เผิงกวงฉี่พูดติดตลกเห็นผมหงอกที่ขมับของเผิงกวงฉี่ ถังว่านหลี่ก็มุมปากกระตุกเล็กน้อย และรีบโกบมือพูดว่า:“คุณเผิงกวงฉี่ล้อเล่นแล้วครับ บุญคุณที่คุณช่วยเหลือพวกเราให้ตั้งหลักปักฐานที่เมืองเจียงโจว พวกเรายังไม่ได้ตอบแทนเลยนะครับ!”“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เรื่องเล็กทั้งนั้น”เผิงกวงฉี่หรี่ตายิ้มและโบกมือ จากนั้นค้ำไม้เท้านั่งลงที่ด้านข้างของถังว่านหลี่ เขายิ้มถามว่า:“บาดแผลของหลานถังหว่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร”ถังว่านหลี่รีบพยักหน้า“หึหึ สหายหลินเก่งทั้งแพทย์ทั้งบู๊ มีเขาลงมือ บาดแผลที่รุนแรงแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”เผิงกวงฉี่พูดชื่นชม:“ในเมื่อเขาเคยดึงผมที่ใกล้ตายกับมาจากพญายมได้”ในตอนนี้เอง พ่อค้าที่อยู่ด้านข้างหาโอกาสเหมาะเจาะ รีบเข้ามาแล้วพูดว่า:“คุณผู้ชายท่านนี้ ตอนนี้พวกเราต่างกำลังเดิมพันกันว่าบุคคลลึกลับคนนั้นจะสามารถสู้กับคุณชายเฝิงอวี้อู่ได้กี่ยก ไม่ทราบว่าคุณสนใจไหมครับ?”พ่อค้าคนนี้ฉลาดปราดเปรื่องเขารู้ดีว่าคนเหล่านี้ที่อยู่แถวหน้าต่างเป็นเถ้าแก่ใหญ่ และคนมีเงิน ดังนั้นมาหาพวกเขาเดิมพันนั้นถูกต้องแล้วยังไงก็สามารถทำเงินได้ก้อนใหญ่“
“หึ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็จะพนันช่องทางนี้”เผิงกวงฉี่หยิบเช็คใบหนึ่งออกมาภายใต้สายตางุนงงของทุกคน เขียนตัวเลขศูนย์ที่น่าเวียนหัวไว้เหนือช่องใส่ตัวเลข“ฉันพนันห้าร้อยล้านบาท”ได้ยินเผิงกวงฉี่พูดจำนวนตัวเลขออกมาอย่างนิ่งเฉย พ่อค้าตกใจจนทรุดนั่งลงบนพื้นไม่เสียแรงที่เป็นเผิงกวงฉี่ เมื่อออกหน้าก็น่าหวาดกลัวถึงขั้นนี้เงินเดิมพันในตอนนี้มีไม่ถึงสองพันห้าร้อยล้านบาทเผิงกวงฉี่เพียงคนเดียวก็มีการสนับสนุนหนึ่งในห้าส่วนเต็มๆ ทำให้ผู้ชมที่อยู่รอบๆ เผิงกวงฉี่พากันสูดหายใจเข้าอย่างแรงแต่ไม่นานนัก พวกเขาก็ตั้งสติกลับมาได้“นี่…เผิงกวงฉี่ลงพนันช่องทางไหน?”“ช่องทางที่สี่!”“อะไรนะ? เผิงกวงฉี่คนนี้แก่จนเลอะเลือนเหรอ?”“จริงด้วย ทำไมเขาถึงคิดว่าคุณชายเฝิงอวี้อู่ถึงแพ้ล่ะ?”“พวกคุณไม่เข้าใจ พวกเขาไม่ได้สนใจว่าจะแพ้หรือชนะด้วยซ้ำ ออกเงินเยอะขนาดนี้ ก็เพื่อที่จะเป็นจุดสนใจ”“เป็นจุดสนใจบ้าบออะไร เงินเยอะขนาดนี้ให้คนอื่นฟรีๆ มีแต่จะทำให้คนคิดว่าเขาโง่เขลา”เสียงวิพากษ์วิจารณ์ระคนหัวเราะดังขึ้นไม่หยุดเผิงกวงฉี่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ เพียงแค่ยังคงพูดคุยกับถังว่านหลี่ ระหว่างสองคนมีเสีย
ถ้าหากหมดแล้ว งั้นผู้นำจะถามขึ้นมา...แต่เฝิงอวี้อู่กลับไม่สนใจ แล้วพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า:“ไม่ต้องสนใจมากขนาดนั้นหรอก รีบไปจัดการซะ!”“ฉันจะต้องทำให้คนของเมืองเจิ้งเต๋อได้เห็นว่า ตระกูลเฝิงของฉันเป็นตระกูลที่ศิลปะการต่อสู้แข็งแกร่งที่สุดในหัวตงทั้งหมด!”คนรับใช้ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง แล้วรีบหันหลังจากไป“พี่ใหญ่ อย่าวู่วามสิ ถ้าอย่างนั้นหลินเฟิง... จริง ๆ...ไม่ใช่คนที่จะล่วงเกินได้จริง ๆนะ พี่ต้องคิดให้ดี ๆก่อนนะ!”ในขณะนี้ เมื่อเห็นพฤติกรรมที่วู่วามของพี่ใหญ่ของตัวเอง เฝิงไฉ่เสวียนก็รีบเข้าไปขวางทันที“พี่ พี่อยู่ข้างใครกันแน่? พี่ไม่ใช่คนตระกูลเฝิงของเราหรอกเหรอ?”เฝิงไฉ่อิ๋งมองไปที่พี่สาวของตัวเองด้วยสีหน้าหงุดหงิด“แต่ว่า....”“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”เฝิงอวี้อู่พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เพื่อหยุดคำพูดของเฝิงไฉ่เสวียน ก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วพูดว่า :“ถ้าเรื่องนี้หลุดลอดออกไปมันจะทำให้ผู้คนต้องหัวเราะเยาะ!”“คนทั่วทั้งหัวตงเชื่อว่าฉันเฝิงอวี้อู่จะสามารถเอาชนะศัตรูได้ แต่กลับเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของฉันที่ทำลายศักดิ์ศรีของฉันซะเอง”“ไฉ่เสวียน วันนี้เธอจับตาดูให้ดี!”
พิธีกรคนนี้จงใจลากเสียงให้ยาวให้เหมือนกับการแข่งขันชกมวยหรือมวยปล้ำและเห็นเพียงแค่คุณชายตระกูลเฝิงที่แต่งตัวสีฟ้าอมเขียวเดินออกมาจากหลังเวทีอย่างช้า ๆในขณะนี้เฝิงอวี้อู่ที่ยืนตัวตรง ผมที่ยาวสยาย ดวงตาที่มีประกายดวงดาวที่เข้ากับใบหน้าที่เย็นชา เมื่อมองครั้งแรก ก็สามารถบอกได้เลยว่าเป็นลูกหลานของตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณที่มีชื่อเสียงมีความสง่างามและท่าทางที่เหมือนกับคนในสมัยโบราณที่มีอำนาจการปรากฏตัวขึ้นในครั้งนี้ ทำเอาสาว ๆที่อยู่โดยรอบส่งเสียงกรี๊ดขั้นมาทันที ราวกับได้เห็นไอดอลที่ชื่นชอบถึงขนาดมีหญิงสาวที่กรีดร้องจนเป็นลมท่ามกลางฝูงชน และถูกช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลไปทันที“ชายหนุ่มรูปงามที่มีรูปร่างสง่าผ่าเผย คนนี้ก็คือ นักบู๊หนุ่ม อันดับสองของลำดับสวรรค์ ของประเทศมังกรในตอนนี้ ! คุณชายใหญ่จากตระกูลเฝิง เฝิงอวี้อู่!”พิธีกรก็ชื่นชมตัวเองอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยและเฝิงอวี้อู่ก็เหมาะที่จะได้รับคำชมเหล่านี้อยู่แล้ว เขายืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีที่ท้าทายและเคร่งขรึม ราวกับบรรยากาศความแข็งแกร่งที่แสดงออกมานั้น แม้กระทั่งผู้ชมที่อยู่ไกลที่สุดก็ยังสัมผัสถึงมันได้“เอ่อ....”เมื
เอ๊ะ?”สยงเทียนคังหันหน้าไปก็เห็นร่างหนึ่งกระโดดเหยียบไหล่ของผู้ชมเข้ามา ทันใดนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดี“ฮ่าฮ่า ไอ้หมอนั่นคนนี้มาแล้วจริง ๆด้วย!”เมื่อสยงเทียนคังมองเห็นใบหน้าของหลินเฟิง ก็รู้สึกใกล้ชิดมากกว่าการได้เจอกับญาติพี่น้อง ที่รู้สึกดีใจอย่างมาก“ปัง!”หลินเฟิงลงสู่เวทีอย่างมั่นคง และทุกคนที่มองไปทางนาฬิกาเหนือจัตุรัสเมืองเจิ้งเต๋อนั้นและระยะเวลาที่เจ้าภาพประกาศก็เหลือสิบนาทีเท่านั้นหลินเฟิงตั้งใจเข้ามาในสนามแข่งตรงเวลา“ยังไง? คิดได้แล้วเหรอ? ฉันยังคิดว่าคุณจะหนีหายไปแล้วซะอีก”เมื่อเฝิงอวี่อู่เห็นหลินเฟิงกระโดดเข้ามาแบบนี้ ก็หรี่ตาลง และมองออกว่าหลินเฟิงมีความแข็งแกร่งอะไรบางอย่างอยู่“ฮ่าฮ่า แวะไปอีกที่หนึ่งจึงทำให้เสียเวลาไปเล็กน้อย แต่ยังดีที่มาทัน”หลินเฟิงยิ้มกว้างจนเห็นฟันสีขาว“เหอะ!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฝิงอวี้อู่ก็ทำเสียงต่ำออกมา โดยที่ไม่ได้พูดอะไรหลินเฟิงมองไปทางเจ้าภาพ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างใจเย็นว่า :“เป็นอย่างไร เริ่มได้หรือยัง?”“เอ่อ...”เจ้าภาพมองไปที่หลินเฟิงกับเฝิงอวี้อู่ จากนั้นก็มองไปที่สยงเทียนคัง ที่ดูจะโล่งอกในส
“ไม่ได้ ไม่ได้ นี่มันจะเกินไปแล้ว”หลินเฟิงประท้วงกับพิธีกรว่า:“ทำไมมีแค่เฝิงอวี้อู่คนเดียวที่เอาชนะผมได้ล่ะ? ไม่มีโอกาสที่ผมจะชนะเขาได้ในสิบยกบ้างงั้นเหรอ?”เมื่อได้ยินอย่างนี้ พิธีกรก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยเฝิงอวี้อู่ที่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยอยู่ไกล ๆก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทันใดนั้นใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ปรากฏรอยยิ้มเยาะออกมา“ไอ้หนู แกคิดว่าแกเป็นใคร?”เขามองหลินเฟิงขึ้นลง แล้วหัวเราะเยาะพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า :“แกคิดว่าจะเอาชนะฉันได้ในสิบยกงั้นเหรอ? ถึงฉันจะต่อให้แกสิบยก แกก็ไม่สามารถแตะได้แม้แต่ปลายเสื้อของฉันหรอก!”“มันก็ไม่แน่หรอก”หลินเฟิงยกนิ้วขึ้นมาโบกไปมา ก่อนจะเผยรอยยิ้มสนุกสนานจากนั้นเขาก็กำชับว่า :“ผมก็อยากวางเดิมพันเหมือนกัน ผมขอเดิมพันสองพันห้าร้อยล้านบาทว่าผมจะต้องชนะอย่างแน่นอน!”เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟิง ผู้ชมต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมดเมื่อหลินเฟิงพูดจบ เงินเดิมพันที่ปรากฏอยู่ไกล ๆก็มีการเปลี่ยนแปลง แล้วหลินเฟิงก็พยักหน้าด้วยความพอใจ“อย่างนี้ค่อยยุติธรรมหน่อย!”เมื่อได้ยินหลินเฟิงที่ราวกับกำลังถ่วงเวลาอยู่ เฝิงอวี้อู่ที่อยู่ตรงข้าม
หลินเฟิงสามารถต่อต้านได้อย่างแข็งแกร่ง ถึงขนาดสามารถที่จะหักขาของเฝิงอวี้อู่ได้ด้วยเพียงพลิกฝ่ามืออย่างง่ายดายแต่หลินเฟิงก็ไม่อยากจะทำอย่างนั้นเขามีความคิดเป็นของตัวเองความแข็งแกร่งของเฝิงอวี้อู่นั้นไม่เลวเลยจริง ๆและความแข็งแกร่งที่แท้จริงน่าจะอยู่ในช่วงระดับกลางของแดนแปรภาพ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเฟิง ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใดการท้าดวลครั้งนี้ หลินเฟิงไม่ได้ตั้งเป้าไปที่เฝิงอวี้อู่เลยเป้าหมายของเขาจริง ๆก็คือ ตระกูลสยง สยงเทียนคังและหลงซวี่จวินที่อยู่ด้านข้างสยงเทียนคัง“ปัง!”ขณะที่หลินเฟิลเบี่ยงตัวหลบ ลูกเตะของเฝิงอวี้อู่ ทำให้เวทีท้าดวลชั่วคราวทั้งหมดพังทลายไปครึ่งหนึ่งและเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเฝิงอวี้อู่“อะไรนะ?!”เฝิงอวี้อู่เหลือบมองด้วยความตกตะลึง หรือว่าหลินเฟิงจะมีความสามารถอยู่บ้าง ถึงได้สามารถหลบหลีกวิชาการต่อสู้ตระกูลเฝิงของเขาได้?จากนั้นสีหน้าของเขาก็ค่อย ๆเปลี่ยนจากอึมครึมกลายเป็นดุร้ายสิ่งนี้ทำให้เขานึกถึงเมื่อสองปีก่อนตอนที่ตัวเองมีความทะเยอทะยาน ก็ได้พบเจอกับจอมมารจากสำนักหลงผาน ตอนนั้นเขาก็หลบการโจมตีของตัวเองแบบนี้เ
ในตอนที่ผู้ชมทั่วทั้งงานตกตะลึงอย่างมาก กับความพ่ายแพ้ของเฝิงอวี้อู่ จากนั้นเสียงตะโกนของเฝิงอวี้อู่ ทำให้ผู้ชมทั้งงานตกอยู่ในสภาวะเงียบสงัด“อะไรนะ?เฝิงอวี้อู่ถูกวางยาพิษงั้นเหรอ?”“เป็นไปได้ยังไง…ถูกวางยาตอนไหน?”“ไอ้หมอนั่นเป็นคนเลวทรามต่ำช้าจริงๆ ถือโอกาสตอนที่พวกเราไม่สังเกต แอบวางแผนลอบทำร้ายคุณชายใหญ่ตระกูลเฝิง!”ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ หลินเฟิงเหมือนกับคาดการณ์ไว้ได้ตั้งนานแล้ว จึงแบมือยิ้มพูดกับเฝิงอวี้อู่:“นายอย่าเข้าใจผิด จัดการนายไม่จำเป็นต้องวางยาพิษด้วยซ้ำ”“พูดไร้สาระ!”เฝิวอวี้อู่พูดอย่างโมโหว่า:“ในเมื่อไม่ใช่นาย ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มต้นนายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะล้ม?!”ขณะพูด เฝิงอวี้อู่โมโหจนหัวใจบีบรัด บวกกับพิษในร่างกายออกฤทธิ์ ทำให้พ่นเลือดออกมาต่อหน้าทุกคน และหมดสติไป“พี่ใหญ่!”เฝิงไฉ่อิ๋งรีบพุ่งขึ้นมาบนเวทีประลอง เขย่าร่างของเฟิงอวี้อู่ไม่หยุด และด่าทอหลินเฟิง:“ฉันดูไม่ผิด คนที่แอบวางยา ก็คือนายนั่นแหละไอ้คนเลวทรามต่ำช้า!”“หลินเฟิง นายใจกล้ามาก!”ในตอนที่หลินเฟิงจะชี้แจง สยงเทียนคังที่อยู่ด้านล่างเวทีลุกยืนขึ้น ชี้หน้าหลินเฟิงพูดด้วยความโมโหว่า:“
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