คนตระกูลถังชะงักงัน คิดไม่ถึงว่าเหลยปินคนนี้จะอวดดีแบบนี้โจวเฉินได้ยินแบบนี้ก็ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ในฐานะนักบู๊เขาก็มีความหยิ่งทระนงในตัวเองอยู่แล้วเขาขมวดคิ้วทันทีและพูดขึ้น: “คุณเหลย นี่คุณหมายความว่ายังไงครับ?”“ผมเคารพคุณขนาดนี้ คุณกลับดูถูกผมเหรอ?”ตั้งแต่ต้นจนจบเหลยปินไม่ได้เหลียวมองโจวเฉินแม้แต่น้อย จากนั้นก็พูดเหยียดหยาม: “นายผิดแล้ว ฉันไม่ได้กำลังดูถูกนาย เพราะนายไม่คู่ควรให้ฉันดูถูกด้วยซ้ำ”“คุณ...” โจวเฉินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถ้าหากตัวเองไม่สู้กลับ ยังจะคู่ควรกับสถานะองครักษ์ของตระกูลถังอีกเหรอกำลังจะลงมือก็ถูกถังหว่านขวางไว้ตรงกลาง: “เอาล่ะ ตอนนี้พวกคุณต่างเป็นคนของตระกูลถัง กำลังทำงานเพื่อตระกูลถัง ศัตรูยังไม่ได้จัดการ พวกคุณกลับสู้กันเองซะก่อน นี่มันเหมาะสมที่ไหนกัน”“หึ”เหลยปินส่งเสียงไม่พอใจในลำคอแล้วพูดขึ้น: “คุณหนูถัง ต่อกลอนกับตระกูลเฉินผมเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ทำไมคุณต้องหานักบู๊ชั้นต่ำแบบนี้มาด้วย”“คุณอวดดีเกินไปแล้ว วันนี้ผมอยากจะดูสักหน่อยว่าคุณมีความสามารถอะไรกัน” โจวเฉินไม่สามารถอดทนได้จริง ๆ”ไม่ว่าเป็นเขา หรือแม้แต่ถังว่านหลี่ หลินเสวี่ยเยี่
“นี่…” ถังว่านหลี่พูดไม่ออกทันที: “หวังว่าเงินนี้จะใช้อย่างคุ้มค่านะ”ถังหว่านก็รู้สึกจนปัญญา อยากจะต่อกลอนกับตระกูลเฉินก็ต้องมีปรมาจารย์ลำดับโลกหนุนหลังแต่เธอกับเหลยปินไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำได้แค่ใช้เงินจัดการ เป็นอย่างที่คุณพ่อว่า หวังว่าเหลยปินจะคุ้มค่ากับหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทนี้คนตระกูลถังแยกย้ายกันออกไป ถังหว่านมาที่ด้านข้างของหลินเฟิง: “เรื่องในวันนี้ฉันได้ยินหมดแล้ว ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”ตระกูลเฉินอยากจะได้หุ้นของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง แม่ของเธอกลับบีบบังคับให้หลินเฟิงยอมจำนนพูดตามตรงเธอรู้สึกผิดต่อหลินเฟิงเล็กน้อยหลินเฟิงโบกมือโดยที่ไม่ได้ใส่ใจมองดูสีหน้าท่าทางที่ขมขื่นของเธอ เขาก็ยิ้มแล้วพูดออกมา: “คิดไม่ถึงว่าคุณก็มีตอนที่หน้าตาขมขื่นด้วย”ถังหว่านสูดหายใจเข้าลึก ๆ: “คนของตระกูลเฉินที่มาในครั้งนี้คือเฉินเทียนหลง คนผู้นี้ความสามารถไม่ธรรมดา ทางด้านเมืองจิงตูก็ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือใด ๆ”“พูดตามตรง ฉันก็ไม่มีความมั่นใจในการต่อกรกับตระกูลเฉิน”หลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉย: “วางใจเถอะ ถึงเวลาผมจะลงมือเอง”ถังหว่านมองไปทางหลินเฟิงด้วยความประหลาดใจ: “หลินเฟิง ความสามา
