“ถ้าหากขอโทษแล้วมีประโยชน์ งั้นบนโลกนี้จะมีตำรวจไว้ทำไม?” ชายหัวล้านพูดเยาะหยัน“งั้น…พี่ชาย ความหมายของคุณคือ?” หลี่ซืออวี่ถามด้วยความระมัดระวังชายหัวล้านลูบคางของตัวเอง แล้วจ้องมองหลี่ซืออวี่ “หรือว่าเอาแบบนี้ เธอไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพรรคพวกของฉันสักสองสามแก้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไป”“ห๊ะ?” หลี่ซืออวี่ตกตะลึงอย่างมาก ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพวกเขากลุ่มนี้นั่นหมายความว่าอย่างไรไม่ต้องพูดก็สามารถเข้าใจได้“ไม่ได้นะ…” หวงเหมาเพิ่งจะเอ่ยปากหนุ่มสกินเฮดก็ถือไม้ฟาดไปที่ศีรษะของเขา “พวกเราคุยกันอยู่ มีที่ให้แกพูดแทรกด้วยเหรอ?”หวงเหมาถูกตีจนหัวแตกในทันทีเขากุมศีรษะแล้วนอนหมอบอยู่บนพื้น“พวกคุณมีสิทธิ์อะไรทำร้ายคน?” หลินเสวี่ยฮุ่ยเห็นเพื่อนร่วมห้องของตัวเองถูกตี จึงก้าวออกมาในทันทีในเมื่อวันนี้เป็นงานวันเกิดของเธอ เพื่อนนักเรียนกลุ่มนี้มาเพื่อฉลองให้กับเธอเธอจำเป็นต้องออกหน้า“เสวี่ยฮุ่ย” หลี่ซืออวี่รีบดึงหลินเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนดี หลินเสวี่ยฮุ่ยท่าทางแข็งกร้าวแบบนี้เกรงว่าจะต้องได้รับผลไม่ดีหนุ่มสกินเฮดเงยหน้าขึ้น สายตาเปล่งประกายทันทีในห้องส่วนต
“ที่แท้ก็พี่หวังนี่เอง ยินดีที่ได้พบครับ” หลี่ว์เจิ้งหยางเข้าไปคำนับเล็กน้อยพวกนักเรียนเห็นหลี่ว์เจิ้งหยางออกหน้าก็ถอนหายใจอย่างแรงในทันทีในเมื่อเขาเป็นลูกเศรษฐีที่แท้จริง เคยเจอโลกภายนอกมาเยอะ มีเขาออกหน้าน่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้“แกแม่งเป็นใครวะ?” หวังข่ายมองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยสายตาเย็นชาหลี่ว์เจิ้งหยางแนะนำตัวด้วยความมั่นใจ “ผมคือหลี่ว์เจิ้งหยางนายน้อยตระกูลหลี่ว์”“เรื่องในวันนี้ เพื่อนของผมลงมือก่อน แต่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น”“เอาแบบนี้ ค่ารักษาพยาบาลของพี่ชายคนนี้ผมรับผิดชอบทั้งหมด แล้วก็ให้ค่าบำรุงร่างกายห้าหมื่นบาทกับพี่ชาย พี่หวังพี่คิดว่าอย่างไรครับ?”เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ เห็นแบบนี้ก็พยักหน้าติดต่อกันดูพี่หยางจัดการปัญหาสิ กระจ่างแจ้งถ้าหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาต้องยอมรับข้อเสนอนี้แน่นอนแต่หวังข่ายไม่ได้เห็นแก่เงินด้วยซ้ำเขายกมือขึ้นฟาดไปที่ใบหน้าของหลี่ว์เจิ้งหยางเสียงดัง “เพี๊ยะ” ชัดเจนและกังวานฝ่ามือนี้ตบจนหลี่ว์เจิ้งหยางงุนงงเล็กน้อยเขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองเปิดเผยสถานะแล้ว หวังข่ายคนนี้ยังจะกล้าตบเขาอีกแม้แต่เพื่อนร่วมห้องของเขาก็คาดคิดไม่ถ
