หลี่เยว่หรูเสียใจความเสียใจของเธอไม่ใช่เพราะเหมียวชางอยากจะหลอกเงินเธอแต่เพราะเหมียวชางยอมที่จะไปเกาะหลี่ฮุ่ยหราน ก็ไม่ยอมแตะต้องเธอ ผู้หญิงที่พาตัวเองไปส่งถึงที่“ความแตกต่างของฉันกับหลี่ฮุ่ยหรานเยอะขนาดนี้จริงๆเหรอ?”หลี่เยว่หรูซื้อความมึนเมาอยู่ตรงเคาน์เตอรืของร้านเหล้าเล็กๆหลินเฟิงกลับนั่งอยู่ตรงโต๊ะกับหลี่ฮุ่ยหราน รอใครบางคนอยู่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง“สหายหลิน”คุณชายรองตระกูลจี นั่นคือจีอวิ๋นเจี๋ยที่ถอดความอ่อนแอที่เสแสร้งออกมาก่อนหน้านี้ทิ้งไป เขามาพบกับหลินเฟิงด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าเขาเพิ่งนั่งลง ก็เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้างกายหลินเฟิง และลังเลเล็กน้อย จากนั้นถามว่า:“ท่านนี้คือ...”“ท่านนี้คือหลี่ฮุ่ยหรานอดีตภรรยาของผม ครั้งนี้ที่เรียกคุณมา ก็เพราะเรื่องของเธอ”หลินเฟิงยิ้มพูดแนะนำ“อดีตภรรยา?”จีอวิ๋นเจี๋ยอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก้ลุกขึ้นยืนจับมือกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นมารยาท และพูดชื่นชม:“คุณหลี่ฮุ่ยหรานสวยงามเพริศพริ้งอย่างถึงที่สุด เมื่อครู่เข้าประตูมาผมเกือบสงสัยว่าเป็นดาราดังบางท่านมาซะอีก”เมื่อพูดคำหยอกล้อเหล่านี้จบ เขาก็กวาดตามองหลินเฟิง
“อุปกรณ์ก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างการดำเนินการ พวกเราตระกูลจีจะจ่ายให้ก่อน หลังจากพวกคุณตรวจรับแล้ว ค่อยจ่ายเงินให้พวกผมภ่ายในครั้งเดียวก็พอครับ”“ทำงานก่อน ค่อยรับเงิน”“เป็นบริษัทก่อสร้างเทวดาอะไรกันเนี่ย?”หลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าที่จะเชื่อนิดหน่อยแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้มีบริษัทก่อสร้างที่น่าเชื่อถือขนาดนี้จริงๆหรือว่าเขาไม่กลัวว่าพวกเธอจะค้างชำระรายการใช้จ่ายงั้นเหรอ?เหมือนกับมองความสงสัยของหลี่ฮุ่ยหรานออก จีอวิ๋นเจี๋ยยิ้มบางและพูดว่า:“คุณหลี่ฮุ่ยหราน คุณอาจจะสงสัย แต่ผมจะบอกคุณว่า ผมเชื่อในคุณสมบัติของสหายหลิน”“การค้าขายที่สหายหลินแนะนำไม่มีทางผิดพลาด ยิ่งกว่านั้นคุณคืออดีตภรรยาของสหายหลิน”“จากมิตรภาพของผมกับสหายหลิน อย่าว่าแต่เงินแค่ห้าพันล้านบาท”“ห้าหมื่นล้านบาทก็ยังไม่เป็นไรครับ”หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากเป็นรูปตัวโอ เธอรับรู้อย่างลึกซึ้งเป็นครั้งแรก หน้าตาของหลินเฟิงมีประโยชน์ที่น่าเชื่อถือถึงขนาดนี้ด้วย“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันต้องขอบคุณคุณที่ตรงนี้ก่อนนะคะ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งตัวเคารพไปทางจีอวิ๋นเจี๋ยด้วยความซาบซึ้ง จีอวิ๋นเจี๋ยรีบห้ามปรามไว้ และยิ้มพู
