หลินเฟิงพบกับคนรู้จักที่เขาไม่ได้เจอมาเป็นเวลานานที่ห้องรับแขกเฝิงไฉ่เซวียนของตระกูลเฝิงเมืองหนิงโจวเธอนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางระมัดระวังตัว ที่ตรงหน้ามีน้ำชาแก้วหนึ่งที่คนรับใช้ยกมา สีหน้าของเธอโศกเศร้าเล็กน้อย“คุณมาหาผม มีธุระอะไรเหรอ?”หลินเฟิงเลือกท่าทางที่สบายที่สุด นั่งลงบนโซฟา มองด้วยความสนใจ ผู้หญิงคนนี้สีหน้าท่าทางแตกต่างไปจากไม่กี่วันก่อนเยอะมากถ้าหากพูดว่าไม่กี่วันก่อนเธอหยิ่งยโสโอหัง ถือว่าตัวเองเป็นลูกสาวของตระกูลเฝิงจึงมีความมั่นใจอย่างมากเช่นนั้นตอนนี้ แทบจะเหมือนกับแม่ไก่ที่ต่อสู้พ่ายแพ้เมื่อเงยหน้าขึ้น ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง“หลิน…หลินเฟิง ฉันมาขอโทษคุณ”“ขอโทษ?”ได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ หลินเฟิงงุนงงเล็กน้อยเฝิงไฉ่เซวียนมาขอโทษถึงที่ เรื่องแบบนี้เขาไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำหลินเฟิงส่ายหน้ายิ้มพูดว่า:“คำขอโทษของคุณดูไม่จริงใจสักเท่าไหร่นะ!”“คนภายนอกแสดงความคิดเห็นต่อผมหลินเฟิงไม่ดีเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังพูดว่า…ผมเป็นขยะสังคมอะไรสักอย่าง”“นั่นเป็นข้ออ้างของคุณพ่อกับพี่ชายของฉัน”เฝิงไฉ่เซวียนร้อนรนเล็กน้อยเธอหยุดชะงัก และมองหลินเฟิงด้
เมื่อได้ยินคำขอร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตาของเฝิงไฉ่เซวียนหลินเฟิงสีหน้านิ่งเฉย“ดังนั้นล่ะ? เรื่องของตระกูลเฝิงของพวกคุณ เกี่ยวอะไรกับผมด้วย?”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงท่าทีของตัวเองด้วยซ้ำหรืออีกอย่างว่า เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตระกูลเฟิงตัดสินใจฆ่าเขาเพื่อแสดงอำนาจของตนเองจะเป็นเพราะคำขอร้องทั้งน้ำตาของเฝิงไฉ่เซวียน เขาก็กลายเป็นพ่อพระใจบุญ ยืนอยู่เฉยๆ และยื่นคอไปให้เฝิงอวี้อู่ฆ่าทิ้งอีกอย่างเฝิงไฉ่เซวียนหน้าตาธรรมดา ไม่ได้มีเสน่ห์อะไรต่อให้เธอมีเสน่ห์ หลินเฟิงก็ไม่ติดกับเธอ“คุณไม่สู้เก็บข้อแก้ต่างแบบนี้ เกลี้ยกล่อมพ่อกับพี่ชายของคุณให้ดีๆ”หลินเฟิงท่าทางเรียบง่ายอย่างมาก คนอื่นไม่หาเรื่องเขา เขาก็ไม่มีเรื่องกับคนอื่นแต่ทว่าเฝิงไฉ่เซวียนรู้สึกขมขื่นใจไม่สามารถบาดหมางกับหลินเฟิงได้ เขาแข็งแกร่งอย่างมาก เธอได้บอกกับพ่อและพี่ชายของเธอเป็นร้อยรอบแล้วแต่พ่อและพี่ชายยโสโอหัง ไม่เชื่อเธอด้วยซ้ำมักคิดว่าเธอถูกหลินเฟิงหลอกลวงจิตใจในเมื่อวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าๆ คนหนึ่งฆ่ายอดฝีมือระดับเซียนเทียนสามสิบกว่าคนที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีของตระกูลเฝิงตระกูลเฝิงของเขา
