จ้าวเทียนหัวตกตะลึง ดูท่าจะหลีกเลี่ยงการเปิดศึกกับสำนักอวี้เจี้ยนไม่ได้แล้ว “เสี่ยวฝาน วันนี้ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” จ้าวเฉียวอวิ๋นดวงตาแดงก่ำเธอรีบเดินไปด้านข้างลูกชายของเธอและถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลินฝานพูดไม่ออกชั่วขณะ จากนั้นก็ก้มหน้าพูดขึ้น: “แม่ ขอโทษด้วย ผม...ฆ่าคนแล้วจริง ๆ”“นี่...นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน? เมื่อก่อนลูกไม่ใช่คนแบบนี้นะ” จ้าวเฉียวอวิ๋นพูดด้วยความเจ็บปวดหลินฝานพูดด้วยดวงตาที่ขมขื่น: “แม่ ผมขอโทษ ผมขอโทษครับ”ในตอนนี้หลินเฟิงพูดขึ้นมา: “หวงเสี่ยวม่านเป็นชู้กับเซี่ยสือซิน หลินฝานโมโหจึงได้ฆ่าพวกเขา”ได้ยินคำพูดนี้ จ้าวเฉียวอวิ๋นก็ชะงักงันอยู่กับที่ทันทีไม่รู้ว่าควรจะสั่งสอนลูกชายของเธออย่างไร ลูกชายตัวเองถูกสวมเขา เธอก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายอดกลั้นเอาไว้สิ่งที่หลินเสวี่ยฮุ่ยเป็นกังวลมากที่สุดก็คืออนาคตของพี่ชายของเธอ: “พี่ใหญ่ งั้นต่อไปพี่จะทำอย่างไร?”หลินฝานก้มหน้าลง เขาก็ไม่รู้ว่าต่อไปควรจะทำอย่างไรดีในตอนนี้หลินเฟิงพูดขึ้นอีก: “ผมจะส่งให้พี่ชายของคุณไปหลบซ่อนที่ต่างประเทศ นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่เขาจะมีชีวิตอยู่ได้”จากนั้
เหยนก่วงเศร้าโศกเป็นอย่างมาก เขากอดศพของลูกชายเอาไว้และร้องโฮออกมาอย่างเจ็บปวดเสียลูกชายในวัยชรา ส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมากคนตระกูลเหยนมองดูแล้วไม่มีใครที่ไม่โศกเศร้าเหยนจวิ้นตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงโมโห: “แม่งเอ๊ย เป็นไอ้หลินเฟิงคนนี้อีกแล้ว ข่มเหงรังแกกันจนเกินไปแล้ว”“ไอ้หมอนี่วันนี้ก็แย่งวัตถุดิบยาของคุณพ่อผมไป แถมยังกล้าฆ่าลูกพี่ลูกน้องของผมอีก? ความแค้นนี้ไม่แก้แค้นก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว”คนตระกูลเหยนคนอื่น ๆ ก็แค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ภายใต้การบอกเล่าของเหยนก่วง หลินเฟิงได้กลายเป็นนักโทษที่มีความผิดร้ายแรงไปแล้ว“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ พี่ต้องช่วยผมล้างแค้นนะครับ วิทยายุทธของผมถูกไอ้หมอนั่นทำลายแล้ว ลูกชายของผมนอนตายตาไม่หลับนะครับ”เหยนก่วงกอดขาพี่ใหญ่ของเขาแล้วร้องโหยหวนเหยนควานที่นั่งอยู่ตรงต่ำแหน่งด้านบนหรี่ตาลง ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่“พ่อ ไม่ต้องคิดแล้ว พวกเราไปฆ่าไอ้หลินเฟิงคนนั้นกันตอนนี้เถอะ” เหยนจวิ้นพูดกับพ่อเหยนควานถลึงตาใส่เขาแล้วพูดอย่างเรียบเฉย: “ฆ่าหลินเฟิง? ใครไป? แกจะไปเหรอ?”“คนผู้นี้ความสามารถไม่ธรรมดา อีกอย่างแกก็เห็นแล้
สองวันต่อมา งานเลี้ยงตระกูลเหยนจัดขึ้นตามเวลาถังหว่านยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินเฟิงในช่วงสองวันนี้เธอยังคงขับรถมารับหลินเฟิงไปร่วมงานเลี้ยงหลินเฟิงเดินออกมาจากคฤหาสน์แต่คิดไม่ถึงว่านอกจากถังหว่านแล้วก็มีฉินอิ๋งอยู่ด้วยเพียงแต่ว่าเมื่อคิดดูแล้วก็ถูกต้อง ไม่ว่าอย่างไรฉินอิ๋งก็คือคุณหนูของตระกูลฉิน ถือว่าเป็นลูกคนร่ำรวยของเมืองเจียงโจวถูกเชิญก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหลังจากที่หลินเฟิงขึ้นรถก็พูดขึ้น: “งานเลี้ยงของลูกคนร่ำรวยเมืองเจียงโจวอย่างพวกคุณทำไมต้องพาผมไปด้วย?”“โอ๊ย อย่างไรซะคุณก็ถือว่าเป็นผู้ร่ำรวยรุ่นที่หนึ่งของวัยรุ่นเมืองเจียงโจวนะ อีกอย่างยังไปพร้อมกับคุณหนูอย่างฉัน ไม่ขายหน้าหรอก”แขนข้างหนึ่งของถังหว่านวางไปที่ลำคอของหลินเฟิงแล้วหัวเราะคิกคัก“อีกอย่างงานเลี้ยงในครั้งนี้ก็เป็นวัยรุ่นทั้งหมด ไม่มีพวกคนแก่เหล่านั้น พวกเราสามารถเที่ยวสนุกได้เต็มที่”“บริษัทของพวกเราก่อตั้งมาตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่ได้สังสรรค์กันสักครั้ง”หลินเฟิงมุมปากกระตุก: “ดีจริง ๆ คุณใช้เงินของคนอื่นเพื่อมาเลี้ยงผมเหรอ?”“ไม่ต้องใส่ใจกับรายละเอียดขนาดนั้นหรอก อิ๋งอิ๋งออกรถ”ทั้งสามค
“คุณหลินไม่มีชิปแล้วเหรอคะ?”ไป๋ชิงเฉี่ยนมองดูหลินเฟิงที่แพ้จนหมดเกลี้ยงแล้วถามขึ้น“ที่ฉันยังมีอยู่เล็กน้อย คุณเอาไปใช้ก่อนก็ได้ค่ะ”หลินเฟิงรีบโบกมือแล้วพูดขึ้น: “ไม่จำเป็นครับ ผมก็แค่เล่นผ่าน ๆ ไปเท่านั้นเองครับ”“ชิงเฉี่ยน คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรครับ?” ในตอนนี้มีเสียงที่โดดเด่นดังขึ้นเห็นแค่ว่าชายสวมชุดสูทคนหนึ่งสาวเท้าเดินเข้ามาหลินเฟิงจ้องมองไป เขาก็คือเหยนจวิ้นคุณชายของตระกูลเหยน“หลินเฟิง? คิดไม่ถึงว่าคุณก็มาด้วย”เหยนจวิ้นแสร้งทำเป็นตกตะลึง: “เที่ยวเล่นที่นี่พึงพอใจไหมครับ?”ในตอนนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนพูดอธิบาย: “งานเลี้ยงในวันนี้เหยนจวิ้นเป็นคนจัดงานค่ะ”หลินเฟิงได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นถิ่นของตระกูลเหยนในตอนนี้เหยนจวิ้นพูดขึ้นกับไป๋ชิงเฉี่ยน: “ชิงเฉี่ยน ผมพาคุณไปรู้จักเพื่อนคนอื่น ๆ นะครับ”ไป๋ชิงเฉี่ยนกลับพูดเสียงเบา: “ไม่เอาดีกว่า คนพวกนั้นฉันไม่รู้จักสักเท่าไหร่”เหยนจวิ้นพูดต่อ: “ไม่เอาสิครับ คุณเป็นถึงบุคคลสำคัญในวันนี้ อีกอย่างมีเพื่อนเยอะก็มีเส้นสายเพิ่มมากขึ้น”“ในอนาคตคุณเป็นถึงคนที่จะแต่งงานเข้าตระกูลเหยน รู้จักเพื่อนของผมเอาไ
