แต่ภายในตระกูลถัง ท่าทางที่คนอื่นมีต่อหลินเฟิงไม่ได้เป็นมิตรขนาดนั้นแล้วนอกจากถังหว่าน แทบทุกคนที่เห็นหลินเฟิง ต่างก็มีสีหน้าเหมือนท้องผูกชายหนุ่มคนนี้ไล่ ก็ไล่ไม่ไปด่า ก็ด่าไม่ได้ตี พวกเขายังหวังให้หลินเฟิงรักษาอาการให้นายท่านอยู่อีกดังนั้นพวกเขาทำได้แค่ใส่ร้ายป้ายสีหลินเฟิงลับหลัง ถึงขั้นที่นำโรคที่นายท่านติดเชื้อเมื่อครึ่งปีก่อน คาดเดาไปบนหัวของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงไม่ใส่ใจด้วยซ้ำเพราะวันนี้เป็นวันที่สามที่เขารักษาอาการให้นายท่านตระกูลถังแล้ววันสุดท้ายและก็เป็นวันที่ทั้งตระกูลถังเริ่มงานประจำปีตั้งแต่เช้าตรู่รถหรูแต่ละคันขับจากข้างนอกเข้ามาในตระกูลถังชายหญิงแต่ละกลุ่มที่แต่งตัวสง่างาม บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาเดี่ยว เดินเข้ามาในงานเลี้ยงอย่างองอาจผึ่งผายไม่ว่าจะเป็นคนตระกูลถังที่กลับมาต้นตระกูล หรือจะเป็นพ่อบ้านของตระกูลถังแต่ละพื้นที่ต่างแสดงออกถึงความร่ำรวยของตระกูลถัง ที่เป็นตระกูลพ่อค้าหนึ่งในสี่ตระกูลร่ำรวยแห่งเมืองจิงขนาดของตระกูลถัง ไม่ได้เรียบง่ายแบบนั้นเพียงเท่าที่หลินเฟิงเห็นอยู่ตรงหน้าอย่างแน่นอนตรงกลางคฤหาสน์ตระกูลถังส่วนภายในโถงเลี้ยงขนา
หลังจากเสียงกระทบของแก้วทรงสูงที่ไพเราะดังขึ้น หลินเฟิงก็จิบไวน์ในแก้วหนึ่งอึกในตอนที่ไวน์ไหลลงคอ หลินเฟิงกลับเหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง“ไวน์นี่...”หลินเฟิงเหลือบมองของเหลวสีแดงที่อยู่ในมือ และขมวดคิ้วแน่น“ทำไม? ไวน์นี้คือไวน์เบอร์กันดีโรมาเนกงติระดับพิเศษ โด่งดังและล้ำค่าถึงที่สุด แต่ละปีผลิตไม่ถึง 400 ลัง หนึ่งใน 200 ลังถูกนำมาจัดงานประจำปีในครั้งนี้”หลงยวนตั้งใจอธิบายยกหนึ่ง จากนั้นก็แสร้งทำเป็นเข้าใจในฉับพลันและพูดว่า:“ขออภัยด้วยสหายหลินเฟิง ผมจำได้ว่า คนบ้านนอกแบบคุณเกรงว่าไม่เคยดื่มเหล้าที่โด่งดังและล้ำค่าแบบนี้มาก่อนสินะครับ จึงลิ้มรสชาติโดดเด่นเป็นพิเศษที่อยู่ในนั้นไม่ได้”คำเยาะหยันของหลงยวนทำให้อู๋เยว่เซี๋ยที่อยู่ข้างๆ ปิดปากหัวเราะลูกหลานตระกูลถังคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ก็มองไปทางหลินเฟิง และขมวดคิ้วขึ้นมาเขาเป็นใครกัน?ทำไมถึงไม่เคยพบเห็นที่ในตระกูลมาก่อน?บนตัวส่งบรรยากาศที่ไม่เข้ากันกับความสง่างามของสถานที่แห่งนี้ นี่ทำให้ลูกหลานตระกูลถังเกิดความสงสัยต่อหลินเฟิงอย่างอดไม่ได้“หึหึ ไวน์นี้...มีความพิเศษอยู่จริงๆ ผมไม่สามารถเพลิดเพลินกับมันได้ ดูท่ามีเพ
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องรองกลับมาแล้วเหรอ? ดีดีดี ดีมากเลย!”ตอนนี้ ร่างที่คุ้นเคยคู่หนึ่งเดินเข้ามาภายในห้องโถงจัดเลี้ยงหลินเฟิงมองไป พบว่านั่นก็คือน้องรองของถังเจี้ยนหยวน ก็คือถังว่านหลี่ พ่อของถังหว่านคนที่ติดตามอยู่ข้างกายถังว่านหลี่ ก็คือหลินเสวี่ยเยี่ยนแม่ของถังหว่านดูท่างานเลี้ยงประจำปีของตระกูลถัง ต่อให้พวกเขาที่อยู่ไกลถึงเจียงโจว ก็ต้องมาเข้าร่วมด้วยถังเจี้ยนหยวนเข้าไปต้อนรับด้วยตัวเอง แต่จากนั้นเขาก็มีสีหน้าแข็งทื่อ“เอ๊ะ? อวิ๋นเหลยกับอวิ๋นเฟิงล่ะ? พวกเขาทำไมถึงไม่กลับมาด้วย?”ถังเจี้ยนหยวนกวาดตามองไปรอบๆ และไม่พบเงาของถังอวิ๋นเหลยกับถังอวิ๋นเฟง“พวกเขา...”ถังว่านหลี่สีหน้าเก้กัง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีหลินเสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ ทุบหลังของสามีตัวเองเบาๆ เห็นได้ชัดว่าจะให้เขาออกหน้า“แฮ่มแฮ่ม”ถังว่านหลี่กระแอมสองครั้ง จากนั้นก็ล้วงใบรายงานคนเสียชีวิตออกมาจากในกระเป๋า ยื่นออกไปให้ถังเจี้ยนหยวน และพูดอย่างจนปัญญา:“พี่ใหญ่ อวิ๋นเหลยเขาสมคบกับศัตรูของตระกูลถัง ปล้นชิงยาบำรุงสตรีที่หว่านเอ๋อร์ทุ่มเทกำลังมหาศาลศึกษาและทำการผลิตออกมา ดังนั้น...แฮ่มแฮ่ม ในการต่อสู้ที่วุ่นว