หลินเฟิงเหลือบตามองจางซิน คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ก็มาด้วย“เอ๊ะ ฉันกำลังพูดกับนายอยู่นะ นายไม่ได้ยินเหรอ?” จางซินเห็นว่าหลินเฟิงไม่สนใจเธอ จึงเดินเข้าไปทันที และซักถามด้วยใบหน้าเย็นชาหลินเฟิงพูดอย่างเฉยเมย: “ฉันไปที่ไหนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอด้วยเหรอ?”“ชิ ฉันดูแล้วนายก็มาดูการประลองระหว่างตระกูลถังกับตระกูลเฉินสินะ?”จางซินกลอกตามองแล้วพูด: “น่าเสียดายนะ ต่อไปตระกูลถังก็ล่มจมแล้ว ถึงเวลาฉันดูสิว่าผู้ชายหน้าตัวเมียอย่างนายยังจะมีอะไรให้อวดดีอีก”“ฉันเกลี้ยกล่อมให้เธออย่าหาเรื่องใส่ตัว วันนี้ฉันไม่อยากจะลงมือกับเธอ” หลินเฟิงมองเธออย่างแข็งกร้าวในตอนนี้สวีเฉียงก็เดินเข้ามา และถามด้วยความประหลาดใจ: “ซินซิน คนคนนี้ใครกันเหรอ?”จางซินสองมือกอดอด และพูดเหยียดหยาม: “ไอ้หมอนี่คืออดีตพี่เขยของฉัน แต่ก็เป็นแค่สวะก็เท่านั้นแหละ”“ลูกพี่ลูกน้องของฉันไม่ชอบเขาด้วยซ้ำ และก็หย่าร้างกับเขาไปนานแล้ว”“ไอ้หมอนี่ก็หันไปเกาะขาคุณหนูตระกูลถัง”สวีเฉียงได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้า: “ที่แท้ก็เป็นผู้ชายหน้าตัวเมียนี่เอง ไอ้หนุ่ม รีบขอโทษซินซินซะ”เขาก็ลองสอบถามเบื้องหลังของหลินเฟิงดูก่อน เมื่อเห็นว่าไอ้ห
สวีเฉียงรู้สึกว่าหัวเข่าของเขาเจ็บปวดอย่างมากในทันทีจากนั้นก็พุ่งออกไปตามแรงที่ได้รับในทันที จากนั้นศีรษะก็ชนเข้ากับกำแพงเสียงดังก้อง คนทั้งคนกระแทกจนศีรษะมีเลือดไหลทันที“อ๊ะ...พี่เฉียง คุณไม่เป็นไรนะ?” จางซินตกใจจนใบหน้าถอดสี จากนั้นก็รีบวิ่งไปด้านข้างสวีแยง และถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงสวีเฉียงกุมศีรษะของตัวเองเอาไว้ และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด: “ไม่ ไม่เป็นไร ผมก็แค่สะเพร่าไปชั่วขณะ”เขาก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่จนกระทั่งตอนนี้หัวเข่าของเขายังแอบรู้สึกเจ็บปวดเขาหันหน้ามองไปทางหลินเฟิงและพูดด่าทอ: “นายบอกว่าจะประลองกับฉันไม่ใช่เหรอ? นายแม่งหลบอะไร?”จางซินก็ถลึงตาใส่ และชี้หน้าตำหนิหลินเฟิงขึ้นมา: จริงด้วย แกหลบอะไร?”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ: “ทำไม? ฉันต้องยืนให้นายต่ออยู่ตรงนั้นเหรอ?”“นายปฏิกิริยาตอบสนองช้าเองโทษใครได้?”“พุ่งไปชนกับกำแพงโดยตรง น่าขำจริง ๆ”“แก...” สวีเฉียงโมโหแทบจะตาย เขาอยากจะลุกขึ้นมาสั่งสอนหลินเฟิง แต่กลับพบว่าหัวเข่าของเขาไม่มีแรงแม้แต่น้อยจางซินเห็นเขาโซเซ ก็รีบถามขึ้น: “พี่เฉียง พี่เป็นอะไรไปเหรอ?”สวีเฉียงมุมปากกระตุกเล็กน้อยแล้วพูดขึ้
เฉินเทียนหลงได้ยินข้อเสนอนี้ก็ยิ้มบาง: “ได้สิ”ถังหว่านชะงักงัน คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะยอมรับอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้เฉินเทียนหลงก็พูดขึ้นทันที: “ถ้าหากตระกูลเฉินของฉันชนะ พวกคุณตระกูลถังก็นำหุ้นทั้งหมดของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังออกมามอบให้ผม”“ขอเสนอนี้ไม่มีปัญหาใช่ไหม”ถังหว่านพยักหน้าพูด: ไม่มีปัญหาเลย”“ถ้าหากตระกูลถังของฉันชนะ ก็ขอให้ตระกูลเฉินต่อไปอย่ามาหาเรื่องตระกูลถังของฉันอีก แน่นอนว่าถ้าหากจะทำธุรกิจ ตระกูลถังยินดีต้อนรับทุกเมื่อ”“ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไปห้องโถงด้านหลังเพื่อนแสดงศิลปะการต่อสู้เถอะ” เฉินเทียนหลงยิ้มพูดถังหว่านมองดูรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ของเขาก็มักรู้สึกว่ามีปัญหา แต่ปัญหาเกิดขึ้นตรงไหนเธอก็ไม่เข้าใจ ทำได้แค่ไปก้าวหนึ่งมองดูก้าวหนึ่งเมื่อมาถึงลานประลอง ถังหว่านถึงได้เข้าใจ ตระกูลเฉินเชิญประธานของเมืองเจียงโจวมาด้วยหลายคนเมื่อเห็นคนของตระกูลถังกับตระกูลเฉิน ประธานหลายคนก็มองมาที่จุดเดียวกันทั้งหมด“นี่ พวกคุณว่าตระกูลถังกับตระกูลเฉินประลองการต่อสู้กัน ใครจะชนะ?”“ไม่แน่ใจนะ...แต่ฉันว่าหวังว่าตระกูลถังจะชนะ”“ชิ ตระกูลถังชนะจะมีผลประโยชน์อะไร?”
เฉินเหวินหย่วนพูดจบก็ใช้เทคนิคกังฟูโจมตีไปทางฉินอิ๋งฉินอิ๋งก็รวบรวมกำลังไปที่ฝ่ามือสายฟ้าทันทีทั้งสองคนหมัดประสานกัน เคลื่อนตัวไปมาบนเวทีประลองอย่างรวดเร็วต่อสู้กันนับสิบกระบวนท่าทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวทีตะโกนออกมาด้วยความพึงพอใจ“คิดไม่ถึงว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะสามารถสู้กับเฉินเหวินหย่วนได้นานขนาดนี้”“ไม่เสียแรงที่เป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรีฉินที่มีความสามารถอยู่บ้างจริง ๆ”เฉินเหวินหย่วนกลับรู้สึกโมโหอย่างมากตัวเองเดิมทีก็อายุเยอะกว่าฉินอิ๋ง แถมยังเป็นผู้ชาย ต่อสู้กับนังเด็กคนนี้นานขนาดนี้ก็น่าอับอายจริง ๆ นั่นแหละเดิมเขาอยากจะจัดการฉินอิ๋งภายในวินาทีเดียว แต่คิดไม่ถึงว่าฉินอิ๋งคนนี้จะมีความสามารถอยู่จริง ๆ แถมเทคนิคกังฟูก็ไม่ธรรมดาเพียงแต่ ยังไงซะฉินอิ๋งก็อายุแค่ยี่สิบกว่า ๆ เองประสบการณ์การต่อสู้ของเธอยังเทียบกับเฉินเหวินหย่วนไม่ได้เห็นเฉินเหวินหย่วนตั้งใจปล่อยจุดบกพร่อง ฉินอิ๋งก็ติดกับโจมตีเข้ามาจริง ๆเขาหัวเราะเยาะในทันที: “นังหนู เธอยังเด็กเกินไปหน่อยแล้ว”พูดจบ เธอก็จับข้อมือของฉินอิ๋งเอาไว้ทันทีฉินอิ๋งสีหน้าเปลี่ยนไป ในตอนนี้อยากจะหนีแต่ก็ไม่ทันซะแล้วเฉ
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวทีก็มองดูด้วยสีหน้างุนงง“นี่...นี่มันน่าตื่นเต้นเร้าใจเกินไปหน่อยไหม?”ถังหว่านถลึงตาจนกลมโต: “คุณเหลย นี่คุณหมายความว่ายังไงคะ?”“ไม่ได้หมายความอย่างไร ก็แค่ยอมแพ้แล้วก็เท่านั้น” เหลยปินพูดด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสถังหว่านโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “ฉันจ้างคุณด้วยเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ให้คุณเป็นตัวแทนตระกูลถังออกไปประลอง แต่คุณกลับยอมแพ้งั้นเหรอ?”เหลยปินกอดออกแล้วหัวเราะเยาะ: “คุณให้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านกับผมจริง ๆ แต่ตระกูลเฉินให้ผมสองร้อยห้าสิบล้านบาท”“ผมก็ต้องช่วยตระกูลเฉินอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคุณก็ให้ผมอีกหนึ่งร้อยล้านบาทสิ? แบบนั้นผมก็ไม่ช่วยใครทั้งนั้น”“คุณมันไร้ยางอาย” ถังหว่านชี้หน้าเหลยปินแล้วพูดด่าทอเดิมทีเธอคิดว่าเหลยปินในฐานะนักบู๊ จะต้องมีศักดิ์ศรีของนักสู้อยู่แล้วแต่เธอประเมินเหลยปินคนนี้ต่ำเกินไปจริง ๆ“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เฉินเทียนหลงหัวเราะเสียงดังออกมาทันที: “คุณถัง ลูกน้องของพวกคุณยอมแพ้แล้ว”“ครั้งนี้ตระกูลเฉินของผมก็ชนะอีกแล้วน่ะสิ”“ไม่ทราบว่าตระกูลถังของพวกคุณยังมีความสามารถที่จะสู้อีกไหม?”ถังหว่านกำหมัดแน่น โมโหจนกัดฟันกรอดตอนน
