แต่เมื่อมองสีหน้าสิ้นหวังของพ่อตัวเอง และท่าทางน่าสงสาร สุดท้ายเขาก็กัดฟัง ก้มหัวให้หลินเฟิงแล้วพูดว่า:“หลินเฟิง เพียงแค่คุณรักษาพ่อของผมจนหาย ผมก็จะให้คุณไปพบหลานถังหว่าน เป็นอย่างไร?!”“ผมไม่เชื่อ”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วยิ้มบาง“คุณ...”ไม่รอให้ถังเจี้ยนหยวนพูด หลินเฟิงยกมือขึ้นห้ามแล้วพูดต่อไป สีหน้าของหลินเฟิงในตอนนี้เปลี่ยนไปเย็นชาแล้วหลินเฟิงพูดอย่างนิ่งเฉย:“เมื่อครู่ผมเห็นความสามารถในการตั้งตัวของตระกูลถังแล้ว การตกลงทางคำพูดที่ว่าไม่มีประโยชน์สำหรับคุณด้วยซ้ำ ในเมื่อตระกูลถังของคุณไม่มีทางรักษาคำพูด”“หรือว่าคุณยังคิดว่าคำพูดของคุณ ยังมีความน่าเชื่อถือสำหรับผมอีกงั้นเหรอ?”“งั้นคุณก็โง่เขลาจนน่ารักจริงๆ”หลินเฟิงเปิดโปงความกลบเกลื่อนของถังเจี้ยนหยวนโดยไม่ไว้หน้าแม้แต่นิด นี่จึงทำให้ถังเจี้ยนหยวนโมโหจนตับจะระเบิดแต่เพื่อพ่อ เขาก็ยังทำหน้าบึ้งตึง และฝืนถามหลินเฟิง:“งั้นต้องทำอย่างไรคุณถึงจะยอมรักษาพ่อของผม?”“ผมต้องการเจอถังหว่าน ตอนนี้”หลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉยครั้งนี้ถังเจี้ยนหยวนไม่ได้รีบร้อนที่จะพูดว่าไม่ได้ เขาส่ายหน้าแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า:“ถ้าหากหลังจาก
พูดจบ หลินเฟิงก็ยิ้มเยาะและเดินจากไป“เดี๋ยว...เดี๋ยวเดี๋ยว! เดี๋ยวสิ...”นายท่านล้มตัวลงบนเตียงและไถลลงบนพื้น เขาตะโกนร้องเรียกด้วยความเจ็บปวด และคลานไปทางหลินเฟิง“สหายน้อยหลิน ช่วยฉันด้วยนะ! ฉันไม่อยากตาย...ฉัน ฉันไม่อยากตายอย่างน่าเวทนาแบบนั้น!”ได้ยินเสียงตะโกนเรียกที่น่าอนาถของนายท่าน หญิงชราที่อยู่ข้างๆ ก็ร้อนใจขึ้นมา จึงรีบดึงลูกชายของตัวเองไว้ และพูดอย่างร้อนรน:“โอ๊ยฉันว่านะเจี้ยนหยวน นายรับปากเขาเถอะ! ก็แค่เจอหน้ากับหว่านเอ๋อร์เองไม่ใช่เหรอ? จะอะไรกันนักหนา!”“แม่ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่แม่คิดแบบนั้นนะครับ!”ถังเจี้ยนหยวนใบหน้าอัดอั้นเหมือนกับกาน้ำร้อน เขาดิ้นรนพูดอธิบาย:“ถ้าหากให้หลินเฟิงไปเจอกับหลานถังหว่าน ไม่ต้องพูดถึงนิสัยของหลานถังหว่าน ถ้าหากเธอตัดสินใจตามหลินเฟิงไป พวกเราจะขวางไว้ได้อย่างไร?”“กว่าผมจะพูดเกลี้ยกล่อม ทำให้เธอยอมรับการจัดการของตระกูลได้ ตอนนี้ถ้าหากเธอเจอกับหลินเฟิง ถ้าหากเปลี่ยนใจจะทำอย่างไร?”“อีกอย่าง คุณชายหลงยวนตอนนี้ก็อยู่ข้างนอก”“ถ้าหากให้หลินเฟิงไปพบถังหว่าน เรื่องนี้จะปิดบังคุณชายหลงยวนได้อย่างไร ให้เขารับรู้ ตระกูลหลงจะมองตระกูลถัง
สาวสวยคนนี้ก็คือถังหว่านนั่นเองเธอมองเห็นหลินเฟิง จึงกระโดดเข้าใส่โดยไม่พูดพร่ำหลังจากสบตากันหลายวินาที เธอใช้ท่าทางเร่าร้อนที่ทำให้คนหวาดกลัว ขยับริมฝากของตัวเองเข้าไปอย่างแรงสัมผัสที่ชุ่มชื้นทำให้หลินเฟิงไม่สามารถถอนตัวออกได้“แค่กแค่ก...”ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ทั้งสองคนถึงได้แยกออกจากกันเพราะเสียงกระแอมของคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ“ป้าจ้าว ป้าไออะไรกัน น่าเบื่อที่สุด!”ริมฝีปากแยก ถังหว่านก็เหลือบตามองคนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความตำหนิ“ไม่ใช่ค่ะคุณหนูถังหว่าน คือว่า...”คนรับใช้ที่ถูกเรียกว่าป้าจ้าวส่งสายตาไปที่ด้านข้างไม่หยุดถังหว่านหันหน้ามองไป ถึงได้เห็นหลงยวน ผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้างป้าจ้าวตอนนี้สีหน้าอึมครึมของหลงยวนเหมือนกับจะมีน้ำฝนหยดลงมาอย่าว่าแต่ท่าทางอบอุ่นที่โถมตัวเข้าไปหาโดยตรง ดูเพียงแค่เรื่องที่ถูกคนรับใช้เตือน ถึงได้สังเกตเห็นตัวเอง ก็รู้ว่าถังหว่านไม่ได้ใส่ใจเขาเลยด้วยซ้ำ“ถังหว่าน ผมต้องเตือนคุณสักหน่อย อีกสามวัน ก็คือวันแต่งงานของพวกเราแล้ว”หลงยวนพูดเหน็บแนมแบบนี้ประโยคหนึ่ง“หึ ใครจะแต่งงานกับคุณล่ะ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว! ฉันจะไป
สำหรับจุดนี้ ถังหว่านมีสิทธิ์พูดมากที่สุดแน่นอนว่า หลินเฟิงดึงดูดถังหว่าน ไม่เพียงแค่หน้าตาของเขาวิธีการจัดการ ท่าทาง กลอุบายของหลินเฟิง ต่างก็ทำให้ถังหว่านหลงใหลอย่างสุดซึ้งถ้าหากถังหว่านไม่ได้เจอหลินเฟิง เช่นนั้นเธออาจจะฟังการจัดแจงของตระกูล และแต่งงานกับหลงยวนจริงๆ ก็ได้แต่ตอนนี้มีหลินเฟิงแล้ว เธอจึงไม่ได้รู้สึกชอบหลงยวนในเมื่อเทียบกับหลินเฟิง หลงยวนก็แค่หนุ่มที่พึ่งพาตระกูลถึงจะสามารถปีนไต่ขึ้นจนถึงสถานะในตอนนี้ได้ส่วนหลินเฟิง พึ่งพาแค่ตัวเองสร้างท้องฟ้าที่กว้างขวางออกมาได้ถ้าหากให้เวลาระยะหนึ่ง ความสำเร็จของหลินเฟิงจะต้องแซงหน้าหลงยวนไปถนนแถวหนึ่งอย่างแน่นอนสำหรับจุดนี้ ถังหว่านเชื่อมั่นโดยไม่มีข้อสงสัย“ฉันถังหว่านไม่เคยเชื่อโชคชะตาบ้าบออะไรมาก่อน ชีวิตของฉันฉันควบคุมเอง”ถังหว่านสีหน้าจริงจัง และมองไปทางหลงยวนแล้วพูดว่า:“คุณชายหลงยวน วันนี้ฉันบอกกับคุณอย่างเป็นทางการนะ ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคุณ ฉันชอบหลินเฟิง รักหลินเฟิง ทั้งชีวิตจะแต่งงานแค่กับหลินเฟิงเท่านั้น”“การแต่งงานเกี่ยวดองกันของตระกูลหลงกับตระกูลถังงั้นเหรอ หึ ไปตายซะเถอะ!”“แม่เจ้า แม่คุณทูลหัวถัง