ดวงตาทั้งสองข้างเลือนลาง เธอรู้สึกอึดอัดอย่างมากหวังข่ายรีบข่มขู่ นักศึกษากลุ่มนี้ยังจะกล้าต่อต้านตัวเองอีกที่ไหนกันล่ะ?เขายื่นมือออกไปจะถอดเสื้อคลุมของหลินเสวี่ยฮุ่ยต่อหน้าทุกคนมืออีกข้างหนึ่งของหลินเสวี่ยฮุยจับเสื้อคลุมไว้สุดแรง“คุณจะทำอะไรน่ะ?”ในตอนนี้เพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ไม่ปริปากพูดจา ถึงขั้นที่ไม่กล้าเข้าไปมีเพียงโจวเสี่ยวหางที่คว้าขวดเบียร์บนโต๊ะขึ้นมาโยนไปทางหวังข่ายเพล้งขวดเบียร์กระแทกศรีษะของหวังข่ายจนแตกศีรษะของหวังข่ายมีเลือดไหลออกมาทันที“แม่งเอ้ย…ฉันใจดีกับพวกแกเกินไปแล้ว” หวังข่ายมองดูรอยเลือดที่ไหลลงจากหน้าผากก็โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่จากนั้นก็ชี้หน้าโจวเสี่ยวหาง “ผู้หญิงคนนี้ยกให้พวกนาย”พวกลูกสมุนได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก จากนั้นก็พากันมุ่งหน้ามาทางโจวเสี่ยวหาง“พอแล้ว”ในตอนนั้นเอง หลินเฟิงลุกขึ้นยืนช้า ๆ และตวาดเสียงดังก้องทั่วทั้งห้องส่วนตัวสายตาของทุกคนพากันมองไปทางหลินเฟิงสายตาเฉียบคมของหลินเฟิงจ้องมองหวังข่ายแล้วพูดขึ้น “ปล่อยคน และไสหัวออกไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย”“เชี่ย ยังมีคนกล้าทำเก่งต่อหน้าฉันอีกเหรอ?” หวังข่าย
หวังข่ายจ่อมีดพกไปที่ลำคอของหลินเสวี่ยฮุ่ย และมองหลินเฟิงอย่างระแวงหลินเสวี่ยฮุ่ยตัวแข็งทื่อ เธอไม่คิดเลยว่าเธอที่เป็นแค่นักศึกษายากจนอยู่มาวันหนึ่งจะถูกจับเป็นตัวประกันตอนนี้เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนหลินเฟิงเห็นแบบนี้ ดวงตาที่เฉียบคมหรี่ตาลงและหยุดเดินหวังข่ายยิ้มมุมปาก “หึหึ ไอ้หนุ่ม ดูท่าความสัมพันธ์กับนังหนูคนนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ”หลินเฟิงสีหน้าอึมครึมดวงตาแฝงไปด้วยความดุดัน “ฉันเกลียดที่คนอื่นข่มขู่ฉันที่สุด ตอนนี้ปล่อยเธอไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”“เชี่ย แกขู่ใครวะ?” หวังข่ายเห็นเขาแต่งกายไม่เหมือนกับบุคคลใหญ่โตอะไรต่อให้ตัวเองปล่อยให้เขาฆ่าจริง ๆ เขามีความกล้านั้นไหมล่ะ?“ไอ้หนุ่ม แกเจ๋งมากเหรอวะ? ถ้าหากอยากให้คนสวยคนนี้รอดชีวิต แกก็หักแขนข้างหนึ่งของแกซะ” หวังข่ายพูดข่มขู่เสียงเย็นชาหลินเฟิงสองมือกำหมัดแน่นหวังข่ายเห็นแบบนั้นมีดพกในมือก็ขยับเข้าใกล้หลินเสวี่ยฮุ่ยอีกสองสามเซนติเมตรหลินเสวี่ยฮุ่ยชูคอ เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนซี้ซั้วแม้แต่นิด ถึงขั้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นเฉียบที่ส่งมาจากมีดพก“ไอ้หนุ่ม แม่งอย่าเล่นตุกติก เร็ว ๆ เลย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอตายต่อห
เขามองหลินเฟิงด้วยความหวาดกลัว ความเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?เมื่อเห็นว่าการหลบหนีไร้ความหวัง เขาจึงร้องขอความเมตตาในทันที “พี่ชายท่านนี้ ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วยนะครับ…”“วันนี้เป็นความผิดของผมทั้งหมด ผมขอโทษ ผมจะชดใช้เงินให้…”“ฉันเคยให้โอกาสนายแล้ว น่าเสียดายที่นายไม่ทะนุถนอมเอง” หลินเฟิงเดินไปข้างกายเขาช้า ๆ แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นชา“คณจะฆ่าผมตรงนี้ไม่ได้นะ เนี่ย ตรงนี้มีกล้องวงจรปิด…คุณจะติดคุกนะครับ” หวังข่ายอดกลั้นความเจ็บปวดบนร่างกาย และพูดขึ้นด้วยความยากลำบากหลินเฟิงได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงทางเดินเลนส์กล้องหันไปทางพวกเขาทั้งสองคนพอดี“ฮ่าฮ่า….ผมพูดได้มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ?” หวังข่ายถอนหายใจออกมายาว ๆดูท่าไอ้หมอนี่ยังค่อนข้างกลัวกฎหมายอยู่ขณะเดียวกันหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้โง่รออยู่ในห้องส่วนตัวแต่วิ่งตามออกมาหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่น ๆ ก็ตามมาอยู่ด้านหลังของเธอ“พี่เฟิง…”หลินเฟิงเหลือบเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย เขาไม่ได้กลัวกล้องวงจรปิด แต่ไม่อยากฆ่าคนต่อหน้าหลินเสวี่ยฮุ่ย“พี่เฟิง พี่ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเขาแล้ว พวกเร
ศีรษะของหวังข่ายหันไปทางหลินเฟิงด้วยความอืดอาด เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ขาดน้ำมัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หมอนี่จะรู้จักกับหลินเฟิง และดูท่าทางที่เซียวคุนมีต่อหลินเฟิง จะมีความเคารพนบน้อมขนาดนี้เขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่นะหลินเฟิงเอ่ยปากขึ้นช้า ๆ “วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวของผม เดิมทีฉลองวันเกิดกันอยู่ที่นี่”“ไอ้หมอนี่กลับอยากให้น้องสาวของผมไปดื่มเป็นเพื่อนเขา”“อะไรนะ?” เซียวคุนโมโหอย่างมากไม่ต้องสนว่าน้องสาวคนนี้จะใช่น้องแท้ ๆ หรือไม่เพียงแค่หลินเฟิงเอ่ยปากพูด งั้นก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของหลินเฟิงกล้าให้น้องสาวของหลินเฟิงไปดื่มเป็นเพื่อนเขา หวังข่ายรนหายที่ตายเหรอ?ตัวเองเมื่อครู่ไม่ควรคุยกับหวังข่ายจริง ๆดวงตาของเขาจ้องมองไปที่หวังข่าย จากนั้นถีบไปที่ใบหน้าของเขา “แกมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วใช่ไหม?”“กล้าให้น้องสาวของคุณหลินไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแก?”“ท่านเซียว ขอโทษครับ ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยผมขอความเมตตาหน่อยครับ…”หวังข่ายตัวสั่นไปหมด และตกใจจนตัวกระตุกตอนนี้เขารู้สึกกลัวจริง ๆเซียวคุนหันไปทางหลินเฟิง “คุณหลิน คุณจะจัดการไอ้หมอนี่อย่างไร?”หลินเฟิงสีหน้าเฉยเมย แล