“ทุกอย่างที่ฉันทำ เพราะอยากให้ตระกูลเฝิงของเราดำเนินต่อไป…”“ดำเนินต่อไป?”เฝิงไฉ่อิ๋งหัวเราะเยาะดูท่านิสัยของเธอฉุนเฉียวเป็นพิเศษ เธอไม่รอช้า โผเขาไปทางหลินเฟิงโดยตรง“ฉันอยากเห็นดูหน่อย ไอ้หมอนี่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพี่ใหญ่หรือไม่!”เมื่อเห็นว่าเฝิงไฉ่อิ๋งตบมาที่หน้าท้องของเขา หลินเฟิงไม่คิดที่จะหลบด้วยซ้ำ เขายืนอยู่ที่เดิมทั้งแบบนี้เพียงแค่สายตาเยือกเย็นขึ้นยัยเด็กนี่บ้าระห่ำขนาดนี้ แต่ก็เป็นแค่นักบู๊กำลังภายในเท่านั้นถ้าหากเธอคิดที่จะลงมือต่อหลินเฟิง แค่สะท้อนพลังกลับก็ทำให้เธอตายได้แล้ว”หยุดนะ!”เฝิงไฉ่เซวียนขวางหน้าหลินเฟิงทันทีเธอพูดด้วยความโมโห:“เฝิงอิ๋ง เธออย่าถูกพี่สะใภ้ยุยง อย่าลงมือกับคุณหลินเฟิง”“คุณ…หลินเฟิง!”เฝิงไฉ่อิ๋งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของพี่สาวตัวเองด้วยคำเรียกที่สุภาพนี้ ความโมโหของเธอไม่ได้ลดลง กลับยังปล่อยฝ่ามือโจมตีไปทางพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง“ปึง!”เฝิงไฉ่เซวียนสกัดกั้นฝ่ามือนี้เพื่อหลินเฟิง เธอถอยหลังสองก้าว เกือบจะชนกับหลินเฟิง“อุ๊ย ยังรับการโจมตีแทนศัตรูด้วย เฝิงไฉ่เซวียน ฉันดูสิว่ากลับไปเธอจะอธิบายกับพ่อของเธอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินเข้ามาดึงแขนเสื้อของหลินเฟิงด้วยความกังวลเล็กน้อย“ไม่มีอะไร”หลินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นก็ทำสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า :“ฉันให้เธอเรียนไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงวิ่งออกมาล่ะ?”“ฉัน...ฉันเป็นห่วงพี่”หลินเสวี่ยฮุ่ยพึมพำด้วยความรู้สึกผิดเมื่อหลินเฟิงได้ยินเสียงพึมพำนี้ ความโกรธเคืองทั้งหมดก็หายวับไปทันที ก่อนจะลูบหัวของหลินเสวี่ยฮุ่ย“เอาล่ะ พวกคุณไปเถอะ”“จะถูกจะผิด ค่อยดูกันพรุ่งนี้เถอะ”หลินเฟิงโบกมือไปมาอย่างไม่สนใจแต่ทว่าเฝิงไฉ่อิ๋งยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมกลับไป“เหอะ คนอื่นกลัวนาย แต่ฉันไม่กลัว!”“บอกนายไว้เลย พรุ่งนี้นายจะถูกพี่ใหญ่ของฉันทุบตีจนยับเยิน ฉี่ราดแน่ ๆ!”“พี่ใหญ่ของฉันคือที่สองของอันดับสวรรค์และเป็นอัจฉริยะในยุทธจักรด้วย คนเลวทรามต่ำช้าอย่างนาย ไม่มีทางที่จะได้เข้าใกล้พี่ใหญ่ของฉันไปตลอดชีวิตหรอก!”“ถ้านายฉลาดสักหน่อย ตอนนี้ก็ควรคุกเข่าอ้อนวอนฉันซะ!”“บางทีวันพรุ่งนี้ฉันอาจจะขอให้พี่ใหญ่ของฉันไว้ชีวิตนายก็ได้”ไม่รอให้หลินเฟิงได้พูด สาวอวบอั๋นที่ถือพัดอยู่ก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า :“ใช่แล้ว หากตอนนี้นายคุกเข่าอ้อนว
“หวังว่าพวกคุณเตรียมตัวให้พร้อมที่จะถูกฆ่ายกครัว”หลังจากพูดจบ หญิงสาวก็หันหลังจากไปหลินเฟิงไม่ได้รั้งไว้ แต่กลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและคิดอะไรบางอย่าง“พี่หลินเฟิง คนพวกนี้จะน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!”หลินเสวี่ยฮุ่ยพูดด้วยความโมโห“น่ารังเกียจก็ส่วนน่ารังเกียจ แต่การมาครั้งนี้ของพวกเธอก็ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องหนึ่ง”“เรื่องอะไร?”หลินเสวี่ยฮุ่ยหันหน้าไปมองหลินเฟิง“ตระกูลเฝิง ไม่ได้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน บางทีอาจจะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้”หลินเฟิงยิ้มแล้วลูบหัวของหลินเสวี่ยฮุ่ยจากนั้นก็ยิ้มให้กับเธอก่อนจะพูดว่า :“เอาล่ะ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือศึกษาทักษะทางการแพทย์ที่ฉันสอนให้ดี”“รับช่วงโรงพยาบาลเจิ้งเต๋อให้ได้เร็วที่สุด”“อื้อ”หลินเสวี่ยฮุ่ยพยักหน้า ก่อนจะมองหลินเฟิงอย่างอาลัยอาวรณ์ ถึงได้กลับไปที่ห้องหนังสือผ่านไปไม่นานภายในห้องหนังสือก็ได้ยินเสียงเด็กสาวสองคนกระซิบและหัวเราะกันเสียงหัวเราะนี้ทำให้หลินเฟิงรู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย แต่ก็ยังทำให้เขายิ้มออกมาได้เกี่ยวกับการจัดการตระกูลเฝิงนั้น เขามีความคิดอย่าง
“จริงด้วยครับคุณชายใหญ่ คุณเป็นอัจฉริยะ อย่าเอาพวกผมที่เป็นตัวประกอบไปเทียบกับคุณสิครับ!”“ผมคิดว่าคุณชายไม่ต้องใช้เวลาหลายปี ก็สามารถแซงหน้าจอมมารสำนักหลงผานคนนั้นได้แล้ว”“พูดไร้สาระอะไรกัน?”“ตระกูลเฝิงของเราอยู่ภายใต้การบัญชาของคุณชายใหญ่ ต่อไปจะต้องเบียดตัวเข้าเมืองจิง กลายเป็นตระกูลร่ำรวยอันดับตระกูลที่ห้าได้อย่างแน่นอน!”เหล่านักบู๊ที่เหนื่อยจนล้มตัวอยู่ข้างๆ ยิ้มชื่นชม“หึ...”เฝิงอวี้อู่แกะผ้าสีดำที่บังตาออก และกระสอบทรายบรรจุลูกตะกั่วที่อยู่บนตัวออกเขาไม่ได้ถูกคำชมของคนเหล่านี้ทำให้เลอะเลือนแต่เงยหน้าขึ้นหลับตา ในใจเกิดความอยากสู้ขึ้นมาดูท่าทั่วทั้งหัวตงมีเพียงแค่จอมมารนั่นที่คู่ควรเทียบกับเขาได้จอมมารนั่นปกติถูกสำนักหลงผานปกป้องได้รอบคอบอย่างมาก อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่ข่าวคราวก็หายไปจนแทบไม่เห็นปรากฏตัวที่ยุทธจักร ก็แค่เมืองสองปีที่แล้วตอนนั้น ถึงแม้เขาอายุน้อย แต่ตอนนั้นกำลังลุ่มหลงอยู่กับความชนะจากรอบทิศ และลำพองใจที่หาคู่ต่อสู้ที่ฝีมือเทียบกันไม่ได้จอมมารนั่นเหมือนพระเจ้าจุติโลกแค่สิบรอบเท่านั้น ก็ทำให้เฝิงอวี้อู่ที่เย่อหยิ่งพ่ายแพ้จนเกิดความสงสัยใน
เฝิงอวี้อู่โมโหจนปอดแทบระเบิดเฝิงอวี้อู่ที่สง่าผ่าเผย ถ้าหากเรื่องการขอความเมตตาถูกแพร่งพรายออกไป เขาจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกในสังคมอย่างแน่นอน“เฝิงไฉ่เซวียนล่ะ?”เฝิงอวี้อู่สายตาเย็นชาเคลื่อนไหว มองไปทางน้องเล็กของตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของเธอโมโหแล้วจริงๆเฝิงไฉ่อิ๋งรีบพูดว่า:“เธอถูกพ่อคุมตัวไว้แล้ว จะถูกลงโทษโดยกฏของตระกูล ห้าสิบแส้” “หึ!”ได้ยินถึงตรงนี้ เฝิงอวี้อู่ส่งเสียงไม่พอใจออกมาและพูดว่า:“ห้าสิบแส้นี้ ค่อยฟาดพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย!”“พี่ใหญ่ หมายความว่ายังไง?”เฝิงไฉ่อิ๋งนิ่งอึ้งเล็กน้อยพี่สาวของเธอมีความผิดฐานกบฏ ฟาดห้าสิบครั้งยังถือว่าน้อยไป“ฉันจะให้เฝิงไฉ่เซวียนได้เห็น วันพรุ่งนี้ฉันจะเหยียบไอ้คนชั้นต่ำไว้ที่ใต้เท้ายังไง!”“ให้เฝิงไฉ่เซวียนยอมรับการถูกฟาดห้าสิบครั้งด้วยความเต็มใจ!”พูดจบ เฝิงอวี้อู่ก็เดินไปยังจุดที่ผู้นำตระกูลเฝิงอยู่”หลังจากเฝิงไฉ่อิ๋งตกตะลึง ในใจเหม่อลอยเล็กน้อยทันทีเป็นเพราะเธอเคยเจอหลินเฟิงเทียบกับพี่ชายของเธอ คนที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้นสงบนิ่งอย่างมากสงบนิ่งจนถึงขั้นไม่ปกติ“หรือว่าพี่ไฉ่เซวียนพูดไม่ผิด?”ในหัวเพิ่งเกิดความ
“หึหึ ไม่ต้องห่วง”สยงเทียนคังยิ้มและพูดขึ้นว่า :“แม้จะเป็นการแกแค้นเพื่อหลานชายและลูกชายของผม ผมก็จะไม่ทำให้เรื่องนี้ผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย”หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ สยงเทียนคังก็พูดขึ้นด้วยความเสียดายเล็กน้อยว่า:“เพียงแต่น่าเสียดายที่ ลูกน้อง ดินน้ำลมไฟทั้งสี่ของผม ต่างก็ตกอยู่ในมือของหลินเฟิง คน ๆนี้ต้องมีพลังมากกว่าที่พวกเราคิดไว้”“จริงนั่นแหละ”หลงซวี่จวินก็พยักหน้าเห็นด้วยเดิมทีก็คิดว่าเด็กคนนี้เป็นแค่ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านแต่หลังจากที่ลูกน้องของสยงเทียนคังตายไป หรือแม้แต่หลานชายก็ยังตายด้วยน้ำมือของหลินเฟิง หลงซวี่จวินก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อยเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาประเมินหลินเฟิงต่ำไปในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นก็ลองใช้กลอุบายเล็ก ๆน้อย ๆละกันบังเอิญเกิดขึ้นกับตระกูลเฝิงและหลินเฟิงขึ้นพอดี แล้วเขาก็แค่ใส่ไฟระหว่างพวกเขาได้ยินมาว่าผู้นำของตระกูลเฝิงคนนี้เป็นนักบู๊ที่อยู่ในช่วงปลายของแดนแปรภาพถ้าหากเขารู้ว่าลูกชายของตัวเอง ต่อสู้กับหลินเฟิงอย่างตรงไปตรงมา แต่กลับถูกหลินเฟิงลอบฆ่าตายเขาจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอนและพาคนทั้งหมดของตระกูลเฝ
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