หลินเฟิงไม่รู้ว่าจับข้อมือของเขาเอาไว้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หมัดของเหลยปินไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้อีกแม้แต่น้อย“นายมีความสามารถแค่นี้เองเหรอ?” หลินเฟิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วมองเขาอย่างเหยียดหยาม“อะไรกัน?”เหลยปินตกตะลึงจนหน้าถอดสีเสียงของหลินเฟิงดังขึ้นอีกครั้ง: “ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนทรยศต่างมีจุดจบที่ไม่ดี นายก็เหมือนกัน”เพิ่งพูดจบ หลินเฟิงก็หักแขนของเหลยปินด้วยฝ่ามือข้างเดียวเสียงดัง “แกร่ก” แขนของเหลยปินหลุดออกตามเสียง เลือดสดไหลออกมาเหมือนกับน้ำพุในทันที“อ้าก...”เหลยปินส่งเสียงร้องอนาถเขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่า หลินเฟิงจะหักแขนเขาหลุดออกมาได้ด้วยฝ่ามือนี้การเคลื่อนไหวของหลินเฟิงยังไม่หยุดลง เมื่อจับแขนของเขาได้ก็ออกแรงบีบ“กรอบแกร่บ”กระดูกของเหลยปินกลายเป็นเผ้าผงในทันทีจากนั้นหลินเฟิงก็เตะเขาลงจากเวทีประลองเหตุการณ์ทั้งหมดไม่เกินสามวินาทีหลินเฟิงก็โยนแขนที่ขาดของเหลยปินลงบนพื้นโดยไม่ได้ใส่ใจเหลยปินกุมแขนข้างที่เลือดไหลทะลักเอาไว้ และร้องตะโกนด้วยความน่าอนาถ: “คืนแขนฉันมา คืนแขนฉันมา...”หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “ตั้งแต่วันนี้ไป มือทะลุเมฆาจะไม่มีการส
“ระหว่างตระกูลใหญ่ เรื่องที่ต้องห้ามมากที่สุดก็คือสร้างความแค้นเล็กๆ แล้วทำลายเรื่องสำคัญ เพิ่มช่องว่างและขัดขวางความสัมพันธ์”แววตาของหลงยวนลึกซึ้ง แล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า :“แต่ผมไม่เหมือนกัน สิ่งที่ผมจะทำไม่ใช่มองหาความแค้นเล็กๆ แต่เป็นการสร้างหมากรุกขึ้นมา”“หากแผนของหลงเซียวสำเร็จ อย่างมากก็แค่ให้ตระกูลถังรู้สึกหวาดกลัวและออกจากเมืองจิงไป”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหลงยวน พ่อบ้านก็สับสนเล็กน้อย“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง หากไม่อยู่ในเมืองจิง แบบนั้นยังจะเรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิงได้อย่างไร?”“ผิดแล้ว”หลงยวนพูดอย่างเย็นชาว่า :“สิ่งที่เรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง ไม่ได้เป็นเพียงอำนาจที่คุณเห็นแค่ภายนอกเท่านั้น”“ยกตัวอย่าง ตระกูลหลินที่แทบจะสูญหายไปแล้ว”“คฤหาสน์ที่เมืองจิงของตระกูลหลินที่ตั้งอยู่นั้นแทบจะรกร้าง มีใยแมงมุมอยู่เต็มไปหมด และไม่มีใครทำความสะอาด แต่คุณกล้าพูดไหมว่าตระกูลหลินไม่ใช่หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวย?”“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไร้เดียงสาเกินไป”หลงยวนเงยหน้า สายตาแสดงความลุ่มลึกออกมา“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง เบื้องหลังของทุกตระกูลต่
