ถังหว่านถลึงตาใส่เธอด้วยความรังเกียจ "หุบปาก ฉันไม่ต้องการให้คุณมาสอนฉันว่าต้องทำอย่างไรหรอกนะ""เอ่อ..."เมื่อจางกุ้ยหลานถูกถังหว่านตะโกนใส่ เธอก็ตื่นตระหนกและรีบพยักหน้าหงึกๆ พร้อมพูดว่า "ใช่ ใช่ ใช่...คุณถังพูดถูกค่ะ"คนของจ้าวเทียนหวาเกือบจะปิดล้อมเฉินเฟยอวี่ด้วยความได้เปรียบทางจำนวนคนนี้เมื่อเขาลัดเลาะตามทางหนีไฟเพื่อที่จะออกมา ก็บังเอิญพบกับถังหว่านพอดี"คุณถัง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณก็มาด้วย เรื่องในครั้งนี้ คุณชายหลินไม่ต้องการให้คุณหลินลงมือนะครับ" จ้าวเทียนหวาพูดด้วยความนอบน้อมถังหว่านพูดอย่างใจเย็นว่า "ลุงจ้าวเกรงใจไปแล้วนะคะ หลินเฟิงมีเรื่อง ฉันจะไม่มาช่วยได้อย่างไรกัน?"ขณะที่พูด เธอก็มองไปยังบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังของจ้าวเทียนหวาในฐานะผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ เธอจึงพอมีความเข้าใจเกี่ยวกับนักสู้มือฉกาจอยู่บ้างชายคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ มีออร่าที่ควบคุม เห็นได้ชัดว่าเขามีพลังมาก และแข็งแกร่งกว่าโจวเฉินเสียด้วยซ้ำนักสู้มือฉกาจที่ทรงพลังเช่นนี้เต็มใจรับคำสั่งจากจ้าวเทียนหวา แต่จ้าวเทียนหวากลับให้ความเคารพต่อหลินเฟิงเป็นอย่างยิ่งเธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยว่า "ลุงจ
จากนั้นจางกุ้ยหลานถึงได้หันมาพูดกับหลี่ฮุ่ยหรานว่า "ดูเหมือนว่าจ้าวเทียนหวา ยังคงห่วงใยครอบครัวหลี่ของเราอยู่นะ"หลี่เหวินเชาก็พยักหน้าเช่นกัน "จริงครับ ครั้งนี้แม้แต่คนในตระกูลถังก็มาแล้ว จะต้องเป็นผู้จัดการจ้าวที่เรียกมาอย่างแน่นอนเลยนะครับ"หวางเส้าหลงกลอกตามองบนในเวลานี้ และพูดว่า "ฮุ่ยหราน คุณก็อย่าเสียใจไปเลย ตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงแล้วนะ"หลี่ฮุ่ยหรานถลึงตาใส่เขาอย่างดุดัน "ไสหัวออกไปให้พ้น ตอนนี้ฉันไม่อยากฟังคุณพูดอะไรทั้งนั้น"หลังจากรู้ว่าหวางเส้าหลงเป็นเพียงคนโกหก หลี่ฮุ่ยหรานก็ยิ่งรังเกียจเขามากขึ้นที่แท้การที่ตัวเธอสามารถประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่หวางเส้าหลงแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะจ้าวเทียนหวาเสียมากกว่าแม้ว่าจ้าวเทียนหวาจะยุติความร่วมมือกับเธอไปนานแล้ว แต่คนคนนั้นที่ถังหว่านได้พูดถึง นอกจากจ้าวเทียนหวาแล้วยังจะเป็นใครไปได้อีก?โดยที่คุณปู่ตระกูลถังก็ยิ่งตอบตกลงที่จะให้เธอดำเนินการประมูล หลังจากได้ยินเพียงชื่อของจ้าวเทียนหวาเท่านั้นเธอควรคิดได้ตั้งนานแล้วว่า หวางเส้าหลงมีคุณสมบัติอย่างไรที่จะไปควบคุมความคิดของตระกูลถังได้แบบนั้น"เฮ้ ฮุ่ยหราน คุณอย่าเกรี้ยวกราด
