“จริงด้วยครับคุณชายใหญ่ คุณเป็นอัจฉริยะ อย่าเอาพวกผมที่เป็นตัวประกอบไปเทียบกับคุณสิครับ!”“ผมคิดว่าคุณชายไม่ต้องใช้เวลาหลายปี ก็สามารถแซงหน้าจอมมารสำนักหลงผานคนนั้นได้แล้ว”“พูดไร้สาระอะไรกัน?”“ตระกูลเฝิงของเราอยู่ภายใต้การบัญชาของคุณชายใหญ่ ต่อไปจะต้องเบียดตัวเข้าเมืองจิง กลายเป็นตระกูลร่ำรวยอันดับตระกูลที่ห้าได้อย่างแน่นอน!”เหล่านักบู๊ที่เหนื่อยจนล้มตัวอยู่ข้างๆ ยิ้มชื่นชม“หึ...”เฝิงอวี้อู่แกะผ้าสีดำที่บังตาออก และกระสอบทรายบรรจุลูกตะกั่วที่อยู่บนตัวออกเขาไม่ได้ถูกคำชมของคนเหล่านี้ทำให้เลอะเลือนแต่เงยหน้าขึ้นหลับตา ในใจเกิดความอยากสู้ขึ้นมาดูท่าทั่วทั้งหัวตงมีเพียงแค่จอมมารนั่นที่คู่ควรเทียบกับเขาได้จอมมารนั่นปกติถูกสำนักหลงผานปกป้องได้รอบคอบอย่างมาก อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่ข่าวคราวก็หายไปจนแทบไม่เห็นปรากฏตัวที่ยุทธจักร ก็แค่เมืองสองปีที่แล้วตอนนั้น ถึงแม้เขาอายุน้อย แต่ตอนนั้นกำลังลุ่มหลงอยู่กับความชนะจากรอบทิศ และลำพองใจที่หาคู่ต่อสู้ที่ฝีมือเทียบกันไม่ได้จอมมารนั่นเหมือนพระเจ้าจุติโลกแค่สิบรอบเท่านั้น ก็ทำให้เฝิงอวี้อู่ที่เย่อหยิ่งพ่ายแพ้จนเกิดความสงสัยใน
เฝิงอวี้อู่โมโหจนปอดแทบระเบิดเฝิงอวี้อู่ที่สง่าผ่าเผย ถ้าหากเรื่องการขอความเมตตาถูกแพร่งพรายออกไป เขาจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกในสังคมอย่างแน่นอน“เฝิงไฉ่เซวียนล่ะ?”เฝิงอวี้อู่สายตาเย็นชาเคลื่อนไหว มองไปทางน้องเล็กของตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของเธอโมโหแล้วจริงๆเฝิงไฉ่อิ๋งรีบพูดว่า:“เธอถูกพ่อคุมตัวไว้แล้ว จะถูกลงโทษโดยกฏของตระกูล ห้าสิบแส้” “หึ!”ได้ยินถึงตรงนี้ เฝิงอวี้อู่ส่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูดว่า:“ห้าสิบแส้นี้ ค่อยฟาดพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย!”“พี่ใหญ่ หมายความว่ายังไง?”เฝิงไฉ่อิ๋งนิ่งอึ้งเล็กน้อยพี่สาวของเธอมีความผิดฐานกบฏ ฟาดห้าสิบครั้งยังถือว่าน้อยไป“ฉันจะให้เฝิงไฉ่เซวียนได้เห็น วันพรุ่งนี้ฉันจะเหยียบไอ้คนชั้นต่ำไว้ที่ใต้เท้ายังไง!”“ให้เฝิงไฉ่เซวียนยอมรับการถูกฟาดห้าสิบครั้งด้วยความเต็มใจ!”พูดจบ เฝิงอวี้อู่ก็เดินไปยังจุดที่ผู้นำตระกูลเฝิงอยู่”หลังจากเฝิงไฉ่อิ๋งตกตะลึง ในใจเหม่อลอยเล็กน้อยทันทีเป็นเพราะเธอเคยเจอหลินเฟิงเทียบกับพี่ชายของเธอ คนที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้นสงบนิ่งอย่างมากสงบนิ่งจนถึงขั้นไม่ปกติ“หรือว่าพี่ไฉ่เซวียนพูดไม่ผิด?”ในหัวเพิ่งเกิดความ
“หึหึ ไม่ต้องห่วง”สยงเทียนคังยิ้มและพูดขึ้นว่า :“แม้จะเป็นการแกแค้นเพื่อหลานชายและลูกชายของผม ผมก็จะไม่ทำให้เรื่องนี้ผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย”หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ สยงเทียนคังก็พูดขึ้นด้วยความเสียดายเล็กน้อยว่า:“เพียงแต่น่าเสียดายที่ ลูกน้อง ดินน้ำลมไฟทั้งสี่ของผม ต่างก็ตกอยู่ในมือของหลินเฟิง คน ๆนี้ต้องมีพลังมากกว่าที่พวกเราคิดไว้”“จริงนั่นแหละ”หลงซวี่จวินก็พยักหน้าเห็นด้วยเดิมทีก็คิดว่าเด็กคนนี้เป็นแค่ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านแต่หลังจากที่ลูกน้องของสยงเทียนคังตายไป หรือแม้แต่หลานชายก็ยังตายด้วยน้ำมือของหลินเฟิง หลงซวี่จวินก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อยเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาประเมินหลินเฟิงต่ำไปในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นก็ลองใช้กลอุบายเล็ก ๆน้อย ๆละกันบังเอิญเกิดขึ้นกับตระกูลเฝิงและหลินเฟิงขึ้นพอดี แล้วเขาก็แค่ใส่ไฟระหว่างพวกเขาได้ยินมาว่าผู้นำของตระกูลเฝิงคนนี้เป็นนักบู๊ที่อยู่ในช่วงปลายของแดนแปรภาพถ้าหากเขารู้ว่าลูกชายของตัวเอง ต่อสู้กับหลินเฟิงอย่างตรงไปตรงมา แต่กลับถูกหลินเฟิงลอบฆ่าตายเขาจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอนและพาคนทั้งหมดของตระกูลเฝ
“ดี”เฝิงอวี้อู่พยักหน้า ก่อนจะพูดว่า :“ในเมื่อฉันมาแล้ว งั้นโจรชั่วตัวน้อยหลินเฟิงจะต้องตายโดยที่ไม่มีที่ฝังศพอย่างแน่นอน แล้วหลังจากนี้ คุณชายสยงเทียนคังโปรดอย่าลืมสัญญาที่ให้กันในวันนี้ละ”“ไม่ลืมไม่ลืม”สยงเทียนคังโบกมือไปมาจากนั้นก็นำทางพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ถ้าอย่างนั้นคุณชายเฝิงอวี้อู่จะให้เกียรติกันได้หรือเปล่า?”“ฮ่าฮ่า เห็นแก่หน้าของผู้นำตระกูลสยง ผมต้องรับอย่างแน่นอน”เฝิงอวี้อู่หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถที่สยงเทียนคังจัดเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่รู้ว่าหลังจากที่คนตระกูลเฝิงขึ้นรถไปแล้ว สยงเทียนคังจะแสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยอย่างโหดร้ายออกมา“ไอ้เด็กสารเลว แกยังกล้ามาเสแสร้งต่อหน้าฉันอีกนะ”“เดี๋ยวแกจะต้องเดือดร้อนแน่!”ไม่นานรถหรูที่ทุกคนนั่งโดยสารก็เข้าไปในโรงแรมหรูในเครือของสยงซื่อกรุ๊ปในงานเลี้ยงต้อนรับเมื่อเห็นเฝิงอวี้อู่ดื่มไวน์ชื่อดังที่ตัวเองใส่ส่วนผสมลงไปโดยไร้การป้องกัน รอยยิ้มบนใบหน้าของสยงเทียนคังก็ยื่งลึกขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม เฝิงไฉ่เสวียนที่อยู่เงียบ ๆด้านข้างเฝิงอวี้อู่มาโดยตลอด ตอนนี้กลับเริ่มแสดงสีหน้าสงส
“ฉันเชื่อในตัวพี่หลินเฟิง เขาไม่เคยโกหกฉัน ดังนั้นหากบอกว่าสามารถเอาชนะเฝิงอวี้อู่คนนั้นได้ ก็ต้องเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน!”และในตอนนี้ หลินเสวี่ยฮุ่ยก็แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของหลินเสวี่ยฮุ่ย หลินเฟิงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยแน่นอนว่ายังมีอีกคนที่เชื่อมั่นในตัวเขาอยู่“ฉันจะไม่แพ้การท้าดวลในวันนี้”“สิ่งเดียวที่จะต้องระวังไว้ก็คือตระกูลสยงที่จะมาสร้างปัญหา พวกคุณต้องระวังเอาไว้ให้ดี”หลินเฟิงกำชับกับหญิงสาวทั้งสองก่อนจะหยิบจดหมายท้าดวลที่อยู่บนโต๊ะ แล้วสวมชุดสูทเดินออกไปจากวิลล่าเมื่อเห้นว่าหลินเฟิงมั่นใจมากขนาดนี้แล้ว หลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกเดิมทีพวกเธออยากจะไล่ตามไป แต่หยินหลิง ผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ก็ค่อย ๆเดินเข้ามา แล้วยื่นมือออกไปห้ามหญิงสาวทั้งสองคน“พี่หลินเฟิงให้ฉันมาปกป้องพวกคุณไว้”หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาหลายวัน หยินหลิงกัยทั้งสองสาวก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกันแล้ว“หยิงหลิง คุณคิดว่าหลินเฟิงจะสามารถเอาชนะคุณชายของตระกูลเฝิงคนนั้นได้หรือเปล่า?”“ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าคุณชายตระกูลเฝิงคนนั้นเป็นถึงอันดับสองของลำดับสว
“เอาล่ะเอาล่ะ ที่เยว่หรูพูดก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ในเมื่อนั่นเป็นถึงยอดฝีมือนักบู๊อันดับสองของหัวตง ต่อให้หลินเฟิงเก่งแค่ไหน เกรงว่าก็เอาชนะเขาไม่ได้หรอก”“ก็ไม่แน่หรอกนะ”หลี่กงเฉิงเงยหน้าขึ้นพูดอย่างภาคภูมิใจ:“สามีคนนี้ของฮุ่ยหรานสร้างความมหัศจรรย์ได้เก่งที่สุดแล้ว พวกเราในฐานะคนของตระกูลหลี่ พวกเราต้องยืนอยู่หลังเขาอยู่แล้ว”“ต่อให้พ่ายแพ้ พวกเราก็ต้องปกป้องเขาอย่างเต็มที่”“อืม…”หลี่ไห่หงลูบเคลา พยักหน้าทั้งรอยยิ้ม“หลินเฟิงน่ะ เขาเพียงแค่ได้ไปยืนอยู่บนเวทีปะลองแห่งนี้ ก็เป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลหลี่แล้ว”ตัดคนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานออกไปถังว่านหลี่กับหลินเสวี่ยเยี่ยนของตระกูลถังก็เดินทางมาที่นี่หลินเสวี่ยเยี่ยนกวาดสายตามองเงาของลูกสาวตัวเอง แต่ก็หาไม่พบ“ว่านหลี่ ทำไมหว่านเอ๋อร์ถึงไม่มา?”“หลินเฟิงยังไม่มาเลย คุณตื่นเต้นอะไร?”ถังว่านหลี่ยังคงจิตใจสงบนิ่ง แต่ในสายตากลับซ่อนความร้อนรนเอาไว้เล็กน้อยถึงแม้ในใจของเขาจะกระวนกระวาย แต่ยังพูดปลอบใจภรรยาของตัวเองว่า:“วางใจเถอะ ที่ผมมาในครั้งนี้ก็เพราะได้รับคำสั่งจากพี่ใหญ่”“ถ้าหากเฝิงอวี้อู่แข่งแพ้ชนะสูงต่ำกับหล
แต่จนปัญญา ถังว่านหลี่ก็สามารถเข้าใจได้ในเมื่อเฝิงอวี้อู่มีชื่อเสียงมายาวนานอัจฉริยะหนุ่มอันดับหนึ่งของลำดับสวรรค์ มีเกียรติยศโอบล้อม ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันกำเนิดในตระกูลเฝิง มีพรสวรรค์โดดเด่น เป็นบุคคลที่มีความสามารถในสังคม ในอดีตยังเคยเป็นตัวเลือกผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ชื่อเสียงแบบนี้ แค่เอาออกมาเฉยๆ สามารถสร้างความตกตะลึงให้กับฝูงชนได้คนประเภทนี้ ใครกล้าเป็นศัตรูกับเขาล่ะ?ถ้าหากไม่ได้ปรากฏจอมมารของสำนักหลงผานคนนั้นออกมาเฝิงอวี้อู่ต้องเป็นยอดฝีมือแดนแปรภาพที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ของทั้งประเทศมังกอย่างแน่นอนดังนั้นในตอนที่รู้เรื่องราวภายใน และเบื้องลึกของเฝิงอวี้อู่ จึงไม่มีใครสามารถมั่นใจในตัวหลินเฟิงได้ต่อให้เป็นคนข้างกายเขาก็ยังรู้สึกว่าค่อนข้างยากในเมื่อระดับของเฝิงอวี้อวู่นั้นสูงเกินไปหลินเฟิงมีนิสัยไม่ค่อยเปิดเผยตัวเสมอ ถึงขั้นไม่มีชื่อเสียงอะไร เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ตระกูลเฝิงและตระกูลสยงยังสร้างเรื่องใหญ่โตถูกใส่ความว่าเป็นคนเลวทรามต่ำช้ายิ่งทำให้ไม่มีใครเชียร์หลินเฟิงแม้ว่าจะเป็นการเดิมพันสดก็ตาม ก็ไม่มีใครเปิดช่องเดิมพันให้หลินเฟิง
เผิงกวงฉี่พูดติดตลกเห็นผมหงอกที่ขมับของเผิงกวงฉี่ ถังว่านหลี่ก็มุมปากกระตุกเล็กน้อย และรีบโกบมือพูดว่า:“คุณเผิงกวงฉี่ล้อเล่นแล้วครับ บุญคุณที่คุณช่วยเหลือพวกเราให้ตั้งหลักปักฐานที่เมืองเจียงโจว พวกเรายังไม่ได้ตอบแทนเลยนะครับ!”“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เรื่องเล็กทั้งนั้น”เผิงกวงฉี่หรี่ตายิ้มและโบกมือ จากนั้นค้ำไม้เท้านั่งลงที่ด้านข้างของถังว่านหลี่ เขายิ้มถามว่า:“บาดแผลของหลานถังหว่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร”ถังว่านหลี่รีบพยักหน้า“หึหึ สหายหลินเก่งทั้งแพทย์ทั้งบู๊ มีเขาลงมือ บาดแผลที่รุนแรงแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”เผิงกวงฉี่พูดชื่นชม:“ในเมื่อเขาเคยดึงผมที่ใกล้ตายกับมาจากพญายมได้”ในตอนนี้เอง พ่อค้าที่อยู่ด้านข้างหาโอกาสเหมาะเจาะ รีบเข้ามาแล้วพูดว่า:“คุณผู้ชายท่านนี้ ตอนนี้พวกเราต่างกำลังเดิมพันกันว่าบุคคลลึกลับคนนั้นจะสามารถสู้กับคุณชายเฝิงอวี้อู่ได้กี่ยก ไม่ทราบว่าคุณสนใจไหมครับ?”พ่อค้าคนนี้ฉลาดปราดเปรื่องเขารู้ดีว่าคนเหล่านี้ที่อยู่แถวหน้าต่างเป็นเถ้าแก่ใหญ่ และคนมีเงิน ดังนั้นมาหาพวกเขาเดิมพันนั้นถูกต้องแล้วยังไงก็สามารถทำเงินได้ก้อนใหญ่“
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