เมืองจิง คฤหาสน์ตระกูลหลงเวลานี้หลงยวนถือหนังสือคัมภีร์ไว้ในมือ พร้อมกับเดินท่องบทไปมานี่คือการลงโทษที่ผู้นำตระกูลหลงมอบให้กับเขาก่อนหน้านี้ และเขาจะต้องท่องคัมภีร์ห้าสิบเล่มให้ได้ จึงจะปล่อยให้เขาออกไปข้างนอกได้อีกครั้งหลงยวนก็ไม่โต้แย้งแม้แต่น้อย และอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเพื่อท่องหนังสือคัมภีร์“คุณชายหลงยวน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ในเวลานี้ พ่อบ้านตระกูลหลงเข้ามาในห้องหนังสือด้วยท่าทางตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้น?”หลงยวนจำเป็นต้องท่องให้เสร็จเรียบร้อยนั้น ถึงได้หันไปมองทางพ่อบ้านตระกูลหลงคนนั้นถึงแม้ว่าใบหน้าของพ่อบ้านตระกูลหลงจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่หลงยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ถึงขั้นที่ไม่สามารถอ่านความคิดจากใบหน้าของเขาได้เลย“คุณชายหลงหยวน เมื่อครู่พวกเราได้รับแจ้งจากตระกูลซือหม่าว่าคุณหนูหลงเซียวถูกฆ่าตายแล้ว!”“ที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัด!”พ่อบ้านตระกูลหลงหน้าตาเศร้าเสียใจ“ถูกคนฆ่า?!”ในแววตาของหลงยวนมีความเย็นชาวาบผ่าน เขาจ้องมองไปที่พ่อบ้านตระกูลหลงและพูดว่า :“เล่าที่มาที่ไปทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยสิ”“คุณชายหลงยวน คือแบบนี้ครับ ก่อนหน้านี้คุณหนูห
เขาในฐานะผู้นำตระกูลถัง จึงมองเป้าหมายของคนเหล่านี้ออกในฐานะผู้ทำการค้าที่แท้จริง คนเหล่านี้ไม่อยากเปิดศึกกับตระกูลหลง อยากจะปกป้องถิ่นฐานของตัวเองเอาไว้ถ้าหากจะเปิดศึก งั้นก็หวังว่าจะยื้อเวลาเอาไว้ให้ได้เต็มที่แต่ถังเจี้ยนหยวนรู้ว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เป็นการยืนรอความตายชัดๆ แต่คนเหล่านี้หัวโบราณเกินไปยินยอมยืนรอความตาย ก็จะไม่ยอมขาดทุนนี่เป็นสันดานเลวที่มีเฉพาะผู้ทำการค้า“เอาล่ะ ถังจวิน นายออกไปเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”ถังเจี้ยนหยวนโบกมือ บอกให้ถังจวินออกไปถังจวินทำความเคารพ และหันหลังเดินจากไป“เฮ้อ...”ถังเจี้ยนหยวนกลับมานั่งลงตรงตำแหน่งของผู้นำตระกูล จากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆตระกูลหลงทำขนาดนี้แล้ว แต่ตระกูลถังยังคงแตกแยกกัน ทุกคนต่างหวาดกลัวตัวเองจะเสียหาย ดังนั้นไม่มีความคิดที่จะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมาสู้รบกับตระกูลหลงด้วยซ้ำต้องรู้ไว้ว่าตระกูลถังในฐานะตระกูลการค้าสามารถกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจิงประเทศมังกรได้ เช่นนั้นเรื่องที่มีอิทธิพลก็ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่รูปแบบของตระกูลถังแตกต่างจากตระกูลอื่นๆ เป็นอย่างมาก