“แต่ว่า!”หลี่เยว่หรูยื่นมือออกไป จับใบหน้าของจีอวิ๋นเจี๋ย และหัวเราะพูดว่า: “นอกจากสี่ตระกูลนี้ อันที่จริงยังมีหนึ่งตระกูลที่มีไม่สามารถมองข้ามอำนาจไปได้”“นั่นก็คือตระกูลจี!”หลี่เยว่หรูพูดว่า: “อีกทั้งฉันยังได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้ตระกูลจีเคยประกาศออกมา ว่าจะแทนที่ตระกูลหลินที่ช่วงนี้ไม่เปิดเผยตัวตนออกมา”“เธอว่า...”หลี่เยว่หรูมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความสงสาร และฉีกยิ้มพูด:“ตระกูลจีที่ธุรกิจใหญ่โตขนาดนั้น อำนาจมากมายขนาดนั้น เป็นไปได้อย่างไรว่าเรื่องบ้าบอเล็กน้อยแค่นี้ของเธอ จะทำให้คุณชายเดินทางมาโดยเฉพาะ?”“ดังนั้นหลี่ฮุ่ยหราน ฉันถึงได้พูดว่าถูกหลอกแล้ว!”หลี่เยว่หรูตบไหล่ของจีอวิ๋นเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ ยิ้มเยาะพูด:“ไอ้หนุ่ม ฝีมือการแสดงของนายไม่เลว หลินเฟิงจ่ายเงินเท่าไหร่จ้างนาย? ทำไมรอบตัวนายถึงไม่พอผู้คุ้มกันมาด้วย?”“ตอนที่ซื้อเสื้อผ้าชุดนี้คงจะจ่ายเงินไปไม่น้อยสินะ?”เห็นหลี่เยว่หรูดึงเสื้อผ้าของตัวเอง จีอวิ๋นเจี๋ยปัดมือของเธอออกด้วยความรังเกียจ และมองไปทางหลินเฟิงแล้วถามว่า:“สหายหลิน คนผู้นี้คือใคร?”“คนผู้นี้คือลูกพี่ลูกน้องของฮุ่ยหราน สหายจี ไม่จำเป็นต้องสนใจเ
หลังจากตรวจรับแล้ว ถึงจะชำระเงินดังนั้นพูดว่า ที่หลี่เยว่หรูพูดว่าหลอกเงินอะไร ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำหลังจากที่พวกเขาทำงานเสร็จ หลี่ฮุ่ยหรานตรวจรับเสร็จสิ้นถึงจะชำระเงินในครั้งเดียว พูดได้ว่าเขาไม่ได้คิดอยากได้เงินแค่นี้ของพวกเธอด้วยซ้ำเห็นได้ชัดว่าหลี่เยว่หรูเข้าแทรกจนน่าตลก ไม่อยากให้หลินเฟิงมีความสุขเธอนำความโมโหที่เหมียวชางเยาะหยันเธอ มาครอบลงบนหัวของหลินเฟิงทั้งๆ ที่หลินเฟิงช่วยเธอออกมาจากในมือของคนหลอกลวง ในใจของเธอ หลินเฟิงกลับกลายเป็นตัดขัดขวางความรักที่เธอไล่ตามเธอไม่มีความสุข หลินเฟิงก็อย่าได้คิดมีความสุข“ในเมื่อเป็นแบบนี้...”ตอนที่หลินเฟิงกำลังจะรับปาก อยากให้หลี่เยว่หรูคนนี้ตายใจ โทรศัพท์ของหลี่ฮุ่ยหรานจู่ๆ กลับดังขึ้น“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไปรับโทรศัพท์หน่อย”หลี่ฮุ่ยหรานลุกขึ้นยืน ยิ้มขออภัยต่อจีอวิ๋นเจี๋ย“หึ พวกแกชายหญิงสารเลวคู่นี้...แค่ดูก็รู้แล้วสมคบคิดทำเรื่องชั่วร้าย ไม่กล้ายืนยันด้วยซ้ำ...ฉันโทรหาแม่ของฉัน บอกว่าพวกแกทำลายความรักของฉัน แถมตั้งใจพุ่งเป้ามาที่ฉัน...”“อะไรนะ?!”ในตอนนี้เอง หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ไกลออกไปอุทานออกมาเสียงอุทานนี้แฝงไ
ประเทศเวน่าตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศมังกรพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับประเทศมังกรมาโดยตลอด และมักจะปะทะกันที่ชายแดนทั้งหนักและเบาถ้าหากไม่ใช่เพราะราชาหลินแห่งตอนใต้ควบคุมหนานโจวประเทศมังกร และสร้างความหวาดกลัวให้กับประเทศเวน่าอย่างสิ้นเชิง การแทรกซึมและปล้นชิงส่วนใหญ่ของชาวเวน่าเป็นเรื่องปกติ ต้องรู้ว่า สิ่งที่ชาวเวน่าเกรงกลัวที่สุดก็คือราชาหลินแห่งตอนใต้และตอนนี้ก็มีเรื่องที่ผิดปกติเกิดขึ้นแล้วเพราะอะไรที่ทำให้คนของประเทศเวน่าไม่สนใจผลที่ตามมา ก็จะปรากฏตัวที่เมืองจิงประเทศมังกร ซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญแบบนี้ด้วยล่ะ?ในฐานะลูกชายของราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ว่าจะเป็นเพราะจางกุ้ยหลิน หรือเพราะเจตนาร้ายของชาวเวน่าที่มีเป็นเดิมทีอยู่แล้ว เขาจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็จะไปชานเมืองทางใต้สักหน่อย คนของประเทศเวน่าปรากฏตัวในเมืองจิงประเทศมังกรของเรา เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างนั้นแน่นอน”หลังจากที่หลินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าเบา ๆ“งั้นผมก็จะไปกับสหายหลินด้วย”จีอวิ๋นเจี๋ยพยักหน้าเดิมทีหลินเฟิงไม่อยากให้เขาตามไป แต่คิดว่าถ้าไม่มีคำแนะนำของเข
เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงทำเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถึงขั้นสั่งการบอดี้การ์ด สิ่งนี้ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานสับสนเล็กน้อยไปทันที“จำเป็น”หลินเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจังจริง ๆแล้ว สิ่งที่หลินเฟิงกังวลนั้นไม่ใช่อย่างอื่นเลย แต่เป็นเป้าหมายของชาวเวน่าพวกนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่มีเพียงหนึ่งเดียวที่น่าจะเกี่ยวข้องกับชาวเวน่าพวกนี้ได้ ดูท่าว่าจะเป็นตัวหลินเฟิงเองตอนนั้นราชาหลินแห่งตอนใต้ได้นำทัพเข้าสู่ประเทศเวน่า และเกือบจะจับตัวราชาแห่งเวน่าได้ ความแค้นนี้ของชาวเวน่าต่างก็จดจำไว้ในใจมาโดยตลอดในฐานะที่เป็นลูกคนเดียวของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลินเฟิงกลัวว่าชาวเวน่าพวกนี้ตั้งเป้ามาที่ตัวเองอีกทั้งชาวเวน่าก็ทำได้ทุกวิถีทางมาโดยตลอดหากชาวเวน่าจับจางกุ้ยหลานไปจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นหลินเฟิงก็ไม่สามารถให้หลี่ฮุ่ยหรานตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไปที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่อาจถูกชาวเวน่าข่มขู่ได้มันไม่เคยมีผลกระทบต่อพ่อของเขาเลยเขาไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับชายคนนั้นด้วยเหตุผลที่ตัวเองไร้ความสามารถอย่างแน่นอน......รถยนต์มาเซราติที่โดยสารคนสองคน ได้ขับตรงไปยังชานเมืองตอนใต้ของเมืองจิงบนถนนต้องขอบคุณจีอวิ๋นเจี๋ยท
จางกุ้ยหลานรับโทรศัพท์มา แล้วกดหมายเลขชุดหนึ่งด้วยความสั่นเทา“ฮัลโหล? ฮัลโหล....หลินเฟิงเหรอ ฉัน จางกุ้ยหลาน คือ..ฉันถูกโจรลักพาตัว พวกเขาต้องการเงินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท”“ใช่แล้ว หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาท ขอร้องนายล่ะ นายช่วยคิดหาวิธีการกับฮุ่ยหรานได้ไหม หรือจะขอยืมบางส่วนจากคุณหนูถังหว่านของตระกูลถังก็ได้ ขอร้องล่ะ....”“ถ้าไม่อย่างนั้นฉันต้องตายอย่างแน่นอนเลย”หลังจากที่โทรเสร็จ พละกำลังทั้งหมดของจางกุ้ยหลานก็ถูกสูบออกไปจนหมดเธอนึกไม่ถึงจริง ๆว่าวันหนึ่งเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ เธอจะต้องโทรหาหลินเฟิงและขอร้องให้เขาช่วยเหลืออารมณ์ที่เรียกว่าความอัปยศอดสู ทำให้จางกุ้ยหลานไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้อย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะสิ่งที่หลินเฟิงพูดทางโทรศัพท์“ไม่ต้องกลัว ก็แค่หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทเท่านั้นเอง”ใช่แล้วก็แค่ “เพียง”หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทเท่านั้นเขาไม่ร้อนใจเลยจริง ๆถ้าหากตัวเองตาย มันก็จะเป็นไปตามความต้องการของเขา ลูกสาวของตัวเองก็อาจจะถูกหลินเฟิงล่อลวงหนีไปแล้วเมื่อถึงตอนที่ลูกสาวถูกหลินเฟิงหลอก หรือเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีใครที่จะช่วยพ