ถ้าไม่การคัดค้านอะไร ก็เซ็นใบหย่าเถอะคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ในเจียงโจวสาวงามในชุดกี่เพ้าผลักเอกสารไปตรงหน้าหลินเฟิงหญิงสาวตรงหน้านี้เป็นแม่ยายของเขา จางกุ้ยหลานเมื่อมองใบหย่าที่อยู่ตรงหน้า หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณแม่ นี่หมายความว่าอะไรจางกุ้ยหลานกอดอก พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เป็นบริษัทมหาชนแล้ว “ช่องว่างระหว่างคุณกับฮุ่ยหรานก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการงานของฮุ่ยหรานเลย” “มีแต่จะฉุดรั้งการพัฒนาของฮุ่ยหราน หากเป็นเช่นนี้ก็หย่ากันเร็วๆดีกว่า”หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถามกลับว่า”นี่คือความคิดของฮุ่ยหรานหรือความคิดคุณแม่ครับ”จางกุ้ยหลานสีหน้าเย็นลง “นี่คือความคิดทุกคนของตระกูลหลี่เรา” “ที่คุณได้แต่งงานกับฮุ่ยหราน แค่เพราะสัญญาการแต่งงานที่คุณปู่ตั้งไว้” “สามปีมานี้ ที่คุณกินอยู่ในบ้านเรา ตระกูลหลี่เรามีความเมตตาต่อคุณมากแล้ว “ถ้าคุณรู้ตัว ก็รีบเซ็นชื่อ”หลินเฟิงหายใจเข้าลึกๆสามปีก่อน เขาใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดของตัวเองที่มีเพื่อช่วยพัฒนาตระกูลหลี่ช่วยพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจากร้านค้าที่เล็กๆแต่ในสายตาของตระกูลหลี่ เขากลับกลายเป
หลินเฟิงออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ มองสถานที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาสามปีครั้งสุดท้ายตอนมาก็มาอย่างโดดเดี่ยว และจากไปด้วยมือเปล่ารถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่ขับมาแต่ไกลจอดตรงหน้าเขาเมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางที่สวมสูทคนหนึ่งลงจากรถ “คุณหลิน....”ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม วิ่งเหยาะๆไปที่หลินเฟิง “คุณมาได้อย่างไร” หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ คนที่มานั้นเป็นประธานบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนลจ้าวเทียนหวากล่าวตามความจริง “ช่วงนี้ผมกำลังวิจัยโครงการพัฒนาของเขตซีเฉิงกับนางหลิน วันนี้ตั้งใจจะมาหานางหลินเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดหลินเฟิงพยักหน้า “ไม่ต้องปรึกษาแล้ว” “หลี่ฮุ่ยหรานมีตระกูลหวางเป็นที่พึ่งแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ต้องการความสนับสนุนของเราแล้ว” “และก็ไม่ใช่นางหลินอีกต่อไป” “อ๋า”จ้าวเทียนหวาตกใจมาก “นี่...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”หลินเฟิงพูดแบบไม่ได้ปิดบัง “ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว” “ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลหลี่อีก”หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวา ตบไหล่เขาเบาๆ “จ้าว สามปีมานี้คุณงานหนักแล้วนะ”ธุรกิจของจ้าวเทียนหวาอยู่ที่ต่างประเทศทั้ง
ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถเสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่นคาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมาเขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ” “หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วหลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก “หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้” “ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย” “จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับเธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง” “ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย” “ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”
“ปัง ๆ ๆ” เสียงระเบิดที่ต่อเนื่องกันดังขึ้นลมฝ่ามือของฉินอิ๋งเหมือนมีดพลังแข็งแกร่งและเผด็จการทั้งสองได้เผชิญหน้าแลกเปลี่ยนกันมากกว่าสิบกระบวนท่าหลินเฟิงไม่มีความคิดที่จะฆ่าเธอ แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นแม้ว่าการบำเพ็ญของเขายังไม่ฟื้นตัว แต่ฉินอิ๋งก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “ฉินอิ๋ง หยุดนะ”ในเวลานี้ ถังหว่านที่อยู่บนเตียงตะโกนอย่างรุนแรงฉินอิ๋งได้ยินแล้วจึงหยุดการโจมตีทันทีมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ “พี่หว่านเอ๋อ เด็กคนนี้...” “พอแล้ว”ถังหว่านพูดเบาๆว่า “หมอเทวดาหลินมารักษาโรค อย่าหยาบคายใส่เขา”คุณพ่อของฉินอิ๋งเป็นอาจารย์ของเธอเอง คำพูดของหลินเฟิงทำให้เธอไม่สบายใจแต่ในฐานะที่เป็นคนแรกในสามรุ่นของตระกูลถัง เป็นอัจฉริยะทางศิลปะการต่อสู้ คิดอย่างใจเย็นเป็นสิ่งที่เธอควรทำ ในการต่อสู้ที่เมื่อกี้ถังหว่านก็สามารถดูออกว่าหลินเฟิง ดูคล่องตัว ความสามารถไม่ธรรมดาแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สู้กับฉินอิ๋งอย่างเต็มที่ถ้าเขาสู้เต็มที่ ฉินอิ๋งต้องแพ้แน่ และนี่คือสาเหตุที่เธอพูดให้หยุดสำหรับคำสั่งของถังหว่าน ฉินอิ๋งไม่กล้าไม่ทำตาม จึงได้แต่ถอยหลังไปอย่างเงียบๆถังหว่า
“ดูพอหรือยัง”ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆเห็นเขาจ้องมองถังหว่านอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่พูดแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหลินเฟิงจะเก่งมาก แต่เธอก็ยังสงสัยว่าวิธีการรักษาด้วยถอดเสื้อผ้านี่เขาคนนี้ตั้งใจอยากจะเอาเปรียบถังหว่านหรือเปล่าหลินเฟิงยิ้มเบาๆ สีหน้าไม่มีความอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อยและชื่นชมจากใจจริงว่า “คุณถังสวยมากๆครับ ผมอดไม่ได้ที่จะดูไปหลายครั้ง” “ฮา ฮา”ถังหว่านยิ้ม “หมอเทวดาหลินก็พูดตรงไปตรงมามากนะ”เธอไม่คิดว่าหลินเฟิงจะยอมรับอย่างใจกว้างขนาดนี้ไม่เหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ “ตราบใดที่หมอเทวดาหลินสามารถรักษาโรคฉันหาย อยากดูอย่างไรก็ได้”ถังหว่านสายตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่าสนใจ “ไม่จำเป็นหรอก ของที่สวยงามดูเพียงครั้งเดียวก็ประทับใจมากเพียงพอแล้ว”หลินเฟิงส่ายหัวเอาเข็มเงินเข็มออกมาปลายนิ้วผ่านหน้าอกถังหว่าน สัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อนเข็มหนึ่งฝังในจุดเฟิงฝู่ถังหว่านหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้หลินเฟิงเอาเข็มเงินหนึ่งออก กดนิ้วมือลงไปเรื่อยๆผ่านท้องน้อยของเธอ ฝังเข็มอีกหนึ