“ตู้ไหว”หลินเฟิงมองตู้ไหวที่จะหนีไป จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คุณไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่นอน”“อืม หวังว่าเป็นงั้นนะครับ”ตู้ไหวมองไปทางหลินเฟิงแล้วเผยรอยยิ้มลำบากใจออกมา จากนั้นพาลูกน้องของตัวเองหนีจากทั้งหมดเหลือเพียงถังจวินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และคนตระกูลหลงที่กลายเป็นซอสเนื้อ“หลินเฟิง คนเหล่านั้นเป็นใครกัน?!”“วันนี้นายจำเป็นต้องบอกกับฉัน!”ถังจวินโมโหจนมุ่งหน้าเข้ามา และดึงคอเสื้อของหลินเฟิงเค้นถามหลงเซียวตายแล้วถ้าหากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไร หน่วยลับของตระกูลถังก็จะต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครเชื่อว่านักเลงที่ผ่านมากลุ่มหนึ่งจู่ๆ เกิดความคิดจะฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลงมีแต่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยลับตระกูลถังนี่มันเป็นการจับถังจวินและหน่วยลับตระกูลถังคนอื่นๆ ขึ้นเตาเผาอย่างไม่ต้องสงสัยถึงเวลาคนชั้นสูงของตระกูลถังถามขึ้นมา พวกเขาอธิบายได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เห็นท่าทางลนลานของถังจวิน หลินเฟิงยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ และส่ายหน้าพูดว่า:“เป็นสุนัขรับใช้จนติดนิสัยแล้วเหรอ?”“พวกนายคิดว่าใครก็เป็นเหมือนพวกนายงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
เมื่อเห็นหลินเฟิงปรากฏตัว ถังหว่านถึงได้โล่งอก“หลินเฟิง นายกำลังทำอะไร?”“จริงด้วย ทำไมไม่ปกป้องคุณหนูถังหว่าน นายทำอะไรอยู่ที่ด้านล่างคนเดียว?!”ถังจวินและหน่วยลับคนอื่นๆ เห็นหลินเฟิง ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พากันตำหนิหลินเฟิงว่าปกป้องได้ไม่ดีหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะเล่นงานเขาก่อนจึงโมโหจนส่งผลกระทบกระเทือน รู้สึกเจ็บปอดรุนแรง และไอออกมาเป็นเลือด“หลินเฟิง คุณไม่เป็นไรนะ?!”ถังหว่านตกใจอย่างมาก รีบเข้าไปประคองเขาเธอเขม่นถังจวินและหน่วยลับจากนั้นพูดว่า:“เมื่อครู่ฉันบอกกับพวกนายไปหลายรอบแล้ว!”“หลินเฟิงกำลังสู้รบอย่างสุดชีวิตอยู่กับยอดฝีมือตระกูลหลง เป็นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกนายไม่ลงไปช่วยเขา?!”“แต่หลังจากเขาเอาชนะมาได้อย่างยากลำบาก ยังจะกล่าวโทษเขาอีก?!”“คุณหนูถังหว่านขออภัยด้วย พวกเราจะเป็นต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณก่อน” ถังจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกยินดีที่เห็นหลินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เห็นหลินเฟิงมีชีวิตรอดเดินออกมาจากลิฟต์ ในความคลุมเครือ หลินเฟิงสังเกตได้ว่าในสายตาของชายคนนี้เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย“หึ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอก”หลินเฟิงด
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห