หลังจากหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เขาก็โทรหาฮั่นสือทันทีในไดนาสตี้บาร์ ฮั่นสือซึ่งอยู่ในห้องน้ำก็ได้รับโทรศัพท์จากหลินเฟิงเช่นกันเขาลังเลอยู่อย่างนั้น และไม่รู้ว่าควรจะรับสายหรือไม่รับสายดีหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รับสายโทรศัพท์ในที่สุดเขากระซิบว่า "ฮัลโหล? คุณหลิน"หลินเฟิงถามออกไปแบบตรงๆว่า "หลี่ฮุ่ยหราน อยู่ที่ไดนาสตี้บาร์หรือเปล่า?""คือว่า..."ฮั่นสือตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คุณชายสี่ของตระกูลเฉินส่งคนไปจัดการหลินเฟิงแล้วไม่ใช่เหรอ?ดูเหมือนว่ามันจะล้มเหลวเสียแล้วนะหลังจากที่หลินเฟิงถามคำถามนี้ เขาก็คงต้องเลือกข้างเสียแล้วเขาควรจะยืนอยู่ข้างเฉินเฟยอวี่หรือหลินเฟิงดี?เขายังไม่ได้ตัดสินใจ คิดเพียงว่าจะอยู่ตรงกลางอย่างมั่วๆแบบนี้ต่อไป ใครชนะ เขาก็จะอยู่ข้างคนนั้นเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดเป็นเวลานาน หลินเฟิงจึงพูดอย่างเฉยเมยว่า "นายแค่ตอบฉันมาว่าใช่หรือไม่ใช่""หากข่าวนั้นเป็นจริง ฉันไปถึงแล้ว สามารถไว้ชีวิตนายได้ และนายจะยังคงรับผิดชอบต่ออุตสาหกรรมในเขตซีเฉิงต่อไป"ประโยคนี้ดูเหมือนจะโดนใจฮั่นสือเอาเสียมากๆหากอยู่กับเฉินเฟยอวี่ เขาจะเป็นได้เพียงผู้ติดตาม และเ
ในไดนาสตี้บาร์ เฉินเฟยอวี่กำลังเล่นมีดพกในมืออยู่ในสายตาของเขา ลูกน้องทั้งสองของตัวเองมีความแข็งแกร่งมากและการเอาชนะหลินเฟิงก็ง่ายดายเอาเสียมากๆและในขณะที่เขาภาคภูมิใจอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังสนั่นขึ้นมาประตูของไดนาสตี้บาร์ถูกเปิดออกกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมมีดเหล็กในมือกระโจนเข้ามาจากนั้นก็กระหน่ำฟันไปที่ลูกน้องของเฉินเฟยอวี่โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงฮั่นสือเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี โดยเขารู้ดีว่าหลินเฟิงจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน เขาได้แจ้งให้คนของเขาทราบแล้ว และวิ่งหนีไปทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นแต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินเฟิงจะเรียกคนมามากมายขนาดนี้ฮั่นสือเต็มไปด้วยความสับสน ครั้งนี้ที่เขามาเจียงโจวก็ได้พาลูกน้องตระกูลเฉินมาเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้นแต่คิดไม่ถึงเลยว่า อีกฝ่ายจะมีคนถึงสี่สิบห้าสิบคนเลยทีเดียว มันดูมืดไปหมด และยังมีคนด้านหลังที่กำลังจะกระโจนเข้ามาอีกด้วย"หลินเฟิงไปเอาคนมากมายขนาดนี้มาจากไหน?""พี่ใหญ่ครับ คนของเราต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ทำอย่างไรดีครับ?" ลูกน้องวิ่งเข้ามาหาฮั่นสือฮั่นสือกัดฟัน แล้วพูดว่า "ไปจับหลี่ฮุ่ยหรานเอาไว้"หลินเฟิงคนนี้กล้าที่จะม
ฮั่นสือกระโดดไปบนตัวของชายชุดดำพร้อมมือที่ถือมีดพก จากนั้นก็กระหน่ำแทงไปที่หลังของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรงโดยฉับพลัน เลือดสดๆของชายชุดดำก็ทะลักออกมาไม่ขาดสายชายคนนั้นตะคอกสาปแช่งว่า "แกกล้าทรยศคุณชายเฉิน?""แม่งเอ๊ย ฉันต่างหากล่ะที่เป็นพี่ใหญ่ของเมืองซีเฉิง คุณชายของแกก็แค่ตัวกระจ๊อก"ฮั่นสือสาปแช่งอย่างดูแคลนการเคลื่อนไหวที่มือของเขาไม่เคยหยุด และกระหน่ำแทงชายชุดดำคนนั้นหลายต่อหลายครั้งจางกุ้ยหลานและคนอื่นๆ ไม่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้เช่นนี้มาก่อน เธอกอดลูกชายด้วยอาการตัวสั่นงันงกฮั่นสือถ่มน้ำลายใส่ชายชุดดำ และหันไปมองหวางเส้าหลงและคนอื่นๆเขาชี้ไปที่ประตู แล้วพูดว่า "เซ่ออะไรอยู่? รีบวิ่งหนีไปเร็วเข้า?"หวางเส้าหลงเป็นคนแรกที่ตอบสนองและเป็นคนแรกที่กระโจนออกจากห้องจางกุ้ยหลานและลูกชายรีบช่วยกันประคองหลี่ฮุ่ยหราน และกล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า "ขอบคุณพี่เตาปา ขอบคุณพี่เตาปา ... "ทันทีที่ทั้งสามมาถึงชั้นสอง พวกเขาก็เห็นคนกลุ่มใหญ่ต่อสู้กันที่ชั้นล่างพวกเขากลัวมากจนไม่กล้าลงไปชั้นล่างฮั่นสือชี้ไปที่ปลายทางเดิน "ใช้ทางหนีไฟ"ซึ่งทั้งสามก็ตระหนกขึ้นมาได้ และรีบเดินตรงไ
ถังหว่านถลึงตาใส่เธอด้วยความรังเกียจ "หุบปาก ฉันไม่ต้องการให้คุณมาสอนฉันว่าต้องทำอย่างไรหรอกนะ""เอ่อ..."เมื่อจางกุ้ยหลานถูกถังหว่านตะโกนใส่ เธอก็ตื่นตระหนกและรีบพยักหน้าหงึกๆ พร้อมพูดว่า "ใช่ ใช่ ใช่...คุณถังพูดถูกค่ะ"คนของจ้าวเทียนหวาเกือบจะปิดล้อมเฉินเฟยอวี่ด้วยความได้เปรียบทางจำนวนคนนี้เมื่อเขาลัดเลาะตามทางหนีไฟเพื่อที่จะออกมา ก็บังเอิญพบกับถังหว่านพอดี"คุณถัง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณก็มาด้วย เรื่องในครั้งนี้ คุณชายหลินไม่ต้องการให้คุณหลินลงมือนะครับ" จ้าวเทียนหวาพูดด้วยความนอบน้อมถังหว่านพูดอย่างใจเย็นว่า "ลุงจ้าวเกรงใจไปแล้วนะคะ หลินเฟิงมีเรื่อง ฉันจะไม่มาช่วยได้อย่างไรกัน?"ขณะที่พูด เธอก็มองไปยังบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังของจ้าวเทียนหวาในฐานะผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ เธอจึงพอมีความเข้าใจเกี่ยวกับนักสู้มือฉกาจอยู่บ้างชายคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ มีออร่าที่ควบคุม เห็นได้ชัดว่าเขามีพลังมาก และแข็งแกร่งกว่าโจวเฉินเสียด้วยซ้ำนักสู้มือฉกาจที่ทรงพลังเช่นนี้เต็มใจรับคำสั่งจากจ้าวเทียนหวา แต่จ้าวเทียนหวากลับให้ความเคารพต่อหลินเฟิงเป็นอย่างยิ่งเธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยว่า "ลุงจ
จากนั้นจางกุ้ยหลานถึงได้หันมาพูดกับหลี่ฮุ่ยหรานว่า "ดูเหมือนว่าจ้าวเทียนหวา ยังคงห่วงใยครอบครัวหลี่ของเราอยู่นะ"หลี่เหวินเชาก็พยักหน้าเช่นกัน "จริงครับ ครั้งนี้แม้แต่คนในตระกูลถังก็มาแล้ว จะต้องเป็นผู้จัดการจ้าวที่เรียกมาอย่างแน่นอนเลยนะครับ"หวางเส้าหลงกลอกตามองบนในเวลานี้ และพูดว่า "ฮุ่ยหราน คุณก็อย่าเสียใจไปเลย ตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงแล้วนะ"หลี่ฮุ่ยหรานถลึงตาใส่เขาอย่างดุดัน "ไสหัวออกไปให้พ้น ตอนนี้ฉันไม่อยากฟังคุณพูดอะไรทั้งนั้น"หลังจากรู้ว่าหวางเส้าหลงเป็นเพียงคนโกหก หลี่ฮุ่ยหรานก็ยิ่งรังเกียจเขามากขึ้นที่แท้การที่ตัวเธอสามารถประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่หวางเส้าหลงแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะจ้าวเทียนหวาเสียมากกว่าแม้ว่าจ้าวเทียนหวาจะยุติความร่วมมือกับเธอไปนานแล้ว แต่คนคนนั้นที่ถังหว่านได้พูดถึง นอกจากจ้าวเทียนหวาแล้วยังจะเป็นใครไปได้อีก?โดยที่คุณปู่ตระกูลถังก็ยิ่งตอบตกลงที่จะให้เธอดำเนินการประมูล หลังจากได้ยินเพียงชื่อของจ้าวเทียนหวาเท่านั้นเธอควรคิดได้ตั้งนานแล้วว่า หวางเส้าหลงมีคุณสมบัติอย่างไรที่จะไปควบคุมความคิดของตระกูลถังได้แบบนั้น"เฮ้ ฮุ่ยหราน คุณอย่าเกรี้ยวกราด
หลินเฟิงต้องการเดินเข้าไปหาเพื่อปลอบโยน แต่ถูกหลี่ฮุ่ยหรานผลักออกไปเสียก่อนจางกุ้ยหลานตะโกนด้วยความโกรธว่า "แกมาทำอะไรที่นี่ ไอ้สวะ?""ลูกสาวของฉันไม่อยากแกตอนนี้ รีบไสหัวออกไปซะ"หลินเฟิงเพิกเฉยต่อจางกุ้ยหลาน แต่มองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอย่างจริงจัง "ฮุ่ยหราน คุณอย่ากังวลไปเลยนะ อาการบาดเจ็บแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก""ผมมีตำรับยาที่ใช้กำจัดรอยแผลเป็นโดยเฉพาะนะ""และรอยแผลบนใบหน้าของคุณจะไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้หรอกนะ"หลี่ฮุ่ยหรานปิดหูและส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เธอไม่ต้องการพูดอะไรทั้งนั้น และก็ยิ่งไม่อยากจะเห็นหลินเฟิงด้วยเธอไม่อยากจะเจอใครทั้งนั้นเมื่อได้ยินดังนั้น จางกุ้ยหลานก็สาปแช่งออกมาทันทีว่า "ไอ้สวะ แกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ ลูกสาวของฉันไม่ต้องการให้แกมารักษาหรอก""คนแซ่หลิน นายฟังภาษาคนไม่ออกหรือไง? "หลี่เหวินเชาสาปแช่งออกมาแม้แต่แพทย์ก็ยังแนะนำในเวลานี้ "คุณผู้ชายท่านนี้ ตอนนี้อารมณ์ของคนไข้กำลังแปรปรวนอยู่ คุณออกไปก่อนจะดีกว่านะครับ"คราวนี้หลินเฟิงไม่ได้พูดอีกต่อไป เขารู้ว่าไม่ว่าตัวเองจะพูดอะไรในตอนนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็คงไม่รับฟังอย่างแน่นอนเขาถอยกลับไปอย่างเงียบๆ และดู
"แม่งเอ๊ย ไอ้หลินเฟิงคนนี้ ฉันจะฆ่ามันไม่ช้าก็เร็ว""คิดไม่ถึงเลยว่า ไอ้หลินเฟิงคนนี้จะหานักสู้มือฉกาจมาได้มากมายขนาดนั้น"จู่ๆ เฉินเฟยอวี่ก็ถามขึ้นมาว่า "รู้หรือเปล่าว่าผู้ช่วยที่มันหามาเป็นใคร?""ไม่ค่อยแน่ใจครับ...""ดูเหมือนว่าหลินเฟิงยังมีภูมิหลังอยู่บ้าง ครั้งนี้ฉันประเมินศัตรูต่ำไปจริงๆ"เฉินเฟยอวี่โทษตัวเอง"คุณชายเฉินครับ ผมคิดว่าเราควรจะออกจากเจียงโจวให้เร็วที่สุดดีกว่านะครับ คนของหลินเฟิงกำลังติดตามเราอยู่ตลอดเวลา ดูแล้วเขาคงไม่คิดที่จะปล่อยเราออกไปอย่างแน่นอนเลยครับ"ลูกน้องได้แนะนำในเวลานี้ "รอให้เรากลับไปที่จงโจวแล้ว ค่อยคิดหาวิธีเอาคืนหลินเฟิง มันก็ยังไม่สายนะครับ"เฉินเฟยอวี่พยักหน้าเห็นด้วย น้ำเสียงของเขาฟังดูไร้เรี่ยวแรงเอาเสียมากๆ "กลับไปที่จงโจวก่อนเถอะ""ฉันได้ติดต่อลุงรองแล้ว เขาจะมารับพวกเราทางน้ำนะ"ในที่สุดชายทั้งสองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากได้ยินแบบนั้นเห็นได้ชัดว่า หลินเฟิงคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนเช่นพวกเขาสามารถจัดการได้โชคดีเหลือเกินที่คุณชายสี่ไม่ได้ดื้อรั้นแต่อย่างใด เพราะหากขืนอยู่ในเจียงโจวต่อไปคาดว่าพวกเขาสองคนจะมีแต่ทางตันเท่านั้น
หลินเฟิงจับจ้องไปที่เฉินเฟยอวี่ด้วยดวงตาคู่อาฆาต"แกกลับมาตอนนี้ ฉันจะให้แกเห็นดีกันไปเลย"เฉินเจี้ยนเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดอย่างเย็นชาว่า "ไอ้หนุ่ม ไม่ว่านายจะมีพลังมากแค่ไหนในเจียงโจว เมื่อข้ามแม่น้ำสายนี้ไปแล้วก็คืออาณาเขตของจงโจว แล้วนายจะมีอะไรให้อวดเก่งอยู่อีก?"ไอ้หนุ่มคนนี้ชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว นี่ขนาดอยู่ต่อหน้าเขาแบบนี้ มันยังพูดปาวๆ ว่าต้องการฆ่าหลานชายของเขามันช่างไม่เห็นตระกูลเฉินจากเมืองจงโจวอยู่ในสายตาจริงๆเฉินเฟยอวี่หัวเราะเสียงดัง "ฮ่าฮ่าฮ่า... หลินเฟิง ถ้าแกมีความสามารถก็เข้ามาเลย""คุณชายอย่างฉันจะรอแกอยู่ตรงนี้นะ""ถ้าไม่กล้าก็อย่าปากดีไปหน่อยเลย"เมื่อเฉินเฟยอวี่เห็นว่าหลินเฟิงไม่ได้โกรธเท่าที่เขาจินตนาการไว้เขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อยเขากลอกตามองบน และเยาะเย้ยอีกครั้งว่า "หลินเฟิง ดูแลผู้หญิงของตัวเองให้ดีๆ ครั้งนี้ถือว่าเธอโชคดีไปนะ""ครั้งหน้าหากฉันมาเจียงโจวอีกครั้ง เธอจะต้องมารับใช้ฉันถึงเตียงอย่างแน่นอน""แม่งเอ๊ย"จ้าวเทียนหวาโกรธมาก และหันไปมองหลินเฟิง "คุณชายหลินครับ ต้องการเตรียมเรือหรือเปล่าครับ?"หลินเฟิงส่ายหน้า และพูดกับเฉิน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