หลินเสวี่ยฮุ่ยหันหลังมาช้า ๆ และมองไปทางชายสูงวัยด้วยความงุนงง เห็นเพียงแค่ชายสูงอายุจ้องมองไปที่หน้าอกของตัวเองเธอรู้สึกลนลานมากยิ่งขึ้น ตัวเองคงไม่ได้เจอกับตาแก่โรคจิตเข้าหรอกนะ?จากนั้นก็กระชับคอเสื้อตรงหน้าอกเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณหลินเฟิงได้ยินเสียงก็หันมองไป และเห็นชายสูงอายุทำแบบนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว“คุณปู่ตระกูลหลิว คุณเป็นอะไรเหรอครับ?” เซียวคุนรีบเดินเข้ามาถามหลิวหยงหลี่เป็นถึงปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงในเจียงโจว ตอนนี้สายตาจับจ้องไปที่สาวน้อยคนหนึ่ง หากแพร่งพรายออกไปจะไม่ดีนะหลิวหยงหลี่กลับไม่ได้สนใจเซียวคุนเขารีบเดินไปด้านข้างหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วถามขึ้น “แม่หนู หยกชิ้นนี้หนูได้มาจากไหนเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินแบบนั้นก็มองหยกตรงหน้าอกของตัวเองจากนั้นพูดขึ้น “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่พี่เฟิงมอบให้ฉัน”พูดจบสายตาก็มองไปทางหลินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเซียวคุนก็พูดแนะนำ “คุณหลิน ผมแนะนำให้คุณได้รู้จักหน่อยครับ ท่านนี้คือคุณท่านรองของตระกูลหลิวเมืองเจียงโจว และก็เป็นปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของเจียงโจววันนี้เขาก็เพิ่งเจรจาธุรกิจใหญ่กับหลิวหย
“แม่หนูคิดว่าอย่างไร?” หลิวหยงหลี่สายตาคาดหวังมองไปทางหลินเสวี่ยฮุ่ยหลินเสวี่ยฮุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความลังเล “นี่...นี่เป็นของขวัญที่พี่หลินเฟิงมอบให้ฉัน ฉัน...ไม่คิดที่จะขายค่ะ”ถึงแม้จี้หยกชิ้นนี้มูลค่าสิบล้าน แต่เพียงแค่ขายทิ้งเธอก็จะร่ำรวยได้ภายในค่ำคืนแต่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงไม่คิดที่จะขายทิ้ง ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากเกินไปถ้าหากขายทิ้ง หลินเฟิงจะมองตัวเองอย่างไร?ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยหลินเสวี่ยฮุ่ยก็ไม่ใช่คนที่เห็นเงินแล้วตาโตหลิวหยงหลี่ได้ยินคำพูดนี้ก็ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างมาก “น่าเสียดาย น่าเสียดาย ในเมื่อแม่หนูคนนี้ไม่คิดที่จะขาย ฉันก็ไม่สามารถฝืนบังคับได้ ทำได้แค่พูดว่าจี้หยกชิ้นนี้ไม่มีบุญวาสนากับฉัน”เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ จากนั้นเขาหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“ไม่ทราบว่าสหายน้อยหลินมีช่องทางไหนที่จะสามารถซื้อจี้หยกที่ปรมาจารย์อู๋เป็นคนแกะสลักเองได้บ้างไหมครับ?”“ถ้าหากมีช่องทางสามารถแนะนำให้ผมหน่อยได้ไหม สหายน้อยวางใจได้ เงินก้อนนี้รวมถึงคุณด้วยแน่นอน”เซียวคุนยิ้มพูด “คุณท่านรองหลิวชอบเครื่อง