หลินเฟิงต้องการเดินเข้าไปหาเพื่อปลอบโยน แต่ถูกหลี่ฮุ่ยหรานผลักออกไปเสียก่อนจางกุ้ยหลานตะโกนด้วยความโกรธว่า "แกมาทำอะไรที่นี่ ไอ้สวะ?""ลูกสาวของฉันไม่อยากแกตอนนี้ รีบไสหัวออกไปซะ"หลินเฟิงเพิกเฉยต่อจางกุ้ยหลาน แต่มองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอย่างจริงจัง "ฮุ่ยหราน คุณอย่ากังวลไปเลยนะ อาการบาดเจ็บแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก""ผมมีตำรับยาที่ใช้กำจัดรอยแผลเป็นโดยเฉพาะนะ""และรอยแผลบนใบหน้าของคุณจะไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้หรอกนะ"หลี่ฮุ่ยหรานปิดหูและส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เธอไม่ต้องการพูดอะไรทั้งนั้น และก็ยิ่งไม่อยากจะเห็นหลินเฟิงด้วยเธอไม่อยากจะเจอใครทั้งนั้นเมื่อได้ยินดังนั้น จางกุ้ยหลานก็สาปแช่งออกมาทันทีว่า "ไอ้สวะ แกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ ลูกสาวของฉันไม่ต้องการให้แกมารักษาหรอก""คนแซ่หลิน นายฟังภาษาคนไม่ออกหรือไง? "หลี่เหวินเชาสาปแช่งออกมาแม้แต่แพทย์ก็ยังแนะนำในเวลานี้ "คุณผู้ชายท่านนี้ ตอนนี้อารมณ์ของคนไข้กำลังแปรปรวนอยู่ คุณออกไปก่อนจะดีกว่านะครับ"คราวนี้หลินเฟิงไม่ได้พูดอีกต่อไป เขารู้ว่าไม่ว่าตัวเองจะพูดอะไรในตอนนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็คงไม่รับฟังอย่างแน่นอนเขาถอยกลับไปอย่างเงียบๆ และดู
"แม่งเอ๊ย ไอ้หลินเฟิงคนนี้ ฉันจะฆ่ามันไม่ช้าก็เร็ว""คิดไม่ถึงเลยว่า ไอ้หลินเฟิงคนนี้จะหานักสู้มือฉกาจมาได้มากมายขนาดนั้น"จู่ๆ เฉินเฟยอวี่ก็ถามขึ้นมาว่า "รู้หรือเปล่าว่าผู้ช่วยที่มันหามาเป็นใคร?""ไม่ค่อยแน่ใจครับ...""ดูเหมือนว่าหลินเฟิงยังมีภูมิหลังอยู่บ้าง ครั้งนี้ฉันประเมินศัตรูต่ำไปจริงๆ"เฉินเฟยอวี่โทษตัวเอง"คุณชายเฉินครับ ผมคิดว่าเราควรจะออกจากเจียงโจวให้เร็วที่สุดดีกว่านะครับ คนของหลินเฟิงกำลังติดตามเราอยู่ตลอดเวลา ดูแล้วเขาคงไม่คิดที่จะปล่อยเราออกไปอย่างแน่นอนเลยครับ"ลูกน้องได้แนะนำในเวลานี้ "รอให้เรากลับไปที่จงโจวแล้ว ค่อยคิดหาวิธีเอาคืนหลินเฟิง มันก็ยังไม่สายนะครับ"เฉินเฟยอวี่พยักหน้าเห็นด้วย น้ำเสียงของเขาฟังดูไร้เรี่ยวแรงเอาเสียมากๆ "กลับไปที่จงโจวก่อนเถอะ""ฉันได้ติดต่อลุงรองแล้ว เขาจะมารับพวกเราทางน้ำนะ"ในที่สุดชายทั้งสองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากได้ยินแบบนั้นเห็นได้ชัดว่า หลินเฟิงคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนเช่นพวกเขาสามารถจัดการได้โชคดีเหลือเกินที่คุณชายสี่ไม่ได้ดื้อรั้นแต่อย่างใด เพราะหากขืนอยู่ในเจียงโจวต่อไปคาดว่าพวกเขาสองคนจะมีแต่ทางตันเท่านั้น
หลินเฟิงจับจ้องไปที่เฉินเฟยอวี่ด้วยดวงตาคู่อาฆาต"แกกลับมาตอนนี้ ฉันจะให้แกเห็นดีกันไปเลย"เฉินเจี้ยนเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดอย่างเย็นชาว่า "ไอ้หนุ่ม ไม่ว่านายจะมีพลังมากแค่ไหนในเจียงโจว เมื่อข้ามแม่น้ำสายนี้ไปแล้วก็คืออาณาเขตของจงโจว แล้วนายจะมีอะไรให้อวดเก่งอยู่อีก?"ไอ้หนุ่มคนนี้ชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว นี่ขนาดอยู่ต่อหน้าเขาแบบนี้ มันยังพูดปาวๆ ว่าต้องการฆ่าหลานชายของเขามันช่างไม่เห็นตระกูลเฉินจากเมืองจงโจวอยู่ในสายตาจริงๆเฉินเฟยอวี่หัวเราะเสียงดัง "ฮ่าฮ่าฮ่า... หลินเฟิง ถ้าแกมีความสามารถก็เข้ามาเลย""คุณชายอย่างฉันจะรอแกอยู่ตรงนี้นะ""ถ้าไม่กล้าก็อย่าปากดีไปหน่อยเลย"เมื่อเฉินเฟยอวี่เห็นว่าหลินเฟิงไม่ได้โกรธเท่าที่เขาจินตนาการไว้เขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อยเขากลอกตามองบน และเยาะเย้ยอีกครั้งว่า "หลินเฟิง ดูแลผู้หญิงของตัวเองให้ดีๆ ครั้งนี้ถือว่าเธอโชคดีไปนะ""ครั้งหน้าหากฉันมาเจียงโจวอีกครั้ง เธอจะต้องมารับใช้ฉันถึงเตียงอย่างแน่นอน""แม่งเอ๊ย"จ้าวเทียนหวาโกรธมาก และหันไปมองหลินเฟิง "คุณชายหลินครับ ต้องการเตรียมเรือหรือเปล่าครับ?"หลินเฟิงส่ายหน้า และพูดกับเฉิน
เฉินเจี้ยนเฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบพูดขึ้นมาว่า "หลินเฟิง สองตระกูลของเราไม่มีความแค้นต่อกัน เป็นเพราะหลอเฟนหู่เพียงเท่านั้น ไม่น่าจะต้องมาลงไม้ลงมือกันขนาดนี้เลยนะ""ก็แค่หลอเฟนหู่ เขาคู่ควรด้วยงั้นเหรอ?"หลินเฟิงพูดด้วยความโกรธ "หลานชายของแกทำให้หลี่ฮุ่ยหรานเสียโฉม วันนี้เขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต""นี่...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?"เฉินเจี้ยนเฉิงไม่เข้าใจความคิดของหลินเฟิงมากนัก "อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ตายสักหน่อย ทำไมต้องมาฆ่าแกงกันเพราะเรื่องแค่นี้ด้วย?""แกน่าจะดีใจนะที่เธอไม่ตาย เพราะหากเธอตายไปแล้ว ตระกูลเฉินของพวกแกก็จะต้องถูกฝังไปพร้อมกับเธอด้วย" หลินเฟิงตะโกนด้วยความโกรธ"แก......"เฉินเจี้ยนเฉิงชี้ไปที่หลินเฟิง แล้วพูดว่า "ไอ้หนุ่ม นายต้องการให้ตระกูลเฉินของเราชดใช้อย่างไร เรารับปากทั้งหมด""แต่คนคนนี้ นายจะฆ่าแกงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตระกูลเฉินของเราจะไม่ยอมปล่อยนายไปอย่างแน่นอน"แม้ว่าเฉินเฟยอวี่จะเป็นลูกนอกสมรส แต่สถานะของเขาก็ไม่ได้สำคัญมากเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นคนในตระกูลเฉินคนหนึ่งโดยที่รอบด้านมีผู้คนมากมายคอยเฝ้าจับตาดูอยู่ ดังนั้นไม่ว่าจะย
มองตามหลังเงาของการจากไปของเฉินเจิ้งเจี้ยนจ้าวเทียนฮวาพูดตอนนี้ว่า "นายน้อยหลิน ตระกูลเฉินนี้ยังมีอำนาจในจงโจวอยู่บ้าง พวกเราต้องเตรียมพร้อมกันตั้งแต่ตอนนี้ไหม?"หลินเฟิงส่ายหัว "ไม่จําเป็น แค่ตระกูลเฉินเพียงตระกูลเดียวจะทำให้เกิดคลื่นอะไรได้?""ศัตรูของเราไม่ได้มีแค่เขา แค่ป้องกันไม่ให้ตระกูลเฉินเล่นกลอุบายก็พอ"จ้าวเทียนหัวพยักหน้าคนที่หลินเฟิงต้องจัดการนั้นยังห่างไกลจากที่จะเอาตระกูลเฉินไปเปรียบเทียบได้ตระกูลแบบนี้ไม่มีค่าพอให้กับความกังวลของหลินเส่าจริง ๆ"นายน้อยหลิน ฉันจะส่งคุณกลับครับ?" จ้าวเทียนฮวาถาม"ไม่จําเป็น ผมจะไปที่สำนักไป๋เถา"หลินเฟิงพูดขึ้นมาจ้าวเทียนฮวาถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจว่า “นายน้อยหลินไปทําอะไรที่ไป่เฉาถังเหรอครับ?”"ไปปรุงยาใหม่น่ะ เพื่อเอามารักษาแผลเป็นให้หลี่ฮุ่ยหราน"“ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง”จ้าวเทียนฮวาพยักหน้าส่งหลินเฟิงไปที่สำนักไป๋เถาเป็นการส่วนตัว แล้วจึงจากไปเมื่อเดินเข้าไปในสำนักไป๋เถา ก็ได้กลิ่นหอมของยาต้มอันเข้มข้นเตะเข้าจมูกทันทีในร้านยังคงมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ถือใบสั่งยา เพื่อไปพบหมอหลินเฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เพื่อโทรหา
หลินเฟิงไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา เลยตบหน้าเขาไปตบเข้าตรงที่ใบหน้าของชายที่แข็งแกร่งอย่างแรงชายสูงเกือบ 190 ซม. แต่รู้สึกราวกับว่าใบหน้าของเขาถูกรถชนคนทั้งคนหมุนตัวอย่างกะทันหัน และล้มลงกับพื้นอย่างแรงพร้อมกับเสียงดัง "ปัง"“ฟู่......”ทุกคนต่างก็หายใจไม่ออกพลังการต่อสู้ของเด็กคนนี้ น่ากลัวกว่าการนอนไม่หลับตอนกลางคืนอีกใช่ไหม?“ไอ้เวร”ชายแข็งแกร่งรู้สึกเวียนหัว หลังจากการถูกตบจนเขาเซลุกขึ้นจากพื้นดวงตาคู่หนึ่งจ้องไปที่หลินเฟิง: "ให้ตายเถอะ ฉันเอง"เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆ รีบวิ่งพุ่งเข้ามาเสริมทันที“เกิดอะไรขึ้น?” ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น มาจากห้องโถงด้านหลังเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาว และมีดวงตาไหมสีทองเดินออกไปเมื่อหลินเฟิงได้ยินเสียงนี้ เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นสูงประมาณ 160 ซม. มีผิวขาวและมีหน้าตาสวยเธอมีรูปร่างสมส่วนและถือว่าไม่ได้สวยจนไม่มีใครเทียบได้ แต่เธอนับว่าเป็นความงามที่หาได้ยาก“คุณหนู มีคนก่อปัญหาที่นี่ครับ” พนักงานพูดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นคุณหนูของเขามาถึงคนนี้คือ จางเจียหนิง หลานสาวของจางเต๋อหลินเธอมองไปที่หลินเฟิงอย่างสงส