“ถังหว่าน”หลงยวนเห็นเรื่องราวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว เขาอยู่ที่นี่ก็เป็นส่วนเกิน จึงขึ้นรถไปทันทีเขากดหน้าต่างรถลง และพูดอย่างนิ่งเฉย“คุณเลือกรับการปกป้อง และรักษาความปลอดภัยจากตระกูลหลงของพวกเราต่อไป”“หรือให้อีกาแห่งเมืองหนานไห่กวาดล้างตระกูลถังของพวกคุณจนหมด เรื่องนี้ คุณพิจารณาเอาเอง”“ผมไม่เกลี้ยกล่อมคุณอีกแล้ว”“อีกสามวัน งานประจำปีของตระกูลถัง ตระกูลหลงของผมจะส่งคนมาแต่งงานกับคุณ ถ้าหากคุณไม่ยอม งั้นก็แสดงว่าการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของตระกูลถังของคุณกับตระกูลหลงของผมตัดขาดกันแล้ว”“ต่อไป พวกคุณก็ช่วยเหลือตัวเองแล้วกัน”พูดจบ หลงยวนก็พิงตัวบนเบาะ และสั่งคนขับรถให้เคลื่อนรถออกไปเหลือเพียงแค่ถังหว่านที่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอันที่จริงถังหว่านไม่ได้โง่ถึงขั้นที่เธอฉลาดกว่าผู้หญิงส่วนมากด้วยซ้ำในฐานะผู้หญิงแกร่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองเจียงโจว สมองของเธอไม่มีทางง่ายดายขนาดนั้นหรอกอันที่จริงเพียงแค่แวบแรกเมื่อครู่นี้ ก็เห็นหลินเฟิงกับหลงยวนที่อยู่ในรถแล้วที่เธอทำสนิทสนมกับหลินเฟิงแบบนี้ และมีท่าทางเย็นชาต่อหลงยวน นี่เป็นแผนการของเธอที่เกิดข
“อ่อใช่”ถังหว่านเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอขมวดคิ้วมองไปทางหลินเฟิงและพูดว่า: “ที่รัก คุณอยากพบฉัน หรือว่าอาใหญ่ของฉันให้คุณมาพบฉันทั้งแบบนี้เหรอ? นี่ไม่เหมือนกับนิสัยของเขานะ”“อย่าพูดถึงเลย”หลินเฟิงกำลังจะรับปากกับถังหว่านว่า เขาจะจัดการเรื่องของอีกาแห่งเมืองหนานไห่ ก็เห็นถังหว่านเปลี่ยนเรื่องสนทนาเขาก็ทำได้นำประสบการณ์ที่น่าลำบากในการมาพบเธอ เล่าให้ถังหว่านฟังเพิ่งจะพูดได้ครึ่งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ถังหว่านโมโหอย่างมากถังหว่านกระทืบเท้าอย่างแรง และพูดด้วยความโมโห:“ฉันบอกกับคุณอาไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามทำให้คุณโมโห และก็ห้ามใช้คนในครอบครัวข่มขู่คุณ แต่เขาทำไมถึงไม่ฟังเลยนะ?”“อาสามของฉันก็จริงๆ เลย มีที่ไหนกันที่เชิญคนมารักษาแล้วใช้วิธีแบบนี้?!”“หึ เรื่องที่น่าสนใจอยู่ข้างหลัง”หลินเฟิงส่ายหน้า และนำเรื่องที่เขารักษาให้นายท่าน เรื่องเดิมพัน และยังมีเรื่องของศาสตราจารย์โรเบิร์ตเล่าออกมาให้ถังหว่านจนหมดเปลือกถังหว่านหนังหน้ากระตุกโมโหจนเกือบจะด่าคำหยาบออกมาในทันที“ดูท่าอาใหญ่ของฉันไม่ใส่ใจความเป็นความตายของคุณปู่ของฉันด้วยซ้ำสินะ!”ถังหว่านพูดด้วยความโมโห
ถ้าไม่การคัดค้านอะไร ก็เซ็นใบหย่าเถอะคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ในเจียงโจวสาวงามในชุดกี่เพ้าผลักเอกสารไปตรงหน้าหลินเฟิงหญิงสาวตรงหน้านี้เป็นแม่ยายของเขา จางกุ้ยหลานเมื่อมองใบหย่าที่อยู่ตรงหน้า หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณแม่ นี่หมายความว่าอะไรจางกุ้ยหลานกอดอก พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เป็นบริษัทมหาชนแล้ว “ช่องว่างระหว่างคุณกับฮุ่ยหรานก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการงานของฮุ่ยหรานเลย” “มีแต่จะฉุดรั้งการพัฒนาของฮุ่ยหราน หากเป็นเช่นนี้ก็หย่ากันเร็วๆดีกว่า”หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถามกลับว่า”นี่คือความคิดของฮุ่ยหรานหรือความคิดคุณแม่ครับ”จางกุ้ยหลานสีหน้าเย็นลง “นี่คือความคิดทุกคนของตระกูลหลี่เรา” “ที่คุณได้แต่งงานกับฮุ่ยหราน แค่เพราะสัญญาการแต่งงานที่คุณปู่ตั้งไว้” “สามปีมานี้ ที่คุณกินอยู่ในบ้านเรา ตระกูลหลี่เรามีความเมตตาต่อคุณมากแล้ว “ถ้าคุณรู้ตัว ก็รีบเซ็นชื่อ”หลินเฟิงหายใจเข้าลึกๆสามปีก่อน เขาใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดของตัวเองที่มีเพื่อช่วยพัฒนาตระกูลหลี่ช่วยพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจากร้านค้าที่เล็กๆแต่ในสายตาของตระกูลหลี่ เขากลับกลายเป
หลินเฟิงออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ มองสถานที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาสามปีครั้งสุดท้ายตอนมาก็มาอย่างโดดเดี่ยว และจากไปด้วยมือเปล่ารถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่ขับมาแต่ไกลจอดตรงหน้าเขาเมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางที่สวมสูทคนหนึ่งลงจากรถ “คุณหลิน....”ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม วิ่งเหยาะๆไปที่หลินเฟิง “คุณมาได้อย่างไร” หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ คนที่มานั้นเป็นประธานบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนลจ้าวเทียนหวากล่าวตามความจริง “ช่วงนี้ผมกำลังวิจัยโครงการพัฒนาของเขตซีเฉิงกับนางหลิน วันนี้ตั้งใจจะมาหานางหลินเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดหลินเฟิงพยักหน้า “ไม่ต้องปรึกษาแล้ว” “หลี่ฮุ่ยหรานมีตระกูลหวางเป็นที่พึ่งแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ต้องการความสนับสนุนของเราแล้ว” “และก็ไม่ใช่นางหลินอีกต่อไป” “อ๋า”จ้าวเทียนหวาตกใจมาก “นี่...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”หลินเฟิงพูดแบบไม่ได้ปิดบัง “ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว” “ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลหลี่อีก”หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวา ตบไหล่เขาเบาๆ “จ้าว สามปีมานี้คุณงานหนักแล้วนะ”ธุรกิจของจ้าวเทียนหวาอยู่ที่ต่างประเทศทั้ง