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน
“ใช่ครับ!”เริ่นโหย่วไฉพูดอย่างกระวนกระวาย: "คุณรีบพาคนมาที่นี่เร็วๆ เถอะครับ ทางด้านผม... ผมจะต้านไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว!"“ต้านไม่อยู่?”จางฉุนรู้สึกตกใจเล็กน้อยหรือว่าคนที่อยู่ข้างกายอิ่นนั่วเจียจะเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?ที่นี่เริ่นโหย่วไฉมีผู้คุ้มกันนับร้อยคน เขาคนเดียวสามารถจัดการผู้คุ้มกันทั้งหมดได้?”จางฉุนไม่เชื่อเรื่องนี้แต่ไม่นานความคิดอีกอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจเขาเริ่นโหย่วไฉคนนี้คงจะพูดเกินจริงไปมากอยากได้ผลประโยชน์จากตัวเองเพิ่มมากขึ้นหลังจากสาปแช่งจิ้งจอกแก่แล้ว จางฉุนก็เพียงแต่เร่งฝีเท้าของลูกน้องเขาให้เร็วขึ้นเท่านั้นแต่ที่แปลกคือระหว่างทางกลับเงียบสงบมากและพวกยามโรงงานเสื้อผ้าที่อยู่ที่นี่แต่เดิมก็หายไปไหนไม่รู้"เดี๋ยวก่อน!"สวีโจวยื่นมือออกไปเพื่อหยุดทุกคนไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าเขาจ้องดูใบหน้าที่ใจร้อนของจางฉุนแล้วขมวดคิ้วพูด:“คุณ...จางฉุน หรือว่าคุณไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติบ้างหรือ?”“ไม่ปกติอะไร?”ในขณะนี้จางฉุนเอาแต่นึกถึงรูปร่างที่น่าสะพรึงกลัวและใบหน้าที่งดงามของอิ่นนั่วเจียเพียงเท่านั้นยิ่งระยะทางใกล้เข้ามา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าไฟที่อยู่ด้านล่
“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนของรองผู้จัดการหลงซิ่วด้วยหรือเปล่า?”"เอ่อ... ใช่"พูดอย่างตรงไปตรงมา จวงฉุนก็เป็นแค่สุนัขของหลงซิ่วเนื่องจากเขาไม่ใช่นักบู๊และไม่ได้รู้จักผู้คนมากมาย เขาจึงถูกหลงซิ่วส่งมาที่เมืองเจิ้งเต๋อทำหน้าที่เป็นผู้นำเล็กๆ ของคนเหล่านี้แต่คนเหล่านี้จากตระกูลหลงล้วนเป็นนักบู๊ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจึงดูถูกจวงฉุนที่เป็นคนโลภโมบและหื่นกามอย่างเขาดังนั้นครั้งนี้พวกเขาถูกเรียกมา เพราะเห็นแก่หน้าของหลงซิ่วเท่านั้น จวงฉุนก็ไม่มีอำนาจที่จะสั่งพวกเขาได้เลยจวงฉุนก็รู้ดีถึงเรื่องนี้เช่นกันดังนั้นเอาหลงซิ่วออกมาเป็นโล่ไม่อย่างนั้น คนพวกนี้คงหันหลังแล้วจากไปทันที“ก็ได้ งั้นเราควรรีบลงมือปฏิบัติการ หากหลี่ซื่อกรุ๊ปพบเห็นเรา เราคงเดือดร้อนแน่”“อย่ากังวล คนจากหลี่ซื่อกรุ๊ปจะไม่รู้เรื่องนี้”จวงฉุนยิ้มอย่างเย็นชาเขาคิดว่าเขาทำหน้าที่เก็บความลับได้ดีมาก แต่เกรงว่าจวงฉุนคิดจนหัวระเบิดก็ยังไม่เข้าใจอิ่นนั่วเจียจริงๆ แล้วเป็นคนของหลี่ซื่อกรุ๊ปและคนที่อยู่ข้างกายอิ่นนั่วเจีย ไม่ใช่บอดี้การ์ดส่วนตัวของอิ่นนั่วเจีย แต่เป็นคนของกลุ่มหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ควรยุ่งด้วยมา