“ใช่แล้ว ลูกเขยของฉันคนนั้นต่อสู้เก่งมาก ได้ยินมาว่ายังเป็นนักบู๊อีกด้วย พวกคุณต้องระวังให้ดี!”เมื่อได้ยินคำพูดของจางกุ้ยหลาน ชาวเวน่าที่อยู่ที่นั้นต่างก็พากันหัวเราะ“วางใจเถอะ พวกเราทั้งหมดก็เป็นนักบู๊!”“หัวหน้าพวกเราก็เป็นนักบู๊แดนแปรภาพ!”“ไม่ต้องพูดถึงนักบู๊ของประเทศมังกรพวกคุณหรอก นอกจากราชาหลินแห่งตอนใต้แล้ว เกรงว่าคนทั้งประเทศมังกรจะมีไม่กี่คนที่จะแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าของพวกเรา!”จางกุ้ยหลานมองท่าทางที่ดูมั่นใจของชาวเวน่าพวกนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีขึ้นมาในใจ“คุณป้า คุณฉลาดจริง ๆเลย!”จางซินพูดชื่นชมอยู่ด้านข้าง“หุบปาก! เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของแก!”จางกุ้ยหลานจะไม่ไว้หน้าจางซินอีกต่อไป จางซินก็วางตัวลำบากและมองไปทางอื่นด้วยความกระอักกระอ่วนสองพันห้าร้อยล้านจากการขายอัญมณีก่อนหน้านี้เธอใช้เพียงเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็ใช้จ่ายไปจนหมดแล้วเดิมทีแผนก่อนหน้านี้ของชาวเวน่า ก็คือรับเงินจากจางซินสองหมื่นห้าพันล้านบาทในเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวแล้วว่า จะต้องใช้เงินประมานสองหมื่นห้าพันล้าน ถึงจะซื้อสมบัติประจำชาติกลับมาจากตลาดมืดได้จางซินท
เมื่อพูดคำเหล่านี้ออกมา มันก็ใช้ได้ผลอย่างมากสีหน้าของลูกศิษย์ตระกูลเฝิงทั้งหมดต่างก็แสดงความหวาดกลัวออกมานิสัยของผู้นำ พวกเขารู้ดีที่สุดหากทำให้ผู้นำสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ งั้นก็แสดงว่าความแข็งแกร่งของหลินเฟิงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอนเมื่อนึกถึงการท้าทายแบบเด็ก ๆก่อนหน้านี้ที่พวกเขาล้อมหลินเฟิงเอาไว้ ทั้งยังท้าทายเขา หลาย ๆคนก็ถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว“ไปกันเถอะ พาเฝิงหลีกลับไป”“ครับ”ในที่สุดเหล่าลูกศิษย์ตระกูลเฝิงก็ยอมรับ พวกเขาจึงตระหนักได้ในตอนนี้ว่า หลินเฟิงมีความหมายต่อตระกูลเฝิงของพวกเขามากแค่ไหน......“หยินหลิง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงจะคิดยังไง หลินเฟิงก็ไม่ได้สนใจตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสนใจ ก็คือ หยินหลิงเมื่อหยินหลิงเห็นหลินเฟิงหันกลับมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทางที่ซับซ้อนเล็กน้อยว่า : “พี่หลินเฟิง ฉันขโมยชีพจรมังกรของพี่หรานฮุ่ยกับพี่ถังหว่านมา พี่ไม่ตำหนิฉันใช่ไหม?”“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?”หลินเฟิงกอดเธอไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับพูดขึ้นเบา ๆว่า :“สาวน้อยอย่างเธอเอาชีพจรมังกรมาล่อพลังงานให้ฉัน แล้วฉันจะไม่รู้ได
“พี่รอง หรือว่าพี่ใหญ่จะผิดสัญญา? ต้อง...ต้องการจะขัดแย้งกับสำนักร้อยพิษใช่ไหม?”เฝิงหลีรู้สึกตัวด้วยท่าทางที่หวาดกลัว“งั้นหลานชาย อวี้อู่ ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะสิ!”เมื่อเห็นว่าเขายังคงพูดเรื่องอวี้อู่ออกมา เฝิงเอ้อก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที จึงหันกลับไปตบหน้าเฝิงหลีอย่างแรง“ไอ้สารเลว แกยังมีหน้ามาพูดถึงอวี้อู่อีกงั้นเหรอ?!”“หากไม่ใช่เพราะไอ้สารเลวอย่างแกที่วางยาพิษซ้ำสอง เรื่องมันจะมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?!”“อะไรนะ?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงหลีที่พยายามคลานขึ้นมาจากพื้นก็ตกตะลึง“พวก...พวกพี่รู้ได้ยังไง?”เขาคิดว่าตัวเองทำอย่างลับ ๆแล้ว แต่ทำไมคนเหล่านี้ถึงได้รู้ล่ะ?“ดีจริง ที่แท้ก็คือแกนี่เอง!”เฝิงเอ้อพูดเพียงแค่นี้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเฝิงหลีจะสารภาพออกมาเองจริง ๆ เมื่อมองแบบนี้ หลินเฟิงก็พูดถูกแล้ว เหมาะสมแล้วที่เขาเป็นถึงอาจารย์หมอ!เมื่อเห็นเฝิงหลีไร้ยางอายขนาดนี้ เฝิงเอ้อก็โกรธจนหัวเราะออกมา“หมอเทวดาหลิน คนนี้จะจัดการอย่างไรดี?!”เขามองไปที่หลินเฟิงด้วยความเคารพ เห็นได้ชัดว่าพร้อมที่จะมอบสิทธิ์ในการจัดการเฝิงหลีให้กับหลินเฟิงแล้ว“ฉันได้ปิดจุดฝังเข็มไว้เ
“พี่รอง ช่วยผมด้วย พี่รอง ช่วยผมเร็ว ๆสิ!”เฝิงหลีเห็นเฝิงเอ้อก็เหมือนกับเห็นผู้ช่วยชีวิต ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหาพี่รองของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วชี้ไปที่หลินเฟิงพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่สั่นเทิ้มว่า :“มัน....ทำขาของผมหักไปทั้งสองข้างเลย พี่รอง ช่วยผมแก้แค้นด้วยนะ ผมจะฆ่ามัน ไม่สิ ผมอยากจะเฉือนเนื้อของมันออกมาที่นิด ๆ”“ผมอยากจะให้มันตายโดยที่ไม่มีที่ฝังศพ!”เสียงคำรามลั่นของเฝิงหลี ไม่ได้รับการยอมรับจากเฝิงเอ้อเมื่อเหล่าลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงที่กำลังลงมาจากรถที่อยู่ด้านข้างมองเห็นฉากนี้เข้า ทันใดนั้นดวงตาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ก่อนจะถลึงตามองไปทางหลินเฟิงด้วยความโกรธ“หลินเฟิง แกกล้ามากนะที่กล้ามาตัดขาคุณท่านสามตระกูลเฝิงของพวกเรา”“ใช่แล้ว วันนี้อย่าคิดว่าแกจะออกไปได้ครบสามสิบสองส่วนเลย!”“ตระกูลเฝิงของพวกเราจะไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ดูเหมือนว่าเฝิงชางเพียงแค่ให้คนเหล่านี้มาขัดขวางเฝิงหลีเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกกับพวกเขาว่าหลินเฟิงเป็นคนที่ตระกูลเฝิงไม่สามารถล่วงเกินได้แต่ถึงแม้จะบอกไป คนเหล่านี้ก็มีท่าทางที่ดูถูกหลินเฟิงอยู่ดีในเมื่อพวกเขาไม่เคยได้เห็นวิธีการของหลินเฟิงมาก่อนเลย“
“เชี่ย เชี่ยเอ๊ย!”เฝิงหลีตกใจจนหน้าซีดเซียว ในปากก็ด่าคำหยาบต่างๆ นานา ร่างกายก็ถอยหลังไม่หยุดเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าที่เดินเข้ามาหาเขา ไม่เหมือนกับคนด้วยซ้ำเหมือนกับสัตว์ดุร้ายยุคดึกดำบรรพ์ที่อยู่บนภูเขาสูง ส่งเสียงคำรามสะเทือนเลือนลั่นออกมาส่วนหลินเฟิงก็เห็นหยินหลิงที่กระโปรงเลิกขึ้นถึงขาอ่อนตั้งแต่ไกลๆ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเฝิงหลีคนนี้คิดจะทำอะไรเขาเดินไปจุดที่อยู่ใกล้กับเฝิงหลี จู่ๆ ก็คำรามออกมาด้วยความเดือดดาล“อ๊าก อ๊าก!”เฝิงหลีกลับตกใจจนอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน ยกเท้าวิ่งเผ่นแนบ“คิดหนีงั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”หลินเฟิงโบกมือ ขณะที่เฝิงหลีวิ่งอย่างสุดกำลังอยู่นั้น กลับพบว่าขาทั้งสองข้างของเขาออกแรงยังไงก็ไม่มีกำลังส่วนร่างกายของเขาก็ล้มลง ไม่สามารถควบคุมได้“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฝิงหลีก้มหน้ามองคนทั้งคนตกใจจนสติแทบแตกทันทีเป็นเพราะว่าตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขา ถูกฟันขาดออกจากหัวเข่าอย่างเรียบเนียนโดยพลังชี่แท้ที่หลินเฟิงส่งออกไปเขาล้มลงอย่างควบคุมไม่ได้ หันหลังไปเห็นขาทั้งสองข้างที่ยังตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิม“อ๊าก อ๊ากกกกกกกกก!”
“ส่วนคุณ หนูที่ได้เปรียบ คิดว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่าง แต่หนูก็คือหนู คุณไม่เหมาะสมที่จะยืนบนเวทีและได้รับความเคารพ”“แม่งเอ้ย!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฟิงหลีก็โกรธจนตัวสั่นไปหมดเขาจับหยินหลิงกดลงกับพื้น คลายเข็มขัดของตัวเองด้วยมือข้างหนึ่ง และคำรามว่า :“วันนี้ฉันจะทำให้คุณตายอยู่ข้างถนน แล้วมาดูกันว่าคุณจะกล้าดูถูกฉันอีกไหม!”“หึหึหึ....”หยินหลิงที่ถูกจับกุมอยู่ กลับหัวเราะเยาะขึ้นมาแทน"คุณคิดว่านี่จะทำให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ?"“สิ่งนี้แค่เน้นย้ำถึงความไร้ความสามารถและความเลวทรามของคุณเท่านั้น รอให้กลุ่มพันธมิตรบู๊ตอบกงลับมา ก็จะหาพวกคุณเจอเอง”“เมื่อถึงเวลา คุณก็จะถูกสำนักร้อยพิษโยนออกไปเป็นอาหารปืนใหญ่ ช่างต่ำช้าและน่าสมเพชจริงๆ...”“แม่งเอ้ย!”เฟิงหลีไม่สามารถคลายเข็มขัดด้วยมือข้างเดียวได้ และเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของหยินหลิง เขาก็ยิ่งโกรธและกระสับกระส่ายมากขึ้น จนถึงกับตะโกนเรียกคนขับรถที่อยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาช่วยจับหยินหลิงไว้"แต่ว่าคุณท่านสาม..."คนขับยังคงต้องการให้คำแนะนำสุดท้ายอีกแต่เฟิงหลีในเวลานี้ไม่ฟังใครอีกต่อไปแล้วดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้คนขับกลืนคำพูดที่กำ
แน่นอนสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คื ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวหยินหลิง ความลับที่หลอกล่อยอดฝีมือของประเทศมังกรทุกคนหากเธอตกอยู่ในมือของสำนักร้อยพิษแล้วสุดท้าย สำนักร้อยพิษก็จะได้เปรียบไปนี่เป็นสิ่งที่หยินหลิงไม่อยากเห็นแม้ว่าเธอจะตายก็ตาม“หึหึ ท่านหัวหน้า ฉันแนะนำว่า คุณอย่าคิดอะไรเลวร้ายเลยจะดีที่สุด ตอนนี้ในร่างกายจของคุณ ฉันได้วางยาตะขาบเลือดไว้แล้ว เพียงแค่ฉันไม่พอใจ”“ท่านหัวหน้าก็ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว”เฟิงหลีข่มขู่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือไปยกคางของหยินหลิงขึ้นพร้อมกับถอนหายใจและพูดว่า :“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านหัวหน้า ท่านหัวหน้านั้นงดงามจริงๆ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง”เมื่อได้ยินคำล้อเล่นพวกนี้ หยินหลิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่มองไปทางเฟิงหลีด้วยความดูถูก ร่างกายก็หลีกเลี่ยงฝ่ามือของเฟิงหลีไปโดยไม่รู้ตัว“หืม?”ใบหน้าของเฟิงหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าหยินหลิงยังคงไม่เชื่อฟังตัวเองหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่ปกติจะเข้าถึงได้ยากนั้น ตอนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้วความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขแต่เขาไม่คาดคิดว่า
“ผม...”หลินเฝิงโกรธอย่างมากจนอยากจะฆ่าเฝิงชางซะเดี๋ยวนี้แต่ไม่นานหลินเฝิงก็สงบสติอารมณ์ลงเขาดีดนิ้ว ก่อนที่พลังชี่แท้โปร่งใสจะถูกปล่อยเข้าสู่ร่างของเฝิงอวี้อู่หลินเฝิงก้าวออกไปและพูดอย่างเย็นชาว่า:“หากผมไม่ได้กลับมาก่อน คุณชายตระกูลเฝิงของพวกคุณก็อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว”“หากเกิดอะไรขึ้นกับหยินหลิงที่นี่ ฉันจะให้ทุกคนในตระกูลเฝิงถูกฝังไปพร้อมกับเธอ! ได้ยินหรือเปล่า?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงชางก็ตัวสั่นอย่างมากหากเขาเคยดูถูกหลินเฝิงมาก่อน ตอนนี้เขาคงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดจากหลินเฝิงลองคิดดูสิชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ แน่นอนว่าเบื้องหลังเขาเบื้องหลังของเขาไม่ได้มีแค่หลี่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นกองกำลังเล็ก ๆต้องมีอำนาจบางอย่างซ่อนอยู่ในประเทศมังกรอำนาจแบบนี้ไม่ควรไปยั่วยุให้มากนักเมื่อมองไปที่ร่างหลินเฝิงที่เดินจากไป เฝิงชางก็คิดได้หลายอย่างในใจทันทีเนื่องจากเป็นผู้นำตระกูลเฝิง เขาจึงรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาเลยในขณะนี้หากตอนแรกมันเป็นเพียงชีวิตของลูกชายเขาต่อมาเขาได้ไปยั่วยุสำนักร้อยพิษและเชิ
“เข็มเจ็ดสิบสองเล่มขจัดความชั่วร้าย!”หลินเฟิงก้มหน้าตวาดเสียงทุ้มต่ำ ดึงเข็มเงินที่ฝังอยู่บนตัวของเฝิงอวี้อู่ออก และตกลงบนพื้นเสียงดังติ๊งเข็มเงินเพิ่งจะออกจากตัวของเฝิงอวี้อู่ เฝิงอวี้อู่ก็ส่งเสียงร้องโอดครวญเสียงสูงจึงทำให้เฝิงชางที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างร้อนใจจนใบหน้ามีเหงื่อออกแต่เขาไม่เพียงไม่กล้ารบกวนหลินเฟิง ทำได้แค่มองตาปริบๆคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ก็ไม่ได้สนใจเฝิงอวี้อู่อีกแล้ว แต่หันหน้ามองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวที่หมดสติอยู่เฝิงอวี้อู่พิษเข้าไขกระดูก หลินเฟิงต้องใช้กลอุบายจัดการเล็กน้อยแต่ทว่าทางด้านหมอเทวดาเลี่ยวง่ายกว่าเยอะเลยหลินเฟิงยกมือขึ้นโดยตรง ปล่อยพลังชี่แท้บริสุทธิ์เข้าไปที่หน้าผากของเขา และนำยาเม็ดสีเหลืองใส่เข้าปากของหมอเทวดาเลี่ยว“ไปเถอะ หามหมอเทวดาเลี่ยวไปพักในที่เย็นสบาย อีกเดี๋ยวเขาก็ได้สติแล้ว”คำพูดนี้ของหลินเฟิงพูดให้เฝิงเอ้อฟังเฝิงเอ้อชี้ตัวเอง และมีสีหน้างุนงง“ไปสิ! ฟังหมอเทวดาหลิน!”เฝิงชางตวาดน้องชายคนรองของตัวเองเสียงดัง แต่ทว่าเฝิงเอ้อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปสัมผัสหลินเฟิงมองออกถึงความเป็นกังวลของเขา เก
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได