อก็โกรธจนหัวเราะออกมา“หมอเทวดาหลิน คนนี้จะจัดการอย่างไรดี?!”เขามองไปที่หลินเฟิงด้วยความเคารพ เห็นได้ชัดว่าพร้อมที่จะมอบสิทธิ์ในการจัดการเฝิงหลีให้กับหลินเฟิงแล้ว“ฉันได้ปิดจุดฝังเข็มไว้เ
“พี่รอง ช่วยผมด้วย พี่รอง ช่วยผมเร็ว ๆสิ!”เฝิงหลีเห็นเฝิงเอ้อก็เหมือนกับเห็นผู้ช่วยชีวิต ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหาพี่รองของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วชี้ไปที่หลินเฟิงพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่สั่นเทิ้มว่า :“มัน....ทำขาของผมหักไปทั้งสองข้างเลย พี่รอง ช่วยผมแก้แค้นด้วยนะ ผมจะฆ่ามัน ไม่สิ ผมอยากจะเฉือนเนื้อของมันออกมาที่นิด ๆ”“ผมอยากจะให้มันตายโดยที่ไม่มีที่ฝังศพ!”เสียงคำรามลั่นของเฝิงหลี ไม่ได้รับการยอมรับจากเฝิงเอ้อเมื่อเหล่าลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงที่กำลังลงมาจากรถที่อยู่ด้านข้างมองเห็นฉากนี้เข้า ทันใดนั้นดวงตาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ก่อนจะถลึงตามองไปทางหลินเฟิงด้วยความโกรธ“หลินเฟิง แกกล้ามากนะที่กล้ามาตัดขาคุณท่านสามตระกูลเฝิงของพวกเรา”“ใช่แล้ว วันนี้อย่าคิดว่าแกจะออกไปได้ครบสามสิบสองส่วนเลย!”“ตระกูลเฝิงของพวกเราจะไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ดูเหมือนว่าเฝิงชางเพียงแค่ให้คนเหล่านี้มาขัดขวางเฝิงหลีเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกกับพวกเขาว่าหลินเฟิงเป็นคนที่ตระกูลเฝิงไม่สามารถล่วงเกินได้แต่ถึงแม้จะบอกไป คนเหล่านี้ก็มีท่าทางที่ดูถูกหลินเฟิงอยู่ดีในเมื่อพวกเขาไม่เคยได้เห็นวิธีการของหลินเฟิงมาก่อนเลย“
“เชี่ย เชี่ยเอ๊ย!”เฝิงหลีตกใจจนหน้าซีดเซียว ในปากก็ด่าคำหยาบต่างๆ นานา ร่างกายก็ถอยหลังไม่หยุดเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าที่เดินเข้ามาหาเขา ไม่เหมือนกับคนด้วยซ้ำเหมือนกับสัตว์ดุร้ายยุคดึกดำบรรพ์ที่อยู่บนภูเขาสูง ส่งเสียงคำรามสะเทือนเลือนลั่นออกมาส่วนหลินเฟิงก็เห็นหยินหลิงที่กระโปรงเลิกขึ้นถึงขาอ่อนตั้งแต่ไกลๆ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเฝิงหลีคนนี้คิดจะทำอะไรเขาเดินไปจุดที่อยู่ใกล้กับเฝิงหลี จู่ๆ ก็คำรามออกมาด้วยความเดือดดาล“อ๊าก อ๊าก!”เฝิงหลีกลับตกใจจนอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน ยกเท้าวิ่งเผ่นแนบ“คิดหนีงั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”หลินเฟิงโบกมือ ขณะที่เฝิงหลีวิ่งอย่างสุดกำลังอยู่นั้น กลับพบว่าขาทั้งสองข้างของเขาออกแรงยังไงก็ไม่มีกำลังส่วนร่างกายของเขาก็ล้มลง ไม่สามารถควบคุมได้“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฝิงหลีก้มหน้ามองคนทั้งคนตกใจจนสติแทบแตกทันทีเป็นเพราะว่าตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขา ถูกฟันขาดออกจากหัวเข่าอย่างเรียบเนียนโดยพลังชี่แท้ที่หลินเฟิงส่งออกไปเขาล้มลงอย่างควบคุมไม่ได้ หันหลังไปเห็นขาทั้งสองข้างที่ยังตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิม“อ๊าก อ๊ากกกกกกกกก!”
“ส่วนคุณ หนูที่ได้เปรียบ คิดว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่าง แต่หนูก็คือหนู คุณไม่เหมาะสมที่จะยืนบนเวทีและได้รับความเคารพ”“แม่งเอ้ย!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฟิงหลีก็โกรธจนตัวสั่นไปหมดเขาจับหยินหลิงกดลงกับพื้น คลายเข็มขัดของตัวเองด้วยมือข้างหนึ่ง และคำรามว่า :“วันนี้ฉันจะทำให้คุณตายอยู่ข้างถนน แล้วมาดูกันว่าคุณจะกล้าดูถูกฉันอีกไหม!”“หึหึหึ....”หยินหลิงที่ถูกจับกุมอยู่ กลับหัวเราะเยาะขึ้นมาแทน"คุณคิดว่านี่จะทำให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ?"“สิ่งนี้แค่เน้นย้ำถึงความไร้ความสามารถและความเลวทรามของคุณเท่านั้น รอให้กลุ่มพันธมิตรบู๊ตอบกงลับมา ก็จะหาพวกคุณเจอเอง”“เมื่อถึงเวลา คุณก็จะถูกสำนักร้อยพิษโยนออกไปเป็นอาหารปืนใหญ่ ช่างต่ำช้าและน่าสมเพชจริงๆ...”“แม่งเอ้ย!”เฟิงหลีไม่สามารถคลายเข็มขัดด้วยมือข้างเดียวได้ และเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของหยินหลิง เขาก็ยิ่งโกรธและกระสับกระส่ายมากขึ้น จนถึงกับตะโกนเรียกคนขับรถที่อยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาช่วยจับหยินหลิงไว้"แต่ว่าคุณท่านสาม..."คนขับยังคงต้องการให้คำแนะนำสุดท้ายอีกแต่เฟิงหลีในเวลานี้ไม่ฟังใครอีกต่อไปแล้วดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้คนขับกลืนคำพูดที่กำ
แน่นอนสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คื ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวหยินหลิง ความลับที่หลอกล่อยอดฝีมือของประเทศมังกรทุกคนหากเธอตกอยู่ในมือของสำนักร้อยพิษแล้วสุดท้าย สำนักร้อยพิษก็จะได้เปรียบไปนี่เป็นสิ่งที่หยินหลิงไม่อยากเห็นแม้ว่าเธอจะตายก็ตาม“หึหึ ท่านหัวหน้า ฉันแนะนำว่า คุณอย่าคิดอะไรเลวร้ายเลยจะดีที่สุด ตอนนี้ในร่างกายจของคุณ ฉันได้วางยาตะขาบเลือดไว้แล้ว เพียงแค่ฉันไม่พอใจ”“ท่านหัวหน้าก็ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว”เฟิงหลีข่มขู่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือไปยกคางของหยินหลิงขึ้นพร้อมกับถอนหายใจและพูดว่า :“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านหัวหน้า ท่านหัวหน้านั้นงดงามจริงๆ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง”เมื่อได้ยินคำล้อเล่นพวกนี้ หยินหลิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่มองไปทางเฟิงหลีด้วยความดูถูก ร่างกายก็หลีกเลี่ยงฝ่ามือของเฟิงหลีไปโดยไม่รู้ตัว“หืม?”ใบหน้าของเฟิงหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าหยินหลิงยังคงไม่เชื่อฟังตัวเองหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่ปกติจะเข้าถึงได้ยากนั้น ตอนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้วความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขแต่เขาไม่คาดคิดว่า