“เถ้าแก่เริ่น ผมว่าผมเป็นคนใจดีมากและไม่ชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา คุณเชื่อผมไหม?”หลินเฟิงไม่ตอบคำถามที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างยิ่งของเริ่นโหย่วไฉ แต่กลับถามคำถามด้วยรอยยิ้มแทนคำถามนี้ของหลินเฟิง ทำให้ใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้“แม่งเอ๊ย”“ทำร้ายคนของฉันไปหลายคนในพริบตาเดียว ยังพูดว่าเราถูกล้อมรอบโดยแกเพียงผู้เดียว ตอนนี้แกยังบอกฉันอีกว่าแกเป็นคนใจดี ไม่ชอบแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงอีกเหรอ?”เริ่นโหย่วไฉเกือบจะกลอกตาไปด้านหลังศีรษะแต่เมื่อลองคิดดูดีๆ เขาเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?เขาเหลือบมองหลินเฟิง และเห็นได้ชัดจากท่าทางเยาะเย้ยว่าหลินเฟิงกำลังล้อเลียนเขาเป็นที่ชัดเจนว่าคำถามของหลินเฟิงในเวลานี้เป็นการเสียดสีต่อเริ่นโหย่วไฉเริ่นโหย่วไฉก็มีตอบสนองกลับมาได้ และรู้สึกซับซ้อนขึ้นมาทันใดเขาใช้ชีวิตเร่ร่อนในเมืองเจิ้งเต๋อมาครึ่งชีวิตแล้ว ระมัดระวังและหวาดกลัวอยู่เสมอ พยายามตัดสินใจเลือกทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุดแต่วันนี้การกระโดดซ้ำๆ ของเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจนักบู๊เลยเขาไม่สามารถเข้าใจความสามารถของหลินเฟิงได้เลยยิ่งกว่าพระเอกบู๊
“ผิดแล้ว เถ้าแก่เริ่น จากที่ผมดู เป็นพวกคุณที่ถูกผมล้อมเอาไว้เพียงคนเดียว"อีกทั้ง......"รอยยิ้มของหลินเฟิงลึกมากขั้น“แถมยังส่งคนที่อยู่เบื้องหลังที่จัดการหลี่ซื่อกรุ๊ปของผมมาตรงหน้าผมอีกด้วย ประหยัดเวลาที่ผมไม่ต้องตามหาพวกเขาทีละคน มันสะดวกจริงๆ”“อ๊ะ? นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่? นายคนเดียวล้อมพวกเราไว้..”ก่อนที่ เริ่นโหย่วไฉจะพูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจากความมั่นใจในชัยชนะกลายเป็นความตกตะลึงจากนั้นความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้นหลินเฟิงกระโดดออกจากห้องทำงานและกลายเป็นเงาที่พร่ามัวทันทีเขาพุ่งเข้าไปในกลุ่มลูกสมุนจำนวนหลายร้อยคน ลำพังคนเดียวอย่างเปิดเผย“อ๊ากกกก!”"เอื้อกกก!"“อ้าก แขนฉัน แขนฉัน!”ท่ามกลางเสียงโอดครวญของพวกอันธพาลที่นี่ หลินเฟิงก็เหมือนกับสิงโตที่พุ่งเข้าใส่ฝูงแกะ และไม่มีใครหยุดเขาได้ด้วยซ้ำก่อนที่พวกอันธพาลเหล่านี้จะตอบโต้ หลินเฟิงก็ได้เคลื่อนไหวไปแล้ว เขาตัดแขนหรือต้นขาของพวกเขาอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถในการโจมตีหลายๆ คนมองเห็นเงาดำแวบผ่านไปและรู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อมองลงไป
“สหาย!”หลังจากที่เริ่นโหย่วไฉตะโกนใส่หลินเฟิง เขาก็มองไปที่กลุ่มสกายของเขาและออกคำสั่งเสียงดัง:"พวกนายแค่ลากผู้ชายคนนั้นออกไป!"“คุณชายจวงฉุนจะกลับมาแล้ว รอให้เขามาถึง เขาพายอดฝีมือของตระกูลหลง ก็สามารถฆ่าไอ้หมอนี่ได้โดยตรง!”"เรารอดูการแสดงก็พอ!""ดี!"ไม่พูดไม่ได้ว่า เริ่นโหย่วไฉหัวหน้าเล็กคนนี้มีเกียรติมากพอสมควรต่อหน้าพวกอันธพาลพวกนี้หลังจากเขาออกคำสั่ง ลูกสมุนพวกนี้ก็ล้อมรอบห้องทำงานที่หลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียอยู่เอาไว้ท่าทางแบบนี้ ไม่ได้จะสู้ตายกับหลินเฟิงแค่อยากล้อมหลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียไว้ที่นี่เท่านั้น"ต่ำทราม!"อิ่นนั่วเจียก็มองความคิดของเริ่นโหย่วไฉออก ยกคิ้วขึ้นทันที จากนั้นชี้ไปที่เริ่นโหย่วไฉและพูดด่าทอ“ต่ำทราม? หึ อิ่นนั่วเจีย อย่าคิดว่าเธอเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งประเทศมังกร แล้วไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอ!”“เธอในตอนนี้ไม่มีคนหนุนหลัง กลับยังอยากพึ่งพาตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นมา เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”“น่ารังเกียจจริงๆ”อิ่นนั่วเจียกำหมัดแน่นจริงๆแล้วเริ่นโหย่วไฉก็พูดถูกครั้งนี้อิ่นนั่วเจียอยากสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการบันเทิงของประเทศมังกร ด้วยความพ
ครั้งนี้หลินเฟิงไม่ปล่อยไปอีกแล้ว คว้าคอเสื้อของเขาแล้วกดไว้กับผนังอย่างแรง“อ๊า!”เริ่นโหย่วไฉท้ายทอยกระแทกกับกับกำแพงอย่างแรงเจ็บจนเขาร้องโอดครวญออกมา“เถ้าแก่เริ่น ดูเหมือนคุณจะยังไม่สามารถเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจนนักนะ!”หลินเฟิงเข้าไปหาเริ่นโหย่วไฉแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม:"ตอนนี้ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้ายแล้ว"หลินเฟิงเอื้อมมือไปหยิบเช็คจำนวนยี่สิบห้าล้านจากในกระเป๋า ต่อหน้าเริ่นโหย่วไฉ“คุณอยากเป็นสุนัขของตระกูลหลง ถูกผมบีบคอตายตอนนี้ หรือคุณอยากจะบอกทุกสิ่งที่คุณรู้ให้ผมฟัง”เมื่อเห็นหลินเฟิงฉีกเช็คแล้วโยนลงพื้น ใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉก็บิดเบี้ยวด้วยความเสียใจ“ฉัน...ฉัน...”เริ่นโหย่วไฉพูดคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาตกอยู่ในความสับสนอย่างสิ้นเชิง“ตัดสินใจไม่ได้เหรอ? งั้นผมช่วยคุณเอง”หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา ประสานนิ้วเข้าด้วยกันเพื่อรวบรวมกระแสพลังชี่แท้ แทงมันไปที่จุดตันเถียนของเขาทันใดนั้นพลังชี่แท้เป็นเกลียวถูกหลินเฟิงปล่อยเข้าสู่ร่างกายของเริ่นโหย่วไฉในขณะที่พลังชี่แท้ยังคงหมุนวนและขยายตัวต่อไปพลังชี่แท้นี้ยังคงกระแทกอยู่ในร่างของเริ่นโหย่วไฉไม่หยุด ทำให้เขาต้องกรี
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”เริ่นโหย่วไฉหน้าตาโศกเศร้าเขาเป็นเพียงเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าเล็กๆ ที่ต้องการสร้างรายได้ แม้ว่าจะมีอำนาจอยู่บ้าง แต่แค่ชื่อโรงงานเสื้อผ้าของเขาก็สามารถฟังออกโรงงานเสื้อผ้าหลงชิ่งจะเป็นโรงงานใหญ่โตอะไรได้ล่ะ?เงินที่เขาได้รับมาแค่พอเลี้ยงชีพพรรคพวกเมื่อครู่ได้เท่านั้นมีจวงฉุนจากตระกูลหลงมาก่อน บังคับให้ลูกน้องของเขาทำเครื่องแบบมากกว่าสิบชุดภายในเวลาไม่กี่วันใช้เพื่อปกปิดความเคลื่อนไหวของพวกเขาเขาจำนนต่อผลประโยชน์และการบังคับ ตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับจวงฉุนและคนอื่นๆ อย่างเชื่อฟัง แต่คิดไม่ถึงว่าวันถัดมา เขาจะกลับมาอวดดีกับเขาอีกเขาและพรรคพวกได้ทำลายอุปกรณ์มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านของหลี่ซื่อกรุ๊ป!แม่เจ้า นั่นมันหนึ่งหมื่นล้านเลยนะ!เมื่อได้ยินข่าวนี้เริ่นโหย่วไฉก็ตกใจจนสติแทบกระเจิง หากหลี่ซื่อกรุ๊ปตรวจสอบมาจนถึงเขาจวงฉุนของตระกูลหลงอาจจะสามารถหลบหนีไปได้ส่วนทางด้านเขาก็ซวย!ไม่ต้องพูดถึงการที่อิ่นนั่วเจียมาเยี่ยมเยียนด้วยตนเองแถมยังเอากดกระดุมของเขามาด้วย ซึ่งทำให้เขาตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้นภายใต้การแสดง เงินทอง และออเดอร์ของอิ่นนั่วเจีย ในที่ส
“เขาขู่กรรโชคผมบ่อยมากในช่วงนี้”"ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีภูมิหลังอย่างตระกูลหลง ผมคงสั่งให้ลูกน้องของผมฆ่าเขาไปแล้ว!"เมื่อพูดถึงตรงนี้ รอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉก็กลายเป็นความจนปัญญา"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง"หลินเฟิงพยักหน้า จากนั้นเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้ จึงมองไปที่เริ่นโหย่วไฉแล้วพูดว่า:“อ่อใช่ครับ เรื่องกระดุมที่คุณเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ผลิตที่นี่จริงๆ ใช่มั้ยครับ”“ถูก...ถูกต้องแล้ว”เริ่นโหย่วไฉตกตะลึงไปชั่วขณะ เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อยหลังจากที่เขาพูดสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ออกมา หลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียก็ไม่ได้แสดงท่าทางกระวนกระวายหรือตึงเครียดอะไรออกมาตรงกันข้าม คนหนึ่งกลับสงบและมีสติมากกว่าอีกคน“พวกคุณอย่ากังวลเรื่องกระดุมเลย นี่มันก็สายมากแล้ว ผมคิดว่าจวงฉุนกับลูกน้องของเขาใกล้จะกลับมาแล้ว”"ถ้าคุณไม่ไปตอนนี้ ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว"เริ่นโหย่วไฉ่พูดเร่งด้วยความร้อนรนในเมื่อเขาต้องการให้อิ่นนั่วเจียหนีไปและมอบเงินเช็คคงเหลือจำนวนยี่สิบห้าล้านบาทให้เขา!หากอิ่นนั่วเจียถูกจวงฉุนจับได้ เขาจะไปเอาเงินจากใคร?ตอนนี้กลับเป็นเริ่นโหย่วไฉที่งวิตกกังวลมากที่ส