“คุณก็แค่ถือว่ามีตระกูลถังค้ำหนุนคุณอยู่เบื้องหลัง ถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ?”หลินเฟิงมองเขาอย่างเหยียดหยามแล้วพูดดูถูก: “แล้วจะทำไม? ไม่เหมือนคุณ คุณไป๋เธอไม่อยากสนใจคุณ คุณกลับเป็นเหมือนกับหมาที่ประจบสอพลอ”“นาย...”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็โมโหเป็นอย่างมากเหยนจวิ้นอดกลั้นความโมโหในใจแล้วพูดขึ้น: “หึ เป็นแบบนั้นแล้วจะทำไม ไป๋ชิงเฉี่ยนจะเป็นผู้หญิงของฉันไม่ช้าก็เร็ว รอให้ฉันแต่งงานกับไป๋ชิงเฉี่ยนเรียบร้อย ฉันจะทำอย่างไรกับเธอก็ทำอย่างนั้น”“ถึงเวลาฉันจะมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกมากมายเท่าไหร่ เธอก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”“ส่วนนายกลับเป็นได้แค่หมาของตระกูลถังตลอดไป”หลินเฟิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา: “คำพูดประโยคนี้ถ้าให้คุณไป๋ได้ยิน เกรงว่าเธอคงจะผิดหวังอย่างมากนะ”“ฮ่าฮ่าฮ่า...การแต่งงานเกี่ยวดองของฉันกับตระกูลไป๋เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”เหยนจวิ้นหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น: “ถ้าหากสองตระกูลแต่งงานเกี่ยวดองกัน พวกเราไม่เห็นตระกูลถังอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ”“ตอนนี้นายมอบหัวใจมังกรใต้พื้นดินออกมา ถึงเวลาฉันยังสามารถพิจารณาไว้ชีวิตแกได้”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะ
“เกิดอะไรขึ้น?” ในตอนนี้เองถังหว่านกับฉินอิ๋งรีบตามกลับมาพบว่าที่ชั้นสองมีคนล้อมรอบอยู่มากมาย จึงตามเข้ามาร่วมครึกครื้นด้วยเหยนจวิ้นจึงพูดขึ้นทันที: “คุณถัง เพื่อนที่คุณพามายั่วยุสำนักอวี้เจี้ยนของผมแถมยังลงมือทำลายวัตถุโบราณของตระกูลเหยนของเราด้วย”“ผมลงมือห้าม เขาก็ยังกล้าทำร้ายคน เรื่องนี้เกรงว่าวันนี้คุณจะต้องให้คำอธิบายที่เหมาะสมกับผมหน่อยแล้วล่ะ”“อะไรนะ?”ถังหว่านได้ยินแบบนี้ก็ตกตะลึงอย่างมากจึงรีบมองไปทางหลินเฟิงรู้จักกันมานานขนาดนี้ เธอรู้จักนิสัยของหลินเฟิงเป็นอย่างดี จึงไม่เชื่อคำพูดฝ่ายเดียวของเหยนจวิ้นอยู่แล้ว“หลินเฟิงนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”หลินเฟิงสองแขนกอดอกแล้วพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน: “ไอ้หมอนี่อยากได้หัวใจมังกรใต้พื้นดินของผม ผมไม่ให้ เขาก็เลยแย่งชิงกันซึ่ง ๆ หน้า”“ผมไม่ลงมือจัดการเขาแล้วจะจัดการใคร?”ทุกคนได้ยินแบบนี้ก็พากันมองหน้ากัน สองคนนี้มีคำพูดของตัวเอง พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครชั่วขณะถังหว่านเชื่อคำพูดของหลินเฟิงอยู่แล้ว จึงขมวดคิ้วมองไปทางเหยนจวิ้น“คุณชายเหยน มีเรื่องแบบนี้ไหมคะ?”เหยนจวิ้นส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ: “ไอ้หมอนี่ก
“ชิงเฉี่ยน คุณฟังผมอธิบาย นี่ไม่ใช่เรื่องจริงครับ”“เพียะ” ไป๋ชิงเฉี่ยนยกมือขึ้นแล้วตบไปที่ใบหน้าของเขาเธอกัดริมฝีปาก จากนั้นก็ถลึงตาใส่เหยนจวิ้นด้วยความโมโห“ฉันไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ การแต่งงานระหว่างพวกเราสามารถยกเลิกได้แล้ว”“ชิงเฉี่ยน อย่าสิครับ นี่เป็นการใส่ความกัน เป็นไอ้เวรหลินเฟิงคนนั้นที่ใส่ความผม” เหยนจวิ้นรีบจับแขนของไป๋ชิงเฉี่ยนเอาไว้ไป๋ชิงเฉี่ยนสะบัดมือออกอย่างแรง และพูดตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห: “คุณไปอธิบายกับคุณปู่ของฉันเองเถอะ”พูดจบเธอก็ออกจากคลับเฮาส์ไปด้วยความโมโหต่งหลิงอวี้เห็นแบบนี้จึงรีบตามออกไป: “คุณหนู คุณรอฉันด้วยสิคะ...”“ชิงเฉี่ยน...”เหยนจวิ้นกำลังอยากจะตามไป หลินเฟิงกลับขวางไว้ตรงหน้าของเขา: “ไอ้หนุ่ม เมื่อครู่นายเหยียดหยามฉันขนาดนั้น ควรจะให้คำอธิบายกับฉันหน่อยไหม?”ในตอนนี้ถังหว่านก็กอดอกแล้วพูดเสียงเย็นชา: “ถูกต้อง เรื่องนี้คุณต้องให้คำอธิบาย”เหยนจวิ้นกัดฟันแล้วถลึงตาใส่หลินเฟิงด้วยความโมโห: “ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่านายจะเจ้าเล่ห์แบบนี้ ยังแอบบันทึกเสียงเอาไว้ด้วย”“เป็นเพราะนายโง่เองก็เท่านั้นแหละ”หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “นายคุก
ขณะเดียวกันภายในค่ายทหารที่ชานเมืองเจียงโจวทหารสวมชุดลายพรางคนหนึ่งกำลังนอนกลางวันอยู่ภายในห้องทำงานจู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีเสียงเตือนของข้อความดังขึ้นมา“แม่งเอ้ย ใครวะส่งข้อความมากลางวันแสก ๆ?”ชายหนุ่มหยิบหมวกที่อยู่บนใบหน้าของตัวเองลงมาด้วยความหงุดหงิดเขาล้วงโทรศัพท์ออกมาด้วยความโมโห แต่ในตอนที่เขาเห็น เบอร์โทรศัพท์มือถือ คนทั้งคนก็ตาสว่างขึ้นมาทันที“เชี่ย…” เขาลุกขึ้นทันทีและตะโกนต่อลูกน้อง“ทุกคนมารวมตัวกัน”......ไม่เพียงค่ายทหารเขตชานเมืองเจียงโจวที่กำลังรวมตัวกันคนของตระกูลฉิน ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันถังหว่านก็ไม่ได้อยู่ว่าง เธอโทรไปหาโจวเฉินทันทีให้เขาเรียกคนของตระกูลถังทั้งหมดตามมาที่คลับเฮ้าส์ที่เธออยู่ในตอนนี้สำนักอวี้เจี้ยนเมืองเจียงโจวไม่ใช่กองกำลังเล็ก ๆ เพียงแค่คนของตระกูลฉิน เกรงว่าไม่แน่ว่าจะควบคุมสำนักอวี้เจี้ยนได้หลังจากที่โจวฉินได้รับคำสั่งและจะรวบรวมกำลังคน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ถูกหลินเสวี่ยเยี่ยนแย่งไป“ถังหว่าน ลูกทำอะไรอยู่กันแน่? ทำไมจู่ ๆ ถึงเรียกรวมตัวคนของตระกูลถัง?”ถังหว่านพูดด้วยความหงุดหงิด: “โอ๊ย หนูไม่มีเวลามาอธิบายมากมายกับแม่ ตอนนี้หลิ