“ผม...”หลินเฝิงโกรธอย่างมากจนอยากจะฆ่าเฝิงชางซะเดี๋ยวนี้แต่ไม่นานหลินเฝิงก็สงบสติอารมณ์ลงเขาดีดนิ้ว ก่อนที่พลังชี่แท้โปร่งใสจะถูกปล่อยเข้าสู่ร่างของเฝิงอวี้อู่หลินเฝิงก้าวออกไปและพูดอย่างเย็นชาว่า:“หากผมไม่ได้กลับมาก่อน คุณชายตระกูลเฝิงของพวกคุณก็อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว”“หากเกิดอะไรขึ้นกับหยินหลิงที่นี่ ฉันจะให้ทุกคนในตระกูลเฝิงถูกฝังไปพร้อมกับเธอ! ได้ยินหรือเปล่า?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงชางก็ตัวสั่นอย่างมากหากเขาเคยดูถูกหลินเฝิงมาก่อน ตอนนี้เขาคงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดจากหลินเฝิงลองคิดดูสิชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ แน่นอนว่าเบื้องหลังเขาเบื้องหลังของเขาไม่ได้มีแค่หลี่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นกองกำลังเล็ก ๆต้องมีอำนาจบางอย่างซ่อนอยู่ในประเทศมังกรอำนาจแบบนี้ไม่ควรไปยั่วยุให้มากนักเมื่อมองไปที่ร่างหลินเฝิงที่เดินจากไป เฝิงชางก็คิดได้หลายอย่างในใจทันทีเนื่องจากเป็นผู้นำตระกูลเฝิง เขาจึงรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาเลยในขณะนี้หากตอนแรกมันเป็นเพียงชีวิตของลูกชายเขาต่อมาเขาได้ไปยั่วยุสำนักร้อยพิษและเชิ
“เข็มเจ็ดสิบสองเล่มขจัดความชั่วร้าย!”หลินเฟิงก้มหน้าตวาดเสียงทุ้มต่ำ ดึงเข็มเงินที่ฝังอยู่บนตัวของเฝิงอวี้อู่ออก และตกลงบนพื้นเสียงดังติ๊งเข็มเงินเพิ่งจะออกจากตัวของเฝิงอวี้อู่ เฝิงอวี้อู่ก็ส่งเสียงร้องโอดครวญเสียงสูงจึงทำให้เฝิงชางที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างร้อนใจจนใบหน้ามีเหงื่อออกแต่เขาไม่เพียงไม่กล้ารบกวนหลินเฟิง ทำได้แค่มองตาปริบๆคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ก็ไม่ได้สนใจเฝิงอวี้อู่อีกแล้ว แต่หันหน้ามองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวที่หมดสติอยู่เฝิงอวี้อู่พิษเข้าไขกระดูก หลินเฟิงต้องใช้กลอุบายจัดการเล็กน้อยแต่ทว่าทางด้านหมอเทวดาเลี่ยวง่ายกว่าเยอะเลยหลินเฟิงยกมือขึ้นโดยตรง ปล่อยพลังชี่แท้บริสุทธิ์เข้าไปที่หน้าผากของเขา และนำยาเม็ดสีเหลืองใส่เข้าปากของหมอเทวดาเลี่ยว“ไปเถอะ หามหมอเทวดาเลี่ยวไปพักในที่เย็นสบาย อีกเดี๋ยวเขาก็ได้สติแล้ว”คำพูดนี้ของหลินเฟิงพูดให้เฝิงเอ้อฟังเฝิงเอ้อชี้ตัวเอง และมีสีหน้างุนงง“ไปสิ! ฟังหมอเทวดาหลิน!”เฝิงชางตวาดน้องชายคนรองของตัวเองเสียงดัง แต่ทว่าเฝิงเอ้อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปสัมผัสหลินเฟิงมองออกถึงความเป็นกังวลของเขา เก
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได